‘5 เมมเบอร์ BNK48’ แท็กทีม ‘หยิ่น – วอร์’ จัดเต็มความสนุกกับภาพยนตร์สุดพีค ‘ผ้าผีบอก’

ENTERTAINMENT NEWS

‘5 เมมเบอร์ BNK48’ แท็กทีม ‘หยิ่น – วอร์’ จัดเต็มความสนุกกับภาพยนตร์สุดพีค ‘ผ้าผีบอก’

23 มิ.ย. 2022

iAM (ไอแอม) แตกไลน์ iAM FILMS ทุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ “ผ้าผีบอก” ชิมลางแนว comedy horror โดยได้ คุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล มาเป็นโปรดิวเซอร์และเขียนบทภาพยนตร์ ซึ่งดีไซน์เรื่องนี้เป็นการดีไซน์ที่แปลกใหม่ ใส่ใจจินตนาการ ครบรสความสนุก อีกทั้งวางคอนเซ็ปต์เนื้อเรื่ององค์ประกอบศิลปะ ผู้หญิง ความลึกลับทูตผีปีศาจ โดยภาพรวมภาพยนตร์ “ผ้าผีบอก”ไม่น่ากลัวจนเกินไป ซึ่งชูกลยุทธ์พล็อตเรื่องผูกเรื่องให้น่าสนใจด้วยเรื่องราวปมปริศนา “ผ้า” ล้านนากับล้านช้าง จินตนาการเรื่องราวเชื่อมโยง 2 ยุค สร้างสรรค์ผลงานย้อนยุคไปกว่า 1000 ปี และยุคปัจจุบัน เน้นสร้างสรรค์เสื้อผ้าให้มีเอกลักษณ์ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมภาคเหนือและภาคอิสาน

           ภาพยนตร์เรื่อง “ผ้าผีบอก” ได้นักแสดงนำหญิง 5 เมมเบอร์วง BNK48 ได้แก่ วี วีรยา จาง, โมบายล์ พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค , น้ำหนึ่ง มิลิน ดอกเทียน , ปูเป้  จิรดาภา อินทจักร”  และจีจี้  ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล”  

            ด้านนักแสดงนำฝ่ายชายได้ "หยิ่น อานันท์ ว่อง กับ วอร์  วนรัตน์ รัศมีรัตน์” คู่จิ้นฮอตระดับประเทศ ร่วมงานกับ iAM FILMS ครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีนักแสดงคุณภาพสร้างสีสันความสนุก อาทิ บอส สหรัฐ หอมแสง เป็นต้น

ในครั้งนี้ คุณอั้ม ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์ นั่งแท่นกำกับผู้ภาพยนตร์ และคุณบอย เขมราฐ นักแต่งเพลงชื่อดัง ช่วยสะบัดปากกาเขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ 2 เวอร์ชั่น คือ “หมกกบ” และ “มนต์รักจิ้งหรีด”

นอกจากนี้เพลงประกอบภาพยนตร์เวอร์ชั่น อย่างเพลง  “หมกกบ” ชมมิวสิกวิดีโอผ่าน YouTube : BNK48 และขอเพลงนี้เข้ามาได้ที่ คลื่นวิทยุ EFM94



ภาพ : iAM

related ENTERTAINMENT NEWS

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยฤกษ์แต่งสาวนอกวงการ “วิกกี้” 17 กรกฎาคมนี้

01 ก.ค. 2022

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยฤกษ์แต่งสาวนอกวงการ “วิกกี้” 17 กรกฎาคมนี้

หลังมีข่าวลือว่าพระเอกชื่อดัง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” เตรียมสละโสดจะแต่งงานกลางเดือนกรกฏาคมนี้กับสาวนอกวงการ “วิกกี้”ล่าสุด “เวียร์” ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ‘มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะแล้วเราน่าจะต้องมีครอบครัวและด้วยวัยความพร้อม จังหวะ ก็ได้คุยกันและไปดูคิว สรุปได้ฤกษ์งานแต่งวันที่ 17 กรกฏาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ดีที่สุดของปีนี้เลย ก็พยายามทำทุกอย่างให้พร้อม และรักครั้งนี้ดีที่สุดแล้ว เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องและเข้าใจกัน ส่วนเจ้าสาวก็ตื่นเต้น ตั้งใจจะจัดงานที่กรุงเทพและจัดแบบภายในครอบครัว อยากให้งานออกมาอบอุ่นที่สุด’ ภาพ : patti_nazซึ่ง “เวียร์” ก็ได้พูดถึง “วิกกี้” แฟนสาวว่า ‘เขาเป็นคนน่ารักและเพอร์เฟคทุกอย่าง ถามว่าคลั่งรักไหม ก็นิดนึงแต่เรารู้สึกว่า พอทุกอย่างลงตัวอะไรก็ดีไปหมด ตอนโดนเปิดวาร์ปเขาก็ไม่ชิน แต่ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าต้องทำยังไงต่อ วงการเราต่างกันก็เป็นห่วงเขานิดนึง เราก็ทำตัวปกติ ดูแลกันไป ส่วนเรื่องจะมีลูกเลยไหม อายุขนาดนี้ก็อยากมีลูกแล้ว และพร้อมเป็นคุณพ่อ’ EFM ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ

25 สิงหาคมนี้ แฟนๆ ‘Dean Lewis’ เตรียมปลดล็อคสกินหูทองคำ ในคอนเสิร์ต ‘Dean Lewis The Future is Bright Tour Bangkok 2023’

