GMM GRAMMY เปิดตัว ‘PERSES’ บอยกรุ๊ปที่ชู NEW GENERATION OF POP สีสันใหม่ที่จะมาเขย่าวงการ T-POP

ENTERTAINMENT NEWS

GMM GRAMMY เปิดตัว ‘PERSES’ บอยกรุ๊ปที่ชู NEW GENERATION OF POP สีสันใหม่ที่จะมาเขย่าวงการ T-POP

28 ก.ย. 2022

THIS IS MY TIME! ในที่สุดก็ถึงเวลาของพวกเขา 5 หนุ่ม PERSES (เพอร์เซส) บอยกรุ๊ปกลุ่มแรกจาก G’NEST (จีเนส) ค่ายเพลงน้องใหม่ที่มีทีมงานเบื้องหลังในการผลิตศิลปินที่เป็น POP ICON มากมายของเมืองไทยภายใต้สังกัด GMM GRAMMY ประกอบด้วยสมาชิก 5 คนคือ JUNG หรือ จั๋ง-วิกร บูรณภิญโญ, NAY หรือ เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์, KRITTIN หรือ กฤติน-กฤติน สอสูงเนิน, PALM หรือ ปาล์ม-พีรวิชญ์ พินธะและ น้องเล็กสุด PLUGGY หรือ ปลั๊กกี้-ธรากร คำสิงห์ ศิลปินกลุ่ม NEW GENERATION OF POP ที่มาพร้อมกับซิงเกิลแรก ‘MY TIME’ ในแบบ Modern Pop และมีการเปิด Music Video ให้ชมพร้อมกันครั้งแรกทั่วโลกในงาน DEBUT STAGE ณ ลาน BLOCK I สยาม สแควร์

ซึ่งหนุ่มๆ PERSES ก็ท็อปฟอร์มกับ Stage Performance ที่ทรงพลังทั้งเสียงร้องและไลน์แดนซ์ที่ทั้งพลิ้ว แข็งแรงและดุดัน สมกับที่ผ่านการฝึกในฐานะเด็กฝึกของ GMM Academy มามากกว่า 4,000 ชั่วโมง! ประกอบกับโปรดักชั่นสุดอลังการของเวที ที่ถูกดีไซน์เป็นกล่องยักษ์ใจกลางสยาม เพื่อให้พวกเขาทั้ง 5 ทลายออกมาแสดงตัวตนผ่านเพลง และ Performance ให้ทุกคนได้ชม อีกทั้งยังเป็นการทำตามความฝันที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นศิลปินและเป็นตัวแทนของเจเนอเรชั่น

จั๋ง ในฐานะพี่ใหญ่ของวงเป็นตัวแทนแนะนำ PERSES เพิ่มว่ามีที่มาจากชื่อเทพเจ้ากรีกในตำนาน เป็นเทพแห่งการทำลายสิ่งเก่าเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือ The destroyer เลยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดเพื่อเริ่มต้นใหม่ ซึ่งตรงกับ PERSES ทั้ง 5 คนที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน กำลังค้นหาตัวตนและเรียนรู้การเติบโตของช่วงวัย โดยที่ไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบหรือกฎเกณฑ์เดิมที่เคยมี และพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดในศักยภาพของตัวเองจนสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ทุกคนได้เห็น

“ผลงานแรกของพวกเราคือเพลง ‘MY TIME’ ซิงเกิลนี้จะพูดถึงความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งถูกควบคุมบงการชีวิตให้เป็นหรือให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่วันนึงที่ความอดทนถึงขีดจำกัด เลยถึงเวลาที่ตัดสินใจเดินออกจากความ Toxic เพื่อใช้ชีวิตของตัวเอง โดยสไตล์ของเพลงจะเป็น Modern Pop ที่มีส่วนผสมดนตรีแนว Funk เป็นการทำเพลงในระบบ Song Camp คือทำงานร่วมกับทีม Jam Factory นักแต่งเพลงทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชีย ที่มีโปรไฟล์เคยทำงานให้ศิลปินชื่อดัง อย่าง Chris Brown, Pitbull, Sean Paul, NCT DREAM, NCT 127, SEVENTEEN, ENHYPEN เป็นการทำงานแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างทีมงานไทยและอินเตอร์ และที่สำคัญพวกเราได้ พี่ปณต คุณประเสริฐ วง Getsunova มาเป็น Executive Producer ให้ครับ แถมยังมี พี่ AUTTA - อัษฎกร เดชมาก มาเขียนเนื้อร้องให้เหมาะกับพวกเราอีกด้วย ขอบคุณพี่ๆ มากๆ ครับ”

