
จบลงไปแล้วสำหรับงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 หรือ Oscars 2023 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่ ดอลบี้ เธียเตอร์ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยมี จิมมี่ คิมเมล (Jimmy Kimmel) กลับมารับหน้าที่พิธีกรในรอบ 5 ปี และเต็มไปด้วยหลากหลายเรื่องราวที่น่าจดจำ
หนึ่งในโมเมนต์สำคัญของงาน คือผลรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ซึ่ง มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) สามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักแสดงหญิงชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลนำหญิงบนเวทีออสการ์ จากภาพยนตร์ ‘Everything Everywhere All at Once’ ที่กวาดรางวัลไปมากถึง 7 สาขา หลังรับรางวัลเธอได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจถึงทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ทุกคนที่มีหน้าตาเหมือนเธอ รางวัลนี้เป็นเครื่องหมายที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่า เรามีหวังและมันเป็นไปได้ จนฝันให้ไกล เพราะในวันหนึ่งมันจะเป็นจริงขึ้นมาได้

ส่วนภาพยนตร์ ‘Everything Everywhere All at Once’ ก็กวาดรางวัลไปได้สูงถึง 7 สาขา ได้แก่ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (มิเชล โหย่ว), ผู้กำกับยอดเยี่ยม (แดเนียล ไชเนิร์ต และ แดเนียล กวาน), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (โจนาธาน คี ควาน), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เจมี ลี เคอร์ติส), บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นคือรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ขณะที่รางวัลนักแสดงนำชายปีนี้ตกเป็นของ เบรนแดน เฟรเซอร์ (Brendan Fraser) จากผลงานดราม่าเรื่อง ‘The Whale’ ที่เจ้าตัวลงทุนเพิ่มน้ำหนักเกินพิกัดไปถึง 300 กว่ากิโลกรัมเพื่อรับบทเป็นคุณพ่อผู้กลับไปสานสัมพันธ์กับลูกสาวที่ห่างเหินมานาน ถือเป็นการคัมแบ็กอย่างยิ่งใหญ่ของเขา หลังจากยุคหนึ่งชื่อของ เบรนแดน เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผลงานและชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดคนหนึ่ง

ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกจับตามองในปีนี้อย่าง ‘All Quiet on the Western Front’ ก็มาแรงสามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 4 สาขา ได้รับไป 4 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม และ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม ส่วน ‘Black Panther: Wakanda Forever’ คว้ารางวัล ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และอีกหนึ่งรางวัลที่น่าสนใจได้แก่ เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ ‘Avatar: The Way of Water’ ที่ภาคแรกก็เคยคว้ารางวัลนี้ไปเมื่อ 13 ปีก่อน


