จูน กษมา และ เปิ้ล นาคร เผยรอยสัก ออก้า เป็นแค่แทททู ยันไม่ห้าม!หากอยากสักจริง แต่สอนให้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง

ENTERTAINMENT NEWS

จูน กษมา และ เปิ้ล นาคร เผยรอยสัก ออก้า เป็นแค่แทททู ยันไม่ห้าม!หากอยากสักจริง แต่สอนให้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง

26 มิ.ย. 2025

จากภาพครอบครัวสุดสนุกกลับกลายเป็นประเด็นวิจารณ์บนโลกโซเชียล เมื่อ เปิ้ล นาคร โพสต์ภาพของลูกชายวัย 13 ปีอย่าง น้องออก้า ในลุคเสื้อกล้ามโชว์รอยสักขนาดใหญ่บริเวณต้นแขนขวา ทำให้มีชาวเน็ตบางส่วนเข้าไปแสดงความเห็นในเชิงลบ ตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่ห้ามลูก หรือปล่อยให้เด็กอายุเท่านี้ไปสักได้อย่างไร

ล่าสุดพ่อแม่สายซัปพอร์ตอย่าง จูน กษมา และ เปิ้ล นาคร ได้ออกมาชี้แจงผ่าน ไนน์เอ็นเตอร์เทน โดยยืนยันว่ารอยสักที่เห็นนั้นไม่ใช่ของจริง แต่เป็นเพียงแทททูแปะเล่นที่ น้องออก้า ไปเลือกซื้อเองจากตลาดนัดละแวกบ้าน พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีการสักจริงใด ๆ เกิดขึ้น

“แม่ ๆ ใจเย็น ๆ นะ ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ลอกแล้ว เพราะมันเป็นแค่แทททู” จูน กล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมเสริมว่าตัว น้องออก้า ชื่นชอบรอยสักอยู่แล้ว และการไปซื้อแทททูมาแปะก็เป็นกิจกรรมสนุกเล็ก ๆ ของเด็กวัยรุ่น ซึ่งในฐานะพ่อแม่พวกเขาเลือกที่จะรับฟังและไม่ปิดกั้น

ทั้งนี้ จูน ยังเปิดใจถึงมุมมองเรื่องรอยสักว่า หากวันหนึ่งลูกโตพอและมีความคิดอยากสักจริง ๆ ก็ไม่ได้ขัดขวาง แต่จะคอยสอนและตั้งคำถามให้ลูกคิดก่อนเสมอว่า “สักไปเพื่ออะไร มีความหมายอะไร และจะส่งผลอะไรต่ออนาคตบ้าง” เพราะเมื่อสักแล้วก็ย้อนกลับไปเปลี่ยนไม่ได้อีก

“ตัวจูนเองก็มีรอยสัก จึงไม่เคยมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องผิด แต่อยากให้ลูกเข้าใจสิ่งที่จะตามมามากกว่า เราไม่ได้เลี้ยงลูกให้ทำตามกรอบที่ใครวางไว้ แต่สอนให้เขาคิดและรับผิดชอบกับการตัดสินใจของตัวเอง”

สำหรับครอบครัวศิลาชัยแล้ว การเลี้ยงลูกคือการเปิดโอกาสให้เขาเติบโตอย่างเข้าใจตัวเอง ไม่ใช่จำกัดเส้นทางด้วยคำว่าควรหรือไม่ควรเท่านั้น

ภาพ : Ple Nakorn

related ENTERTAINMENT NEWS

เปิ้ล นาคร ตอบโต้คอมเมนต์แรง! ยืนยันทำธุรกิจสุจริต แม้ถูกวิจารณ์ว่า ‘ไปไม่รอด..จนต้องขายน้ำปลาร้า’

28 เม.ย. 2025

เปิ้ล นาคร ตอบโต้คอมเมนต์แรง! ยืนยันทำธุรกิจสุจริต แม้ถูกวิจารณ์ว่า ‘ไปไม่รอด..จนต้องขายน้ำปลาร้า’

นอกจากบทบาทพิธีกรและนักแสดงตลกที่สร้างความสุขให้แฟน ๆ มายาวนานหลายสิบปี เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย ยังขยายบทบาทสู่การเป็นผู้บริหารดูแลธุรกิจครอบครัวหลายประเภท ทั้งผลิตรายการโทรทัศน์ เครื่องสำอาง ร้านอาหาร และล่าสุดกับการเปิดบริษัทผลิตและส่งออกน้ำปลาร้า ต่อยอดจากประสบการณ์ในธุรกิจอาหารกว่า 20 ปีล่าสุด เปิ้ล นาคร ได้ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึก หลังเผชิญกับคอมเมนต์จากชาวเน็ตที่บั่นทอนกำลังใจ วิจารณ์ว่า “ไปไม่รอด..ถึงต้องขายน้ำปลาร้า” โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกโกรธกับความคิดเห็นเหล่านี้ แต่อยากให้สังคมเคารพคนทำมาหากินสุจริต“มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า ‘ไปไม่รอดแล้วถึงมาขายน้ำปลาร้า’ คือไม่ว่าพี่จะขายสากกระเบือ เรือรบ ก๋วยเตี๋ยว หรือบะหมี่เกี๊ยว มันเป็นอาชีพสุจริตทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับว่าไปรอดไม่รอด เรายังต้องส่งลูกเรียน ใช้หนี้ ดูแลพนักงาน เก็บเงินอนาคต ต้องทำมาค้าขาย รอดไม่รอดมันก็เรื่องของพี่ น้องเมนต์มาแบบนี้ เอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน ถ้าไม่รอดเมื่อไหร่บอกพี่ เดี๋ยวพี่ดูแลเอง ไม่ได้โกรธนะ ถือซะว่าน้องเตือนสติพี่แล้วกัน ขอบใจมาก ถือว่าเป็นกำลังใจอีกทาง”เปิ้ล นาคร ยังเสริมผ่านแคปชันว่า เขาขอมองคอมเมนต์เหล่านี้เป็นพลังบวก และสำหรับทุกธุรกิจที่ดำเนินมา ผลกำไรไม่ว่ามากหรือน้อย หลังจากดูแลครอบครัวและพนักงานแล้ว ส่วนหนึ่งยังถูกนำไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในสังคมเสมอ ซึ่งหลายคนอาจคุ้นตากับภาพของ เปิ้ล นาคร ในช่วงเวลาที่ประเทศต้องเผชิญภัยพิบัติต่าง ๆอีกหนึ่งตัวอย่างของนักสู้ผู้ใช้พลังบวกตอบแทนสังคม ผ่านอาชีพสุจริตที่เขาภาคภูมิใจภาพ : Ple Nakorn

album

0
0.8
1