“Cinematic Virtual Concert” โชว์เดือด! บนหน้าจอครั้งแรกกับ “Bomb At Track” พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ “MILLI”

ENTERTAINMENT NEWS

“Cinematic Virtual Concert” โชว์เดือด! บนหน้าจอครั้งแรกกับ “Bomb At Track” พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ “MILLI”

26 ส.ค. 2022

ถึงเวลาแล้ว! ที่ “Bomb At Track” มากระโดดเดือดจัดเต็มบนหน้าจอครั้งแรกกับ “Cinematic Virtual Concert” ที่มาในคอนเซ็ปต์ “STORY OF THE SYSTEM” โดยจะนำบทเพลงทั้ง 9 เพลงในอัลบั้ม “Bomb The System” มาร้อยเรื่องเชื่อมโยงให้เข้าใจง่ายขึ้นในรูปแบบ Cinematic จัดเต็มทั้งแสง สี เสียงแบบแน่น ๆ แถมนัยแฝงให้คนดูได้วิเคราะห์ตาม

ซึ่งสมาชิกทั้ง 5 คนจากวง “Bomb At Track” ได้แก่ ‘เต้ วงศกร (ร้องนำ)’ , ‘เมษ ภควรรษ (กีต้าร์)’ , ‘ปุ้ย ปราชญานนท์ (กีต้าร์)’ , ‘ข้น ศาสตร์ (เบส)’ , ‘นิล สิรภพ (กลอง)’ ก็ได้แสดงพลังความมุ่งมั่น ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ทุ่มความมันส์แถมแหกทุกกฎที่เคยมี นอกจากนี้ก็ยังมีแรปเปอร์สาวฮ็อตมากความสามารถอย่าง “มิลลิ ดนุภา” หรือ “MILLI” มาร่วมร้องในเพลง “เด็กเอ๋ยเด็กดี” อีกด้วย

โดย “Bomb At Track” ก็ได้เปิดเผยถึงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ว่า ‘STORY OF THE SYSTEM เป็นการทำงานที่ระเบิดกฎของอัลบั้ม Bomb The System อย่างชัดเจน เพลง ‘เสียงในหัว’ ปกติจะเล่นเป็นวง มีเพื่อน ๆ ด้วยตลอด แต่ฉาดเพลงนี้มีแค่เต้ร้องกับกล้องแค่คนเดียวเลย ส่วนเพลง ‘อะดรีนาลีน’ ก็ได้เอาวงขึ้นไปเล่นบนรถบรรทุกที่มีทั้งไลท์ติ้ง โปรดักชั่นจัดเต็ม และเพลง ‘เด็กเอ๋ยเด็กดี’ ก็มีคนเข้ามาร่วมแสดงด้วย รู้สึกว่ามันสื่อสารเข้าถึงเพลงมาก ๆ เหมือนเป็นการทะลุออกจากกรอบ ทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ ทำในสิ่งที่คิดว่าเราทำไม่ได้ แต่เราก็ต้องทำให้ได้ อย่างคอนเสิร์ตนี้ตอนแรกเรายังคุยกันเลยว่ามันจะเป็นไปได้หรอ แต่สุดท้ายเราก็ทำมันเป็นไปได้แล้ว’

ตามไประเบิดความมันส์ “STORY OF THE SYSTEM” กันแบบเต็มๆ ได้เลยที่ Youtube ช่อง genierock

 

ภาพ : genierock

related ENTERTAINMENT NEWS

ยืนยันเเล้ว โปรเเกรม “ศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก2022” รอบ 8 ทีม “นักตบสาวไทย พบ สาวตุรเคีย” วันที่ 14 กรกฏาคม 2565 เวลา 22.30 น.

08 ก.ค. 2022

ยืนยันเเล้ว โปรเเกรม “ศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก2022” รอบ 8 ทีม “นักตบสาวไทย พบ สาวตุรเคีย” วันที่ 14 กรกฏาคม 2565 เวลา 22.30 น.

