ENTERTAINMENT NEWS

ต๋อง ธนายุทธ สิ้นสุดสัญญากับ Be On Cloud ก้าวสู่เส้นทางใหม่ในฐานะนักแสดงอิสระ

26 ก.พ. 2025

Be On Cloud ได้ออกแถลงการณ์ถึงแฟน ๆ เกี่ยวกับการสิ้นสุดสัญญาของ ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา หลังจากร่วมงานกันมานานกว่า 4 ปี พร้อมอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่ที่กำลังจะมาถึง

“บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ขอแจ้งให้ทราบว่า ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา ได้สิ้นสุดสัญญาการเป็นนักแสดงภายใต้การดูแลของบริษัทฯ อย่างเป็นทางการ นับจากนี้ เขาจะสามารถรับงานและพิจารณาเส้นทางอาชีพของตนเองได้อย่างอิสระ

“ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา ต๋องไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงที่มีความสามารถ แต่ยังเป็นพี่เป็นเพื่อนที่น่ารักของทุกคนในค่าย ทั้งนักแสดงและทีมงาน เราขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในทุกเส้นทางที่เลือกเดิน และหวังว่าแฟน ๆ จะยังคงสนับสนุนและติดตามผลงานของเขาต่อไป ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของต๋องเอง”

ด้านต๋องเองก็ได้โพสต์ข้อความถึงแฟน ๆ ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ พร้อมแสดงความขอบคุณต่อทุกคนที่เคยร่วมเดินทางบนเส้นทางสายนี้ด้วยกัน

“แม้จะทำใจมาสักพักแล้ว แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ก็อดรู้สึกโหวง ๆ ไม่ได้ ยังนึกภาพตัวเองในวันที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ไม่ออกเลย ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ดี ๆ และผมก็เชื่อว่าตัวเองคงไม่จากไปไกล

“ขอบคุณผู้ใหญ่ในค่าย และโดยเฉพาะพี่ปอนด์มาก ๆ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณที่ใจดีกับผมเสมอมา รวมถึงเพื่อน ๆ นักแสดง และที่สำคัญที่สุด ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยมอบความรักและกำลังใจให้ผมตลอดเวลา ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ผมนึกถึงแล้วยิ้มได้เสมอ จากนี้ไป ผมยังคงอยู่บนเส้นทางเดิม เพียงแต่จะเดินไปในรูปแบบใหม่ แต่ขอให้รู้ว่าความรักที่มีต่อที่นี่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

“รักและขอบคุณจากใจจริงครับ”

เส้นทางใหม่ของ ต๋อง ธนายุทธ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น แม้จะเป็นการก้าวเดินที่แตกต่างไปจากเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือความรักและการสนับสนุนจากแฟน ๆ ที่จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป

ภาพ : tongthk

related ENTERTAINMENT NEWS

26 ก.พ. 2023

เจฟ ซาเตอร์ ประกาศกลางคอนเสิร์ตฯ ออกจากค่าย Be On Cloud โดยจะย้ายไปอยู่ในสังกัด Studio On Saturn ของตัวเอง

เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงจากเรื่อง ‘KINNPORSCHE THE SERIES’ ออกมาประกาศข่าวกับแฟนคลับและผู้ชมบนเวทีคอนเสิร์ต ‘KINNPORSCHE THE SERIES WORLD TOUR 2022 WTF (WHAT THE FUN)’ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ได้ออกจากการเป็นศิลปินและนักแสดงภายใต้สังกัด Be On Cloud แล้ว โดยจะทำงานภายใต้ค่าย Studio On Saturn ของตัวเอง ส่วนงานเพลงก็ยังคงเดินหน้าต่อไปในฐานะศิลปินในสังกัด Warner Music Thailandโดย ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่าย Be On Cloud ได้แจ้งบนเวทีว่า“หลังจากนี้เจฟจะดูแลตัวเองแล้วนะครับ เขามีค่ายของเขาที่เตรียมมาสักพักแล้ว อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับเจฟกับStudio On Saturn ทุกคนน่าจะได้เห็นแล้วว่าเจฟพร้อมแล้ว ผมเลยถือโอกาสนี้อยากบอกทุกคนว่า ต่อให้เจฟจะไม่ได้อยู่ Be On Cloud แต่เมฆกับดาวเสาร์มันก็ไม่ได้ไกลกันนะครับ”ขณะที่ เจฟ ก็ได้เปิดใจด้วยการขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการเดินทางครั้งนี้ พร้อมขอบคุณเพื่อนๆ นักแสดง และแฟนคลับ โดยเฉพาะพี่ปอนด์ให้ฐานะพี่ชายที่คอยสนับสนุนว่า“ขอบคุณพี่ปอนด์ที่เป็นก้าวแรกให้ผมเสมอในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับตัวละคร ‘คิม’ ที่มันไม่มีบทเล่นดนตรีด้วยซ้ำ พี่ก็เขียนมันขึ้นมาเพื่อให้ไม่ใช่แค่ ‘คิม’ ที่ไชน์ แต่เจฟ ซาเตอร์ได้ไชน์ด้วย ทุกครั้งที่มันมีปัญหา ก็จะเป็นพี่ปอนด์มารับกระสุนแทนเสมอ และพี่ปอนด์จะพูดเสมอว่า อย่าถือว่านี่เป็นบุญคุณ เพราะผมควรได้รับสิ่งนี้”ภาพ : Warner Music Thailand

