LYKN ก็คือหมาป่า และเมื่อ On Stage ขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ต้องรอเวลาให้ Full Moon

EFM FANDOM RECAP

LYKN ก็คือหมาป่า และเมื่อ On Stage ขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ต้องรอเวลาให้ Full Moon

19 พ.ค. 2023

หนึ่งในรายการแข่งขันเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น รายการ ‘ ProjectAlphaTH ’ ที่ค้นหาเด็กหนุ่มมากความสามารถมาเข้าร่วมในทีมและเดบิวขึ้นเป็นศิลปินในสังกัด RISER MUSIC  ในเครือ GMM TV 

 

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา EFM Fandom Live ได้ต้อนรับสมาชิกทั้ง 5 จากวง LYKN (วิลเลียม - เลโก้ - ตุ้ย - ฮง - นัท )  บอยแบนด์หน้าใหม่ผู้ชนะจากรายการ ProjectAlphaTH ! 

 

ซึ่งในช่วงแรกทางรายการก็ได้เปิดหน้าไมค์ให้เหล่าแฟนคลับได้มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวความแสบของน้องๆ LYKN ให้ชาว EFM Fandom Live ได้รับฟังกัน 

 

“ LYKN กับจุดเริ่มต้นทำความรู้จัก ”

 

หลังจากที่ได้เปิดสายให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุย ทางรายการก็ได้ถามถึงความประทับใจแรกกับที่ไปที่มาว่าทำไมถึงมารู้จักทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ได้ โดยเหล่าแฟนคลับก็ได้กล่าวเป็นรายคน

 

เริ่มที่บ้านของ ‘ เลโก้ รพีพงศ์ ’ที่ได้กล่าวว่าตนนั้นโดนน้องตกจากความสามารถของน้อง และเชื่อว่าใครหลายๆ คนก็คงจะต้องชื่นชอบความสามารถเช่นเดียวกัน เพราะเลโก้ถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเต้นที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะผ่านการแข่งขันระดับโลกอย่าง HHl มาเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใครได้เข้ามารู้จักน้องด้วยใจจริงจะรู้ว่าเลโก้เป็นคนที่เปราะบางมาก ถึงจะมีดื้อหน่อย แต่ใส่ใจคนรอบข้างและคิดบวกเสมอ เพราะแบบนี้จึงทำให้เรารู้สึกตกหลุมรักเด็กคนนี้เข้าอย่างจังเลยทีเดียว นอกจากนี้เลโก้ยังชอบมีคำเรียกแฟนคลับว่า “ Everything ! “ กันอีกด้วย

 

ต่อกันที่ “ ฮง พิเชฐพงศ์ ” หนุ่มน้อยหน้าตี๋สุดน่ารักที่หลายๆ ชอบเรียกกันว่า “ ฮงชิ ” และแฟนคลับก็ได้แอบกระซิบมาว่าพี่ฮงของเราชอบทานของหวานชนิดหนึ่งเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “ ไอศกรีม ” นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของพิฮงก็คือการชื่นชอบทาน จนสามารถทานได้ทุกวันกันเลยทีเดียว

 

ส่วนคนถัดไป ผู้ชายสาย “ โกลเด้น ” อย่าง “ นัท ธนัท ” ที่ชอบถูกแฟนคลับแซวว่ามีความ ‘ บ๊อกแบ๊ก ’ ซุกซน ขี้เล่น เหมือนหมาน้อย ก็ทำให้แฟนคลับเกิดตกหลุมรักในความอัธยาศัยดีของเขา ที่ถึงแม้จะรู้จักกันครั้งแรกใครหลายคนอาจจะคิดว่านัทเป็นคนนิ่งๆ แต่ชาว ‘บีนนี่’ แฟนคลับของนัทก็ต่างบอกว่าถ้ามารู้จักจริงๆ นัทชอบเล่นมุขตลกกับแฟนคลับมากๆ

 

ส่วน “ วิลเลียม จักรภัทร ” พ่อหนุ่มลูกเสี้ยวสายกรี๊ดก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ต่างถูกตกหลุมรักเขาจากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นร้องเต้น เขาคนนี้ก็สามารถทำมันออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก แต่เรื่องที่จะแอบเมาส์จากแฟนคลับก็คงจะเป็นเสียงกรี๊ด อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ที่อยากให้ทางรายการได้รับฟัง รับรองว่าตราตรึงใจอย่างแน่นอน

 

และปิดท้ายด้วยหนุ่มมากความสามารถสายบีตบ็อกซ์อย่าง “ ตุ้ย ชยธร ” ที่แฟนคลับให้สมญานามเลยว่าความ “ โคตรตุ้ย ” มันสุดมากจริงๆ ในที่นี่ก็หมายถึงความสามารถที่หลากหลายและไปสุดทางของน้องจนพูดได้เลยว่า ตุ้ยสุดทุกทาง อย่างแท้จริง นอกจากนี้ตุ้ยยังครีเอทชื่อแฟนคลับตัวเองให้ชื่อว่า “ เหล่านัตสึ ” กันอีกด้วย เพราะตุ้ยเปรียบกับแฟนคลับเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งของตัวเอกในเรื่องของ Reborn ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ทั้งคู่ก็จะเคียงข้างกัน เดินไปด้วยกันเรื่อยๆ ในทุกๆอุปสรรค

 

แต่วีรกรรมของทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปร่วมเอนจอยกันกับการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ในแบบฉบับ EFM Fandom Live ! 

 

LYKN (ไลแคนท์) มันยิ่งกว่าหมาป่า !

 

เมื่อถามถึงความหมายของชื่อวง หนึ่งในสมาชิกจากไลแคนท์ อย่างตุ้ยก็ได้ให้นิยามความหมายของ LYKN ว่า “จริงๆ แล้วไลแคนท์ก็คือหมาป่าเช่นเดียวกับ Werewolf แต่ความพิเศษของไลแคนท์มันอยู่ตรงที่สามารถที่จะแปลงร่างได้เลยไม่ต้องรอวัน Full Moon หรือพระจันทร์เต็มดวงใดๆ ซึ่งเปรียบเสมือนกับเวลาหลังจากเรา On Stage เสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราก็สามารถสวิตช์ร่างกลับมาคุยกับแฟนคลับแบบเป็นกันเองและเข้าถึงง่ายได้ดังเดิมนั่นเอง”

 

 

ใครที่สุดใน LYKN ? ”

 

เมื่อพูดถึงความที่สุดในแต่ละรูปแบบทางรายการจึงให้สมาชิกแต่ละคนใน LYKN นิยามมาว่าใครที่สุดในเรื่องอะไรกันบ้าง เริ่มกันที่ ‘ ใครพูดน้อยที่สุด ? ’ พอถามคำถามนี้ทุกคนก็ต่างชี้ไปที่ “ ฮงชิ ” ว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่พูดน้อยที่สุด ในที่นี้อาจจะไม่ได้หมายถึงไม่ค่อยพูดแต่เลโก้เสริมมาว่าฮงจะเป็นประเภทที่หลังจากเวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไปเอเนอร์จี้เขาจะมาทันที ชอบที่จะใช้ชีวิตตอนกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ถ้าให้บอกจริงๆ คงเป็นช่วง 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มซะมากกว่าที่ฮงจะพูดน้อย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็คือเอเนอร์จี้เขาจะดีดกว่าปกติเลยทีเดียว ส่วนคำถามต่อมาก็คือ “ ใครพูดเยอะที่สุด ? ” คำตอบนี้เรียกได้ว่าล็อคมงกันสุดๆ เพราะเสียงเป็นเอกฉันท์ว่าคือ “ ตุ้ย ” นั่นเองเพราะอย่างที่แฟนคลับและเมมเบอร์บอกว่าตุ้ย ความสามารถของเขาก็คือ จะสามารถพูดได้เรื่อยๆ พูดเรื่องนู้นเชื่อมมาเรื่องนี้ ถ้าเราโยน Topic อะไรไปเขาสามารถพูดได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว ส่วน “ ใครชอบกรี๊ดที่สุด ? ” ก็คงหนีไม่พ้นวิลเลียมที่ได้ออกมาบอกว่าเขาเป็นคนเป็นประเภทหนึ่งที่ถ้าเกิดเหตุการณ์เดดแอร์หรือความเงียบสิ่งที่เขาชอบทำก็คือการกรี๊ด หรือว๊ากออกมา เพื่อทำลายความน่าอึดอัดนั้น ส่วนข้อสุดท้าย “ใครกินเก่งที่สุด ? ” ข้อนี้ตอบได้เลยว่ายากมาก เพราะแต่ละคนก็จะมีความชอบที่ต่างกัน กินเก่งหมดแต่ความชอบกินมันไม่เหมือนกัน อย่างนัทจะเป็นสาย Healthy ชอบทานสลัด ส่วนวิลเลียมจะเป็นเยลลี่ ฮงจะเป็น ไอศกรีม และเลโก้ก็คือทานได้ทุกรูปแบบ โดยสรุปนั่นก็คือชอบทานทุกคนเลยนั่นเอง

 

การได้ขึ้นเป็น LYKN เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราไปบ้าง ?

 

อย่างที่รู้กันว่าเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนกับพัฒนาการกว่าจะมาเป็นหนึ่งในศิลปินจาก LYKN ที่ดังและก็ปังขนาดนี้ ทุกคนก็ต้องผ่านความเป็นอุปสรรคและขวากหนามมาอย่างโชกโชน ทางรายการจึงอยากรู้ว่า การที่ได้มาเป็นศิลปินที่ได้ชื่อว่า ‘ LYKN ‘ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างกับตัวเรา  

 

ฮง พิเชฐพงศ์ - เราไม่คิดว่าจะมีคนมาสนใจในชีวิตเรามากขึ้นถึงขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนเราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย พอเริ่มมีสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วมีคนมาซับพอร์ตในสิ่งที่เราชอบ มันทำให้เรารู้สึกดีใจมากๆ อย่างเวลาเราไปทานอาหารร้านไหน แฟนคลับบางคนก็จะมีการไปเช็คอินตามร้านที่เราเคยไปบ้าง บ้างก็แท็กร้านขนมหมานมา ชวนคุยว่าวันนี้เราทานไอศกรีมแล้วรึยังอะไรแบบนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราประทับใจมากๆ 

 

นัท ธนัท - นัทรู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเยอะมากหลังจากที่เราเริ่มเข้ามาใน ProjectAlphaTH อย่างบางทีแฟนคลับก็มาเจอเราที่ใต้ตึก ก็รู้สึกดีใจมาก ที่เขามารอเรา บางทีก็ดึกมาก แต่เขาก็รอ ก็เลยไม่คิดว่าจะมีคนซับพอร์ตเราถึงขนาดนี้

 

ตุ้ย ชยธร - ก็จะคล้ายกับสมาชิกคนอื่นเลยครับ พอมีคนมารอเราตั้งแต่เช้า เราซ้อมเสร็จกลับดึก บางทีก็ยังเห็นเขาอยู่ เราดีใจมาก มันคล้ายกับว่ามีคนเดินตามฝันไปพร้อมกับเรา ดังนั้นเลยเป็นแรงผลักดันให้เรา ทุกครั้งเวลาซ้อมเราจะตั้งใจทำมันมากๆ เพื่อให้ผลงานออกมาตอบแทนแฟนคลับที่ซับพอร์ตเราขนาดนี้

 

