LYKN ก็คือหมาป่า และเมื่อ On Stage ขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ต้องรอเวลาให้ Full Moon

EFM FANDOM RECAP

LYKN ก็คือหมาป่า และเมื่อ On Stage ขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ต้องรอเวลาให้ Full Moon

19 พ.ค. 2023

หนึ่งในรายการแข่งขันเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น รายการ ‘ ProjectAlphaTH ’ ที่ค้นหาเด็กหนุ่มมากความสามารถมาเข้าร่วมในทีมและเดบิวขึ้นเป็นศิลปินในสังกัด RISER MUSIC  ในเครือ GMM TV 

 

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา EFM Fandom Live ได้ต้อนรับสมาชิกทั้ง 5 จากวง LYKN (วิลเลียม - เลโก้ - ตุ้ย - ฮง - นัท )  บอยแบนด์หน้าใหม่ผู้ชนะจากรายการ ProjectAlphaTH ! 

 

ซึ่งในช่วงแรกทางรายการก็ได้เปิดหน้าไมค์ให้เหล่าแฟนคลับได้มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวความแสบของน้องๆ LYKN ให้ชาว EFM Fandom Live ได้รับฟังกัน 

 

“ LYKN กับจุดเริ่มต้นทำความรู้จัก ”

 

หลังจากที่ได้เปิดสายให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุย ทางรายการก็ได้ถามถึงความประทับใจแรกกับที่ไปที่มาว่าทำไมถึงมารู้จักทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ได้ โดยเหล่าแฟนคลับก็ได้กล่าวเป็นรายคน

 

เริ่มที่บ้านของ ‘ เลโก้ รพีพงศ์ ’ที่ได้กล่าวว่าตนนั้นโดนน้องตกจากความสามารถของน้อง และเชื่อว่าใครหลายๆ คนก็คงจะต้องชื่นชอบความสามารถเช่นเดียวกัน เพราะเลโก้ถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเต้นที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะผ่านการแข่งขันระดับโลกอย่าง HHl มาเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใครได้เข้ามารู้จักน้องด้วยใจจริงจะรู้ว่าเลโก้เป็นคนที่เปราะบางมาก ถึงจะมีดื้อหน่อย แต่ใส่ใจคนรอบข้างและคิดบวกเสมอ เพราะแบบนี้จึงทำให้เรารู้สึกตกหลุมรักเด็กคนนี้เข้าอย่างจังเลยทีเดียว นอกจากนี้เลโก้ยังชอบมีคำเรียกแฟนคลับว่า “ Everything ! “ กันอีกด้วย

 

ต่อกันที่ “ ฮง พิเชฐพงศ์ ” หนุ่มน้อยหน้าตี๋สุดน่ารักที่หลายๆ ชอบเรียกกันว่า “ ฮงชิ ” และแฟนคลับก็ได้แอบกระซิบมาว่าพี่ฮงของเราชอบทานของหวานชนิดหนึ่งเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “ ไอศกรีม ” นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของพิฮงก็คือการชื่นชอบทาน จนสามารถทานได้ทุกวันกันเลยทีเดียว

 

ส่วนคนถัดไป ผู้ชายสาย “ โกลเด้น ” อย่าง “ นัท ธนัท ” ที่ชอบถูกแฟนคลับแซวว่ามีความ ‘ บ๊อกแบ๊ก ’ ซุกซน ขี้เล่น เหมือนหมาน้อย ก็ทำให้แฟนคลับเกิดตกหลุมรักในความอัธยาศัยดีของเขา ที่ถึงแม้จะรู้จักกันครั้งแรกใครหลายคนอาจจะคิดว่านัทเป็นคนนิ่งๆ แต่ชาว ‘บีนนี่’ แฟนคลับของนัทก็ต่างบอกว่าถ้ามารู้จักจริงๆ นัทชอบเล่นมุขตลกกับแฟนคลับมากๆ

 

ส่วน “ วิลเลียม จักรภัทร ” พ่อหนุ่มลูกเสี้ยวสายกรี๊ดก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ต่างถูกตกหลุมรักเขาจากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นร้องเต้น เขาคนนี้ก็สามารถทำมันออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก แต่เรื่องที่จะแอบเมาส์จากแฟนคลับก็คงจะเป็นเสียงกรี๊ด อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ที่อยากให้ทางรายการได้รับฟัง รับรองว่าตราตรึงใจอย่างแน่นอน

 

และปิดท้ายด้วยหนุ่มมากความสามารถสายบีตบ็อกซ์อย่าง “ ตุ้ย ชยธร ” ที่แฟนคลับให้สมญานามเลยว่าความ “ โคตรตุ้ย ” มันสุดมากจริงๆ ในที่นี่ก็หมายถึงความสามารถที่หลากหลายและไปสุดทางของน้องจนพูดได้เลยว่า ตุ้ยสุดทุกทาง อย่างแท้จริง นอกจากนี้ตุ้ยยังครีเอทชื่อแฟนคลับตัวเองให้ชื่อว่า “ เหล่านัตสึ ” กันอีกด้วย เพราะตุ้ยเปรียบกับแฟนคลับเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งของตัวเอกในเรื่องของ Reborn ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ทั้งคู่ก็จะเคียงข้างกัน เดินไปด้วยกันเรื่อยๆ ในทุกๆอุปสรรค

 

แต่วีรกรรมของทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปร่วมเอนจอยกันกับการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ในแบบฉบับ EFM Fandom Live ! 

 

LYKN (ไลแคนท์) มันยิ่งกว่าหมาป่า !

 

เมื่อถามถึงความหมายของชื่อวง หนึ่งในสมาชิกจากไลแคนท์ อย่างตุ้ยก็ได้ให้นิยามความหมายของ LYKN ว่า “จริงๆ แล้วไลแคนท์ก็คือหมาป่าเช่นเดียวกับ Werewolf แต่ความพิเศษของไลแคนท์มันอยู่ตรงที่สามารถที่จะแปลงร่างได้เลยไม่ต้องรอวัน Full Moon หรือพระจันทร์เต็มดวงใดๆ ซึ่งเปรียบเสมือนกับเวลาหลังจากเรา On Stage เสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราก็สามารถสวิตช์ร่างกลับมาคุยกับแฟนคลับแบบเป็นกันเองและเข้าถึงง่ายได้ดังเดิมนั่นเอง”

 

 

ใครที่สุดใน LYKN ? ”

 

เมื่อพูดถึงความที่สุดในแต่ละรูปแบบทางรายการจึงให้สมาชิกแต่ละคนใน LYKN นิยามมาว่าใครที่สุดในเรื่องอะไรกันบ้าง เริ่มกันที่ ‘ ใครพูดน้อยที่สุด ? ’ พอถามคำถามนี้ทุกคนก็ต่างชี้ไปที่ “ ฮงชิ ” ว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่พูดน้อยที่สุด ในที่นี้อาจจะไม่ได้หมายถึงไม่ค่อยพูดแต่เลโก้เสริมมาว่าฮงจะเป็นประเภทที่หลังจากเวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไปเอเนอร์จี้เขาจะมาทันที ชอบที่จะใช้ชีวิตตอนกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ถ้าให้บอกจริงๆ คงเป็นช่วง 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มซะมากกว่าที่ฮงจะพูดน้อย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็คือเอเนอร์จี้เขาจะดีดกว่าปกติเลยทีเดียว ส่วนคำถามต่อมาก็คือ “ ใครพูดเยอะที่สุด ? ” คำตอบนี้เรียกได้ว่าล็อคมงกันสุดๆ เพราะเสียงเป็นเอกฉันท์ว่าคือ “ ตุ้ย ” นั่นเองเพราะอย่างที่แฟนคลับและเมมเบอร์บอกว่าตุ้ย ความสามารถของเขาก็คือ จะสามารถพูดได้เรื่อยๆ พูดเรื่องนู้นเชื่อมมาเรื่องนี้ ถ้าเราโยน Topic อะไรไปเขาสามารถพูดได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว ส่วน “ ใครชอบกรี๊ดที่สุด ? ” ก็คงหนีไม่พ้นวิลเลียมที่ได้ออกมาบอกว่าเขาเป็นคนเป็นประเภทหนึ่งที่ถ้าเกิดเหตุการณ์เดดแอร์หรือความเงียบสิ่งที่เขาชอบทำก็คือการกรี๊ด หรือว๊ากออกมา เพื่อทำลายความน่าอึดอัดนั้น ส่วนข้อสุดท้าย “ใครกินเก่งที่สุด ? ” ข้อนี้ตอบได้เลยว่ายากมาก เพราะแต่ละคนก็จะมีความชอบที่ต่างกัน กินเก่งหมดแต่ความชอบกินมันไม่เหมือนกัน อย่างนัทจะเป็นสาย Healthy ชอบทานสลัด ส่วนวิลเลียมจะเป็นเยลลี่ ฮงจะเป็น ไอศกรีม และเลโก้ก็คือทานได้ทุกรูปแบบ โดยสรุปนั่นก็คือชอบทานทุกคนเลยนั่นเอง

 

การได้ขึ้นเป็น LYKN เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราไปบ้าง ?

 

อย่างที่รู้กันว่าเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนกับพัฒนาการกว่าจะมาเป็นหนึ่งในศิลปินจาก LYKN ที่ดังและก็ปังขนาดนี้ ทุกคนก็ต้องผ่านความเป็นอุปสรรคและขวากหนามมาอย่างโชกโชน ทางรายการจึงอยากรู้ว่า การที่ได้มาเป็นศิลปินที่ได้ชื่อว่า ‘ LYKN ‘ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างกับตัวเรา  

 

ฮง พิเชฐพงศ์ - เราไม่คิดว่าจะมีคนมาสนใจในชีวิตเรามากขึ้นถึงขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนเราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย พอเริ่มมีสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วมีคนมาซับพอร์ตในสิ่งที่เราชอบ มันทำให้เรารู้สึกดีใจมากๆ อย่างเวลาเราไปทานอาหารร้านไหน แฟนคลับบางคนก็จะมีการไปเช็คอินตามร้านที่เราเคยไปบ้าง บ้างก็แท็กร้านขนมหมานมา ชวนคุยว่าวันนี้เราทานไอศกรีมแล้วรึยังอะไรแบบนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราประทับใจมากๆ 

 

นัท ธนัท - นัทรู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเยอะมากหลังจากที่เราเริ่มเข้ามาใน ProjectAlphaTH อย่างบางทีแฟนคลับก็มาเจอเราที่ใต้ตึก ก็รู้สึกดีใจมาก ที่เขามารอเรา บางทีก็ดึกมาก แต่เขาก็รอ ก็เลยไม่คิดว่าจะมีคนซับพอร์ตเราถึงขนาดนี้

 

ตุ้ย ชยธร - ก็จะคล้ายกับสมาชิกคนอื่นเลยครับ พอมีคนมารอเราตั้งแต่เช้า เราซ้อมเสร็จกลับดึก บางทีก็ยังเห็นเขาอยู่ เราดีใจมาก มันคล้ายกับว่ามีคนเดินตามฝันไปพร้อมกับเรา ดังนั้นเลยเป็นแรงผลักดันให้เรา ทุกครั้งเวลาซ้อมเราจะตั้งใจทำมันมากๆ เพื่อให้ผลงานออกมาตอบแทนแฟนคลับที่ซับพอร์ตเราขนาดนี้

 

วิลเลียม จักรภัทร - เมื่อก่อนที่เรายังไม่ได้ขึ้นเป็นศิลปิน เวลามาซ้อมที่ตึกเราเห็นพี่ๆ ดาราศิลปินที่มีแฟนคลับมารอ เราก็รู้สึกว่าอยากมีคนมาซับพอร์ตแบบนี้บ้างจัง ถ้ามีแบบนี้ก็คงจะดี แล้วพอมาถึงวันนั้นมันเหมือนความฝันเราเป็นจริง ก็เลยภูมิใจในตัวเองมากๆ เวลาเราท้อหรือเหนื่อยอะไร แค่เราเข้าไปขอกำลังใจจากแฟนคลับ มันก็เหมือนช่วยฮีลใจเราไว้เป็นอย่างมาก

