[REVIEW] ‘Transformers : Rise of the Beasts’ จุดกำเนิดใหม่แฟรนไชส์จักรกลถล่มจักรวาล | GOSSIP GUN

HOLLYWOOD GOSSIP

[REVIEW] ‘Transformers : Rise of the Beasts’ จุดกำเนิดใหม่แฟรนไชส์จักรกลถล่มจักรวาล | GOSSIP GUN

12 มิ.ย. 2023

สำหรับสตูดิโออย่างพาราเมาต์แล้ว Transformers คือแฟรนไชส์ระดับพันล้านที่ไม่สามารถปล่อยมือไปง่ายๆ ยิ่งกับฮาสโบร บริษัทต้นกำเนิดที่ผลิตของเล่นยิ่งปล่อยไปไม่ได้ใหญ่ หลังจากหนัง Transformers ฉบับของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ สร้างออกมาได้ถึง 5 ภาค แต่กลับทำรายได้ลดลงเรื่อยๆ (โดยเฉพาะภาคที่ 5 ที่พังทั้งรายได้และคำวิจารณ์) ทำให้พาราเมาต์และฮาสโบรพยายามหาหนทางใหม่เพื่อกู้ชีพให้กับแฟรนไชส์ เริ่มจากการสร้างภาคแยกต้นกำเนิด Bumblebee ที่แม้จะไม่ได้ทำเงินเท่าหนังเวอร์ชั่นเบย์ แต่ก็กู้ศรัทธาแฟนๆได้มากโข ด้วยรีวิวที่บวกยิ่งกว่าภาคไหนๆ และความพยายามครั้งล่าสุดกับ 'Transformers : Rise of the Beasts' ที่ถูกวางให้เป็นหนัง Prequel หรือภาคก่อนหน้าของ Transformers ภาคแรก ด้วยการเล่าเหตุการณ์ในปี 1994 พร้อมดึงตัวละครเก่าที่แฟนๆคิดถึงอย่าง อ็อพติมัส ไพรม์ และบัมเบิลบีกลับมาแบบครบทีม

.

หนังพาผู้ชมกลับสู่นิวยอร์กในยุค 90s เมื่อโลกกำลังตกอยู่ในอันตรายจากยูนิครอน ตัวร้ายที่กลืนกินดาวแต่ละดวงเป็นอาหาร และเป้าหมายใหม่ของมันคือ โลกมนุษย์ เพราะที่แห่งนี้ คือที่หลบซ่อนของ แม็กซิมัล จักรกลสังหารที่หนีมาหลบซ่อนที่โลก หลังดาวของพวกมันถูกทำลาย โดยชะตากรรมของโลกตกอยู่ในมือของ โนอาห์ (รับบทโดย แอนโธนี่ รามอส จาก In The Heights) หนุ่มตกงานที่พยายามทำทุกทางเพื่อปกป้องครอบครัว หลังเขาพยายามจะขโมยรถหรู แต่กลับพบว่า รถคันนี้คือ มิราจ หุ่นออโต้บ็อตที่อำพรางตัวไว้ (ให้เสียงโดย พีท เดวิดสัน) มิราจได้พาโนอาห์ไปเจอกับทั้ง อ็อพติมัส ไพรม์ และบัมเบิลบี จนรู้ถึงสถานการณ์อันวิกฤตของโลก ณ ขณะนี้ และทางเดียวที่จะหยุดมันได้ คือการตามหา กุุญแจทรานส์วาร์ป ที่ซ่อนอยู่บนโลกใบนี้ และคนเดียวที่จะช่วยพวกเขาตามหาได้คือ เอเลน่า นักวิจัยสิ่งประดิษฐ์ที่เชี่ยวชาญวัตถุโบราณ ซึ่งบทนี้ได้ โดมินิก ฟิชแบค จาก Project Power มาสวมบท