เป็นความเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนว่า ก่อนหน้านี้ “ทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทย” จะพบกับทีมสาวตุรกี ในวันที่ 13 กรกฏาคมนี้ ในการเเข่งขัน “วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก2022” ที่ทีมนักตบสาวไทย สามารถสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งเเรก ล่าสุด! ฝ่ายจัดการแข่งขัน “ศึกเนชั่นส์ลีก2022” ได้เผยโปรแกรมเเข่งขันรอบ8 ทีมสุดท้ายออกมาเเล้ว โดยยืนยันวันเเละเวลาอย่างเป็นทางการ ของโปรแกรมการแข่งขันระหว่าง “ทีมนักตบสาวไทย พบกับ ทีมสาวตรุเคีย” เป็นวันที่ 14กรกฏาคมนี้ เวลา 22.30 น. ส่วนโปรแกรมการแข่งขัน“วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก2022” คู่อื่นๆ วันที่ 13 กรกฎาคมแข่งขัน 2 คู่ “ทีมชาติบราซิล” พบ “ทีมชาติญี่ปุ่น” เวลา 19.00 น. และ “ทีมชาติสหรัฐอเมริกา” พบ “ทีมชาติ เซอร์เบีย” เวลา 22.30 น. วันที่ 14 กรกฎาคม “ทีมชาติอิตาลี” พบ “ทีมชาติจีน” เวลา 19.00 น. มาร่วมส่งแรงเชียร์แรงใจให้ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปกันด้วยนะครับภาพ : volleyball.teamthai

