‘ฟอส – บุ๊ค’ นักแสดงนำจากซีรีส์ “ชอกะเชร์คู่กันต์” กับมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันตลอด 15 ปี !

EFM FANDOM RECAP

‘ฟอส – บุ๊ค’ นักแสดงนำจากซีรีส์ “ชอกะเชร์คู่กันต์” กับมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันตลอด 15 ปี !

26 เม.ย. 2023

       สวัสดีชาวเด็กฝึกงานทุกท่าน ! วันนี้บริษัท EFM Fandom live มาเชิญชวนทุกท่านไปครื้นเครงกับ 2 หนุ่มสุดฮอตที่กำลังมาแรงอย่างมากในช่วงนี้กับ “ ฟอส จิรัชพงศ์ ”  และ “ บุ๊ค กษิดิ์เดช ” จากซีรีส์เรื่อง “ ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe ” ความสนุก ความฮาจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามไปพร้อมกันได้เลย

 

       ก่อนที่จะไปร่วมพูดคุยกับทั้งสองหนุ่มวันนี้นั้น เรามาเริ่มความจอยกันที่เหล่าแฟนคลับของทั้งคู่ เพื่อล้วงลึกความเป็น ฟอส - บุ๊ค ในแบบฉบับชาวแฟนคลับเล่าสู่กันฟังเลยดีกว่า

 

“ กัปตันฟอส ตำนาน อยู่ทุกด้อม ยกเว้นด้อมตัวเอง ”

 

      เปิดประเดิมมาด้วยคำถามยอดฮิตของเรากับฉายาที่เหล่าแฟนคลับไว้ใช้เรียกหนุ่มฟอส มาดูกันว่าจะมีชื่ออะไรกันบ้างนั้น บอกเลยว่าแต่ละอันปังมากเลยทีเดียว อย่างชื่อแรกที่แสนคุ้นเคยอย่าง ‘ แด๊ดดี้ฟอส ’ ที่มาจากคลิปไวรัลในตำนานอย่างการปลุกหนุ่มบุ๊คในรายการเซฟเฮ้าส์ จนทำเอาหนุ่มบุ๊คของเรารู้สึกคิดถึงพ่อขึ้นมาทันที หรือฉายา “ กัปตันฟอส ” ที่ชอบเป็นพยานคู่รักคนอื่นจนถูกแซวไปว่า ชอบอยู่ทุกด้อม ยกเว้นด้อมตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นชิปเปอร์ตัวเต็งบนทวิตเตอร์เลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้ก็ยังมี ‘ พ่อแมว ‘  ที่ถูกแซวเพราะเป็นทาสแมวอย่างแท้จริง

 

“ พี่เดชจะเป็นโมจิ ”

 

       มาต่อกันที่หนุ่มคนที่สองของเรา กับ บุ๊ค กษิดิ์เดช กับฉายาที่ได้มาจากความน่ารักอย่าง ‘โมจิ’  ที่เปรียบความมุมิของหนุ่มบุ๊คเป็นเหมือนโมจิขนมสุดน่ารัก และถ้าเมื่อไหร่ที่หนุ่มบุ๊คของเราลงรูปสุดหล่อเท่ ก็จะกลายเป็นร่าง “ พี่เดช ” ที่ทำแฟนคลับละลายกันไปตามๆ กัน

 

“ ชาวบรรณา (รัก) บุ๊ค ที่สุดเลย ”

 

       นอกจากความน่ารักของหนุ่มบุ๊คที่ทำชาว EFM Fandom Live เอ็นดูไปตามๆ กันแล้ว ชื่อแฟนคลับก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชื่อที่น่ารักมากเช่นกันกับ “ ชาวบรรณา ” จากด้อมบรรณารักบุ๊ค ที่ถูกตั้งขึ้นผ่านตัวหนุ่มบุ๊คเองที่ให้นิยามกับชื่อนี้ว่า อยากที่จะให้เหล่าแฟนคลับทุกคนเป็นเหมือนบรรณารักษ์ที่คอยปกป้อง ดูแลหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อยๆ เคียงข้างและเดินด้วยกันตลอดไป ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริง

 

