การกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่! ในเทศกาลดนตรีที่ทุกคนต่างรอคอย ‘บิ๊ก เมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 12’

ENTERTAINMENT NEWS

การกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่! ในเทศกาลดนตรีที่ทุกคนต่างรอคอย ‘บิ๊ก เมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 12’

28 ส.ค. 2022

แม้ ‘บิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล’ ไม่ได้จัดงานมา 2 ปี แต่สิ่งที่ยังไม่เคยห่างหายไปจากเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี้ ก็คือประสบการณ์และความประทับใจที่เหล่าแฟน ๆ ทั้งหลายยังคงคิดถึง และต่างรอคอยการกลับมาอีกครั้ง

ปีนี้ผู้จัดคอนเสิร์ต และมิวสิคเฟสติวัลที่มีไอเดียสุดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าลอง กล้าทำ อย่างครีเอทีฟทีม ‘GAYRAY’ พร้อมเสิร์ฟความหลากหลายของประสบการณ์ใหม่ และความสนุกหลากสไตล์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี

แถมยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ตลอด 2 วัน 2 คืน ในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บิ๊ก เมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 12 ครั้งนี้มาในธีม ‘ALL-NEW BMMF 12 มัน-ใหม่-มาก’ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 11 ธันวาคม 2565 ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

ซึ่งการกลับมาอีกครั้งของเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยครั้งนี้ ทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น

1.ประสบการณ์ใหม่ไร้ขีดจำกัด ด้วยพื้นที่จัดงานที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

2.ประสบการณ์ใหม่ที่ขอเล่นใหญ่ด้วยเวทีใหม่ และดีไซน์ใหม่ 

3.ประสบการณ์ใหม่ทางดนตรี ด้วยแนวเพลงที่หลากหลาย

4.ประสบการณ์ใหม่ในบิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล ครั้งที่ 12 ที่มากกว่าแค่ดนตรี

พร้อมเปิดจำหน่ายบัตร Early Cow ในวันที่ 1 - 2 กันยายน 2565 (บัตร 1 ใบ เข้างานได้ 2 วัน) ราคา 1,600 บาท (จากราคาปกติ 2,500 บาท) ซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ www.allticket.com สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ FB : Big Mountain Music Festival

 

ภาพ : Big Mountain Music Festival

related ENTERTAINMENT NEWS

“มิตรรักปาล์มมี่” สร้างตำนานบทใหม่ หิ้วของฝากให้ “ปาล์มมี่” ถึงกลางเวทีพีคสุด! คือทุเรียนและอ้อยที่มาเป็นลำ ๆ

05 ส.ค. 2022

“มิตรรักปาล์มมี่” สร้างตำนานบทใหม่ หิ้วของฝากให้ “ปาล์มมี่” ถึงกลางเวทีพีคสุด! คือทุเรียนและอ้อยที่มาเป็นลำ ๆ

สร้างตำนานบทใหม่อีกแล้ว สำหรับศิลปินสาวชื่อดัง “ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ” ที่ล่าสุดไปโชว์คอนเสิร์ตและได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เหล่า “มิตรรักปาล์มมี่” กันจนต้องหอบหิ้วของฝากสุดเซอร์ไพรส์มาให้กันถึงกลางเวที มีทั้งขนม , พวงขับเสมหะ , พวงพาสเตอร์ยา , ช่อดอกไม้ , ต้นไม้ , ลำไย และของฝากที่พีคที่สุด คือ ทุเรียน 1 ลูกกับอ้อยที่มาเป็นลำ ๆ โดย “ปาล์มมี่” ก็ได้โพสต์ภาพกำลังถือของฝากอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต พร้อมเขียนแคปชั่นว่า ‘สาระพัดสาระเพที่มิตรรักตั้งใจคัดสรรมาให้ ...หมอบค่ะขอบพระคุณผู้ค้ำจุนทุกท่านมากมากค่ะ’ งานนี้ทำเอาคนในวงการบันเทิงอย่าง “บุ๋ม ปนัดดา” เข้ามาร่วมคอมเมนต์ขำ ๆ ฮา ๆ ว่า ‘ให้แบบไม่มีเกรงใจเสื้อผ้า ชอบ…..5555 แฟนๆดูสนุกกับการให้ของ5555’ รวมถึงเหล่า “มิตรรักปาล์มมี่” ก็เข้ามาร่วมคอมเมนต์ว่า ‘ของยังชีพอยู่ได้เป็นเดือนเลยนะครับ , คุณมี่ทานไก่ดำมั้ย เดี๋ยวผมจะทำเปนมาลัยไปให้คับ , นี่ศิลปิน หรือ ผู้ประสบภัย’ภาพ : palmy.ig

เพื่อนรักกกกกกก!! สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ แก้เผ็ดเพื่อนคนนี้ยังไงดี? เจอหน้ากันทีไรชอบพูดว่า‘สามีเธอ เคยจีบฉันมาก่อน รู้มั๊ย?’ และชอบขิงว่า ‘ฉันไม่เลือกเค้าเอง เค้าเลยไปคบกับเธอ...’