 

เลโก้ รพีพงศ์ - พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตของผมมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้เราจินตนาการไว้อยู่แล้วว่าอยากที่จะเป็นศิลปินเพื่ออะไร มอบความสุขให้ใคร และได้อะไรกลับมาซึ่งหนึ่งในนั้นมันคือกำลังใจจากแฟนคลับ แล้วมันเกิดขึ้นมาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับมัน ซึ่งบางทีเขาก็ซับพอร์ตเราเหมือนเราเป็นหนึ่งในครอบครัวเขาด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรในครอบครัวเขาเลย เขาแค่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้จากเรามันคือความสุข แค่นี้เราก็รู้สึกว่าอยากทำผลงานตอบแทนเขาให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน

 

 

ก่อนจบรายการทั้ง 5 หนุ่มจาก LYKN ก็มีความในใจที่อยากจะบอกซึ่งกันและกัน

 

LEGO  “ขอบคุณในทุกๆ วันที่ทุกคนยังมี passion กับการทำงานอยู่ ช่วงนี้มันอาจจะหนักไปบ้าง แต่ก็อยากให้รู้ไว้ว่าถ้าเรามีความสุข ก็ยังมีคนที่รอดูเราอยู่ อยากให้ตั้งใจที่จะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ให้คิดว่า LYKN เป็นเหมือนประเทศหนึ่ง ให้คนที่เข้ามาเขาอยากที่จะอยู่ ทำหน้าที่ของเราให้ดีต่อไป รักมากๆ ครับ” 

 

HONG “ ขอบคุณทุกคนมาก เพราะถ้าไม่มีทั้ง 5คนก็คงไม่มีเราในทุกวันนี้ ขอบคุณที่เหนื่อย ขอบคุณที่พยายาม ขอบคุณที่ไม่หยุดพัฒนา และเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่วันแรก และก็ขอบคุณที่รักกัน เป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่ง ที่ทำให้ทุกเช้าตื่นมายังมีคนที่ใส่ใจเรา ดูแลเรา เป็นกลุ่มเป็นก้อนตลอดมา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ เลยครับ”

 

WILLIM  “ผมเข้าไปรายการตอนแรกผมอยากเป็นศิลปินเดี่ยวครับ แต่พอได้ลองมันคือไม่ใช่ทางเลยมันดูโหวงมาก พอเราได้ทำงานเป็นกลุ่มเราก็รู้สึกดีมากๆ ที่เพื่อนทั้ง 4 คนคอยซับพอร์ตผมเสมอ ทำให้เราอยากจะทำงานด้วยจริงๆ อยากจะขอบคุณที่บางทีเราอาจจะเต้นไม่ได้ ก็ขอบคุณที่มาคอยช่วย บางทีอยู่มุมห้อง ก็เห็นและคอยมาช่วยเสมอ ขอบคุณมากๆ ครับ”

 

NUT “ ก็ขอบคุณทุกคนเลยที่ทำให้ทุกวันของเราอยากที่จะมาซ้อมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อย แต่พอเรามาซ้อมด้วยกันมันก็มีความสุขมากๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจทำผลงานของเราได้ออกมาให้ดีสุดๆ และผลงานต่อๆไปเราก็จะตั้งใจทำเหมือนวันแรกที่เราทำเพลงของเรา และตั้งใจแบบนี้ต่อๆ ไปเรื่อยเลยครับ

 

TUI “ ก็อยากจะขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เต็มที่กับมันมากๆ ที่ผ่านมาเรารู้ว่าทุกคนผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งฝึก ทั้งอะไรก็ตาม เรารู้ว่าทุกคนเต็มที่มาก วันแรกทุกคนตั้งใจยังไง ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจอย่างนั้น เหมือนวันแรกที่เราได้เจอกัน และบางทีก็อยากขอโทษที่เราอาจจะทำให้ใครไม่พอใจในบางอย่าง หรือล้ำเส้นอะไรไปก็ขอโทษเหมือนกัน แต่ทุกอย่างที่เราทำไป เพราะเราไม่รู้ว่าคำว่า LYKN มันจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่เรารู้สึกว่าผมดีใจมากที่ได้ทำงานกับทั้งสี่คนนี้ และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจในชีวิตเลยก็ว่าได้ ที่เราได้เป็นศิลปินร่วมกัน”

 

สุดท้ายนี้ EFM Fandom Live ก็ขอบคุณสมาชิกจาก LYKN ทุกคนที่มาร่วมสนุกกันภายในรายการ น้องๆ ทุกคนน่ารักกันมากๆ ก็หวังว่าในภายภาคหน้าจะได้พบเจอกันอีก ขอฝากผลงานล่าสุดอย่าง “ เลิกกับเขาเดี๋ยวเหงาเป็นเพื่อน ( MAY I? ) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยน้า และเร็วๆ นี้ LYKN จะมีเดินสายไปยังประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก ก็ฝากเป็นกำลังใจให้เด็กๆ และตะโกนชื่อ “ LYKN ! “ กันให้สุดเสียงไปเลย

ภาพ EFM Fandom Live

related EFM FANDOM RECAP

พูดคุยกับ 2 หนุ่ม “สายลับ – ภณ” พร้อมรับรางวัล “EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” ในสาขา ‘คู่หูโลกวิญญาณ’

21 ก.พ. 2024

พูดคุยกับ 2 หนุ่ม “สายลับ – ภณ” พร้อมรับรางวัล “EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” ในสาขา ‘คู่หูโลกวิญญาณ’

