โอ๊ต ปราโมทย์ ศิลปินอารมณ์ดี ออกมารีวิวชีวิตการเป็นบอส ซึ่งนอกจากหมวกศิลปินและเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จแล้ว บทบาทใหม่ที่แสนจะท้าทายเขาคือการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครองและคอยดูแลสารทุกข์สุกดิบของพนักงานภายใต้บริษัท โคตรคูล อีกกว่า 50 ชีวิต ด้วยแนวคิดและแนวทางการบริหารทั้งคนและงานในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งไม่มีตำราเล่มไหนสอนไว้ ทุกสิ่งเกิดจากการเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา
“ผมว่าถ้าแนะนำสั้นนะครับ..อย่าเป็น (หัวเราะ) เพราะมันเหนื่อย การที่เราจะเป็นหัวหน้าคน ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้ เรื่องเงินเรื่องรอง แต่การมีวาทะศิลป์ในการพูด และการทำให้คนเชื่อและมองไปในทิศทางเดียวกันเป็นเรื่องยากกว่า การปกครองคนยากมาก ตอนนี้เหมือนผมมีลูก 50 คน ทุกอย่างในออฟฟิศก็จะมีเรื่องนั่นนี่ แต่สนุกนะ มันเหนื่อยแต่เราสนุกกับการแก้ปัญหา ถ้าคุณชอบ คุณก็มีความสามารถในการเป็นบอสได้
“การจะทำให้คน 40-50 คนเชื่อเราผมว่ายากนะ ทุก ๆ ที่จะมีบางคนที่มีคำถามกับสิ่งที่หัวหน้าสั่ง แต่ถ้าเราสามารถตอบแบบเคลียร์กับสิ่งที่เขาสงสัยว่าเราทำเพื่ออะไร ผลลัพธ์เป็นยังไง มันก็เป็นเรื่องสำคัญ ตอนทำงานผมจะจริงจังมาก แต่ก็ต้องมีลูกล้อลูกชน ต้องดูโหมดงาน ณ ขณะนั้นว่ากำลังเป็นยังไง แล้วเราต้องเข้าไปหาเขาแบบไหน ผมไม่ใช่คนดุ แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาจะคุยเพื่อให้เข้าใจว่าปัญหานั้นเกิดจากอะไร ทุกคนเกิดความผิดพลาดได้ แต่ต้องเรียนรู้ด้วยว่าปัญหาที่เกิดส่งผลกระทบต่อใครบ้าง แล้วเราจะแก้ไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกได้ยังไง
“ผมว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งกว่าเราบางอย่าง เราเป็นหัวหน้าต้องพัฒนาตัวเองให้ทันเด็ก บางสิ่งที่เด็กถามเราก็ต้องตอบให้ได้ ถ้าเราตอบไม่ได้เขาก็จะเกิดคำถาม เราต้องเรียนรู้และเติบโตไปกับเด็ก ปรับตัวหาเขา ไม่ใช่ไปดุและหัวโบราณจนเด็กทำงานด้วยไม่สนุก
“ด้วยความที่บริษัทของเราเป็นออฟฟิศแบบ 40-50 คน เงินเดือนก็อาจจะไม่ได้สูงเท่ากับบริษัทใหญ่ ๆ ครับ แต่เราทำงานในสภาวะแวดล้อมที่สนุกและในความสนุกมีความมืออาชีพสูง ทุกคนมองเข้ามาคนอาจจะอยากทำงานจริง แต่ไม่รู้หรอกว่างานข้างในมันเข้มข้นมาก ผมกล้าพูดได้เลยว่าโคตรคูลมาได้ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่เพราะผม แต่เป็นน้อง ๆ ทุกคนเลย ผมให้เครดิตกับทุกคน”
ภาพ : oatpramote
