คิตตี้ คริสติน่า และ เอส กันตพงศ์ ยุติความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แต่ยังเดินหน้าทำหน้าที่พ่อแม่ร่วมกันอย่างเต็มที่

ENTERTAINMENT NEWS

คิตตี้ คริสติน่า และ เอส กันตพงศ์ ยุติความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แต่ยังเดินหน้าทำหน้าที่พ่อแม่ร่วมกันอย่างเต็มที่

31 ก.ค. 2025

ท่ามกลางกระแสข่าวที่สร้างความตกใจให้แฟน ๆ อย่างมาก เมื่อ คิตตี้ คริสติน่า ภรรยาของ เอส กันตพงศ์ นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ออกมาเปิดเผยสถานะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่า ได้ตัดสินใจหย่าร้างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีกระแสความสงสัยเกี่ยวกับสถานะภายในครอบครัวมาระยะหนึ่ง

การยืนยันครั้งนี้เกิดขึ้นจากคอมเมนต์ของแฟนคลับรายหนึ่ง ที่เข้าไปสอบถามถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยคิตตี้ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอและเอสได้ตัดสินใจแยกทางกันมาระยะหนึ่งแล้ว และเคยพูดถึงเรื่องนี้ผ่านโซเชียลมีเดียของตนเองมาก่อน เพียงแต่อาจมีผู้ติดตามไม่มากนักจึงยังไม่มีใครทราบในวงกว้าง

แม้สถานะสามีภรรยาจะยุติลง แต่คิตตี้ยืนยันว่าเธอยังคงใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย และทั้งคู่ยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ของลูกสาวอย่าง น้องวาเลนตินา อย่างเต็มที่เช่นเดิม พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจที่แฟน ๆ มอบให้กับครอบครัวของเธออย่างต่อเนื่อง

การแยกทางอาจไม่ใช่จุดจบ หากคือการเปลี่ยนบทบาทสู่ความสัมพันธ์ที่มีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อความสุขและการเติบโตของลูกที่พวกเขารักอย่างสุดหัวใจ

ภาพ : s_kantapong

related ENTERTAINMENT NEWS

คนใกล้ชิดอัปเดตอาการ เอส กันตพงศ์ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต หลังวูบหมดสติระหว่างทำงาน

11 พ.ค. 2023

คนใกล้ชิดอัปเดตอาการ เอส กันตพงศ์ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต หลังวูบหมดสติระหว่างทำงาน

เป็นเหตุการณ์ที่ช็อกครอบครัวและแฟนคลับไม่น้อย เมื่อ เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง เกิดหมดสติและวูบลงระหว่างที่เจ้าตัวกำลังทำงานอยู่ในอีเวนต์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนก็เฝ้าติดตามและรออัปเดตอาการของนักแสดงหนุ่มและส่งกำลังใจให้ต่อเนื่องเช้าวันนี้ ผู้จัดการส่วนตัวของ เอส ก็ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการให้ทุกคนได้ทราบกันว่า ขณะนี้เขายังคงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และยังอยู่ในห้องผู้ป่วยขั้นวิกฤต อีกทั้งอาการโดยรวมถือว่าน่าเป็นห่วงมาก อีกทั้งแพทย์ที่ดูแลยังไม่สามารถระสาเหตุที่แท้จริงของการล้มป่วยครั้งนี้ได้ ทำได้เพียงเฝ้ารอดูอาการอย่างใกล้ชิดผู้จัดการส่วนตัวยังเผยอีกด้วยว่า เอส เป็นคนที่แข็งแรง แต่มีช่วงหลังมานี้ที่ทำงานหนักต่อเนื่อง ทำให้มีบ้างที่พักผ่อนน้อย ซึ่งเธอก็เพิ่งมาทราบจากทีมงานในอีเวนต์เมื่อวานว่า ก่อนเกิดเหตุสังเกตุว่า เอส หน้าซีดก่อนที่จะวูบหมดสติ ขณะที่ภรรยาของ เอส ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ก็ได้โพสต์ข้อความเพื่อขอให้ทุกคน ช่วยกันอธิษฐานและภาวนาขอให้เขากลับมาแข็งแรงโดยเร็วภาพ : s_kantapongขอบคุณข้อมูลจาก : Thai PBS

