เรื่องราวที่พี่ ‘แจ็ค The Ghost Radio’ นำมาเล่าในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน 2565) เป็นเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องเสียวสันหลัง กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘กระทงผี’ เรื่องนี้จะหลอนชวนคลุมโปงแค่ไหน แท็กเพื่อนมาอ่านความหลอนไปด้วยกันเลย!
‘กระทง’ ที่ว่านี้ ไม่ใช่กระทงที่เราคนไทยใช้เพื่อขอขมาพระแม่คงคาในเทศกาลลอยกระทง แต่หมายถึง ‘กระทงเซ่นไหว้’ และเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนเจ้าของเรื่องคือ ‘คุณหนูฝน’ แฟนคลับรายการ ‘The Ghost Radio’ นั่นเอง
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณหนูฝนซึ่งเป็นคนไทยคนเดียว ได้เดินทางไปเที่ยวกับแฟนและกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติที่ประเทศอินโดนีเซีย คุณหนูฝนเล่าว่าคนที่บาหลีส่วนใหญ่มักจะนับถือศาสนาฮินดูเป็นหลัก และมีพิธีการเซ่นไหว้เทพเจ้าหรือภูติผีปีศาจต่าง ๆ ผ่านกระทงเซ่นไหว้ จากนั้นก็นำไปวางไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ตามถนน เรียกได้ว่าสามารถเห็นได้แทบจะทุก 3 ก้าวเลยทีเดียว แถมยังบอกอีกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง ต้องเห็นคนมาไหว้อยู่ตลอด
ระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวกันอยู่ ‘คุณซันนี่’ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติก็เผลอเดินไปเหยียบกระทงแบบไม่ตั้งใจ คุณหนูฝนจึงบอกให้เพื่อนขอโทษเพราะนี่ถือว่าเป็นความเชื่อของเขา แต่คุณซันนี่ก็ถามกลับว่า “ทำไมต้องขอโทษกระทงด้วย กระทงนี่คืออะไร?” แล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราะขำขัน ไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวคุณหนูฝนก็พยายามพูดขอโทษแทนคุณซันนี่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า “เพื่อนไม่ได้ตั้งใจนะ” หลังจากนั้นทุกคนก็พากันไปดื่มสังสรรค์ตามแพลนที่วางไว้
ขากลับทุกคนในกลุ่มก็เริ่มกรึ่ม ๆ ปรากฏว่าแฟนของคุณหนูฝน ดันเดินไปเหยียบกระทงที่วางอยู่ข้างทาง หนึ่งในกลุ่มเพื่อนจึงพูดว่า “เธอเดินเหยียบผีอ่ะ ระวังผีหลอกนะ” แล้วทุกคนก็เฮฮากัน เพราะด้วยความที่เป็นฝรั่งก็ไม่ได้คิดหรือมีความเชื่ออะไร แฟนคุณหนูฝนที่กำลังกรึ่มเมาได้ที่ก็บอกว่า “อ๋อ นี่ผีใช่มั้ย? ได้เลย!” แล้วก็เดินไล่เหยียบกระทงทีละอัน! คุณหนูฝนจึงรีบตักเตือนแฟนชาวต่างชาติว่าไม่ควรทำแบบนี้ทันที ดังนั้นทุกคนในกลุ่มจึงหยุดหัวเราะ ส่วนคุณหนูฝนที่ไม่สบายใจ จึงขอขมาเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง และพากันเดินกลับที่พักไป
เมื่อเดินทางกลับมาถึงที่พัก ซึ่งได้จองไว้เป็นวิลล่า แยกกันนอนคนละหลัง แต่ละคนก็อาบน้ำและเข้านอนตามปกติ ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น คุณหนูฝนก็รู้สึกได้ยินเสียงเหมือนกับมีอะไรมาขูดที่ผนังดัง “แกร๊ก แกร๊ก” จึงเปิดไฟหัวเตียง แล้วก็พบว่าแฟนของคุณหนูฝนหายไป! คุณหนูฝนจึงมองหาไปรอบ ๆ จนสายตาหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าที่เปิดอยู่ คุณแจ๊คเล่าเสริมว่าแฟนคุณหนูฝนมีร่างใหญ่ สูงกว่า 185 เซนติเมตร ยืนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วทำคอพับ จากนั้นก็เอาเล็บตะกุยผนังตู้เสื้อผ้า คุณหนูฝนเห็นดังนั้นจึงรีบตะโกนถามว่าเป็นอะไร แล้วก็พยายามลุกไปปลุกให้แฟนมีสติ แต่ระหว่างนั้นแฟนคุณหนูฝนก็ได้ปัสสาวะราด เมื่อได้สติเขาก็บอกว่าในฝันมีผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนจะเข้ามาทำร้ายเขา แต่เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณหนูฝนจึงบอกให้ไปอาบน้ำให้สบายตัว แล้วกลับมานอนใหม่ดีกว่า พรุ่งนี้ ตั้งสติได้ เราค่อยมาคุยรายละเอียดกันอีกที
