อึ้งทั้งสตู! 3 ดีเจรับสายลูกสาวเครียดหนัก คุณพ่อตกเป็นเหยื่อแก๊งค์ “Romance Scammer” สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท!!

ENTERTAINMENT NEWS

อึ้งทั้งสตู! 3 ดีเจรับสายลูกสาวเครียดหนัก คุณพ่อตกเป็นเหยื่อแก๊งค์ “Romance Scammer” สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท!!

09 มิ.ย. 2022

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 มิถุนายน 2565) สายแรกของรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ เป็นสายที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ในรายการมี “ดีเจเผือก – ดีเจไตเติ้ล - ดีเจต้นหอม” คอยให้คำปรึกษา

 สายแรกเป็นสายของ “คุณเมย์” (นามสมมติ) ที่ได้โทรเข้ามาปรึกษาเรื่องราวของคุณพ่อที่กำลังตกเป็นเหยื่อของแก๊งค์ “Romance Scammer” แก๊งค์นี้จะหลอกให้เหยื่อหลงรักเพื่อหาผลประโยชน์จากความเชื่อใจของเหยื่อ โดยทำกันเป็นกระบวนการ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เริ่มจากมีหญิงสาวชาวต่างชาติรายหนึ่งแอดเฟรนด์มาในเฟซบุ๊กของคุณพ่อ

 โดย “คุณเมย์” (นามสมมติ) ได้ค้นหาโปรไฟล์จนพบว่าหญิงรายนี้ไร้ตัวตน เอกสาร รูปภาพต่างๆที่ส่งมาให้คุณพ่อดูก็เป็นของปลอมทั้งหมด และที่พีคที่สุดคือคุณพ่อหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปให้เป็นเงินจำนวนหลักแสนหลายครั้ง จนถึงปัจจุบันนี้มียอดรวมกว่า 4 ล้านบาทแล้ว!

สำหรับวิธีการของแก๊งค์ “Romance Scammer” จะออกอุบายว่าจะส่งของมาให้คุณพ่อ แต่จะมีค่าขนส่ง ของที่จะส่งมาให้นั้น เป็นกระเป๋าเดินทางที่ข้างในใส่เงินไว้ ซึ่งแก๊งค์ “Romance Scammer” นี้ มีทั้งหมด 3 คน ประกอบไปด้วย 1. หญิงสาวที่เข้ามาคุย 2. คนที่อ้างตัวว่ามาจากกรมศุลกากร และ 3. ทนายความ ทาง “คุณเมย์” (นามสมมติ) ยอมรับในรายการว่า แชทที่ปรากฏ ทุกคนทำงานอย่างมืออาชีพ ขนาดคุณพ่อซึ่งเคยทำงานธนาคาร ยังหลงเชื่อได้ หลังจากนั้นลูก ๆ ทุกคนได้พยายามเตือนและหาหลักฐานมาให้คุณพ่อดูแล้วว่าเป็นของปลอม แต่ก็ไม่ได้ผล

จนกระทั่ง “คุณเมย์” (นามสมมติ) ได้ทำข้อตกลงกับคุณพ่อว่า ถ้าไม่มีกระเป๋าเงินส่งมาให้ต้องไปแจ้งความนะ สุดท้ายก็ไม่มีของมาส่งจริงๆ ทางคุณพ่อเลยต้องยอมเข้าแจ้งความและเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ พร้อมแนบหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงแต่ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนที่ “คุณเมย์” (นามสมมติ) จะโทรเข้ามาในรายการ คุณพ่อก็ได้โอนเงินเพิ่มไปอีกจำนวนหนึ่งแสนบาททำให้ “คุณเมย์” (นามสมมติ) เองก็ยังไม่เข้าใจในตัวคุณพ่อมาถึงทุกวันนี้ว่าทั้งๆที่มีหลักฐานหมดแล้ว แต่ทำไมคุณพ่อก็ยังโอนเงินไปอีก

จน “คุณเมย์” (นามสมมติ) ไม่รู้จะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร จึงได้โทรมาปรึกษาในรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ ของ EFM94 เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนได้ติดตามชมเพื่อเป็นอุทาหรณ์และระมัดระวังไว้รับมือกับมิจฉาชีพในยุคนี้ ชมรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ แบบเต็มๆ ได้ที่


และรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00 – 23.00 น.

