สถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid-19 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นช่วงเวลาวิกฤติที่หนักหนาสาหัสและสร้างความยากลำบากในชีวิตให้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่กับศิลปินคนดังอย่าง ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ ที่นอกจากผลกระทบเรื่องคอนเสิร์ตถูกยกเลิกทั้งหมดแล้ว การอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำเพลงใหม่ ไม่ได้ขึ้นเวทีเล่นดนตรีพบปะกับแฟนเพลง ก็เป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้ไฟในการเป็นศิลปินค่อยๆ ดับลงไปด้วย
โดยช่วงหนึ่งจากการสัมภาษณ์ ปาล์มมี่ ที่ EFM94 เมื่อวานนี้ พี่มี่พูดถึงผลกระทบแบบจังๆ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า เป็นช่วงที่ทำให้พี่มี่ตัดสินใจแล้วว่าจะยุติบทบาทของตัวเองในฐานะศิลปิน ไม่กลับมาเขียนเพลง ไม่กลับมาร้องเพลง และย้ายอุปกรณ์ทำเพลงทุกชิ้นที่เคยอยู่ในห้องออกไปจนเกลี้ยง เพราะมองไม่เห็นโอกาสที่จะได้กลับมาทำงานและได้พบปะกับแฟนเพลงทุกคนอีกครั้ง ซึ่งพี่มี่เล่าว่าความคิดนี้จริงจังถึงขั้นเตรียมย้ายไปใช้ชีวิตในต่างจังหวัดหรืออาจเป็นต่างประเทศ
กระทั่งทีมทำเพลงซึ่งนำโดยพี่อ๊อฟ Big Ass เข้ามาคุยถึงแพลนการทำเพลง ‘ริบบิ้นเลิฟคัลเลอร์แบล็ค’ ที่ครั้งนี้มี บิลลี่ Tilly Birds เข้ามานั่งเก้าอี้เป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งระหว่างทางสิ่งต่างๆ ที่ทีมใส่ลงไปก็เริ่มจุดประกายให้ความรู้สึกและไฟในการเป็นศิลปินถูกเติมเต็มและกลับมาคึกคักอีกครั้ง ถือว่าเป็นอีกซิงเกิลที่มีความหมายและความสำคัญ พี่มี่จึงตั้งใจทำเพลงนี้ออกมาในมู้ดที่ทุกอย่างมีแต่เรื่องสนุกๆ เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุขหลังจากผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายกันมานั่นเอง
นอกจากงานเพลงที่ฮอตฮิตสุดๆ แล้ว หนึ่งไวรัลที่เรามักได้เห็นจาก ปาล์มมี่ คือ ของขวัญตามฤดูกาลด้านหน้าเวทีที่บรรดา ‘มิตรรักปาล์มมี่’ ขยันนำมาฝากไม่มีเว้นว่าง ทั้ง มะพร้าว, พวงมาลัยขนม, ทุเรียน, ลูกตาล, ไก่ย่าง หรือแม้แต่เซ็ตเครื่องปรุงนานาชนิด ปาล์มมี่ บอกว่าของทุกชิ้นที่แฟนคลับมอบให้ ขนกลับบ้านไปด้วยเสมอ เพราะนั่นหมายถึงความรักและความห่วงใยจากแฟนๆ ที่นำมาให้ และเมื่อถูกถามว่าของขวัญชิ้นไหนที่เป็น no.1 ในใจพี่มี่ที่สุด พี่มี่บอกว่าของสิ่งนั้นคือ ‘อาหารปลา 6 สี’ ที่เคยโพสต์รูปให้ชมกันบนอินสตาแกรมนั่นเองจ้า
ภาพ : palmy.ig