14 ม.ค. 2023

เพื่อนรักกกกกกก!! สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ แก้เผ็ดเพื่อนคนนี้ยังไงดี? เจอหน้ากันทีไรชอบพูดว่า‘สามีเธอ เคยจีบฉันมาก่อน รู้มั๊ย?’ และชอบขิงว่า ‘ฉันไม่เลือกเค้าเอง เค้าเลยไปคบกับเธอ...’

ทำเอา 3 ดีเจถึงกับต้องด่า! เมื่อ “คุณบี (นามสมมุติ)” สายที่สามในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (11/01/2023) โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่เพื่อนชอบขิงโดย “คุณบี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘บีไปเจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยม เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แล้วเวลาคุยกันเขาก็ชอบพูดเรื่องสามีของเราที่เคยไปตามจีบเขาสมัยก่อน แบบเขาบอกว่าสามีเราเคยไปทำงานช่วยเขา เพื่อหวังที่จะเจอหน้าเขาทุกวัน และเขาก็บอกว่าเขาเป็นคนที่ไม่เลือกสามีของเราเอง สามีเลยมาตามจีบเรา เขาชอบพูดถึงเรื่องสามีเราบ่อยมาก เราฟังแล้วก็ยิ้มให้เฉยๆ ปล่อยให้เขาเล่าไป บางทีเราไม่อยากฟังก็จะพยายามพูดตัดบท เขาก็ยังเล่าเหมือนเดิมวันนั้นเรากลับบ้านไปถามสามีเลยว่า เนี่ย! เขาบอกว่าเธอไปตามจีบเขา ไปทำงานช่วยเขาหวังที่จะไปเจอเขาทุกวัน สามีเราบอกว่าไม่เคย แค่ไปทำงานช่วย หนูว่าสามีหนูไม่พูดความจริงหรอก พูดแต่ไม่เคยๆ แล้วก็โกรธ ไม่พูดกับหนูไปเลย 2 วัน สามีเรากับเพื่อนเราก็รู้จักกันแต่ไม่ได้ทักทาย เวลาที่สามีขับรถสวนกับเพื่อนคนนั้นเขาก็เฉยๆ ไม่ได้คุยกัน แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีแฟนนะ...“คุณบี (นามสมมุติ)” จึงได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่า ถ้าเราเจอเพื่อนคนนั้นพูดเรื่องอดีตของสามีเราอีก เราจะมีวิธีสวนกลับหรือแก้เผ็ดยังไงดี เอาให้เขาไม่กล้าพูดเรื่องนั้นอีกเลย...งานนี้ 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มีหลากหลายวิธีเลย วิธีแรกคือลองบอกเขาว่าจะบอกความจริงให้ฟังนะ สามีเคยบอกว่าตอนนั้นเขาก็แอบชอบแกแหละ เขาเลยไปไหว้พระ ขอให้เจอสิ่งดีๆ ให้สิ่งไม่ดีออกจากชีวิตไป สุดท้ายแกก็หายไปจากชีวิตมันเลย และก็ได้มาเจอเรา...วิธีที่สองคือถ้าเขาพูดอีกก็บอกไปว่าพอดีเพิ่งไปดูรูปเก่าของสามีมา ก็ไม่แปลกนะที่สามีจะชอบแกอ่ะ หรือถามว่าไม่มีเรื่องคนอื่นที่จะเล่าแล้วหรอ? เห็นเล่าแต่เรื่องของสามีเราเป็นพันๆรอบ แสดงว่าทั้งชีวิตแกมีแต่สามีเราไปจีบหรอ? แล้วรู้มั้ยว่ากว่าจะถึงสามีเราเนี้ย คนมาจีบเราเต็มไปหมดเลยนะ เป็น 100 คนละมั้ง แต่น้ำเสียงต้องไม่โกรธนะ พูดในเชิงปรึกษาไปเลย...วิธีสุดท้ายคือถ้าไม่อยากร้ายมาก แล้วเขาพูดกับเรามาอีกให้เราพูดกลับไปเลยว่า เธอไม่เคยได้ยินหรอ ชิ้นสุดท้ายแฟนหล่ออ่ะ!ลองดูว่าจะเอาวิธีไหนไปเลือกใช้ แต่ถ้าในความเป็นจริงคือไม่ต้องไปเดินผ่านหน้าบ้านเขา ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเขาเลย ชีวิตเขาก็น่าสงสารพออยู่แล้ว เพราะแฟนเขาก็ยังไม่มี และคุณบีก็ต้องแฮปปี้นะ เพราะคุณบีมีสามีอยู่ข้างๆอยู่แล้ว...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://youtu.be/AUJf-cppsLcรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

