จีดีเอช ร่วมกับ บรอดคาซท์ ไทยฯ และ คิวบิกซ์ จับมือแถลง “เดสทินี โทเคน” มอบโอกาสร่วมลงทุนหนัง “บุพเพสันนิวาส ๒”

ENTERTAINMENT NEWS

จีดีเอช ร่วมกับ บรอดคาซท์ ไทยฯ และ คิวบิกซ์ จับมือแถลง “เดสทินี โทเคน” มอบโอกาสร่วมลงทุนหนัง “บุพเพสันนิวาส ๒”

22 ก.พ. 2022

จีดีเอช ร่วมกับ บรอดคาซท์ ไทยฯ และ คิวบิกซ์ จัดงานแถลงข่าวเปิดรายละเอียด เดสทินี โทเคนร่วมลงทุนกับภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส ๒” ที่ สตูดิโอเติมสุข โดยมี จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ร่วมด้วย อรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด และ อภิญญา เรืองทวีคูณ Managing Director บริษัท คิวบิกซ์ ดิจิทัล แอสเสท จำกัด ฯลฯ มาร่วมงาน เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดของเดสทินี่ โทเคน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะเปิดให้มีการจองซื้อผ่าน แอปพลิเคชัน Kubix

คุณอภิญญา เรืองทวีคูณ กล่าวว่า “สำหรับรายละเอียดของเดสทินี โทเคน ผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ I am Glad Token ราคา 5,559 บาท จำนวนเสนอขาย 15,559 โทเคน, I am Delighted Token ราคา 155,559 บาท จำนวนเสนอขาย 459 โทเคน และ I am Happy Token ราคา 1,555,559 บาท จำนวนเสนอขาย 69 โทเคน รวมทั้งหมด 16,087 โทเคน มูลค่าการระดมทุนกว่า 265 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุน 2 ปี โดยผู้ถือโทเคนทุกรูปแบบจะได้รับเงินผลตอบแทนพื้นฐานที่ 2.99% ต่อปี และจะได้ผลตอบแทนพิเศษเพิ่มอีก 2.01% ต่อปี เมื่อภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ มีรายได้ Box Office ทั่วประเทศตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อีกทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายตามประเภทของโทเคนที่ถือด้วย เช่น สิทธิการร่วมชมภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ รอบพิเศษก่อนใคร การปรากฏชื่อในเครดิตท้ายภาพยนตร์ในฐานะ Special Destiny Executive Producer รวมทั้งชุดของที่ระลึกคอลเลกชั่นสุดพิเศษ”

ด้านคุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จของออเจ้าฟีเวอร์ที่สร้างปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ทางจีดีเอชจึงอยากต่อยอดมอบความสุขให้กับผู้ชมอีกครั้ง ด้วยการนำไอเดียของคำว่าบุพเพสันนิวาส ที่ต้องเกิดมาเจอกันทุกชาติทุกภพ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทย โดยเรามีทีมงานมืออาชีพอย่างพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล มาเป็นโปรดิวเซอร์ และได้ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม รับหน้าที่ผู้กำกับ รวมทั้งยังได้นักแสดงคู่ขวัญ โป๊ป-ธนวรรธน์ และ เบลล่า-ราณี ร่วมด้วย ไอซ์-พาริส ฯลฯ มาร่วมแสดง ทำให้เรามั่นใจมากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะตราตรึงใจของผู้ชมทั่วประเทศอีกครั้ง และในการต่อยอดที่จะทำให้ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ ประสบความสำเร็จได้นั้น เรามีการปรึกษาหารือกันว่า อยากทำอะไรที่พิเศษและแตกต่าง อยากให้ผู้ชม และแฟนๆ ภาพยนตร์ ได้มีส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชมเพียงอย่างเดียว จึงเกิดจุดเริ่มต้นของโทเคนดิจิทัลที่จะมานำเสนอในตลาด เพื่อให้แฟนๆ และผู้ชมคนดูหนังไทยได้มีโอกาสเป็นผู้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์ไทยที่ตนเองชื่นชอบ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน”

คุณอรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า” จากความสำเร็จของปรากฎการณ์ออเจ้าฟีเวอร์ ทำให้ทางจีดีเอชได้ติดต่อมาว่าอยากทำเป็นภาพยนตร์ ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากและเชื่อมั่นว่าจะต้องมีความแปลกใหม่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะจะเป็นการเล่าเรื่องราวในชาติภพต่อไป ที่บุพเพสันนิวาสนำพาให้ทั้งสองได้กลับมาเกิดและเจอกันอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมทั้งเราได้มีการปรึกษาหารือกันที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาครองใจผู้ชมอีกครั้ง สำหรับโทเคนตัวนี้ให้สิทธิประโยชน์หลายอย่าง ทั้งมีสิทธิ์ชมภาพยนตร์ก่อนใคร ได้ของพรีเมี่ยมที่หาซื้อไม่ได้ไว้เก็บเป็นที่ระลึก  จึงอยากให้แฟนๆ ออเจ้าเข้ามาเป็นส่วนร่วมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมกันผลักดันธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ให้เติบโตมากขึ้นในอนาคตค่ะ”

ทั้งนี้ ผู้สนใจ เดสทินี โทเคน สามารถเตรียมจองซื้อโทเคนได้เพียงลงทะเบียนสร้างบัญชีบนแอปพลิเคชั่น Kubix โดยตัวแอปจะเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงเดือนมีนาคม 2565 สามารถติดตามข้อมูลของ คิวบิกซ์ และ เดสทินี โทเคน เพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/3LQCPEk, www.facebook.com/kubix.digitalasset หรือติดต่อที่ 02-844-8488

ปิดท้ายที่ บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด (Special Destiny) ขอแจ้งให้สื่อมวลชนและประชาชนทุกท่านทราบว่า ภาพยนตร์เรื่องบุพเพสันนิวาส 2 และการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนโดยใช้ชื่อ “DESTINY TOKEN” เป็นการดำเนินการของบริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด (Special Destiny) ซึ่งถือหุ้นโดย บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เท่านั้น การดำเนินการเสนอขายโทเคนดิจิทัลดังกล่าวจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 รวมถึงละครโทรทัศน์เรื่อง บุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิต แต่อย่างใด

อนึ่ง บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด ขอรับรองว่า ภาพยนตร์และโทเคนดิจิทัลไม่มีส่วนที่จัดทำขึ้นโดยละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หากมีการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บริษัท สเปเชียล เดสทินี จำกัด จะดำเนินการขออนุญาตใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้ถูกต้องก่อนเผยแพร่สู่สาธารณชน

related ENTERTAINMENT NEWS

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ถูกเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 และได้เข้าชิงถึง 2 สาขา

25 ม.ค. 2024

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ถูกเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 และได้เข้าชิงถึง 2 สาขา

ภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เตรียมออกเดินทางอีกครั้งเพื่อสร้างมิตรภาพครั้งใหม่ในดินแดนปลาดิบ เพราะล่าสุดผลงานชิ้นนี้ถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Osaka Asian Film Festival 2024 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 1-10 มีนาคมนี้โดย GDH ออกมาเปิดเผยข่าวที่น่ายินดีผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งนอกจากจะถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในสาย Competition หรือสายประกวดหลักของงานนี้แล้ว ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ยังได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้าชิงรางวัลถึง 2 สาขาด้วยกัน คือ Grand Prix และ Most Promising Talent Award นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ตอกย้ำความสำเร็จในเวทีนานาชาติของภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เป็นผลงานส่งท้ายปี 2023 ของ GDH ฝีมือการกำกับหนังครั้งแรกของ อัตต้า-อัตตา เหมวดี โดยมี บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ และ วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ ร่วมดูแลการผลิตในฐานะโปรดิวเซอร์ นำแสดงโดย โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์, ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ และ จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ เข้าฉายในไทยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 และถูกเลือกให้เป็นตัวแทนหนังไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมด้วยภาพ : GDH

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

ภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ ทำรายได้ไปแล้วมากกว่า 1,088 ล้านบาท หลังเข้าฉายในประเทศแถบเอเชีย

20 มิ.ย. 2024

ภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ ทำรายได้ไปแล้วมากกว่า 1,088 ล้านบาท หลังเข้าฉายในประเทศแถบเอเชีย

