07 เม.ย. 2022
[REVIEW] “Fast & Feel Love” มองชีวิตให้แอ็กชัน เพิ่มความมันส์ด้วย Parody | GOSSIP GUN
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมชื่อหนังเรื่องนี้ถึงได้คล้ายกับFast Furious (แถมฟอนต์ยังใช่อีกต่างหาก)เพราะหนังยาวเรื่องที่8ของ เต๋อ นวพล(และเป็นเรื่องที่3ในค่ายจีดีเอช)ต้องการเล่าเรื่องราว ความฝันและความสัมพันธ์ของหนุ่มสาววัย30ด้วยท่าทีแบบหนังแอ็กชัน แต่ในขณะเดียวกันก็Parodyหนังแนวนี้ไปด้วย ชื่อหนังมันเลยออกมากวนโอ๊ยแบบนี้ บ่งบอกทิศทางของหนังได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าหลายคนดูตัวอย่างแล้ว อาจจะยังไม่เก็ตว่าFast Feel Loveมันเป็นหนังอย่างไรกันแน่ ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะต้องมาดูหนังจริงๆถึงจะเข้าใจ มันเป็นMood Toneที่ประหลาดแต่น่ารสชาติดี เป็นหนังทดลองในแบบที่ลายเซ็นต์ของ เต๋อ นวพล ชัดเจนไปหมด ศูนย์กลางของFast Feel Loveคือ เกา(รับบทโดย ณัฏฐ์ กิตจริต)ชายวัยย่างเข้า30ที่ทั้งชีวิตเขามีแต่กีฬาSport Stackingหรือการเรียงและเก็บแก้วให้เร็วที่สุด หลังจากเขาเป็นทำสถิติระดับโลกมาแล้ว เขาต้องทำทุกทางเพื่อที่จะรักษาความเป็นแชมป์เอาไว้ ทุกอย่างรอบตัวนอกจากการเล่นกีฬา จึงขึ้นอยู่กับ เจ(รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา)แฟนสาวที่คอยดูแลธุระทั้งหมดแทนเขา จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป เจเริ่มรู้สึกว่า เวลาทั้งหมดของเธอถูกทุ่มไปเพื่อให้แฟนหนุ่มสานฝันเพียงคนเดียว ในขณะที่ฝันของเธอเองถูกละเลย จึงถึงเวลาที่เธอจะก้าวออกมา ในขณะเดียวกัน เกาก็ต้องสานฝันตัวเองให้สำเร็จ พร้อมกับแบกรับภาระมากมาย ที่เขาไม่เคยต้องเผชิญมาก่อน(เพราะมีแฟนสาวคอยช่วยมาโดยตลอด) ก่อนจะดูFast Feel Loveผู้เขียนพร้อมเดินเข้าโรง ด้วยความหวังว่ามันจะตลกนำ เพราะจากตัวอย่างหนัง เต็มไปด้วยParodyหนังดังมากมาย บางซีนล้อเลียนแบทแมน,บางฉากล้อStar Wars,บางประโยคหยิบยืมมาจากTakenใครที่เป็นคอหนังอยู่แล้ว น่าจะเพลิดเพลินกับReferenceมากมายที่ เต๋อ นวพล หยิบมาใส่ในหนัง แต่ปรากฏว่า สิ่งที่ชอบและกระแทกใจมากที่สุด กลับเป็นMessageมากมายที่ถาโถมเข้ามา ยิ่งสำหรับผู้ชมในวัย30+ที่กำลังอาจเผชิญวิกฤตในแบบเดียวกับตัวละคร น่าจะอินกับหนังได้มากเป็นพิเศษ ระหว่างดูเหมือนพี่เต๋อจะบอกเราว่า โลกทุกวันนี้ มันหมุนไปไวยิ่งกว่าเดิมทุกวัน ในสังคมรอบตัวที่ดูเร่งรีบไปเสียหมด อะไรต่างๆก็กลายเป็นแข่งขัน สื่อมาจากคำว่าFastในชื่อหนัง และกีฬาประเภทSport Stackingที่เล่นกับความเร็ว เฉือนชนะกันด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที โดยยกตัวอย่าง คนวัย30+ที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจ ตัวเองชนะทุกสิ่ง แบบพระเอก ที่ตอนนี้กำลังถูกเด็กรุ่นใหม่มันแซงไปเสียแล้ว เขาเคยเครียด เขากังวล ว่าจะช้าไปกว่าคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ทำได้คือ เราต้องเปิดใจและยอมรับในความเป็นไป เรียนรู้ในมุมมองใหม่ๆ ที่คนรุ่นใหม่เห็น แต่เราอาจจะมองไม่เห็น ตรงนี้อาจจะทำให้เราเร็วยิ่งขึ้น ไม่ใช่เอาแต่วิ่งหนีจากพวกเขา ในขณะเดียวกันที่ทุกอย่างรอบตัวมันไวไปเสียหมด บางทีเราไม่จำเป็นต้องรีบไปกับมันตลอดเวลาก็ได้ มีจังหวะที่เราต้องเร็วเพื่อตามให้ทัน จนไม่กลายเป็นคนตกยุค แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีจังหวะผ่อนลง เพื่อใช้ชีวิต เพื่อให้เวลากับคนรอบข้าง เพื่อสัมผัสความรัก สิ่งในหนังคือคำว่าFeel