รายการ EFM FANDOM LIVE [15 กุมภาพันธ์ 2567] คืนนี้ต้อนรับ “สายลับ - ภณ” คู่ที่สองจากซีรีส์เรื่อง “PIT BABE The Series” ที่มาพร้อมโมเมนต์สุดน่ารัก พร้อมอัพเดตพูดคุยไปกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ไอ้หนูของลุง” ไอ้หนู มาจากในซีรีส์ที่อลันเรียกเจฟว่าไอ้หนูตั้งแต่เจอกันครั้งแรก จนคบกันแต่ก็ยังเรียก แม้ในชีวิตจริงเค้าก็ยังเรียกกัน...2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่หูโลกวิญญาณ” เพราะพี่สายลับเป็นคนมีดวงกับสิ่งลี้ลับมาก ไม่ว่าจะเป็นการเจอผีโผล่ออกมาจากต้นไม้ในวัด หรือ จะเป็นการที่ขับรถแล้วรู้ว่าผีอยู่บนรถเลยเปิดประตูไล่ผีลงเป็นภาษาเหนือ ส่วนพี่ภณเป็นสายวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างพิสูจน์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเห็นเงาแล้ววิ่งตาม หรือ ไปเดินที่มืดๆน่ากลัวๆเพื่อพิสูจน์ว่าผีมีจริงไหมแต่โชคไม่ดีที่แกไม่เคยเจอผีเลย แต่ดันได้ของแถมกลับบ้านมาตอนกลางคืนโดนผีอำด้วยความที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เลยรีบตื่นแล้วไปตักบาตรกับแม่ทันที เลยขอเสนอชื่อคู่หูโลกวิญญาณให้ทั้งสองคน3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Begin again with SailubPon’s” การเริ่มต้นใหม่ในเส้นทางเดิมกับสายลับภณ อย่างที่ทราบกันว่าทั้งคู่เคยผ่านงานในวงการมาก่อน แล้วก็ห่างหายไปจนได้วนกลับมาเล่นซีรี่ย์ด้วยกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งคู่มีเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ ที่สามารถตกคนเข้าด้อมได้เยอะมาก ลุงสายลับและพี่น้องภณถือเป็นคู่พาร์ทเนอร์ที่ทั้งน่ารักและน่าเอ็นดูมากๆ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่โครตจะแตกต่างแต่ลงตัว เวลาอยู่ด้วยกันทำให้รู้สึกฟีลกู๊ดมากๆ รับรู้ได้ถึงการทรีทไอ้หนูเป็นคนพิเศษกว่าใครๆ ลุงสายภายนอกอาจจะดูเป็นผู้ชายนิ่งๆ แต่จริงๆลุงเป็นผู้ชายตลกอบอุ่นและใส่ใจคนรอบข้างมากๆคนนึงเลย เป็นชู้ก้าแดดดี้ของไอ้หนู คอยสังเกตและให้ความสนใจ ถามไถ่ไอ้หนูตลอด ส่วนพี่น้องภณก็เป็นเด็กน้วยที่น่ารัก มู้จู้มากๆวางตัวดี สายธรรมะ ธรรมโม ชอบเอาบุญมาฝากแฟนคลับบ่อยๆ อยากขอบคุณทั้งสองคนที่ตัดสินใจกลับเข้าวงการบันเทิงอีกครั้ง ขอบคุณที่ทำให้เราค้นพบและมองเห็นคุณจากตรงนี้ เราจะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้ลุงสายและพี่น้องภณ จะคอยซัพพอร์ต เชียร์อัพไปเรื่อยๆ ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยล้า ต้องการกำลังใจให้หันกลับมา จะเจอกำลังใจอยู่ข้างหลัง เลิฟยูๆ ขอให้ความรักโอบกอด SailubPon ไปตลอดดดด4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Secret moment” เป็นคู่ที่เหมือนจะไม่มีอะไรมากมายในโลกโซเชียล แต่ก็เลื่องลือมากว่า หลังกล้องเค้าสนิทกัน แต่เรามันชาวเน็ตนี่ จะไปรู้ได้ยังไงล่ะเห้อ อย่างไรก็ตาม ยิ่งลึกลับ ยิ่งน่าค้นหาใช่มั้ยล่า... นักจับผิดโมเม้นท์ต้องทำงานหนักมาก ก็สนุกดีค่ะ ถึงจะน้อยแต่ร้อยเปอร์เซนต์เนาะ5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ลุงฮักเมาน้องหล้า อวอร์ด” จากที่ตามผลงานมา เห็นได้เลยว่าพี่สายนั้นอยู่ข้างๆและตัวติดน้องภณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหลังเวทีด้วยกัน การเดินไปแล้วคอยเรียกและจุงมือน้องภณ การติด Skinship น้องภณ รวมถึงการซัพพอร์ตกัน ทั้งการแสดง การเล่นเกมส์ในโอกาสต่างๆ บอกเลยว่าเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กันและกัน พี่สายกับน้องภณอยู่ด้วยกันจะเห็นได้ว่ายิ้มและมีความสุขตลอด(ผ่านการสังเกต) ไม่พอเท่านั้นเป็นการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับแฟนคลับอีกด้วยนะคะถึงเวลาที่ทุกคนนรอคอยยย เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “สายลับ - ภณ”ถ้าพูดถึงรางวัล “คู่หูโลกวิญญาณ” สายลับ : ค่อนข้างพอใจ ภณ : ค่อนข้างพอใจกำลังคุยกันอยู่เลยชอบชื่อนี้ สายลับ : ตรงใจ ภณ : ชอบที่สุดก็น่าจะไม่เหมือนใครดี คนหนึ่งเห็นผี อีกคนหนึ่งเป็นมัคนายกสวดมนต์ไล่ผี 555 สายลับ : สำหรับรางวัลนี้ ขอบคุณสำหรับทุกเสียงโหวต ขอให้ทุกคนได้เจอผีถ้วนหน้า 555 ภณ : เดี๋ยวพวกผมจะไปช่วยไล่ผี 555การเจอผีในทางไสยศาสตร์/วิทยาศาสตร์ของ “สายลับ - ภณ” สายลับ : เจอเรื่อย ๆ คนใกล้ตัวก็เจอบ้างแล้วมาเล่าให้ฟัง ช่วงไหนสวดมนต์บ่อยก็จะสัมผัสได้ เจอล่าสุดก็เป็นอำแหละ ผมโดนอำบ่อยจนชิน ล่าสุดที่โดนคือรู้สึกว่ามันบ่อยเหลือเกิน มันอะไรวะ รู้สึกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเตือน หรือเป็นผี หรือเป็นอะไรก็เลยสงสัย เราก็เลยพยายามลืมตาสู้ แล้วก็คิดในใจเพราะเราพูดไม่ได้ พยายามพูดในใจว่า แน่จริงก็ปล่อยให้กูลืมตาสิ จะได้เห็น แค่อยากรู้ว่าเราจะต้องทำตัวยังไงกับเขา เผื่อเป็นอะไรมาเตือนเราทำผิดพลาดอะไรไป หรือถ้าเป็นผีก็เจอหน่อย ลืมตาขึ้นมาแต่เป็นลาง ๆ แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าเหมือนลืมตาแล้วเป็นฝ้าหรือเปล่า แต่เหมือนเราได้ยินเสียง…. ภณ : ในทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ร่างกายของคุณลุง หลังจากซ้อมเต้นอย่างหนักเกิดอาการเกร็ง ทำให้เกิดอาการขยับตัวไม่ได้ เริ่มพูดไม่ได้ ตาเป็นฝ้าเป็นฟาง ทำให้เกิดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ไม่เกี่ยวกับผีอำ เสียงที่เขาได้ยินอาจจะเกิดการหูแว่ว หรือไม่ก็หูตึงบ้างในบางที 555 สายลับ : ไม่ใช่ ๆ 555 ภณ : แซวเล่น ๆ 555เม้าท์มอยถึงคู่แรก “พูห์ พาเวล” ภณ : สำหรับผมเป็นตอน Workshop ละกัน ที่จริงผมมีรูปตอนที่เขา Workshop กันด้วย กว่าที่ทุกคนจะเห็นว่าเขาไหลลื่นขนาดนี้ ก่อนหน้านั้นยังเกร็งกันอยู่ ผมก็ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่เขาเก่งมาก พอผ่าน Workshop มาสู่ซีรีส์ เขาทำการบ้านอย่างหนักมากจริง ๆสายลับ : ถ้าเม้าท์เป็นพูห์ดีกว่า คือบางทีเราอยู่เฉย ๆ อยู่กันเยอะ ๆ เอาล่ะ วิ่งมาแต่ไกลแล้วก็มาเขย่าแขน แล้วก็พูดฮือออ~ เราก็ถามอะไร มีอะไร แล้วเขาก็วิ่งหายไปเลย แล้วต้องการอะไร 555 ภณ : แต่มีอีกเรื่องนึง ผมทวงตรงนี้เลยละกัน คือมันจะมีตอนรายการ Boys Journey ภารกิจพิชิตใจ มีจับฉลากของขวัญ ผมจับฉลากได้พูห์ ของขวัญผมให้พูห์ได้เป็นหมอนรองคอ ผมก็บอกเขาตอนนั้นว่า ถ้าไปกองอย่าลืมติดไปด้วยเอาไปใส่ตลอดนะ แต่พอมากองทุกครั้งเขาไม่เคยเอามาใส่ เขาเอาทิชชูมารองแทน เมื่อวานมีไลฟ์ผมพึ่งบอกพูห์ไปว่า พี่ตามดูตลอดว่าพูห์ไม่เคยเอามาใช้เลย พี่ต้องเห็นว่าใส่ ถ่ายรูปมาให้ดู 555วันวาเลนไทน์ของ “สายลับ - ภณ” ภณ : วาเลนไทน์อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ใช่แค่สองคน ไลฟ์ด้วยกัน วันนี้ก็ติดสติ๊กเกอร์ให้กัน สายลับ : ก็เขาเป็นเหมือนฟีลมัคนายก ก็ต้องมีแบบสร้อยสังวาลย์ 555 ภณ : โอม… จะเป่าคาถามหานิยม~~นิยามความรักของทั้งคู่ ภณ : นิยามความรักของผม เป็นคติประจำใจด้วยเลยละกัน Love Yourself Love Myself จริง ๆ มาจากศิลปินที่ผมชอบ คือวง BTS มันมีอัลบั้มหนึ่งชื่อ Love Yourself Love Myself คือเขาเหมือนเล่าเรื่องว่า เริ่มจะรักใครต้องเริ่มจากการรักตัวเองก่อน ผมก็เลยนำมาใช้เป็นคติประจำใจ ทุกวันนี้ก็รักตัวเองรักทุก ๆ คนด้วย 555 สายลับ : ของผมหรอ อุ้ย! ไม่กล้าเล่นมุก ไม่เอา ภณ : ลองดูก่อน ๆ สายลับ : ความรักของผมเป็นเรื่องของเงิน เงินในบัญชีไม่พอใช้ เห็นไหมไม่ได้ 555 ของผมก็จะเป็นพื้นฐานแหละความเข้าใจแล้วก็การเข้าใจกัน การมอบแต่สิ่งดี ๆ มอบความรู้สึกดี ๆ ให้กันและกัน เช่บมอบอู่ให้เขา ภณ : มอบเงินในบัญชีให้เขา มอบให้เขาทุกอย่าง เลี้ยงเขาทุกอย่าง สายลับ : ที่จบมาได้ก็อู่นี่แหละ ภณ : มีอะไรซื้อให้ตลอด อยากจะไปไหนพาไปตลอดชีวิตจริงเรื่องเปย์ของ “สายลับ” ภณ : ชีวิตจริงหรอ? สายลับ : พูดดี ๆ 555 ภณ : เปย์ให้ทุกอย่างซื้อให้ตลอด… เอาความจริง! ยังเลย ผมรออยู่เหมือนกัน วาเลนไทน์นี้ผมถามเขา วาเลนไทน์มีอะไรให้บ้างไหม เขาบอก ยังเก็บไว้ก่อน แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดออกมา สายลับ : ไม่ ก็เมื่อวานบอกแล้วไปเดินห้าง เขาบอกว่าซื้อของให้หน่อย ก็บอกว่าอยากได้อะไรเดินเข้าช็อปไปเลย จิ้ม ๆ เอา ลงบิลพ่อเอสแม่ฉอดไป 555 ภณ : เรื่องนี้ถึงพ่อเอสแม่ฉอดด้วย 555ของขวัญวันเกิดที่อยากมอบให้กันและกัน สายลับ : ของผมหรอ? ซื้อให้เขาก็เป็นรองเท้าผ้าใบ แต่ต้องดูช่วงนั้นก่อนใกล้วันเกิดว่าช่วงนั้นอะไรกำลังมา เขาชอบนอนกอดชอบนอนดม ภณ : จะเม้าท์หรอ ๆ 555 สายลับ : เขาบอกว่าถ้าได้รองเท้ามา คู่ใหม่เขาจะยังไม่ใส่ เขาจะเข้าห้องไปปุ๊บวางบนเตียงข้าง ๆ เขา และก็นั่งชมนอนชม นอนไปด้วยกันตื่นมามอนิ่งคิส ภณ : ใช่ เหมือนเราเป็นพวกชอบรองเท้าอยู่แล้ว ก่อนใส่ก็จะเอามานอนด้วย เปิดกล่องออกมาหยิบมาตั้งโชว์ ถ้าได้มาใหม่จะทำแบบนั้นทุกคู่ อย่างน้อยก่อนจะใส่เรามองเขาก่อน ดมเขา ตื่นมาก็จะดมทีนึงไปห้องน้ำกลับมาก็จะดมแล้วก็มอง ทำแบบนี้จนกว่าจะรู้สึกว่าอยากจะใส่ 555 ของที่อยากจะให้พี่สายลับก็จะเป็น Art toy ละกัน ช่วงนี้เขาชอบ ชอบหลาย ๆ ตัวเลยที่เล็ง ๆ ไว้ สายลับ : ส่วนใหญ่อะไรที่มันมีรถ เป็นคนชอบรถ ภณ : ที่จริงผมจะตอบว่ารถ แต่ว่า… สายลับ : ได้นะ พี่ยินดี ภณ : เงินในบัญชีไม่พอใช้~ 555 ไว้รอเดี๋ยวถ้ารวยเมื่อไหร่จะซื้อรถจิ๋วให้ชีวิตหลังจากซีรีส์ออนแอร์ สายลับ : ซีรีส์เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้ทำอะไรใหม่ ๆ เรื่องร้อง เรื่องเต้น เรื่องการทัวร์ แล้วก็ให้เรารู้จักกับแฟนคลับเยอะแยะเลย ภณ : เอาจริงผมกับพี่สายน่าจะเหมือนกัน เคยคิดจะยอมแพ้ในวงการ แต่พอได้มาเล่นซีรีส์เรื่องนี้เหมือนประสบความสำเร็จ มีคนรู้จักมากขึ้น มันทำให้เรามีไฟขึ้นมาอีกครั้ง พอไปอ่านคอนเมนต์ที่แฟนคลับให้กำลังใจ ผมรู้สึกแบบสิ่งที่เราทำให้เพื่อครอบครัว อีกคนหนึ่งก็คือให้แฟนคลับว่าด้วยเรื่องคำว่า “ไอ้หนู” สายลับ : ไอ้หนูอะใช้เรียกเด็กจริง ๆ ส่วนใหญ่เป็นพ่อหนุ่ม ไอ้หนุ่มมากกว่า วัยรุ่น ถ้าเรียกแบบน้อง ๆความคิดถึงตัวละคร สายลับ : คิดถึงอู่ 555 ภณ : ผมว่าน่าจะบรรยากาศภายในกอง ได้เจอกับทุก ๆ คน แล้วมันทำให้แบบคิดถึงเหมือนการที่เราได้อยู่กันทั้ง 12 คน รวมถึงมีผู้กำกับด้วยก็ตาม มีพี่เอสแม่ฉอดที่อยู่ด้วย มันเหมือนทำให้เราคิดถึงบรรยากาศโดยรวมมากกว่าสิ่งที่ “สายลับ - ภณ” อยากบอกกับ “อลัน เจฟ” ภณ : ขอบคุณที่เปิดใจ ทลายกำแพงความรู้สึกของตัวเอง ที่ยอมให้ใครสักคนแม้แต่คนเดียวก็ตามที่เข้ามาในชีวิตเขา ทำดีแล้วมีกำลังใจสู้ต่อไป เป็นกำลังใจให้เสมอเจฟ สายลับ : อยากบอกลุงอลันให้สู้ต่อไป เพราะภาระเขาเยอะเหลือเกิน หลังจากที่ทนเหงามานาน อยู่ตัวคนเดียวมานาน แล้วได้มีไอ้หนูเขามาในชีวิต อยากจะบอกว่าขอให้มีความสุขกับชีวิตหลังจากนี้มาก ๆ และก็ยินดีกับความรักที่พึ่งพบเจอตอนแก่แล้ว 555แฟนมีตติ้งครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ สายลับ : คือเราพึ่งได้รับสารมาใหม่ว่า เรื่องเซอร์ไพรส์ในแฟนมีต บอกเลยว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่พวกเราคิดว่าถูกใจทุกคนที่ไปดูแน่นอน มันเป็นการเปิดโหวตทั้ง 12 คน ให้โหวตมาแล้วก็จะเอาแรงกิ้งสูงที่สุดเป็นโชว์เซอร์ไพรส์ให้กับแฟน ๆ ภณ : ใช่ แต่ละคนเลือกมาเลย แล้วก็ลองมาดูว่าอันไหนดีที่สุด ที่เราทั้ง 12 คนชอบแล้วก็ทุก ๆ คนชอบ และสิ่งที่แฟน ๆ อยากเห็น 12 คนม่วนจอย โมเมนต์คู่ของเราก็มีแน่นอน จองบัตรได้ทาง THAITICKETMAJOR สายลับ : บัตรราคา 2,000 เป็นต้นไป บอกเลยว่าถ้าจะแถวหน้าตอนนี้หมดแล้ว เสียใจด้วย อาจจะอยู่ไกลนิดนึงแต่พวกเราก็จะพยายามบอกพ่อเอส แม่ฉอดว่าเป็นสเตจที่เดินไปหาได้ไหม ภณ : ลงสลิงไปเลยวันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมให้ “สายลับ - ภณ” เล่นกันด้วย กับเกมที่มีชื่อว่า ‘น้องเจฟ ลุงอลัน Translate’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “สายลับ - ภณ” ติดตามผลงานอยู่แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่ได้คุย เพราะว่าไม่มีโอกาสได้ไปตามงานขนาดนั้น แต่ยังมีพี่ ๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ ตามงานตลอด หนูก็รู้จักจากพี่ ๆ แล้วก็อยากมีสักครั้งในชีวิตที่จะได้เจออ้ายทั้งสองคนจ้าว หนูรักพี่มาก ๆ พี่คือแรงบันดาลใจในการติ่งของหนู ทุกวันนี้ บางวันพอไปตามแล้วก็เหมือนเราหยุดงาน แต่หนูก็คิดไว้ว่าถ้าหนูไม่มีตังค์ หนูก็ตามพี่ไม่ได้ แล้วหนูมีพี่เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตทุก ๆ อย่างของหนู พี่คือลมหายใจของหนู พี่สายกับพี่ภณเป็นเหมือนแรงบัลดาลใจในการที่ทำให้หนูมาติ่ง มีกำลังใจในการใช้ชีวิตทุกวัน ไม่ใช่แค่พี่สายกับพี่ภณ แต่พิษเบ๊บทั้ง 12 คนเลย หนูพึ่งกลับมาติ่ง ดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับมาเจอพวกพี่ ๆ อีก หนูตามทุกงานไปทุกที่ที่พิษเบ๊บไป หนูปั่นวิวเปิดเพลงกรอกหูให้แม่ฟังทุกวัน พี่สายกับพี่ภณใจดีมาก ๆ ตอนที่เจอกัน แล้วรู้สึกว่าทั้ง 2 คนน่ารักมาก ๆ อยากติดตามต่อ ๆ ไป“สายลับ - ภณ” ขอบคุณสำหรับรางวัล “คู่หูโลกวิญญาณ” ภณ : ขอบคุณรางวัลคู่หูโลกวิญญาณ กับ “ภณ - สายลับ”ความในใจที่อยากบอกถึงกันและกัน ภณ : ขอบคุณลุง ขอบคุณพี่สาย เอาจริง ๆ แล้วเวลาผมเครียดหรือแบบมีปัญหาอะไร ผมก็จะคุยกับลุงเพราะเหมือนเวลาเราทำงานด้วยกันเหมือนเป็นพาร์ทเนอร์กัน ก็เลยต้องแชร์กัน ผมจำได้ว่าผมเคยเครียด แบบไม่รู้จะทำตัวยังไง ผมจำได้ว่าไล่เป็นพารากราฟยาวพิมพ์ไปหาพี่สาย วันถัดมาพี่สายก็คุยด้วย ขอบคุณที่ดูแลน้องคนนี้ แล้วก็หวังว่าจะดูแลน้องต่อไป สายลับ : ขอบคุณที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงานของเรา แล้วก็เป็นพาร์ทเนอร์ที่คอยแนะนำเราในสิ่งที่เราไม่รู้ ก็ขอบคุณเขา อย่างที่บอกเขาว่ามีอะไรก็คุยได้เลย เรียกพี่เข้าห้องเย็นก็ได้ 555 เพราะว่าสุดท้ายก็มีแค่เราสองคนที่ทำงานด้วยกัน ในต่อ ๆ ไป ยิ่งคุยมันก็ยิ่งสนิทกันไปเรื่อย ๆ เวลาทำงานเราจะได้สบายใจ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “สายลับ - ภณ” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ความน่ารักให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกจากเหล่านักแสดงทั้ง 12 คนจาก “PIT BABE THE SERIES” ในงาน “PIT BABE 1ST FAN MEETING LOVE’S JOURNEY” วันที่ 2-3 มีนาคม 2567 ซื้อบัตรได้ทาง THAITICKETMAJOR สถานที่ TRUE ICON HALL , 7th FLOOR ICONSIAM ติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ถอดรหัสหัวใจ ! “ไมเคิล - ท๊อปเทน” ล้วงลึกทุกความสัมพันธ์ และความท้าทายในซีรีส์ ‘สิงสาลาตาย Goddess Bless You From Death’ พร้อมโมเมนต์สุดฟิน เติมเต็มยาใจตลอดค่ำคืน