#พุธทอล์คพุธโทร #ดีเจเผือก #ดีเจต้นหอม #ดีเจไตเติ้ล #แฉข่าวเช้า #EFM94

related ENTERTAINMENT NEWS

“เจนนี่ BLACKPINK” สู่บทบาทใหม่ในซีรีส์ “The Idol”

20 ก.ค. 2022

“เจนนี่ BLACKPINK” สู่บทบาทใหม่ในซีรีส์ “The Idol”

เรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮากันเลยทีเดียว เมื่อ “เจนนี่ BLACKPINK” ศิลปินไอดอลสาวชื่อดังจากเกาหลีใต้ ได้ปรากฏตัวในทีเซอร์ซีรีส์เรื่อง “The Idol” เพียงเสี๊ยววินาที แต่กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาภาพ : HBO, jennierubyjaneงานนี้ทำเอาแฟนๆ ตื่นเต้นที่จะได้เห็น “เจนนี่” ในบทบาทใหม่ๆ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ทราบว่า เธอจะมีซีนมากน้อยแค่ไหนในซีรีส์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าเธอเป็นศิลปินเกาหลีใต้คนแรก ที่ได้เดบิวต์เล่นซีรีส์ฮอลลีวูดโดย “เจนนี่” ได้เปิดเผยถึงการรับงานซีรีส์ครั้งนี้ว่า “ทันทีที่ฉันได้อ่านบทฉันก็รู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์มาก เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละฉากเต็มไปด้วยความท้าทาย ฉันเลยอยากที่จะมีส่วนร่วมกับซีรีส์เรื่องนี้ทันที ฉันตื่นเต้นมากและจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งก็หวังว่าทุกคนจะให้การต้อนรับซีรีส์เรื่องนี้อย่างอบอุ่นด้วย”สำหรับซีรีส์เรื่อง “The Idol” ของ HBO ยังได้ศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ “The Weeknd” มาร่วมแสดงและนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย รวมถึงยังมีนักแสดง ศิลปินระดับโลกอย่าง “ลิลี่-โรส เดปป์” (ลูกสาวของ “จอห์นนี่ เดปป์”), “ทรอย ซีวาน”, “ซูแซนนา ซอน”, “สตีฟ ซีสซิส”, “เด็บบี้ ไรอัน” และ “เรเชล เซนน็อตต์” มาร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย

เกินต้าน! นักตบสาวไทยพ่าย นักตบสาวญี่ปุ่น 3 - 0 เซต (25-22, 25-16, 25-14) ศึกเนชั่นส์ลีก 2022

17 มิ.ย. 2022

เกินต้าน! นักตบสาวไทยพ่าย นักตบสาวญี่ปุ่น 3 - 0 เซต (25-22, 25-16, 25-14) ศึกเนชั่นส์ลีก 2022

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2022 สัปดาห์สอง ที่สมาร์ต อราเนต้า โคลีเซียม เมืองเกซอนซิตี้ ประเทศฟิลิปปินส์ วันนี้ (ศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565) เป็นการแข่งขันนัดที่ 3 ของนักตบสาวไทย เจองานหิน โคจรมาพบกับจ่าฝูงไร้พ่าย ทีมนักตบสาวญี่ปุ่น ที่มีฟอร์มระดับเทพ ยังไม่เคยปราชัยให้กับทีมใดเลยในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ ออกสตาร์ทเซตแรก เป็นไปอย่างสูสี ก่อนที่สาวญี่ปุ่นจะเฉือนชนะทีมสาวไทยไปด้วยคะแนน 25-22 เซตที่ 2 ทีมสาวไทยพยามแก้เกม แต่ก็ยังคงพ่ายให้กับความแข็งแกร่งของสาวญี่ปุ่นไปด้วยคะแนน 25-16 เชตที่ 3 เซต สาวญี่ปุ่นยังคงร้อนแรง รุกหนักเดินหน้าตบเก็บคะแนนอย่างต่อเนื่อง ชนะไป 25-14 จบการแข่งขัน ทีมชาติญี่ปุ่น ชนะ ทีมชาติไทย 3-0 เซต ด้วยคะแนน 25-22, 25-16 และ 25-14 สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 2 พบกับ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ทีมอันดับ 1 ของโลก มารวมใจส่งแรงเชียร์ทีมชาติไทยให้ดังไกลไปถึงสนาม ในวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2565 เวลา 13:45 น. ผ่านการถ่ายทอดสด ทางช่อง #one31ภาพ : volleyball.teamthai

‘เจฟ ซาเตอร์’ จัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทยกับ ‘JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK’

