“มิลลิ (MILLI)” สร้างตำนาน! โชว์กระโดดเชือกกลางเวทีเทศกาลดนตรี “Head in the Clouds Festival 2022”

ENTERTAINMENT NEWS

“มิลลิ (MILLI)” สร้างตำนาน! โชว์กระโดดเชือกกลางเวทีเทศกาลดนตรี “Head in the Clouds Festival 2022”

22 ส.ค. 2022

       สร้างตำนานจนเกิดเป็นไวรัลทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับแรปเปอร์สาว “มิลลิ ดนุภา” หรือ “MILLI” ที่ไปเต้นแอโรบิกและโชว์กินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง “Coachella 2022”

       ล่าสุด “มิลลิ” ก็ได้สร้างตำนานอีกครั้ง! ด้วยการเต้นแอโรบิก พร้อมโชว์กระโดดเชือกกลางเวที และการละเล่นสมัยเด็ก ๆ ในเทศกาลดนตรีเอเชียนฮิปฮอป “Head in the Clouds Festival 2022” ซึ่งจัดโดย 88rising ในวันที่ 20 - 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ Brookside at the Rose Bowl สเตเดียมในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

       นอกจากนี้ ก่อนจะจบโชว์ “มิลลิ” ก็ได้เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือจากแฟน ๆ ด้วยการนั่งพนมมือแล้วทำตัวสั่นคล้ายอาการเข้าทรง และลงไปนอนกราบบนเวที

       ภาพ : MILLI

related ENTERTAINMENT NEWS

โมเมนต์สุดน่ารัก “ลิซ่า-มินนี่” ส่ง COFFEE TRUCK ซัพพอร์ต “ไทแทน”

29 มี.ค. 2023

โมเมนต์สุดน่ารัก “ลิซ่า-มินนี่” ส่ง COFFEE TRUCK ซัพพอร์ต “ไทแทน”

อยากเหมากาแฟทั้งหมดไปให้เธอ~ เล่นเอาโลกโซเชียลแห่ชื่นชมไปตามๆ กัน กับโมเมนต์มิตรภาพที่ ลิซ่า BLACKPINK และ มินนี่ (G)I-DLE ส่ง Coffee Truck ไปซัพพอร์ตให้ศิลปินที-ป็อปคนหนึ่งถึงกองถ่ายมิวสิกวิดีโอ! หลายคนถามไถ่เข้ามาอยากให้แจกวาร์ปกันหน่อย สำหรับหนุ่ม “ไทแทน” (TYTAN) -ไทแทน ทีปประสาน ศิลปินชายเดี่ยวหนึ่งเดียวจากค่าย“โฟร์ วัน วัน มิวสิก” (411Music)จุดเริ่มต้นมาจากอินสตาแกรมของ ไทแทน เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา รูปภาพพร้อมข้อความซึ่งเมนชั่นถึง ลิซ่า และ มินนี่ เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับ Coffee Truck ที่ส่งมาซัพพอร์ตให้ถึงกองถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลง Your Call (อยู่ที่เธอ) ซึ่งถ่ายทำกันบริเวณริมแม่น้ำฮัน จุดเช็กอินสำคัญของประเทศเกาหลีใต้ ทำเอาหลายคนสนใจใคร่รู้ว่าทั้งสามนั้นรู้จักกันด้วยหรือ? แล้วไปสนิทกันตอนไหน? ก็ไปได้เฉลยจากรายการ GET REAL S3 Ep. #27 https://youtu.be/B-bkYppOMM4 ไทแทนเล่าว่าตัวเขาเองกับลิซ่ารู้จักกันมานานแล้วประมาณ 10 ปี แล้วลิซ่าก็เป็นคนแนะนำให้รู้จักกับมินนี่ด้วย ก็เลยเริ่มสนิทกันตั้งแต่นั้นมา นับเป็นความสัมพันธ์สามพี่น้องที่น่ารักทำเอาริมแม่น้ำฮันในวันนั้นอบอุ่นกันไปทั้งกองถ่ายล่าสุด ไทแทน เพิ่งลงไอจีสตอรีอวยพรวันเกิด พี่ลิซ่า ด้วยภาพที่เคยถ่ายร่วมเฟรมกันเมื่อปี 2017 และทางต้นสังกัด 411ENT ก็เพิ่งปล่อยคลิปเบื้องหลังการทำงานของ TYTAN's 1st EP “Your Call” https://youtu.be/bJYMfxD2LM0 ที่เต็มไปด้วยความทุ่มเทของ ไทแทน แม้ว่าอากาศจะหนาวติดลบ 10 องศาก็ไม่หวั่น พกฮอตแพ็ก (hot pack หรือ ถุงร้อน) ติดตัวถึง 6 อันกันไปเลย ทั้งสายตาอารมณ์ที่สื่อสารผ่าน มิวสิกวิดีโอ หรือVISUAL POSTER เจ้าตัวตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและความน่ารักของแทกุกไลน์ก็ยังมีให้เห็นผ่านคลิปนี้เพิ่มเติม “นี่ก็คือ Coffee Truck TYTAN นะครับ เมนูมากมายเลยครับ เป็น Coffee Truck Food Support ก็อยากจะขอบคุณพี่ลิซ่ากับมินนี่นะครับที่ส่งมาให้กองถ่ายเอ็มวีของพวกเราวันนี้นะครับ อร่อยมากๆ เลยครับ แล้วก็ทำให้ทีมงานทุกคนแฮปปี้มีกำลังใจกันมากๆ เลยครับ” ไทแทนส่งข้อความขอบคุณลิซ่าและมินนี่ผ่านคลิปอีกครั้ง จากนั้นมีสปอยล์ออกมาว่า “ผมยังมีงานที่ต้องทำอยู่อีกนั่นก็คือ ซ้อมท่าเต้นของเพลง Wish Wish ดังนั้นผมต้องตั้งใจฝึกฝน หวังว่าทุกคนจะได้เห็นกันเร็วๆนี้นะครับ” เหล่าธันเดอร์ (Thunderชื่อแฟนคลับของไทแทน) เตรียมหวังหวังไปกับเพลง Wish Wish ได้เลยภาพ : 411Music

กีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์ กับคอนเสิร์ต “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก”

12 ต.ค. 2022

กีตาร์ 1 ตัวเติมเต็มหัวใจผู้ชมทั้งฮอลล์ กับคอนเสิร์ต “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก”