วิลเลียม จักรภัทร - เมื่อก่อนที่เรายังไม่ได้ขึ้นเป็นศิลปิน เวลามาซ้อมที่ตึกเราเห็นพี่ๆ ดาราศิลปินที่มีแฟนคลับมารอ เราก็รู้สึกว่าอยากมีคนมาซับพอร์ตแบบนี้บ้างจัง ถ้ามีแบบนี้ก็คงจะดี แล้วพอมาถึงวันนั้นมันเหมือนความฝันเราเป็นจริง ก็เลยภูมิใจในตัวเองมากๆ เวลาเราท้อหรือเหนื่อยอะไร แค่เราเข้าไปขอกำลังใจจากแฟนคลับ มันก็เหมือนช่วยฮีลใจเราไว้เป็นอย่างมาก

 

เลโก้ รพีพงศ์ - พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตของผมมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้เราจินตนาการไว้อยู่แล้วว่าอยากที่จะเป็นศิลปินเพื่ออะไร มอบความสุขให้ใคร และได้อะไรกลับมาซึ่งหนึ่งในนั้นมันคือกำลังใจจากแฟนคลับ แล้วมันเกิดขึ้นมาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับมัน ซึ่งบางทีเขาก็ซับพอร์ตเราเหมือนเราเป็นหนึ่งในครอบครัวเขาด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรในครอบครัวเขาเลย เขาแค่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้จากเรามันคือความสุข แค่นี้เราก็รู้สึกว่าอยากทำผลงานตอบแทนเขาให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน

 

 

ก่อนจบรายการทั้ง 5 หนุ่มจาก LYKN ก็มีความในใจที่อยากจะบอกซึ่งกันและกัน

 

LEGO  “ขอบคุณในทุกๆ วันที่ทุกคนยังมี passion กับการทำงานอยู่ ช่วงนี้มันอาจจะหนักไปบ้าง แต่ก็อยากให้รู้ไว้ว่าถ้าเรามีความสุข ก็ยังมีคนที่รอดูเราอยู่ อยากให้ตั้งใจที่จะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ให้คิดว่า LYKN เป็นเหมือนประเทศหนึ่ง ให้คนที่เข้ามาเขาอยากที่จะอยู่ ทำหน้าที่ของเราให้ดีต่อไป รักมากๆ ครับ” 

 

HONG “ ขอบคุณทุกคนมาก เพราะถ้าไม่มีทั้ง 5คนก็คงไม่มีเราในทุกวันนี้ ขอบคุณที่เหนื่อย ขอบคุณที่พยายาม ขอบคุณที่ไม่หยุดพัฒนา และเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่วันแรก และก็ขอบคุณที่รักกัน เป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่ง ที่ทำให้ทุกเช้าตื่นมายังมีคนที่ใส่ใจเรา ดูแลเรา เป็นกลุ่มเป็นก้อนตลอดมา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ เลยครับ”

 

WILLIM  “ผมเข้าไปรายการตอนแรกผมอยากเป็นศิลปินเดี่ยวครับ แต่พอได้ลองมันคือไม่ใช่ทางเลยมันดูโหวงมาก พอเราได้ทำงานเป็นกลุ่มเราก็รู้สึกดีมากๆ ที่เพื่อนทั้ง 4 คนคอยซับพอร์ตผมเสมอ ทำให้เราอยากจะทำงานด้วยจริงๆ อยากจะขอบคุณที่บางทีเราอาจจะเต้นไม่ได้ ก็ขอบคุณที่มาคอยช่วย บางทีอยู่มุมห้อง ก็เห็นและคอยมาช่วยเสมอ ขอบคุณมากๆ ครับ”

 

NUT “ ก็ขอบคุณทุกคนเลยที่ทำให้ทุกวันของเราอยากที่จะมาซ้อมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อย แต่พอเรามาซ้อมด้วยกันมันก็มีความสุขมากๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจทำผลงานของเราได้ออกมาให้ดีสุดๆ และผลงานต่อๆไปเราก็จะตั้งใจทำเหมือนวันแรกที่เราทำเพลงของเรา และตั้งใจแบบนี้ต่อๆ ไปเรื่อยเลยครับ

 

TUI “ ก็อยากจะขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เต็มที่กับมันมากๆ ที่ผ่านมาเรารู้ว่าทุกคนผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งฝึก ทั้งอะไรก็ตาม เรารู้ว่าทุกคนเต็มที่มาก วันแรกทุกคนตั้งใจยังไง ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจอย่างนั้น เหมือนวันแรกที่เราได้เจอกัน และบางทีก็อยากขอโทษที่เราอาจจะทำให้ใครไม่พอใจในบางอย่าง หรือล้ำเส้นอะไรไปก็ขอโทษเหมือนกัน แต่ทุกอย่างที่เราทำไป เพราะเราไม่รู้ว่าคำว่า LYKN มันจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่เรารู้สึกว่าผมดีใจมากที่ได้ทำงานกับทั้งสี่คนนี้ และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจในชีวิตเลยก็ว่าได้ ที่เราได้เป็นศิลปินร่วมกัน”

 

สุดท้ายนี้ EFM Fandom Live ก็ขอบคุณสมาชิกจาก LYKN ทุกคนที่มาร่วมสนุกกันภายในรายการ น้องๆ ทุกคนน่ารักกันมากๆ ก็หวังว่าในภายภาคหน้าจะได้พบเจอกันอีก ขอฝากผลงานล่าสุดอย่าง “ เลิกกับเขาเดี๋ยวเหงาเป็นเพื่อน ( MAY I? ) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยน้า และเร็วๆ นี้ LYKN จะมีเดินสายไปยังประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก ก็ฝากเป็นกำลังใจให้เด็กๆ และตะโกนชื่อ “ LYKN ! “ กันให้สุดเสียงไปเลย

ภาพ EFM Fandom Live

related EFM FANDOM RECAP

อยู่ในวงการมานานทั้งคู่ แต่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนตอนนี้สามารถบอกได้แล้วว่า... แต่เราก็หากันจนเจอ จนทำให้กลายเป็นชื่อรางวัล EFM FANDOM AWARDS ของ “อัพ – ภูมิ” ไปเลย

10 มิ.ย. 2024

อยู่ในวงการมานานทั้งคู่ แต่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนตอนนี้สามารถบอกได้แล้วว่า... แต่เราก็หากันจนเจอ จนทำให้กลายเป็นชื่อรางวัล EFM FANDOM AWARDS ของ “อัพ – ภูมิ” ไปเลย