“ส่วนของท่าเต้นทั้งหมดที่ทุกคนได้เห็นใน MV และโชว์ของพวกเรา ถูกออกแบบด้วยพี่ๆ ทีม Harlem Shake ที่ดูแลโดยคุณอภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง หรือ ครูเจด้า ของพวกเราครับ เป็นท่าเต้นที่แข็งแรงและแสดงให้เห็นคาแรคเตอร์ของเราทั้ง 5 คนได้ชัดมาก ขอบคุณมากครับ และขอขอบคุณพี่ๆ ทีมงานแกรมมี่ทุกคนที่มีส่วนช่วยกันสร้างผลงานที่มีคุณภาพมากๆ นี้ให้กับ PERSES เราสัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นและผลิตผลงานดีๆ มาให้ได้ชมกันอีกนะครับ” ปาล์ม และ ปลั๊กกี้ Main Dancer น้องเล็กของวงกล่าวเสริม

อีกหนึ่งความพิเศษคือ Music Video ‘MY TIME’ จะเป็นการเล่าเรื่องราวของ 5 หนุ่ม PERSES ที่ต้องการหลุดพ้นออกจากโลกที่ถูกควบคุม ด้วยการลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนและประกาศให้ทุกคนที่ถูกควบคุมในโลกนั้นรู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องก้าวออกมาเป็นตัวของตัวเอง จะเป็นการนำเสนอคาแรคเตอร์ของวงผ่านการเล่าเรื่องที่มีการเปรียบเทียบและใช้ความหมายแฝงในแต่ละซีน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง G’NEST ทีมทำงานของไทยกับทีมโปรดักชั่น FLIP EVIL จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เคยสร้างมิวสิกวิดีโอให้กับศิลปินดังมากมาย รวมถึงได้ทีมภาพจาก EUMKO หรือ EUM SANG TAE ที่เคยมีผลงานร่วมกับศิลปินเกาหลีหลายวง มาครีเอทมุมภาพเท่ๆ ให้หนุ่มๆ นับเป็นการได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานซึ่งกันและกัน โดยครั้งนี้ใช้เวลาถ่าย MV ที่ประเทศเกาหลีใต้ถึง 2 วันเต็มรวมเวลาถ่ายทำทั้งหมดกว่า 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถือเป็นผลงานที่ทุ่มเททั้งกายทั้งใจใส่กันสุดตัวจริงๆ

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู Music Video ตามไปดูกันได้ทาง Youtube : gnest_official และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ที่ @perses_official และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง

ภาพ : G’NEST

related ENTERTAINMENT NEWS

COCKTAIL เผยไทม์ไลน์การทำงาน 2 ปีต่อจากนี้ จะมีทั้งอัลบั้มใหม่ คอนเสิร์ตใหญ่ และทัวร์ 76 จังหวัด เพื่อลาแฟนเพลง

09 ก.พ. 2024

COCKTAIL เผยไทม์ไลน์การทำงาน 2 ปีต่อจากนี้ จะมีทั้งอัลบั้มใหม่ คอนเสิร์ตใหญ่ และทัวร์ 76 จังหวัด เพื่อลาแฟนเพลง

