ดีเจอาร์ต มารุต ถูกมิจฉาชีพเลียนเสียงโทรหาพ่อแม่ อ้างโดนจับเรียกเงิน 60,000 เพื่อไม่ดำเนินคดี

ENTERTAINMENT NEWS

ดีเจอาร์ต มารุต ถูกมิจฉาชีพเลียนเสียงโทรหาพ่อแม่ อ้างโดนจับเรียกเงิน 60,000 เพื่อไม่ดำเนินคดี

11 ม.ค. 2025

ดีเจอาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์ พิธีกรและนักแสดงดัง ออกมาเขียนเรื่องราวผ่านเพจ ‘อาร์ตเอง’ เพื่อแชร์กลลวงของแก๊งมิจฉาชีพ ที่ใช้เทคโนโลยีเลียนแบบเสียงโทรหาคนใกล้ชิด เพื่อเตือนภัยไปยังผู้ติดตามให้ระมัดระวังกลลวงเหล่านี้

โดย ดีเจอาร์ต เล่าว่า กลางดึกมีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้าเครื่องคุณแม่ แล้วอ้างว่า ดีเจอาร์ต กับ โอ๊ต ปราโมทย์ โดยตำรวจจับในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกส่งตัวลูกชายดำเนินคดี

“เมื่อคืนช่วงเวลาประมาณตี 2 มีสายเเปลกโทรเข้ามาหาเเม่ผม แล้วพูดกับแม่ผมว่า ‘เเม่..อาร์ตกับโอ๊ต โดนตำรวจจับ คดียาเสพติด’ ซึ่งเเม่บอกว่าน่าจะเสียงเอไอ เพราะเหมือนผมมากกก แล้วตำรวจก็ดึงโทรศัพท์ไป แล้วพูดกับแม่ผมว่า จะจบตรงนี้หรือจบ สน. จบตรงนี้ 60,000 แม่ผมเริ่มตกใจ อ้ำอึ้งตำรวจในสายสวนมาทันทีว่า ไม่มีใช่ไหม งั้น 30,000 เรื่องจบ แต่ต้องโอนเลย

“เเม่ผมเล่าให้ฟังว่า ณ ตอนนั้น เอะใจอยู่ 2 ข้อ

1. อาร์ต-โอ๊ต ไม่ได้ยุ่งเรื่องยาอยู่แล้ว

2. เวิร์คพ้อยซื้อไปขนาดนั้น 60,000 โทรหาแม่ทำไม

“พ่อตั้งสติได้จึงเอาโทรศัพท์ไปคุย และถามตำรวจปลายสายว่า อาร์ตลูกพ่อ พ่อชื่ออะไรนะลูก? แล้วแม่ของอาร์ตชื่ออะไรนะลูก? หลังจากนั้น อาร์ต ในสาย ก็วางหูไป ดูเหมือนจะฮานะครับ แต่เอาจริงแอบน่ากลัว เข้าทางพ่อเเม่แล้ว เอามาฝากไว้ครับ จะได้รู้ทันกันก่อน”

ในโพสต์ดังกล่าวมีหลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์เคยได้รับสายลักษณะเดียวกัน แต่เปลี่ยนสถานการณ์ เช่น รถชน, เมาแล้วขับ, โดนจับ รวมถึงมีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแชร์วิธีการป้องกันตัวเองและคนในครอบครัวให้รอดจากกลลวงเหล่านี้ ด้วยการสื่อสารกันในครอบครัวเสมอว่า หากได้รับสายจากเบอร์แปลก ๆ ในลักษณะนี้อย่าโอนเด็ดขาด

ภาพ : อาร์ตเอง

related ENTERTAINMENT NEWS

แม้จะยาก..แต่ก็ยังอยากได้เงินคือ เบสท์ ชนิดาภา เหยื่อรายล่าสุดสูญเงิน 1.2 ล้านจากการสมัครงานรีวิวโรงแรมปลอม

11 พ.ค. 2025

แม้จะยาก..แต่ก็ยังอยากได้เงินคือ เบสท์ ชนิดาภา เหยื่อรายล่าสุดสูญเงิน 1.2 ล้านจากการสมัครงานรีวิวโรงแรมปลอม

เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ นักแสดงสาวชื่อดัง นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินผ่านแคมเปญรีวิวโรงแรมปลอม สูญเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาทเธอเล่าว่าเหตุการณ์เริ่มจากการที่พบโฆษณารับสมัครนักรีวิวโรงแรมผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมระบุรายได้สูงถึง 30,000 บาท/งาน เมื่อทักไปสอบถาม ได้รับคำแนะนำให้พูดคุยต่อผ่าน Telegram ซึ่งมีการอ้างถึงแคมเปญร่วมกับเอเจนซี่ชื่อดัง การทดสอบเริ่มจากให้เขียนรีวิวโรงแรมพร้อมสัญญาว่าจะมีค่าตอบแทนเล็กน้อย และเมื่อทำงานจริง ก็ได้รับเงินจริง ทำให้เธอเริ่มเชื่อถือ (ช่วงทดลองเขียนได้เงินหลักสิบ)ต่อมา แอดมินกลุ่มเริ่มให้โอนเงิน “ค่าดำเนินการ” ในลักษณะขั้นบันได โดยอ้างว่าจะคืนเงินพร้อมค่าคอมมิชชั่นภายหลัง เบสท์ ได้รับเงินคืนในรอบแรก ๆ ทำให้มั่นใจมากขึ้น ก่อนถูกชักจูงให้เข้ากลุ่ม VIP และเริ่มโอนเงินจำนวนมากขึ้นจนถึงหลักแสน แต่กลับถูกกล่าวหาว่าทำผิดกติกา แชร์ไม่ครบหรือโอนช้า ทำให้ไม่สามารถรับเงินคืนได้ ทั้งยังถูกกดดันจากสมาชิกกลุ่มที่สร้างสถานการณ์ทางอารมณ์ เช่น ต้องใช้เงินรักษาลูกป่วย หรือจำนองบ้าน จนเธอยอมโอนเงินเพิ่มด้วยความรู้สึกผิดและความหวังว่าจะได้เงินคืนรวมยอดเงินที่ เบสท์ โอนไปกว่า 1.2 ล้านบาท ภายในเวลาไม่ถึง 1 วัน เมื่อเริ่มสงสัยจึงให้เพื่อนช่วยตรวจสอบบัญชีและพบว่าเป็นบัญชีม้า จึงหยุดการโอนและเข้าแจ้งความ พร้อมหลักฐานทุกอย่าง เธอเชื่อว่าสมาชิกกลุ่มที่เหลือน่าจะเป็นขบวนการมิจฉาชีพทั้งหมดเบสท์ ยอมรับว่าแม้จะระวังตัวมาตลอด แต่ก็ยังเสียรู้ เพราะขบวนการนี้วางแผนอย่างแยบยล ทั้งจำกัดเวลา สร้างสถานการณ์กดดัน และใช้การพูดจาชวนเชื่ออย่างต่อเนื่อง เสมือนถูกสะกดจิต พร้อมกันนี้เธอยังฝากเตือนว่า ทุกวันนี้มิจฉาชีพมีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ที่คนต้องการรายได้เสริม อยากให้ระวังงานที่มีการให้โอนเงินก่อน และอย่าหลงเชื่อโพสต์ที่ปั่นคอมเมนต์หรือแชร์เกินจริง พร้อมย้ำว่าต้องการดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อไม่ให้มีใครตกเป็นเหยื่อแบบเธออีกภาพ : best_chanidapa

album

0
0.8
1