EFM FANDOM LIVE [ 23 พฤษภาคม 2567 ] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 2 หนุ่มอย่าง “อัพ - ภูมิ” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ ที่เสนอเข้ามาและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “พี่น้องสายสาระพัดซัพ”​ อัพ-ภูมิเป็นคู่ที่ซัพพอร์ตกันและกันเสมอน้องภูมิเคยเล่าในสัมภาษณ์ว่า น้องอัพคอยซัพพอร์ตน้องภูมิตลอดตั้งแต่วันแรก น่ารักมากๆ พร้อมบอกว่า มีอะไรมึงก็บอกกูกูพร้อมจะช่วยมึงทุกอย่าง แล้วแฟนคลับก็ได้เห็นสิ่งที่เค้าแสดงออกมาต่อกัน มันดีมากๆ ที่มาของสาระพัดซัพ คือ ซัพพอร์ตหลายๆทาง ไม่ว่าจะเป็น•ซัพพอร์ตการทำงาน•ซัพพอร์ตเวลาเล่นมุข ไม่ว่าคนพี่หรือคนน้องเล่นมุข อีกฝ่ายจะคอยตบมุข ไม่แป้ก 555•ซัพพอร์ตความชอตฟีล ด้วยความที่คนพี่ตามไม่ค่อยทันมุขน้อง ก็จะโดนน้องแกล้งชอตฟีลตลอด•ซัพพอร์ตของกิน•ซัพพอร์ตโดยการเปย์น้องภูมิ ป๋าอัพให้ของขวัญวันเกิดเป็นกระเป๋าตังbalenciaga2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “รักจริงสุดใจไม่ต้องใช้แสตนด์อิน”​ เพราะว่าน้องอัพกับน้องภูมิเล่นเรื่องแสตนด์อินตัวนายตัวแทนที่กำลังออนแอร์อยู่ เข้มข้นมากๆ อยากตั้งชื่อให้เข้ากับบรรยากาศตอนนี้ และเป็นเรื่องที่ทำให้เรามารู้จักน้องๆเป็นบทบาทเรื่องราวสำคัญในเรื่อง ก็อยากจะสื่อว่านอกจากในซีรีส์ชีวิตจริงน้องๆมีความรักความหวังดีต่อกันจริงๆ ไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร เป็นตัวของน้องๆเองจริงๆที่น่ารักธรรมชาติกันมาก นอกจากนี้ยังหมายถึงแฟนคลับทุกคนที่ชื่นชอบน้องๆ เค้าก็ชอบที่น้องเป็นน้องนี่แหละ ในชีวิตจริงน้องเป็นตัวเองได้เลย ไม่ต้องเป็นตัวแทนของใครเพราะการแสดงที่สมบทบาทที่มาจากความสามารถของน้องๆ ความพยายาม ความตั้งใจ ทำให้มีแต่คนชื่นชมการแสดง น้องอัพและน้องภูมิ เหมาะกับการที่แฟนคลับจะ"รักจริงสุดใจไม่ต้องใช้แสตนด์อิน" จริงๆค่ะ3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Partner of twin flame”​ เราเคยอ่านเจอคำนึงมาคือtwin flameเป็นคำที่อยู่ในหมวดใช้เรียกคำจำกัดความความรัก แต่twin flameอาจไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้ เป็นคนแปลกหน้าที่บังเอิญมาเจอ มาร่วมงานกันละมันconnectกันง่าย คนสองคนเมื่อเจอกันจะรู้สึกสบายใจ รู้สึกคุ้นเคย เพราะtwin flameคือจิตวิญญาณดวงเดียวกันที่ถูกแบ่งออก เราฟังสัมภาษณ์อัพภูมิเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน แล้วมันให้ความรู้สึกเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยรับส่งอารมณ์ให้กันดีมาก เขาบอกบางทีแค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เราเลยคิดว่าชื่อรางวัลนี้เหมาะกับอัพ-ภูมิค่ะ4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “รักกันดีตีกันตุบตับ” **ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น**​ แนวคิดที่ 1:เกิดจากการที่อัพ - ภูมิน้องทั้ง2คนชอบตุบตับ ตีกันเป็นประจำเวลาโดนอีกฝ่ายแกล้งค่ะ​ แนวคิดที่ 2:เป็นคู่ที่รักกันมาให้เกียรติกันตลอดค่ะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นเรื่องของเกม จะเริ่มตีกันทันที ไม่มีใครยอมใคร5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “แต่เราก็หากันจนเจอ”​ อาจจะดูเป็นคำclicheแต่เราว่าเป็นชื่อที่meaningfulกับทั้งอัพและภูมิมากๆ ทั้งสองคนอยู่ในวงการมานานทั้งคู่ แต่ไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน การที่ได้มีซีรีย์My Stand-Inกว่าทีมแคสจะได้คู่นี้มาก็แคสกันถึง 9 เดือน วันที่ภูมิได้มาแคสกับอัพก็เป็นวันที่อีกแปปนึงอัพก็ต้องกลับแล้วด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ได้เจอกันแม้ไม่กี่นาที ก็สร้างความประทับใจให้กันและกันได้ และทำให้ทีมเห็นถึงความเข้ากันเคมีต่างๆรวมถึงความเหมาะสมกับตัวละคร จนทั้งสองได้มาเป็นนักแสดงหลักในเรื่องนี้ทั้งความตั้งใจและpassionด้านการแสดงของทั้งคู่ การsupportกันและกันให้กันเต็ม100อยู่ตลอด ก็ทำให้ซีรีย์มีผลงานออกมาได้อย่างสวยงามสร้างความประทับใจไปถึงแฟนคลับ และความน่ารักของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ทำให้แฟนคลับหลายๆคนได้รู้สึกว่าดีจังเลยที่อัพกับภูมิได้มาเจอกัน รวมถึงอัพและภูมิก็เคยบอกตลอดว่า อัพก็ดีใจที่อีกคนเป็นภูมิ ภูมิก็ดีใจที่อีกคนเป็นพี่อัพเช่นกัน รวมถึงในซีรีย์เองทั้งโจและหมิงก็ต้องผ่านกาลเวลามากมายกว่าจะได้มารักกันเช่นกัน ก็เลยเป็นที่มาของชื่อที่ว่า'แต่เราก็หากันจนเจอ'ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “อัพ-ภูมิ”รางวัล “แต่เราก็หากันจนเจอ”ขอบคุณแรงซัพพอร์ตที่มีให้เราสองคนทำให้มีทุกวันนี้! อัพ : ก็ขอขอบคุณสำหรับรางวัลนี้นะครับผม ก็ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ส่งเสริมและผลักดันเราทั้งสองคนนะครับ ให้สู้กับชีวิต แล้วก็ทำเต็มที่กับทุก ๆ อย่าง ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆแฟนคลับทุกคนด้วยนะครับผมที่มอบรางวัลนี้ให้กับพวกเรา ภูมิ : ขอบคุณครอบครัวนะครับ เรามีวันนี้ได้ก็เพราะแรงซัพพอร์ตจากทั้งแฟนคลับแล้วก็ครอบครัว ที่ผลักดันให้เรามาถึงจุดนี้ด้วยกันแตกต่างกันจนทำให้ อัพ - ภูมิ ได้โคจรมาเจอกัน อัพ : คือพอได้เจอภูมิมาเรื่อย ๆ พึ่งรู้ว่าเค้าแบบชิว เป็นคนเวย์เดียวกับเราสุด ๆ ตอนแรกดูจะแตกต่างไม่ได้ชิวเหมือนเรา แต่พอเจอเค้าแล้วมันดี แฮปปี้ครับ ดีใจที่เจอครับ ภูมิ : ภูมิคิดว่าตอนแรกพี่อัพจะไม่ชิว แบบเป๊ะทุกอย่าง แต่พอได้ทำงานด้วยกันแล้วพี่เค้าชิวมาก เวลาจะทำอะไรเค้าจะอะไรก็ได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเรื่องการทำงานมากกว่า เช่นแบบ “เห้ย!