ด้านแฟชั่นก็โดดเด่นไม่แพ้โชว์ พีพี เปิดตัวด้วยชุดสีแดงสะดุดตาจากแบรนด์ Ludovic de Saint Sernin ที่คัสตอมขึ้นใหม่ทั้งหมด ตามด้วยชุดที่สองจากแบรนด์ ARTEMISI คอลเลกชัน Into the High ใช้คริสตัลปักมือกว่า 70,000 เม็ด ส่องประกายระยิบระยับทั่วฮอลล์ ก่อนปิดท้ายด้วยลุคจากแบรนด์ระดับโอต์กูตูร์ Schiaparelli จากลุค 43 คอลเลกชัน FW25 เรียกเสียงกรี๊ดทุกครั้งที่เปลี่ยนชุดอย่างสมศักดิ์ศรีแฟชั่นไอคอนยุคใหม่
ทันทีที่ พีพี ปรากฏตัว เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มทั้งฮอลล์ก่อนเปิดความสนุกด้วยเพลงฮิต เสนอตัว, Oopsy Daisy, Diamonds สร้างพลังงานสุดคึกคัก ก่อนพาเข้าสู่ช่วงเพลงความหมายลึกซึ้งอย่าง It’s Okay Not To Be Alright, ห่มผ้า, เส้นเรื่องเดิม ต่อด้วย VTR โฉมใหม่ธีม Cowboy และการไล่ระดับความมันด้วยเพลง Mr. Everything, รักแรกพบ, ยิ่งดุยิ่งชอบ ไปจนถึงโชว์สุดว้าวในเพลง On The Ground
ไฮไลต์ที่สร้างความประทับใจทั่วฮอลล์ คือช่วงที่ พีพี โหนสลิงบินไปหาแฟน ๆ รอบอารีนาในเพลง We Found Love ยกระดับมาตรฐานคอนเสิร์ตศิลปินไทยในต่างประเทศขึ้นอีกขั้น ก่อนที่ฮอลล์ยังถูกเปลี่ยนให้เป็นรันเวย์ในเพลง MOONLIT FLOOR ที่แมชอัปกับเพลง ลังเล อย่างลงตัว ก่อนเข้าสู่ช่วงเพลงฮิตอย่าง โคตรพิเศษ, ขอโทษละกัน, ใจหล่น, What’s going on ตามด้วยช่วงแดนซ์จัดหนักที่แฟน ๆ รอคอย พีพี ระเบิดสกิลแบบไม่มีกั๊กในเพลง ตื่น, Crazy In Love, Houdini, Milkshake และซิงเกิลดัง Fire Boy ที่ทำเวทีลุกเป็นไฟ
คอนเสิร์ตปิดท้ายด้วยโมเมนต์อบอุ่นจากเพลงความหมายดีอย่าง หรูเหอ, I’ll Do It How You Like It, ลังเล พร้อมการเดินทักทายแฟน ๆ รอบฮอลล์ท่ามกลางแสงไฟสีม่วงจากแท่งไฟที่สดสวย เป็นภาพความประทับใจที่ยังอบอวลแม้โชว์จะจบลงแล้ว