จองอู สมาชิกวง NCT 127 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น

ENTERTAINMENT NEWS

จองอู สมาชิกวง NCT 127 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น

01 มิ.ย. 2022

    SM Entertainment ต้นสังกัด NCT แจ้งผลการตรวจ RT-PCR ของสมาชิกวง NCT 127 พบว่า ‘คิม จองอู (Kim Jung-woo (김정우)) หรือ จองอู’ พบเชื้อโควิด-19 หลังจากกลับจากทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

       โดยทางต้นสังกัดเผยว่า สมาชิกทุกคนต้องได้รับการตรวจ RT-PCR ตามมาตรการก่อนเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผลการตรวจของ ‘จองอู’ ก่อนเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น มีผลการตรวจโควิด-19 ออกมาเป็น ‘ลบ (ไม่พบเชื้อ)’ และได้ทำการตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงประเทศเกาหลีใต้ โดยผลออกมาเป็น ‘บวก (พบเชื้อ)’ ล่าสุด! ยังไม่แสดงอาการใดๆ ที่น่าเป็นห่วง

โดยทาง “จองอู” ได้มีการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งหมด 3 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำการแยกกักตัว และได้ให้หยุดกิจกรรมและงานต่างๆ ทันที

ส่วนทางต้นสังกัดยังไม่มีการประกาศงานหรือทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกจากนี้สมาชิกคนอื่นใน NCT 127 ที่ได้รับการตรวจ RT-PCR มีผลการตรวจออกมาเป็น ‘ลบ (ไม่พบเชื้อ)’ 

 ภาพ : nct127

ขอบคุณข้อมูล : Soompi

related ENTERTAINMENT NEWS

‘PERSES (เพอร์เซส)’ ดาเมจแรงแบบตะโกน! ชาวโซเชียลแห่ส่องรูปแชร์คลิป 5 หนุ่มศิลปินบอยกรุ๊ปเบอร์ล่าสุดจากแกรมมี่

20 ก.ย. 2022

‘PERSES (เพอร์เซส)’ ดาเมจแรงแบบตะโกน! ชาวโซเชียลแห่ส่องรูปแชร์คลิป 5 หนุ่มศิลปินบอยกรุ๊ปเบอร์ล่าสุดจากแกรมมี่

ใจเหลวไปหมดกับดาเมจที่พุ่งแรงมากของ 5 หนุ่ม “PERSES (เพอร์เซส)” บอยกรุ๊ปจากค่าย G’NEST (จี’เนส) ภายใต้สังกัด GMM Grammy (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่)ที่แค่ปล่อยคลิปทีเซอร์เปิดตัวออกมาไม่กี่ชั่วโมง ก็สร้างเสียงฮือฮาจากชาวโซเชียลจนเป็นที่อื้ออึงในโลกออนไลน์ว่า “นี่วงนายแบบชัดๆ” ทำให้แฮชแท็ก #PERSES #เพอร์เซส รันขึ้นหน้าฟีดไม่หยุดแถมศิลปินรุ่นพี่ อย่าง ปณต คุณประเสริฐ หรือ นต Getsunova ยังโพสต์คลิปลงอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมข้อความว่า “ขอฝาก gang น้องๆ ผมไว้ด้วยครับ THEY ARE PERSES” ทำเอาโดนตกไปตามๆ กันแต่ก่อนที่จะถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับซิงเกิลแรก My Time บน Debut Stage (เดบิวต์ สเตจ) ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ใครอยากรู้จักทั้ง 5 หนุ่มมากขึ้น สามารถตามไปส่องโปรไฟล์ของทุกคนได้ที่ @perses_official และโซเชียลมีเดียของพวกเขาทุกช่องทาง เตรียมปักหมุดรอชมความสามารถ พร้อมปักเมนได้แล้วเร็วๆ นี้ภาพ : perses_official