พี่เอาแบบนี้มั้ย” เค้าก็จะ “ได้น้อง” อัพ : คือไว้ใจ และให้เกียรติกันและกัน เหมือนพอได้ทำงานร่วมกันแล้วมันรู้สึกบาลานซ์การซัพพอร์ตกันและกันจนทำให้ใจฟู ภูมิ : ภูมิก่อนละกัน เพราะว่า ภูมิเองใหม่กับวงการซีรีส์ครับ ส่วนมากภูมิจะเล่นแค่ละคร ละครถ่ายเสร็จมันก็จบไป พอมาเป็นเรื่องของซีรีส์มันจะมีงานหลาย ๆ อย่างที่ต้องทำเพิ่ม เช่นอย่างนี้อะครับ หรือว่าออกไปสัมภาษณ์ ออกสื่อต่าง ๆ ภูมิจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ ก็จะมีพี่อัพที่คอยแนะนำตั้งแต่แรก ว่าควรทำแบบนี้นะ แบบนี้จะดีกว่านะ อัพ : น้องเค้ามีความเป็น Yes man นิดนึง แบบ “ภูมิทำอันนี้กันมั้ย” น้องก็จะแบบ “เห้ยได้พี่ ไปLet’s go” หรือแบบ “ภูมิทำอันนี้ดีกว่า” น้องก็ “เออมาเลยพี่ ทำกัน” มันเป็นคนใจสู้แบบให้เราเต็ม 100 ทุกครั้ง ไม่ว่าทำงานหรือจะเล่นก็ตาม น้องก็เต็ม 100 ทุกครั้งว่างๆชวนเล่นคอนเทนต์ Tiktok กัน ภูมิ : ตอนนี้ภูมิมาเล่น Tiktok แล้วภูมิไม่ค่อยรู้ว่าต้องทำอะไรยังไงใน Tiktok แต่ว่าพอดีเห็นในไอจี ก็เลยแบบ “เห้ยพี่! อันนี้มันน่าจะตลกอยู่นะ” เลยชวนพี่ทำเปรียบฤดูที่บ่งบอกตัวตนของอีกฝ่าย อัพ : “ฝน” เค้าอยู่ติดบ้าน เพราะฝนตกไม่อยากไปไหน อยากอยู่บ้าน ภูมิ : ฤดูหนาวละกันครับ เค้าดูมีความสุขุมในตัวบางอย่าง แบบนั่งอ่านหนังสือความรู้สึกแรกเมื่อได้เห็นบทที่ได้รับ อัพ : ครั้งแรกที่เราอ่าน ภาพในหัวคือคิดไม่ออกเลยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน พอเรามานั่งจินตนาการภาพ ก็คิดว่ามันคงตลกดี มันคงสนุกที่ได้เล่นสิ่งนี้ มันรู้สึกแบบนั้น หลังจากผ่าน workshop พอได้เป็นตัวละครจริง ๆ จังหวะที่ลงไปเล่นเหมือนหัวว่าง มันไม่มีแม้กระทั่ง Dialogue ที่อยู่ในหัว มันมีแต่สิ่งที่พ่นออกไปซึ่งไม่รู้ว่าถูกหรือผิดด้วยซ้ำ แต่แค่รู้สึกว่ามันเป็นตัวละครแบบนั้น แล้วพอทำงานกันอย่างนี้ ภูมิเองก็ให้ความเชื่อใจเต็ม 100 ตลอด ผมว่าตอนทำงานมัน Flow มาก แล้วแฮปปี้มาก สำหรับนักแสดงหนึ่งสิ่งที่ถ้าขอได้คงเป็นการมีพาร์ทเนอร์ที่ดีเรื่องราวของ หมิง - โจ ในซีรีส์ MY STAND-IN ตัวนายตัวแทน ภูมิ : เป็นซีรีส์ที่เล่าผ่านตัวละครที่เป็น “โจ” โดยโจเป็นสตั้นแมนที่เติบโตจากการเป็นเด็กกำพร้า ที่ครอบครัวเสียตั้งแต่เด็กทำให้เค้าเข้มแข็ง และมีภูมิต้านทานต่อโลกระดับนึง ทีนี้ “โจ”ได้มาเป็นแสตนอินให้กับ “ตง” ที่เป็นดาราดัง รับบทโดย พี่เมฆ จิรกิตติ์ จนวันหนึ่ง “โจ” ได้เจอกับ “หมิง” ซึ่ง “หมิง” เป็นคนที่ชอบ “ตง” แต่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่า “ตง” เป็นแฟนของพี่สาวตัวเอง เค้าเลยใช้เราเป็นตัวแทน หรือแสตนด์อิน ใช้ร่างกายของเรา จน “โจ” ได้เสียชีวิตไป และวิญญาณ “โจ” ได้ไปอยู่ร่างอีกคน อัพ : มีเรื่องราวที่วนเวียนต้องมาพบปะกันอีกครั้ง ด้วยความที่ตัวซีรีส์เป็น “โรแมนติก - ดราม่า” สิ่งที่ทุกคนจะได้ดู มันคือความเข้มข้นจริง ๆ ว่าจะเป็นความเข้มข้นของตัวบท ความเข้มข้นของอารมณ์ รวมไปถึงแอคชั่นสวย ๆ ให้ได้ดูด้วย ซึ่งภูมิก็รับหน้าที่ซ้อมหนัก ภูมิ : คาแรคเตอร์ “โจ” ค่อนข้างรักใครรักเลย แต่ในพาร์ทที่ “โจ” เสียชีวิตแล้วไปอยู่ในร่างอีกคนจะมีความลึกซึ้งของอารมณ์มากขึ้น เพราะ “โจ” ไม่ต้องการเจอกับหมิง แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้ “โจ” และ “หมิง” เยที่ไม่ได้อยากเจอ อัพ : ผมว่าทุกตัวละครในเรื่องนี้มีความยากของมันอยู่ อย่าง “หมิง” มันมีความขึ้นสุดลงสุดของอารมณ์ โกรธก็โกรธสุด ดีใจก็ดีใจ เสียใจก็เสียใจสุด มันมีความดีดของกราฟอยู่ ตอนอ่านบทเรายังรู้สึกเสียว ๆ ว่าถ้าเราเล่นออกมามันจะดูการ์ตูนรึป่าว นี่คือสิ่งที่กลัว แต่พอทำ workshop ค่อย ๆ ไล่อารมณ์ตัวละคร พอมันพร้อม แล้วเริ่มถ่ายมันทำให้ Flow ขึ้นเยอะมาก ส่วนตัวผมความยากของ “โจ” คือคุณต้องกลายมาเป็นคนใหม่อีกคนโดยที่คุณยังมีความรู้สึกเดิม ความหลังเดิม และคุณยังต้องไปแบกรับแบคกราวนด์ของตัวละครใหม่ เหมือนเล่นสองตัวละคร ผมว่าด้วยความที่มันเป็น “โรแมนติก - ดราม่า” เราจะเห็นมิติของตัวละครหลายมุมมาก ๆวันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ของเราก็มีเกมให้กับ “อัพ – ภูมิ” มาเล่นกันด้วยกับเกมที่ชื่อว่า “แสตนอิน "อัพ - ภูมิ" อินคาแรคเตอร์!!”บอกเลยงานนี้ทั้งน่ารัก ทั้งสนุก เฮฮากันสุดๆ (เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้แฟนคลับโทรเข้ามาพูดคุยกับ 2 หนุ่มบรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขกับ “อัพ - ภูมิ” ( เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME )ความในใจที่อยากบอกอีกฝ่าย ภูมิ : อยากจะขอบคุณครับ เพราะภูมิก็ใหม่มากกับตรงนี้ พอได้เข้ามาแล้วเห็นอะไรใหม่ ๆ มากมาย แล้วก็ได้พี่อัพที่คอยแนะนำและชี้ให้ดูว่าสิ่งนี้มันดี สิ่งไหนควรสิ่งไหนไม่ควร คือคี้มันก็เห็นได้ชัดแล้วว่าพี่เค้าจริงใจ แรก ๆ พี่เค้าเคยบอกว่า ”พี่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบภูมิได้” ขอบคุณมากพี่ อัพ : จริง ๆ ก็พูดไปบ่อยแล้ว แต่ก็ยังอยากพูดสิ่งเดิม เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ คือภูมิเป็นคนที่เก่ง และเรียนรู้เร็ว แล้วก็ตั้งใจมาก ๆ คือเราจะรู้ได้บางคนตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่คนนี้มันคือทะลุคำว่าตั้งใจขึ้นไปอีก ให้ทำ 100 ทำ 120 ทำให้รู้เลยว่าเป็นคนตั้งใจจะทำจริง ๆ และมี Passion การแสดงที่คล้าย ๆ กันมาก เราก็คุยกันเรื่องนี้มาตลอด จนเริ่มถ่ายเราได้เจอการทำงานพร้อมกัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสองคนผ่านมาได้คือ เราสองคนจริง ๆดีใจมาก ๆ ที่ได้ภูมิมาเป็นพาร์ตเนอร์ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “อัพ - ภูมิ” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ให้กับทางรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากซีรีส์เรื่อง “My Stand in ตัวนายตัวแทน” ทุกวันศุกร์เวลา 20:00 ทาง iqiyi พวกเราตั้งใจทำงาน และต้องขอบคุณแฟนคลับครับ เพราพวกเราตั้งใจทำงานมาให้แฟน ๆ ดู ดีใจมากที่มีกระแสตอบรับ แล้วมีฟีดแบ็คต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าภูมิได้อ่านแทบทุกอันจริง ๆ ด่าตัวละครหมิงเข้ามาได้นะครับ ผมกำลังรอคำด่าใหม่ ๆ ทุกอาทิตย์ แล้วก็ฝาก YouTube ของพวกเราด้วยนะครับ “Up Poom พัก วันพักของอัพภูมิ” คอนเซปต์ของรายการคือเรานั่งคุยกันอยู่ 2 คนว่าเราทำงานหนักทำงานแทบทุกวัน พอมีวันพักก็แค่อยากไปพักผ่อน 2 Ep แรกคือพักจริง ไปนอนโรงแรมสบาย ๆ เลย กินข้าว กินน้ำชาชิว ๆ นั่งเล่นเกม ส่วน Ep.3ต้องรอติดตามค้าบบบสามารถเข้าไปรับชมย้อนหลังกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“บิลลี่ - เบ้บ” มามุมุให้แฟนๆฟินกันทั้งรายการ พร้อมรับถ้วยรางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “มุมุทั้งวัน มุมุไม่เผื่อใคร”

