ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม 2565) มีสายจาก ‘คุณโก้’ ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับการไปตั้งแคมป์นอนเต็นท์ที่ต่างจังหวัดคนเดียว ชวนให้ดีเจแนน - ดีเจ็ม - และดีเจมดดำ ได้อุทานร้องหวอไปตาม ๆ กัน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘เขย่าเต็นท์’
การตั้งแคมป์นอนเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการท่องเที่ยวของบ้านเรา คุณโก้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะชมวิว ชิลไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว คุณโก้นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนเต็นท์ด้วยกันในวันธรรมดา เพราะวันหยุดจะมีคนเยอะ เมื่อได้จัดการจองและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พอถึงหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง เพื่อนคุณโก้กลับเปลี่ยนใจไม่ไปเสียอย่างนั้น คุณโก้ที่เสียดายเงินที่จ่ายไป บวกกับสถานที่นอนเต็นท์อยู่ใกล้บ้าน ห่างประมาณ 30 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเดินทางไปคนเดียว
คุณโก้ไปถึงลานกางเต็นท์ในช่วงเที่ยง ลูกของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีเชื้อสายไทย-มอญ ก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอัธยาศัยดีและช่วยกางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย จนเกือบจะถึงเวลาเย็น คุณโก้ก็ออกไปกินข้าว พอใกล้ 6 โมงเย็น ก็กลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง ก็พบว่าบริเวณนั้น แทบจะไม่มีใครมากางเต็นท์นอนกันเลย ส่วนลูกเจ้าของสถานที่ก็กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณนี้ไป คุณโก้อธิบายเสริมว่า ด้านหน้าของเต็นท์จะมีลำธารเล็ก ๆ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม แม้จะมีแสงไฟอยู่บ้าง แต่ความมืดที่มากกว่าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ คุณโก้ตัดสินใจเข้าไปนอนในเต็นท์ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจกับบรรยากาศในที่แห่งนี้…
ใช้เวลาไม่นานคุณโก้ก็ผล็อยหลับไป กระทั่งเวลา 2 ทุ่ม คุณโก้ตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนคนที่ตั้งใจจะมาด้วยกันนั่นเองที่โทรเข้ามา คุณโก้หัวเสียเล็กน้อยเพราะเพื่อนโทรมาจนทำให้ตื่น และบอกเพื่อนว่าที่นัดกันไว้นั้นตนมาคนเดียว คุยกันได้สักพักก็วางสายไป คุณโก้ตั้งว่าจะนอนต่อแต่ก็ไม่สำเร็จ ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของคนประมาณ 3-4 คน เหมือนกำลังหาปลาอยู่ในลำธารด้านหน้าเต็นท์ (ซึ่งความสูงของน้ำในลำธารนั้นประมาณค่อนเอว) เสียงนั้นเดินใกล้เต็นท์มากขึ้นทุกที จากนั้นก็หยุด แล้วเสียงภาษาพม่าก็เริ่มดังขึ้น คุณโก้เริ่มคิดเตลิดในหัว ถ้าเปิดออกไปแล้วเป็นคน ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อย เพราะเขามากันหลายคน แต่ถ้าเปิดไปแล้วไม่เจอใคร ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เสียงคุยยังคงดำเนินต่อไปประมาณ 10 นาทีได้ คุณโก้ที่เริ่มทนไม่ไหวก็ตัดสินใจจะเปิดเต็นท์ออกไปดู เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นคนก็คงจะชื่นใจกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เปิดเต็นท์ออกไป ภาพที่เห็นนั้นแทบไม่เชื่อสายตา!
คุณโก้พบว่าข้างนอกนั้น ไม่มีใครอยู่เลย! ภาพข้างหน้าเป็นธารน้ำที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงไฟไม่กี่ดวง คุณโก้เริ่มตระหนักในใจว่ายังไงก็โดนเข้าให้แล้ว แต่ด้วยความใจกล้า จึงจะยังนอนอยู่ที่นี่ อีกสักหน่อยตัวเองคงจะหลับไปเอง แต่แล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้บริเวณรอบ ๆ เต็นท์ และก็อีกครั้ง ที่เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ คุณโก้ที่นอนหันหลังให้ฝั่งนั้นก็ต้องสั่นสะท้าน ไม่กล้าหันไปมอง จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ ย่องเดินไปต่อจนเริ่มเบาและหายไป วินาทีนั้นคุณโก้ก็โล่งใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว..
อากาศข้างนอกดูเหมือนจะเย็นลง แต่คุณโก้ก็ไม่แน่ใจว่าข้างนอกมีลมแรงหรือไม่ สักพักเต็นท์ก็เริ่มเขย่าโดยอะไรบางอย่าง! คุณโก้ลุกขึ้นมานั่งชันเข่าตัวแข็งไปหมด เพราะจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี ถ้าจะกลับบ้านมันก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนได้ ครั้นจะอยู่ต่อมันก็นอนไม่หลับแล้ว คุณโก้จึงบอกกับตัวเองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก จะกลับบ้านทันที!
ไม่นาน ขณะที่คุณโก้นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมบนตรงกลางเต็นท์ ใบหน้าก็มองไปที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีหน้าคนยื่นเข้ามาจากข้างนอกทั้งที่ไม่ได้เปิดเต็นท์แล้วก็เด้งกลับไปในเสี้ยววินาที! (มียื่นหน้าเข้ามา แม้จะมีผ้าเต็นท์กั้นอยู่ คล้ายกับแม่พิมพ์) จังหวะนั้นคุณโก้ก็รู้ดีว่ามันคือใบหน้าของคนแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จากที่กลัวมาก คุณโก้ก็ปลดล็อคดับเครื่องชน รีบเปิดเต็นท์ออกไปดูและตะโกนลั่นป่าถามว่า “ใครครับ! ออกมาได้มั้ย?” สุดท้ายก็ไม่มีใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมา ด้วยความที่อยู่คนเดียว จึงโทรหาเพื่อนคนเดิมแล้วเปิด Speakerphone ไว้ แต่เพื่อนบอกว่าคุยกับแฟนอยู่ คุณโก้จึงบอกว่า “กูกำลังเก็บเต็นท์กลับบ้าน มึงพูดอะไรก็ได้ แต่กูขอเก็บเต็นท์แปปนึง” (ประมาณว่าให้เพื่อนอยู่ในสายรอไว้) คุณโก้ใช้เวลาเก็บเต็นท์น้อยกว่ากางเต็นท์มาก คุณโก้เล่าเสริมว่า ขณะที่เดินกลับรถ ก็พึ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศตรงนั้น มันไม่ปลอดภัยมาก ๆ ทั้งมืด และไม่มีใคร แล้วก็บอกกับตัวเองในใจว่า “กูนอนไปได้ไงเนี่ย” จากนั้นก็รีบออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองลานกางเต็นท์นั้นอีกเลย
ซึ่งทางดีเจเจ็มจึงถามกลับไปว่า “ปกติแล้ว เวลาเราไปกางเต็นท์ ก็มักจะต้องบอกเจ้าที่เจ้าทาง คุณโก้ได้ทำบ้างมั้ย?” คุณโก้บอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เรามานอนคนเดียว ไม่มีเจตนาร้าย
ใครได้ฟังหรืออ่านเรื่อง ‘เขย่าเต็นท์’ จากคุณโก้กันแล้ว ถ้ามีแพลนจะไปนอนเต็นท์กลางป่า ก็พกเพื่อนตัวเป็น ๆ ไปด้วยสักคน ดีกว่าไปเจอเพื่อนที่อาจไม่ใช่คนจะดีกว่านะ...
ติดตามความสนุกย้อนหลัง