       ส่วนหนุ่มฟอสตอนนี้นั้นก็ยังไม่มีชื่อด้อมที่ปล่อยออกมาอย่างแน่นอน แต่เหล่าแฟนคลับก็ยังคงรอคอยได้ ไม่ได้เร่งรีบ ขอเพียงแค่เป็นที่มีความหมายและมาจากความตั้งใจจากหนุ่มฟอสก็เพียงพอ

 

สุดท้ายนี้แฟนคลับทุกคนก็มีข้อความมาฝากถึง ฟอส -บุ๊ค ว่า…

 

        แฟนคลับทุกคนเห็นถึงความตั้งใจทั้งฟอสและบุ๊คในทุกด้านเสมอ ไม่ว่าทั้งคู่อยากที่จะทำอะไรหรืออยากที่จะเป็นอะไร ทุกคนพร้อมที่จะซับพอร์ต ใช้ชีวิตที่อยากจะเป็นได้เลย พวกเราพร้อมที่จะเป็นกำลังใจตรงนี้ ไม่ว่าทั้งคู่จะไปทางไหนซ้ายหรือขวา หรืออยากไปไกลแค่ไหน แฟนคลับทุกคนพร้อมซับพอร์ตเสมอ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม หันกลับมาก็จะเจอพวกเรา และจะดูการเติบโตของทั้งคู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดไป

 

         และก็จบไปแล้วกับการร่วมพูดคุยกับเหล่าแฟนคลับ แต่ความความสนุกความจอยยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะช่วงที่สองของเราทั้งสองหนุ่มฟอส - บุ๊ค จะมาเล่าวีรกรรม กับความเป็นเป็นเพื่อนอันยาวนานถึง 15 ปี !

 

“ แด๊ดดี้ฟอส น่ารักกว่าที่คิด ”

 

       อย่างที่บอกว่าใครหลายคนก็มักจะบอกว่าฟอสเองบุคลิกของเขามีความเป็นแด๊ดดี้สูงมาก บุ๊คก็ยังได้กล่าวอีกว่า ตัวฟอสเค้ามักที่จะบ่นใส่บุ๊คเสมอในหลายๆ เรื่อง แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่เค้าบ่นไป ก็เพราะเค้าแสดงความเป็นห่วงใยเราในหลายๆ เรื่อง มุมนี้เราเลยคิดว่าเค้าจึงมีความเป็นพ่อสูง เลยกลายเป็นว่าใครหลายคนคงเรียกเขาจากนิยามนี้ แต่บางมุมฟอสเขาก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวอย่างวันไหนที่เขาเหนื่อยเขาก็จะมีมุมมางอแงกับบุ๊คบ้างเช่นกัน

 

“ ความฮอตของฟอส กับ จุด (.) ทรงพลัง ”

 

        ด้วยความที่ทั้งฟอสและบุ๊ค รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล ก็เลยอยากให้เล่าวีรกรรมของหนุ่มฟอสให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้างตอนอยู่โรงเรียน อย่างที่บอกว่าถึงทั้งคู่จะรู้จักกันก็จริงแต่ว่าก็อยู่คนละกลุ่มอยู่ดี แต่สิ่งที่การันตีได้เลยก็คือความฮอตของหนุ่มฟอสที่บอกได้เลยว่าฮอตปรอทแตกอย่างแท้จริง เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฟอสเล่นเฟสบุ๊ค แล้วโพสต์แค่จุด(.) จุดเดียว แล้วคนก็มาไลค์ประมาณ 3-4 พันกันเลยทีเดียว ก็เลยทำให้บุ๊คตัดพ้อกับตัวเองว่าเราลงรูปตั้งเยอะ แต่ไลค์ก็ยังไม่เท่าฟอสซักที อันนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของจุดทรงพลังในตำนานนั่นเอง

 

“ การคุยกัน สำคัญที่สุด ”

 

     อย่างที่บอกว่า ถึงแม้จะรู้จักกันมานานแค่ไหน แต่เราก็ต้องมีทั้งจุดกึ่งกลางซึ่งกันและกันเสมอ ทั้งฟอสและบุ๊คได้พูดกับทางรายการว่า ทั้งคู่ใช้วิธีการละลายพฤติกรรมซึ่งกันและกันด้วยการพูดคุยกันอยู่เสมอ เพราะเวลาคนเราอยู่ใกล้กันมากๆ มันก็ต้องมีเรื่องทะเลาะกันมาบ้าง ดังนั้นการพูดคุยจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราเลยมักจะเคลียร์กันคุยกันในทุกเรื่อง เพื่อที่จะไม่ได้มีอะไรมาขัดข้องและสามารถทำงานไปด้วยกันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย

 

“ ความแตกต่างของห้องฟอสบุ๊ค ”

 

       ตัวฟอสเองได้บอกเล่าว่า เค้าเคยไปห้องบุ๊คแล้วบุ๊คเองก็เอ่ยปากมาว่า ‘ ห้องอาจจะรกนิดนึงนะ ’ แต่พอสิ่งที่เห็น กลับเป็นคนละอย่างกันไปเลย เพราะห้องบุ๊คสะอาดมากๆ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งเสื้อผ้าและ หนังสือ แล้วโทนห้องก็เป็นสไตล์มูจิอีกด้วย เพราะว่าเขาตกแต่งด้วยตัวเอง ซึ่งบุ๊คก็แอบหัวเราะและบอกมาว่า อาจจะด้วยเหตุผลว่าบุ๊คเป็นภูมิแพ้ด้วย ก็เลยจะต้องรักษาความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ส่วนห้องฟอสตัวบุ๊คเองก็ได้บอกว่า จริงๆ แล้วห้องที่บ้านของเขาเองสะอาดและก็หอมมาก แต่ด้วยความที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ฟอสก็เลยย้ายมาอยู่ยังคอนโด ซึ่งอยู่กับเพื่อนอีกที ก็เลยอาจจะมีของเยอะไปบ้าง เพราะด้วยบางทีเราได้ของมาจากแฟนคลับ ก็ต้องเก็บไว้ที่นั่นด้วย ห้องก็เลยอาจจะของมากกว่าเดิมไปบ้าง

 

ฟอส - บุ๊ค กับโมเมนต์ความประทับใจกับเหล่าแฟนคลับ

 

      ทางรายการก็อยากให้ทั้งคู่ได้เล่าถึงโมเมนต์ความประทับใจในตัวแฟนคลับที่ยังคงเป็นความทรงจำดีๆ ในชีวิตให้ฟัง ซึ่งบุ๊คเองก็นึกได้หนึ่งเรื่อง ว่าครั้งหนึ่งบุ๊คเคยรู้สึกหมดแพชชั่นในการทำงาน ซึ่งวันนั้นเขาได้ไปทำงานมาแล้วปรากฏว่าไม่มีใครมาดูเลย เลยกลายเป็น Bad Day ของเราวันหนึ่ง แต่พอกลับมาถึงตึกก็ดันเจอแฟนคลับคนหนึ่งที่ยืนรอเราอยู่ที่ตึกพร้อมกับเอาขนมมาให้และเขียนโพสอิทว่า “ สู้ๆ นะ รอดูรายการอยู่นะ ” ซึ่งมันกลายเป็นสิ่งที่ฮีลใจเขามากๆ ในวันนั้น อาจจะเพราะว่าเขาเองไม่เคยที่จะชื่นชอบศิลปินคนไหนเลย การที่ใครซักคนให้ของกับเขา หรือทำอะไรซักอย่างให้ เลยกลายเป็นความรู้สึกที่อิมแพ็คกับสิ่งเหล่านั้นมาจนถึงทุกวันนี้

 

     และคำถามสุดท้ายที่ทาง EFM Fandom Live ก็คงไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการที่ให้ทั้งสองคนบอกความในใจที่มีต่อกันและกันกับมิตรภาพความเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน

 

Force to Book

    “อาจจะมีเป็นห่วงอย่างหนึ่ง อยากบอกบุ๊คว่า บางสิ่งบางอย่างเราอาจจะควบคุมไม่ได้ อะไรเข้ามาก็รับไว้ทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เราอยากให้ลองมีความสุขกับมันดู สุดท้ายแล้วมันก็คือชีวิต ที่อาจจะมีวันที่แย่ แต่ก็ยังมีคนที่อยู่ข้างหลังเรา และคอยซับพอร์ตเราเสมอ อย่าเครียดมาก เพราะสิ่งที่ยังเป็นห่วงก็คือเรื่องสุขภาพของบุ๊คเอง เพราะเรื่องการนอนดึกของเขา เราก็อยากให้บาลานซ์ให้โอเค ก็เป็นห่วงบุ๊คและรักบุ๊คเสมอครับ”

