แพท วง KLEAR เล่าเหตุการณ์ถูกพนักงานโรงแรมเปิดเข้าห้องกลางดึก จนรู้สึกไม่ปลอดภัย พร้อมตั้งคำถามทำได้เหรอ?

แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องนำแห่งวง KLEAR ออกมาแชร์เรื่องราวที่ทำให้เธอต้องตกใจ จากประสบการณ์เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก เพราะในกลางดึก จู่ ๆ พนักงานผู้ชายของโรงแรมก็ใช้คีการ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้อง ซึ่งขณะนั้นเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในการเข้าพัก พร้อมกับถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า พนักงานโรงแรมสามารถเปิดประตูเข้าห้องลูกค้าทั้ง ๆ ที่เช็กอินแล้วและยังอยู่ในห้องได้ด้วยหรือไม่?

ในรายละเอียด แพท ได้โพสต์ข้อความเอาไว้พร้อมกับเรียงลำดับเหตุการณ์เอาไว้แบบนี้ว่า

“เวลาประมาณ 22.00 แพทอยู่ในห้องคนเดียว กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องโรงแรม เตรียมตัวจะออกไปโชว์ มีผู้ชายใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาในห้อง แพทตกใจมาก ตะโกนเสียงดัง ผู้ชายคนนั้นพูดว่า ขอโทษครับ แล้วปิดประตู ซักพักมีคนโทรขึ้นมาบนห้องบอกว่า ขอโทษครับ ผมเห็นว่าแอร์ไม่ติดเลยจะเข้ามาดู แล้ววางสายไป ใช่ค่ะแพทไม่ได้เปิดแอร์เพราะอากาศค่อนข้างเย็น (และโรงแรมปกติมีมอนิเตอร์ดูด้วยหรอคะว่าห้องไหนเปิด/ไม่เปิดแอร์)

“แต่คิดแล้วคิดอีกมันก็ไม่มีเหตุผลสมควรไหนเลย ที่ทางโรงแรมจะมีสิทธิ์เปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเช็กอินเข้าพักแล้ว มันอันตรายมากนะ ยิ่งสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวนอนคนเดียว ห้องที่นี่ไม่มีสายยูล็อคด้วยนะ

“ผู้จัดการวงลงไปถามรายละเอียด และขอการ์ดห้องแพทเพิ่มอีกใบเพราะทีแรกได้มาใบเดียว (ปกติเราควรได้ห้องละสองใบไหมคะ) ทางโรงแรมให้การ์ดมาโดยไม่มีการแสกนอะไรเพิ่มเติม เหมือนกับว่ามีการเตรียมอีกใบไว้อยู่แล้วของห้องนี้ ซึ่งก็แปลกอีก เมื่อคืนแพทไม่ได้เปลี่ยนโรงแรม เพราะโชคดีว่าไปจังหวัดที่มีน้องอยู่ เลยโทรเรียกขอให้น้องมาช่วยนอนเป็นเพื่อน และเช้านี้ออกเดินทางเช้ามาก ถ้าเปลี่ยนโรงแรมอาจจะยิ่งต้องนอนดึก แต่เป็นการนอนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดคืน

“มีเหตุผลไหนที่มีน้ำหนักมากพอที่โรงแรมจะควรเปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเช็คอินแล้วเหรอคะ? ต่อให้กรณีลูกค้าไม่อยู่ในห้องก็มีทรัพย์สินอยู่ในห้องไหมคะ? และนี่แพทกำลังแต่งตัวอยู่มันหนักหนาเหมือนกัน จริง ๆ ห้องพี่นัท (มือกลอง) ก็ไม่ได้เปิดแอร์เหมือนกัน ก็ไม่มีใครเปิดเข้าไปนะ”

โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นความคิดเห็นจากคนที่ทำงานสายงานโรงแรมบอกว่า มีเพียงไม่กี่กรณีที่พนักงานจะเปิดเข้าห้องลูกค้าแบบนี้ เช่น กรณีลูกค้าติดป้าย Do not (ห้ามรบกวน) ไว้เกิน 2 วัน เพื่อตรวจสอบว่ายังปลอดภัยอยู่หรือไม่, มีสัญญาณ Fire alarm พนักงานจะตรวจสอบและเคาะเรียก หากไม่มีการตอบจะเปิดเข้าไปเช็กว่ามีควันหรือไฟหรือไม่ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย อีกอีกกรณีคือ พนักงานทำความสะอาดเข้าใจผิดว่าเป็นห้องว่าง และเข้าไปเพื่อทำความสะอาดนั่นเอง

ภาพ : patklear