“ฉันจะไม่เล่นหนังแอ็กชันอีกแล้ว ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเปลี่ยนใจหรือเปล่านะ แต่สำหรับตอนนี้ฉันพอก่อนสำหรับฉากแอ็กชัน”- มากกว่า 30 ปีในการทำงาน นักแสดงตัวแม่แห่งเกาหลี “จอนโดยอน” แทบไม่เคยแสดงในหนังแอ็กชันมาก่อน นับตั้งแต่เธอประกาศศักดา เป็นชาวเกาหลีคนแรกที่ ชนะรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจาก เทศกาลหนังเมืองคานส์ ด้วยผลงานอย่าง Secret Sunshine (2007) ผู้สร้างหนังมักหยิบยื่นบทในโทนที่ค่อนข้างดาร์กให้กับเธอมาโดยตลอด จอนโดยอน ในวัย 50 ปี กำลังมองหาเส้นทางใหม่ๆให้กับตัวเอง เธออยากจะก้าวออกจากเซฟโซนด้วยผลงานการแสดงใน Genre อื่นๆ ในปี 2023เธอพิสูจน์ความเป็นนักแสดงคุณภาพที่สามารถแสดงได้หลากหลายทาง ในซีรีส์โรแมนติกเบาสมอง “Crash Course in Romance” ที่ทุบสถิติเรตติ้ง ติด Top10 ซีรีส์เกาหลีที่ยอดผู้ชมมากที่สุดตลอดกาลในช่องเคเบิ้ล และยังไม่ทันพ้นไตรมาสแรก เธอขอพิสูจน์ฝีมือในบทบาทสุดท้าทายอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง “Kill Boksoon” ภาพยนตร์แอ็กชันดุเดือดที่ผสมผสานเข้ากับอารมณ์ตลกร้าย นี่คือหนังที่เธอพร้อมจะประกาศศักดาอีกครั้ง ว่า จอนโดยอน คือตัวจริงที่จัดเต็มได้ในหนังหรือซีรีส์ทุกรูปแบบ
“ฉันไม่คิดว่า Kill Boksoon จะออกฉายเร็วขนาดนี้ เพราะว่าผู้ชมยังติดภาพฉันจาก Crash Course in Romance อยู่เลย ถึงขั้นมีคนแซวว่า นัมแฮงซอน มีชีวิต 2 ด้านหรือเปล่านะ” - จอนโดยอน เผยถึง 2 ผลงานล่าสุดของเธอ ที่ออกฉายต่อเนื่องทางNetflix ซึ่งมีจุดเชื่อมโยงเหมือนเดิม คือ ฐานะของความเป็น “แม่” ใน Crash Course in Romance เธอรับบท นัมแฮงซอน อดีตนักกีฬาทีมชาติ ที่มาเปิดร้านอาหารเครื่องเคียง เธอคือคุณน้าที่ต้องดูแลหลานคนเดียว หลังจากแม่ของเธอทิ้งไป แม้เธอจะไม่ได้เป็นแม่ที่ให้กำเนิด แต่เธอก็ดูแลหลานคนนี้เหมือนลูกแท้ๆ ส่วนใน Kill Boksoon เธอรับบทเป็น กิลบกซุน นักฆ่าตัวแม่ที่ทุกคนในวงการให้การยอมรับ แต่กลับเผชิญการตัดสินใจอันยากลำบาก เมื่อลูกสาวเริ่มเติบโตเป็นวัยรุ่น เธอจึงคิดจะวางมือเพื่อไปทำหน้าที่ คุณแม่แบบ Full Time แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะแวดวงนักฆ่า ใช่ว่าใครจะวางมือกันไปง่ายๆ
Kill Boksoon คือผลงานหนังแอ็กชันเรื่องแรกของ “จอนโดยอน” งานใหม่ที่เธอตอบรับโปรเจกต์ เพราะต้องการออกจากเซฟโซน เธอถึงขั้นพูดคุยกับผู้กำกับ “บยอนซองฮยอน” ก่อนที่โครงเรื่องจะถูกพัฒนาด้วยซ้ำ ทั้งสองเริ่มพูดคุยกัน ด้วยไอเดียที่ว่า เธออยากแสดงในหนังแอ็กชัน จนในที่สุดโปรเจกต์นี้ ก็กลายเป็นจริง พร้อมทัพนักแสดงระดับคุณภาพชุดใหญ่ เริ่มจาก “ซอลคยองกู” ที่เคยร่วมงานกับผู้กำกับคนนี้มาแล้วจาก The Merciless และ Kingmaker เขารับบทมินคยู ซีอีโอ ของบริษัท เอ็มเค องค์กรนักฆ่ายักษ์ใหญ่ที่บกซุนสังกัด นอกจากจะเป็นเจ้านายแล้ว เขาคือผู้มีพระคุณ เป็นอาจารย์ที่มอบโอกาสให้บกซุน ตั้งแต่เธอยังเด็ก นอกจากนี้หนังยังได้ “อีซม” นางแบบนักแสดงชื่อดัง นางเอกจากซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่นแรกในบท มินฮี น้องสาวของมินคยู ผู้บริหารใหญ่ขององค์กรนักฆ่าที่ไม่ถูกชะตากับ บกซุน เพราะพี่ชายให้ความสำคัญกับบกซุนมากกว่า แม้เธอจะเป็นน้องแท้ๆก็ตาม และ “คูคโยฮวาน” นักแสดงที่พิสูจน์ฝีมือมาแล้วจากซีรีส์ D.P. และหนังฟอร์มยักษ์ Escape From Mogadishu มาในบทของ ฮีซอง นักฆ่าที่ถูกขับไล่ออกจากองค์กร ที่มีปมบางอย่างกับบกซุนแอบแฝงอยู่
เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Netflix ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ Kill Boksoon ไปแล้วในเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากผู้สื่อข่าวในเกาหลีจะได้เข้าร่วมงานแล้ว เหล่า Influencer สายหนังและซีรีส์จากทั่วทั้งเอเชีย ก็ได้ร่วมงานดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย และในโอกาสพิเศษนี้เอง ทาง Hollywood GossipGun ก็ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ ผู้กำกับ บยอนซองฮยอน และทีมนักแสดงนำ ทั้ง จอนโดยอน, ซอลคยองกู และอีซม โดยทั้ง 4 คนได้เผยแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้แบบ Exclusive เริ่มจาก จอนโดยอน ที่ทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้อย่างสุดพลัง จนเธอเผยว่า เธอจะไม่เล่นหนังแอ็กชันอีกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า แต่สำหรับตอนนี้เธอขอพอก่อน (อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น)
- จุดเริ่มต้นของ ผู้กำกับ บยอนซองฮยอน และจอนโดยอน -
“ผมไม่แน่ใจว่าพวกคุณจะรู้จักมั้ยนะ แต่ซีรีส์ดราม่าเรื่อง “Our Paradise (1992-1993)” คือผลงานที่ทำให้ผมกลายเป็นแฟนของ จอนโดยอน” - ผู้กำกับ บยอนซองฮยอน เล่าถึงความทรงจำ ครั้งแรกที่เขาได้ดูผลงานการแสดงของเธอและกลายเป็นแฟนการแสดงของ จอนโดยอน นับจากนั้น ต่อเนื่องมาถึง The Contact ภาพยนตร์เรื่องแรกที่จอนโดยอน รับบทนำ - “ผมเป็นแฟนคลับของ ฮันซอกคยู (พระเอก Shiri) อยู่แล้ว ณ ตอนนั้น แล้วพอ จอนโดยอน มาแสดงนำประกบกับเขา ผมเลยยิ่งอึ้งกับการแสดงของเธอไปด้วย”
ผู้กำกับ บยอนซองฮยอน เล่าว่า เดิมทีเขาไม่รู้จักกับ จอนโดยอน เป็นการส่วนตัว แต่ซอลคยองกู นักแสดงที่เขาเคยร่วมงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง กำลังถ่ายหนังเรื่อง Birthday (2019) กับจอนโดยอนอยู่ คยองกูเลยโทรมาตามให้ไปพบกับเธอ เพราะคยองกูรู้ว่า ผู้กำกับบยอนเป็นแฟนคลับของ จอนโดยอนอยู่แล้ว - “คยองกูแนะนำให้ผมได้รู้จักกับ โดยอนในตอนนั้น มีอยู่วันนึง โดยอนโทรมาหาผม และแสดงความสนใจว่าอยากจะร่วมงานกัน ผมเลยคิดอยู่นานว่าหนังประเภทไหนที่เหมาะกับการร่วมงานกับเธอ เพราะเธอแสดงในหนังชั้นเยี่ยมมามากมาย ซึ่งบทส่วนใหญ่ทั้งดาร์กและมืดมน ผมไม่อยากลงไปต่อสู้กับหนังกลุ่มนั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นหนังชั้นดี ผมอยากจะทำหนังที่เข้าถึงผู้ชมง่ายๆ นั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจว่า เราจะทำหนังแอ็กชันกัน”
