V วง BTS ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคนดังฝ่ายชายที่มีใบหน้า ‘หล่อ’ ที่สุดในโลก

ENTERTAINMENT NEWS

V วง BTS ได้รับการจัดอันดับให้เป็นคนดังฝ่ายชายที่มีใบหน้า ‘หล่อ’ ที่สุดในโลก

30 พ.ค. 2024

หากจะต้องถามคน 10 คนว่าใครคือผู้ชายที่หล่อที่สุด ก็คงจะได้คำตอบออกมาเป็น 10 แบบ ยิ่งถ้าต้องเลือกคนดังจากทั่วโลกแล้วหาเพียง 1 คนก็ยิ่งยากไปกันใหญ่ แต่ถ้าหากเราใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเลือกล่ะ คุณอยากรู้ไหมว่าคอมพิวเตอร์จะให้ใครคือคนดังที่หล่อที่สุดในโลก

ล่าสุดมีคนตั้งคำถามแบบเดียวกันและก็พยายามหาวิธีเพื่อให้ได้คำตอบนั่น โดย GeeksforGeeks ผู้ให้บริการด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ได้ประกาศรายชื่อ 10 คนดังฝ่ายชายจากทั่วโลกที่มีใบหน้า ‘หล่อ’ ที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ซึ่งผู้ชนะและถูกยกให้เป็นหนุ่มหล่อที่สุดของปีนี้ได้แก่ คิมแทฮยอง (Kim Tae Hyung) หรือ วี (V) สมาชิกวง BTS วัย 28 ปีนั่นเอง

ทาง GeeksforGeeks เปิดเผยว่า พวกเขาได้ทำการศึกษา พร้อมกับนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เช่น การคำนวนสัดส่วนใบหน้ามาร่วมวิเคราะห์ รวมถึงการพิจารณาจากภาพลักษณ์ และการสร้างอิมแพคทางสังคม ความทรงอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อนำผลการคำนวนมารวมแล้วทำให้ V แห่งวง BTS คว้าอันดับที่ 1 ไปครอง

ขณะที่อันดับที่ 2 และ 3 ผลคะแนนทิ้งห่างกันไม่มากนัก โดยคนดังที่คะแนนอยู่ในอันดับที่ 2 คือ โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson) นักแสดงฮอลลีวูดวัย 38 ปี ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จถล่มทลายจากบทแวมไพร์ในภาพยนตร์ ‘Twilight’ เจ้าของใบหน้าที่ได้คะแนนจากการคำนวนสัดส่วนทองคำไปสูงถึง 92.15 %

ส่วนอันดับที่ 3 คือ เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham) วัย 49 ปี อดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันผันตัวมาทำงานเบื้องหลัง เพื่อผลักดันนักเตะรุ่นใหม่ในฐานะประธานสโมสรอินเตอร์ไมอามี เบ็คแฮม ถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของการดูแลตัวเอง ที่มาพร้อมดวงตาอันโดดเด่น

สำหรับรายชื่อของคนดังฝ่ายชาย 10 อันดับที่ถูกจัดให้เป็นผู้ที่มีใบหน้า ‘หล่อ’ ที่สุดในโลก ประจำปี 2567 มีดังนี้

  • คิมแทฮยอง (Kim Tae Hyung)
  • โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson)
  • เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham)
  • เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill)
  • ฤทธิก โรชาน (Hrithik Roshan)
  • คริส อีแวนส์ (Chris Evans)
  • คริส เฮมสวอร์ธ (Chris Hemsworth)
  • ทอม ครูซ (Tom Cruise)
  • แซ็ก เอฟรอน (Zac Efron)
  • ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds)

ภาพ : bts_bighit
ขอบคุณข้อมูลจาก : brandthink.me

related ENTERTAINMENT NEWS

HYBE ประกาศว่า 7 สมาชิกวง BTS ต่อสัญญาภายใต้ค่าย BIGHIT MUSIC เรียบร้อย พร้อมบริจาค 1,000 ล้านวอนให้ Unicef เกาหลี

21 ก.ย. 2023

HYBE ประกาศว่า 7 สมาชิกวง BTS ต่อสัญญาภายใต้ค่าย BIGHIT MUSIC เรียบร้อย พร้อมบริจาค 1,000 ล้านวอนให้ Unicef เกาหลี

20 กันยายนที่ผ่านมา Yonhap News สื่อดังของเกาหลีใต้ได้รายงานว่า จิน (Jin), ชูก้า (Suga), เจโฮป (J-Hope), อาร์เอ็ม (RM), จีมิน (Jimin) วี (V) และ จองกุก (Jung Kook) สมาชิก BTS วงบอยแบนด์ระดับโลก ได้บรรลุข้อตกลง และเซ็นต่อสัญญาเป็นศิลปินภายใต้สังกัด BIGHIT MUSIC เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้น HYBE Coporation ได้ออกประกาศเพื่อแจ้งข่าวว่า พวกเขาบรรลุข้อตกลงของคณะกรรมการบริหารในการต่อสัญญาฉบับพิเศษ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาฉบับที่ 2 ของเมมเบอร์วง BTS ทั้ง 7 คน แม้ว่าขณะนี้จะอยู่ในช่วงพักการดำเนินกิจกรรมของวง เนื่องจากศิลปินเข้ารับราชการทหารและเนื่องด้วยโอกาสที่ BTS ได้ต่อสัญญากับต้นสังกัด ทาง BIGHIT MUSIC ได้ทำการมอบเงินจำนวน 1,000 ล้านวอน หรือราว 27 ล้านบาทให้กับองค์การ Unicef ประเทศเกาหลีใต้ สำหรับใช้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อเด็ก เพื่อแทนคำขอบคุณทุกการสนับสนุนผลงานของ BTS เสมอมาพร้อมกันนี้ยังมีการยืนยันว่า BTS จะกลับมาร่วมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมในฐานะศิลปินกลุ่มอย่างพร้อมหน้าอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจทางทหารภาพ : bts.bighitofficial

