‘ขวัญ INDIGO’ เผลอพูดจะทำบุญให้ แต่ไม่ได้ไป สุดท้ายเจอโดนของดีเข้าอย่างจัง!

ENTERTAINMENT NEWS

‘ขวัญ INDIGO’ เผลอพูดจะทำบุญให้ แต่ไม่ได้ไป สุดท้ายเจอโดนของดีเข้าอย่างจัง!

17 พ.ย. 2022

เรื่องเล่าที่ชาว EFM ต้องขนหัวลุกทั้งสตูนี้ มาจากประสบการณ์หลอนของ ‘ขวัญ วง INDIGO’

ที่ได้แชร์เรื่องราวของการไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัดในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน 2565) เรื่องราวของ ‘ขวัญ’ จะเป็นอย่างไร เตรียมขนหัวลุกกันในเรื่องที่มีชื่อว่า ‘หุ่นพยนต์’

          ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง ขวัญได้เท้าความว่าหลังจากที่ได้มีการบวช ต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นเป็นคนมี sense ทำให้ขวัญนั้นค่อนข้างที่จะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง แต่จะรู้สึกได้กับคนใกล้ชิดที่อยู่ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ กับคนที่ไม่สนิทหรือพึ่งเคยเจอกัน จะไม่รู้สึกถึงอะไรเลย จากนั้น ขวัญก็ย้ำอย่างชัดเจนในรายการว่า ‘หุ่นพยนต์’ ที่พูดถึงนี้ ไม่ได้เป็นของสมาชิกในวงและทีมงานใด ๆ แต่เกี่ยวข้องกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ล่าสุด ‘INDIGO’ ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตร้องเพลงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ขวัญเล่าว่า ทุกครั้งที่จะเข้าโรงแรมหรือเปลี่ยนสถานที่นอน ก็มักจะพูดเสมอว่า “ถ้าวันนี้มีโอกาส จะไปทำบุญให้นะ แล้วก็ขอนอน ขอเข้าพื้นที่ตรงนี้นะ” ขวัญยังบอกอีกว่าถ้าไม่พูดหรือไม่พกพระไปด้วย ขวัญจะโดนตลอด “คล้าย ๆ กับว่าโดนคนมาขอบุญอะไรแบบนี้ค่ะ” ขวัญกล่าว และยังเสริมว่าขวัญเคยมานอนที่โรงแรมแห่งนี้ และรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ที่นี่...

วันนี้เองก็เช่นกัน เมื่อมาถึงโรงแรมในช่วงเกือบจะพลบค่ำ ขวัญจึงขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง และพูดประโยคที่ต้องพูดทุกวัน แต่ด้วยความที่เหนื่อยมาก จึงคิดในใจว่า “วันนี้คงไม่ได้ไปทำบุญแล้วแหละ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าถ้ามีโอกาสค่อยว่ากัน” จากนั้นก็ผล็อยหลับไป

หลังจากนั้น ขวัญก็เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก จึงทุบหน้าอกตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่มีอะไร สักพักก็มี ‘ขาม้าสีน้ำตาล’ มาวางพาดบนหน้าอกของขวัญ! ขวัญพยายามคิดว่าตัวเองคงฝันไป และบอกในใจว่า “อย่ามายุ่ง” ไม่ทันไร ม้าทั้งตัวก็ทับตัวขวัญ แล้วก็ร้องเสียงแหลมโหยหวนชวนขนลุก! ขวัญคิดในใจว่า “หายใจไม่ออก เอาออกไปเถอะ” ทันดันใดนั้นเอง ก็มี ‘คุณยาย’ ที่มีผมหยิกฟันดำกระโดดมาทับตัวขวัญอีก แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามายิ้มใกล้ ๆ แถมยังหัวเราะเสียงแหลมดังก้อง!

ขวัญรู้ทันทีว่าโดนเข้าให้แล้ว แต่จะให้ขยับตัวก็ทำไม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ไม่สามารถท่องบทสวดมนต์อะไรได้เลย ทั้ง ๆ ที่ตัวขวัญนั้นเข้าห้องพระสวดมนต์ทุกเช้า ขวัญพยายามรวบรวมสติและพูดในใจว่า “เดี๋ยวขวัญทำบุญให้ ตอนนั้นที่พูดว่าจะไปทำบุญให้แล้วไม่ได้ไป ขวัญปากพล่อย ขวัญขอโทษ ขวัญไม่ได้ลบหลู่นะ” สักพักแสงสว่างจ้าก็ว้าบขึ้นมา แล้วภาพก็ตัดหายไป

ไม่นาน ขวัญก็รู้สึกตัวและหายใจได้อย่างเต็มปอดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน และยังไม่กล้าลืมตาเพราะกลัวจะเห็นม้าอยู่ แต่แล้วก็ตัดสินใจเฮือกสุดท้าย เอื้อมมือไปขวานหาโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จากนั้นก็พิมพ์ไปหาผู้จัดการว่า “หนูเจอยายแก่กับม้าว่ะ หนูเจอแล้วก็หายใจไม่ออก” ผู้จัดการถามกลับมาด้วยความห่วงใยว่าอยู่ได้มั้ย ขวัญที่เริ่มได้สติกลับมาก็ตอบกลับไปว่า “อยู่ได้ค่ะ” จากนั้นผ่านไปสักพักก็ได้เวลาที่จะต้องไปทำงานแล้ว เมื่อขวัญเตรียมตัวออกจากห้องเสร็จ ลงมาที่หน้า Lobby ผู้จัดการก็ถามว่า “เขามายังไง” ขวัญก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง

