ช็อก! แตงโม นิดา พลัดตกจากเรือหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพระราม 7 เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งตามหาตัว

ENTERTAINMENT NEWS

ช็อก! แตงโม นิดา พลัดตกจากเรือหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพระราม 7 เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งตามหาตัว

24 ก.พ. 2022

เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีรายงานคนพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต และหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 7 ทราบภายหลังคือ แตงโม นิดา นักแสดงชื่อดัง โดยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูกำลังเร่งออกค้นหา

ล่าสุดทางเฟสบุ๊ค Ch7HD News ได้ออกมาเรียบเรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์นี้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับจากประชาชนว่ามีหญิงสาวพลัดตกน้ำ และสูญหายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ใกล้ๆ กับสะพานพระราม 7

ในจุดเกิดเหตุผลเรือสปีดโบ๊ตหนึ่งลำ บนเรือมีคนโดยสารอยู่ 3-4 คน และพยายามล่องเรือออกตามหา และยังพบเจ็ทสกีหนึ่งลำ ขับขี่โดยดาราหนุ่ม บีม ศรัญญู ได้ออกมาร่วมช่วยค้นหาในบริเวณดังกล่าวด้วย

จากการพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนทราบว่า ได้ออกไปล่องเรือกัน และก่อนเกิดเหตุ แตงโม ได้ไปนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ และเกิดพลัดตกลงไปในแม่น้ำ จากนั้นกลุ่มเพื่อนได้วนเรือกลับไปหาแต่ไม่พบ จึงได้แจ้งไปยังกู้ภัยเพื่อให้มาช่วยตามหา

นอกจากนี้ชาวบ้านบริเวณนั้นยังเปิดเผยว่า ได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือดังอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่เสียงนั้นจะเงียบหายไป โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงช่วยกันระดมกำลังออกตามหาเธอต่อเนื่อง

ภาพ : melonp.official

ขอบคุณข้อมูลจาก : Ch7HD News

related ENTERTAINMENT NEWS

ตร.แถลงสรุปสำนวนคดี แตงโม นิดา ตกเรือ ยันเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ-บาดแผลใหญ่เกิดจากใบพัด ด้านคุณแม่ไล่คนปล่อยเฟคนิวส์ไปกระโดดน้ำ!

26 เม.ย. 2022

ตร.แถลงสรุปสำนวนคดี แตงโม นิดา ตกเรือ ยันเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ-บาดแผลใหญ่เกิดจากใบพัด ด้านคุณแม่ไล่คนปล่อยเฟคนิวส์ไปกระโดดน้ำ!

เวลา 12.30 น. วันที่ 26 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดี แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังที่เกิดเหตุพลัดตกจากสปีดโบ๊ตเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แถลงข่าวสรุปคดีพร้อมเปิดเผยพยานหลักฐานทั้งหมดในการสอบสวน ระบุว่ามีการสอบปากคำพยานบุคคลและพยานแวดล้อมรวม 124 ปาก พยานวัตถุอีก 335 รายการ แบ่งเป็นคลิปวิดีโอจำนวนกว่า 200 คลิป และยังมีการนำข้อมูล GPS บนเรือ เปรียบเทียบกับข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของบุคคลบนเรือเพื่อประกอบด้วย โดย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ภูมิจิตรผบช.ภ.1.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความมั่นใจ จากพยานหลักฐานที่รวบรวมมา และมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนทั้ง ปอ,โรเบิร์ต, จ๊อบ, แซน, กระติก และ เอ็ม (ผู้ให้คำปรึกษากับคนบนเรือ)โดยข้อหาหลัก คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย “ไม่ใช่เป็นการประมาทตกน้ำเอง” ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่า แตงโม นั่งปัสสาวะท้ายเรือ จนเป็นเหตุให้พลัดตกเรือนั้น ไม่มีใครสามารถตอบได้นอกจาก แซน ที่อยู่ในจุดท้ายเรือ, ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกเหตุการณ์คล้ายกับมีการใช้ความรุนแรงบนเรือ มีการนำมาปะติดปะต่อกันจนทราบว่า เห็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจาก แตงโม ตกเรือไปแล้ว รวมถึงวิเคราะห์จากผลชันสูตรร่าง แตงโม พบว่า แผลหลายจุด ซึ่งแผลใหญ่สุดขนาดประมาณ 7 เซ็นติเมตรบริเวณต้นขา เทียบเท่าได้กับใบพักเรือ คาดว่าน่าจะโดนใบพัด ประกอบกับผลการยืนยันจากแพทย์ว่า แตงโม “เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจในน้ำ” ทีมสืบสวนยืนยันตั้งแต่ต้นว่า จะให้สื่อ ประชาชนทำคดีไปด้วยกันกับตำรวจ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น ใครมีพยานหลักฐานใดใด เมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์จะนำเข้าสำนวน แต่การเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เกิดความสับสน จะนำมาพิจารณาเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่งสำนวนขึ้นสู่ชั้นอัยการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนทางคุณแม่พนิดา แม่ของ แตงโม ได้เปิดใจหลังเข้ารับฟังการแถลงว่า ยังมีความสงสัยในประเด็นจุดการตกเรือ, ตกอย่างไร, และใครเป็นผู้ทำให้ตก, มีการทำร้ายร่างกายกันบนเรือจริงหรือไม่ รวมทั้งบาดแผลที่ตรวจพบบนร่างกาย ส่วนข้อหาที่ทางตำรวจตั้งเพื่อดำนเนินการกับ 6 ผู้ต้องหา แม่ก็รอจากท่านอัยการต่อไป สำหรับกำหนดการพิธีศพของ แตงโม คาดว่าจะสามารถจัดเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะน้องมาบอกว่า “น้องหนาวมาก”นอกจากนี้ยังชี้แจงข่าวล่าสุดกับ เบิร์ด ยืนยันว่าไม่ได้พูด ข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ เบิร์ด เสียหาย ถ้าเสร็จงานนี้แม่เองก็เดินหน้าเรื่องอื่นแล้ว คุณแม่อยากเจอคนที่เขียนเรื่องนี้มาก เมื่อนักข่าวถามว่าจะฟ้องหรือไม่ คุณแม่ยอมรับว่าใช่ คุณแม่ได้ดำเนินการแล้วส่วนหนึ่ง กับคนที่มาด่าหยาบคาย ตอนนี้เกือบ 10 คนแล้ว แม่ไม่ใช่ฆาตรกร แม่เป็นแม่ของน้องโม แล้วคนที่เขียนข่าวแม่กับเบิร์ดเมื่อวานนี้ แม่อยากเห็นหน้ามากเลย ไปกระโดดน้ำตายไป”ภาพ : melonp.official / thairath

จุ๋ย วรัทยา และ พุฒ พุฒิชัย แจงไม่ไปร่วมงานไว้อาลัย แตงโม นิดา เพราะติดภารกิจ และอยู่ในขั้นตอนเตรียมมีลูก แต่แสดงความเสียใจด้วยวิธีอื่น

15 มี.ค. 2022

จุ๋ย วรัทยา และ พุฒ พุฒิชัย แจงไม่ไปร่วมงานไว้อาลัย แตงโม นิดา เพราะติดภารกิจ และอยู่ในขั้นตอนเตรียมมีลูก แต่แสดงความเสียใจด้วยวิธีอื่น

