หลังจาก โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ นักแสดงสาวชื่อดังออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ได้ปิดฉากรักมาราธอน 10 ปีระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มนักแสดง ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ท่ามกลางความคิดเห็นมากมายบนโลกโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบอกเลิกก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเข้ารายการสด จนต้องเกิดภาพการสัมภาษณ์พร้อมกับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ว่า เป็นความใจร้ายเกินไป
ล่าสุด ก๊อต ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกว่า มีหลายอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด โดยเฉพาะประเด็นการโทรบอกเลิกก่อนเข้ารายการสด ก๊อต บอกว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกัน ยอมรับว่าการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กันวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อลองมาคิดดูแล้ว ความรักต้องไม่พยายาม จึงคิดว่าการกลับไปเป็นเพื่อนกันน่าจะดีที่สุด
“เรื่องที่จำเป็นต้องพูด ผมก็พูดไปในพื้นที่ส่วนตัวจนหมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้เพิ่งพูดก่อนเข้ารายการเหมือนที่ออกอากาศไปตอนนั้น แต่ผมว่าทางเขาและพิธีกรน่าจะมีการสื่อสารกันผิดพลาด เลยทำให้เหมือนกับว่าผมโทรเข้าไปบอกก่อนเข้ารายการ แต่จริงๆ แล้วเราคุยกันก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งในส่วนเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูดหรือไม่ควรจะพูด ผมก็ไม่พูดในที่สาธารณะ แล้วตอนนั้นที่ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร เพราะสุดท้ายแล้วเราตอบโต้ก็เพื่อต้องการที่จะชนะ แต่ผมไม่ได้อยากชนะอะไร แล้วพบว่าผมยังพอทนมันได้อยู่กับเรื่องที่มันไม่จริง แล้วผมก็เชื่อว่าเขาไม่มีเจตนาร้าย น่าจะสื่อสารผิดกันเลยดูเหมือนว่าเราเพิ่งโทรไปแยกย้ายกับเขาก่อนเข้ารายการ”
“สาเหตุที่เงียบ เอาตรงๆ เลย ผมกลัวว่าสื่อจะเอาไปขยายต่อจนมันกลายเป็นประเด็น คือผมเห็นว่าเรื่องการแยกทางกันของคน 2 คน มันเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่พอสื่อเอาไปกระจายต่อ บางทีมันมีผลต่อคนรอบตัว มีผลต่อความรู้สึกเรา ดูเหมือนเราแข็งแรง ความจริงแล้วเราก็มีมุมเซนซิทีฟเหมือนกัน แต่แค่เลือกที่จะเงียบดีกว่า (ไม่กลัวว่าคนจะเข้าใจแบบนั้นเหรอ) ความเข้าใจของคนอื่นผมไปหาทางปรับไม่ได้ เพราะว่ามันเหมือนแม้แต่ผมกับเขายังไม่เข้าใจกัน นับประสาอะไรกับคนจะมาเข้าใจเรื่องของเรา 2 คน”
“การตัดสินใจมันยากอยู่แล้วครับ ผมเข้าใจความรู้สึกเขา แล้วผมก็เข้าใจความรู้สึกตัวเอง แล้วผมก็อยากจะให้มันเป็นแบบที่เขาต้องการเหมือนกัน แต่มันเหมือนครั้งนี้ผมจำเป็นที่ผมต้องให้มันเป็นในแบบที่ผมอยากให้เป็น จริงๆ ที่ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเยอะ เพราะเรารู้สึกว่าเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ผมไม่อยากเอาชนะใครทั้งสิ้นเลย ผมไม่อยากให้เรื่องมันตีกลับไปมา เพราะสุดท้ายแล้วมันเจ็บด้วยกันทั้งคู่ แล้วผมก็อยากให้เป็นเหมือนหลายๆ คู่ที่จบไปแบบธรรมดา”
“สาเหตุมันไม่ใช่เรื่องยอมหรือไม่ยอม มันเหมือนวิถีชีวิตเราค่อยๆ ต่างกันไปวันละนิด แล้วผมเริ่มรู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่ความรักมันต้องมีความพยายาม นั่นแสดงว่าเรากำลังผิดทิศผิดทางหรือเปล่า ณ ตอนนี้ผมยังรับได้อยู่กับทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น แต่ถามความมุ่งหวังดีกว่า ว่ามุ่งหวังอะไร ผมมุ่งหวังให้มันจบกันแบบเงียบๆ ก็ทุกครั้งที่ยังมองเขาอยู่ก็ยังมองด้วยสายตาของความรัก และจริงๆ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือวันนี้ ทำงานหนักไม่กลัว ผมกลัววันที่จะต้องมาพูด ผมกลัวว่าจะพูดอะไรผิดไป มันจะไปกระทบเขาหรือเปล่า ผมกลัวไปหมดเลย แต่สุดท้ายแล้ววันนี้มันก็มาถึง”
“ส่วนเรื่องที่ถูกตัดสินจากสังคม ผมไม่อยากชี้แจงอะไร เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วความคิดเห็นของคนในโลกโซเชียลมันก็มีหลายลักษณะ คนที่เขาเลือกที่จะเงียบก็มี คนที่เขาจะเลือกคอมเม้นต์ไม่ดีก็เยอะ แต่ลึกเข้าไปเขารู้อยู่แก่ใจว่าเขาพิมพ์ในสิ่งที่เขาไม่ได้รู้จริง เขากำลังสร้างจินตนาการของเขาขึ้นมา และเขาก็คิดว่าเราเป็นแบบนั้น ซึ่งมันมีเหตุให้เขาคิดแบบนั้นก็ต้องปล่อยกันไป”
นอกจากนี้ ก๊อต ยังทิ้งท้ายอีกด้วยว่า แม้มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากนี้ก็จะเดินหน้าต่อไป โดยมีการวางแพลนทริปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว อยากไปทิเบธ, ญี่ปุ่น และดูไบ มีสิ่งที่อยากทำให้หัวเต็มไปหมด หลังจากหยุดพักจากการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ อีกทั้งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำให้มุมมองความรักเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ ส่วนรักครั้งใหม่ ก๊อต บอกว่าขอพักใช้ชีวิตก่อน
ภาพ : godfather1632