บยอนซองฮยอน เล่าต่อว่า หลังจากเขาตัดสินใจจะทำหนังแอ็กชัน เขาเลยนัดคุยกับโดยอน และเล่าถึงไอเดียทั้งหมด เขาเล่าถึงไอเดียว่า - “ผมรู้สึกว่า จอนโดยอนในเวอร์ชั่นคุณแม่ กับ จอนโดยอนในเวอร์ชั่นนักแสดง เป็นสองคนที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อลองนึกถึงหน้าที่ของการเลี้ยงดูเด็กขึ้นมาซักคน และหน้าที่ของนักฆ่าที่ต้องสังหารผู้คน เพียงแค่ผมลองแทนที่ชีวิตของเธอ จากการแสดงเป็นการฆ่าคน มันดูขัดแย้งและน่าสนใจมากๆ และนั่นแหละครับ เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง”
- จากนักแสดงสายรางวัล สู่ผลงานหนังแอ็กชัน -
“ฉันอยากจะลองดู อันที่จริงแล้วฉันอยากลองแสดงหนังในหลายๆแนวดู แต่โอกาสไม่ได้มีง่ายๆ ดังนั้น ฉันเลยมีความสุขมากๆ ตอนที่ บยอนซองฮยอน มาเสนอโปรเจกต์หนังแอ็กชันกับฉัน” - จอนโดยอน เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Kill Boksoon เธอเล่าว่า นี่เป็นครั้งแรกตลอดชีวิตการทำงานเลย ที่เธอตัดสินใจลุยกับโปรเจกต์หนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยที่ไม่ได้อ่านโครงเรื่องด้วยซ้ำ เธอบอกว่า เธอแฮปปี้กับโอกาสในครั้งนี้มาก เลยตอบตกลงแสดงในแบบทันที
“ฉันฝึกซ้อมร่างกายนานถึง 4 เดือนเต็ม” - จอนโดยอน เล่าต่อถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทนำในหนังแอ็กชันเป็นครั้งแรก เธอเผยว่าโดยส่วนตัวแล้วไม่อยากใช้นักแสดงสตันท์เลยด้วยซ้ำ อยากจะเล่นฉากบู๊ทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะบางฉากก็อันตรายเกินไป - “ฉันไม่รู้ว่า มันคือคำที่ใช่หรือเปล่าที่จะอธิบายนะ แต่ตัวละครบกซุนก็มีความอะลุ้มอล่วยในบางครั้ง ดังนั้น ตัวฉันเองก็คงต้องทำเช่นนั้น ฉันคิดว่า มันเป็นทางที่ดีที่สุด ที่จะได้แสดงถึงเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวละคร บนหน้าจอ” - จอนโดยอน เผยว่า เธอใช้เวลาคุยกับผู้กำกับนานมากเพื่อตัดสินใจ ยอมให้ใช้นักแสดงแทนในบางฉาก เธอถึงขั้นขอเวลาผู้กำกับเพิ่ม เพื่อที่จะได้ฝึกฝนร่างกายและฝึึกซ้อมการต่อสู้ เพื่อที่เธอจะสามารถแสดงได้เองในทุกๆฉาก
- หน้าที่ของการเป็นแม่ และหน้าที่การงาน -
จอนโดยอน เล่าว่า ณ จุดเริ่มต้นที่เธอต้องเตรียมตัวสำหรับบทบกซุน เธอคิดว่าบทนี้มันคงไม่ได้ยากอะไรนักหรอก เพราะเธอมีจุดที่เหมือนกับตัวละครบกซุนหลายจุดเลย - “เราต่างเป็นคุณแม่ และต่างก็มีหน้าที่การงานที่ต้องทำ สิ่งที่ต่างอย่างชัดเจน มีเพียงแค่หน้าที่ของงานที่เราต้องทำ ฉันรู้สึกสบายใจ ถึงขั้นใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในตัวละครบกซุนพอสมควร ฉันว่าส่วนที่ยากที่สุดคงหนีไม่พ้น ฉากแอ็กชัน”
แน่นอนว่า Kill Boksoon ไม่ใช่แค่หนังแอ็กชันที่มีแต่ฉากแอ็กชัน แต่ยังมีเรื่องราวของความเป็นแม่ แม้กระทั่ง เรื่องความรักในรูปแบบคนรัก จอนโดยอน บอกว่าเธอจึงต้องพยายามเกลี่ยน้ำหนักให้กับบทให้เหมาะสม เธอเผยว่าเธอคุยเรื่องการเกลี่ยความสำคัญในบทนี้ กับผู้กำกับบยอนบ่อยมาก และเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนๆ เธอมักรับบทแม่ที่ดูใกล้เคียงกับความเป็นแม่ในฝัน แต่คราวนี้ สำหรับบทบกซุน ดูจะเป็นแม่ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า จากประสบการณ์ที่เธอเป็นแม่ในชีวิตจริง
“ในชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างง่ายดายหรอก แต่ฉันคิดว่าหน้าที่การทำงาน น่าจะง่ายกว่าการเลี้ยงลูกนะ เพราะฉันยังพอสามารถควบคุมการงานได้ แต่เมื่อพูดถึงการเลี้ยงเด็กซักคนนั้น หลายอย่างมันเหนือการควบคุมจริงๆ” - จอนโดยอนกล่าวว่า การเลี้ยงลูกนั้น บางอย่างมันก็ไม่มีทางเลือก ต้องยอมรับในสิ่งที่เป็น เธอเลยจริงว่า ระหว่างหน้าที่การงานกับการเลี้ยงลูก อย่างแรกง่ายกว่าเยอะ”
- ดรีมทีมแห่งหนังเข้ม ซอลคยองกู และผู้กำกับบยอนซองฮยอน -
“นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วนะ ที่ผมได้เล่นหนังของ บยอนซองฮยอน” - ซอลคยองกู นักแสดงตัวพ่อของวงการ ที่รับบทประธานใหญ่ขององค์กรนักฆ่า กล่าวถึงการกลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ บยอนอีกครั้ง หลังจากเคยร่วมงานกันมาแล้วใน The Merciless และ Kingmaker - “มันไม่มีเหตุผลที่ผมต้องปฏิเสธนิ ผมแทบจะกลายเป็นแฟนหนังของเขาไปแล้ว ผมชอบเวลาทำงานกับเขาและทีมงานทุกคน นับตั้งแต่ The Merciless พวกเราเป็นทีมเดียวกันมาโดยตลอด และมาทำงานด้วยกันอีกครั้งใน Kill Boksoonผมเลยรู้สึกสบายใจที่มีทีมเวิร์คที่ดี” - ซอลคยองกู กล่าวถึงสาเหตุที่เขาแทบจะไม่ลังเลเพื่อรับบทนี้เลย เขากล่าวต่อว่า นี่คือการร่วมงานกันครั้งที่ 3 และก็มีงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเรา เขาแทบไม่ต้องคิดเลยว่า จะรับหรือไม่รับเล่นเรื่องนี้
“ตอนแรกผมไม่ถามซอลคยองกูด้วยนะ ว่าเขาอยากเล่นไหม” - ผู้กำกับบยอน เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนจะเริ่มต้นโปรเจกต์ เขาเล่าว่า เขาแค่โทรไปหาซอลคยองกู แล้วอีกฝ่ายพูดถึงมาว่า นายมีไอเดียหนังใหม่แล้วใช่มั้ยละ ผู้กำกับเลยตอบไปว่าใช่ ซอลคยองกูเลยบอกว่า งั้นเจอกันในอีก 2 วัน และยังไม่ทันที่ผู้กำกับจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับหนัง เขาก็ตอบรับแสดงในทันที โดยบทนี้ เขาแสดงเป็นมินคยู ประธานใหญ่ของ บริษัท เอ็มเค องค์กรนักฆ่าอันทรงอิทธิพลในหมู่นักฆ่าด้วยกันเอง เขาเป็นคนกำหนดกฏเกณฑ์ และหลักปฏิบัติ ว่าเป็นนักฆ่าต้องทำเช่นไร ซอลคยองกู เล่าถึงตัวละครนี้ว่า - “เขาเปรียบเสมือนพระเจ้า เขาเป็นคนออกกฏ ทุกคนต้องทำตาม แต่กลับมีข้อยกเว้นเดียว และข้อยกเว้นนั้นคือ กิลบกซุน และเขาต้องการให้เธออยู่เคียงข้างเขา เป็นมือขวาตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อบกซุนเริ่มลังเลที่จะไม่ต่อสัญญา เขาจึงต้องทำทุกทางเพื่อให้เธอไม่ไปไหน”
คยองกูเล่าต่อว่า มินคยูนั้น เจอบกซุนตั้งแต่สมัยที่เธออายุเพียง 17 ปี และกลายเป็นอาจารย์ของเธอเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น - “มินคยูเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเป็นเรื่องของบกซุน เขาใจอ่อนเสมอ บางจุดก็เหมือนอารมณ์รักเขาข้างเดียว” - คยองกูเผยว่า แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังแอ็กชัน และอัดแน่นด้วยฉากต่อสู้ตลอดเวลา แต่สำหรับเขามันเหมือนหนังโรแมนซ์มากกว่า ยิ่งกับบุกซุนเขามีความรู้สึกหลงใหลเธอ มากกว่าอยากจะต่อสู้ด้วย