ซาบซึ้งกินใจจนกวาดรายได้ทะลุหลัก 1,000 ล้านไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวจาก GDH ฝีมือผู้กำกับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ หลังเข้าฉายในประเทศไทยเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับกวาดรายได้ไปมากกว่า 337 ล้านบาทจากนั้น ‘หลานม่า’ ได้ออกเดินทางเข้าฉายในประเทศต่าง ๆ แถบเอเชีย อาทิ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม ฯลฯ สร้างปรากฏการณ์น้ำตาท่วมโรง พร้อมกับทุบสถิติเป็นผลงานหนังไทยที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในเวียดนามและอินโดนีเซียด้วยโดยมีการเปิดเผยรายได้ของ ‘หลานม่า’ จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แถบเอเชียว่า สามารถทำเงินไปมากกว่า 1,088 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2567) และยังคงสะสมรายได้เพิ่มต่อไป เพราะยังมีโปรแกรมเข้าฉายอยู่ ขณะเดียวกันก็มีกำหนดเข้าฉายในประเทศต่าง ๆ เพิ่มอีก อาทิ จีน, เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่นจากตัวเลขดังกล่าว ทำให้ ‘หลานม่า’ กลายเป็นหนังไทยเรื่องที่ 3 ของ GDH ที่ทำเงินผ่านหลัก 1,000 ล้าน หลังจากเคยเกิดปรากฏการณ์นี้มาแล้วกับ ‘พี่มากพระโขนง’ (ปี 2556) และ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (ปี 2560)ภาพ : GDH

GDH เตรียมพา ‘บ้านเช่า..บูชายัญ’ ส่งต่อประสบการณ์หลอนเขย่าโรงภาพยนตร์ในประเทศแถบละตินอเมริกา

04 พ.ค. 2023

GDH เตรียมพา ‘บ้านเช่า..บูชายัญ’ ส่งต่อประสบการณ์หลอนเขย่าโรงภาพยนตร์ในประเทศแถบละตินอเมริกา

​‘บ้านเช่า..บูชายัญ’ ผลงานสยองขวัญเรื่องล่าสุดจาก GDH และ N8 STUDIO หลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ พร้อมกวาดรายได้ทั่วประเทศเข้าสู่ 100 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เสียงวิจารณ์ในเชิงบวก ล่าสุด ‘บ้านเช่า..บูชายัญ’ เตรียมออกเดินทางไปมอบประสบการณ์ความหลอนเขย่าโรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือกำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศแถบละตินอเมริกาด้วยโดยผู้กำกับของเรื่องอย่าง จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ เปิดเผยข่าวดีนี้ พร้อมกับเล่าความรู้สึกในฐานะคนทำหนังว่า“รู้สึกดีใจมากครับที่คนดูชื่นชอบหนัง บ้านเช่า..บูชายัญ กระแสตอบรับในเมืองไทยยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนังเรื่องนี้จะสำเร็จไม่ได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่นักแสดงที่ทรงพลังอย่าง พี่ต่าย เพ็ญพักตร์, เวียร์, มิว และ น้องกัสจัง รวมถึงนักแสดง ทีมงานท่านอื่นๆ ที่ร่วมแรงร่วมใจเป็นทีมเวิร์คเดียวกัน เหนื่อยมาด้วยกัน และยิ่งตอนนี้หนังได้เดินทางไปฉายต่างประเทศที่ลาว, กัมพูชา, สิงคโปร์ และกำลังจะเข้าฉายที่ ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน, เวียดนาม, ฮ่องกง, มาเก๊า, พม่า รวมถึงยังเป็นหนังไทยที่ได้ขยายตลาดไปฉายทางแถบละตินอเมริกา อาทิ เม็กซิโก, บราซิล, อาร์เจนตินา ฯลฯ รู้สึกดีใจมากๆ เลยครับ ที่ผู้ชมต่างประเทศจะได้ดูหนังไทยเรื่องนี้ ส่วนในเมืองไทยยังฉายอยู่นะครับ ไปเป็นกำลังใจให้พวกเราได้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศครับ”ส่วนแฟนๆ ชาวไทยยังสามารถจองตั๋วเข้าไปสัมผัสประสบการณ์หลอนของ ‘บ้านเช่า..บูชายัญ’ ได้วันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

album

0
0.8
1