กลายเป็นดราม่าลุกลาม สำหรับกรณีของนักแสดงและผู้จัดละครชื่อดัง จุ๋ย วรัทยา และสามี ดีเจพุฒ พุฒิชัย ที่ถูก มดดำ คชาภา ยิงคำถามเกี่ยวกับการเดินทางไปร่วมงานไว้อาลัยแด่ แตงโม นิดา ซึ่งคำตอบก็ทำเอาโซเชียลแห่ไปดราม่า พร้อมกับบางรายแสดงถ้อยคำรุนแรงบนพื้นที่ส่วนตัว จนทั้งคู่ต้องออกมาจี้แจงผ่านอินสตาแกรมไลฟ์ โดย จุ๋ย เล่าว่า ในวันที่ไปออกรายการ แฉ (10 มีนาคม 2565) ในขณะที่กำลังคุยกำชับกับผู้จัดการส่วนตัวเรื่องพวกรีดที่จะส่งไปในงาน มดดำ ในฐานะพิธีกรก็โยนคำถามสั้นๆ ก่อนปิดเบรกมาให้ว่า “จุ๋ยจะไปงานไว้อาลัยหรือเปล่า” ซึ่งก็ได้ตอบไปตามสัตย์จริงว่า “ไม่ได้ไป เพราะไม่ได้ทำงานร่วมกับน้อง แต่แสดงความเสียใจด้วยวิธีอื่น” ซึ่งนั่นก็เป็นคำตอบในส่วนของ จุ๋ย แต่ไม่ได้ตอบในส่วนของ พุฒ และเวลาในรายการอาจจะน้อย มดดำเลยไม่ได้ถามพุฒด้วยคำถามเดียวกัน ซึ่งพุฒก็มีคำตอบที่ต้องจะตอบว่าไปหรือไม่ไป และไม่ไปเพราะอะไร วันแรกที่ทราบข่าว ก็ได้มีการแสดงความเสียใจและไว้อาลัย ด้วยการโพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรมสตอรี่แล้ว และยังได้ประสานกับทางผู้จัดการส่วนตัวเพื่อจะส่งพวกหรีดไปให้ และมีการกำชับด้วยว่าเป็นพิธีแบบคริสต์ อยากให้เลือกดอกไม้ที่นำไปประดับแล้วสวยที่สุด ซึ่งได้ทราบภายหลังว่าทางพิธีไม่รับพวกรีด จึงรีบโทรไปยกเลิก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ มดดำ ยิงคำถามในรายการพอดี ในส่วน พุฒ ที่เคยร่วมแสดงละครใบไม้ที่ปลิดปลิว กับ แตงโม ยอมรับว่า วันนั้นถ่ายละคร และยังมีการคุยกันกับเพื่อนนักแสดงว่าขอให้เจอ ขอให้มีปาฏิหาริย์ ยอมรับว่าเสียใจในฐานะเพื่อนร่วมงาน เพื่อนมนุษย์ วันที่เราทราบข่าวก็มีการลงแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน มีคนเข้ามาว่าเราเยอะมาก ว่าทำไมไม่ไปร่วมงาน เนื่องด้วยมีหน้าที่ มีงานละครที่ต้องถ่าย เลยไม่ได้ไปร่วมงาน แต่เราก็แสดงความอาลัยแล้วเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่มากๆ คือ ตอนนี้เริ่มมีความคิดเห็นรุนแรง เช่น “วันไหนถึงงานศพของพวกคุณ จะรอดูว่ามีคนไปร่วมงานไป”, “ไปตายซะ” ฯลฯ อยากขอร้องทุกคนที่เสพข่าวอย่างมีสติ เพราะเวลาได้เจออะไรแบบนี้ทำให้รู้สึกแย่ พร้อมกับยอมรับว่าตอนนี้ทั้งคู่ กำลังอยู่ในกระบวนการเตรียมตัวสำหรับการมีลูก แพทย์ก็แนะนำว่าอยากให้หลีกเลี่ยงในการเดินทางไปในที่ที่คนเยอะ ห้ามติดเชื้อโควิด-19 เด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่เตรียมมาเป็นปีจะสูญเปล่า บวกกับการไปร่วมในงานมีขั้นตอนมากมาย จึงอยากให้พื้นที่กับคนในครอบของ ที่ต้องการไปร่วมงานจริงๆ มากกว่าจุ๋ย ย้ำทิ้งท้ายว่า “การสูญเสียของ แตงโม เราได้อะไรหลายอย่าง หลายคนบอกว่าชีวิตของ แตงโม เหมือนหนังสือเล่มหนึ่งที่ควรอ่านและเอามาเป็นบทเรียน สิ่งที่ แตงโม เองพูดว่าเธอเองก็ไม่ไหวที่ได้รับคอมเมนต์แย่ หรือพูดจาแย่ๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นไม่ได้บอกอะไรกับคนที่รัก แตงโม หรือคนที่กำลังอินกับข่าวเลยเหรอ จุ๋ย เชื่อว่า แตงโม คงไม่อยากให้การสูญเสียกลายเป็นเรื่องแบบนี้ จุ๋ยเองก็เป็นหนึ่งคนที่อินกับข่าวมากๆ สงสารในโชคชะตา และรู้สึกว่ามีคนรัก แตงโม เยอะมาก และอยากให้เขาได้เห็นภาพนี้เหลือเกิน แต่ จุ๋ย เองก็ต้องเอาตัวเองออกมาจากข่าว เพราะว่าไม่งั้นสุขภาพจิตเราก็ต้องเสีย จุ๋ยต้องดูแลตัวเองเพราะเราอยู่ในกระบวนการต่างๆ และเราก็ต้องทำบทบาทหน้าที่ในความเป็นเรา แต่ถามว่าใจดำ หรือไม่ได้เสียใจกับการจากไปไหม มันไม่จริงเลยค่ะ จุ๋ย ไม่โกรธ ไม่เคืองกับข้อความใดใด และขออภัยให้กับทุกอย่างค่ะ”ภาพ : warattaya