- อีซม แค่ได้ประกบตัวแม่ ก็ไม่มีข้อแม้อะไรอีกแล้ว -
“ฉันรักธีมที่เกี่ยวกับนักฆ่าหญิงมากเลย” - อีซม นักแสดงตัวแม่รุ่นใหม่ กล่าวถึงสาเหตุที่เธอตัดสินใจรับแสดงในหนังเรื่องนี้ นอกจากธีมที่ทำให้เธอสนใจแล้ว สาเหตุสำคัญคือการได้ร่วมงานกับทั้งผู้กำกับและนักแสดงที่เธอให้การเคารพยกย่อง เธอกล่าวว่า ตัดสินใจรับแสดงใน Kill Boksoon ก่อนที่จะอ่านบทหนังเลยด้วยซ้ำ โดยในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น มินฮี น้องสาวของมินคยู ตำแหน่งของเธอคือ Director ของบริษัท คอยดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ควรจะเป็น - “ฉันชอบทิศทางของหนังมากๆ มันดูดิบ ดูจริง ในขณะเดียวกันฉันก็สนุกมากๆด้วยตอนถ่ายทำ ฉันคอยทำตามที่ผู้กำกับนำทางให้ แล้วปรากฏว่า ตัวละครนี้ มีอะไรที่คาดเดาไม่ได้เพียบเลย”
“มันมีฉากที่มินฮี ต้องเอาเท้าดันหน้าของ พี่ชายอย่างมินคยูด้วย โดยปกติฉันมักจะไม่เกร็งเวลาถ่ายทำ
แต่เพราะฉันชื่นชมและยกย่อง คยองกูมากๆ ฉันเลยกังวลอย่างมากตอนที่ถ่ายทำฉากนี้” - อีซมเล่าถึงฉากของเธอกับพี่ชายที่ทำให้เธอแทบจะเล่นไม่ออก แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ อีซมเล่าต่อว่า คยองกูบอกให้เธอเตะหน้าเขาแรงๆได้เลย ทำมันซะ เธอรวบรวมความกล้าและแสดงฉากนั้น เธอเล่าว่า หลังจากถีบเสร็จ เท้าของเธอก็ทั้งสั่นและชาไปเลย
- จากโซลสู่เบอร์ลิน จาก Netflix สู่หน้าจอผู้ชมทั่วโลก -
Kill Boksoon คือหนังเกาหลีที่ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะได้รับเลือกให้ฉายเปิดตัวในเทศกาลหนังนานาชาติเบอร์ลินมาแล้ว และกวาดคำชมกลับมามากมาย ผู้กำกับบยอนเผยว่า เขาค่อนข้างแปลกใจ และไม่นึกมาก่อนว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เพราะเขาเชื่อว่า Kill Boksoon ไม่ใช่หนังประเภทที่จะได้ฉายตามเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลหนังใหญ่ๆอย่างเบอร์ลิน - “ตอนที่ผมได้ข่าวครั้งแรก ผมนึกถึงตอนที่ได้รับเลือกให้ไป เทศกาลหนังเมืองคานส์ สมัยหนังเรื่อง The Merciless มันเป็นความรู้สึกแปลกใจ และไม่คาดคิดมาก่อน นี่ถือเป็นเกียรติมากสำหรับผมและทีมงานทุกคน ที่ได้รับเชิญให้ไปยังเบอร์ลิน”
ในขณะที่ จอนโดยอน ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเทศกาลหนังระดับโลก หลังจากเธอเคยคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก เทศกาลหนังเมืองคานส์มาได้แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับเชิญให้ไปเบอร์บิน - “ก่อนจะไป ฉันสงสัยมากเลยว่า Kill Boksoon จะเป็นหนังที่ผู้ชมในเทศกาลจะรักได้จริงหรอ แต่เมื่อฉันได้นั่งดูหนังพร้อมๆกับทุกคนในงาน ทุกอย่างมันเหลือเชื่อจริงๆ เมื่อได้กระแสตอบรับที่ท่วมท้น
ชมตัวอย่าง Kill Boksoon สตรีมพร้อมกัน 31 มีนาคมใน Netflix
ภาพ : Netflix Thailand