ระหว่างนั้นก็ลงลิฟต์แล้วเดินไปที่หน้าประตูโรงแรม ผู้จัดการก็วิ่งมาหาขวัญหน้าตาตื่น แล้วกระซิบบอกให้ขวัญดูทางขวามือ เมื่อหันไปดูก็พบ ‘หุ่นพยนต์ที่เป็นผู้หญิงผมหยิกฟันดำขี่ม้าสีน้ำตาล’ วางตั้งไว้กับประตูโรงแรม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทีมงานทั้งหมด รวมทั้งขวัญและสมาชิกในวงเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลย

ขวัญเล่าเพิ่มเติมว่า หุ่นนั้นได้ถูกนำมาวางครอบไว้ที่ประตูอีกทีนึง จนกระทั่งต้องเดินทางกลับ ขวัญจึงได้เล่าเรื่องนี้ให้กับ ‘บลู’ และ ‘โดนัท’ สมาชิกในวงได้ฟัง โดนัทจึงลองหาข้อมูลแล้วก็นำมาสันนิษฐานกันเองว่า เขาน่าจะนำหุ่นนี้มาครอบเพื่อปกปักรักษาโรงแรมไว้ เพราะที่ตรงนั้นเคยเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้น

หลังจากนั้น ขวัญก็ได้ไปแสดงคอนเสิร์ตในงานไหว้พระจันทร์ และก็ได้ไหว้พร้อมทั้งบอกว่า “บุญนั้นหนูอุทิศให้หมดเลย

 

ติดตามชมรายการย้อนหลังได้

related ENTERTAINMENT NEWS

กีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์ กับคอนเสิร์ต “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก”

12 ต.ค. 2022

กีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์ กับคอนเสิร์ต “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก”