24 มี.ค. 2023

‘เจฟ ซาเตอร์’ จัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทยกับ ‘JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK’

ผ่านไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในโมเมนต์หูเคลือบทองของแฟนเพลง สำหรับ JEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ ที่ ‘เจฟ ซาเตอร์’ มาพร้อมกับเพอร์ฟอร์มานซ์จัดเต็ม ที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงตัวตนและความสามารถทางด้านดนตรี ของเจฟอย่างแท้จริงบรรยากาศหน้างานเต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับ (คุณวันเสาร์) ที่รอเข้างาน พร้อมด้วยเจ้ามาสคอตดาวเสาร์สุดน่ารักที่แฟน ๆ ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะ เริ่มด้วย 3 เพลงแรกที่อยู่ในสังกัด Wayfer Records ภายใต้ Warner Music Thailand อย่าง Highway, ทำไมมันยาก (Complicated) และ แค่เงา (Hide) ก่อนจะทักทายเหล่าคุณวันเสาร์สั้น ๆ แล้วไปมันส์กันต่อ กับเพลงใหม่ล่าสุด Dum Dum ที่เพิ่งปล่อยมาเพียงแค่ 3 วันก่อนคอนเสิร์ต และแสดงสดที่นี่เป็นที่แรก ตามมาด้วย Steal The Show ผลงานร่วมกับศิลปินเกาหลี SHAUN ที่มาพร้อมกับโชว์สุดอลังการสร้างเสียงกรี๊ดได้สนั่นฮอลล์และในคอนเสิร์ตครั้งนี้เจฟไม่ได้มาแค่คนเดียว ยังชวนอีก 2 แขกรับเชิญที่คาดไม่ถึงว่าจะมาร่วมโชว์กับเจฟในคอนเสิร์ตครั้งนี้ นั่นก็คือ โจอี้ ภูวศิษฐ์ และ มิลลิ ดนุภา โดยเจฟและโจอี้ได้ร่วมกันร้องเพลงฮิตอย่างนะหน้าทอง พร้อมกับการประชันฝีมือโซโล่พิณของ 2 หนุ่มที่หาดูไม่ได้ที่ไหนแน่นอน รวมถึงเพลงสุดใจ ที่ทั้งคู่ได้โชว์สกิลล์เสียง จนผู้ชมขนลุกกันไปทั้งฮอลล์เมื่อถึงคิวของสาวมิลลิ ทั้งฮอลล์ก็ส่งเสียงดังลั่นต้อนรับ มาพร้อมกับเพลง Weekend และ โลกคู่ขนาน (Isekai) ที่มิลลิตั้งใจเลือกเพลงขึ้นมาเพื่อโชว์สกิลล์การร้องเพลงแบบอื่น ที่นอกเหนือจากสกิลล์การเป็นแร็พเปอร์ของมิลลิที่เราคุ้นชินและที่พลาดไม่ได้กับเพลงที่แฟน ๆ ชาวไทยตั้งตารออย่าง Hype Boy ที่เจฟได้ไปโชว์ลีลาการเต้นสุดน่ารักไว้ในโชว์หลาย ๆ ประเทศก่อนหน้านี้ ซึ่งเจฟได้เต้นจัดเต็มพร้อมกับทีมแดนเซอร์ที่มาสร้างความสดใสไปทั้งเวทีและมาถึงจุดเซอร์ไพรส์ของโชว์ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ เจฟ ซาเตอร์ มายาวนาน จะต้องฟินไปกับซิงเกิ้ลสุดฮิตในตำนาน ไม่กล้าบอกชัด ที่หนุ่มเจฟนำกลับมามาร้องในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้แฟน ๆ ที่ติดตามเจฟมาตลอดระยะเวลา 10 ปีของการเดินทาง และเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นศิลปินมากความสามารถอย่างแท้จริงJEFF SATUR LIVE ON SATURN : FIRST SOLO CONCERT IN BANGKOK เป็นอีกหนึ่งโชว์คุณภาพที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 'เจฟ ซาเตอร์' ศิลปินไทยคนนี้พร้อมที่จะแสดงความสามารถในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลก และตั้งตารอคอยจะได้เห็นเจฟ ซาเตอร์ ขึ้นคอนเสิร์ต โชว์เพอร์ฟอร์มานซ์หูเคลือบทองให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอีกสักครั้ง!ภาพ: Warner Music Thailand

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

album

0
0.8
1