28 ม.ค. 2023

บิว จักรพันธ์ แถลงขอเดินหน้าสู้ต่อในชั้นศาล หลังอดีตแฟนนักเขียนฟ้องทำร้ายร่างกาย พร้อมลาออกจากสังกัด Be On Cloud

เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นประเด็นร้อนแรงจนโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับกรณีของ บิว-จักรพันธ์ พุทธา นักแสดงดาวรุ่งที่ถูกอดีตแฟนสาวนักเขียน ออกมาเปิดหลักฐานการทำร้ายร่างการ แถมยังถูกแฉว่าคบซ้อนนางแบบดังมาตลอด 2 ปี โดยเรื่องนี้ถูกนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ขณะที่หลังเกิดเรื่อง บิว ก็มีการแคปแชตที่ถูกอดีตแฟนส่งข้อความด่านำมาโพสต์บนทวิตเตอร์ แต่ถูกกระแสตีกลับจนต้องปิดแอคเคาท์ไปล่าสุดวันนี้ 28 มกราคม 2566 บิว ได้ออกมาแถลงผ่านระบบ Live Conference ถึงกระแสที่เคยเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่าจะเป็นการแถลงร่วมกันกับอดีตแฟน แต่อีกฝ่ายออกปฏิเสธไม่ขอเข้าร่วม ยืนยันว่าจะให้ข้อมูลทีเดียวในศาล ทำให้วันนี้มีเพียง บิว ที่จะได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวดราม่าสำหรับการแถลงใช้เวลาเพียง 3 นาที เริ่มด้วยการประกาศลาออกมาจากการเป็นนักแสดงในสังกัด Be On Cloud เนื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสังกัดและคนรอบข้าง พร้อมกับยืนยันว่าจากนี้ตนได้ตัดสินใจจะต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองบ้าง แม้สิ่งที่ปรากฏจะถูกตีความให้ตนเองกลายเป็นคนที่แย่ก็ตาม“จนถึงวันนี้ผมตัดสินใจว่า ผมจะต้องออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองบ้าง สิ่งที่ทุกคนรับรู้หรือพบเห็นมันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ผมเองก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าสิ่งที่ปรากฎจะตีความว่าผมแย่แค่ไหนก็ตาม และสิ่งที่ผมโดนมันเกินกว่าที่ผมจะรับไหว ชีวิตผมต้องพังทลายลง ทั้งหน้าที่การงาน ชื่อเสียง สังคม ครอบครัว ทุกอย่าง ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้วครับ แม้กระทั่งตอนนี้ที่ผมนั่งหายใจอยู่ผมก็ยังผิด ผมไม่สามารถทำอะไรไปมากกว่านี้ได้แล้วครับจากนี้ผมขอเอาความจริงทั้งหมดไปสู้ในชั้นศาล ผมจะต่อสู้เพื่อคนที่ผมรักและคนที่ยังรักผม คนที่เชื่อมั่นในตัวผม รวมถึงครอบครัวและตัวผมเองด้วย ผมขอให้ทุกคนอดทน ตัวผมเองก็จะอดทนและเข้มแข็งเพื่อรอผลคดีในชั้นศาล จากนี้ผมยังเชื่อว่าความจริงจะชนะในที่สุด ผมก็เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับผม”หลังเสร็จสิ้นการแถลงทำให้ #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในอันดับที่ 1 อีกครั้งภาพ : Be On Cloud

25 เม.ย. 2024

พบกับ ‘AUTHENTIC MILE’ คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ มาย ภาคภูมิ เจอกัน 8 มิถุนายนนี้