หลังจากที่วง COCKTAIL ออกมาประกาศข่าวกับแฟนเพลงว่าพวกเขาทั้ง 4 คนจะยุติบทบาทในฐานะวงดนตรีลงในปี 2568 เพื่อให้สมาชิกทั้ง โอม-ปัณฑพล ประสารราชกิจ, เชา-ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย, ปาร์ค-เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ และ ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ ได้ก้าวต่อไปในสเต็ปใหม่ ๆ ของชีวิต โดยได้เตรียมกองทุนเพื่อช่วยหล่อเลี้ยงทุกคนไม่ใช่แค่ทีมเบื้องหน้า แต่รวมไปถึงทีมเบื้องหลังที่เคยมีส่วนร่วมในการสร้างสรรผลงานของ COCKTAIL ด้วยล่าสุด COCKTAIL ได้ออกมาอัปเดตถึงไทม์ไลน์การทำงานที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2567 ว่าพวกเขาจะรับงานจ้างเพื่อแสดงคอนเสิร์ตเป็นปีสุดท้าย และในระหว่างทางก็จะมีกิจกรรมพิเศษให้แฟนเพลงได้ติดตามกันด้วย เริ่มจากเดือนพฤษภาคมนี้ จะมี ‘COCKTAIL : ข้อสอบ’ คอนเสิร์ตและมีตแอนด์กรี๊ดรูปแบบพิเศษ ที่แฟนเพลงจะได้มีส่วนร่วมด้วยการส่งคำตอบเพื่อจัด Setlist การแสดงร่วมกัน เพื่อใช้โชว์จริงที่ LIDO Connectจากนั้นในเดือนสิงหาคม COCKTAIL จะปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้ายของวง โดยจะใช้ชื่อว่า ‘YOURS EVER’ มาจากคำลงท้ายของจดหมายที่ให้ความหมายว่า ‘เป็นของเธอเสมอ’ เพื่อยืนยันความรู้สึกในใจของสมาชิกทุกคนข้ามไปสู่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 พบกับ ‘EVER LIVE’ คอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งสุดท้ายของ COCKTAIL ที่จะกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและแสนประทับใจของแฟนเพลงทุกคน ซึ่งความตั้งใจอยากจัดใหญ่สเกลสนามกีฬา ต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าวันเวลาและสถานที่จัดงานจะเป็นที่ใดและหลังจากนั้นพวกเขาจะมีเซอร์ไพรส์กับ ‘EVER TOUR’ หลังจากจบคอนเสิร์ต ‘EVER LIVE’ ที่กรุงเทพมหานคร COCKTAIL ออกทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อไปพบปะ ขอบคุณ และ กล่าวคำอำลากับแฟนเพลงและผู้ชมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะเริ่มต้นในเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม ปี 2568สำหรับใครที่อยากไปพบกับพวกเขาและเก็บประสบการณ์ร่วมกันในระยะเวลา 2 ปีที่เหลือนี้ สามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ และอัพเดทตารางงานในแต่ละเดือนได้ใน Social Media ทุกช่องทางของวง COCKTAIL ได้เลยภาพ : GeneLab

PERSES ชวน RECAP การเดินทางก่อนครบ 2 ปีเดบิวต์และเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นบอยกรุ๊ปเพอร์ฟอร์แมนซ์ปัง!

18 ก.ย. 2024

PERSES ชวน RECAP การเดินทางก่อนครบ 2 ปีเดบิวต์และเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นบอยกรุ๊ปเพอร์ฟอร์แมนซ์ปัง!