“2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” (2022 Sungha Jung's Music Café [MuCa] Live in Bangkok) งานของเจ้าชายฟิงเกอร์สไตล์แห่งเอเชีย “ซองฮา จอง” หรือ “จองซองฮา” (Sungha Jung / JUNG SUNG HA) หนึ่งไอดอลผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันในการหัดเล่นกีตาร์ของใครๆ หลายคนนั่นเอง!!ซองฮา อัจฉริยะนักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์กลับมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 5 ปีด้วยคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “2022 ซองฮา จอง มิวสิก คาเฟ่ [มูคา] ไลฟ์ อิน แบงคอก” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับโรงละคร เอ็ม เธียเตอร์ (M Theatre)เริ่มต้นโชว์ครั้งนี้ด้วย 2 เพลงจากผลงานล่าสุด ‘Poetry’ อัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าเขาตั้งใจรวบรวมบทเพลงต่างๆ เข้าไว้ราวกับหนังสือรวมบทกวี เปิดเวทีที่ Prologue ต่อเนื่องด้วย Yuumi's Waltz โดยเพลงนี้ ซองฮา แต่งให้กับแมวของเขาที่มีชื่อว่า ยูมี และเขาเลือกเพลงนี้มาเป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ตแทนความรู้สึกยินดีของเขาที่ได้กลับมาแสดงที่ไทยอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกว่า 5 ปี บรรยากาศบนเวทีถูกจัดให้เหมือนกับบรรยากาศอบอุ่นน่ารักในคาเฟ่ที่โอบล้อมผู้ชมเอาไว้เข้ากับชื่อของ Music Cafe [MuCa] ที่เป็นธีมคอนเสิร์ตครั้งนี้ซองฮา ได้เปิดเผยความรู้สึกว่าเขาดีใจมากที่ได้กลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้งเพราะที่นี่ก็เปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกหลังของเขา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้นมีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้เดินทางมาเมืองไทย ทั้งเรื่องของการเกณฑ์ทหารและสถานการณ์ของโควิด-19 เพื่อความพิเศษของการได้กลับมาแสดงที่ไทยในครั้งนี้เขาจึงเตรียมเพลงไว้มากมายทั้งเพลงจากอัลบั้มใหม่ เพลงคัฟเวอร์ที่แฟนๆ ชื่นชอบ โดยพาแฟนๆ เข้าสู่บทเพลงเซ็ตต่อไปซึ่งมีทั้งเพลงป็อประดับตำนาน ไปจนถึงเพลงเคป็อปยอดนิยม เริ่มต้นจากเพลง Englishman in New York ของ Sting ต่อเนื่องด้วย 2 เพลงที่ปล่อยออกมาในโปรเจ็กต์ของ MuCa ได้แก่ Loving You Girl ของ Peder Elias ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับ SHAUN (เจ้าของเพลงฮิต Way Back Home) และเพลง Don't Look Back in Anger ของ Oasis ที่ร่วมงานกับ ควอนอินฮา (ศิลปินระดับตำนานของเกาหลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพลังเสียง)ก่อนจะเรียกเสียงปรบมือจากแฟนๆ ดังกึกก้องจากเพลง Butter ของ BTS โดยกีตาร์ริสต์หนุ่มบอกว่าเป็นเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันมาก จึงอยากแสดงเพลงนี้ให้กับแฟนๆ ที่ไทยได้ฟังกันสดๆ แถมด้วยเพลง Dynamite ซึ่งเดิมไม่ได้อยู่ในลิสต์ของคอนเสิร์ตแต่เขาตั้งใจมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยเป็นเซอร์ไพรส์พิเศษ แล้วจึงปิดท้ายพาร์ตแรกด้วยเพลง The Ocean อีกหนึ่งงานจากอัลบั้มชุดใหม่ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่าส่วนตัวแล้วเขาชอบเพลงนี้มากหลังจากพักเบรก 15 นาทีในช่วงอินเตอร์มิสชั่น ซองฮา พาทุกคนเข้าสู่พาร์ตที่ 2 ด้วยการเปิดตัว โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ศิลปินรับเชิญในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่ง โต๋ ได้เล่าถึงความประทับใจว่า การได้ร่วมงานกับ ซองฮา เพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์ด้วยกันในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ารู้จักกันและกันมานานซึ่งเพลงแรกที่ทั้งคู่ได้แจมกันก็คือ Sunroof ของ Nicky Youre ที่ ซองฮา เป็นคนเลือกขึ้นมา ต่อเนื่องด้วยเพลง River Flow in You เพลงบรรเลงเปียโนขึ้นหิ้งของ Yiruma นักเปียโนชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง ซึ่ง โต๋ เลือกเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่ตัวเขาเองชื่นชอบมาก และเห็นว่า ซองฮา เองก็เคยเล่นเพลงนี้เป็นสไตล์ของเขาเอาไว้ เลยเป็นโอกาสดีที่จะเรียบเรียงเพลงนี้ขึ้นมาใหม่โดยผสมผสานเสียงเปียโนของ โต๋ เข้ากับเสียงกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ของ ซองฮา เพื่อให้เป็นครั้งแรกที่เพลงนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรี 2 ชนิดในแบบ duet กันถึงช่วงเซอร์ไพรส์ที่ ซองฮา และ โต๋ เตรียมเพลงไทยเอาไว้เป็นของขวัญพิเศษมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ เริ่มต้นด้วยเพลง เดือนเพ็ญ เพลงไทยคลาสสิกที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองแบบไทยๆ ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเครื่องดนตรีเพียงสองชิ้น คือกีตาร์และเปียโน แต่สะกดใจผู้ชมได้ทั้งฮอลล์ต่อด้วยเพลง คนไม่พิเศษ เพลงฮิตของโต๋ ปิดท้ายความทรงจำสุดพิเศษที่ 2 สุดยอดศิลปินจาก 2 ประเทศมอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยในค่ำคืนนี้ แต่เซอร์ไพรส์เพลงไทยยังไม่หมด เมื่อ ซองฮา หยิบเอาเพลง ในลิ้นชัก เพลงไทยอะคูสติกจากยุค 80 ของวง กอหญ้าก่อนจะนำเข้าสู่ผลงานเพลงใหม่ของเขาที่มีชื่อว่า Dreaming ไตเติลแทร็กจากอัลบั้มล่าสุดซึ่งแต่งขึ้นจากตัวเขาเองฝันว่าได้แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลแห่งดวงดาว บรรยากาศบนเวทีในตอนนี้จึงนำพาแฟนๆ เดินทางเข้าสู่ภาพจำลองความฝันของซองฮา ฉากหลังของท้องฟ้ายามค่ำที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องประกายเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์ในวันนี้กับบทเพลงอีกหนึ่งเซ็ตที่ถูกถ่ายทอดออกมาแบบต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยเพลงป็อปร่วมสมัยอย่าง Closer ของ The Chainsmokers ซึ่ง ซองฮา เปลี่ยนไวบ์จากต้นฉบับที่เป็นแนวอิเล็กโทรป็อปมาสู่ความเป็นอะคูสติกเต็มร้อยผ่านเสียงกีตาร์ของเขา ก่อนจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปในยุค 70 กับเพลงป็อปอมตะอย่าง Close to you ของวง The Carpenters ซึ่ง ซองฮา หยิบมาเรียบเรียงใหม่โดยใส่เทคนิคการเล่นกีตาร์ของเขาเข้าไป กลายเป็นเวอร์ชั่นที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ฟังอย่างดีงาม แสงออกหูต่อเนื่องด้วย Seventh #9 เพลงจากอัลบั้ม L’Atelier ของตัวเขาเองเท่านั้นยังไม่พอเขาได้เลือกเพลงที่เหล่ามือกีตาร์ต่างยกให้เป็นเพลงที่ยากในการเล่นอย่าง Neon ของ John Mayer มาโชว์ให้ได้ฟังกัน ซึ่งเพลงนี้เขาได้นำมาเรียบเรียงใหม่ให้ออกมาเป็นแบบฟิงเกอร์สไตล์ที่นอกจากจะคงไลน์กีตาร์ยากๆ ของต้นฉบับไว้แล้ว ยังมีไลน์เมโลดี้ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีกมาถึงเพลงสุดท้าย กีตาร์ริสต์แห่งมูคา ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมสร้างช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันในคอนเสิร์ตครั้งนี้ โดยเขาให้สัญญาว่าจะกลับมาแสดงให้ได้ชมกันอีกบ่อยๆ จากนั้นหยอดมุกเรียกรอยยิ้มว่าหลังจบเพลงนี้หากไม่มีใครร้องเรียกเขาแล้ว นั่นก็คงจะเป็นเพลงสุดท้ายจริงๆ ดังนั้นหากอยากฟังเพลงเพิ่มอีกให้ลองแกล้งๆ เรียกเขาสักหน่อยซึ่งเพลงสุดท้ายที่เขาเลือกมาปิดโชว์คือ Flaming ผลงานเพลงที่ได้รับความรักอย่างมากจากอัลบั้ม Monologue โดยทันทีที่โน้ตตัวสุดท้ายจบลงเสียงปรบมือของผู้ชมก็ดังกึกก้องขึ้นต่อเนื่องยาวนาน ส่งสัญญาณขออังกอร์จาก ซองฮา หนุ่มนักกีตาร์จึงไม่รอช้า กลับออกมาอีกครั้งพร้อมเพลง Classical Gas ที่ Tommy Emmanuel มือกีตาร์ระดับโลกผู้เป็นเหมือนฮีโร่ของเขาเคยเล่นไว้ มาเป็นเพลงส่งท้ายความทรงจำในคอนเสิร์ต 2022 Sungha Jung's Music Cafe [MuCa] live in Bangkokภาพ : JIN CORPORATION และ PICCOLO MUSIC ENTERTAINMENT