“2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” (2022 Sungha Jung's Music Café [MuCa] Live in Bangkok) งานของเจ้าชายฟิงเกอร์สไตล์แห่งเอเชีย “ซองฮา จอง” หรือ “จองซองฮา” (Sungha Jung / JUNG SUNG HA) หนึ่งไอดอลผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันในการหัดเล่นกีตาร์ของใครๆ หลายคนนั่นเอง!!ซองฮา อัจฉริยะนักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์กลับมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 5 ปีด้วยคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับโรงละคร เอ็ม เธียเตอร์ (M Theatre)เริ่มต้นโชว์ครั้งนี้ด้วย 2 เพลงจากผลงานล่าสุด ‘Poetry’ อัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าเขาตั้งใจรวบรวมบทเพลงต่างๆ เข้าไว้ราวกับหนังสือรวมบทกวี เปิดเวทีที่ Prologue ต่อเนื่องด้วย Yuumi's Waltz โดยเพลงนี้ ซองฮา แต่งให้กับแมวของเขาที่มีชื่อว่า ยูมี และเขาเลือกเพลงนี้มาเป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ตแทนความรู้สึกยินดีของเขาที่ได้กลับมาแสดงที่ไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกว่า 5 ปี บรรยากาศบนเวทีถูกจัดให้เหมือนกับบรรยากาศอบอุ่นน่ารักในคาเฟ่ที่โอบล้อมผู้ชมเอาไว้เข้ากับชื่อของ Music Cafe [MuCa] ที่เป็นธีมคอนเสิร์ตครั้งนี้ซองฮา ได้เปิดเผยความรู้สึกว่าเขาดีใจมากที่ได้กลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้งเพราะที่นี่ก็เปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกหลังของเขา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้นมีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้เดินทางมาเมืองไทย ทั้งเรื่องของการเกณฑ์ทหารและสถานการณ์ของโควิด-19 เพื่อความพิเศษของการได้กลับมาแสดงที่ไทยในครั้งนี้เขาจึงเตรียมเพลงไว้มากมายทั้งเพลงจากอัลบั้มใหม่ เพลงคัฟเวอร์ที่แฟนๆ ชื่นชอบ โดยพาแฟนๆ เข้าสู่บทเพลงเซ็ตต่อไปซึ่งมีทั้งเพลงป็อประดับตำนาน ไปจนถึงเพลงเคป็อปยอดนิยม เริ่มต้นจากเพลง Englishman in New York ของ Sting ต่อเนื่องด้วย 2 เพลงที่ปล่อยออกมาในโปรเจ็กต์ของ MuCa ได้แก่ Loving You Girl ของ Peder Elias ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับ SHAUN (เจ้าของเพลงฮิต Way Back Home) และเพลง Don't Look Back in Anger ของ Oasis ที่ร่วมงานกับ ควอนอินฮา (ศิลปินระดับตำนานของเกาหลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพลังเสียง)ก่อนจะเรียกเสียงปรบมือจากแฟนๆ ดังกึกก้องจากเพลง Butter ของ BTS โดยกีตาร์ริสต์หนุ่มบอกว่าเป็นเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันมาก จึงอยากแสดงเพลงนี้ให้กับแฟนๆ ที่ไทยได้ฟังกันสดๆ แถมด้วยเพลง Dynamite ซึ่งเดิมไม่ได้อยู่ในลิสต์ของคอนเสิร์ตแต่เขาตั้งใจมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยเป็นเซอร์ไพรส์พิเศษ แล้วจึงปิดท้ายพาร์ตแรกด้วยเพลง The Ocean อีกหนึ่งงานจากอัลบั้มชุดใหม่ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่าส่วนตัวแล้วเขาชอบเพลงนี้มากหลังจากพักเบรก 15 นาทีในช่วงอินเตอร์มิสชั่น ซองฮา พาทุกคนเข้าสู่พาร์ตที่ 2 ด้วยการเปิดตัว โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ศิลปินรับเชิญในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่ง โต๋ ได้เล่าถึงความประทับใจว่า การได้ร่วมงานกับ ซองฮา เพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์ด้วยกันในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ารู้จักกันและกันมานานซึ่งเพลงแรกที่ทั้งคู่ได้แจมกันก็คือ Sunroof ของ Nicky Youre ที่ ซองฮา เป็นคนเลือกขึ้นมา ต่อเนื่องด้วยเพลง River Flow in You เพลงบรรเลงเปียโนขึ้นหิ้งของ Yiruma นักเปียโนชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง ซึ่ง โต๋ เลือกเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่ตัวเขาเองชื่นชอบมาก และเห็นว่า ซองฮา เองก็เคยเล่นเพลงนี้เป็นสไตล์ของเขาเอาไว้ เลยเป็นโอกาสดีที่จะเรียบเรียงเพลงนี้ขึ้นมาใหม่โดยผสมผสานเสียงเปียโนของ โต๋ เข้ากับเสียงกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ของ ซองฮา เพื่อให้เป็นครั้งแรกที่เพลงนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรี 2 ชนิดในแบบ duet กันถึงช่วงเซอร์ไพรส์ที่ ซองฮา และ โต๋ เตรียมเพลงไทยเอาไว้เป็นของขวัญพิเศษมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ เริ่มต้นด้วยเพลง เดือนเพ็ญ เพลงไทยคลาสสิกที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองแบบไทยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรีเพียงสองชิ้น คือกีตาร์และเปียโน แต่สะกดใจผู้ชมได้ทั้งฮอลล์ต่อด้วยเพลง คนไม่พิเศษ เพลงฮิตของโต๋ ปิดท้ายความทรงจำสุดพิเศษที่ 2 สุดยอดศิลปินจาก 2 ประเทศมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยในค่ำคืนนี้ แต่เซอร์ไพรส์เพลงไทยยังไม่หมด เมื่อ ซองฮา หยิบเอาเพลง ในลิ้นชัก เพลงไทยอะคูสติกจากยุค 80 ของวง กอหญ้าก่อนจะนำเข้าสู่ผลงานเพลงใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า Dreaming ไตเติลแทร็กจากอัลบั้มล่าสุดซึ่งแต่งขึ้นจากตัวเขาเองฝันว่าได้แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งดวงดาว บรรยากาศบนเวทีในตอนนี้จึงนำพาแฟนๆ เดินทางเข้าสู่ภาพจำลองความฝันของซองฮา ฉากหลังของท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องประกายเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์ในวันนี้กับบทเพลงอีกหนึ่งเซ็ตที่ถูกถ่ายทอดออกมาแบบต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยเพลงป็อปร่วมสมัยอย่าง Closer ของ The Chainsmokers ซึ่ง ซองฮา เปลี่ยนไวบ์จากต้นฉบับที่เป็นแนวอิเล็กโทรป็อปมาสู่ความเป็นอะคูสติกเต็มร้อยผ่านเสียงกีตาร์ของเขา ก่อนจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปในยุค 70 กับเพลงป็อปอมตะอย่าง Close to you ของวง The Carpenters ซึ่ง ซองฮา หยิบมาเรียบเรียงใหม่โดยใส่เทคนิคการเล่นกีตาร์ของเขาเข้าไป กลายเป็นเวอร์ชั่นที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ฟังอย่างดีงาม แสงออกหูต่อเนื่องด้วย Seventh #9 เพลงจากอัลบั้ม L’Atelier ของตัวเขาเองเท่านั้นยังไม่พอเขาได้เลือกเพลงที่เหล่ามือกีตาร์ต่างยกให้เป็นเพลงที่ยากในการเล่นอย่าง Neon ของ John Mayer มาโชว์ให้ได้ฟังกัน ซึ่งเพลงนี้เขาได้นำมาเรียบเรียงใหม่ให้ออกมาเป็นแบบฟิงเกอร์สไตล์ที่นอกจากจะคงไลน์กีตาร์ยากๆ ของต้นฉบับไว้แล้ว ยังมีไลน์เมโลดี้ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีกมาถึงเพลงสุดท้าย กีตาร์ริสต์แห่งมูคา ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมสร้างช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันในคอนเสิร์ตครั้งนี้ โดยเขาให้สัญญาว่าจะกลับมาแสดงให้ได้ชมกันอีกบ่อยๆ จากนั้นหยอดมุกเรียกรอยยิ้มว่าหลังจบเพลงนี้หากไม่มีใครร้องเรียกเขาแล้ว นั่นก็คงจะเป็นเพลงสุดท้ายจริงๆ ดังนั้นหากอยากฟังเพลงเพิ่มอีกให้ลองแกล้งๆ เรียกเขาสักหน่อยซึ่งเพลงสุดท้ายที่เขาเลือกมาปิดโชว์คือ Flaming ผลงานเพลงที่ได้รับความรักอย่างมากจากอัลบั้ม Monologue โดยทันทีที่โน้ตตัวสุดท้ายจบลงเสียงปรบมือของผู้ชมก็ดังกึกก้องขึ้นต่อเนื่องยาวนาน ส่งสัญญาณขออังกอร์จาก ซองฮา หนุ่มนักกีตาร์จึงไม่รอช้า กลับออกมาอีกครั้งพร้อมเพลง Classical Gas ที่ Tommy Emmanuel มือกีตาร์ระดับโลกผู้เป็นเหมือนฮีโร่ของเขาเคยเล่นไว้ มาเป็นเพลงส่งท้ายความทรงจำในคอนเสิร์ต 2022 Sungha Jung's Music Cafe [MuCa] live in Bangkokภาพ : JIN CORPORATION และ PICCOLO MUSIC ENTERTAINMENT

