ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยผลการไกล่เกลี่ยระหว่าง แมน พัฒนพล ลงตัว จับมือให้อภัยพร้อมถอนฟ้อง ปมเรียกรับเงิน 14 ล้านช่วยรอดคดี Forex-3D

ENTERTAINMENT NEWS

ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยผลการไกล่เกลี่ยระหว่าง แมน พัฒนพล ลงตัว จับมือให้อภัยพร้อมถอนฟ้อง ปมเรียกรับเงิน 14 ล้านช่วยรอดคดี Forex-3D

02 ก.ค. 2025

หลังจากมีคดีความระหว่าง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักแสดงและนักร้องชื่อดัง กับ ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร จากกรณีฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการกล่าวอ้างว่า ฟิล์มเรียกรับเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ล่าสุดทั้งสองฝ่ายได้ขึ้นศาลเพื่อไกล่เกลี่ย และสามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้เป็นที่เรียบร้อย

โดยบรรยากาศการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ จะเป็นฝ่ายเดินออกมาจากห้องพิจารณาคดีพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า “ทั้งผมและดีเจแมนให้อภัยกันแล้ว ทุกอย่างคุยกันได้ ผมยินดีถอนฟ้อง”

ฟิล์ม ได้เผยรายละเอียดของการพูดคุยครั้งนี้ว่าเป็นไปอย่างเปิดใจ พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำร้ายใคร และที่ดำเนินการฟ้องร้องไปในตอนแรกเป็นเพียงการยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนเองเท่านั้น

“ผมไม่เคยตบทรัพย์ ไม่เคยเรียกเงินใคร ที่ผ่านมาเราช่วยเหลือครอบครัวเขาตลอด วันนี้ได้พูดคุยกันทุกอย่างก็เคลียร์ ผมพร้อมให้อภัยทุกเรื่อง”

แม้จะมีการตั้งคำถามถึงรายละเอียดของข้อตกลงในการไกล่เกลี่ย แต่ ฟิล์ม ขอให้ถือเป็นเรื่องภายในของศาล พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญคือความเข้าใจและมิตรภาพที่กลับคืนมา อีกทั้งเขายังเผยว่าระหว่างการเจรจาทั้งคู่ได้จับมือและกอดกัน เป็นสัญลักษณ์ของการยุติความขัดแย้ง เมื่อถูกถามว่าจากนี้จะสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ ฟิล์ม ตอบสั้น ๆ ว่า “เมื่อกี้ก็จับมือกัน กอดกัน ผมผูกพันกับครอบครัวเขาอยู่แล้ว”

ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ฟิล์ม ขอบคุณทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในตัวเขา พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และวันนี้คือภาพที่ชัดเจนที่สุด”

ภาพ : nation

related ENTERTAINMENT NEWS

ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันไม่ใช่ดาราเรียกรับเงิน 7 ล้านจาก ดีเจแมน และ ใบเตย

13 ก.พ. 2025

ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันไม่ใช่ดาราเรียกรับเงิน 7 ล้านจาก ดีเจแมน และ ใบเตย