Loveเล่าผ่านตัวละคร เจ ของญาญ่า ตัวละครนี้กำลังสื่อว่า ไม่มีเวลาอะไรที่ผ่านไปโดยน่าเสียดาย ทุกช่วงเวลาในชีวิต ล้วนมีค่าเสมอ แม้แต่ช่วงเวลาที่เราอาจจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง เวลาที่เราทุ่มให้กับคนอื่น มันก็ยังมีคุณค่า จากการแข่งขันที่ตัวละครหลักกำลังทำทุกทางเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์เอาไว้ หนังพยายามจะบอกกับเราว่าไม่จำเป็นต้องเอาชนะในทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องชนะตลอดเวลา บนโลกใบนี้มีคนเก่งกว่าคุณอีกเป็นแสนเป็นล้านคน บางคนเขาอาจจะไม่เปิดเผยตัวเลยด้วยซ้ำ วันที่คุณคิดว่าชนะ บางทีอาจจะไม่ได้ชนะจริงก็ได้ สิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากๆ มันอาจจะเป็นเสี้ยวเดียวของชีวิตบางคน หนังพยายามจะบอกว่า เมื่อเราเติบโตขึ้น ชีวิตจะมีอะไรเข้ามาอีกมากมาย มีสิ่งที่สำคัญนอกจากความฝันที่เราต้องทำ มีสิ่งสำคัญของคนรอบข้างที่เราอาจจะมีส่วนช่วยให้เป็นเป็นจริงได้ และในขณะเดียวกัน ก็รอบตัวก็อาจมีส่วนสำคัญในเส้นทางพาเราไปสู่ฝันเช่นกัน แม้แต่ในกีฬาประเภทเดี่ยว ในที่สุดคุณก็ไม่มีทางชนะด้วยตัวคนเดียวได้ มีคนรอบข้างอีกมากมายที่จะพาคุณไปยังจุดนั้น Fast Feel Loveเป็นหนังที่เอาชีวิตธรรมดาๆ คนวัย30กว่าที่ยังคงเหนื่อยกับการไล่ตามความฝัน เหนื่อยกับการตัดสินใจว่าชีวิตจะเอายังไงดี มาเล่าว่า ทุกวันนี้ชีวิตมันยากเย็นแค่ไหน คุณเก่งแค่ไหนที่ต้องผ่านด่านยากๆในแต่ละวันไปได้ ชีวิตมันช่างเหมือนหนังแอ็กชันจริงๆนะ หนังหยิบอินไซด์ของคนวัยรุ่นตอนปลายมาเล่าเยอะมาก นี่เราต้องซื้อกองทุนอีกแล้วหรอเนี่ย นี่เราจะต้องมีลูกแล้วหรอ มันยืดเวลาออกไปอีกไม่ได้แล้วใช่ไหม ร่างกายเราอนุญาตให้มีเวลาแค่นี้นี่เราต้องนั่นนู่นนี่อีกแล้วหรอเนี่ย เป้าหมายชีวิตก็ต้องจัดการ เวลามันหายไปไหนหมด มันเป็นหนังชีวิตที่เล่าให้เป็นหนังตลกด้วยท่าทีแบบหนังแอ็กชัน มันแปลกประหลาด สมกับเป็น เต๋อ นวพลจริงๆ ตลกหน้าตายแต่คมคายโคตรๆ นี่ถือเป็นหนังพี่เต๋อที่ดูง่าย แต่ไม่ง่ายที่จะอินไปกับมัน ท้ายที่สุดมันก็เป็นหนังทดลองอยู่ดี มันเคยมีที่ไหนกัน จะเล่าชีวิตที่แสนจะธรรมดา ด้วยจังหวะแบบหนังเอพิค แล้วล้อเลียนPop Cultureไปด้วย จึงต้องอาศัยการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบเดียวกับผู้กำกับพอสมควร ถ้าคนคุยภาษาเดียวกัน คุยเรื่องเดียวกัน โตมาในสภาพแวดล้อมคล้ายๆกัน ก็คงสนุกไปกับเรื่องนี้ ถ้าคุณไม่อิน ไม่เก็ต หรือไม่สนุกกับมัน คุณไม่ผิดเลย เขาแค่เล่าในภาษาของเขา ที่ไม่ใช่ทุกคนจะต้องเข้าใจ หลายซีนที่เรานั่งขำอยู่คนเดียวในโรง แม้แต่คนข้างๆยังไม่ขำ พวกคุณคือคนทั่วไป เราต่างหากที่เข้าใจอะไรแปลกๆที่เขาพยายามจะนำเสนอ ภายใต้ลุคของหนังที่ดูทีเล่นทีจริง แซวชาวบ้านเขาไปทั่ว สิ่งที่หนังพยายามจะบอกกับผู้ชม เป็นประเด็นที่สาหัสใช่เล่น หรือนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ พี่เต๋อ อยากจะบอกว่า แม้ชีวิตจะหนักหนาแค่ไหน เราสามารถมองมันในอีกแง่มุมเพื่อให้บรรเทาลงได้ ชีวิตประจำวันอันแสนน่าเบื่อ ถ้าเรามองให้แอ็กชัน เราก็จะมันส์ไปกับทุกสิ่ง ชีวิตประจำวันที่แสนจะหนักหนาเคร่งเครียด ถ้าเรามองให้มันตลก เราก็อาจจะตลกกับมันได้Fast Feel Loveจึงเป็นเหมือนตัวอย่างที่ผู้กำกับอยากจะทดลองให้ผู้ชมเห็นว่า ลองเปลี่ยนมุมมอง ชีวิตอันแสนเรียบง่ายเราอาจจะสนุกขึ้น หรือชีวิตอันแสนลำบาก น่าจะผ่อนคลายลงก็เป็นอันได้(ให้9คะแนนจากคะแนนเต็ม10คะแนน)