อีกเพียงไม่กี่วันก็จะครบรอบ 2 ปีการเดบิวต์ของ 5 หนุ่มวง PERSES บอยกรุ๊ปที่ฝ่ากระแสท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของ T-POP ออกมายืนโดดเด่นในแถวหน้าได้อย่างสวยงามจาก Stage Performance สุดสตรอง และไลน์เต้นที่แข็งแรงอันเป็นจุดแข็งของพวกเขา แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พวกเขาจึงอยากชวนแฟน ๆ ไป Recap การเดินทางกว่าจะมาเป็นบอยกรุ๊ฟเพอร์ฟอร์แมนซ์ปัง พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง และในโอกาสฉลองเดบิวต์ครบ 2 ปีจะมีโปรเจกต์พิเศษอะไรมาให้เหล่า PIECES (ชื่อด้อม) ได้รอติดตามกันบ้างถึงจะอยู่ในสังกัดค่ายเพลงใหญ่อย่าง G’NEST ในเครือ GMM MUSIC แต่เส้นทางของพวกเขาไม่ได้ง่าย 3 ปีกับสถานะเด็กฝึก ที่ต้องเรียนร้อง เต้น และฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นกว่า 4,000 ชั่วโมง ต้องผ่านด่านการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เพื่อความเป็นเลิศ จนแน่ใจว่าทั้ง จั๋ง-วิกร บูรณภิญโญ, เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์, กฤติน-กฤติน สอสูงเนิน, ปาล์ม-พีรวิชญ์ พินธะ และ ปลั๊กกี้-ธรากร คำสิงห์ คือ 5 เด็กฝึกที่จะทรานซ์ฟอร์มไปสู่การเป็นเมมเบอร์บอยกรุ๊ปคุณภาพ และเดบิวต์สู่วงการ T-POPและแม้จะผ่านช่วงเวลาที่เหนื่อยล้าและต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล แต่พวกเขาก็สามารถพิสูจน์ความสามารถ จนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนเพลง และค่อยๆ เก็บสกอร์ความนิยมจากแฟนเพลง สู่แฟนคลับที่เหนียวแน่นภายใต้ชื่อด้อม PIECES (พีซเซส) ที่กลายเป็นทั้งครอบครัวแฟนด้อม และเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ PERSES มีกำลังใจในการพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุดอยู่เสมอ.‘MY TIME’ คือเพลงเปิดตัวที่ประกาศบุคลิก ความขบถ ความกล้าที่จะแตกต่างของวงออกมา ตามมาด้วย ‘TOUCHDOWN (ใกล้ดาว)’ เพลงแอบรักแบบผู้ชายอบอุ่น, ‘Catch the Night’ เพลงฮีลใจให้พลังชีวิต ต่อด้วยเพลง ‘น่ารักน้อยลงหน่อย (Cuteless)’ เพลงสดใสน่ารักชวนยิ้ม เพลง ‘Beautiful’ เพลงสร้างพลังบวก จนมาถึงเพลงช้าเนื้อหาเศร้าปิดท้ายอัลบั้ม ‘คนใกล้ที่คิดไกล (Far Too Close)’ ซึ่งตลอดเส้นทางการปล่อยเพลงเราต่าง ได้เห็นการทดลองทางดนตรีของพวกเขาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่เรื่องเพลงเท่านั้น เพราะความโดดเด่นสร้างชื่อของ PERSES คือ สเต็ปความเป๊ะของเพอร์ฟอร์มแมนซ์บนเวที ที่มีการดีไซน์โชว์ใหม่ ๆ ท่าเต้นใหม่ ๆ ออกมาเสมอ ซึ่งเบื้องหลังคือความทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และเวลาฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพิ่มทักษะ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด แม้ว่าคิวงานและคิวเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยจะแน่น 7 วันต่อสัปดาห์ แต่ ทั้ง 5 คนยังคงฝึกหนักในหลักสูตรทั้ง ร้อง แรป เต้น HipHop, Jazz, Contemporary, B-Boy และอื่น ๆ ที่สถาบัน BLKGEM (สถาบันสอนศิลปินในเครือ GMM Grammy) วันละ 4 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์รวมแล้วกว่า 20 ชั่วโมงการันตีความไปสุดในเรื่องสเตจพอร์ฟอร์มแมนซ์ คือการได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการนำเสนอภาพ T-POP สู่สายตาคนทั่วโลกที่งาน Tencent Music Entertainment Awards 2024 ‘High Five. Music Drive.’ ณ กาแล็คซี่ อารีน่า มาเก๊า งาน MU:CON 2023 งานแสดงดนตรีนานาชาติกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงงาน The Golden Melody Awards Festival 2023 (GMA) งาน ROCK IN TAICHUNG 2023 ที่ไต้หวัน และงาน T-POP Showcase Tokyo 2024 ซึ่งจัดขึ้น ณ Zepp Shinjuku โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยทุกงานพวกเขาทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ และสร้างโมเมนต์สุดพิเศษน่าจดจำจนเป็นที่พูดถึง และชื่นชมของผู้ชมทั่วเอเชียและสื่อมวลชนหลากหลายเชื้อชาติเรียกว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีบนเส้นทาง T-POP PERSES ผ่านบททดสอบของศิลปินบอยกรุ๊ปมากมาย และยังคงพัฒนา เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งอย่างที่ จั๋ง วิกร กล่าวว่า “สำหรับผมความพยายามไม่เคยทรยศใครครับ พวกเรารักในสิ่งที่ทำ เเละทำมันอย่างเต็มที่ เพื่อผลลัพท์ที่ดี เพื่อความสุขของผู้ชม ซึ่งทุกความตั้งใจที่พวกเราลงมือทำ จะตอบเเทนเราเอง”ติดตามข่าวสารและร่วมเป็นกำลังใจให้กับ PERSES ได้ทาง: Youtube: gnest_official, Instagram/Twitter /TikTok: @perses_official @gnest_official , Facebook: Perses และ Gnest รอไว้ได้เลย!ภาพ : GNEST