จัสติน บีเบอร์ ยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อฟื้นฟูสุขภาพหลังเผชิญอาการป่วย ด้านผู้จัดฯ ยืนยันโซนเอเชียยังตามกำหนดการเดิม

07 ก.ย. 2022

จัสติน บีเบอร์ ยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อฟื้นฟูสุขภาพหลังเผชิญอาการป่วย ด้านผู้จัดฯ ยืนยันโซนเอเชียยังตามกำหนดการเดิม

จัสติน บีเบอร์ ประกาศยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งเพื่อพักรักษาสุขภาพ เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคแรมซีย์ ฮันท์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) จนทำให้ใบหน้าซีกขวาเป็นอัมพาตครึ่งซีกกลับมามีอาการหลังแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศบราซิลโดย จัสติน บีเบอร์ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ‘เมื่อช่วงต้นปีผมได้เล่าเรื่องที่กำลังต่อสู้กับโรค Ramsay Hunt Syndrome ซึ่งทำให้ผมมีภาวะอัมพาตครึ่งหน้าให้ทุกคนทราบกันไปแล้ว และจากสาเหตุนี้ทำให้ผมไม่สามารถทัวร์คอนเสิร์ตในโซนอเมริกาเหนือต่อได้ หลังจากพักผ่อนและพูดคุยกับคุณหมอ ครอบครัว รวมถึงเพื่อนร่วมทีม ตลอดจนช่วงเวลาที่ไปทัวร์ในยุโรป 6 คอนเสิร์ตใหญ่ที่ผ่านมาก การแสดงเหล่านั้นสร้างความเหนื่อยล้าให้ผมมาก และในช่วงวันหยุดที่ผ่านมานี้ ผมก็เพิ่งไปแสดงอย่างสุดความสามารถต่อหน้าแฟน ๆ ชาวบราซิลมาด้วยทว่าหลังจบการแสดงความเหนื่อยล้าส่งผลต่อร่างกายผมอย่างหนัก จนผมคิดว่าผมควรใส่ใจเรื่องสุขภาพมากที่สุดในตอนนี้ ผมเลยตัดสินใจจะหยุดพักการทัวร์คอนเสิร์ตเอาไว้ก่อน ผมจะหายดีขึ้นแน่นอน เพียงแค่ต้องใช้เวลาในการพักเพื่อรักษาตัว ผมภาคภูมิใจที่จะได้แสดงและส่งต่อเรื่องดี ๆ จาก Justice World Tour ไปยังแฟนคลับทุกคน ขอบคุณสำหรับทุกคำอธิษฐานและกำลังใจที่มีให้ผมตลอดปีที่ผ่านมา ผมรักคุณทุกคนครับ”งานนี้ทำเอาเหล่าแฟน ๆ ชาวไทยก็มีข้อสงสัยว่าคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ จะถูกยกเลิกด้วยหรือไม่ กระทั่งล่าสุดทางผู้จัดคอนเสิร์ตอย่าง Live Nation Tero ได้ออกมาชี้แจงว่า “จากประกาศของ Justin Bieber ที่ได้แจ้งกับแฟน ๆ เรื่องตัดสินใจที่จะหยุดพักจากการแสดงทัวร์ Justin Bieber Justice World Tour เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ทาง AEG และผู้จัดขอแจ้งให้แฟนคลับทุกท่านทราบว่าการแสดง Justin Bieber ‘Justice World Tour’ ที่จะเกิดขึ้นในแถบเอเชียรวมถึงประเทศไทยจะยังคงดำเนินต่อไปตามกำหนดการเดิม และขอให้ Justin Bieber หายจากอาการเจ็บป่วยโดยเร็ว หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือข้อมูลอัพเดตเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”ภาพ : justinbieber

album
Goodbye

Artist: PUN

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110