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

19 ธ.ค. 2022

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม 2565) มีสายจาก ‘คุณโก้’ ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับการไปตั้งแคมป์นอนเต็นท์ที่ต่างจังหวัดคนเดียว ชวนให้ดีเจแนน - ดีเจ็ม - และดีเจมดดำ ได้อุทานร้องหวอไปตาม ๆ กัน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘เขย่าเต็นท์’การตั้งแคมป์นอนเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการท่องเที่ยวของบ้านเรา คุณโก้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะชมวิว ชิลไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว คุณโก้นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนเต็นท์ด้วยกันในวันธรรมดา เพราะวันหยุดจะมีคนเยอะ เมื่อได้จัดการจองและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พอถึงหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง เพื่อนคุณโก้กลับเปลี่ยนใจไม่ไปเสียอย่างนั้น คุณโก้ที่เสียดายเงินที่จ่ายไป บวกกับสถานที่นอนเต็นท์อยู่ใกล้บ้าน ห่างประมาณ 30 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเดินทางไปคนเดียวคุณโก้ไปถึงลานกางเต็นท์ในช่วงเที่ยง ลูกของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีเชื้อสายไทย-มอญ ก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอัธยาศัยดีและช่วยกางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย จนเกือบจะถึงเวลาเย็น คุณโก้ก็ออกไปกินข้าว พอใกล้ 6 โมงเย็น ก็กลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง ก็พบว่าบริเวณนั้น แทบจะไม่มีใครมากางเต็นท์นอนกันเลย ส่วนลูกเจ้าของสถานที่ก็กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณนี้ไป คุณโก้อธิบายเสริมว่า ด้านหน้าของเต็นท์จะมีลำธารเล็ก ๆ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม แม้จะมีแสงไฟอยู่บ้าง แต่ความมืดที่มากกว่าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ คุณโก้ตัดสินใจเข้าไปนอนในเต็นท์ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจกับบรรยากาศในที่แห่งนี้…ใช้เวลาไม่นานคุณโก้ก็ผล็อยหลับไป กระทั่งเวลา 2 ทุ่ม คุณโก้ตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนคนที่ตั้งใจจะมาด้วยกันนั่นเองที่โทรเข้ามา คุณโก้หัวเสียเล็กน้อยเพราะเพื่อนโทรมาจนทำให้ตื่น และบอกเพื่อนว่าที่นัดกันไว้นั้นตนมาคนเดียว คุยกันได้สักพักก็วางสายไป คุณโก้ตั้งว่าจะนอนต่อแต่ก็ไม่สำเร็จ ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของคนประมาณ 3-4 คน เหมือนกำลังหาปลาอยู่ในลำธารด้านหน้าเต็นท์ (ซึ่งความสูงของน้ำในลำธารนั้นประมาณค่อนเอว) เสียงนั้นเดินใกล้เต็นท์มากขึ้นทุกที จากนั้นก็หยุด แล้วเสียงภาษาพม่าก็เริ่มดังขึ้น คุณโก้เริ่มคิดเตลิดในหัว ถ้าเปิดออกไปแล้วเป็นคน ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อย เพราะเขามากันหลายคน แต่ถ้าเปิดไปแล้วไม่เจอใคร ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เสียงคุยยังคงดำเนินต่อไปประมาณ 10 นาทีได้ คุณโก้ที่เริ่มทนไม่ไหวก็ตัดสินใจจะเปิดเต็นท์ออกไปดู เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นคนก็คงจะชื่นใจกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เปิดเต็นท์ออกไป ภาพที่เห็นนั้นแทบไม่เชื่อสายตา!คุณโก้พบว่าข้างนอกนั้น ไม่มีใครอยู่เลย! ภาพข้างหน้าเป็นธารน้ำที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงไฟไม่กี่ดวง คุณโก้เริ่มตระหนักในใจว่ายังไงก็โดนเข้าให้แล้ว แต่ด้วยความใจกล้า จึงจะยังนอนอยู่ที่นี่ อีกสักหน่อยตัวเองคงจะหลับไปเอง แต่แล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้บริเวณรอบ ๆ เต็นท์ และก็อีกครั้ง ที่เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ คุณโก้ที่นอนหันหลังให้ฝั่งนั้นก็ต้องสั่นสะท้าน ไม่กล้าหันไปมอง จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ ย่องเดินไปต่อจนเริ่มเบาและหายไป วินาทีนั้นคุณโก้ก็โล่งใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว..อากาศข้างนอกดูเหมือนจะเย็นลง แต่คุณโก้ก็ไม่แน่ใจว่าข้างนอกมีลมแรงหรือไม่ สักพักเต็นท์ก็เริ่มเขย่าโดยอะไรบางอย่าง! คุณโก้ลุกขึ้นมานั่งชันเข่าตัวแข็งไปหมด เพราะจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี ถ้าจะกลับบ้านมันก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนได้ ครั้นจะอยู่ต่อมันก็นอนไม่หลับแล้ว คุณโก้จึงบอกกับตัวเองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก จะกลับบ้านทันที!ไม่นาน ขณะที่คุณโก้นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมบนตรงกลางเต็นท์ ใบหน้าก็มองไปที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีหน้าคนยื่นเข้ามาจากข้างนอกทั้งที่ไม่ได้เปิดเต็นท์แล้วก็เด้งกลับไปในเสี้ยววินาที! (มียื่นหน้าเข้ามา แม้จะมีผ้าเต็นท์กั้นอยู่ คล้ายกับแม่พิมพ์) จังหวะนั้นคุณโก้ก็รู้ดีว่ามันคือใบหน้าของคนแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จากที่กลัวมาก คุณโก้ก็ปลดล็อคดับเครื่องชน รีบเปิดเต็นท์ออกไปดูและตะโกนลั่นป่าถามว่า “ใครครับ! ออกมาได้มั้ย?” สุดท้ายก็ไม่มีใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมา ด้วยความที่อยู่คนเดียว จึงโทรหาเพื่อนคนเดิมแล้วเปิด Speakerphone ไว้ แต่เพื่อนบอกว่าคุยกับแฟนอยู่ คุณโก้จึงบอกว่า “กูกำลังเก็บเต็นท์กลับบ้าน มึงพูดอะไรก็ได้ แต่กูขอเก็บเต็นท์แปปนึง” (ประมาณว่าให้เพื่อนอยู่ในสายรอไว้) คุณโก้ใช้เวลาเก็บเต็นท์น้อยกว่ากางเต็นท์มาก คุณโก้เล่าเสริมว่า ขณะที่เดินกลับรถ ก็พึ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศตรงนั้น มันไม่ปลอดภัยมาก ๆ ทั้งมืด และไม่มีใคร แล้วก็บอกกับตัวเองในใจว่า “กูนอนไปได้ไงเนี่ย” จากนั้นก็รีบออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองลานกางเต็นท์นั้นอีกเลยซึ่งทางดีเจเจ็มจึงถามกลับไปว่า “ปกติแล้ว เวลาเราไปกางเต็นท์ ก็มักจะต้องบอกเจ้าที่เจ้าทาง คุณโก้ได้ทำบ้างมั้ย?” คุณโก้บอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เรามานอนคนเดียว ไม่มีเจตนาร้ายใครได้ฟังหรืออ่านเรื่อง ‘เขย่าเต็นท์’ จากคุณโก้กันแล้ว ถ้ามีแพลนจะไปนอนเต็นท์กลางป่า ก็พกเพื่อนตัวเป็น ๆ ไปด้วยสักคน ดีกว่าไปเจอเพื่อนที่อาจไม่ใช่คนจะดีกว่านะ...ติดตามความสนุกย้อนหลัง