19 พ.ย. 2025

ถอดรหัสหัวใจ ! “ไมเคิล - ท๊อปเทน” ล้วงลึกทุกความสัมพันธ์ และความท้าทายในซีรีส์ ‘สิงสาลาตาย Goddess Bless You From Death’ พร้อมโมเมนต์สุดฟิน เติมเต็มยาใจตลอดค่ำคืน

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 13 พฤศจิกายน 2568 ] ค่ำคืนนี้ร่วมค้นหัวใจ “ไมเคิล - ท๊อปเทน” พร้อมล้วงลึกเบื้องหลังสุดเซอร์ไพร์สไปกับ 2 ดีเจสาวสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟน ๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกกับศิลปินจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... จงเปล่งประกาย แม้ในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด ก่อนอื่น ยินดีกับกระแสตอบรับหมอเซย์และหมอดารินนะคะ ไมเคิลและท๊อปเทน คือคนที่ทำให้คำว่า “Shine even in the darkest hour” มีความหมายจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลาหนักหนาแค่ไหน ทั้งสองยังยิ้ม ยังสร้างพลังบวกให้คนรอบข้าง แสงของทั้งสองคนไม่ได้มาจากไฟสปอร์ตไลท์บนเวที แต่มาจากหัวใจที่เต็มไปด้วยแพสชั่นที่ไม่ยอมดับลง ขอบคุณที่ยังเปล่งประกาย และสอนให้เรากล้าส่องแสงในวันที่มืดมิดเหมือนกัน เยิ้บยูวLetter #1: This letter is titled... Keep shining, even in the darkest hour I just wanted to take a moment to congratulate you on the wonderful feedback for Dr. Say and Dr. Darin. It's Michael and Topten who really bring the phrase “Shine even in the darkest hour” to life. No matter how tough things get, they manage to smile and spread positivity to everyone around them. Their brilliance isn't about being in the spotlight; it comes from their passionate hearts that just keep glowing. Thank you for continuing to shine and inspire us to do the same, even on the rough days. You both are truly amazing!จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... เพราะเธอมีคนเดียวบนโลก สวัสดีนะ พี่ไมเคิลท๊อปเทน ยินดีกับบทบาทใหม่และประสบการณ์ใหม่ๆด้วยนะ เราเชื่อว่าสิงสาลาตายต้องแมสแน่ๆ ขอบคุณที่ตั้งใจทำผลงานออกมาได้ดีขนาดนี้ ตอนนี้ก็รอความตั้งใจของทั้งคู่ตอบแทนพวกเธอได้เลย เราเชื่อว่ามันต้องคุ้มค่าแน่ๆ แต่ที่สำคัญดูแลตัวเองให้ดีและยิ้มเยอะๆด้วยนะ นอกจากเราจะรักผลงานแล้ว เรารักพวกเธอมากๆด้วย อยากให้เธอแข็งแรงและมีความสุขในทุกๆวัน เพราะเธอมีแค่คนเดียวบนโลกนี้ รักษารอยยิ้มและสุขภาพตัวเองดีๆนะ”Letter #2: This letter is titled... You are truly one of a kind Congratulations on your new position and all the exciting experiences ahead! We truly believe that "Goddess Bless You From Death" is going to be a tremendous success. Thank you for your hard work and dedication in creating such an amazing project. Now, we eagerly anticipate the rewards that will come from your efforts, which we know will be worthwhile Most importantly, don’t forget to take care of yourself and keep that beautiful smile shining. We’re not just fans of your work; we care about you deeply. We hope you feel healthy and happy every day because you are one of a kind. Remember to cherish your health and that lovely smile of yours.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... เพราะมี “ไมเคิลท๊อปเทน” ทำให้การถ่ายรูปยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิม ถึงไมเคิลและท๊อปเทนคนเก่ง ขอบคุณที่ทำให้แฟนคลับคนนี้ที่ถ่ายรูปอาจจะไม่ค่อยสวยและไม่ค่อยมีความมั่นใจการถ่ายรูป มีความมั่นใจและมีความสุขในการถ่ายรูปอีกครั้ง ขอบคุณที่ทุกครั้งที่เจอกันมักจะบอกว่า ขอบคุณที่ถ่ายรูปพวกผมนะครับ พวกผมรอดูรูปอยู่น๊า มันทำให้แฟนคลับคนนึงมีแรงและกำลังใจที่จะไปหามากๆ เลยนะ และสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกทั้งสองคนคือทั้งคู่เก่งกันมากๆ ภูมิใจในตัวเองเยอะๆน๊า จะคอยซัพพอร์ตทั้งคู่อยู่ตรงนี้เสมอLetter #3: This letter is titled... Thanks to 'Michael Topten', capturing moments through photos is now even more fun You’ve helped me, as a fan who struggles with confidence and taking good photos, feel excited and joyful about capturing moments with you again. Your consistent appreciation, saying "Thank you for taking photos of us" every time we meet, means the world to me. I can’t wait to see your photos—they truly inspire me and motivate me to come out and support you. I also want to acknowledge the immense talent both of you possess. Be proud of who you are and what you create! I’ll always be here cheering you on.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... เชื่อมั่นในฝัน เชื่อมั่นในเธอ ขอบคุณไมเคิล ท๊อปเทนนะคะ ที่พยายามมาโดยตลอด จากวันแรกที่ได้รู้จักและมาถึงวันนี้ ภูมิใจในตัวทั้งสองคนมากๆ ขอให้ทั้ง 2 คนถูกค้นพบ ถูกโอบกอดด้วยความรักเพิ่มขึ้นอีกเยอะๆเลยนะ พี่ขอเป็นกำลังใจเล็กๆอยู่ตรงนี้ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางเติบโตของทั้งสองคนนะคะ จงเชื่อมั่นในตัวเองให้มากๆนะคะ เพราะวันพรุ่งนี้มีไว้พิสูจน์ฝีมือของพวกเธอทั้งสองคนว่าเก่งกันมากแค่ไหน ส่วนพี่ที่เชื่อมั่นในพวกเธอจะอยู่ตรงนี้เสมอ รักLetter #4: This letter is titled... Have faith in your dreams and trust in yourself Dear Michael Topten , Thank you for your unwavering effort since the very first day we met. I’m incredibly proud of you both. I truly hope that you continue to be recognized and surrounded by love in all that you do. I want to be a little source of encouragement for you on this journey. I’m excited to be a part of your growth and development. Please remember to have confidence in yourselves; tomorrow is going to showcase just how talented you both are. And as someone who believes in you wholeheartedly, know that I will always be here cheering you on.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... Great timing to love you ช่วงดูซีรีส์พิษเบ๊บ ss1 ถึงตอนท้ายคู่นี้ยังไม่เข้าตาอะไร แต่พอรีแคปดูตั้งแต่ต้น ถึงเห็น “มวล” เคมีพิเศษของคู่นี้ว่ามีมานานแล้ว นี่เลยโดนตกจังๆ พอดีกับช่วง GapYear เลยตามไปทุกงานของทั้งคู่/คนใดคนหนึ่งเท่าที่ทำได้ เพราะอยากให้เห็นว่ามีคนรักและซัพพอร์ตที่มีให้ทั้งคู่มากแค่ไหน ยินดีกับการเติบโตอีกขั้นของทั้งคู่แบบเป็นทางการนะครับ ภูมิใจในทั้งคู่เสมอ จับมือให้แน่นๆ และเชื่อใจกันให้มาก รักทั้งคู่มากๆ จากใจค่ะLetter #5: This letter is titled... Great timing to love you I wanted to share my thoughts on the first season of Pitbabe. To be honest, I didn’t pay much attention to this couple until the very end. However, after rewatching the recap from the start, I couldn’t help but notice the incredible chemistry they shared—something that had been building all along. It really captivated me! During the gap year, I made it a point to stay updated on both of you, wanting to show just how much support and love you have from your fans. Congratulations on reaching this exciting new milestone together! I’m always so proud of both of you. Remember to hold hands tightly and trust one another fully. I genuinely cherish both of you from the bottom of my heart.