15 ต.ค. 2024

“บิลลี่ - เบ้บ” มามุมุให้แฟนๆฟินกันทั้งรายการ พร้อมรับถ้วยรางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “มุมุทั้งวัน มุมุไม่เผื่อใคร”

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 26 กันยายน 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “บิลลี่ - เบ้บ” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “แรก ๆ เขิน หลัง ๆ ขิง” **ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น** แนวคิด 1 : แรกๆ จับนิดจับหน่อยก็เขิน หลังๆ ยังไม่ได้จับเลย ขิงก่อนแล้ว5555 แนวคิด 2 : บิลลี่ – เบ้บ ชอบขิงแฟนคลับค่ะ ทั้งในโซเชียลและเวลาอยู่ด้วยกัน เช่น ถ่ายรูปลงทำหน้าขิงใส่ งงมากค่ะ แนวคิด 3 : บิลลี่ – เบ้บ จะชอบนำโมเมนต์เล็กๆน้อยอย่างแชทสนทนา รูปภาพ หรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเขาสองคน นำมาเล่า(ขิง)ให้แฟนคลับฟัง แบบบางข้อความคนโสดอย่างเราก็แอบอิจนิดนึง555555 แต่โดยรวมน่ารักมากค่ะ อยากให้เอามาขิงแฟนคลับกันเรื่อยๆ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “แค่เป็นบิลลี่เบ้บ” ตรงตัวเลยค่ะ ขอแค่เป็น บิลลี่ - เบ้บ อย่างที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะแบบไหนเราทุกคนพร้อมที่จะเปิดโลกเพื่อเรียนรู้ความเป็นทั้งคู่ไปพร้อมๆกัน เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่งคั่งและยังยืน //ปรบมือออ แปะๆๆๆ3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ติดเธอไม่ไหว หัวใจขอสารภาพ” เพราะ บิลลี่ - เบ้บ เค้าใช้ชีวิตด้วยกัน 25 ชม.ค่ะ คืออยู่ด้วยกันทั้งวัน ทำงานด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน รวมๆ คือ ติดกันจนคนคิดว่าบิลลี่เบ้บนี่น่าจะเป็นชื่อคนคนเดียวกันแล้วค่าาา วันไหนที่ห่างกัน ก็คอลหาให้ได้ยินเสียงเทอขาก็ยังดี ถามสารทุกข์สุขดิบ ‘เทอเป็นอย่างไรจากวันที่สองเราไกลห่าง ส่วนตัวของฉันมันมีชีวิตไม่เหมือนเดิม’ น่ารักเนอะ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อยากให้เทอหายไป อยากอยู่ด้วยกันไปนานๆ ห่างกันก็คิดถึง เจอกันก็อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา ถ้านี่เรียกมันว่ารัก ก็คงเป็นรักที่ชีวิตนี้พี่ไม่ขออะไรแล้วล่ะ นอกจากเธอคนเดียว…4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ท่ามกลางผู้คนมากมาย but baby you so shine” ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ที่ไหนก็สามารถเปล่งประกายท่ามกลางหมู่มวลผู้คนได้เสมอ ต่อให้ที่ตรงนั้นจะมีคนอยู่เยอะแยะมากมาย เราก็สามารถมองเห็นทั้งคู่ได้จากที่ไกลๆตลอดมาและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “มุมุทั้งวัน มุมุไม่เผื่อใคร” เหตุจาก 2 คนนี้ชอบจุ๊บกันมากค่ะ ยิ่งคนพี่(พี่บิลลี่) คือ เอะอะก็จุ๊บไหล่ จุ๊บแก้ม ส่วนคนน้อง(เบ้บ) เดี๋ยวนี้ก็ไม่ธรรมดา สู้มือเหมือนกัน แรกๆมีเขินๆ หลังๆเน้นเอากำไรกันละ เอะอะเอามุมุเป็นรางวัล/บทลงโทษตลอด เซอร์วิสกันเองฉ่ำ แต่น่ารักดีค่ะ เอ็นดูทั้งคู่ติดกลิ่นติดสกินชิพเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ ต้อนรับความฟินจาก 2 หนุ่ม “บิลลี่ – เบ้บ”รางวัล “มุมุทั้งวัน มุมุไม่เผื่อใคร” เบ้บ : ขอบคุณนะครับ ทุก ๆ คนนะครับที่ส่งชื่อกันเข้ามา เเล้วก็มาร่วมสนุกกับทาง EFM นะครับ น่ารักมาก ๆ เลย ชื่อที่ได้รับผลโหวตมากที่สุดเป็น “มุมุทั้งวัน มุมุไม่เผื่อใคร” ขอบคุณนะค้าบ บิลลี่ : ขอบคุณค้าบ~มุมอื่นที่ทั้งคู่มุมุกันเเบบที่ไม่มีใครเห็น เบ้บ : น่าจะเป็นมุมที่แบบเราอ้อน ๆ เขาอ่ะ เบ้บจะไม่ค่อยอ้อนพี่บิลลี่เท่าไหร่ นาน ๆ ที ดีเจแนน : ส่วนใหญ่ที่เราอ้อนคือโมเม้นไหน เราเหนื่อยหรือยังไง เบ้บ : เวลาเราอยู่กัน 2 คน! บิลลี่ : งอแง ดีเจโซเซฟ : มันจะเป็นยังไง บิลลี่ : แกก็จะซบไหล่ เบ้บ : เอออ ชอบไปอยู่ตรงไหล่เขา ดีเจแนน : สมมุติบอกไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย เบ้บ : ไปเป็นเพื่อนหน่อยได้มั้ยย~ บิลลี่ : ไปจ้า เบ้บ : อยากไปเที่ยวคาเฟ่นี่จังเลย จะได้ไปถ่ายรูปกัน บิลลี่ : อ๋อ โอเคค เบ้บ : แต่นาน ๆ จะไปทีนะ ชอบไปตีกอล์ฟอย่างเดียวเลย ดีเจโซเซฟ : เบ้บเคยไปมั้ย บิลลี่ : ล่าสุดผมพาออกรายการมูมู่เต้าหู้ พาไปที่สนามกอล์ฟเลย ดีเจแนน : เเล้วชอบมั้ย เบ้บ : เขาก็บอกว่าลมเย็นนะครับ พอไปถึงเริ่มออกละ 1 เม็ด 2 เม็ด บิลลี่ : คือ First impression เนี่ยคือเราจะต้องทำให้เขาประทับใจ พาไปสนาม 5 ดาว มีคนดูเเลอย่างดี วิวสวย เพราะเขาชอบถ่ายรูป หาสนามแพง ๆ ดี ๆ ให้เขาประทับใจ เบ้บ : แต่ว่ายังไม่ออนนะ ในพาร์ทของสนามกอล์ฟ ตอนนี้อีพี 7 ประมาณซักอีพี 9ด้วยรางวัลที่ว่า...แรก ๆ เขินหลัง ๆ ขิง บิลลี่ : ผมไม่เคยขิงเลยนะ ดีเจแนน : เขาบอกว่าแรก ๆ 2 คนนี้นะจะเเตะกันยังไม่กล้า เเต่ตอนนี้คือสนิทกันเบอร์ไหนละ? เบ้บ : พูดได้มั้ยย5555+ บิลลี่ : แรก ๆ เรายังเเบบว่าไม่ได้รู้จักกันมาก หลัง ๆ เล่นซีรี่ย์ด้วยกัน ผ่านนู่นผ่านนี่มาด้วยกันเยอะ ๆ เราก็มี Situation ต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้เปิดใจกัน คุยกันหลาย ๆ อย่าง จนตอนนี้มันก็ดีขึ้นแบบมากสุด ๆ เลย ถามว่าเคยขิงมั้ย… ไม่เคยขิงเลยครับ! ผมก็ทำของผมแบบนี้อยู่ตลอด เบ้บ : เขาชอบไปขิงมัมหมีใน X อยู่บ่อย ๆ ดีเจแนน : ขิงแบบเเนวไหน? เบ้บ : วันนี้ไหทำนู่นนี่นั่นกับเบ้บไรเงี้ยครับ บิลลี่ : เเค่นั้น… เป็นประโยคหรือว่าเเบบเราอยู่ด้วยกัน ก็ถ่ายรูปลงแล้วแม่ ๆ ก็จะบอกว่าขิงทำไม ดีเจแนน : เเต่สำหรับเราคือ เราเเค่อยากบอกเล่า บิลลี่ : ใช่ครับ ก็บอกว่าแบบเราอยู่ด้วยกันนะ ซึ่งมันปกติที่เราจะแบบทำอะไรเเบบนี้ เเต่หาว่าผมขิง! ผมไม่เคยขิงเลยครับบ ดีเจโซเซฟ : เเต่ผมเห็นด้วยกับแฟนคลับคุณ ว่าคุณคือเจ้าพ่อไร่ขิงของแท้ ทุกเรื่องในโซเชี่ยลคุณแบบไร่ขิงมาก เขาเคยไปออกรายการผม เเล้วเขาเป็นตำนานเลยนะ เป็นเเขกรับเชิญคนเดียว 90 เทปที่ได้ 0 ดีเจแนน : หรอ คือเขาทำไม่ได้เลยอ๋อ ดีเจโซเซฟ : เขาจะพูดเเบบนี้ ผมตอบได้ ผมตอบได้! ดีเจแนน : คืออ เขาตอบไม่ได้หรือตอบผิด ดีเจโซเซฟ : เขาอยากให้ฮา ๆ เขาแกล้งง~ บิลลี่ : ใช่มะๆๆๆ เบ้บ : เเต่มีข้อนึงที่เขารู้ เเต่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะเเบบ ใจอ่อนเขวง่ายขนาดนี้ เราบอกใช่หรือเปล่า ดี ๆ นะ บิลลี่ : สนุกสนานครับ555+มีด้อมสุดครีเอทีฟเป็นของตัวเอง! ดีเจโซเซฟ : รีวิวด้อมตัวเองหน่อยว่าเขาเป็นยังไง? เบ้บ : แปลกครับ555555+ บิลลี่ : เเต่หมายถึงว่าเป็นการชมนะ ตอนแรก ๆ เลยนะลางสังหรณ์เวลาเจอกันเเต่ละครั้งมีงานแฟนมีตไรเงี้ย เขาจะนัดเเต่งตัวกันเเบบน่ารักอ่ะ มาแบบเป็นธีมนางรำ ใส่ชุดพญานาค คอสเพลย์ ใส่ชุดเดดพูล กัปตันอเมริกามา แบบมันน่ารัก เบ้บ : ก็คือเครื่องหัวสูงอ่ะ คือตอนนั้นถ่าย Photo Group กันมี 2 เเถว เขาต้องอยู่เเถวหน้าเเล้วเราอยู่เเถวหลัง หัวพี่เขาก็คือบังเราเราต้องหาช่องเอาเองนะ5555+ บิลลี่ : เขาจะมีเป็นบ้าน ๆ ด้วยนะ บ้านนี้ก็มีต้นไม้มาพร้อมกันไรงี้ เบ้บ : ซึ่งมันเกิดจากเราเองนี่แหละ จากที่เราไปบิ้วเขาอ่ะ เเต่งมาได้เลยนะ อยากเจอนะอย่าน้อยหน้ากันนะ“บิลลี่ - เบ้บ” สลับกันรีวิวหัวหน้าด้อม เบ้บ : บอกเลยนะว่าหัวหน้าด้อมคนนี้เขาจะแบบ… เเอคทีฟตลอดเวลา เขาไม่เคยหายไปจากหน้าจอโซเชียล เขาจะพูดคุยกับมัมหมี พี่สาวแฟนจ๋าของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าดึกดื่นเที่ยงคืนยังไง เเละเขาเป็นคนที่ค่อนข้างห่วงใยความรู้สึกของคนรอบข้าง ดีเจแนน : มีตัวอย่างมั้ยที่รู้สึกว่าทำไมเขาดป็นคนแคร์คนอื่นจังเลย? เบ้บ : มี ๆ มีช่วงรายการที่ผ่านมาที่ต้องตอบคำถาม เขาค่อนข้างที่จะคิดเผื่อเราในความรู้สึกที่ว่า เขากลัวเราเสียใจในคำพูดนี่ ๆ ถ้าพูดออกมา แบบนั้น ถ้าเป็นเราบิลลี่ไม่โอเคนะถ้ามีคนมาพูดเเบบนี้กับเบ้บอ่ะ บิลลี่ : ผมเป็นคนที่จะพูดอะไรออกเเต่ละคำเงี้ย คำนั้นจะไปทำร้ายคนรอบข้างหรือเปล่า ไม่ว่าจะทั้ง Direct หรือ Indirect ก็ตาม คือเราไม่อยากให้สิ่งที่เราพูดออกไปหรือคนอื่นมาพูดกับพี่อย่างเงี้ย เราก็ควรจะพูดดี ๆ เหมือนกัน ให้เกียรติ เบ้บ : เเต่บางทีมันเป็นคำที่แบบ เราเเซวเล่นกับเพื่อนไง ซึ่งเราไม่ได้คิดอะไรอยู่เเล้ว ดีเจโซเซฟ : สลับกันบ้าง บิลลี่ลองบอกหัวหน้าด้อมฝั่งนั้นสิ บิลลี่ : สวย เริ่ด เชิ่ดที่สุดใน X ตอนนี้ผมไม่รู้เหมือนกันในหน้าโฮม ผมอยากจะเห็นตัวเองเหมือนกัน เเต่ตอนนี้เห็นเเต่เบ้บเต็มไปหมด สไลด์ไปมีเเต่รูปเบ้บทั้งนัันเลย เเต่ละรูปมันสวยไง เเล้วเเม่ ๆ แฟนจ๋าเขาจะชอบอวย ซึ่งอวยไม่เกินจริงครับ สวย หล่อไรเงี้ย เบ้บนัมเบอร์วันจะมีเเต่คำพวกนี้ เบ้บ : เบ้บ ๆ หล่อมากลูกคนสวย บิลลี่ : งานแต่ละงานของเขาจะมีเมคอัพที่เเตกต่างกันไป เเม่ ๆ แต่ละคนก็จะรอว่าเบ้บมาจะสไตล์ไหน ลุคไหน เขาชอบเเต่งหน้าเซ็ตผมแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทุกงาน ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกต้องเเอคทีฟหรือไปเปลี่ยนนู้นเปลี่ยนนี่ให้กับตัวเอง เดี๋ยวสวยไม่ทันเขา~ เบ้บ : ลองอะไรใหม่ ๆ ดีเจโซเซฟ : แฟน ๆ บอกว่าในพจนานุกรมของบิลลี่มีเเต่คำว่าสวย! เบ้บ : ถูก เขาพูดคำว่าสวยบ่อยมาก หลัง ๆ เริ่มไม่ค่อยเชื่อเเล้ว บิลลี่ : ไม่ คือเรารู้สึกว่าเบ้บไม่ได้น่ารัก เบ้บสวย คือเราไม่ได้พูดพร่ำเพื่อBabe Solo Stage Birthday Fan Meeting วันเกิดเบ้บที่กำลังจะถึง! เบ้บ : วันที่ 5 นี้นะครับ งานครั้งเเรกที่เป็น Fan Meeting ของเบ้บนะครับ จัดตรงกับวันเกิดด้วย มาในเรื่องราวคอนเซ็ปท์ Nightmare เป็นเดือนตุลามีเทศกาลฮาโลวีน เรารู้ว่าด้อมเราชอบเเต่งตัวกันจัดจ้าน สนุกสนานก็ถือโอกาสเลย ตอนนี้ก็ยังซื้อบัตรได้อยู่นะครับทาง Thai Ticket Major ทุกสาขาเเละบนเว็บไซต์เลยค้าบ ดีเจแนน : เนื่องในวันเกิดเบ้บ อยากให้บิลลี่ว่าถ้าขอพรให้ 1 ข้อจะขออะไรให้เบ้บ บิลลี่ : ถ้าผมให้พรน้องเบ้บได้ ผมอยากให้น้องเบ้บมีเเต่รอยยิ้ม มีเเต่ความสุข ไม่มีเรื่องปวดหัวเข้ามาในชีวิต เเล้วขอให้สิ่งที่เบ้บคิดสิ่งที่เบ้บฝันตั้งเป้าไว้ Success หมดทุกอย่างเลย เเล้วพี่บิลลี่จะคอยซัพพอร์ตเบ้บอยู่ข้างหลังเเบบนี้ไปตลอด ดีเจแนน : เเล้วคุณเตรียมของขวัญไว้ให้เขายัง บิลลี่ : เตรียมเเล้วครับ! เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาจะต้องไม่ลืมเเน่นอน อยู่กับเขามารู้สึกว่าอันนี้แหละ คือสิ่งที่เขาขาดอยู่ เขาเห็นเเล้วจะต้องนึกถึงผมงาน Billy Babe First Fan Meeting In Berlin เดือนหน้า! บิลลี่ : ก็มีชาวอินเตอร์แฟนเขาก็ไปรวมกันที่นู้น เบ้บ : รวมถึงแฟนคลับไทยก็บินตามไปด้วยย บิลลี่ : ที่สำคัญคือ 2 รอบ! เบ้บ : รอบเเรก Sold Out ไม่ถึง 10 ชั่วโมง ดีใจมาก ๆ เลยที่แบบทุกคน ๆ ให้ความซัพพอร์ตที่ดี บิลลี่ : อยู่กันยาว ๆ ไปเลย 2 รอบอยู่กันยาวไปเลย เตรียมโชว์กันไปแบบว่าจุใจเเน่นอน เน้น Performance ให้กับพี่ ๆ ชาวอินเตอร์เเฟนได้ดูเเน่นอน ดีเจแนน : ถามได้มั้ยว่าทำไมต้องเป็นเบอร์ลิน บิลลี่ : ผมเจอเเฟนคลับอินเตอร์แฟนคนนึง เเล้วบอกว่าแฟนคลับอินเตอร์แฟนเยอะมาก ผมเลยคิดว่าที่ไหนดีซึ่งตรงนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง ที่ทุกคนแบบสามารถมาได้ เราเซอร์ไพรส์เหมือนกันว่าแฟนคลับฝั่งยุโรปจะเยอะขนาดนั้น ส่วนใหญ่เราคิดว่าเป็นเอเชีย ดีเจโซเซฟ : วันที่เท่าไหร่นะพี่ บิลลี่ : วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ครับ ดีเจเเนน : เเล้วตอนนี้มีอะไรที่จะพอสปอยได้มะ บิลลี่ : โหห ก็เตรียม Performance โชว์ไปเลยที่ทุกคนอยากเห็น ซึ่งเป็นโชว์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา เดี๋ยวยกไปที่เบอร์ลินให้ทุกคนได้ดู ดีเจเเนน : พูดได้เเล้วเนอะ เบ้บ : ไม่รู้เหมือนกัน เบ้บก็เลยนั่งเงียบเลยพี่เเนน5555+ บิลลี่ : ผมสายเกมอยู่เเล้ว สปอยให้ทุกคนได้รู้ ทุกคนได้เตรียมใจแพลนของรายการมูมู่เต้าหู้ต่อไป เบ้บ : ก็ล่าสุดที่เราไปถ่ายที่พัทยา เป็นเทปที่ออกต่างจังหวัดในประเทศไทยครั้งเเรกที่แบบตั้งใจไปเที่ยว ก็รู้สึกสนุกดีนะอยากไปอีก อยากไปจังหวัดอื่น ๆ สถานที่อื่น ๆ เหมือนเราก็ได้เห็นในอีกหลาย ๆ มุมของเขา จากการใช้ชีวิตเที่ยวด้วยกัน เเละที่สำคัญคือได้แชร์โมเม้นให้กับแฟน ๆ ในมูมู่เต้าหู้ด้วย ดีเจแนน : ตอนที่ไปมันหนาวมั้ยเช็คยังที่เบอร์ลิน เบ้บ : หนาวว บิลลี่ : น่าจะหนาวนะครับ ช่วงคริสต์มาสพอดี ดีเจแนน : ขนาดอยู่ในบ้านเราร้อน ๆ ยังมุมุใกล้กันขนาดนี้ ถ้าไปนั้นไม่อยากคิดว่ามุมุเลเวลไหน บิลลี่ : ตอนที่รู้จะได้ไปเยอรมันเเล้ว เขาเตรียมเอฟชุดแล้วนะ เบ้บ : แน่นอนอยู่เเล้ว พลาดได้ยังไง ดีเจเเนน : ซึ่งไม่กล้าเปิดเผยด้วย เพราะกลัวเเฟนคลับไปแต่งตามอีก เบ้บ : 555555+ เเต่งได้ ๆวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“บิลลี่-เบ้บ”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘บิลลี่เบ้บมีลางสังหรณ์ว่า...’ ถ้าอยากรู้ว่าทั้งคู่จะลางสังหรณ์อะไรบ้าง? ไปดูกันเลยย(เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“บิลลี่ - เบ้บ” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“บิลลี่ - เบ้บ”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความสนุกสนานให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไปขอฝากงาน Babe Solo Stage Birthday Meeting มาในคอนเซ็ปท์ Nightmare สำหรับเดือนแห่งฮาโลวีน เจอกันวันที่ 5-6 ตุลาคมนี้! เเละก็ฝาก Billy Babe First Meeting In Berlin วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้! มี 2 รอบ เตรียมโชว์จุใจให้แฟน ๆ ได้ดูเลย เเละก็ฝาก MUMU-TOFU STORY ตอนนี้อีพีที่ 7 เเล้ว เเละมีซีรีส์ “The Sign ลางสังหรณ์” ที่เพิ่งจบไป สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube : IDOL FACTORY บอกเลยว่าห้ามพลาดด!สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