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนก็ออกไปกินข้าวเช้ายกเว้นคุณซันนี่ที่ยังไม่ออกมา แต่ทุกคนก็คิดว่าคงไม่มีอะไร ในตอนที่กินข้าวอยู่นั้น คุณหนูฝนก็ถามแฟนว่า “ตกลงเมื่อคืนนี้ เป็นอะไร? มันเกิดอะไรขึ้น?” เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาฝันว่ามีผู้หญิงตาสีดำเหมือนตาโบ๋มีผมฟู พยายามวิ่งไล่เขาอยู่ในห้อง ด้วยความกลัวเขาก็เลยวิ่งหนีวนในห้อง จนถึงประตู เขาก็เลยเปิดเพื่อที่จะหนีออกไปข้างนอก ปรากฏว่าเปิดออกไป ประตูนี้มันดันเป็นทางตัน ซึ่งมันก็เป็นภาพเดียวกับที่คุณหนูฝนเห็นว่าแฟนกำลังตะกุยตะกายตู้เสื้อผ้านั่นก็เพราะเขาจะหาทางออกนั่นเอง คุณหนูฝนจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นผลพวงจากเมื่อวานก็ได้ แต่ทุกคนก็ยังงง ๆ และยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เวลาผ่านไปสักพัก คุณซันนี่ก็ยังไม่ปรากกฎตัว ทุกคนจึงคุยกันว่าจะไปตามที่บ้านพัก
เมื่อไปถึงบ้านพักของคุณซันนี่ ก็พบว่าคุณซันนี่นอนไข้ขึ้นสูง แล้วก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเขาได้ฝัน ซึ่งเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก เพราะหลังจากที่คุณซันนี่อาบน้ำเสร็จแล้วมานอนที่เตียง สายตาก็มองไปที่หน้าต่าง ก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดคล้ายกับนางรำของบาหลี มีผมฟูยืนอยู่ตรงหน้าต่าง คุณซันนี่คิดในใจว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดีแถวนี้ จึงปิดหน้าต่างแล้วก็นอน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกุกกัก จึงลืมตาขึ้นมาดู พบว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง ตอนนี้ได้มายืนอยู่ตรงปลายเตียง แถมยังรำท่าทางน่ากลัว! เขาก็เลยตกใจจนไข้ขึ้น เมื่อได้ยินดังนั้น คุณหนูฝนจึงบอกว่าสิ่งที่ได้ทำไปเมื่อวานนั้นมันไม่ถูกต้อง และนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ไกด์ท้องถิ่นฟัง หลังจากฟังจบไกด์ท้องถิ่นคนนั้นก็รู้สึกโมโห และบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ คนที่นี่เขามีความเชื่อและศรัทธามาก ถ้าคุณไปทำแบบนี้ให้ชาวบ้านเห็น คุณจะไม่ได้เจอแค่ผีหลอกนะ คุณอาจจะโดนรุมประชาทัณฑ์ได้เลย
เมื่อเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด ไกด์ท้องถิ่นจึงได้พาทุกคนไปยังวัดแห่งหนึ่งที่มีอ่างน้ำมนต์เพื่อให้ทุกคนได้ไปอาบ ทุกคนก็ยอมทำตามนั้น หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มสบายใจขึ้น และเที่ยวต่อตามแผนเดิมได้อย่างปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากจบทริปก็แยกย้ายกันกลับประเทศของตัวเองไป
คุณแจ็คเล่าเสริมว่าที่นำมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้ เพราะรู้สึกทึ่งกับความเชื่อและวัฒนธรรมของบาหลี และอยากเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนที่จะต้องเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถึงเราจะไม่มีความเชื่อเหมือนกับประเทศของเขา แต่ก็อยากให้เคารพวัฒนธรรมและสิ่งที่เขาเชื่อด้วย
ติดตามความหลอนย้อนหลังได้