ปิดตำนานร้องเพลง 7 คำ “ตั๊กแตน ชลดา” ก้มกราบ “พี่เอ ศุภชัย” เซอร์ไพรส์ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้

02 ส.ค. 2022

ปิดตำนานร้องเพลง 7 คำ “ตั๊กแตน ชลดา” ก้มกราบ “พี่เอ ศุภชัย” เซอร์ไพรส์ซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้

เป็นโมเมนต์สุดประทับใจ ที่ทำเอาแฟนเพลงและ “ตั๊กแตน ชลดา” ถึงกับน้ำตาไหล เมื่อ “พี่เอ ศุภชัย” เซอร์ไพรส์กลางไลฟ์ ในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่าน ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดจากค่ายแกรมมี่มาให้ “ตั๊กแตน” หลังจากที่เจ้าตัวไม่สามารถร้องเพลงที่สร้างชื่อให้ตัวเองได้ เพราะติดเรื่องลิขสิทธิ์โดยทาง “ตั๊กแตน ชลดา” ได้เผยคลิปวินาทีสุดเซอร์ไพรส์ด้วยใบหน้าที่เตรียมเปี่ยมไปทั้งน้ำตาแห่งความสุข ซึ่งในคลิปทางด้าน “พี่เอ ศุภชัย” ได้กล่าวว่า “ทางบ้านคะ ต่อไปนี้ ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ไม่ต้องร้องเพลงแค่ 7 คำแล้วนะคะ พี่เอไปซื้อลิขสิทธิ์เพลงทุกเพลงให้ลูกหมดแล้ว ให้ลูกนะ ลูกรับเอาไว้ลูก แม่ให้ลูกจริงๆ ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องร้องแค่ 7 คำแล้วลูกเอ๋ย ลูกร้องเป็นพันคำ แสนคำ ได้เลยนะ เราจะได้มาเปิดผ้าม่านกั้นด้วยกันนะลูกแกรมมี่เขาก็น่ารักมาก เขาให้แม่เอามาให้ลูก ลูกต้องรักเขาด้วย ต้องรักกันนะลูก เอฟซีลูกจะได้ดูลูกแล้ว วันนี้เรามีความสุขกัน ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นแล้ว ลูกรับเอาไปนะ เรามาเปิดผ้าม่านพร้อมกันนะทุกคน ตอนนี้ลูกร้องได้แล้วอ่านสัญญาเลย ทุกอย่างเป็นของเราแล้ว ลูกร้องได้หมดเลย ร้องได้ทุกที่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ลูกเห็นไหม ทุกอย่างเขาให้เราหมดแล้ว ความสุขของลูก ก็คือความสุขของแม่นะ”จากนั้น “ตั๊กแตน ชลดา” ก็กล่าว “ขอบคุณ” พร้อมก้มกราบที่หน้าตักของ “พี่เอ ศุภชัย” ทั้งน้ำตา ด้าน “พี่เอ ศุภชัย” ก็กล่าวต่อว่า “ไม่เป็นไรลูก มันเล็กน้อยมาก สิ่งที่ลูกขอบคุณแม่ แม่ขอให้ลูกร้องเพลงให้กับแฟนเพลงของลูกทุกคน และก็ร้องให้แม่ได้ฟัง เหมือนวันนั้นที่ลูกจะไปร้องให้พ่อฟัง แต่ก็ร้องไม่ได้เพราะเป็นลิขสิทธิ์ แต่วันนี้แม่ซื้อมาให้แล้ว วันนี้แม่ขอร้องเพลงเปิดผ้าม่านพร้อมกันนะลูก”ภาพ : takkatan_chollada

“หลวงตาไหนโยม? วัดนี้ไม่มีหลวงตานะ..” กุฏิชวนหลอน ร่างหลวงตาหายวับไปกับตา !

13 ธ.ค. 2022

“หลวงตาไหนโยม? วัดนี้ไม่มีหลวงตานะ..” กุฏิชวนหลอน ร่างหลวงตาหายวับไปกับตา !

สายแรกของรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 ธันวาคม 2565) เป็นสายจาก ‘คุณต้น’ ที่ได้แชร์ประสบการณ์หลอนของรุ่นพี่ที่รู้จัก มีชื่อเรื่องว่า ‘กุฏิหลอน’ เรื่องราวจะหลอนชวนขนหัวลุกขนาดไหน เชิญสัมผัสได้ข้างล่างนี้เลย..คุณต้นบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 8-9 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องของรุ่นพี่เอ (นามสมมติ) เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ซึ่งพี่เอนั้นเรียนทางด้านจิตรกรรม พอเรียนจบ ก็รับงานวาดรูปตามผนังในโบสถ์วัดต่าง ๆ อยู่มาวันหนึ่งก็มีคนติดต่อให้ไปวาดรูปผนังโบสถ์ที่วัดแห่งนี้ให้ เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงวันที่พี่เอ จะต้องเดินทางไปวาดรูปที่วัดเมื่อมาถึง พี่เอก็ได้ติดต่อกับหลวงพี่รูปหนึ่ง จากนั้นก็เข้าไปดูสถานที่ รวมถึงรับบรีฟเพื่อให้เข้าใจตรงกันจนเสร็จเรียบร้อย หลวงพี่ก็พาพี่เอไปห้องพัก (คุณต้นเล่าเพิ่มเติมว่า ถ้าพี่เอรับงานวาดรูปที่วัดไหน พี่เอก็จะนอนอยู่ที่วัดเลย) เมื่อไปถึงห้องพัก ซึ่งเป็นกุฏิที่ว่างอยู่ ไม่มีใครใช้ พี่เอที่รับงานและมักจะนอนที่วัดบ่อย ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร บวกกับไม่ใช่คนขี้กลัว จึงจะนอนที่วัดและนำของที่เตรียมมาไปวางไว้ในกุฏิอย่างเช่นที่เคยทำวันแรกของการทำงานเริ่มขึ้นและดำเนินไปอย่างปกติ ช่วงเที่ยงหลังเวลาเพลของพระ ขณะที่พี่เอกำลังวาดรูปอยู่นั้น ก็มีหลวงตารูปหนึ่งเดินมาเรียก “โยม ๆ มากินข้าวก่อนมั้ย?” เมื่อเห็นว่าหลวงตาเอ่ยปาก พี่เอจึงละจากงานที่ทำอยู่ไปกินข้าวตามที่หลวงตาบอก หลังจากเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาทำงานต่อจนถึงเย็นแล้วก็กลับห้องเพื่อพักผ่อนคุณต้นอธิบายลักษณะของกุฏิหรือห้องพักเพิ่มเติมว่า ข้างในก็เป็นกุฏิธรรมดาทั่วไป แต่ตรงกลางห้อง จะมีม่านกั้นอยู่ ทำให้ห้องนั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทางพี่เอเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงเป็นถ้วยจานชาม หรือเป็นของที่ไม่ค่อยได้ใช้ คล้ายกับเป็นห้องเก็บของก็เป็นได้ เมื่อไม่ได้คิดอะไร และไม่มีอะไรน่าสงสัยจึงไม่ได้ลองเปิดดู พี่เอก็นอนหลับพักผ่อน ผ่านคืนนั้นไป...เช้าวันต่อมา พี่เอยังคงทำงานปกติ จนกระทั่งคืนนี้ ขณะที่พี่เอกำลังนอนอยู่ ก็ได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วดังขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มดังก้องกังวานไปทั่วห้อง พี่เอพยายามไม่คิดอะไร และเข้าใจว่าเราอยู่ในวัด ก็คงจะพระสวดมนต์ หรือใครสักคนเปิดเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมาเป็นธรรมดา ผ่านไปสักพัก ขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ ก็มีกลิ่นธูปลอยมาแตะที่จมูก พี่เอที่มองโลกในแง่ดีแบบสุด ๆ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ จากนั้นก็ผล็อยหลับไปเช้าวันที่ 3 นับได้ว่าเป็นครึ่งทางของการทำงานแล้ว (ตกลงกันว่างานจะแล้วเสร็จภายใน 5-6 วัน) ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ประมาณ 6 โมง พี่เอจึงลองเดินสำรวจรอบ ๆ วัดว่ามีอะไรบ้าง หลังจากสำรวจจนพอใจก็จะเดินกลับไปยังห้องพัก เมื่อใกล้ถึงห้องพักก็ได้ยินเสียงคนเรียก หันไปตามเสียงก็เห็นเป็นหลวงตาแก่ ๆ รูปหนึ่ง เดินเข้ามาคุยด้วย