19 พ.ค. 2025

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

รายการ EFM FANDOM LIVE [24 เมษายน 68] คืนนี้ต้อนรับ “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดฮอต “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS"ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ การค้นพบ MarkOhm คือเรื่องราวดีๆในชีวิต “MarkOhm เหมือนยาวิเศษ”รู้ตัวอีกที MarkOhm ก็เป็นเหตุผลหลักของความสุขไปแล้ว “เธอทำให้ฉันยิ้มได้”ในวันที่เหนื่อยล้า ต้องการฮีลใจ แค่ได้ดูคอนเทนต์ ทั้งคู่ก็เหมือนได้บูสความสุขขึ้นมาใหม่ “MarkOhm คือคนที่รักษาใจฉันดีที่สุดเลย” ขอบคุณทั้งคู่ที่ตั้งใจกับทุกๆอย่างที่ทำ อยากบอกว่าเห็นเสมอและจะคอย support อยู่ข้างหลัง มองดูทั้งคู่ค่อยๆเติบโตและเดินเคียงข้างกันบนเส้นทางนี้นะLetter #1: This letter is titled... Neither a pill nor a liquid remedy, but a potion for the soul. Discovering MarkOhm has been a wonderful journey in my life. "MarkOhm feels like a magic remedy." Before I knew it, you became a huge source of my joy. "You bring smile to my face" On a day when I was feeling drained and needed some emotional recovery, just watching your content lifted my spirits. "MarkOhm truly has a unique way of mending my heart." I'm grateful to both of you for pouring your hearts into everything you create. I want you to know that I notice all your efforts and will always be here to support you. I’m excited to see you grow, and I look forward to walking alongside you on this journey.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า...ตะล๊อกต๊อกแต๊กมาทำไม มาทำไม ก็มาบอกความในใจถึงคุณไง อยากบอก พี่มาร์ค กับ พี่โอม ว่าเก่งมาก ขอบคุณที่มารับบทเป็นหมอเจย์ น้องซองต์ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เป็นซีรีส์ฟีลกู๊ดที่ชอบมากเลย ตั้งตารอตั้งแต่เปิดกล้องจนตอนนี้ได้ออนแล้ว ภูมิใจในตัวพวกพี่มาก ๆ เลย หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้พวกพี่ได้รับความรักเพิ่มขึ้นไปอีก วันศุกร์มันสดใสอยู่แล้วที่จะได้พักผ่อน แต่พวกพี่สามารถทำให้มันสดใสขึ้นได้ไปอีก ขอบคุณที่มาช่วยเติมพลังให้กับชีวิต เป็นเหมือนยาวิเศษจริง ๆ รักนะคะLetter #2: This letter is titled...What's brought me here? I’m here to share my feelings with you. I just want to say to P'Mark and P'Ohm that you both areamazing. Thank you for stepping into the roles of Dr. Jay and N' Sant—you’re truly the perfect fit. This series brings me so much joy, and I've been eagerly waiting for it since filming began, right up until it started airing. I’m so proud of both of you. I really hope this series brings you even more love and appreciation. Fridays were already lovely for some downtime, but you both make them even more special. Thanks for bringing such positivity into my life; it feels like a miracle. Much love to you both!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ตั้งแต่วันเปิดตัวว่า มาร์ค - โอม จะได้เป็นพาร์ทเนอร์กัน เราดีใจมาก นี่มันคู่ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด เคมีที่เข้ากันขนาดนี้ ใครจะเอามาร์คอยู่เท่าน้องโอม และใครจะปราบเด็กดื้อแบบน้องโอมได้เท่ามาร์ค ดีใจที่ได้ซัพพอร์ตทั้งสองคน เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ รอดูความสำเร็จอยู่เสมอ หวังว่า จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ฉบับนี้จะสร้างรอยยิ้มให้กับมาร์คโอม เหมือนกับ “แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ” คอยสร้างรอยยิ้มให้กับเรานะLetter #3: This letter is titled...Letters that are highly suggested by the majority of fans (club). From the moment it was revealed that Mark and Ohm would become partners, our excitement has been undeniable. They truly complement each other perfectly. With their exceptional chemistry, who else can manage Mark better than Ohm? And who can handle the stubbornness of Ohm quite like Mark can? We’re excited to cheer for both of them and can’t wait to see what they achieve. I hope this letter, which comes highly recommended by many fans, will make Mark Ohm smile, just as the 'fans endorsed by most dentists' never fail to brighten our day.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... จากฉันคนนี้ ถึง พวกเธอคนโปรด จากวันแรกถึงวันนี้ จากที่เห็นเธอยืนอยู่มุมๆบนเวที จนวันนี้มายืนตรงกลางให้เห็นชัดๆแล้ว ภูมิใจและดีใจมากที่ได้อยู่เห็นทุกความสำเร็จ ได้เห็นมาร์คและโอมในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เป็นเวอร์ชั่นที่เติบโตอย่างมั่นคงทั้งกายและใจ เก่งมาก ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่ฉันเชื่อมั่นในพวกเธอเสมอ ดีใจที่ได้รู้จักกันนะ ขอบคุณที่ทำให้ประโยคที่ว่า 'รักเธอไม่เคยเสียใจเลยสักวัน' มันไม่เคยเกินจริงเลยเมื่อได้รู้จักมาร์คโอมLetter #4: This letter is titled... From me to those who mean the most to me. From the very beginning until now, watching you go from standing on the corner of the stage to today standing in the middle and clearly visible. I've witnessed all your successes and seen Mark and Ohm become the best versions of themselves, both physically and mentally. You all have such incredible talent. Always believe in yourselves, just as I believe in you both. It's been a pleasure getting to know you. Thank you for making the phrase 'I love you and have never been sad even once' feel completely true since I met Mark and Ohm.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... แด่มาร์คโอม คนที่ฉันอยากจะปกป้องและดูแลให้ดี นี่คือความรู้สึกภายในใจที่ไม่เคยได้บอกพวกเธอไป ทุกครั้งที่พวกเธอขอบคุณแฟนคลับ อยากจะบอกว่าความอบอุ่นที่ได้รับจากพวกเธอ รอยยิ้มของพวกเธอ มันสามารถแทนคำขอบคุณทั้งหมดที่มีให้กันได้แล้ว ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธออยู่ในจุดที่ฉันสามารถมองเห็นได้อยู่เสมอ โลกของฉันมันดีกว่าเดิมเพราะการมีอยู่ของพวกเธอจริงๆ ฉันจะปกป้องพร้อมดูแลคนที่ฉันรักอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเป็นตัวเองที่มีความสุขในทุกวันได้เลยนะLetter #5: This letter is titled... For Mark Ohm, the one I want to look after and keep safe. I’ve never shared these emotions with you before. Whenever you express your appreciation to your fans, I feel like I want to convey that the kindness and smiles I get from you mean more to me than any thanks I could give. Honestly, I should be the one expressing my gratitude for your constant support. I really appreciate that you're always around for me to notice. You truly make my life brighter just by being in it. I promise to cherish and look after those I love as best as I can, so just be yourself and find joy each day.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE เราจะมาพูดคุยกับ “มาร์ค - โอม” กันจะเกิดอะไรขึ้นถ้า มาร์ค - โอม - ปูน - บุ๊ค - จูเนียร์ - เต ตะวัน อยู่ด้วยกัน! มาร์ค : มันก็จะเป็น สิ่งที่มีแต่ผู้พูด ไม่มีพูดฟัง และผมเชื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ผมก็จะเป็นคนฟัง แล้วจะพยายามหาช่องแทรกเรื่อยๆ โอม : พี่เต พี่จูเนียร์ จะเป็นตัวนำ มาร์ค : และปูนจะเป็นคนที่ออนตลอดเวลา คือจะพูดไปเรื่อยๆ ไม่หยุด โอม : เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่พูดไปก่อน ส่วนผมจะเป็นตัวเสริม ใครเริ่มชนะ ผมจะอยู่กับคนนั้นที่ 1 ของการเมาท์แฟ่ด! มาร์ค : ถ้ามีแค่ในแก๊งนั้น ผมว่าเป็นปูด ปูนคือคำนิยามง่ายๆ ของคำว่าพูดจนลิงหลับได้ โอม : ผมว่าพี่เต พี่เตเขาพูดไปเรื่อย แต่พี่ปูนเขาพูดไม่รู้เรื่อง มาร์ค : เขาพูดไปเรื่อยจริงๆ เขาเหมือนใช้ชีวิตแบบการ์ตูนหน่อยๆ รีแอคก็จะเป็นการ์ตูน โอม : เหมือนสั่งคัดเขาจะยังอยู่ในเรื่องอยู่ ทุกการกระทำของเขามันจะดูเป็นการ์ตูนไปหมด แม้กระทั้งตอนที่เราถ่ายซีรีส์ด้วยกัน เขาเป็นคนที่คุยกับไก่ คุยกับสุนัข คุยกับตัวเอง คุยไปเรื่อยดีเจมือใหม่ กับการส่งเข้าเพลง Mr.Romantic แบบใหม่ มาร์ค : บทเพลงต่อไป เป็นหนึ่งเพลงที่ ผมคิดว่ามันดีต่อใครหลายๆ คน สำหรับคนที่มีคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแฟน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ พี่ป้าน้าอา หรือใครก็ได้ที่คุณรู้สึกว่า คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณ แล้วเพลงนี้เป็นตัวแทนของคนที่คลั่งรักคนๆ หนึ่งมากๆ เพลงนี้มีชื่อว่า Mr.Romantic อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังดูนะครับ โอม : อย่างที่พี่มาร์คบอก เพลงนี้มันสำหรับคนที่มีความรักให้กันแบบ full feel เพลงนี้มันเป็นเพลงที่ดี ถึงนักร้องจะไม่ดีมาก แต่ผมอยากให้ทุกคนติดตาม เป็นซิงเกิ้ลแรกของนักร้องคนนี้ เป็นนักร้องหน้าใหม่ ไฟแรง ซึ่งจะเป็นยังไง อยากให้ทุคนลองไปฟังกันดูครับสปอย ซีรีส์ Sweet Tooth ,Good Dentist EP ต่อไปแบบกรุบกริบ… มาร์ค : สปอยตามตัวอย่างที่ปล่อยไปละกัน คือจะมีตัวละครใหม่เข้ามาชื่อว่า กัปตัน เล่นโดยพี่หมอจิมมี่ ตัวละครนี้จะเป็นตัวที่เข้ามาขับเคลื่อนทุกความสัมพันธ์เลย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเจกับซองต์ และจะเข้ามาแข่งกันจีบซองต์ เส้นเรื่องที่เป็นตัวละครเจ ก็จะบอกอะไรมากขึ้นจากตัวกัปตันด้วย โอม : ใช่ เหมือนตัวละครกัปตันเข้ามา เป็นไดนาไมท์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครขับเคลื่อนเร็วขึ้น ทั้งตัวเจซองต์ ทั้งกัปตันมาร์ค กับ หมอเจ ความขี้หึงที่แตกต่าง มาร์ค : คือถ้าเจหึง มันดูชัดว่าหึง คือเจจะตามไปทุกที่ แต่ตัวผม ไม่ ผมจะปล่อย เพราะผมรู้สึกว่าอาการหึง มันคือความเชื่อใจ หมายความว่าไม่ต้องให้เราไปกีดกันหรือตามไปทุกที่ ทุกสิ่งเขาทำ ถ้าเขาทำให้เราสบายใจ เชื่อใจ ถ้าเขาซื่อสัตย์กับเรา ฉะนั้นเราไม่ต้องไปตามหึงอะไรเลย แต่ถ้าเขาจะไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเขาจะทำอะไรลับหลังเรา ต่อให้มี 108 วิธี ที่เราไปตามเขา ยังไงเขาก็จะหักหลังเราอยู่ดีจะหึง หรือ โดนหึง แต่ความสัมพันธ์ ต้องมีพื้นที่ให้กัน… โอม : ถ้า ณ ปัจจุบัน โอมคิดว่าโอมไม่ใช่คนขี้หึง แต่มันก็เคยมีช่วงที่ผ่านมา เราเป็นคนที่ขี้หึงมาก เราต้องอยากรู้ตลอดว่าเขาทำอะไรอยู่ เขาอยู่ที่ไหน ทำไมไม่บอกกันเลย พอมันโตมาเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่า 1 เลย เหมือนที่พี่มาร์คบอก มันคือการให้เกียรติกัน แล้วอย่างที่ 2 มันคือการให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน คนสองคนเรามาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันอยู่Workshop กับการเตรียมตัวเป็นหมอเจ มาร์ค : จริงๆ ตอนที่ว้าวอย่างแรกเลยคือการสวมใส่อุปกรณ์ ตอนแรกผมเห็นอุปกรณ์ มีถุงมือ ที่คลุมผม มีแมส ผมก็หยิบใส่แบบปกติ แต่จริงๆ มันมีลำดับขั้นตอน ทั้งหยิบใส่แล้วก็ถอด ถุงมือต้องใส่เป็นสิ่งสุดท้าย ต้องใส่แมส ใส่ที่คลุมผมให้เสร็จ แล้วค่อยใส่ถุงมือ เพราะเราต้องรักษาความสะอาด ไม่ใช่เราใส่ถุงมือก่อนแล้วไปใส่แมส มาจับผมตัวเองมันไม่ได้ เวลาถอดก็ถอดถุงมือออกก่อนได้เลย โอม : ทุกครั้งก็จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อยู่หน้าเซตจริงๆ ค่อยกำกับว่าควรทำยังไงก่อน ถ้าผิดเขาจะให้ถ่ายใหม่หมดเลยถึง“ซองต์” จะสู้ชีวิต แต่ “โอม” คือลูกคุณที่แท้จริง โอม : จริงๆ ไม่ขนาดนั้น แต่เหมือนตัวละครซองต์ เป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็เป็นคนที่คอยหาเงิน ทำงาน ทั้งดูแลยาย ดูแลหลาน เป็นเดอะแบก รวมถึงต้องดูแลชีวิตตัวเองด้วย ซึ่งโอมในชีวิตจริง โอมเป็นลูกคนเล็กมีพี่ชาย 2 คน แล้วมีพ่อแม่ ลูกคนเล็กพ่อแม่ก็จะตามใจ เวลาไปขออะไรพี่ชายก็จะให้ก่อน ซึ่งตรงนี้มันยากสำหรับโอม ที่เราไม่เข้าใจว่าการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมันเป็นยังไง ความรู้สึกที่มันต้องมีภาระมันเป็นยังไงความห่วงใยจากทันตแพทย์ ถึงแฟนๆ ทางบ้าน มาร์ค : ก็แปรงฟันให้ถูกวิธี มันจะมีคำหนึ่งที่หมอเจเคยพูดไว้ว่า ฟันเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาตั้งแต่กำเนิด คุณก็ควรดูแลรักษาให้ดีที่สุด บางคนคิดว่าเป็นอะไรนิดนึงก็ถอนทิ้งไปเลย มันไม่ใช่ จริงๆ เราควรรักษาให้ถึงที่สุด ที่เริ่มต้นง่ายๆ เลย คือการแปรงฝันให้ถูกวิธี ซึ่งจริงๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังทำไม่ค่อยได้ มันเหมือนง่าย แต่มันยาก โอม : ก็ต้องไปพบหมอตามที่หมอนัด เหมือนโอมเคยไม่ไปตามที่หมอนัดแล้วก็ลืมไปเลย และมันก็มีซีนที่ต้องส่องกล้องไปที่ฟันจริงๆ แล้วพี่มาร์คก็บอกว่า “โอม มึงนี่หินปูเยอะเหมือนกันนะ”หมอไม่ดุ แต่ฟันผุ ไม่สนุกน้าา มาร์ค : ในฐานะนักแสดงที่ผมเล่นเป็นทันตแพทย์ ผมรู้สึกว่าการดูแลรักษาช่องปากตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อาจก่อให้เกิดหลายๆ โรค วิธีง่ายๆ ในการดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน คือ การแปรงฟันให้ถูกวิธี ถ้าให้ดี คือแปรงทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ผมรู้สึกว่านั้นเป็นสิ่งที่โอเคแล้ว หรือบ้วนน้ำยาบ้วนปากอะไรอย่างเงี้ย โอม : ใครกลัวหมอฟัน ก็แค่แปรงฟันให้สะอาด ดูแลเหงือกของเราให้ดี กินของหวานตอนดึกได้ แต่ต้องแปรงฝันก่อนนอนด้วยนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “มาร์ค - โอม” เล่นกัน! ชื่อเกมว่า... จุดจุดจุด ที่ มาร์คโอม แนะนำ(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “มาร์ค - โอม” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “มาร์ค - โอม” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist ทุกวันศุกร์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น และฝากเพลง OST.ของซีรีส์จากทั้งสองหนุ่มด้วยน้าสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

