18 พ.ค. 2022
[REVIEW] “The Unbearable Weight of Massive Talent” ป่วนเกินต้านและกินใจเกินคาด คนรักหนังต้องดู! | GOSSIP GUN
นี่คือหนังตลกไอเดียสุดล้ำที่ให้ดาราฮอลลีวูดเล่นเป็นตัวเอง นี่คือจดหมายรักที่คนรักหนังเขียนเพื่อบอกรักการมีอยู่ของศิลปะภาพยนตร์ นี่คือหนังแอ็กชันวายป่วงที่ใครๆก็สามารถเอ็นจอยกับมันได้The Unbearable Weight of Massive Talentคือหนังที่มีองค์ประกอบหลายอย่างเพื่อผู้ชมต่างกลุ่มกันไป มันเริ่มต้นด้วยไอเดียสุดแหวก ที่ได้นักแสดงระดับตำนานอย่าง"นิโคลัส เคจ"มาเล่นเป็นตัวเอง ซึ่งไอเดียที่ว่านี้ มันก็ปรากฏในหนังฮอลลีวูดบ้าง(อาทิ จูเลีย โรเบิร์ต เล่นเป็นตัวเองแบบแว้บๆ ใน Ocean's Twelve)แต่ไม่เคยมีเรื่องไหน เอามาขยายใหญ่ใส่มุกไม่ยั้งแบบเรื่องนี้ จนสามารถเรียกได้ว่า"เคจกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว"และหนังก็สร้างความไฮป์ด้วยการฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลหนังSXSWและกวาดคคะแนน100%ในเว็บมะเขือเน่า(แม้ตอนหลังคะแนนจะลดลงนิดหน่อยก็ตาม) แม้จะแสดงเป็นตัวเอง แต่"นิโคลัส เคจ"ก็ให้สัมภาษณ์ว่า นิค เคจ ฉบับในหนังไม่ได้เหมือนตัวจริงหนัก ในหนังเขาคือดาราที่สิ้นหวังกับอาชีพนักแสดง เพราะตกอับขีดสุด แต่ในชีวิตจริงเขายังคงรักและอินเลิฟกับการแสดงหนัง และด้วย นิคเคจในเรื่องมีหนี้สินมากมาย แถมไม่มีงานใหม่เข้ามา ผู้จัดการเลยเสนองานสุดแปลกให้เขา ด้วยการไปร่วมงานวันเกิดเสี่ยใหญ่ไฮโซ ซึ่งเป็นแฟนเบอร์หนึ่งของ นิคเคจ ด้วยค่าตัวสุดแพง1ล้านเหรียญฯ แน่นอนว่า นิคเคจไม่มีทางเลือกนอกจากบินไปสเปนเพื่อร่วมงานดังกล่าว แต่แล้วทริปสุดชิลล์ก็กลายเป็นภารกิจสุดอันตราย เมื่อซีเอไอ บังคับให้ นิคเคจ ต้องเป็นสายลับให้พวกเขา เนื่องจากเสี่ยใหญ่คนนี้ดันเป็นพ่อค้าอาวุธระดับโลกที่หน่วยงานต่างๆ ต้องการตัว พี่เคจเลยต้องงัดสกิลสายลับจากหนังต่างๆ มาเพื่อปฏิบัติการลับสุดป่วนนี้! ความสนุกที่สุดของMassive Talentคือการรวมฮิต"นิค เคจ"เพราะมันเป็นเรื่องของนักแสดงที่ต้องไปเจอกับแฟนคลับ ดังนั้นผลงานเก่าๆของเขา ก็จะถูกกล่าวถึง พูดถึง นำมาแซว นำมาขยี้ เต็มไปหมด ไล่ตั้งแต่หนังยุค80sอย่างMoonstruckต่อเนื่องด้วยหนังบล็อกบัสเตอร์ยุค90sถึงต้น2000sอย่างเซ็ตThe Rock, Face/Off, Con Airมาจนถึงผลงานยุคหลังๆที่กลายเป็นหนังคัลต์อย่างMandyทั้งหมดถูกแทรกไว้อย่างแพรวพราว ราวกับจักรวาลมาร์เวลฉบับ นิค เคจ หนังเต็มไปด้วยEaster-Eggมากมาย หนังบางเรื่องถูกกล่าวถึง หนังบางเรื่องถูกถ่ายทอดเลียนแบบ หรือบางเรื่องก็โผล่มาแว้บๆเป็นสิ่งของประกอบฉาก ใครที่เป็นแฟน นิคเคจ ก็ต้องจับตาดูให้ดี เพราะไม่รู้ว่าเรื่องไหนจะโผล่มาตอนไหนบ้าง แต่สิ่งที่เซอร์ไพรสและทำให้Massive Talentเป็นมากกว่าหนังแอ็กชันคอเมดี้ทั่วไป คือ ความหลงใหลในศาสตร์ภาพยนตร์ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยมผ่านตัวละคร ฮาวี่(รับบทโดย เพโดร ปาสคาล)เสี่ยใหญ่ที่นอกจากจะเป็นแฟนคลับเคจแล้ว เขาคือ คนรักหนังอย่างเต็มตัว บทสนทนาระหว่างเขากับเคจ เวลาคุยกันเรื่องหนังที่อะไรที่อิ่มเอมใจมาก ผู้ชมจะสัมผัสได้ถึงPassionที่มีอันเต็มเปี่ยมของฮาวี่ จะสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของโลกภาพยนตร์ ที่มันอิมแพ็คต่อคนๆ หนึ่งมากแค่ไหน ซึ่งผู้ชมที่เป็นคนรักหนัง คงรู้สึกเช่นเดียวกับฮาวี่ ในฐานะคนคอเดียวกัน กลุ่มคนที่ตกหลุมรักเสน่ห์ของหนังเช่นกัน คงไม่เกินจริงนัก นี่จะกล่าวว่านี่คือการ"คัมแบ็ค"อย่างแท้จริงของ นิโคลัส เคจ ด้วยปัญหาหนี้สินในชีวิตจริง ทำให้ระยะหลังเขาตัดสินใจรับเล่นหนังจำนวนมาก ซึ่งมักสลับกันไประหว่างหนังเกรดบีรีวิวแย่ กับหนังอินดี้ที่โดนใจนักวิจารณ์ แต่สำหรับMassive Talentมันคือหนังสตูดิโอที่ครบถ้วนในแง่ต่างๆ รวมถึงเฉลิมฉลองเส้นทางในวงการภาพยนตร์ของ นิคเคจ ด้วย ดูเหมือนเขาจะสนุกอย่างแท้จริงในการรับบทนี้ และพลังความสนุกก็ส่งออกมาเต็มๆ ในขณะที่ เพโดร ปาสคาล เกือบจะขโมยซีนในบทฮาวี่ เชื่อว่าผู้ชมจำนวนไม่น้อยจะตกหลุมรักเขาในเรื่องนี้ เพราะพลังบวกที่ส่งออกมา มันเยอะมากๆ และเคมีระหว่าง นิคเคจ กับเพโดร ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะกังขาว่า แล้วถ้าไม่ใช่แฟนคลับ นิโคลัส เคจ หรือไม่ใช่คนที่ดูหนังแบบจริงจัง จะสามารถเอ็นจอยกับMassive Talentได้หรือไม่ คำตอบคือ นี่คือหนังบันเทิงมากๆ เรื่องหนึ่ง ที่คุณสามารถสนุกกับเส้นเรื่องได้ โดยไม่ต้องสนใจEaster-Eggเพราะโครงหลักของมัน ก็ยึดกับภารกิจสายลับจำเป็น ของดาราตกอับ ที่ต้องมาไล่จับอาชญากรที่ดันเป็นแฟนคลับของเขา แค่พล็อตก็ชวนชุลมุนและเอื้อให้เกิดฉากสนุกๆมากมายแล้ว ซึ่งMassive Talentก็ใช้ประโยชน์ตรงนี้ได้อย่างเต็มที่ ดีไม่ดี ดูเสร็จคุณอาจจะไล่ย้อนหาหนังเก่าๆ ของ นิคเคจ มาดูเพิ่มก็ได้(ให้8คะแนนจากคะแนนเต็ม10คะแนน)