20 มิ.ย. 2023

25 สิงหาคมนี้ แฟนๆ ‘Dean Lewis’ เตรียมปลดล็อคสกินหูทองคำ ในคอนเสิร์ต ‘Dean Lewis The Future is Bright Tour Bangkok 2023’

‘ดีน ลูวิส’ (Dean Lewis) หนุ่มนักร้อง-นักแต่งเพลงชาวออสซี่ พร้อมแล้วที่จะโชว์เพลงเพราะให้แฟนๆ ชาวไทยได้ฟังอย่างใกล้ชิด ในคอนเสิร์ต ‘Dean Lewis The Future is Bright Tour Bangkok’ 25 สิงหาคมนี้ ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ ฮอลล์ 3ดีน ลูวิส โดดเด่นในวงการดนตรีจากซิงเกิ้ล “Waves” ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2016 การันตีด้วย 7 รางวัลแพลตตินั่ม และ “Be Alright” ซิงเกิ้ลเมื่อปี 2018 ที่อยู่อันดับ 1 บนชาร์ตในออสเตรเลียหลังจากปล่อยออกมาเพียง 4 สัปดาห์ พร้อมด้วย 11 รางวัลแพลตตินั่ม รวมถึงอีกหลายรางวัลจากสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกกว่า 7.5 พันล้านสตรีมและยอดขายรวมกว่า 3.8 ล้านอัลบั้ม นับตั้งแต่ Waves และ Be Alright พาเขากับอัลบั้มแรก “A Place We Knew” ก้าวเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์โปรดของแฟนทั่วโลก ในเดือนสิงหาคม ปี 2022 ดีน ลูวิสถือโอกาสปล่อยอัลบั้มที่ 2 อย่าง “The Hardest Love” รวม 10 เพลงป๊อปของคนอกหักซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตรักของตัวเขาเอง“Look Like Me” ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มเมื่อปลายปี 2021 มาด้วยบีทเร็ว พาคนฟังหลุดออกจากฟีลลิ่งดำดิ่งในแบบเดิมๆ ตามมาด้วย “Hurtless” ซิงเกิ้ลที่ 2 เมื่อช่วงต้นปี 2022 ซึ่งมีคนฟังทั่วโลกทะลุ 20 ล้านสตรีมก่อนที่อัลบั้มเต็มจะถูกปล่อยออกมาฟินหูกับเพลงฮิตและอีกหลายเพลงโปรดใน ‘Dean Lewis The Future is Bright Tour Bangkok 2023’ 25 สิงหาคมนี้ ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ ฮอลล์ 3 บัตรราคา 2,000 และ 2,500 บาท จำหน่ายบัตรรอบสมาชิกไลฟ์เนชั่น เทโร 26 มิถุนายนนี้ (10.00 – 22.00 น.) ทาง livenationtero.co.th จำหน่ายบัตรรอบทั่วไป 27 มิถุนายนนี้ 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก และทางเว็บไซต์ รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก livenationtero.co.thภาพ live nation tero

สับต่อไม่มีหยุด! “MILLI (มิลลิ)” ร่วมแจมอัลบั้มของ “Devine Channel” อัดแน่นศิลปินแถวหน้าของเกาหลีใต้สุดคับคั่ง!

19 ก.ค. 2022

สับต่อไม่มีหยุด! “MILLI (มิลลิ)” ร่วมแจมอัลบั้มของ “Devine Channel” อัดแน่นศิลปินแถวหน้าของเกาหลีใต้สุดคับคั่ง!

สุดปังแบบไม่มีพักอย่างแท้จริงสำหรับ “MILLI (มิลลิ)” หรือ “ดนุภา คณาธีรกุล” แร็ปเปอร์สาวจากค่าย “YUPP” ล่าสุด! ได้เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้ม “UN-OR-THO-DOX” ผลงานของทีมโปรดิวเซอร์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้อย่าง “Devine Channel (ดีไวน์ แชนเนล)” ที่อัดแน่นไปด้วยศิลปินแถวหน้าของวงการดนตรีประเทศเกาหลีใต้เลยทีเดียว แทร็กที่ “MILLI (มิลลิ)” ร่วมร้องกับอีกหนึ่งแร็ปเปอร์ฝีปากฉกาจของประเทศเกาหลีใต้ “Omega Sapien” คือเพลง “E.A.T” แทร็กลำดับที่ 7 จากอัลบั้ม “UN-OR-THO-DOX” ของ “Devine Channel (ดีไวน์ แชนเนล)” โดยเนื้อเพลงเป็นเรื่องราวสนุกๆ ที่เกี่ยวกับการกิน มาพร้อมสกิลการแร็ปภาษาอังกฤษและภาษาไทยสุดมันส์ของ “MILLI (มิลลิ)” เสริมทัพด้วย “Omega Sapien” ที่มีลีลาอย่างลงตัว ภาพ : Devine Channel “MILLI (มิลลิ)” เผยความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับ “Devine Channel” ว่า “ดีใจสุดๆ ไปเลยค่ะ เป็นเกียรติในชีวิตของหนูที่ได้ร่วมงานกับแก๊ง “Devine Channel” บอกเลยว่าอัลบั้มนี้โหดมากๆ ทั้งในเรื่องตัวเพลงและศิลปินที่มาร่วมแจม ส่วนเพลง “E.A.T” ที่ได้ร้องกับคุณ “Omega Sapien” ก็สนุกมาก ก.ไก่ล้านตัว ยังไงก็ฝากเพลงนี้ และอัลบั้ม “UN-OR-THO-DOX” ไว้ด้วยนะคะ”

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

album

0
0.8
1