GMM SHOW ยกทักศิลปิน 19 เบอร์ขึ้นเวที ‘เฉียงเหนือเฟส’ มันเต็มอิ่ม! สนุกสุดปัง! สนั่นเมืองขอนแก่น!

07 ก.พ. 2023

GMM SHOW ยกทักศิลปิน 19 เบอร์ขึ้นเวที ‘เฉียงเหนือเฟส’ มันเต็มอิ่ม! สนุกสุดปัง! สนั่นเมืองขอนแก่น!

ถือเป็นการเปิดประตูสู่ภาคอีสานได้สำเร็จ และได้รับกระแสตอบรับจากชาวอีสานเป็นอย่างดี สร้างประสบการณ์ทางดนตรีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สำหรับเทศกาลดนตรีใหม่และใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน Chang Music Connection presents ‘เฉียงเหนือเฟส’ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ณ บขส.3 ขอนแก่น จัดเต็มศิลปินครบทุกแนวดนตรีกว่า 19 ศิลปิน และยังมีศิลปินสายเลือดอีสานที่มาร่วมโชว์อย่าง Tattoo Colour และ ไปส่งกู บขส. ดู๊ จากจังหวัดขอนแก่น, JOEY PHUWASIT จากจังหวัดร้อยเอ็ด, Anatomy Rabbit จากจังหวัดอุดรธานี,SLAPKISS ที่มีสมาชิกในวงจากจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสกลนคร อีกด้วย‘เฉียงเหนือเฟส’ ออกสตาร์ทความม่วนตั้งแต่เวลา 12.00 น. บนพื้นที่ 100 ไร่ ต้อนรับทุกคนที่มางาน มาถึงไม่ปล่อยให้หิวเพราะภายในงานมีโซน Food truck และร้านอาหารเด็ดๆ ไว้รอให้ชาวเฉียงเหนือได้อิ่มท้องพร้อมสนุก รวมถึงยังมีร้านขายของที่ระลึก ให้แฟนๆ ม่วนบะลักกั๊กกันมากที่สุด และ Production Design -Decoration ต่างๆ ภายในงานถูกออกแบบมาเพื่อเสริมเสน่ห์ทุกความเป็นอีสานจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยทีมผู้จัด GMM SHOW ที่มีประสบการณ์การจัด Big Mountain Music Festival มาแล้ว โดยงานนี้มี 2 เวทีมาที่แรกถือเป็นเวทีใหญ่ของงาน เวทีเหนือ เมื่อมองผ่านตาครั้งแรกที่เห็นคืองานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากโครงหน้ารถบรรทุก และการแต่งไฟสุดจัดจ้านมาผสมกับกราฟฟิก ศิลปินที่ขึ้นโชว์ ไม่ว่าจะเป็น Whal Dolph, Safeplanet, Polycat, Tilly Birds, Tattoo Colour, Taitosmith ต่างขนเพลงฮิตของตัวเองมาเต็มที่ และยังมีเพลงธีมของงาน เฮาเฉียงเหนือ ที่ได้ ปอ Whal Dolph และ UrboyTJ มาฟีดเจอริ่งด้วย ยิ่งดึกความม่วนยิ่งเพิ่มจากตัวศิลปินตัวพ่ออย่าง UrboyTJ, Palmy และ Cocktail ใส่เต็มทุกเพลงแบบไม่มีลดสปีด