ฟิล์ม รัฐภูมิ ออกมาชี้แจงถึงกระแสข่าวที่มีการเชื่อมโยงชื่อเขากับคดีดาราตบทรัพย์ จากกรณีที่ ดีเจแมน ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าเขาไม่เคยเกี่ยวข้องในส่วนคดีของ ดีเจแมน และ ใบเตย อีกทั้งยังไม่มีส่วนในเรื่องที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการตบทรัพย์จำนวน 14 ล้านฟิล์ม บอกว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ ใบเตย และ ดีเจแมน ในฐานะพี่น้อง และไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดีต่อใคร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้รับความเสียหายจากข่าวที่ถูกเผยแพร่ และยังไม่ได้รับการโยงกับการเงินในคดีนี้เลย เขายืนยันว่าได้ผ่านการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากเจ้าหน้าที่และไม่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว“ผมไม่เคยได้อะไรเลยจากทั้งสองคน มีแค่ความหวังดีให้กันเท่านั้น” ฟิล์มกล่าวพร้อมบอกว่าเขามีความอดทนและจะรอเวลาให้ทุกคนเห็นความจริงในที่สุด ก่อนที่เขากล่าวเสริมว่า ถึงแม้จะมีข่าวที่ไม่เป็นความจริงออกมา แต่เขาจะไม่ตอบโต้อะไรในตอนนี้ และมองว่าเวลาและหลักฐานจะพิสูจน์ความจริงในที่สุด“หลัก ๆ เขาไม่ได้พูดแหละว่าเป็นใคร แต่ตัวผมเองยืนยันว่าไม่เคยไปตบทรัพย์ หรือทำอะไรที่ไม่ดีกับใครแน่นอน แล้วตัวผมเองมีหน้าที่การงานที่ทำอยู่ ไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องทำสิ่งเหล่านั้น นับถึงวันนี้ผมกับใบเตยก็คุยอย่างพี่น้อง ผมมองว่าเขาไม่ได้พูดชื่อ แล้วผมก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะไปตอบเขาโต้ยังไง”ขอบคุณสัมภาษณ์จาก : บันเทิงไทยรัฐ / ไนน์เอ็นเตอร์เทนภาพ : filmrattapoom

ดีเจแมน พัฒนพล เผยผลไกล่เกลี่ย ฟิล์ม รัฐภูมิ จบเฉพาะคดีหมิ่นประมาท ส่วนคดีเรียกรับเงิน 14 ล้านที่ตนเป็นโจทย์ยังเดินหน้าต่อ

02 ก.ค. 2025

ดีเจแมน พัฒนพล เผยผลไกล่เกลี่ย ฟิล์ม รัฐภูมิ จบเฉพาะคดีหมิ่นประมาท ส่วนคดีเรียกรับเงิน 14 ล้านที่ตนเป็นโจทย์ยังเดินหน้าต่อ

เช้าวันนี้ (2 กรกฎาคม 2568) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร และ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในศาล เพื่อลงไกล่เกลี่ยในคดีหมิ่นประมาท ซึ่ง ฟิล์ม เป็นฝ่ายยื่นฟ้องหลังรู้สึกว่าถูกกล่าวหาเสียหายจากคำให้สัมภาษณ์ของ ดีเจแมน กรณีเรียกรับเงิน 14 ล้านบาทเพื่อช่วยในคดี Forex-3D ซึ่ง ฟิล์ม ในฐานะโจทก์ได้เผยว่าตัดสินใจถอนฟ้องเวลาต่อมาต่อมา ดีเจแมน และ ทนายอมร ได้เดินออกจากห้องพิจารณาคดี พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “วันนี้เป็นการไกล่เกลี่ยในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งเราสองฝ่ายก็ได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกันแล้ว เรื่องนี้จบลงด้วยดี ต่างฝ่ายต่างขอโทษ ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะอยู่ในกระบวนการกฎหมาย”ก่อนที่ ดีเจแมน จะย้ำชัดเจนว่าคดีที่จบในวันนี้เป็นเพียง ‘คดีหมิ่นประมาท’ เท่านั้น ส่วนอีกคดีที่เขาเป็นผู้แจ้งความกล่าวหาว่า ฟิล์ม เรียกรับเงิน 14 ล้านบาท ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และรอเรียกจากพนักงานสอบสวน“หลายคนอาจคิดว่าเรื่องทั้งหมดจบแล้ว แต่จริง ๆ มันเป็นคนละส่วนกันครับ วันนี้จบแค่คดีที่เขาฟ้องผม ส่วนที่ผมแจ้งความไว้ เรื่องนั้นยังไม่จบ ต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป ส่วนความรู้สึกก็รู้สึกดีครับ อย่างน้อยเรื่องหนึ่งจบลงแล้ว ไม่ต้องขึ้นศาลซ้ำซาก ส่วนความสนิทสนมก็พูดยาก เพราะก่อนหน้านี้เราก็ห่างกันอยู่แล้ว ไม่มีการชดใช้หรือเยียวยาใด ๆ ถือว่าเรื่องนี้จบได้ด้วยดี”พร้อมกันทิ้งท้ายก่อนจบการสัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาตนเองและครอบครัวเจอเรื่องร้ายมาเยอะ ถ้าคดีไหนจบได้ก็อยากให้จบไป ส่วนที่ยังอยู่ในกระบวนการ ก็ต้องปล่อยให้มันเดินหน้า เพื่อให้ความชัดเจนกับสังคมภาพ : nation

ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันอีกครั้งไม่เคยเรียกรับเงินจาก แมน และ ใบเตย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำผิด ครั้งนี้ตนเป็นเหยื่อการดิสเครดิต

03 มี.ค. 2025

ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันอีกครั้งไม่เคยเรียกรับเงินจาก แมน และ ใบเตย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำผิด ครั้งนี้ตนเป็นเหยื่อการดิสเครดิต

ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ศิลปินและนักแสดงดัง พร้อมด้วยทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช เดินทางไปยังศาลอาญามีนบุรี กรุงเทพฯ เพื่อเป็นพยานฝ่ายจำเลยในคดีที่บริษัทเหรียญบิตคอยน์ฟ้องร้อง อย่างไรก็ตามฝ่ายโจทก์ได้ตัดพยานไปเรียบร้อยในช่วงเช้า ทำให้ ฟิล์ม ไม่ต้องเข้าให้การในฐานะพยานในคดีนี้แม้จะมีคดีความหลายเรื่องพัวพัน แต่ ฟิล์ม ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใด ๆ โดยชี้แจงว่าตนเพียงได้รับว่าจ้างให้เป็นวิทยากรด้านการตลาดเท่านั้น ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการลงทุน และไม่เคยกระทำการใด ๆ ผิดกฎหมาย “ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำอะไรผิด ผมเคารพกฎหมายและอยู่กับประชาชนมานาน จะเอาตัวเองไปเสี่ยงทำผิดทำไม”นอกจากนี้ ฟิล์ม ยังชี้แจงอีกครั้งต่อกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นดาราเรียกรับเงินจาก ดีเจแมน พัฒนพล และ ใบเตย สุธีวัน คนละ 7 ล้านบาท เพื่อช่วยให้พ้นคดี Forex-3D โดยยืนยันชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ป่านนี้ ใบเตย คงออกมาพูดแล้ว” และเมื่อถูกถามย้ำว่าไม่เคยเรียกรับเงินจาก แมน และ ใบเตย ใช่หรือไม่ ฟิล์ม ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่เคยครับ” พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีการพาดพิงถึงตนในรายการ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนต้องรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะให้อภัย เพราะยังถือว่าเป็นพี่น้องกัน แต่หากมีเรื่องที่เกินเลย ก็ต้องได้รับผลจากการกระทำของตัวเอง“4 เดือนแล้ว ไหนล่ะสิ่งที่เขาพูด บอกว่ามีหลักฐานก็เอาออกมา ผมก็รอดูอยู่เหมือนกัน วันนี้ผมกับอาจารย์ประมาณก็วิ่งหาความจริงกัน และส่งทุกอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว ที่เห็นเงียบ ๆ ไม่ใช่ไม่มีอะไร แต่เราให้ข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว เดี๋ยววันหนึ่งความจริงจะปรากฏเอง แล้วจะมีใครบ้างที่เห็นใจผม ผมโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ต้องรอเป็นปี ๆ คนถึงจะเข้าใจ แต่ไม่เป็นไร ผมรอได้ แค่ขอให้วันนั้นที่ความจริงเปิดเผย คนเห็นใจผม พ่อแม่ผม และสิ่งที่ผมต้องเผชิญมาตลอดก็พอ”ภาพ : filmrattapoom

album

0
0.8
1