“แบคโฮ” โชว์พลังเสียงโวคัลระดับท็อป ระเบิดความหวาน คว้าใจ “โดโน่ไทย” ใน 2023 BAEKHO MINI CONCERT <BAEKHoney DAY> IN BANGKOK

07 ก.พ. 2023

“แบคโฮ” โชว์พลังเสียงโวคัลระดับท็อป ระเบิดความหวาน คว้าใจ “โดโน่ไทย” ใน 2023 BAEKHO MINI CONCERT <BAEKHoney DAY> IN BANGKOK

dOnO (โดโน่ ชื่อแฟนคลับ ) ชาวไทย ได้ต้อนรับเดือนแห่งความรักก่อนใคร กับความสุขสุดพิเศษที่หวานล้ำยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าจากเสือขาวสุดหล่อ แบคโฮ (BAEKHO) ในงาน 2023 BAEKHO MINI CONCERT BAEKHoney DAY IN BANGKOK จัดขึ้น ณ ยูเนี่ยนฮอลล์ 2 ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยผู้จัดฝีมือดีการันตีคุณภาพ D-SHOW THAILAND โดยครั้งนี้เป็นการกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ในรอบ 3 ปี ของ “แบคโฮ” ซึ่งเขาหอบความรัก ความคิดถึง ที่กักเก็บไว้ตลอด 3 ปี มาเปลี่ยนเป็นพลังงานความสุขมอบให้กับโดโน่ไทยในมินิคอนเสิร์ตครั้งนี้ พร้อมจัดเต็ม! แท็กทีมวงดนตรีแบบเต็มแบนด์ มาร้อง เล่น กันแบบสดๆ เขย่าโสตประสาทของโดโน่ไทยให้ตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคย บรรยากาศของ BAEKHoney DAY ที่เต็มไปด้วยพลังของความสุข เริ่มต้นด้วยทุ่งดอกไม้สีแดงจากแท่งไฟที่สาดแสงสีชมพูสดใส โดโน่ส่งพลังเสียงกรี๊ดดังสนั่นฮอลล์ ต้อนรับ “แบคโฮ” ขึ้นมาบนเวที กับเพลง LOVE BURN และ BAD 4 U ก่อนที่เขาจะทักทายแฟนคลับอย่างเป็นทางการ “สวัสดีครับ ต้อนรับทุกคนเข้าสู่มินิคอนเสิร์ตของผมนะครับ ”(ภาษาไทย) “สวัสดีครับ แบคโฮครับ” ดีใจที่ได้เจอกันใหม่นะครับ ทุกคนสบายดีใช่ไหมครับ” และหยอดคำหวานว่าวันนี้เขาพร้อมจะเป็นฮันนี่ของโดโน่ไทย! เช็คเอเนอจี้แฟนๆ ให้พร้อมออกเดินทางไปกับวันแสนหวานแล้ว หนุ่ม “แบคโฮ” ก็เดินหน้าจัดเต็มความสนุกต่อทันที กับเพลย์ลิสต์เพลงที่โดโน่ไทยต้องกดหัวใจให้รัวๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงจากอัลบั้ม Absolute Zero ซึ่งผลงานโซโล่เดี่ยวของเขา อย่าง No Rules , Festival in my car และ Wanna go back รวมถึงเพลงเพราะๆ อีกมากมาย อาทิ VVITH , If we, Need it, Hello และ DRIVE นาทีนี้ใครจะมีความสุขเท่า “โดโน่ไทย” ไม่มีอีกแล้ว เพราะนอกจากฟังเพลงจากเสียงหวานๆ อันทรงพลังจาก “แบคโฮ” ไปเพลินๆ แล้ว พ่อหนุ่มเสือขาวยังโชว์ฝีมือการทำกรอบรูปดอกไม้พร้อมเขียนข้อความลายมือภาษาไทย “มีความสุขมากๆนะครับ” ด้วยตัวเอง อีกทั้งของขวัญสุดพิเศษที่มอบให้กับโดโน่ที่มาร่วมงานทุกคน ได้แก่สบู่กระดาษ ของขวัญน่ารักๆ ที่จะทำให้โดโน่ไทยได้นึกถึงใบหน้าหล่อๆ ของเขาทุกครั้งที่ใช้ รวมถึงเรื่องราวที่เขาอยากพูดคุยกับแฟนๆ อีกมากมาย ทั้งความตื่นเต้นในการเตรียมอัลบั้ม Absolute Zero ความประทับใจกับอาหารไทย ความน่ารักของโดโน่ไทยที่มาแชร์โมเม้นต์ ความทรงจำระหว่างกันให้ฟัง