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ถูกเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 และได้เข้าชิงถึง 2 สาขา

25 ม.ค. 2024

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ถูกเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 และได้เข้าชิงถึง 2 สาขา

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เตรียมออกเดินทางอีกครั้งเพื่อสร้างมิตรภาพครั้งใหม่ในดินแดนปลาดิบ เพราะล่าสุดผลงานชิ้นนี้ถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 1-10 มีนาคมนี้โดย GDH ออกมาเปิดเผยข่าวที่น่ายินดีผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งนอกจากจะถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในสาย Competition หรือสายประกวดหลักของงานนี้แล้ว ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ยังได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้าชิงรางวัลถึง 2 สาขาด้วยกัน คือ Grand Prix และ Most Promising Talent Award นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ตอกย้ำความสำเร็จในเวทีนานาชาติของภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เป็นผลงานส่งท้ายปี 2023 ของ GDH ฝีมือการกำกับหนังครั้งแรกของ อัตต้า-อัตตา เหมวดี โดยมี บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ และ วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ ร่วมดูแลการผลิตในฐานะโปรดิวเซอร์ นำแสดงโดย โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ และ จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ เข้าฉายในไทยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 และถูกเลือกให้เป็นตัวแทนหนังไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วยภาพ : GDH

เมฆ จิรกิตติ์ หมดสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัด GMMTV ลุยงานในวงการบันเทิงต่อในฐานะนักแสดงอิสระ

15 พ.ย. 2022

เมฆ จิรกิตติ์ หมดสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัด GMMTV ลุยงานในวงการบันเทิงต่อในฐานะนักแสดงอิสระ

ศิลปินและนักแสดงชื่อดังอย่าง เมฆ-จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @talktojirakit เมื่อวันก่อน เพื่อแจ้งข่าวกับแฟนคลับว่า ตอนนี้ได้หมดสัญญาและตัดสินใจไม่ต่อสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดของ GMMTV แล้ว แต่จะยังคงเดินหน้าสร้างผลงานในวงการบันเทิงต่อไปในฐานะนักแสดงอิสระโดย เมฆ ได้ทวิตข้อความไว้เอาไว้ว่า “สวัสดีครับผมเมฆ จิรกิตติ์ ออกจากค่าย GMMTV แล้วนะครับ หลังจากนี้ติดต่องานโดยตรงได้เลยนะครับ จุ๊บิJirakitforwork@gmail.comตอนแรกจะบอกว่าประกาศจบการศึกษา ก็กลัวคนจะไม่เก็ตมุก กลัวคนจะมาแสดงความยินดีแล้วถามว่าคณะอะไร”ในโพสต์ดังกล่าวมีเพื่อนนักแสดงร่วมค่าย เข้ามาส่งกำลังใจให้กับเส้นทางใหม่ของเขาที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ส่วนผลงานของ เมฆ ในฐานะนักแสดงอิสระจะมีอะไรท้าทายให้เขาได้ลอง ต้องรอติดตามกันต่อไปภาพ : jirakitth_c

ภาพยนตร์เรื่อง ‘อนงค์’ หนังไทยเรื่องที่ 4 ทำรายได้เข้าสู่หลัก 100 ล้าน หลังเข้าฉายเพียง 3 สัปดาห์

20 พ.ค. 2024

ภาพยนตร์เรื่อง ‘อนงค์’ หนังไทยเรื่องที่ 4 ทำรายได้เข้าสู่หลัก 100 ล้าน หลังเข้าฉายเพียง 3 สัปดาห์

เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สำหรับ ‘อนงค์’ ผลงานโรแมนติก-คอมเมดี้-สยองขวัญ ฝีมือการกำกับของ เอส-คมกฤษ ตรีวิมล ที่หวนมากำกับภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 17 ปี หลังจากที่เคยฝากความประทับใจมาแล้วใน ‘เพื่อนสนิท’ (ปี 2548) และ ‘สายลับจับบ้านเล็ก’ (ปี 2550)ไม่เพียงแต่จะได้รับคำวิจารณ์ในมุมบวกจากผู้ชม และความสนุกกลมกล่อม ยังประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ เมื่อล่าสุด Thailand Box Office ออกมาเปิดเผยรายได้อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เรื่อง ‘อนงค์’ แล้วว่า ทำรายได้ทะลุไปกว่า 100 ล้านบาท แม้จะเพิ่งเข้าฉายไปเพียง 3 สัปดาห์ ทำให้ ‘อนงค์’ เป็นหนังไทยเรื่องที่ 4 ของปี 2567 ที่สามารถทำได้สำหรับหนังไทย 4 เรื่องที่สามารถทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทมีคือ‘หลานม่า (LAHN MAH)’ 330 ล้านบาท‘พี่นาค 4’ 177 ล้านบาท‘หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด’ 127 ล้านบาท‘อนงค์’ 100 ล้านบาทภาพยนตร์เรื่อง ‘อนงค์’ พร้อมให้คุณตกหลุมรักพร้อมกันแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : M Studio

album

0
0.8
1