ตกหลุมรักไม่ไหว! กับความพิเศษใส่ใจจาก “คิม มินกยู” ถึงแฟนชาวไทย ในงาน “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok

03 พ.ค. 2023

ตกหลุมรักไม่ไหว! กับความพิเศษใส่ใจจาก “คิม มินกยู” ถึงแฟนชาวไทย ในงาน “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok

พูดคำว่า “เยี่ยมจริงๆ” แค่ 3 ครั้ง ก็คงไม่พอ สำหรับความสนุกสุดฟิน ในเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ที่แฟนๆ ได้รับจากนักแสดงหนุ่ม “คิม มินกยู” (Kim MinGue) เจ้าชายลักยิ้มแห่งประเทศเกาหลี ในงานแฟนมีตติ้งครั้งที่สองของเขาในประเทศไทย กับงาน “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok ที่จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งหนุ่ม “คิม มินกยู” กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ในรอบ 1 ปี เรียกว่าเก็บความคิดถึงเพื่อมารอเจอแฟนๆ ของเขาในวันนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อได้พบสบตากับแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง หนุ่มมินกยู เลือกเพลง Love, Maybe จากซีรีส์ Business Proposal เพลงโปรดของเหล่าแฟนๆ มาเปิดต่อมความคิดถึงแรก จากนั้นเขาก็ทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทย ว่า “สวัสดีครับ คิดถึงมากๆ ครับ” พร้อมขอบคุณแฟนๆ ที่มอบความรักให้กับเขาอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้เขาได้กลับมาเจอกับแฟนๆ อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ทำให้เขาตื่นเต้นจนมือสั่นเลยทีเดียว แค่เริ่มต้นก็น่าเอ็นดูไม่ไหว ซึ่งงานนี้หนุ่มมินกยูเขาเตรียมความพิเศษมาให้แฟนๆ แบบจุใจ ให้อิ่มหนำไปกับทุกช่วงเวลาใน “Heavenly Moment” ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาพูดคุยเพื่อละลายความคิดถึง ซึ่งหนุ่มมินกยูก็เก็บภาพช่วงเวลาในชีวิตประจำวันของเขา มาแชร์กับแฟนๆ ซึ่งจังหวะนี้ทำเอาแฟนๆ ใจบางไม่ไหว เมื่อได้เห็นมุมความเป็น “ทาสแมว” ของเขาคนนี้ กับประโยคเด็ดทัชใจคนฟัง “แมว แค่อยู่บนโลกนี้ก็ถือว่าเป็นความรักแล้ว” ฟังแล้วอยากยกตำแหน่งหัวหน้าทาสแมวให้ไปเลย โมเม้นต์แรกเรียกว่าเต็มไปด้วยน่ารัก ต่อมาด้วยโมเม้นต์ที่สองที่เต็มไปด้วยความฟิน เพราะนอกจากหนุ่มมินกยูจะมาเล่าถึงผลงานที่ผ่านมาของเขาอย่างซีรีส์ Business Proposal และ The Heavenly Idol ผลงานเรื่องล่าสุดแล้ว ช่วงนี้ยังได้เชิญแฟนคลับผู้โชคดีขึ้นมาแสดงบทบาทจากฉากประทับใจในซีรีส์อีกด้วย งานนี้แฟนๆ ฟิน ส่วนเจ้าชายลักยิ้มของเรานั้นเขินไม่ไหว แต่ความเซอร์วิสเซอร์ใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในซีรีส์ The Heavenly Idol หนุ่มมินกยูเขารับบทเป็น “ท่านมหาปุโรหิตในคราบไอดอล” จึงต้องมีมิชชั่นเซอร์วิสแบบไอดอล ไม่ว่าจะเป็นการทำท่า Ending Fairy ตามมาด้วยจับคู่ความหล่อของเขากับไอเท็มสุดคิ้วท์ และคอร์สเรียนภาษาไทยแบบรวบรัด ซึ่งจบมิชชั่นนี้หนุ่มมินกยูก็ได้เพลงไทยกลับไปร้องให้บรรดาน้องเหมียวที่บ้านฟังแล้ว หลังจากนั้นก็มาถึงโมเม้นต์เวลาดีๆ ที่เรียกว่าเซอร์วิสของจริง! เพราะนอกจากเตรียมเกมส์มาเล่นกับแฟนๆ แล้ว หนุ่มมินกยู ยังเตรียมของขวัญมาให้แฟนๆ ที่ขึ้นมาเล่นเกมส์อีกด้วย เป็นหมวกพร้อมลายเซ็น และพวงกุญแจที่เขา Custom เองกับมือ เป็นของขวัญที่มีชิ้นเดียวในโลก และยังไม่หมด! เพราะยังมีอีกหนึ่งของขวัญเป็นภาพโมเม้นต์น่ารักๆ ที่บอกใบ้ได้แค่ว่า “พระเอกคนอื่นขี่ม้าขาว แต่หนุ่มมินกยูนั้นขี่ไดโนเสาร์” แต่จะเป็นภาพแบบไหน เฉพาะแฟนคลับในแฟนมีตฯ ครั้งนี้เท่านั้น ที่จะได้เห็นภาพสุด Exclusive นี้เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ หนุ่มมินกยูที่มอบความสุขให้แฟนๆ ไปอย่างเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลารับพลังงานแบบบวกๆ จากแฟนๆ กลับไปบ้าง กับคลิปวิดีโอแฟนโปรเจกต์ที่เหล่าแฟนคลับจัดทำขึ้นมา เพื่อเล่าเรื่องราวความรัก ความประทับใจ ความภูมิใจที่พวกเขามีต่อหนุ่มมินกยู งานนี้บอกเลยว่ามีคนเสียน้ำตาหนักมาก โดยเฉพาะหนุ่ม “มินกยู” ที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน และพูดขอบคุณแฟนๆ ทั้งน้ำตาว่า..“ความรู้สึกของผมตอนนี้ไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยังไง มันประทับใจ ซาบซึ้งใจมากๆ ครับ ผมไม่ได้เป็นคนที่ร้องไห้เก่งขนาดนี้นะครับ แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ถ้าไม่เจอกับสถานการณ์แบบนี้ก็อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผมที่รู้สึกในตอนนี้ แต่หวังว่าผมกับแฟนๆ ทุกคน จะอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ไปด้วยกันไปนานๆ นะครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่มางานวันนี้นะครับ ทุกคนมีความสุขเหมือนผมใช่ไหมครับ เพราะทุกคนมางานวันนี้ ผมเลยได้สร้างความสุขไปพร้อมกับทุกคน (ภาษาไทย) “รักทุกคนมากๆ ครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ”ทำบรรยากาศซึ้งไปทั้งฮอลล์แล้ว หนุ่มมินกยูก็โบกมือลาแฟนๆ ของเขา ไปด้วยเพลง Suddenly ที่เขาตั้งใจมอบเป็นของขวัญสุดท้ายให้กับแฟนคลับของเขาได้กลับบ้านไปด้วยความประทับใจ ใน “Heavenly Moment” ของวันนี้ภาพ MGCONNEXT

