ชนนิกานต์ สุพิทยาพร เภสัชกรสาวจากเชียงใหม่ ชนะการประกวดนางสาวไทย 2566 ควบรางวัลพิเศษขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน

แสดงความยินดีกับ กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร เภสัชกรสาวสวย ดีกรีอดีตนางสาวเชียงใหม่ ปี 2564 ชนะการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2566 และเป็นนางสาวไทยคนที่ 54 สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด ตรงคอนเซ็ปเวทีปีนี้อย่าง‘The Ultimate Precious’ หรือ ‘ที่สุดแห่งความล้ำค่า’

โดยการประกวดในรอบตัดสินจัดขึ้นค่ำวันที่ 19 มีนาคม 2566 ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีนางสาวไทยตัวแทนจังหวัดทั้ง 46 คน เปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมการแสดงชุด ‘โนรา สืบสานงามศิลป์ มรดลแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล’ สุดยิ่งใหญ่ ให้กลิ่นอายวัฒนธรรมอันเลอค่าของภาคใต้ อีกทั้งในปีนี้สาวงามผู้เข้าประกวดได้เดินทางไปเก็บตัวและทำกิจกรรมกันที่ จ.พัทลุง

หลังจากได้ชมความสวยงามในลุคผ้าไทยดีไซน์สวยแล้ว ถึงเวลาคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ซึ่งเป็นการรวบรวมคะแนนจากรอบสัมภาษณ์ทัศนคติเชิงลึก, รอบ Preliminary Competition และ คะแนนสะสมระหว่างเก็บตัวกว่า 1 เดือน จนได้ผู้ที่ผ่านไปประกวดในรอบชุดว่ายน้ำ ก่อนที่จะคัดเลือกให้เหลือเพียง 11 คนที่จะได้อวดความสวยสง่าในรอบชุดราตรี

เพิ่มความเข้มข้นด้วยการประกาศรายชื่อ 5 คนสุดท้าย ซึ่งสาวงามที่ผ่านเข้ารอบมาได้คือตัวแทน สกลนคร, พัทลุง, อำนาจเจริญ, เชียงไหม่ และ พระนครศรีอยุธยา โดยรอบนี้จะได้ฟังความคิดเห็นและทัศนคติของสาวงามด้วยการตอบคำถาม ซึ่งพวกเธอก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ แต่จะมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีโอกาสเข้าใกล้มงกุฎมากที่สุด ซึ่ง 3 คนสุดท้ายได้แก่ตัวแทนจาก เชียงใหม่, สกลนคร และ พัทลุง

ซึ่ง กานต์-ชนนิกานต์ สุพิทยาพร เภสัชกรสาวสวยตัวแทนจาก จ.เชียงใหม่ สามารถตอบคำถามได้อย่างดีเยี่ยมในรอบสุดท้าย ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศ ไม่เพียงแต่จะก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ ผู้หญิงยังสามารถใช้จุดแข็งอย่าง ‘ความอ่อนโยน’ เพื่อบรรเทาปัญหาความรุนแรงได้ด้วย ชนะใจกรรมการจนคว้าตำแหน่ง นางสาวไทย ปี 2566 ไปครอง พร้อมกับรางวัลพิเศษ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน

ขณะที่ มาริษา พลธิราช จาก จ.สกลนคร รับตำแหน่งรองอันดับ 1, อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี จาก จ.พัทลุง รับตำแหน่งรองอันดับ 2, กนกพร พยุงวงษ์ จาก จ.พระนครศรีอยุธยา รับตำแหน่งรองอันดับ 3 และ สุพรรษา วัฒนานุสิทธิ์ จาก จ.อำนาจเจริญ รับตำแหน่งรองอันดับ 4 โดยมีผู้ชมรวมถึงเพื่อนผู้เข้าประกวดร่วมแสดงความยินดี

สำหรับนางสาวไทย คนที่ 54 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณะกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว รวมถึงลุ้นว่าในปลายปีนี้ เธอจะได้เป็นตัวแทนสาวไทยเพื่อไปประกวดในเวทียิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง Miss World หรือไม่

ภาพ : missthailand.tpn