‘เมย์ อรวรรณ (MAME)’ นักเขียนนิยาย BL ไทยคนแรก ที่จัดงานแฟนไซน์ในประเทศญี่ปุ่น

17 เม.ย. 2023

‘เมย์ อรวรรณ (MAME)’ นักเขียนนิยาย BL ไทยคนแรก ที่จัดงานแฟนไซน์ในประเทศญี่ปุ่น

ถึงวันนี้คงไม่มีแฟนนิยายวายคนไหนที่จะไม่รู้จัก "คุณเมย์ - อรวรรณ วิชญวรรณกุล" นักเขียนดังที่ใช้นามปากกาว่า "MAME" รวมถึงเป็นผู้บริหารและผู้จัดซีรีส์ของ บริษัท มี มายด์ วาย จำกัด ที่ประสบความสำเร็จกับบทบาทนักเขียนนิยายวาย Boy Love (BL) อย่างมาก จนเป็นที่รู้จักในหลายประเทศ และมีนิยายหลายเรื่องที่ถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้วทั่วโลก จากประสบการณ์และความตั้งใจทำให้ MAME เป็นนักเขียนนิยายวายไทยคนแรกที่มีโอกาสได้ไปจัดงานแฟนไซน์ไกลถึงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กับงานที่มีชื่อว่า "BEGINNING OF LOVE MAME 1st FANSIGNING IN TOKYO" เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา โดย เมย์ อรวรรณ เปิดใจถึงงานแฟนไซน์ครั้งนี้ว่า "เอาจริง ๆ ตอนแรกเลยที่รู้ว่ามีทีมออแกไนซ์สนใจจัดงานแฟนไซน์นักเขียนให้กับเมย์ ก็รู้สึกตกใจนะคะ เพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ กับเราหลังจากที่เขียนนิยายมากว่า 10 ปี แล้วยิ่งเป็นที่ต่างประเทศอีก ปลื้มเลย (หัวเราะ) ซึ่งตอนแรกที่ประกาศงานออกไป แค่มีคนมาถึงสัก 100 คน เมย์ก็ดีใจแล้ว แต่พอวันสรุปยอดคนซื้อบัตรปรากฏว่ามีคนมา 600 กว่าคนเลย ดีใจมาก (ยิ้ม) ที่มีคนมารอเจอเมย์ ชื่นชอบผลงานของเมย์ และเห็นคุณค่าในความพยายามของเมย์มากขนาดนี้ ในวันงานตื่นเต้นจนไม่กล้าไปแอบดูหน้าเวทีเลยค่ะ กลัวทำตัวไม่ถูก (หัวเราะ) ในงานนี้เมย์ได้มีโอกาสแอบเอาเบื้องหลัง Wedding Plan The Series มาเปิดให้แฟน ๆ ที่ญี่ปุ่นได้ดูก่อนใครเป็นที่แรกด้วยค่ะ เมย์อยากขอบคุณแฟน ๆ นิยายขอเมย์ทุกคนทั้งในไทยเองหรือในต่างประเทศก็ตาม ที่สนับสนุนเมย์เสมอมา ทุกกำลังใจเป็นแรงผลักดันที่สำคัญมาก ๆ ที่ทำให้เมย์ยังตั้งใจทำตามความฝันของตัวเอง จนถึงทุกวันนี้ มันทำให้เมย์อยากทำผลงาน สร้างความสุขให้กับทุกคนออกมาเรื่อย ๆ ไปอีกนาน ๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือซีรีส์ ยังไงก็ขอฝากผลงานต่าง ๆ ของเมย์ด้วยนะคะ หวังว่าผลงานทุกชิ้นของเมย์จะสร้างความสุข และรอยยิ้มให้กับทุกคนอยู่เสมอค่ะ" ภาพ Me Mind Y