เป็นคำถามทั่วไปที่ดูเหมือนเป็นการทำความรู้จักกัน เช่น “โยมมาทำอะไร?” ระหว่างที่คุยกับหลวงตา พี่เอก็รู้สึกได้กลิ่นธูปลอยมาจากตัวหลวงตารูปนี้อยู่ตลอดเวลา จังหวะที่คุยกับหลวงตาอยู่นั้น หลวงพี่ที่จัดหาห้องพักให้ก็เปิดกุฏิของท่านออกมา แล้วก็ถามว่า “อ้าวโยม ทำอะไร ยังไม่เข้ากุฏิไปพักอีกหรอ?” พี่เอจึงตอบหลวงพี่ไปว่า “อ๋อ คุยกับหลวงตาอยู่ครับ เดี๋ยวแปปนึง” จังหวะที่หันไปตอบหลวงพี่ แล้วหันกลับมา หลวงตารูปนั้นก็หายไป ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว! พี่เอคิดในใจว่าทำไมท่านเดินไปเร็วจัง จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ และพยายามทำตัวตามปกติ แต่สายตาของหลวงพี่ได้มองไปข้างหลังของพี่เอ จากนั้นจึงบอกว่า “รีบเข้านอนได้แล้ว” และกลับเข้ากุฏิของตัวเองไปกลางดึกคืนนั้น พี่เอรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา แต่ห้องน้ำนั้นอยู่ไกลต้องเดินออกไปนอกห้องพัก จึงพยายามข่มตาให้หลับ สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินไปเดินมาอยู่รอบ ๆ มุ้งที่พี่เอนอนอยู่ พอมองออกไปก็เห็นเป็นเงาคนเดินอยู่จริง ๆ จึงเปิดมุ้งออกมาดู ก็เห็นเป็นร่างนึง ยืนอยู่ตรงมุมประตู เป็นชุดจีวรสีเหลืองห่มอยู่ พี่เอจึงพยายามจะเดินไปใกล้ ๆ แล้วร่างนั้นก็หายวับไปกับตา! พี่เอตกใจจึงรีบวิ่งเข้ามาในมุ้ง จากที่ตอนแรกไม่กลัว ตอนนี้พี่เอรู้สึกกลัวมาก ๆ อาการอยากเข้าห้องน้ำก็หายไปหมด และเกิดคำถามว่า “ใครอ่ะ มันคืออะไร?” พี่เอพยายามสงบสติอารมณ์และกลั้นใจนอนต่อไป ไม่นานก็มีเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมาจากฝั่งที่เป็นผ้าม่านกั้นอยู่ คราวนี้เป็นกลิ่นสาปเหมือนหนูตายลอยมา พี่เอลืมตาและตามหากลิ่น จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างร่วงตกลงสู่พื้น! ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าคนเดินรอบ ๆ มุ้งของพี่เออีกครั้ง พี่เอจึงเริ่มสวดมนต์เพื่อให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์นี้ หลังจากนั้นฝีเท้าก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหัวนอนที่พี่เอนอน แล้วกลิ่นก็หายไป พี่เอที่ไม่รู้จะทำยังไง สวดมนต์เสร็จก็หลับไป ราวกับว่าภาพมันตัดไปเองปกติแล้วทุกเช้า พี่เอจะตื่นออกไปช่วยหลวงพี่ตอนบินฑบาตร แต่เช้านี้ยังไม่เห็นพี่เอตื่น หลวงพี่จึงมาเคาะเรียกที่กุฏิห้องพัก พี่เอได้เล่าเรื่องที่เจอให้หลวงพี่ฟัง หลวงพี่ก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อถึงวันสุดท้ายของการทำงาน พี่เอเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ก็บอกหลวงพี่ว่าเห็นหลวงตารูปหนึ่ง อยากจะไปกราบลาท่าน หลวงพี่ก็ถามว่า “หลวงตาไหน?” พี่เอก็อธิบายลักษณะของหลวงตา เมื่อหลวงพี่ได้ยินก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “ถ้าอย่างนั้น โยมตามมานี่” หลวงพี่พาพี่เอกลับมายังกุฏิห้องที่พี่เอพัก แล้วก็เปิดม่านที่กั้นอยู่ สิ่งที่เห็นคือร่างของพระรูปหนึ่งนอนอยู่ในโลงแก้ว!พี่เอเห็นดังนั้นจึงตกใจ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะจำได้แม่นว่าลักษณะเหมือนกันกับหลวงตาที่เดินเข้ามาคุยและที่เจอในคืนนั้นเลย มองข้าง ๆ ก็จะมีรูปตั้งอยู่ นั่นยิ่งตอกย้ำกับพี่เอเลยว่าใช่ ใช่แน่ ๆ เมื่อตั้งสติได้ พี่เอก็กราบลาหลวงพี่และหลวงตา จากนั้นก็กลับบ้านไป...ชมไลฟ์สดย้อนหลัง