เต็มอิ่มไปกับเสียงทรงพลัง ฟังแล้วแสงออกหู กับ 2023 CRUSH ASIA TOUR 'CRUSH HOUR' in BANGKOK

08 ส.ค. 2023

เต็มอิ่มไปกับเสียงทรงพลัง ฟังแล้วแสงออกหู กับ 2023 CRUSH ASIA TOUR 'CRUSH HOUR' in BANGKOK

มันดีมากครัช! สำหรับการกลับมาเมืองไทยในรอบ 5 ปี กับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่แฟนๆ รอคอย ของศิลปินสายอาร์แอนด์บี-ฮิพฮอพ จากประเทศเกาหลี CRUSH (ครัช) หรือ ชินฮโยซอบ (Shin Hyo-seob) ในคอนเสิร์ต 2023 CRUSH ASIA TOUR 'CRUSH HOUR' in BANGKOK ที่ถูกจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ BHIRAJ HALL ไบเทค บางนาส่งสัญญาณการเริ่มต้นเวลาปลดล็อคสกินหูทองคำ ด้วยการปรากฏตัวของเหล่านักดนตรี Band Wonderlust เรียกเสียงกรี๊ดต้อนรับจากเหล่าแฟนเพลงอย่างกึกก้องไปทั้งฮอลล์ ก่อนที่ CRUSH จะปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมใส่เอเนอร์จี้ความสนุกตั้งแต่เพลงแรกอย่าง Rush Hour ที่ปลุกให้แฟนๆ ลุกขึ้นมาโยกตามทันที ก่อนจะตะโกนทักทายว่า Bangkok! แล้วส่งต่อเวทีไปที่เพลง Hey baby และ Ibiza ที่ไม่ลืมส่งเสียงทักทายเป็นภาษาไทยด้วยประโยคยาวๆ อย่าง “สวัสดีครับ ผม CRUSH นะครับ วันนี้ผมดีใจที่ได้เจอแฟนๆ ทุกคนมากนะครับ ยินดีที่ได้เจอทุกคน วันนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ น่ารักจังตัวเล็กๆ”แค่เริ่มต้นก็ได้ใจแฟนๆ ไปเต็มๆ แต่ความดีงามระดับพรีเมี่ยมจาก CRUSH ยังไม่จบ ไปต่อด้วยเพลงจังหวะเบาๆ ฟังสบาย อย่าง 2411, NAPPA และ Sometimes ก่อนที่เขาจะทักทายแฟนเพลงชาวไทยด้วยสไตล์เขินๆ เป็นตัวเอง “ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่ 2023 CRUSH ASIA TOUR นะครับ วันนี้เป็นวันที่มีความหมายสำหรับผมมากเลยครับ เป็นเอเชียทัวร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีของผม หลังจากปี 2018 ดีใจที่ได้เจอทุกคนอีกครั้งที่กรุงเทพฯ ในรอบ 5 ปีนะครับ ผมแสดงไป 6 เพลงรวดเลย เป็นยังไงบ้างครับ (ภาษาไทย)สนุกไหมครับ? วันนี้มากันเยอะมากๆ เลย ขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ ผมอยากจะสนุกกับทุกคนไปเรื่อยๆ เหมือนกับชื่อของงานนี้ ทุกคนพร้อมจะสนุกไปด้วยกันหรือยังครับ (ภาษาไทย) ทุกคนดีมาก ขอบคุณครับ”แม้จะคุยไป เขินไป แต่ก็เรียกบรรยากาศสนุกสนานแบบเป็นกันเองจากแฟนๆ ไปแบบเต็มร้อย กำลังใจมาเต็มขนาดนี้ CRUSH ก็ขอส่งมอบเพลงเพราะมาให้ฟังกันแบบยาวๆ ฟังกันสดๆ ร้องกันสดๆ แบบที่ทำเอาความสุขของแฟนๆ ล้นออกหู ในเพลง Crush on you, Butterfly, Don't be shy, She said และ Just ก่อนจะไปต่อกันที่เพลย์ลิสต์ที่ทุกคนรอคอย กับเหล่าเพลงประกอบซีรีส์ดัง ที่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ทุกคนตกหลุมรักเสียงร้องของ CRUSH อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง LET US GO, Beautiful และ SOFA ซึ่งช่วงเวลานี้แฟนๆ ทุกคนตั้งใจฟังสุดๆ ทำเอาทั้งฮอลล์เงียบสงัด ปล่อยให้เสียงหวานๆ ของ CRUSH ทำหน้าที่ขับกล่อมทุกคนให้ดื่มด่ำไปกับเพลงที่พวกเขาตั้งใจมาฟังในวันนี้จากเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของ CRUSH บวกกับเพลงจังหวะสนุกๆ ที่มีหลากหลายสไตล์ สมกับการเป็น เค-ฮิพฮอพ และเจ้าพ่ออาร์แอนด์บี ทำเอาแฟนเพลงต่างสนุกสนาน ให้การตอบรับทั้งเสียงเชียร์ โบกมือ ร้องตาม รวมไปถึงลุกขึ้นเต้นไปกับ CRUSH ตลอดทั้งงาน จนเจ้าตัวออกปากชมว่าเพราะเอเนอร์จี้ของแฟนๆ วันนี้ ทำให้บรรยากาศดีมากๆ เมื่อเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต เขาก็ไม่ลืมขอให้ทุกคนลุกขึ้นยืน กระโดด โยกไปด้วยกัน กับลิสต์เพลงแบบจัดเต็มที่อุดมไปด้วยความเป็น CRUSH ไม่ว่าจะเป็นเพลง Stevie wonderlust, OHIO, Hug me, SKIP และ Oasisเดินทางมาถึงช่วง Encore ของคอนเสิร์ต แน่นอนว่าแฟนๆ ต่างร้องตะโกนเรียก CRUSH ออกมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับเพลง DON'T FORGET ที่แฟนๆ ก็ต้อนรับเพลงนี้ด้วยการเปิดแสงแฟลชจากโทรศัพท์กลายเป็นทะเลดาวแสนสวยงาม เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แฟนๆ ร้องตามกันอย่างเสียงดัง คัฟเวอร์เป็นแทยอนกันทั้งฮอลล์ก่อนจะโบกมือลากันไป CRUSH ก็ไม่ลืมชวนแฟนๆ ของเขาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพร้อมทำท่าประจำตัว พร้อมกล่าวขอบคุณแฟนคลับของเขาอีกครั้ง “วันนี้ทุกคนสนุกกันมากๆ ทำให้ผมมีช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ครับ ผมจะรับหาโอกาสดีๆ กลับมาเจอทุกคนอีกเร็วๆ นี้นะครับ สัญญาครับ วันนี้ขอบคุณมากๆ นะครับ”และปิดภาพค่ำคืนแห่งความสุขในวันนี้ด้วยเพลง Outside ที่แน่นอนว่าแฟนๆ ก็ลุกขึ้นโยกกันส่งท้ายความสนุก และกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่มอบพลังงานดีๆ เสียงเพลงเพราะๆ ที่ช่วยขับกล่อมจิตใจให้แฟนๆ ได้มีความสุขเพิ่มขึ้นอีก 3000%ภาพ Be Hear Now Kpop

มูฟออนยังไงไหว! เพราะหัวใจยังอยู่ธันเดอร์โดม “บีไอ” #BI_LOLTheHiddenStageinBKK ระเบิดเพอร์ฟอร์มสุดเป๊ะ สมเป็นสเตจเปิดเอเชียทัวร์

08 มี.ค. 2023

มูฟออนยังไงไหว! เพราะหัวใจยังอยู่ธันเดอร์โดม “บีไอ” #BI_LOLTheHiddenStageinBKK ระเบิดเพอร์ฟอร์มสุดเป๊ะ สมเป็นสเตจเปิดเอเชียทัวร์