อาจกล่าวได้ว่า Rise of the Beasts คือภาคที่กลับมากู้ศรัทธาให้กับแฟรนไชส์ Transformers อีกครั้ง มันมีส่วนผสมที่กำลังพอดี ของความเป็นหนังป็อปคอร์นซัมเมอร์ แบบที่ ไมเคิล เบย์ เคยทำไว้ กับหนังฟอร์มยักษ์แบบที่ใส่หัวใจลงไป เน้นความผูกพันของตัวละครแบบใน Bumblebee เมื่อทางผู้สร้างพยายามจับเอาข้อดีของหนังทั้งสองแบบมารวมกัน กลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนของ Transformers ภาคหลักก็จะเอ็นจอยในภาคนี้ได้ ในขณะเดียวกันคนที่เพิ่งมาตกหลุมรักจาก Bumblebee ก็น่าจะไม่ได้มีปัญหากับหนังภาคนี้ ถ้าให้วาดเป็นกราฟในแง่ของคุณภาพหนัง อาจกล่าวได้ว่า Rise of the Beasts นี่คือขาขึ้นอีกครั้งของแฟรนไชส์ หลังพยายามปลุกผีกันมาแล้วใน Bumblebee หลังจากภาคนั้นแยกไปแค่ตัวละครเดียว ภาคนี้แฟนๆจะได้เจอกับตัวละครที่ชอบแบบจัดเต็มอีกครั้ง

ไฮไลต์สำคัญของ Transformers : Rise of the Beasts คือความสนุกในแบบที่ผู้ชมทุกวัยน่าจะชอบ มันมีความครบรส เล่าเรื่องกระชับฉับไว ไม่เสียเวลาในการเล่าอะไรทั้งนั้น ตัดสลับกับฉากแอ็กชันที่ตื่นเต้นเร้าใจ และตระการตาในหลายๆฉาก มันมีทั้งส่วนผสมของการดูหนังแอ็กชันแบบหุ่นยนต์ต่อสู้ มีแบบการปะทะกันกับเอเลี่ยนนอกจาก ไปจนถึงฉากซิ่งรถไล่ล่า เรียกว่าคอหนังบู๊น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งมาดูในระบบ IMAX3D ยิ่งเต็มอารมณ์เต็มตาแบบคุ้มค่าบัตรอยู่ไม่น้อย แม้ว่าภาคนี้ฉากใหญ่ปิดท้ายจะไม่ได้ทำลายเมืองแบบในหลายๆภาค แต่พอย้ายมาอยู่ในป่าธรรมชาติ ก็ได้อารมณ์น่าสนใจไปอีกแบบ ตื่นตาไม่แพ้กัน

จุดเด่นมากๆที่ทำให้ Transformers : Rise of the Beasts มีความสดและแตกต่าง คือการที่หนังเลือกเล่าในบรรยากาศของยุค 90s ยุคสมัยที่มีเอกลักษณ์ในอีกช่วงเวลา ในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้ามาก กำลังเข้าสู่ยุคดิจิตัล เสริมด้วยไฮไลต์สำคัญคือเพลงประกอบ ที่เลือกเอาเพลงจากในยุคนั้นมาใส่ ยิ่งเพิ่มความเท่ความคูลให้กับหนังไปอีกชุดใหญ่ (โดยเฉพาะแฟนเพลงแนวฮิปฮอปน่าจะกรี๊ดกันไปหลายต่อหลายรอบ) และนอกจากแฟนๆจะได้เต็มอิ่มกับกลุ่มตัวละครออโต้บอทส์ที่พวกเขาชอบแล้ว สิ่งที่เพิ่มอรรถรสให้กับหนังได้ดีมากๆ คือกลุ่มตัวละครแม็กซิมัล กลุ่มจักรกลสังหารที่ แม้จะเหมือนหุ่นยนต์ แต่รูปร่างกลับเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับหนังได้อีกไม่น้อย แถมยังมีนักแสดงรางวัลออสการ์ปีล่าสุดอย่าง มิเชลล์ โหย่ว มาให้เสียงเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมอีกด้วย ยิ่งเด็ดเข้าไปใหญ่