เข้าสู่ช่วงที่สองของ EFM FANDOM LIVE กับ “ไมเคิล - ท๊อปเทน” คนสนิทที่อาจคิดไม่ซื่อพร้อมถอดรหัสความรู้สึกที่ลึกสุดของหัวใจ และเผยเบื้องหลังสุดท้าทายของซีรีส์สิงสาลาตายอยากไปกินเนื้อย่าง หรือแค่อยากไปเฝ้าพี่เขากันแน่…? ขึ้นชื่อว่าทำสีผม แน่นอนว่าต้องใช้เวลาขั้นต่ำเป็นชั่วโมง ซึ่งไมเคิลใช้เวลาไปถึง 2 ชั่วโมง แม้จะเป็นคนผมเส้นเล็กก็ตาม แต่ด้านท๊อปเทนเองก็เต็มใจไปนั่งรออีกฝ่าย เพราะอยากไปกินเนื้อย่าง ยังบอกอีกว่าหวังให้พี่เขาเลี้ยง แต่สุดท้ายก็ต้องหารกันอยู่ดี เอ๊ะ… หรือจริง ๆ แล้วแค่อยากไปรอพี่เขาทำสีผมกันแน่น้าา ?เมนูอาหารจะสำคัญเท่าคนที่กินด้วยได้ไง…? “ท๊อปเทน” ผู้ชื่นชอบปิ้งย่าง เนื้อย่าง ชาบู เรียกได้ว่าเป็น ‘ปิ้งย่างชาบู Lover’ เพราะเจ้าตัวเชื่อว่าอาหารสามารถฮีลใจได้ แต่ส่วนด้านไมเคิลกลับค้านว่า ‘สำหรับผม อาหารมันไม่ได้สำคัญหรอก แต่สำคัญที่คนกินด้วยต่างหาก ต่อให้กินแค่ข้าวไข่ดาวคลุกน้ำปลาก็อร่อย แค่มีท๊อปเทน’ งานนี้ทำเอาทั้งสตูเขินจนแทบไม่ไหว ใครไหวไปก่อนได้เลยชื่อเรียกที่รู้กันแค่เรา ‘อ้วงอ้วง’ กับ ‘ดื้อ’ ท๊อปเทนถึงกับเสียอาการหนัก เมื่อถูกถามว่า จริงหรือไม่ ? ที่เรียกอีกฝ่ายว่า ‘อ้วงอ้วง’ เจ้าตัวรีบปฏิเสธแทบไม่ทัน บอกว่าแค่แซวเท่านั้น ! แต่ไมเคิลไม่ยอมปล่อยผ่าน สวนกลับทันทีว่า ‘อ้วงอ้วง มันใช้เรียกคนพิเศษ !!!’ งานนี้ไม่ใช่แค่ท๊อปเทนที่มีชื่อเรียกให้ไมเคิล แต่ไมเคิลเองก็มีชื่อเรียกพิเศษสำหรับท๊อปเทนเช่นกัน ก็คือคำว่า ‘ดื้อ’ นั่นเอง ท่ามกลางศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แอบซ่อนความน่ารักครั้งนี้ ทำเอาทั้งสตูใจบาง และยิ้มตามกันหมดแล้วมัดรวมความดื้อของ ท๊อปเทน หนึ่งอย่างที่ตราตรึงใจของไมเคิลคือ ท๊อปเทนผู้ไม่เคยตื่นก่อนไมเคิลเลย แม้จะไม่ใช่ผู้ชายที่เนี้ยบ แต่ก็ไม่เคยได้ตื่นก่อนท๊อปเทนเลยสักครั้ง ตื่นแล้วอาบน้ำเสร็จจึงมาปลุกเขา ไหนจะชอบทำห้องรก แถมจีบก็ยาก แต่สิ่งเหล่านี้ก็คงจะสู้ความสดใสน่ารักของน้องท๊อปเทน ที่ทำให้โลกของพี่ไมเคิลกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาไม่ได้หรอกความท้าทายของซีรีส์ ‘สิงสาลาตาย Goddess Bless You From Death’ ท๊อปเทนถึงกับเอ่ยปากว่า โหดมาก ด้วยบรรยากาศของสถานที่ถ่ายทำ ที่ทั้งเก่า ฝุ่นเยอะ แถมยังน่ากลัวมาก ๆ ทำให้ทุกซีนที่เข้าเต็มไปด้วยความกังวลและความตื่นเต้น ด้านไมเคิลเล่าว่าด้วยความที่ต้องรับบท หมอนิติเวช ซึ่งก่อนรับเล่นเรื่องนี้ ก็ไม่ได้รู้ว่าบทบาทและหน้าที่ของหมอนิติเวชทำอะไรบ้าง ทำให้ต้องมีการไปศึกษาเพิ่มเติม อีกทั้งเวลาถ่ายทำก็ต้องแม่นยำและห้ามผิดโดยเด็ดขาด เพราะเป็นงานที่เฉพาะทางมาก ทำให้บทนี้ค่อนข้างยากและท้าทายมากสำหรับเจ้าตัวการเตรียมตัวสำหรับบทบาทหมอนิติเวช เนื่องจากเป็นงานที่เฉพาะทางมาก นอกจากการศึกษาบทบาทและหน้าที่ของหมอนิติเวชเพิ่มเติมแล้ว ยังต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญด้วย โดยทั้งคู่เผยว่า ได้เรียนรู้ไปถึงขั้นตอนการชันสูตรศพอย่างละเอียดเลย ผ่านคลิปสาธิตตั้งแต่ขั้นตอนแรก เพื่อให้เข้าใจทุกกระบวนการอย่างถูกต้อง รวมถึงมีคุณหมอคอยดูแลและกำกับทุกซีนอย่างใกล้ชิด จึงทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นและสมจริงที่สุดคู่ที่แฟน ๆ โดนตกเข้าด้อมด้วยความสามารถล้วน ๆ ทั้งคู่เผยว่า ดีใจมาก ๆ เพราะทุ่มเทกับผลงานนี้อย่างเต็มที่ แถมยังเป็นโปรเจกต์ใหญ่ที่ทั้งสองตั้งใจทำสุดความสามารถ พอผลงานออกไปแล้วทุกคนชื่นชอบ ก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจและดีใจขึ้นไปอีกประสบการณ์สุดหลอนในกองถ่าย ส่วนตัวไมเคิลเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวผี เวลาไปไหนมาไหนก็แทบไม่เคยไหว้ขอสถานที่เลย แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าตัวต้องเปลี่ยนความคิดไปตลอด โดยเจ้าตัวเล่าว่า ครั้งหนึ่งต้องไปถ่ายทำซีนชันสูตรศพ ซึ่งถ่ายทำในสถานที่จริง ระหว่างการถ่ายทำก็ปกติ ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น จนกระทั่งอีกวันถัดมา ขณะขับรถไปทานข้าวกับท๊อปเทน ในจังหวะที่หันไปมองรถทางซ้าย เจ้าตัวถึงกับตกใจสุดขีด บางช่วงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่จำได้แม่นก็คือ ผู้หญิงในชุดสีดำที่นั่งอยู่ด้านหลังรถ แต่เมื่อเจ้าตัวตั้งสติ และหันกลับไปอีกครั้ง กลับไม่พบใครเลย คาดว่า อาจเป็นเพราะวันที่ไปถ่ายทำ เราไม่ได้มีการไหว้หรือขออนุญาตสถานที่ใด ๆ เลย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้เจ้าตัวระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น เมื่อไปในสถานที่ไม่คุ้นเคย ก็จะไหว้ตลอด เพื่อความสบายใจและเป็นการให้เกียรติสถานที่นั้น ๆสปอยเบา ๆ ไปกับ EP 5 และงาน ‘สิงสาลาตาย ชวนไขคดี EP.5’ แม้จะสปอยเนื้อเรื่องใน EP 5 ได้ไม่มาก แต่ก็อยากชวนทุกคนไปร่วมไขคดีในงาน ‘สิงสาลาตาย ชวนไขคดี EP.5’ พร้อมกัน ส่วนรายละเอียดโชว์ภายในงานนั้น เจ้าตัวเองก็ยังไม่ทราบเช่นกัน แต่มั่นใจได้เลยว่ามีเซอร์ไพรส์รออยู่แน่นอน ท้ายที่สุดทั้งคู่ยังฝากอวยพรให้ทุกคนกดบัตรให้ทัน แล้วมาพบกันในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ก่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของ EFM FANDOM LIVE ในค่ำคืนนี้ทางรายการขอเสิร์ฟโมเมนต์ความน่ารักของ “ไมเคิล - ท๊อปเทน”ด้วยคำถามที่ฟังแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ กับช่วงสุดพิเศษ ‘คุณหมอขอสั่งยา’ยาใจ ‘ถ้าอีกฝ่ายคือ ‘ยาใจ’ ของเรา ต้องมีคุณสมบัติใดที่ทำให้เรามีความสุข’ ท๊อปเทน : พาไปกินของอร่อย (เลี้ยงด้วยจะเป็นยาใจอย่างมาก) ไมเคิล : ส่วนผม ไม่ต้องมีคุณสมบัติอะไรเลย เป็นอย่างที่ท๊อปเทนเป็นก็พอแล้วยาหยี ‘ให้สมมติสถาณการณ์ “ไมเคิล” ชวน “ท๊อปเทน” ไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่ แต่ทั้งคู่จะต้องไม่เรียกกันด้วยชื่อ ให้เปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ยาหยี’ แทน’ยาแก้แพ้ ‘ให้บอกสิ่งที่ตัวเองแพ้ในตัวอีกฝ่ายมา 3 ข้อ’ ไมเคิล : อย่างแรกคือ ยิ้มแป้น ยิ้มแบบเห็นฟันครบทุกซี่ อย่างที่สอง คือ ตาโต และอย่างสุดท้ายคือ แก้มตุ่ย ท๊อปเทน : ชอบพาไปหาของกิน พูดเก่ง หล่อยาถ่าย ‘ให้ทั้งคู่ถ่ายรูปคู่ 4 ช็อต’ช็อตที่ 1 : หมอเซย์ กับ หมอดาริน ที่เป็นคู่กัดกันช็อตที่ 2 : หมาเด็กขี้อ้อน กับ หมาแก่สุดเท่ช็อตที่ 3 : ป้อนอาหารให้กันช็อตที่ 3.5 : ควงแขนป้อนแชมเปญช็อตที่ 4 : ไมเคิลท็อปเทน รักทุกคนนน~~นี่เป็นเพียงบางส่วนของช่วงพิเศษนี้เท่านั้น !ความฟินยังไม่หมด ไปรับชมกันต่อได้ทาง YouTube : ATIMEส่งท้ายความฟินให้ค่ำคืนนี้กับโมเมนต์สุดพิเศษด้วยการให้ “ไมเคิล - ท๊อปเทน” โทรกลับมาทักทายแฟน ๆ สุดท้ายนี้… รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ไมเคิล - ท๊อปเทน” ที่มาเติมเต็มค่ำคืนนี้ให้เปี่ยมไปด้วยความน่ารักและความสดใส พร้อมเสิร์ฟความฟินกันแบบจุใจ และอย่าลืมไปร่วมไขปริศนาคดีลับ คดีรักกับผลงานซีรีส์ ‘สิงสาลาตาย Goddess Bless You From Death’ สามารถรับชมได้ทุกวันศุกร์ เวลา 22.30 น. ทางช่อง ONE31 และรับชมย้อนหลังเวอร์ชั่น UNCUT เวลา 23.15 น. ได้ที่ iQIYI และอย่าลืมติดตามผลงานอื่น ๆ ของทั้งคู่กันด้วยนะคะสามารถเข้าไปรับชมความน่ารัก เติมความฟินกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

6 หนุ่ม “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” จากซีรีส์ Revamp the Undead Story บุก EFM FANDOM LIVE พร้อมสัมผัสความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผยของเหล่าแวมไพร์และฮันเตอร์ไปด้วยกัน !