“ลิซ่า BLACKPINK - พัคโบกอม - วี BTS” บินลัดฟ้าสู่ปารีส ร่วมงานแฟชั่นโชว์ CELINE

24 มิ.ย. 2022

“ลิซ่า BLACKPINK - พัคโบกอม - วี BTS” บินลัดฟ้าสู่ปารีส ร่วมงานแฟชั่นโชว์ CELINE

“ลิซ่า BLACKPINK” บินลัดฟ้าสู่ปารีส ประเทศฝรั่งเศษ เพื่อไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ CELINE Men’s Summer 2023 ในฐานะ Global Brand Ambassador คนแรกและคนเดียวของแบรนด์ “Celine” นอกจากนี้ยังมีพระเอกชื่อดัง “พัคโบกอม” และ “คิมแทฮยอง” หรือ “วี BTS” เดินทางไปร่วมงานในฐานะแขกคนสำคัญอีกด้วย โดยทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปปารีสพร้อมกันด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว แต่ที่แฟน ๆ ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก คือ แฟชั่นการแต่งตัวในการเดินทางของทั้ง 3 คน ซึ่ง “ลิซ่า” มาในลุคสุดเท่แต่แอบปนความน่ารักด้วยเสื้อฮู้ดเอวลอยสีเทากับกางเกงหนังขายาวสีดำ ส่วน “วี BTS” มาด้วยเสื้อนอกผ้าพลิ้วพิมพ์ลายเสือดาวกับกางเกงขากระดิ่ง ทางด้าน“พัคโบกอม” มาด้วยแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลกับเสื้อยืดสีขาว และกางเกงยีนส์สีอ่อน งานนี้เหล่าแฟนคลับเกาหลีก็ได้ไปร่วมส่งทั้ง 3 คนกันถึงสนามบิน “Seoul Gimpo (SGBAC)” ส่วนแฟนคลับชาวไทยพร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #LisaAimeParis จนพุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 กันเลยทีเดียว ภาพ : dispatch

album

0
0.8
1