พร้อมขยับร่างกายกับบทเพลงมันๆ จากวงขวัญใจวัยรุ่นสุดฮอต Three Man Down ที่มาเสิร์ฟเพลงฮิตซาวด์เฉียบๆ ให้ ชาวเฉียงเหนือเฟสได้สนุกกันปิดท้ายด้าน เวทีเฉียง ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของปีนี้เช่นกัน ดีไซน์เฉียงสมชื่อ เน้นความดิบๆ ของโกดังและเพิ่มลูกเล่นด้วย LIGHTING DESIGN ที่ล้อไปกับโครงสร้างทรงเฉียงของโกดัง เรียบ เท่ มีเสน่ห์ โดยได้ศิลปินที่จัดจ้านทั้งสไตล์ และดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาขึ้นเวทีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Television Off, Asia7, Mirrr, Sarah Salola, Slapkiss, Dept, Anatomy Rabbit ยิ่งเวทีนี้ได้ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นเลือดอีสานแท้ๆ อย่าง Joey Phuwasit ทำให้แฟนๆ ต่างมารอชมจนร้องตามกันอย่างสนั่นสุดเสียง ปิดท้ายด้วย ไปส่งกู บขส.ดู๊ มาฉีกกรอบทั้งเพลงและการแสดงสดแบบใหญ่และม่วนสุดๆ นอกจากนี้ภายในงาน ‘เฉียงเหนือเฟส’ ยังเปิดโอกาสให้น้องๆ นักศึกษาในภาคอีสาน มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ สะท้อนความเป็นอีสาน ความภาคภูมิใจ ผ่าน โลโก้เฉียงเฟส และ ธง หลากหลายสีสันบนผืนผ้าที่ ตกแต่งภายในงาน สร้างบรรยากาศให้น่าสนใจยิ่งขึ้นChang Music Connection presents ‘เฉียงเหนือเฟส’ งานนี้ ตั้งใจทำมาเพื่อให้เป็นมิวสิคเฟสใหม่ที่ครองใจชาวอีสาน รับรองว่าใครที่ได้มางานในครั้งนี้จะได้รับประสบการณ์ที่มีครบทุกความประทับใจแน่นอน เห็นแบบนี้แล้วปีหน้า #เฉียงเหนือเฟส2 ต้องสนุกกว่าครั้งแรก และจัดใหญ่กว่าเดิมแน่นอน ปีหน้าห้ามพลาดเด็ดขาด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB / IG / TWITTER / TIKTOK : ChiengNueaFestภาพ : GMM SHOW

SINGING BIRD #2/2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK CONCERT คอนเสิร์ตที่พาเราก้าวและเติบโตไปพร้อมกับเสียงเพลงจากพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์

14 พ.ย. 2022

SINGING BIRD #2/2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK CONCERT คอนเสิร์ตที่พาเราก้าวและเติบโตไปพร้อมกับเสียงเพลงจากพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์