ยังหาทางออกจากธันเดอร์โดมไม่เจอสักที!! ก็ “บีไอ” (B.I) หรือ “คิมฮันบิน” (KIM HAN BIN) เขาจัดหนักจัดเต็มประเดิมเอเชียทัวร์คิวแรก ณ ประเทศไทยไว้ชนิดที่ทำเอาใครๆ ก็ไม่สามารถมูฟออนได้ไวเลยจริงๆ กับโซโลคอนเสิร์ต “บีไอ 2023 เอเชีย ทัวร์ [แอล.โอ.แอล เดอะ ฮิดเดน สเตจ] อิน แบงคอก” (B.I 2023 ASIA TOUR [L.O.L THE HIDDEN STAGE] IN BANGKOK) #BI_LOLTheHiddenStageinBKK ซึ่งอัดแน่นไปด้วยโชว์คุณภาพและความสนุกยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งบรรยากาศในฮอลล์พร้อมมากกับการเริ่มต้น แสงไฟสีรุ้งจากบินบง (ชื่อเรียกแท่งไฟออฟฟิเชียลของ B.I) ส่องสว่างชัดเจนเต็มพื้นที่ คิมฮันบิน หรือ บีไอ ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับของเหล่าไอดี เพลงไวรัลระดับโกลบอล BTBT รับหน้าที่เปิดเวทีในครั้งนี้ สเต็ปการเต้นอันเลื่องลือจนเป็นที่มาของฉายา ‘พ่อหนุ่มเอวหวาน’ สร้างเรื่องกันตั้งแต่เพอร์ฟอร์แมนซ์แรกไปเลย ก่อนจะไปต่อกันด้วยเมดเลย์ซึ่งเริ่มด้วย BE I ผลงานเพลงจากการแข่งขันในรายการ Show Me The Money ที่นำเสนอตัวตนของเขา ตามด้วยเพลง ONE AND ONLY (돗대) และ WATERFALL แค่เริ่มโชว์ไปได้ไม่ถึง 15 นาทีก็ทำเอามวลความสุขอัดแน่นไปทั้งฮอลล์“What’s up Bangkok?” คิมฮันบินพักทักทายทุกคน “ครั้งนี้เป็นโซโลทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของผมเลย ถ้าจะให้พูดจริงๆ แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้ครับ สงสัยผมก็จะป็อปปูลาร์ที่เมืองไทยเหมือนกันนะเนี่ย ขอบคุณทุกคนที่เสียสละมากันในวันนี้นะครับ” พร้อมกับอนุญาตให้แฟนๆ สามารถเก็บโมเมนต์ประทับใจจากคอนเสิร์ตนี้ผ่านโทรศัพท์กันได้อย่างเต็มที่จากนั้นทุกคนโยกย้ายไปตามจังหวะเพลง Alive และ Flame แสงสีแดงที่เปรียบเหมือนลาวาของภูเขาไฟกำลังไหลไปทั่วทุกโซน บีไอ ชวนให้ไอดียืนขึ้นและกระโดดไปกับเพลง Illusion (꿈결) ได้เวลาลดอุณหภูมิความร้อนด้วยความรักในเพลง Lover ดื่มด่ำความหวานด้วยเนื้อเพลงที่ทำเอาแอบเขินกับท่อน My lover lover lover, You shot me down bang bang! ไอดีไทยรับบทที่รักแล้วหนึ่งฮันบินขอเช็กความพร้อมของไอดี “ทุกคนสนุกกันไหมครับ ผมเองก็สนุกเหมือนกันครับ เดี๋ยวเราก็จะเริ่มลุกขึ้นยืนแล้วนะครับ ไม่ได้ให้กรี๊ดนะครับให้ลุกขึ้นครับ หลังจากนี้ประมาณ 10-15 นาที ทุกคนจะเสียใจถ้านั่งอยู่นะครับ เตรียมใจรีบลุกไว้ก่อนเลยนะครับ” โดยเพลงต่อไปเป็นเพลงน่ารักๆ และสดใส ซึ่งเจ้าตัวอยากให้ทุกคนมากระโดดและเต้นไปด้วยกัน ท่าเต้นและดนตรีของเพลง GRAY (비 온 뒤 흐 림) ทำเอาคนบนสเตจอย่างคิมฮันบินกลายเป็นน้องต๋าทรงเสน่ห์ที่น่าเอ็นดู ความน่ารักรวมทั้งสกิลการเต้นอันล้นเหลือส่งต่อมายังเพลง Remember me (역겹겠지만) ใช้ความน่ารักมาเยอะแล้ว ขอเป็นฮันบินคนเท่ในเพลง Got it like that กันบ้าง เพลงนี้ไอดีเองก็ไม่พลาดที่จะร้องท่อนคอรัสไปตามๆ กัน อีกหนึ่งผลงานเพลงที่ภาคภูมิใจ ถือเป็นซิงเกิลระดับโลกที่บีไอได้ร่วมงานคอลแลบกับ Destiny Rogers และ Tyla Yawehอินโทรเพลง Daydream (긴 꿈) ดังขึ้นพร้อมฮันบินในเสื้อผ้าชุดใหม่ (ตามที่เคยสปอยล์ไว้ว่าโชว์ครั้งนี้คุณพี่สไตลิสต์จัดเต็มแน่นอน) จากนั้นเข้าช่วงแฟนเซอร์วิส ศิลปินหนุ่มคนเก่งลงจากเวทีขอไปแจกโมเมนต์ใกล้ชิดไอดีพร้อมเพลง Tangerine และ Nerd ยกให้เป็นเจ้าพ่อแห่งความใส่ใจเบอร์ต้นไปเลย สเตจกลับมาไวบ์เท่อีกครั้งด้วยเพลง STAY ก่อนจะฝากเวทีให้กับสเปเชียลเกสต์คนที่ 