โดยรวม Transformers : Rise of the Beasts ถือว่าเป็นความพยายามครั้งใหม่ที่ไม่สูญเปล่า มันเป็นหนังที่แฟนๆของ Transformers น่าจะชื่นชอบได้ไม่ยาก (ส่วนตัวชอบมากที่สุดนับตั้งแต่ Transformers ภาคแรก) และน่าจะเป็นหนังที่โกยแฟนใหม่ได้เช่นกัน นี่ถือเป็นความพยายามในการสร้างจักรวาลใหม่ของ พาราเมาต์ที่น่าจับตา หนังมาพร้อมกับเซอร์ไพรสหลายอย่างที่น่าจะทำให้แฟนๆร้องกรี๊ดอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะฉากปิดท้ายของหนังที่อยากให้ทุกคนนั่งรอดูให้จบ แล้วเราจะได้เห็นถึงสิ่งที่พาราเมาต์เขาวาดฝันไว้กับหนังแฟรนไชส์ชุดนี้

ชมตัวอย่าง Transformers : Rise of the Beasts วันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

ภาพ : UIP Thailand

related HOLLYWOOD GOSSIP

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

17 ก.ย. 2024

[REVIEW] ‘Transformers One’ นี่คือภาค Prequel ที่ติ๊กถูกแทบทุกข้อ ปลุกชีพทรานส์ฟอร์มเมอร์อย่างดีงาม