ยิ่งทำให้บรรยากาศของ BAEKHoney DAY อันประกอบไปด้วย เพลงพราะๆ, โดโน่ไทย และแบคโฮ เต็มไปด้วยมวลแห่งความสุข แต่มาไทยในรอบ 3 ปี ทั้งที นอกจากหอบความคิดถึงมาฝากโดโน่ไทยแล้ว “แบคโฮ” ยังเตรียมของขวัญสุดพิเศษเฉพาะโดโน่ไทยมาอีกด้วย กับคัฟเวอร์เพลง “กีดกัน” จากศิลปิน Billkin ซึ่งพ่อหนุ่มเสือขาวก็ทำได้ดี ทั้งการออกเสียงภาษาไทย และการสื่ออารมณ์ จนแฟนๆ ยกนิ้วให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไปเลย! แบคโฮที่ว่าหวาน แต่บอกเลยว่า “โดโน่ไทย” หวานไม่แพ้กัน! กับโปรเจกต์ ชูสโลแกนข้อความว่า "รอยยิ้มของแบคโฮ​ คือความสุขของพวกเรา" พร้อมเปิด VCR ที่รวบรวมผลงานของแบคโฮในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบอกได้ถึงความรู้สึกภูมิใจ ความขอบคุณในตัวไอดอลของพวกเขา และพร้อมจะสนับสนุน “แบคโฮ” อยู่ตรงนี้เสมอ เป็นโปรเจกต์ที่อบอุ่น ที่หนุ่ม “แบคโฮ” ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เช่นกัน “ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมได้ทำกิจกรรมหลากหลายมากๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไม่เคยทำ เวลาจะทำอะไรผมจะเป็นคนที่ขี้กลัว แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสใหม่ๆ ผมตัดสินใจเริ่มทำเพราะว่ามีโดโน่อยู่เคียงข้างผม ผมเลยรู้สึกอุ่นใจ และมีกำลังใจมากๆ การได้ยืนอยู่บนเวทีนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด ไม่ใช่แค่บนเวทีแต่ทุกคนส่งความรัก กำลังใจให้ผมเสมอ เพราะความรักของทุกคนเลยทำให้ผมได้เป็น MC ได้ถ่ายรายการกอล์ฟ แม้จะไม่เก่งมาก แต่เพราะทุกคนก็คอยส่งเอเนอจี้ดีๆ ให้ แม้จะตื่นเต้นแต่ก็ทำให้ผมกล้าที่จะทำมากขึ้น ผมกล้าพูดว่า จะลองทำให้ดีที่สุดเพราะทุกคนเลยครับ ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ” ตอนที่เตรียมงานคอนเสิร์ตนี้ ผมอยากจะเจอทุกคนเร็วๆ แต่พอเริ่มแล้วก็ไม่อยากให้งานนี้จบลงเลย ผมรู้สึกแบบนี้เพราะผมมีความสุขมากๆ ความทรงจำดีๆ ที่เราสร้างด้วยกัน ผมจะจดจำไปอีกนานเลยครับ (ภาษาไทย) “ผมมีความสุข” หวังว่าจะมีโอกาสกลับมาหาทุกคนเร็วๆ นี้นะครับ ขอบคุณโดโน่ทุกคนมากๆ เลยครับ วันนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ ตอนแรกผมตั้งใจอยากจะมอบฮันนี่เดย์ให้ทุกคน แต่รู้สึกว่าวันนี้เป็นฮันนี่เดย์ของผมครับ หวังว่าทุกคนจะจดจำวันนี้ไปนานๆ นะครับ” และเหตุผลที่เขาตั้งใจทำงานเพราะมีโดโน่อยู่เคียงข้าง พร้อมให้กำลังใจ คอยส่งพลังงานดีๆ มาให้เสมอมา Good Boy กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นคำสัญญาที่สัมผัสถึงความรู้สึกจริงใจที่มีต่อโดโน่มากๆ เชื่อว่า “โดโน่ไทย” จะจดจำวันที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ เหล่านี้ไปอีกนาน จนกว่าจะพบกันใหม่อีกครั้งแน่นอนภาพ D.SHOW Thailand