1 อย่าง “ไทแทน” (TYTAN) -ไทแทน ทีปประสานช่วยดูแลผู้ชมระหว่างที่เจ้าของเวทีไปพักเบรกและเปลี่ยนคอสตูม โดย ไทแทน หยิบเอาเพลง All Night (feat. Loco) และ Love Yourself มาฝาก นอกเหนือจากที่เราได้เห็นไทแทนพารุ่นพี่ฮันบินไปเล่นกีฬาบาส แอร์ฮอกกี้ และทานอาหารไทย อย่าง ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ผัดซีอิ๊ว ผัดผักบุ้งด้วยกันในวันที่บีไอเดินทางมาถึงประเทศไทย ไทแทนยังเผยด้วยว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขาเป็นเหมือนกับไอดีทุกคน นั่นก็คือตัวเขาเองก็เป็นแฟนเพลงของบีไอด้วยเหมือนกันจากนั้นเทพบุตรชุดขาวกลับมาหาไอดีด้วยสเตจ illa illa (해변) ลุคแฟชั่นสุดเซ็กซี่และสเต็ปการเต้นในเพลง Endless summer (영원한 여름) ทำให้ทุกคนไม่สามารถละสายตา ได้แต่คิดว่าคนอะไรทำไมครบเครื่องขนาดนี้ บีไอชวนกระโดดต่อด้วยเพลง Middle with you ซึ่งงานนี้ไอดีไทยก็เตรียมเซอร์ไพรส์ตอบแทนความน่ารักของเมนด้วยการแปรอักษรในเพลงนี้ โดยการเชื่อม B.I และ ID ไว้ด้วยกันผ่าน Light Box หลังจบเพลงศิลปินรับรู้ถึงความโรแมนติกของไอดีไทย จึงขอบคุณที่มอบความสวยงามให้กับโชว์นี้ด้วยการจัดหนักจัดเต็มทั้งร้องทั้งเต้น ทุกมูฟเมนต์การเคลื่อนไหวสะกดหัวใจไอดีไว้อยู่หมัดทั้งเพลง Keep me up, Numb, Nineteen (열아홉) และ COSMOS ที่ฮันบินและไอดีประสานเสียงร้องไปด้วยกันทั่วทั้งฮอลล์เดินทางมาสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ต บีไอ กลับขึ้นเวทีอีกครั้งหลังจากเหล่าไอดีตะโกนลั่นขอ ENCORE พร้อมเพลง BTBT ซึ่งรอบนี้มีเซอร์ไพรส์ระดับตกใจหนักมากกับ “ยอร์ช” (Yorch) - ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ สเปเชียลเกสต์คนที่ 2 ขึ้นมาร่วมสเตจโชว์สกิลแร็ปและแดนซ์ในเพลงนี้ด้วย หลังเพอร์ฟอร์มจบเพลง บีไอก็ได้เปิดเผยว่าตัวเขาได้เห็นคลิปวิดีโอที่ ยอร์ช คัฟเวอร์เพลง BTBT ก็เลยชวนมาร่วมสเตจนี้ด้วยกันเลย และยังได้ไปทานอาหารไทยพร้อมกันทั้งตัวเขา ยอร์ช และ ไทแทนก่อนที่ บีไอ จะกลับมาสานต่อเวทีนี้ในเพลง Then (그땐 내가) พร้อมกับกล่าวปิดท้ายด้วยว่า ขอบคุณทีมงานและแฟนคลับทุกคนที่ทำให้เกิดคอนเสิร์ตนี้ขึ้นมา โดยอำลาแฟนๆ ไปด้วย Re-Birth (다음 생) เพลงที่เป็นเหมือนสัญญาระหว่างบีไอและไอดีว่าจะกลับมาพบกันอีก ถึงตอนนี้เจ้าตัวอยากบันทึกความทรงจำร่วมกับไอดีไทย จึงชวนกันถ่ายรูปพร้อมป้ายโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ ตั้งใจเตรียมมา “한빈과 함께 보낸 시간은 아이디의 가장 소중한 시간이었다” แปลว่า “ทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้กับฮันบิน คือช่วงเวลาที่ดีสุดของไอดี” จากนั้นบีไอกล่าวขอบคุณแล้วกลับเข้าหลังเวทีไปบีไอสร้างเรื่องไว้เยอะ ไทยไอดีเลยขอสร้างเรื่องบ้าง ไม่ยอมให้ศิลปินที่รักรีบจบโชว์ไปง่ายๆ ต่างช่วยกันส่งเสียงเชียร์เรียก บีไอ จนต้องกลับขึ้นเวทีมาหากันอีกครั้ง พร้อมหอบหิ้วความสนุก 4 เพลงรวดทั้ง Flame , Illusion (꿈결), ONE AND ONLY (돗대), BE I และแน่นอนว่าพูดคำไหนคำนั้น เพลงใหม่ที่ยังไม่เคยปล่อยออกมาถูกนำมาร้องให้ไอดีไทยฟังเป็นครั้งแรก พร้อมบุกประชิดตัวไอดีทั่วทั้งฮอลล์อีกครั้ง เซอร์วิสดีแบบนี้ไม่รักยังไงไหว ปิดท้ายแบบท้ายสุดของจริงด้วยเพลง COSMOS ซึ่งบีไออดใจไม่ไหว วิ่งลงจากสเตจไปหาไอดีรอบฮอลล์เป็นครั้งที่สาม แทนคำบอกลาที่วันนี้ได้สร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันภาพ : 411entertainment

album

0
0.8
1