28 มี.ค. 2024
[Review] Godzilla x Kong : The New Empire ใหญ่บิ๊กบึ้ม! ถาโถมทุกความต้องการของแฟนหนังมอนสเตอร์
นี่คือหนังสัตว์ประหลาดที่สร้างมาแบบเอาใจแฟนหนังมอนสเตอร์โดยเฉพาะ สำหรับ ‘Godzilla x Kong : The Empire’ หนังลำดับที่ 5 ในจักรวาล Monsterverse ของวอร์เนอร์ หลังความสำเร็จของหนังเดี่ยว Godzilla ทั้งสองภาคในปี 2014 และ 2019 และหนังเดี่ยวของคองอย่าง Kong : Skull Island ในปี 2017 ทำให้สองยักษ์ใหญ่มาเจอกันใน ‘Godzilla vs Kong’ เมื่อสามปีก่อน แม้จะออกฉายท่ามกลางช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แต่ด้วยความกระหายหนังฟอร์มยักษ์ของแฟนหนังทั่วโลก ทำให้มันทำเงินไปมากถึง 470 ล้านเหรียญฯ (จากทุนสร้างราว 200 ล้าน) วอร์เนอร์จึงตัดสินใจไฟเขียวภาคต่อ โดยดึง อดัม วินการ์ด ที่กำกับภาคก่อนกลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง‘Godzilla x Kong : The Empire’ เล่าถึงสองมอนสเตอร์ที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่คราวนี้แทนที่พวกมันจะสู้กัน กลับต้องแท็กทีมเพื่อปกป้องโลก จากอสูรตัวใหม่ที่ถือกำเนิดใน Hollow Earth หรือโลกใต้โลก ดินแดนลึกลับที่เหล่าไททั่นใช้ชีวิตอยู่ในนั้น แต่หนึ่งในมอนสเตอร์กลับจะขึ้นมายังโลกมนุษย์ กลายเป็นหน้าที่ของ โมนาร์ค องค์กรที่ควบคุมก็อดซิลล่าและเหล่าไททั่นมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ต้องทำทุกทางเพื่อหยุดวิกฤตหายนะครั้งนี้ สำหรับหนังภาคนี้ได้ รีเบ็คก้า ฮอลล์ จาก Iron Man 3 กลับมารับบท ดร.ไอลีน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ สังกัดองค์กรโมนาร์คอีกครั้ง ร่วมด้วย ไบรอัน ไทรี เฮนรี่ ที่กลับมาจากภาคก่อนเช่นกัน ประกบสมาชิกใหม่อย่าง แดน สตีเว่น (พระเอก Beauty and the Beast) ร่วมทีมนักวิทยาศาสตร์ เพื่อไปตะลุยในฮอลโลว์เอิร์ธโดยรวม ‘Godzilla x Kong : The Empire’ คือหนังที่สร้างมาเพื่อเอาใจแฟนหนังมอนสเตอร์โดยเฉพาะ เรียกว่าเป็น แฟนเซอร์วิส เต็มๆเลยก็ว่าได้ เพราะจัดเต็มฉากสัตว์ประหลาดแบบเต็มสูบ และแทบจะลดเส้นเรื่องของมนุษย์ให้ลดลงมากที่สุด แน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่นสุดของหนัง คือ ฉากแอ็กชันของเหล่ามอนสเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการ ก็อดซิลล่ากับคองที่ต้องปะทะกัน หรือฉากที่ต้องสู้กับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ หนังให้เวลากับฉากเหล่านี้เยอะมาก ซึ่งน่าจะสะใจสำหรับแฟนหนังสัตว์ประหลาดที่อยากมาดูฉากบู๊แบบเต็มที่ หนังแทบจะไม่เสียเวลาเล่าเรื่องอะไรมากนัก จุดดีคือ ทำให้หนังค่อนข้างเดินเรื่องไว แทบจะเร่งสปีดการเล่าเพื่อข้ามไปฉากต่อสู้เลย แต่ข้อเสียคือ เมื่อหนังไม่ได้เน้นการเล่าเรื่อง ผู้ชมบางส่วนก็อาจจะอินกับหนังน้อยลง เพราะแทบจะไม่ให้เวลาในการปูตัวเรื่องใด ๆ เลยสิ่งที่เซอร์ไพรสในหนังภาคนี้ คือเส้นเรื่องของ คอง หนังใช้เวลาพอสมควร ในการเล่าพาร์ทที่ตัวละครคอง ต้องย้ายจากเกาะกระโหลก เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกใต้โลก หรือ ฮอลโลว์เอิร์ธ ซึ่งเป็นพาร์ทไร้ตัวละครมนุษย์ จนแทบจะเป็นหนังใบ้ด้วยซ้ำ แต่กลับทำออกมาได้น่าติดตาม และน่าประทับใจมาก ๆ แต่พาร์ทที่แม้จะลดความสำคัญลงแล้ว แต่ยังคงแอบน่าเบื่อ คือ เส้นเรื่องฝั่งมนุษย์ หนังไม่สามารถสร้างตัวละครที่น่าติดตามได้เลย มีเพียงตัวละครแทรปเปอร์ ตัวละครใหม่ของ แดน สตีเว่น ที่ดูน่าติดตามอยู่บ้าง ตัวบทพูดก็ยังคงดูเป็นหนังการ์ตูน แทบจะไม่มีความสมจริงใดๆด้วยซ้ำ ส่วนพาร์ทที่น่าเสียดาย น่าจะเป็น ก็อดซิลล่า ที่แอร์ไทม์ซึ่งปรากฏตัวบนจอ น้อยกว่า คองแบบเห็น ๆ ซึ่งกว่าจะได้เห็นทั้งสองตัวแท็กทีมกัน ก็ปาไปช่วงท้ายแล้วสรุป ‘Godzilla x Kong : The Empire’ คือหนังแฟนเซอร์วิส เพื่อเอาใจแฟนหนังแอ็กชันสัตว์ประหลาดโดยเฉพาะ เหมาะกับการเป็นหนังป็อปคอร์นที่ดูง่ายฆ่าเวลา แต่ถ้าใครมีโอกาสขอแนะนำระบบ IMAX3D ที่เสริมอารมณ์ร่วมให้หนังได้ดีมาก เพื่อความตระการตาแบบสุด ๆ โดยเฉพาะฉากในฮอลโลว์เอิร์ธที่เหมือนทำให้เราหลุดไปอยู่ในโลกใต้โลกกับตัวละครจริงๆ ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่สุดลูกหูลูกตาของสถานที่แห่งนี้ รวมถึงฉากต่อสู้ของเหล่ามอนสเตอร์ ที่บวกกับมุมกล้อง ทำให้ผู้ชมเหมือนนั่งเฮลิคอปเตอร์ บินอยู่ข้างๆพวกมันระหว่างไฟต์กัน เหมือนดูนั่งขอบสนามเลยก็ว่าได้ ถ้ามีโอกาส ลองเลือกระบบนี้ในการรับชมภาพ : Warner Bros. Thailand