สร้างปรากฏการณ์ความสุขความสนุก และความประทับใจกับบรรยากาศที่คิดถึงสมกับที่แฟนๆ รอคอยสำหรับคอนเสิร์ต SINGING BIRD #2/2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK CONCERT #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด ที่เพิ่งจัดขึ้นไปในวันที่ 11-12 และ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี โดยในคอนเสิร์ตครั้งนี้ พี่เบิร์ดได้พาแฟนเพลงทุกคนเต็มอิ่มไปกับบทเพลงระดับมาสเตอร์พีช ที่แฟนเพลงทุกคนร้องตามกันได้ทุกเพลง เพราะทุกคนมีเพลงพี่เบิร์ดเป็น Soundtrack ในแต่ละช่วงชีวิต และอีกหนึ่งความพิเศษที่พี่เบิร์ดตั้งใจมอบให้แฟนเพลงทุกคนได้รับอรรถรสทางดนตรี ได้ร่วมร้อง ได้ฟัง ได้ฟิน และ อินไปกับเพลงฮิตของพี่เบิร์ด โดยการใช้วงดนตรี SINGING BIRD SUPER BAND ซึ่งเป็นการรวมสุดยอดนักดนตรีกว่า 20 ชีวิต เพื่องานนี้โดยเฉพาะโดยมี โหน่ง-วิชญ วัฒนศัพท์ โปรดิวเซอร์ยอดฝีมือของเมืองไทยมาร่วมเป็น MUSIC DIRECTOR ของคอนเสิร์ตครั้งนี้อีกด้วย เรียกว่าฟินครบรสสนุกทุกโมเมนต์เริ่มกันที่บรรยากาศหน้างานที่เต็มไปด้วยความคึกคักของเหล่าแฟนๆ พี่เบิร์ดมากมาย ที่ต่างมาให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น และก็ถึงเวลากับซีนเปิดตัวก็ทำเอาคนดูกรี๊ดคอแทบแตกสนั่นไปทั่วฮอลล์ด้วย เพลง เสียดาย ก่อนจะไปเริ่มทักทายแฟนเพลงทุกชั้นในฮอลล์ จากนั้นอัดแน่นความสนุกกันต่อด้วยเพลงฮิต ‘ฝากฟ้าทะเลฝัน’, ‘สบาย สบาย, ‘บูมเมอแรง’, ‘พริกขี้หนู’, ‘ซ่อมได้’, ‘แฟนจ๋า’, ‘TOO MUCH SO MUCH VERY MUCH’ พร้อมเซอร์ไพร์สพิเศษในเพลง ฟ้อนทั้งน้ำตา ที่ พี่เบิร์ด เดินทักทายแฟนเพลงไปทั่วฮอลล์จากนั้นก็ถึงคิวเปิดตัวแขกรับเชิญคนแรกที่ทำเอาทั้งฮอลล์เซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน Polycat วงดนตรีคุณภาพที่มีพี่เบิร์ดเป็นต้นแบบในการเป็นนักร้อง ในเพลง ‘ขออุ้มหน่อย’ ตามด้วยเพลง ‘กำแพง’ จนแฟนเพลงกรี๊ดสนั่นด้วยเสียงอันไพเราะของทั้งคู่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว จากนั้นปล่อยเวทีให้ Polycat โชว์พลังเสียงต่อในเพลง ‘พบกันใหม่’ความสนุกมาแบบต่อเนื่องเปิดตัววง Season Five ที่ออกมาโชว์เพลงพิเศษที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคอนเสิร์ตนี้ โดยการนำชื่อเพลงฮิตของพี่เบิร์ดมาเรียงต่อกันจนเกิดเป็นเพลง ‘โตมากับเพลงพี่เบิร์ด’ กรี๊ดสนั่นอีกรอบเมื่อพี่เบิร์ดออกมาร้องเพลงคู่ Season Five ในเพลง ‘อยู่คนเดียว’ จากนั้นพี่เบิร์ดก็ได้เริ่มรันความสนุกบนเวทีกันต่อด้วยบทเพลงเศร้าๆ อย่างเพลง ‘เพลงที่ไม่มีใครฟัง’, ‘ไม่แข่งยิ่งแพ้’, ‘ถ่านไฟเก่า’ ที่ทำเอาแฟนๆ ร้องตามกันได้สนั่นกันทั้งฮอลล์ และตบท้ายด้วยเพลง ‘ใจบันดาลแรง แรงบันดาลใจ’ ที่พี่เบิร์ดส่งกำลังใจและความรู้สึกดีๆ ให้กับทุกคนในฮอลล์จากนั้นพบกับแขกรับเชิญอีกหนึ่งคนที่สร้างเสียงกรี๊ดถล่มทลาย หนุ่ม กะลา เปิดตัวด้วยเพลง ‘ทุกวันได้ไหม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงของ หนุ่ม กะลา ที่พี่เบิร์ดเคย featuring ด้วย มาถึงเพลง ‘คนไม่มีแฟน’ และ ‘เธอเป็นแฟนฉันแล้ว’ ที่พี่เบิร์ดและ หนุ่ม กะลา แลกกันร้อง พร้อมส่งมอบเวทีให้ หนุ่ม กะลา ได้โชว์ร้องเดี่ยวในเพลง ‘เหนื่อยไหม’มาถึงคิวของอีกหนึ่งแขกรับเชิญ สิงโต นำโชค เปิดตัวด้วยเพลง ‘ต้องโทษดาว’ ก่อนที่ทั้งสองจะแพ็คคู่สร้างความมันส์ ชวนคนดูลุกขึ้นเต้นขยับร่างกายแบบไม่ยั้งด้วยเมดเล่ย์แตรวงเพลง ‘คู่กัด’, ‘อย่าต่อรองหัวใจ’, ‘เงียบๆ คนเดียว’, ‘หมอกหรือควัน’ ก่อนที่จะส่งท้ายให้ สิงโต ได้ร้องเพลงฮิตของเจ้าตัวเพลง ‘อยู่ต่อเลยได้ไหม’เดินทางมาสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต บรรยากาศภายในฮอลล์ยังคึกคัก เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่อง แฟนๆ ไม่มีท่าทีว่าจะอ่อนแรงลง ไม่ได้มีเพียงแค่แฟนคลับที่พลังล้นเหลือเท่านั้นแต่เจ้าของคอนเสิร์ตก็พร้อมลุยต่อกันแบบยาวๆ ด้วยเพลง ‘ทดลองใช้’, ‘อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร….เข้าใจไหม’, ‘กลับไม่ได้ไปไม่ถึง’, ‘ก็เลิกกันแล้ว’ ต่อเนื่องแบบไม่มีพักเมื่อ สิงโต นำโชค ขึ้นบนเวทีอีกครั้งกับเพลงฮิต ‘I just wanna pen fan you dai bor ?’ ต่อด้วยซีนยิ่งใหญ่สุดประทับใจด้วยเพลง ‘มากองรวมกันตรงนี้’ ที่แขกรับเชิญทั้งหมดออกมาสร้างความสนุก ก่อนที่จะปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง ‘ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด’ เรียกได้ว่าเป็นการทิ้งท้ายคอนเสิร์ตแห่งปีที่สร้างความทรงจำอันแสนพิเศษให้กับแฟนๆ ในค่ำคืนนี้และตลอดไปตลอดระยะเวลาการแสดง 3 ชั่วโมง บรรยากาศภายในฮอลล์อบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่นและความคิดถึงที่ทั้งแฟนเพลงและ พี่เบิร์ด ส่งหากันอย่างไม่ขาดสาย ความทรงจำที่เกิดขึ้นร่วมกันในวันนี้จะเป็นสิ่งเตือนใจแฟนๆ ถึงความรักที่พี่เบิร์ดมอบให้ตลอดหลายสิบปี ไม่ได้มีเพียง พี่เบิร์ด ที่รักแฟนเพลง แต่แฟนเพลงก็รัก พี่เบิร์ด ไม่น้อยไปกว่ากันเพราะทุกคนล้วน ‘โตมากับเพลงพี่เบิร์ด’ มี พี่เบิร์ด อยู่ในทุกช่วงของชีวิต ก้าวและเติบโตไปพร้อมๆ กับชายคนนี้ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ภาพ : GMM Grammy

album

0
0.8
1