15 ต.ค. 2025

6 หนุ่ม “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” จากซีรีส์ Revamp the Undead Story บุก EFM FANDOM LIVE พร้อมสัมผัสความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผยของเหล่าแวมไพร์และฮันเตอร์ไปด้วยกัน !

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 9 ตุลาคม 2568 ] รัตติกาลนี้เตรียมต้อนรับเหล่าแวมไพร์และฮันเตอร์ กับการรวมตัวกันของ “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” ที่จะมาสร้างความสนุกและเสียงกรี๊ดไปกับ 2 ดีเจคู่หู “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟน ๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกกับศิลปินจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ด้ายแดงคล้องใจ ลิขิตให้เพื่อเรา เปรียบดั่ง “ด้ายแดง” ที่ถูกถักทอหนาขึ้นจนกลายเป็น “เชือกป่าน” มัดใจใครต่อใคร เพียงแค่ได้พบเจอ แค่ได้เห็นรอยยิ้มของพวกคุณในแต่ละวัน มันก็ทำให้วันธรรมดา ๆ กลายเป็นวันที่พิเศษขึ้นมาแล้ว เส้นทางต่อจากนี้จะเป็นยังไง ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีใครหลายคนอยู่ตรงนี้เสมอ พร้อมส่งใจให้ทุกย่างก้าว เราได้พบกัน เพราะมันถูก “ลิขิต” ไว้แล้ว ผู้คนบนโลกมีมากมาย แต่สุดท้ายเราก็ได้มาเจอกัน ยินดีที่ได้รักและจะตั้งใจรักอย่างดีLetter #1: This letter is titled... The red thread of love, meant just for us.It's like a strong "red thread" tying us together, growing into a sturdy "hemp rope" that connects our hearts. Just being around you and seeing your smiles each day turns the most ordinary moments into something truly special. No matter what challenges lie ahead, remember there are so many people who are always here for you, ready to support you through it all. Our meeting felt like it was meant to be. With so many people in the world, we found each other, and I feel so grateful to love you. I promise to love you with all my heart.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายจากความเสียดายถึงความโชคดี ทุกครั้งเวลามีคนมาถามว่า อะไรคือสิ่งที่เสียดายที่สุดในชีวิต? คำตอบแรกๆของเราคือการค้นพบบุ๋นเปรมช้าเหลือเกิน.. เสียดายวัน เสียดายเวลาที่ผ่านมา อยากเจอเขาให้ไวกว่านี้ อยากรักเขาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่วันนึงก็คิดกับตัวเองได้ว่าถ้าเราเจอเขาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ความรักของเรามันจะเบ่งบานขนาดนี้ได้ไหม พอคิดทบทวนก็พบความจริงว่า “การค้นพบเขาในช่วงเวลานี้เป็นความโชคดีที่สุดในชีวิตแล้ว”Letter #2: This letter is titled... Personal Letter from Regret to Opportunity. When people ask me about my biggest regrets, the first thing that comes to mind is how I found Boun Pream too late. I often think about the time that slipped away and I can't help but wish I had met them sooner; I wanted to love them sooner, too. However, I eventually came to a realization: if I had met them earlier, would our love have grown as beautifully as it has? After reflecting on this, I understood that meeting them when I did was truly one of the best things that ever happened to me.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... จะคอยเป็นผักเขียวที่เคียงข้างบุ๋นเปรมเสมอ อยากขอบคุณบุ๋นเปรมที่เลือกเส้นทางนักแสดง เพราะทุกครั้งที่ได้ดู Revamp ความรู้สึกมันเต็มไปหมด ทั้งลุ้น ทั้งอิน ประทับใจ และทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะตัวละครถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และลึกซึ้งจนยากจะละสายตา ทุกฉากที่พวกคุณอยู่ด้วยกัน มันไม่ใช่แค่การแสดง แต่มันคือความรู้สึกที่ส่งตรงถึงหัวใจ ขอบคุณที่ยังอยู่บนเส้นทางนี้ ขอบคุณที่เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ และขอบคุณที่ทำให้เรารักในแบบที่พวกคุณเป็นLetter #3: This letter is titled... Will always be a fresh green veggie next to Boun Pream. I want to express my gratitude to Boun Pream for embracing the world of acting. Whenever I watch Revamp, I'm swept away by a wave of excitement, deep engagement, and pure amazement. The way you both bring your characters to life with such charisma and depth makes it impossible to take your eyes off the screen. Each moment you share together transcends mere acting; it creates an emotional experience that resonates deeply. Thank you for staying true to this journey, for being authentically yourselves, and for inspiring us to love you just as you are.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... ความหมายของคำว่า “บุ๋นเปรม” สำหรับเรา... สำหรับบุ๋นเปรมกลายเป็นอีก Part หนึ่งของความสุขของเราไปแล้วนะ บุ๋นเปรมทำให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ๆเยอะมาก เช่น การปั่นเทรนด์แบบ extrovert 55 เป็นอะไรใหม่ๆมากที่ได้ทำ ถึงแม้จะเหนื่อยบ้างแต่มีความสุขมากที่ได้ทำเพื่อทั้งคู่เลย การได้มารู้จักบุ๋นเปรมทำให้เกิดเรื่องดีๆในชีวิตเรามากขึ้น ยิ้มมากขึ้น สนุกกับชีวิตมากขึ้น ขอบคุณทั้งคู่ที่ยังอยู่ตรงนี้และพยายามทำผลงานดีๆออกมาให้เราได้ชม จากนี้สู้ไปด้วยกันต่อนะคะLetter #4: This letter is titled... For me, the term 'Boun Pream' holds a special meaning... You've truly become a source of joy in our lives. You've introduced us to exciting new experiences, like diving into trends with such enthusiasm. Although it can be exhausting at times, it fills my heart with happiness to join you in these adventures. Getting to know you both has enriched our lives, bringing more smiles and a greater appreciation for the little joys we often overlook. Thank you for being by our side and for your dedication to creating wonderful moments for us to share. Here’s to continuing this journey together and supporting each other every step of the way!จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... ความแสนดีที่เธอมี ทำให้ฉันคนนี้รักเธอ "บุ๋นเปรม" การเริ่มต้นติดตามเธอจากวันนั้น เป็นเวลา 108 วันที่จำได้ รอยยิ้มเธอเป็นสิ่งที่ฮีลใจ ทุกๆวันฉันสุขใจที่เห็นเธอ ไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า เธอมีค่าต่อใจฉันเสมอ จะ Support เป็นแรงใจให้กับเธอ รักบุ๋นเปรมนะเออรักมากเลย ติดตามเธอตั้งแต่ 19/5/68 จนวันนี้ ฉันไม่รู้สึกเสียใจที่ได้เจอและรักเธอสองคน ขอให้บุ๋นเปรมเป็นความสุขและความอิ่มใจให้กันตลอดไป ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือร้าย จับมือกันผ่านไปให้ได้Letter #5: This letter is titled... Your kindness is what makes me love you, Boun Pream. From the moment I began following you, it's been 108 days that I can recall, and your smile has a remarkable way of healing my heart. Each day brings me joy just by seeing you, whether it’s today or tomorrow. You hold a special place in my heart, and I want you to know I’m here to support you and cheer you on. I truly love you, Boun Pream—there’s no doubt about it. Our journey began on May 19, 1968, and I have no regrets about meeting and loving you. I hope that together we can find happiness and fulfillment, facing whatever life throws our way hand in hand, navigating both the good times and the challenges together.เข้าสู่ช่วงที่สองของ EFM FANDOM LIVE พักภารกิจล่า แล้วมาพูดคุยเม้ามอยและแชร์โมเมนต์สุดน่ารักพร้อมเผยเบื้องหลังในกองถ่ายแบบจัดเต็มไปกับ “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ”อัปเดตอาการ “บุ๋น นพณัฐ” เนื่องด้วยบุ๋นประสบอุบัติเหตุบริเวณคอ ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมรายการในค่ำคืนนี้ได้ แต่ทางเปรมได้อัปเดตกับทางรายการว่า บุ๋นบอกว่าขยับคอไม่ได้ ลุกนั่งยังลำบาก แต่ตอนนี้ปลอดภัยดี ไม่เป็นอันตราย และออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีก 2-3 วันก็จะสามารถกลับมาโลดแล่นได้ตามปกติ โดยเปรมยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ตอนรู้ข่าวก็ตกใจมาก ตอนแรกนึกว่าแค่นอนตกหมอนเท่านั้นกลุ่มแก๊งเพื่อนสุดป่วนในกองถ่าย พอมีคนเยอะ ๆ ในกอง แต่ละคนก็จะแบ่งกลุ่มกันไปตามความชอบ อย่างเช่น เคกับเปรมจะชอบคุยกันเรื่องตีกอล์ฟ และเคก็จะชอบนัดแนะกับเอเจและเจเจเวลาที่ต้องเข้าซีนด้วยกัน เจเจเสริมว่า เคเป็นคนชอบแกล้ง เป็นสายคอนเทนต์ ส่วนอั๋นจะอยู่กับแก๊งมาร์คจิและบาร์โค้ด กลุ่มนี้จะชอบแซวกัน ส่วนแสตมป์จะวนไปทั่วทุก อยู่ได้กับทุกกลุ่ม แต่ชอบอยู่กับพี่บุ๋น ซึ่งพี่บุ๋นเองก็เช่นกันเหตุการณ์สุดระทึกใจในกองถ่าย ด้วยความที่กองถ่ายนี้บางซีนต้องถ่ายทำในสถานที่บรรยากาศน่ากลัว ทำให้เกิดหลายเหตุการณ์ที่ทำเอาทีมงานและนักแสดงขนลุกกันเลยทีเดียว เปรมเล่าว่ามีครั้งหนึ่งไปถ่ายทำที่บ้านร้าง ก่อนหน้านั้นได้คุยกับพี่ช่างไฟ โดยเขาบอกว่าที่นี่มีประวัติเยอะมาก พอไปถึงก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่ากลัวจริง ๆ ทีมงานหลายคนรู้สึกแปลก ๆ หายใจไม่ออก บางคนเห็นเหมือนมีคนยืนอยู่บนชั้น 2 แต่สำหรับเปรมเองก็ไม่ได้เจออะไร ทางเคได้เล่าเพิ่มเติมว่า เจ้าตัวเคยถ่ายทำในตึกร้างสูง 7–8 ชั้น หลังจากถ่ายเสร็จ และเดินเข้าตึกได้ไม่นาน กระจกจากชั้น 7–8 ก็ตกลงมาบริเวณที่เพิ่งถ่ายไป โชคดีมากที่ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วแวมไพร์หนึ่งเดียวในเหล่าฮันเตอร์ เมื่อต้องรับบทแวมไพร์ครั้งแรก อั๋นจึงต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โดยอั๋นเล่าว่าด้วยตัวละครมีอายุมากกว่า 100 ปี มีความสุขุม แต่ก็อยากให้เป็นคาแรคเตอร์ใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด จึงเน้นดูซีรีส์และหนังที่เกี่ยวกับแวมไพร์แล้วเลียนแบบเอา ปิดท้ายด้วยการยืนยันว่าตนเป็นแวมไพร์ที่เบียวน้อยสุดแล้ว ถ้าไม่บอกก็แทบไม่รู้เลยการเข้าถึงซิกเนเจอร์ของทีมฮันเตอร์ เบื้องหลังการเตรียมตัวเป็นฮันเตอร์และการเข้าถึงซิกเนเจอร์ของตัวละครให้ได้มากที่สุด เอเจเล่าว่า ก่อนถ่ายทำมีการไปเข้าร่วม Workshop คิวบู๊ เรียนรู้เทคนิคและซ้อมคิวต่าง ๆ ก่อนวันถ่ายจริง ส่วนวันถ่ายก็จะมีการซ้อมอีกรอบ ทำให้มั่นใจมากขึ้น เคเสริมว่า ด้วยความที่ฮันเตอร์ไม่ได้มีพลังพิเศษเหมือนแวมไพร์ การต่อสู้จึงต้องอาศัยอาวุธ เลยต้องผ่านการ Workshop ก่อนเช่นกัน สนุกมาก แต่ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อยซีนที่แต่ละคนชื่นชอบในอีพี 7 เปิดด้วยเค ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าชอบซีนตอนจบที่สุด เพราะจบด้วยเปิดสมุดแล้วเจอคนหนึ่ง ซึ่งก็ต้องรอลุ้นอีพีหน้าว่าเป็นใคร ส่วนเปรมชอบซีนที่อยู่ในครัว เพราะดูเป็นมนุษย์ที่สุด มีความผ่อนคลาย และมีมุมที่รามิลเขาโชว์ความมนุษย์ รวมถึงปัณณ์เองก็ได้โชว์อีกมุมหนึ่งเช่นกัน ทั้งนี้เอเจยังเสริมว่า เจ้าตัวชื่นชอบเคมีของบุ๋นและเปรมตอนอยู่ด้วยกัน พอเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เราไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นมนุษย์กับแวมไพร์ แต่เห็นเป็น ‘คนสองคนที่รักกัน’‘บล็อคโคลี่ และ ซาลาเปา’ ไอเดียนี้มาจากพี่นิวผู้กำกับและนักเขียน เขาทราบอยู่แล้วว่าบล็อคโคลี่เป็นตัวแทนของบุ๋นเปรม ส่วนซาลาเปาก็กลม ๆ ขาว ๆ คล้ายเปรมนั่นเองซีนแปรงฟันชวนฟิน ! เปรมเล่าว่าตนเล่นเป็นตัวเองเลย และเพิ่มเติมว่าแม้ในชีวิตจริงจะไม่เคยแปรงฟันให้กัน แต่ก็เคยยืนแปรงฟันข้างกันมาแล้ว งานนี้สาววายฮอปกันแทบไม่ไหวสิ่งที่จะเจอใน ‘Revamp Final EP Fanmeeting’ สิ่งพิเศษแรกก็คือการได้มาดูอีพีสุดท้ายไปพร้อมกับนักแสดงทุกคน นอกจากนี้ยังขนทัพโชว์สุดพิเศษจากเหล่านักแสดงอีกด้วย ปิดท้ายด้วยการสปอยโชว์ในงานเบา ๆ ด้วยคนละหนึ่งคำเริ่มด้วยเคกับคำว่า ‘ลุ้น’ เปรมต่อด้วยคำว่า ‘ว้าว’ อั๋นเสริมว่า ‘มาก’ แสตมป์สปอยด้วยคำว่า ‘ดีจัง’ เอเจเสริมว่า ‘ตื่นเต้น’ และปิดท้ายด้วยเจเจกับคำว่า ‘เร้าใจ’นอกจากการพูดคุยที่สนุกสนานแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” เล่นกันด้วย มีชื่อเกมว่า ‘สิ่งนี้…ใช่หรือไม่?’เมื่อแวมไพร์และฮันเตอร์ต้องร่วมมือกัน จะป่วนและวุ่นวายขนาดไหน? ไปชมกันเลยย !(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เติมเต็มความสนุกแบบจัดเต็มในค่ำคืนนี้ด้วยการให้ “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” โทรกลับมาทักทายแฟน ๆ แบบ Exclusive ! สุดท้ายนี้… รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “เปรม - เค - อั๋น - แสตมป์ - เอเจ - เจเจ” ที่มาร่วมเติมเต็มค่ำคืนนี้ให้อบอวลไปด้วยความน่ารัก เสียงหัวเราะ รวมถึงรอยยิ้มจากแฟน ๆ และห้ามพลาดกับผลงานซีรีส์สุดเข้มข้นในขณะนี้ พร้อมลุ้นไปกับ “Revamp the Undead Story” ที่จะพาแฟน ๆ ร่วมล่าความลับและการต่อสู้ของแวมไพร์และฮันเตอร์ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และดูย้อนหลังได้ ทาง iQIYI และสามารถติดตามผลงานอื่น ๆ ของทั้ง 6 หนุ่มได้ทางโซเซียลมีเดียทุกแพลตของ GMMTV เลยยยสามารถเข้าไปรับชมความสนุก ความเฮฮากันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“อันดา - ลูกแก้ว” หนูเล่นมุกขนมจีบ...แต่พี่เขาเป็นซาลาเปา ‘น้องมะนาวและพี่เกี๊ยวซ่า’ ช็อตกันน่ารัก จนได้รางวัล ‘คู่รักนักช็อต!!’