เอส กันตพงศ์ ร่างกายฟื้นฟูได้ดี ล่าสุดพาครอบครัวพักผ่อนที่ทะเล แม้จะเป็นทริปสั้น ๆ แต่มีความหมาย

27 ก.ย. 2023

เอส กันตพงศ์ ร่างกายฟื้นฟูได้ดี ล่าสุดพาครอบครัวพักผ่อนที่ทะเล แม้จะเป็นทริปสั้น ๆ แต่มีความหมาย

พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ หลังจากล่าสุด คิตตี้-คริสตินา วิงเคลอร์ ภรรยาของเขาได้โพสต์ภาพช่วงเวลาแห่งความสุข ด้วยการแพ็คกระเป๋าพาลูกไปท่องเที่ยวและใช้เวลาช่วงวันหยุดด้วยกันที่ทะเล ถือเป็นทริปแรกของ เอส หลังหายป่วยจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน จนทำให้เขาหมดสติระหว่างการทำงานเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจากภาพที่ คิตตี้ โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่าร่างหายของ เอส ฟื้นฟูได้ดี นั่นทำให้เขาดูยิ้มแย้มและสดใสอีกครั้ง ซึ่งก็ทำเอาแฟนคลับต่างก็โล่งใจที่เห็นเขากลับมาแข็งแรง พร้อมกันนี้ยังเขียนแคปชั่นเอาไว้ด้วยว่า นี่เป็นทริปแรกของเรา แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่เป็นเวลาที่มีความหมายมาก ๆ โดยเฉพาะกับ วาเลนตินา (ลูกสาว) พวกเราคิดถึงช่วงเวลาที่ได้เล่นสนุกกับเธอ มันมีค่าต่อพวกเรามาก ๆ และมีความสุขที่ได้มอบช่วงเวลาพิเศษนี้ให้กับเธอในภาพมีแฟน ๆ เข้าไปส่งกำลังใจและมอบคำอวยพรเพื่อให้สุขภาพร่างกายของ เอส กลับสู่สภาวะปกติที่แข็งแรงโดยเร็วภาพ : thekittyway

ครอบครัว เอส กันตพงศ์ แถลงข่าวดีอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังการทำงานของสมอง

22 มิ.ย. 2023

ครอบครัว เอส กันตพงศ์ แถลงข่าวดีอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังการทำงานของสมอง

ช่วงเย็นวันนี้ (22 มิถุนายน 2566) ครอบครัวของนักแสดง-พิธีกรชื่อดัง เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ พร้อมด้วยแพทย์ประจำตัว ได้ออกมาแถลงข่าวดีเกี่ยวกับอาการป่วยของนักแสดงหนุ่มว่า ตอนนี้ถือว่าพ้นวิกฤตแล้ว หลังเป็นลมและหมดสติระหว่างการทำงานเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา และรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 1 เดือนโดย คิตตี้-คริสตินา วิงเคลอร์ ภรรยาของ เอส พร้อมด้วย เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการส่วนตัว เปิดเผยกับสื่อมวลชนและประชาชนที่เฝ้าติดตามอาการของนักแสดงหนุ่มให้ได้ทราบว่า ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามและประเมินอาการแบบวันต่อวัน เนื่องจากในวันที่หมดสติและหัวใจหยุดเต้นไปนานกว่า 20 นาที ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจ ไต และสมองตอนนี้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ ขณะที่การทำงานของไตก็กลับสู่ภาวะปกติ แต่ที่สมองยังต้องให้แพทย์ประเมินการทำงานแบบวันต่อวัน ซึ่งวัดจากความทรงจำของคนไข้โดย นายแพทย์อชิววินทร์ จิรกลมชัยสิริ แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในฐานะแพทย์ประจำตัว เปิดเผยว่า อาการของ เอส ถือว่าฟื้นตัวเร็วมาก จากนี้ต้องดูอาการต่อเนื่องอย่างละเอียด ส่วนโอกาสในการกลับมาทำงานในวงการบันเทิง ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่อด้วยยังต้องมีการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วยภาพ : a_supachai1