เติ้ล - เฟิร์สวัน เสิร์ฟความแสบซน จัดเต็มโมเมนต์ความฟิน ความฮ้อบ เล่นเกมสุดท้าทายบทบาทการเป็นนักร้อง พร้อมเผยความรู้สึกถึงเพลงคู่เพลงแรก และลุ้นบทสรุปของซีรีส์ เขมจิราต้องรอด ไปพร้อมกัน

24 ต.ค. 2025

เติ้ล - เฟิร์สวัน เสิร์ฟความแสบซน จัดเต็มโมเมนต์ความฟิน ความฮ้อบ เล่นเกมสุดท้าทายบทบาทการเป็นนักร้อง พร้อมเผยความรู้สึกถึงเพลงคู่เพลงแรก และลุ้นบทสรุปของซีรีส์ เขมจิราต้องรอด ไปพร้อมกัน

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 23 ตุลาคม 2568 ] ค่ำคืนนี้เวทมนตร์และความฝันจะกลายเป็นความจริง เพราะ “เติ้ล - เฟิร์สวัน” พร้อมป่วนแบบจัดเต็มไปกับ 2 ดีเจสาวสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟน ๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกกับศิลปินจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ขอบคุณที่ทำให้ “ติดฝน” ไม่ได้แปลว่าเปียก แต่แปลว่า “อบอุ่น” ตั้งแต่ได้ค้นพบ เติ้ล เฟิร์สวัน ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย แม้จะมีวันที่อากาศขุ่นมัวในใจหรือวันที่ฝนตกลงมาไม่หยุด แค่ได้เห็นรอยยิ้ม แค่ได้ฟังเสียง มันก็เหมือนโลกอบอุ่นขึ้นมา ทั้งคู่คือเหตุผลที่ทำให้ “การติดฝน” ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ แต่กลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในวันนั้น ทั้งคู่อาจจะไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีพลังมากขนาดไหน แต่อยากให้รู้ไว้เสมอว่า เติ้ล เฟิร์สวัน คือความอบอุ่นในวันที่เปียกปอนที่สุดของเราเสมอLetter #1: This letter is titled... Thank you for transforming 'getting caught in the rain' from a mere soaking into a delightful experience of ‘warmth’. Ever since I found Tle and FirstOne, I can’t say I've ever felt tired. Even on those gloomy days when my heart feels heavy or when the rain just won’t stop, just seeing their smiles and hearing their voices makes everything feel brighter. They turn getting caught in the rain into some of the best moments of my day. They might not realize the amazing energy they bring, but I want them to always know that Tle and FirstOne are the sunshine on our driest days.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... A Gentle Light, Just for You. จดหมายฉบับที่ n ถึงคุณมติมันท์ และคุณวรรณกร มีรักอันเป็นนิรันดร์มาส่งถึงคุณผู้เป็นที่รัก มีใครบางคนกำลังขอบคุณในการมีอยู่ของพวกคุณอยู่เสมอ สิ่งที่อยากบอกคือขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจและเป็นยาใจสำคัญของเค้ามาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีนะ ดีใจที่ได้เจอจริงๆ เค้าดีขึ้นมากเพราะพวกคุณเลย ขอบคุณที่มาอยู่ตรงนี้ให้ได้รักนะคุณ สุดท้ายแล้วขอให้ทุกๆอย่างที่พวกคุณตั้งใจทำเป็นอย่างดี success อย่างที่หวังไว้นะ.Letter #2: This letter is titled... A Gentle Light, Just for You. Letter number n to Mr. Matiman and Ms. Wannakorn. I'm sending you both my heartfelt love. Someone is constantly grateful for having you in their life. I just want to express my appreciation for being the source of encouragement and vital support for nearly two years. I’m truly thankful to have crossed paths with you. I’m doing so much better. Thank you for being there to love me. Lastly, I hope that everything you aim for turns out even better than you expect.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... อัมเบรลล่า อัมเบรลเลิฟ (การเดินทางของร่มแห่งรักTF) ในวันที่เราเหนื่อย เราท้อ มีฝนตกในใจ ก็ยังมีศิลปินที่เรารัก ก็คือ เติ้ลเฟิร์สวัน ยังคอยเป็นร่มที่กางให้เราในทุกๆครั้ง และทำให้เราก้าวออกมาจากปัญหาเหล่านั้นได้ และยังเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตให้เราในทุกๆวัน และสำหรับคนที่ติดตามผ่านหน้าจออย่างเรา อยากขอบคุณที่คอยกดใจให้ติดฝนตลอดและอยากขอบคุณที่ค่อยเปล่งเสียงเพราะๆให้พวกเราฟังเสมอ ขอบคุณที่น่ารักกับติดฝนเสมอมา ขอให้ร่มทั้งสองคันนี้ถูกค้นพบอีกเยอะๆ รักนะLetter #3: This letter is titled... Umbrella of Love (The Adventure of Love's Umbrella) When we're feeling exhausted, down, or just weighed down by life's challenges, there’s always the artist we adore, Tle FirstOne, who steps in like an umbrella to help us weather those storms. They inspire us to embrace life every single day. For those who connect with them through the screen, I want to express my gratitude for your support and sharing such beautiful sounds with us. I truly hope these two umbrellas receive more recognition. Love you all.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... ฝันที่วาดเอาไว้ ติดฝนจะช่วยระบายสีให้เอง สวัสดีเติ้ลเฟิร์สวัน ดีใจที่เราค้นพบกันและกันในจังหวะเวลาที่เหมาะสมนะ เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอคุณทั้ง 2 คนเลย หวังว่าคุณเองก็จะรู้สึกแบบเดียวกันนะ เส้นทางที่กำลังเดินอยู่ เราขอให้มันเป็นอย่างที่คุณวาดฝันและจินตนาการถึง ขอให้คุณได้ลองทำในสิ่งที่อยากทำ ขอให้ความฝันของคุณสำเร็จนะ ส่วนเราจะคอยอยู่ตรงนี้เพื่อซัพพอร์ตความฝันของคุณเอง มีความสุขมากๆนะ หวังว่าคุณจะยิ้มได้หลังจากอ่านจดหมายฉบับนี้จบLetter #4: This letter is titled... With Tidfon (ติดฝน), you can bring your dream to life by adding your own colors to it. Dear Tle Firstone, I’m really thrilled that our paths crossed when we did. It’s always a pleasure to see both of you, and I hope you feel just as happy about it. I truly wish for your journey to unfold just as you envision it. Chase after your aspirations and may all your dreams become a reality. Please know that we’re here to cheer you on every step of the way. Wishing you immense happiness, and I hope this letter brings a smile to your face.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... ถึงต๊อกแป๋วคนที่ทำให้หนูเติมเติ้ลเฟิร์สวันแบบโอเวอร์โดสจนนอนเช้า อยากบอกพี่เติ้ลกับน้องเฟิร์สวันว่าขอบคุณที่เกิดมาให้ได้รักนะคับ ขอบคุณที่ทำตามความฝันมาตลอด อาจจะไม่ได้ตามทั้งคู่มาตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ได้ค้นพบทั้งคู่แล้วก็จะขอเฝ้ารอดูเติ้ลเฟิร์สวันเติบโตไปให้มากกว่านี้ ขอให้ไปถึงระดับโลกเลย ถึงจะไม่ใช่สายไปหน้างานแต่ส่งกำลังใจผ่านหน้าจอให้ตลอดนะ รักทั้งสองคนมากๆนะLetter #5: This letter is titled... Dear Tok Paew (ต๊อกแป๋ว) , you’re the reason I ended up staying up late after taking way too much of Tle Firstone. Dear P'Tle and N'Firstone, I just wanted to take a moment to express my heartfelt gratitude for being you and allowing me the chance to care for you. Thank you for pursuing your dreams with such passion. While I may not have been there from the very start of your journey, now that I've found you both, I’m excited to watch you continue to grow and thrive. I truly believe you have the potential to reach incredible heights in this world. Even though I may not be directly involved, please know that I’m cheering you on from the sidelines and sending all my support your way. I love you both dearly.เข้าสู่ช่วงที่สองของ EFM FANDOM LIVE ร่วมต้อนรับผู้กองต๊อกและยัยแป๋วที่มาพร้อมโมเมนต์อัดแน่นความฟิน และเตรียมฮาลั่นสตูกับเกมสุดป่วน ไปกับ “เติ้ล - เฟิร์สวัน”“เติ้ล - เฟิร์สวัน” บุคคลที่รักงานมากที่สุด ด้วยกระแสของทั้งคู่ที่มาแรงแซงทุกไทม์ไลน์ในขณะนี้ ทำให้ในหนึ่งวันต้องทำหลายสิ่งหลายอย่าง และมีเวลานอนอันน้อยนิดที่ทั้งคู่เองยังเอ่ยปากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ามีวันหยุดจะขอ ‘นอน’ พร้อมเผยวิธีการเติมเอนเนอร์จี้ระหว่างวัน โดยที่ทั้งคู่จะแอบงีบบนรถนั่นเองความประทับใจในการทำงานของกันและกัน นอกเหนือจากมุมสดใส และพลังงานบวกที่คอยมอบให้แฟนคลับในทุก ๆ งานแล้ว เติ้ลยังเล่าว่า ประทับใจความมั่นคงของเอนเนอร์จี้เฟิร์สวัน ในช่วงที่พักเขาก็จะงีบไป แต่พอถึงเวลาทำงาน เขาก็จะมีเอนเนอร์จี้ขึ้นมาเลย แม้เจ้าตัวจะไม่กินกาแฟ แต่ก็ยังมีเอนเนอร์จี้ดีอยู่ตลอด แต่บางครั้งกลับเป็นเติ้ลเองที่ช้าไปบ้าง ส่วนด้านเฟิร์สวันก็ประทับใจในเรื่องระเบียบวินัยของเติ้ล จะทำสิ่งใดก็ตั้งใจแบบสุด ๆ ตรงเวลามาก น้อยครั้งที่จะมาช้าจะผ่านไปนานแค่ไหน พี่เติ้ลก็ยังเป็น safe zone ของเฟิร์สวันเสมอ ย้อนกลับไปวันแรกที่ทั้งคู่เจอกัน เฟิร์สวันเริ่มทักก่อนเพราะรู้สึกได้ว่าพี่เติ้ลจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง จนถึงวันนี้ที่ผ่านเวลา หรือพบเจอเรื่องราวมามากมาย พี่เติ้ลเองก็ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เฟิร์สวันเสมอมา อีกทั้งยังรู้สึกปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม เพราะด้วยความสนิทและความเชื่อใจ ทำให้เวลามีปัญหาหรือเจอเรื่องอะไรมาก็จะเล่าให้กันฟังความรู้สึกแรกที่รู้ว่าจะมีผลงานเพลงด้วยกัน ครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้ฟังตัว Demo ของเพลง ‘ชอบแกล้งไม่ได้แกล้งชอบ’ ทำเอาทั้งคู่ถึงเอ่ยปากถามว่าเพลงใคร ทำไมติดหูจัง ซึ่งทั้งคู่เองก็คิดว่าเป็นเพลงที่มีเจ้าของแล้ว แต่ความจริงก็เป็นเพลงของทั้งคู่นั่นแหละ รู้สึกดีใจมาก ๆ ไม่คาดคิดว่าเราจะมีเพลงคู่กันเร็วขนาดนี้ ด้านแฟน ๆ เองก็ดีใจเช่นกันเพราะพวกเขาก็อยากให้เรามีเพลงคู่กันอยู่แล้วแอบสปอยบทสรุปส่งท้ายของซีรีส์ ‘เขมจิราต้องรอด’ EP.12 ที่ทุกคนรอคอยสำหรับบทสรุปส่งท้ายของซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” จุดจบของนางรำพึงจะเป็นอย่างไร เขมจิราจะรอดหรือไม่ ทำเอาอดแอบถามสปอยจากทั้งคู่ไม่ได้ เผื่อจะได้รู้สปอยอะไรเพิ่มเติมบ้าง แต่งานนี้ผิดคาดอย่างแรง เพราะทั้งคู่หลุดออกมาแค่ว่า ‘เป็นอีพีที่มีหลากหลายอารมณ์’ เท่านั้น งานนี้แฟน ๆ คงต้องรอติดตามในตอนสุดท้ายไปพร้อมกันแล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาด!สปอยกันต่อกับ ‘งานบุญเขมจิรา KHEMJIRA’S FINAL BLESSING’ เป็นงานรับชม Final EP ของซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” พร้อมกับเหล่านักแสดง ที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยกิจกรรมมาบ้างแล้ว นอกเหนือจากการรับชม EP สุดท้ายพร้อมกัน สิ่งที่หลายคนต่างตั้งตารอไม่แพ้กันก็คือโชว์สุดพิเศษภายในงาน ซึ่งด้านเติ้ลและเฟิร์สวันเองก็แอบสปอยมาแล้วว่ามีโชว์แน่นอน แต่จะเป็นโชว์อะไรนั้น ต้องรอติดตามกันนะก่อนเข้าสู่ช่วงเล่นเกมกัน ทางรายการขอวอร์มเครื่อง “เติ้ล - เฟิร์สวัน”ด้วยเกม ‘ถามไวตอบไว คำถามจาก…สมาคมโต๊ะข่าวบันเทิง EFM FANDOM LIVE’งานนี้จะหลุดความลับอะไรออกมาให้แฟน ๆ สมองไหลกันบ้างน้า…?คำถาม : จริงหรือไม่ ? เติ้ลชอบถ่ายรูปเฟิร์สวันทั้งตอนนอน ตอนกิน ตอนร้องเพลงแล้วไม่ยอมลง แต่จะเก็บไว้ดูเติ้ล : จริงคำถาม : จริงหรือไม่ ? ระดับความคลั่งรักของเฟิร์สวันเกิน 99.99% แล้วเฟิร์สวัน : ไม่จริงครับ 99.99% อยู่คำถาม : จริงหรือไม่ ? เวลาเลื่อนผ่านฟีดในโซเซียลแล้วเติ้ลกดเซฟรูปเฟิร์สวันไว้เติ้ล : ก็อาจจะจริงครับ ก็รีโพสต์บ้างคำถาม : จริงหรือไม่ ? เติ้ลชอบแอบมองเฟิร์สวันแล้วเผลอยิ้มคนเดียว (ถามเติ้ล)เฟิร์สวัน : อันนี้จริง ก็รู้ตัวอยู่คำถาม : ตั้งแต่งานกีฬาสี DMD ที่แข่งกินไข่ต้ม ทุกวันนี้เฟิร์สวันแกะไข่ต้มได้หรือยังน้า ?เฟิร์สวัน : อาจจะยังน้าานอกจากการพูดคุยสุดฟินแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “เติ้ล - เฟิร์สวัน” เล่นกันด้วย มีชื่อเกมว่า ‘เติ้ล - เฟิร์สวัน ร้องกัน ตามบรีฟฟฟฟ !!’แนวเพลงไหน จะทำคู่จิ้นเสียงดีไขว้เขวไปบ้าง และความฮาจะทวีคูณเพียงใด ไปชมกันเลยย !(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เติมเต็มความฟินให้ค่ำคืนนี้กับโมเมนต์สุดพิเศษด้วยการให้ “เติ้ล - เฟิร์สวัน” โทรกลับมาทักทายแฟน ๆ แบบ Exclusive !ร่วมสัมผัสโมเมนต์ความฟินแบบไม่มีกั๊ก ! (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้… รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “เติ้ล - เฟิร์สวัน” มาก ๆ เลยที่มามอบทั้งความสนุก และเสียงหัวเราะ เติมเต็มให้ค่ำคืนนี้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจากแฟน ๆ และก่อนปิดท้ายกันไปขอฝากตอนสุดท้ายของซีรีส์ ‘เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series’ ออกอากาศวันเสาร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง one31 และดูออนไลน์เวอร์ชั่น UNCUT ทาง iQIYI ฝากเพลง Ost. เพลง “เวทมนตร์” จาก เติ้ล เพลง “จากฝัน” จาก เฟิร์สวัน และฝากเพลง “ชอบแกล้ง ไม่ได้แกล้งชอบ” ซิงเกิลคู่ของทั้งคู่ด้วยน้าา และสามารถติดตามผลงานอื่น ๆ ของทั้งคู่ได้ทางโซเซียลมีเดียทุกแพลตของ DOMUNDI ได้เลยยย !สามารถเข้าไปรับชมความสนุก ความฟิน ความฮ้อบกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1