MILLI เตรียมเสิร์ฟโชว์แบบสุดปังครั้งแรก กับ ‘THE MILLI SHOW LIVE IN BANGKOK’ 11 พฤศจิกายน เปิดขายบัตรแล้ววันนี้

14 ต.ค. 2023

MILLI เตรียมเสิร์ฟโชว์แบบสุดปังครั้งแรก กับ ‘THE MILLI SHOW LIVE IN BANGKOK’ 11 พฤศจิกายน เปิดขายบัตรแล้ววันนี้

หลังจากที่เราได้เห็นการเติบโต และฝีไม้ลายมือทางดนตรีของ Milli หรือ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แรปเปอร์สาวจิ๋วแจ๋วแห่งค่าย YUPP! ผ่านผลงานเพลงทั้งอัลบั้ม และโชว์บนเวทีเฟสติวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย ปลายปีนี้ถึงเวลาของแฟนเพลงชาวไทย ที่จะได้สัมผัสกับความสามารถและตัวตนอีกด้านองเธอแบบเต็ม ๆ ตา กับโชว์เดี่ยวแรกของ มิลลิ ในประเทศไทยกับ ‘THE MILLI SHOW LIVE IN BANGKOK’ 11 พฤศจิกายนนี้ ที่ โรงละครอักษรา คิง พาวเวอร์โดย มิลลิ ได้นิยามโชว์นี้เอาไว้แบบสั้นกระชับว่า จะเป็นการนำเสนอผ่านรูปแบบของ Stand Up Comedy ที่ผสมผสานกับงาน Meet Greet ให้แฟน ๆ ได้หัวเราะกันแบบสนุกสนาน พร้อมล้วงทุกความลับของ มิลลิ ที่เธอไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนบัตรมี 3 ราคาด้วยกันคือ บัตรชนชั้นสูง 1,599, บัตรคุณหนู 1,299 และ บัตรหนูจน 699 ซึ่งแต่ละประเภทจะมีเบเนฟิตแตกต่างกันไป ซึ่งตอนนี้เปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการแล้วผ่านช่องทาง The Concert Application และ theconcert.com ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : MILLIภาพ : Milli

album

0
0.8
1