ถ้าพูดถึงสถานะของแฟรนไชส์ตระกูล Transformers แล้ว ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่า อยู่ในลักษณะลุ่มๆดอนๆ เพราะหลังจาก ไมเคิล เบย์ ปั้นหนังตระกูลนี้มากับมือ จนกวาดเงินระดับพันล้าน ในภาคที่ 3-4 แต่เขาเองก็ทำให้แฟรนไชส์นี้มาอยู่ในขาลง ด้วยคุณภาพของภาคสุดท้ายที่เขากำกับอย่าง Transformers : The Last Knight ที่ยุ่งเหยิงจนน่าตกใจ ส่งผลให้รายได้และความนิยมหล่นฮวบไปด้วย แต่ทางพาราเมาต์และฮาสโบร (เจ้าของสิทธิ ผู้ผลิตของเล่นชุดนี้) ก็ไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ ด้วยการเริ่มสร้าง Bubblebee หนัง Spin-Off ตัวละครที่แฟนๆรัก ต่อด้วย Transformers : Rise of the Beasts ที่ทำหน้าที่เป็น Prequel ทั้งสองภาคได้รับคำชมพอสมควร แม้รายได้จะกระเตื้องขึ้น แต่ก็ยังไม่มากนัก จนมาถึงความพยายามครั้งล่าสุดกับ ‘Transformers One’ ครั้งแรกที่ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ถูกสร้างเป็นหนังใหญ่ด้วยการเป็นหนังแอนิเมชั่น พร้อมย้อนกลับไปเล่าต้นกำเนิดของสองตัวละครหลักอย่าง ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอนก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นศัตรู ทั้งคู่คือมิตรสหายกันมาก่อน นี่คือธีมหลักของ ‘Transformers One’ ที่เล่าเหตุการณ์ก่อน Transformers ทุกภาค และเป็นภาคแรกที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวบนโลกมนุษย์ และไม่มีตัวละครมนุษย์แม้แต่คนเดียว เพราะหนังได้พาผู้ชมไปยังดาวต้นกำเนิดของ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ในยุคสมัยที่ ออพติมัส ไพรม์ และ เมกะตรอน ยังเป็นเพียงหุ่นยนต์ใช้แรงงานในเหมือง พวกเขาไม่มีพลังในการแปลงกายด้วยซ้ำ ใช้ชีวิตไปวันๆในฐานะกรรมกร แต่แล้วสถานการณ์กลับพลิกพัน ทำให้พวกเขาต้องออกผจญภัยไปยังพื้นผิวของดาว พื้นที่รกร้างที่ไม่มีหุ่นยนต์ตัวไหนอาศัยอยู่ได้ เพื่อค้นหาขุมพลัง ที่หายไปนานถึง 500 ปี จนกระทั่งเจอกับความลับบางอย่าง ที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเขาไปตลอดกาล จากมิตรเริ่มกลายเป็นศัตรู นำไปสู่สงครามจักรกลข้ามจักรวาล ในแบบที่พวกเราได้ชมกันใน Transformers ทุกภาคก่อนหน้านี้แม้หน้าหนังของ ‘Transformers One’ จะเป็นหนังแอนิเมชั่น แต่ตัวหนังเองกลับไม่ได้ทำตัวเป็นหนังเด็กด้วยซ้ำ องค์ประกอบทั้งหมดเหมือนเราดู Transformers ภาคปกติเลย เพียงแค่ผู้สร้างเลือกเล่าในแบบแอนิเมชั่น เพราะหนังไม่ได้มีตัวละครมนุษย์ เส้นเรื่องของ ‘Transformers One’ ยิ่งใหญ่และไปไกลกว่าที่ทุกคนคาดคิด อัดแน่นไปด้วยประเด็นที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าตัวละครใดตัวละครหนึ่ง แล้วหนังก็ประกอบด้วยฉากต่างๆ ที่ทำให้สนุกครบรส ไม่แพ้กับ Transformers ภาคอื่นๆ ทั้งฉากแอ็กชันสุดตื่นตา มาพร้อมกับสเกลที่ใหญ่มากๆ สอดแทรกด้วยซีนตลกอารมณ์ขัน ที่มีจังหวะมุกแบบพอดิบพอดี และปิดท้ายด้วยฉากชวนหึกเหิมและประทับใจ ที่ได้ค่อนข้างดีเลย กลายเป็นว่า ‘Transformers One’ คือหนังบันเทิงที่สนุกลงตัวมากที่สุดเรื่องหนึ่งในแฟรนไชส์นี้ทั้งหมด ในแง่ของพล็อตก็เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่เป็นเชื่อมต่อกับภาคหลักอย่างพอดิบพอดี ในขณะที่ตัวหนังเอง ก็มีเอกลักษณ์ในแบบของมัน สามารถดูได้ในฐานะหนัง Stand Alone เช่นกันอย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อ ‘Transformers One’ มีคุณภาพในฐานะหนัง Prequel (หนังที่เล่าเหตุการณ์ก่อนภาคหลัก) ที่ครบถ้วน ทำให้ผู้ชมที่ดูภาคหลักแล้ว รู้สึกสมบูรณ์กับเรื่องราวมากขึ้น ในขณะเดียวกันใครที่ไม่เคยดู Transformers มาเลย หนังก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ในการชักชวนให้อยากไปชมภาคอื่นๆในแฟรนไชส์นี้ต่อ ระหว่างดู ผู้เขียนนึกถึงหนังเรื่องอื่นอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ X-Men : First Class ทั้งในแง่คุณภาพ และในแง่โครงหลักของเรื่อง ซึ่งเล่าถึงสองตัวละครที่ผู้ชมรู้จักพวกเขาในฐานะศัตรู แต่ในภาคนี้พาย้อนกลับไปสมัยที่ยังเป็นมิตร อะไรคือจุดแตกหักที่ทำให้ทั้งสองต้องไปคนละทิศคนละทาง อีกหนึ่งคือ Spider-Man Into The Spider-Verse ในฐานะหนังภาคแยกที่วางตัวเป็นแอนิเมชั่น แต่กลับกินคาดในแง่คุณภาพ ความลงตัว จนเป็นที่โปรดปรานในกลุ่มแฟนประจำของแฟรนไชส์ สำหรับ ‘Transformers One’ มีสถานะเช่นนั้นอยู่ ใครที่อาจจะเบื่อหน่ายกับทรานส์ฟอร์มเมอร์แล้ว ขอเชียร์ว่าอย่าเพิ่งรีบหมดใจและมองข้ามภาคนี้ นี่เป็นเหมือนภาคที่พา Transformers เข้าใกล้จุดพีกอีกครั้ง ส่วนใครที่ไม่เคยชมมาก่อน ก็สามารถมาเปิดตัวกับภาคนี้ได้เช่นกัน เป็นหนัง Transformers ภาคที่มีหัวใจมากที่สุด ครบเครื่องสุดภาคะนึงเท่าที่มีมาเลยทีเดียวชมตัวอย่าง Transformers One เข้าฉาย 26 กันยายนในโรงภาพยนตร์(เปิดรอบพิเศษ 20-22 กันยายนนี้ ช่วงบ่ายถึงค่ำ)

album

0
0.8
1