14 ก.พ. 2024

“อันดา - ลูกแก้ว” หนูเล่นมุกขนมจีบ...แต่พี่เขาเป็นซาลาเปา ‘น้องมะนาวและพี่เกี๊ยวซ่า’ ช็อตกันน่ารัก จนได้รางวัล ‘คู่รักนักช็อต!!’

EFM FANDOM LIVE [8 กุมภาพันธ์ 67] เปลี่ยนสตูเป็นโรงเรียนคอนแวนต์ ต้อนรับสองสาว “อันดา - ลูกแก้ว” ที่มาพร้อมกับโมเมนต์สุดน่ารักจาก “Love Senior the Series พี่ว้ากคะ รักหนูได้มั้ย” พร้อมอัปเดตพูดคุยไปกับ “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Infinity Love” ที่มาของรางวัลนี้มาจากชื่อด้อมค่ะ ชื่อด้อมคือชื่อ อนันกมล มีที่มาจากชื่อจริงของทั้ง 2 คนเอามารวมกัน ชื่อจริงของ อันดา คือ อนันตา ชื่อจริงของลูกแก้วคือ กมลลักษณ์ ซึ่งอนัน แปลว่า มาก, ไม่มีที่สิ้นสุด ส่วน กมล แปลว่า ดวงใจ, ความรัก ทําให้เกิดเป็นชื่อ อนันกมล แปลว่า รักที่ไม่มีที่สิ้นสุดในภาษาไทย ส่วน Infinity Love คือ ภาษาอังกฤษของชื่อนี้ค่ะ ต่อให้จะสลับตำแหน่งคำทั้งภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ความหมายก็ยังคงเหมือนเดิม คือรักที่ไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบเหมือนแฟนคลับที่รักทั้ง 2 คนโดยไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เด้นกับแงวที่จริงใจแห่งปี” คือว่าลูกแก้วช่างน่ารักเหมือนแมวมาก ๆ ขี้อ้อน อ้อนแฟนคลับเก่งมากกก ส่วนอันดาก็เป็นไทป์หมาโกลเด้นที่จริงใจน่ารัก ชอบทำหน้าฟึดฟัดเหมือนหมาเด้น ละพอสองคนนี้อยู่ด้วยกันเลยเหมือน แมวกับหมาโกลเด้นที่เล่นกัน อ้อนกัน น่ารักแบบ 1,000% ไปเลยจ้า เหมือนว่าโลกนี้มีแค่เด้นกับแงวสองคน 55553.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “You are My Destiny” You're My Destiny “เธอคือพรหมลิขิตของฉัน ฉันจะขอพักพิงใจอย่างเงียบ ๆ และคอยโอบกอดเธอเอาไว้ เดินมาหาฉันตรงนี้นะ เดินไปยังจุดหมายเดียวกัน” ซึ่งเหมือนกับทั้งคู่ที่บังเอิญมาเจอกัน แล้วพบว่าอีกคนเป็นน้องของเพื่อนสมัยมัธยม ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น คอยดูแลช่วยเหลือกันจนได้มาเป็น COSMOS ในทุกวันนี้ ได้แสดงซีรีส์ มีผลงานและเป็นที่รู้จัก มีแฟนคลับทั้งไทยและอินเตอร์ ระหว่างทางอาจมีอุปสรรคบ้าง แต่ทั้งคู่ไม่เคยปล่อยมือจากกัน คอย Support และอยู่เคียงข้างกันเสมอ เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ด้วยกัน ดังนั้นชื่อรางวัลนี้น่าจะเหมาะ กับทั้งคู่ซึ่งเป็นคู่พรหมลิขิตของกันและกันค่ะ4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่รักนักช็อต!!” **ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น** แนวคิดที่ 1: น้องสองคนชอบเล่นมุกจีบกัน น้องอันดาก็ขยันหามุกมาจีบน้องลูกแก้ว แต่น้องลูกแก้วจะช็อต ๆ ซึน ๆ พูดเบี่ยงไปเรื่องอื่น (อาจจะกลับเกลื่อนความเขิน) ส่วนน้องลูกแก้วก็เล่นมุกให้คนพี่ แต่คนพี่ก็ไม่เข้าใจบ้างหรือเขินบ้างง เลยช็อตกันไปมา แฟน ๆ เลยทั้งเขินทั้งขำทั้งฟินค่าาา และรักความเป็นตัวของตัวเองของน้องกันสุด ๆ ฝากน้อง ๆ ทั้งสองด้วยนะคะ น่ารักกันทั้งสองเลย แนวคิดที่ 2: เวลาน้องทั้งสองคนเล่นมุกทีไร ต้องมีช็อตกันทุกครั้ง ดูแล้วทำดี น่ารักจิ้นฟินกระจาย แนวคิดที่ 3: เป็นคู่จิ้นที่มีความซึน ๆ ด้วยกันทั้งคู่ แต่มักจะจีบกันแต่ไม่ทันมุข จนเกิดเหตุการณ์ช็อตฟิลกันเกิดขึ้น5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “รอยยิ้มของลูกโลกสีฟ้า” เป็นการเอาชื่อแฟนคลับของน้อง ๆ ทั้งสองคนมารวมกัน น้องสองคนเป็นรอยยิ้มของเราในทุก ๆ วันเลย ชอบเวลาเค้าอยู่ด้วยกัน ชอบเวลาอันดาเล่าเรื่องเจื้อยแจ้ว เป็นเด็กน้อยสดใส ชอบเวลาลูกแก้วยิ้มหวาน หยอกล้อกับแฟนคลับ อยากซัพพอร์ตน้อง ๆ ให้เค้าอยู่ตรงนี้นาน ๆ แค่การมีอยู่ของน้อง มันเหมือนเป็นกำลังใจให้เราในทุกวันเหมือนกัน ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะถึงเวลาที่เหล่าอนันกมลรอคอย~ เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ ที่เราจะมาพูดคุยกับ “อันดา - ลูกแก้ว”รางวัล “คู่รักนักช็อต!!”ลูกแก้วชอบช็อตมุกที่อันดาหามาเล่นด้วย... ลูกแก้ว : มันน่าจะเป็นไปตามธรรมชาติ อาจจะเป็นพรหมลิขิตหรือว่าเคมีบางอย่าง ที่พอแฟน ๆ เห็นแล้วต้องหัวเราะ และเอ็นจอยกับความช็อตของเราตลอดเวลา ลูกแก้ว : หลาย ๆ ครั้งลูกแก้วจะเล่นมุกเหมือนขายขนมจีบเบา ๆ แต่พี่เขาเป็นซาลาเปาอันดา: จำได้มีอันนึง “น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกหินเปียก...”แนะนำตัวสั้น ๆ จากเด้นและแงวว~ อันดา : สวัสดีค่ะ ‘อันดา’ อิย๊าาาา หรือว่า ‘น้องมะนาว’ เฟรชชี่ปี 1 จากซีรีส์เรื่อง ‘พี่ว้ากคะ รักหนูได้มั้ย’ ลูกแก้ว : สวัสดีค่ะ ‘ลูกแก้ว’ เฮดว้าก! เป็นสาวแว่นที่จริงใจแห่งเรื่อง ‘Love Senior The Series’ อยากจะว้ากเหมือนกัน แต่กลัวไมค์จะแตก~ว่าด้วยเรื่องทั้งสองคนเป็นสายหวาน หรือ สายเท่ อันดา : ถ้าหนูนิ่ง ๆ คนจะบอกว่าเท่ แต่ถ้าหนูพูด คนจะบอกว่าไม่เท่ จะเป็นเหมือนเด๋อ ๆ แบบว่าโกลเด้นนิดหน่อย ถ้าอยากจะเท่ก็ต้องเป็นแบบ JPEG(ภาพนิ่ง) ลูกแก้ว : ก็คือถ้าแคปภาพพี่เขาจะเป็นแบบเท่ ๆ แต่ถ้าการพูดเขาจะออกลีลาท่าทาง อันดา : ถ้ามองรู้สึกว่าน้องเป็นคนหวาน แต่แค่เป็นคนพูดตรงประเด็น ก็เลยดูเป็นคนจริงจัง ถ้าหน้าหรือว่าลุค หนูรู้สึกว่าน้องเป็นคนหวาน ลูกแก้ว : จริง ๆ รู้สึกว่าเป็นได้ทุกลุค เพราะชอบมิกซ์แอนด์แมทช์ แล้วก็เปลี่ยนไปหลาย ๆ มุม หวานก็ไม่ติด เปรี้ยวก็ไม่ติด เท่ก็ได้ ลูกแก้ว : แต่ว่ารู้สึกว่าพี่อันดาหวานมากกว่า อันดา : เหรอคะ~ ลูกแก้ว : เนี่ย~ยิ้มหวานมากในเรื่องสลับบท ‘รุ่นพี่-รุ่นน้อง’ ต่างกับชีวิตจริง อันดา : หนูว่าหนูดูพูดจาเด็กรึเปล่า ลูกแก้ว : เป็นอะไรที่ท้าทาย เหมือนชาเลนจ์ใหม่ ๆ ด้วยความที่เราเป็นน้องแล้วต้องเล่นเป็นพี่ว้าก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพี่ว้ากเขาเป็นยังไง ไม่เคยเจอด้วย แล้วต้องมาว้ากกับเพื่อน จริง ๆ เป็น เกิร์ลกรุ๊ปวง ‘COSMOS’ ได้เล่นเรื่องนี้หมดทุกคนเลย ก็คือว้ากใส่เพื่อน ๆ ต้องกลั้นขำอยู่ แต่จริง ๆ หนูก็มีมุมที่นิ่งบ้าง เป็นพี่ว้ากแฟน ๆ ก็แฮปปี้ดีวิธีเตรียมตัวการเป็นพี่ว้ากของลูกแก้ว ลูกแก้ว : จริง ๆ ก็มีถามพี่ ๆ ในค่าย คุณครูในค่ายหลายคนเลย แล้วก็จากประสบการณ์ที่คุณครูเล่ามาคือน่ากลัวมาก เขาแสดงออกให้เราดูจริง ๆ เลยว่าเหตุการณ์เป็นยังไงชีวิตหลังจากซีรีส์ออนแอร์ อันดา : เปลี่ยนมากเลย จากตอนแรกเริ่มจากศูนย์ ตั้งแต่แข่งรายการ ‘COSMOS’ ที่เป็นรายการ Survival ยังไม่ค่อยมีแฟนคลับ พอมาเล่นซีรีส์ก็รู้สึกแบบ “มองหนูรึเปล่า...คุยกับหนูรึเปล่า” การทำตัวก็ต้องปรับมากขึ้น จะทำอะไรต้องคิดเยอะขึ้น เป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นด้วย รู้สึกว่ามีวันนี้ได้เพราะแฟน ๆ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ด้วย ลูกแก้ว : เมื่อก่อนปกติถ้าออกไปข้างนอกจะใส่แว่นบ้าง แต่ว่าในคาแรคเตอร์พี่ว้ากคือใส่แว่นอยู่แล้ว ก็เลยลองเอาผมม้าปลอมมาใส่ ล่าสุดไปสวนมนต์ข้ามปี ก็พรางตัวใส่ผมม้าปลอมไป เพราะถ้าใส่แว่นคนน่าจะจำได้แน่ว่าเป็น ‘พี่เกี๊ยวซ่า’ ก็เลยเพิ่มความแอดวานซ์ขึ้นมานิดนึงเมื่อรู้ว่าซีรีส์ของตัวเองกระแสดีมาก ๆ อันดา : ไม่เลย แต่ก็มีคาดหวัง ลูกแก้ว : ก็มีคาดหวังบ้าง จริง ๆ มันเป็นซีรีส์เรื่องแรกของลูกแก้ว แล้วก็เพื่อน ๆ อีกหลายคน พวกเราใหม่มาก ๆ ตั้งแต่มุมกล้องเลย อันดา : ก็ต้องขอบคุณ ‘พี่โอ๋’ และ ‘พี่เฟิร์ส’ ที่ให้พวกหนูได้มาเล่นซีรีส์ แล้วก็ได้เล่นกับเพื่อน ๆ ทั้ง ‘COSMOS’ รวมไปถึงรุ่นพี่ในค่ายที่มาร่วมเล่นด้วย พอมันเหนือความคาดหมายก็รู้สึกแบบ...หูววว! ลูกแก้ว : แล้วก็ ‘พี่หญิง’ ทีมพี่ ๆ โปรดักชั่นที่ทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วก็ “ที่ขาดไม่ได้เลยคือ แฟน ๆ ของพวกเรา” อันดา : รู้สึกว่าตั้งแต่ EP.3 เป็นต้นไป มันเหมือนมีไคลแม็กซ์ในเรื่อง คนก็เริ่มแบบโพสต์ถึงมากขึ้น หรือว่าแบบถ้าจะเป็นรูปธรรมก็คือยอดฟอลเพิ่มขึ้น อย่างใน TikTok จากห้าพันเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนทัวร์หา ‘เหล่าอนันกมล’ ในที่ต่าง ๆ ลูกแก้ว : เพิ่งไปทัวร์ 4 ภาคจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันดา : ไปที่ชลบุรี เชียงใหม่ หาดใหญ่ แล้วก็ขอนแก่น ลูกแก้ว : จริง ๆ อยากไปทุกจังหวัดเลย แต่ว่าด้วยเวลาด้วย อันดา : ปกติตอนไปทัวร์ก็จะมีเล่นเกมกับแฟนคลับ แต่ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมี คือ ‘รถแห่’ ที่ขอนแก่น ลูกแก้ว : พอไปถึงปุ๊บ! ได้ผ้าขาวม้า, ที่คาดผม ที่สำคัญแฟน ๆ เต้นให้ดูด้วย อิ่มอกอิ่มใจมาก~ อันดา : สนุกมากกก อันดา : แล้วก็จะมีไปทัวร์ต่างประเทศ เริ่มที่แรกที่ ‘ไทเป 17 มีนาคม’ แล้วก็จะกลับมาที่ ‘ไทย วันที่ 24 มีนาคม’ ลูกแก้ว : แล้วก็มี ‘ฟิลิปปินส์’ ด้วย ที่ ‘มานิลา~’ย้อนกลับไปตอนแสดง ตอนที่เล่นซีรีส์ทั้งคู่เล่นเป็นตัวเองกันสุดๆ อันดา : ตอนแรกแพลนไปว่าจะเล่นแบบนี้ ๆ แต่พอไปถึงหน้างาน พี่ผู้กำกับกับพี่ทีมงานบอกว่า ความจริงแล้วอยากให้ ‘มะนาว’ เป็นเหมือนที่หนูเป็นเป็นตัวหนู หลังจากนั้นก็เลยรู้สึกว่ามะนาวก็เหมือนหนูอยู่ ลูกแก้ว : ตอนแรกอาจจะยังไม่ค่อยออกลาย แต่พอเริ่มเล่นไปเรื่อย ๆ ก็เป็นเราอยู่ในอีกเวอร์ชั่นนึง เพราะตอนแรกเข้ามาเป็นเกิร์ลกรุ๊ป ก็จะเป็นเวอร์ชั่นความน่ารัก ชมพู ๆ แต่พอเริ่มเป็น ‘พี่เกี๊ยว’ ก็จะเป็นสีแดง เข้ม ๆ อันดา : ตอนแรกน้องเขามาแบบตึงจัดเลย เขามีลิสต์มาให้เลยว่า “พี่อยากได้เสียงไหนคะ” ลูกแก้ว : ด้วยความที่พี่ว้าก ปกติผู้หญิงยังไม่ค่อยมี แล้วเป็นเฮดว้ากด้วยก็ต้องคุมให้อยู่ เลยไล่มาหลายเสียงมาก จนกระทั่งได้เสียงที่แบบว่าเข้ม ๆ โดยที่ไม่ต้องตะโกน เสียงต้องหนักแน่นอะไรแบบนี้ แต่ว่าตัวพี่เกี๊ยวซ่าจริง ๆ ไม่ได้ดุตลอดเวลา เขาแค่สวมหัวโขนในการที่จะเข้ามาเป็นระบบโซตัส จริง ๆ เขาก็มีมุมขี้เล่น ซึ่งก็ตรงกับเราอยู่ วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ของเราก็มีเกมให้กับ “อันดา - ลูกแก้ว” กับเกมที่ชื่อว่า “พี่ชื่ออะไร..น้องมาจากไหน” โดยเปิดสตูแห่งนี้ให้เป็นมหาลัย EFM94 สนุกสนานกันแน่นอน! (เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME) เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้แฟนคลับโทรเข้ามาพูดคุยกับ “อันดา-ลูกแก้ว” เริ่มติดตามพี่อันดาตั้งแต่เรื่อง ‘แอบหลงรัก’ อยากขอบคุณพี่อันดา เพราะว่าช่วงที่เริ่มติดตามพี่อันดาเป็นช่วงที่คุณพ่อเพิ่งเสียพอดี แฮปปี้ขึ้นได้เพราะว่าพี่อันดาเลย ติดตาม อันดา - ลูกแก้ว ตั้งแต่ซีรีส์ออนแอร์แรก ๆ เลย เขามีความเป็นตัวของตัวเอง สดใส เป็นธรรมชาติ คือดูในซีรีส์ก็รู้สึกอินกับตัวละครที่ทั้งสองคนแสดง พอมาติดตามชีวิตจริง มันยากมากเลยที่จะไม่ติดตามต่อ อยากบอกน้อง ๆ ว่า ดีใจมากที่มีคนรู้จักแล้วก็ชื่นชอบน้อง ๆ ทั้งสองคนเพิ่มขึ้นเยอะแบบมากๆ เลย น้อง ๆ คือความภาคภูมิใจของแฟนคลับเราทุกคน อยากจะบอกว่าพวกเราจะอยู่ตรงนี้ สนับสนุนน้อง ๆ ทั้งสองคน รวมถึงน้อง ๆ วง COSMOS ด้วย ประทับใจความซึนความช็อต และการดูแลกันและกันของน้อง ๆ สองคนแบบมันน่ารักทุกอย่างเลย ต่างคนต่างดูแลซึ่งกันและกัน ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน เห็นแล้วชื่นใจ มีความสุขไปด้วยความรู้สึกถึงกันและกัน อันดา : ดีใจที่ได้เติบโตไปด้วยกัน~ ลูกแก้ว : ก็ขอบคุณที่อยู่เป็นกำลังใจ และอยู่เติบโตไปด้วยกัน คัมซามีดา~ อันดา : คัมซามีดา~ ลูกแก้ว : อาริกาโตะ!ขอบคุณแฟน ๆ กับรางวัล ‘คู่รักนักช็อต’ อันดา : ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้รางวัล ‘คู่รักนักช็อต’ กับเรา แล้วก็ขอบคุณ EFM ที่ให้พวกเรามารับรางวัลนี้ ลูกแก้ว : ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสเราได้มาเป็นความสุขและเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน ทั้งแฟน ๆ และทาง EFM ด้วย ก็ดีใจมาก ๆ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง อันดา : จะเป็นคู่รักนักช็อต ช็อตหน่อยแต่ช็อตนะ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “อันดา-ลูกแก้ว” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ความน่ารักให้กันในรายการ และก่อนที่จะจบรายการกันไป ฝากติดตามซีรีส์ “Love Senior The Series พี่ว้ากคะ...รักหนูได้มั้ย” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง YouTube: Star Hunter Entertainment ไปรับชมกันนน!สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1