ร้องแม๊ดังมาก! เมื่อล่าสุดทนายเดชา เผยว่า คุณแม่จิ๋ม เป็นคนส่งโทรศัพท์ของ แตงโม ให้ บังแจ็ค ที่อเมริกา เพื่อหวังให้ช่วยกู้ข้อมูล

25 พ.ค. 2022

ร้องแม๊ดังมาก! เมื่อล่าสุดทนายเดชา เผยว่า คุณแม่จิ๋ม เป็นคนส่งโทรศัพท์ของ แตงโม ให้ บังแจ็ค ที่อเมริกา เพื่อหวังให้ช่วยกู้ข้อมูล

ไม่รู้จะเรียกว่าช็อกกับเรื่องนี้ได้ไหม แต่เป็นเรื่องที่ให้ชาวเน็ตร้อง “แม๊!” ดังมาก เมื่อล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความส่วนตัวของ คุณแม่จิ๋ม ภนิดา แม่ของ แตงโม นิดา ออกมาแถลงข่าวแบบด่วนๆ ว่า คุณแม่ได้ยอมรับกับตนว่า เป็นคนส่งโทรศัพท์ไอโฟน 13 ของ แตงโม ไปให้ บังแจ็ค ที่อเมริกาจริง ซึ่งคาดว่าเป็นตนเหตุของการเคลื่อนไหวต่างๆ บนโซเชียลมีเดียของ แตงโม ที่ทุกคนกำลังตั้งข้อสงสัยโดยทนายเดชา เผยว่า คุณแม่จิ๋ม ยอมรับว่าส่งโทรศัพท์มือถือของ แตงโม ให้ บังแจ็ค จริง ซึ่งเป็นการจัดส่งทางไปรษณีย์ และมีค่าใช้จ่ายในการส่งกว่า 2,000 บาท ส่วนเหตุผลที่คุณแม่ส่งไปให้ บังแจ็ค ที่อเมริกานั้นเนื่องจาก ที่ผ่านมาแม่ได้เข้าไปขอคำปรึกษาเรื่องการกู้ข้อมูลและภาพในเครื่องจาก Apple Store ในไทย แต่ก็ยังไม่สามารถกู้ภาพกลับมาได้ บวกกับช่วงหลังมีโอกาสคุยกับ บังแจ็ค บ่อยมากขึ้น จนสนิทและเชื่อใจกัน ทั้งยังเชื่อที่ บังแจ็ค พูดตลอดว่า มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่า การตายของ แตงโม เป็นการฆาตรกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ กระทั้งตัดสินใจส่งโทรศัพท์ไปให้เพื่อหวังว่า บังแจ็ค จะสามารถกู้ภาพและข้อมูลในเครื่อง เป็นประโยชน์ต่อคดีได้นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังยืนยันอีกด้วยว่า เจตนาของคุณแม่ที่ส่งโทรศัพท์ไปให้กับ บังแจ็ค นั้น เป็นเจตนาดี ที่อยากจะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยต่างๆ ในคดีการเสียชีวิตของลูกสาว รวมทั้งยังเชื่อว่าการเคลื่อนไหวบนโซเชียลของ แตงโม ทั้งเฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม รวมทั้งไลน์ ที่มีการติดต่อไปยังเพื่อนๆ ร่วมทั้งคนบนเรือนั้น น่าจะเป็นฝีมือของ บังแจ็ค ด้วย ส่วนการโอนเงินกลับมาให้คุณแม่นั้น ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ภาพ : Posttoday