เอส กันตพงศ์ เผยสาเหตุอาการป่วยว่าอาจมาจากไมเกรนที่เคยเป็นตอนเด็ก ส่วนชีวิตหลังหย่า ขอโฟกัสเฉพาะหน้าที่พ่อและการดูแลลูกสาว

06 ส.ค. 2025

เอส กันตพงศ์ เผยสาเหตุอาการป่วยว่าอาจมาจากไมเกรนที่เคยเป็นตอนเด็ก ส่วนชีวิตหลังหย่า ขอโฟกัสเฉพาะหน้าที่พ่อและการดูแลลูกสาว

หลังห่างหายจากสื่อมาพักใหญ่ เอส กันตพงศ์ พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง ออกมาเปิดใจครั้งแรกถึงการแยกทางกับอดีตภรรยา คิตตี้ คริสติน่า พร้อมเผยเหตุผลที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียด เพราะไม่อยากให้กระทบจิตใจของลูกสาว โดยยืนยันว่าแม้สถานะในครอบครัวจะเปลี่ยนไป แต่ทั้งเขาและอดีตภรรยายังคงมีเป้าหมายเดียวกันคือการดูแลลูกให้ดีที่สุด“ถามว่ายังได้คุยกันไหม ผมก็พยายามทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุด ตอนนี้สิ่งที่ผมให้ความสำคัญที่สุดคือการเป็นพ่อที่ดี คิตตี้ยังอยู่เมืองไทย ส่วนรายละเอียดเรื่องการแยกบ้าน ผมคิดว่าให้เขาเป็นคนพูดเองดีกว่า ส่วนตัวก็ยังมีการติดต่อกันอยู่บ้าง ลูกเองก็ไป ๆ มา ๆ ระหว่างเรา”สำหรับอาการป่วยที่หลายคนเป็นห่วง เอส เผยว่าแพทย์พบต้นเหตุที่แท้จริงแล้วว่า เกี่ยวข้องกับโรคไมเกรนที่เขาเป็นมาตั้งแต่เด็ก แม้จะเคยคิดว่าหายดีแล้วก็ตาม แต่ภายหลังพบว่าไมเกรนที่รุนแรงและความเครียดสะสมอาจส่งผลต่อหัวใจได้เช่นกัน“ตอนนั้นผมจำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งความทรงจำเริ่มกลับมาทีละนิดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่เคยคิดว่าไมเกรนจะส่งผลถึงขนาดนี้ พอเครื่องกระตุ้นหัวใจทำงานอีกครั้ง ผมก็เริ่มทบทวนว่ามันเป็นเพราะอะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคล้ายกันมาก และมาจากคำพูดของบุคคลเดียวกันด้วยซ้ำ”เขายังเล่าต่อว่า ปัจจุบันพยายามเลือกทำกิจกรรมที่ไม่กระตุ้นความคิดหรืออารมณ์มากเกินไป เพราะไม่อยากเสี่ยงให้เครื่องกระตุ้นหัวใจทำงานอีก โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีสติท้ายที่สุด เอส ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา พร้อมทิ้งท้ายอย่างหนักแน่นว่า “ผมเชื่อว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ และมีอีกหลายเรื่องที่ผมเลือกจะไม่พูด เพราะถึงแม้ผมจะได้ประโยชน์ แต่ถ้าอีกฝ่ายเสียหายผมก็ไม่พูดดีกว่า ทุกวันนี้ผมยึดความรู้สึกลูกเป็นหลัก ใครจะเข้าข้างใครผมไม่โกรธเลย สิ่งเดียวที่ผมต้องทำตอนนี้ คือทำทุกอย่างเพื่อลูก”ภาพ : s_kantapong

album

0
0.8
1