หลังจากที่ มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง ศิลปินและนักแสดงชื่อดังสังกัด Be On Cloud ได้ลุยบทบาทใหม่ในฐานะผู้บริหารค่ายเพลงน้องใหม่อย่าง Be On Cloud Music เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการตอกย้ำความรักและความสามารถทางดนตรีแล้ว แฟน ๆ หลายคนก็ลุ้นและเฝ้ารอว่าโปรเจกต์ต่อไปของเขาในฐานะศิลปินจะเป็นอะไรล่าสุดมี Be On Cloud ก็ออกมาประกาศข่าวสุดเซอร์ไพรส์ว่า ภายในปีนี้แฟน ๆ ทุกคนจะได้สัมผัสกับตัวตนทางดนตรีของเขาแบบเข้มข้น และใกล้ชิดกว่าเดิม เพราะเขากำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า ‘AUTHENTIC MILE’ (มายของแทร่) FIRST SOLO CONCERT และจะจัดขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ณ UOB LIVE ศูนย์การค้า Emsphereพร้อมกันนี้ยังมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดผังที่นั่งและราคาบัตรให้แฟน ๆ ได้ทราบ โดยบัตรเข้าชมมีราคาเริ่มต้นที่ 1,200 / 1,800 / 2,500 / 3,500 / 5,000 และ 10,000 บาท ซึ่งบัตรแต่ละราคาก็จะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษเพื่อแฟน ๆ ทุกคนโดยเฉพาะ เปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ 5 พฤษภาคมนี้ ทาง Thaiticketmajorภาพ : Be On Cloud

30 ส.ค. 2023

จากกระแสตอบรับที่ดี อาจทำให้ Be On Cloud หยิบ ‘แมนสรวง’ ไปต่อยอดผลิตเป็นซีรีส์ในอนาคต

หลังจากการเข้าฉายของ ‘แมนสรวง’ หนังพีเรียดไทยเรื่องแรกจากค่าย Be On Cloud กำกับโดย กฤษดา วิทยาขจรเดช, ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน และ ชาติชาย เกษนัส และมี อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, บาส-อัศวภัทร์ ผลพิบูลย์ และ ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา เป็นนักแสดงนำที่จะพาเราเข้าไปสู่สถานเริงรมย์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงที่สุดในรอบ 20 ปี และเป็นภาพยนตร์ไทยเปิดตัวด้วยรายได้สูงที่สุดของปีนี้ และก็ยังคงเดินหน้ากวาดรายได้ไปมากกว่า 24.2 ล้านบาทแล้วล่าสุดมีข่าวเกี่ยวกับการต่อยอดความสำเร็จของภาพยนตร์ โดย ปอนด์-กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่ายได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับ GQ ว่า ภาพยนตร์เรื่อง ‘แมนสรวง’ มีโอกาสที่จะถูกนำไปสร้างต่อในฉบับซีรีส์ เพื่อให้ผู้ชมได้เต็มอิ่มกับเรื่องราวและชีวิตของตัวละครให้มากยิ่งขึ้น“ที่จริงเรามีการวางแผนอยู่ครับ แต่อาจจะเป็นในรูปแบบที่คนคาดไม่ถึง มีอย่างหนึ่งคือกลุ่มคนที่เราเอามาแสดงใน แมนสรวง ส่วนมากเป็นสายละครเวที คือขายความสามารถตัวเองจริง ๆ ต่างประเทศเขาก็จะมีนักแสดงพวกนี้เยอะ มีพื้นที่ให้เขา แต่ในเมืองไทยยังไม่มีบทหรือมีที่ทางให้นักแสดงสายนี้มากสักเท่าไร พอได้ร่วมงานกันผมว่าพวกเขาเก่งมากเลย อยากทำอะไรอย่างหนึ่งที่มีกลิ่นอายของ แมนสรวง และสนุกขึ้น ขอแค่แรงให้คนสนับสนุนหนัง แมนสรวง จะได้มีพื้นที่ตรงนี้ต่อให้คนกลุ่มนี้”ต้องจับตามองกันต่อไปว่า ‘แมนสรวง’ จะสร้างปรากฏการณ์เป็นหนังไทยร้อยล้านได้หรือไม่ รวมถึงโอกาสในการเดินสายฉายในประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งรอติดตามการต่อยอดไปสู้ความบันเทิงรูปแบบอื่น ๆ ในอนาคตด้วยภาพ : Be On Cloudอ้างอิงจาก : gqthailand.com/culture/movie/article/pond-krisda-mansuang-interview

0.8