คริสตจักรแห่งความสุข ออกประกาศเลื่อนพิธีฌาปนกิจ แตงโม นิดา แบบไม่มีกำหนด หลังครอบครัวยื่นขอชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

14 มี.ค. 2022

คริสตจักรแห่งความสุข ออกประกาศเลื่อนพิธีฌาปนกิจ แตงโม นิดา แบบไม่มีกำหนด หลังครอบครัวยื่นขอชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

พิธีไว้อาลัยแด่นักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์เสร็จลุล่วงไปด้วยดีทั้ง 3 วัน โดยมีครอบครัว เพื่อนศิลปิน-นักแสดง และคนใกล้ชิดเดินทางไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ซึ่งอบอุ่นไปด้วยความรัก และความซาบซึ้ง จากนั้น คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธินแม่ของ แตงโม ขึ้นกล่าวไว้อาลัย พร้อมขอฝากลูกที่เป็นดวงใจของตนไว้ในใจทุกคน ขณะเดียวกันยังบอกด้วยว่าจะขอเลื่อนงานฌาปนกิจออกไปอย่างไม่มีกำหนดทำให้ผู้คนที่มาร่วมพิธีพร้อมใจกันปรบมือ ขณะที่คริสตจักรแห่งความสุขออกประกาศเลื่อนพิธีฌาปนกิจแตงโมอย่างไม่มีกำหนดด้วยเช่นกัน โดยระบุข้อความว่า “ขอประกาศเลื่อนพิธีฌาปนกิจคุณแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์จากเดิมวันที่ 14 มีนาคม 2022 ออกไปโดยยังไม่มีกำหนดและจะประกาศความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้งทางสื่อประชาสัมพันธ์ของคริสตจักรฯ” สำหรับการดำเนินการพิสูจน์ศพ แตงโม นิดา ครั้งที่ 2 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะหน่วยงานที่ผ่าพิสูจน์ ได้ตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชจากภายนอกจาก 3 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และ แพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนข้อสงสัยที่ครอบครัวขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติม คือ บาดแผลตามร่างกาย ว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกเรือ ร่วมถึงอวัยวะภายใน เนื้อเยื่อ โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก ที่พบความผิดปกติคล้ายรอยไหม้ หรือรอยแอลกอฮอล์ และมีสารปนเปื้อนในร่างกายหรือไหม คาดว่าจะสามารถตรวจสอบแล้วเสร็จ และทราบผลชัดเจน ภายใน 2 สัปดาห์จากกรอบระยะเวลา 30 วัน ส่วนระยะเวลาที่ผ่านมานานแล้วเป็นอุปสรรคหรือไม่นั้น ชี้ว่าจุดเกิดเหตุ รูปภาพ ข้อมูลทั้งหมด ผลผ่าชันสูตรครั้งแรกและครั้งที่ 2 ทุกอย่างจะถูกนำมาประมวลผลเปรียบเทียบ วิเคราะห์ทั้งหมด เชื่อว่าสามารถตอบข้อสงสัยทั้งหมดได้ภาพ : ดาราเดลี่ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย

album

0
0.8
1