“ปุ้มปุ้ย-กวินท์” ตอบชัดๆ อีกครั้ง หลังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเด็นไม่ให้คนเห็นหน้าลูก

14 ก.ค. 2022

“ปุ้มปุ้ย-กวินท์” ตอบชัดๆ อีกครั้ง หลังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเด็นไม่ให้คนเห็นหน้าลูก

สำหรับครอบครัวของ “ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา” และ “กวินท์ ดูวาล” หลังเจ้าตัวเคยออกมาบอกว่าจะไม่เปิดเผยหน้าลูกลงโซเชียล จนกว่าลูกจะตัดสินใจอนุญาตให้ลงเองได้ เป็นประเด็นที่โดนจับตามองเกี่ยวกับลูกชาย “ไซอันบลู สกาย ดูวาล” ไม่เลิกจริงๆ ถึงแม้ทั้งคู่จะเคยออกมาอธิบายแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้แฟนๆ เข้าใจผิดอยู่ตลอดเวลา ว่าทั้งคู่ไม่ให้ใครเห็นหน้าลูกบนโซเชียล รวมไปถึงไม่ให้คนที่บังเอิญเจอเวลาอยู่ข้างนอกได้เห็นหน้าของลูกชายอีกด้วยโดยล่าสุด! “ปุ้มปุ้ย-กวินท์” ได้ออกมาเปิดเผยอีกครั้ง ผ่านรายการ “แฉ” ทางช่อง “GMM25” เกี่ยวกับประเด็นการไม่เปิดเผยหน้าลูกบนโซเชียลว่า จริงๆ ก็มีรุ่นพี่ที่รู้จักหลายคู่ ไม่เปิดเผยหน้าลูกลงโซเชียล แต่พวกเขาแค่ไม่พูดออกสื่อ แต่ของ “ปุ้ย” ที่ต้องพูดเพราะเป็นบุคคลสาธารณะที่มีคนติดตาม เวลาลงอะไรมันจะกระจายไปเร็วมาก แล้วถ้าวันหนึ่งลูกเรามาดูแล้วบอกว่า “ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมตอนอ้วนเลยอ่ะ” เราลบไม่ได้แล้วนะ เลยคิดว่ารอให้เขาโตขึ้นหน่อย แล้วถามเขาว่า “รูปนี้หล่อไหม อยากให้คนอื่นเห็นไหม ม๊ามี๊ขอลงได้ไหม” ถ้าเขาบอกว่า “โอเค เขาเปิดรับ” เราก็จะเปิดหน้าลูกลงโซเชียลเอง ส่วน “กวินท์” เผยตอนท้ายอีกว่า แม้จะยังไม่ได้เปิดเผยหน้าลูกลงบนโซเชียลมากหนัก แต่ตอนนี้ “ไซอัน” ก็เริ่มมีแฟนคลับมาติดตามแล้ว

album

0
0.8
1