 

 

Book to Force

      “จริงๆ เรา2คนก็ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันเยอะ และเรารู้ว่าส่วนใหญ่ฟอสเวลามีอะไรจะไม่ค่อยพูด แล้วบางทีเราก็ยังไม่รู้ว่าเค้าจะยังมีเซฟโซนมั้ย แต่เราก็ยังอยากที่จะให้เวลามีอะไรก็สามารถมาระบายกับเราได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราะทุกอย่างย่อมผ่านไปได้เสมอ มีอะไรก็สามารถบอกบุ๊คได้เลย”

 

       เป็นยังไงกันบ้างชาว EFM Fandom Live ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านรู้สึกเอ็นดูและรักทั้ง หนุ่ม ฟอส และ บุ๊ค มากขึ้นไปเรื่อยๆ เลยน้า

 

        สุดท้ายนี้ก็ขอฝากผลงานที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้กับซีรีส์ “ ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe ”  ที่กำลังมีเนื้อหาดำเนินไปอย่างเข้มข้น และเร็วนี้ๆ ก็กำลังจะมีคอนเสิร์ตที่ทั้งฟอสและบุ๊คได้ไปร่วมสนุกด้วยกับ LOVE OUT LOUD FAN FEST 2023 จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น ก็อย่าลืมไปติดตามในทุกๆ ผลงานของทั้งคู่เลย

 

ภาพ EFM Fandom Live

related EFM FANDOM RECAP

“ฟรีน-เบคกี้” กลับมาเยือนรายการอีกครั้ง พร้อมคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” กลับบ้านไปเลย

10 ก.ย. 2024

“ฟรีน-เบคกี้” กลับมาเยือนรายการอีกครั้ง พร้อมคว้ารางวัล EFM FANDOM AWARDS สาขา “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” กลับบ้านไปเลย

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 15 สิงหาคม 2567 ] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “ฟรีน - เบคกี้” พร้อมอัพเดทพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากแฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)”**ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น** แนวคิด 1 : เขาพูดย้ำมากว่าพี่สาวน้องสาว แต่การปฏิบัติต่อกันนั้นนนน (น่ารักดีค่ะ) แล้วยิ่งเมื่อวันที่ 8 อวยพรพี่สาวตั้งแต่เที่ยงคืน 1 นาทีในสตอรี่สุดหวานพร้อมแคปชั่น happy 26th sissss อวยพรใน X สุดซึ้งในเวลา 00.08 น. ส่วนคนพี่รีคำอวยพรของน้องเป็นคนแรก และในคืนวันที่ 8 คนน้องยังมีไปเซอร์ไพรส์เอาของขวัญที่ตั้งใจเลือก ไปให้พี่ถึงที่บ้านทั้งที่ตัวเองก็วิ่งงานมาทั้งวัน มี sissss นี่ดีจริงๆ แนวคิด 2 : เป็นฟี่ฟ้องที่ take care และ support กันได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะมีอะไรก็อยู่ข้างกันเสมอ คอยดูแลทุกเส้นผมและคอยเปิดขวดน้ำให้ตลอด ให้พิมพ์ตอนนี้ก็คงไม่หมดเพราะมันมีมากโขเหลือเกินเพคะ แต่ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันพิเศษมากจริงๆ แนวคิด 3 : ความพี่น้องพรีเมี่ยมที่ใส่ใจกันเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่วันแรกเป็นยังไง จนถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมและมากกว่าเดิมด้วย ฟรีนเบคคือความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ มันเป็นความพอดีสุดๆ เป็นทั้งผู้ให้ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด และผู้รับที่ appreciate การกระทำของผู้ให้เสมอ มันแบบดีจัง ไม่ว่าจะวันพิเศษหรือวันไหนๆ ทั้งคู่ดูแลกันอย่างดีเหมือนทุกวันคือวันพิเศษ2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คนเก่งของพี่ คนดีของหนู” ที่มาก็คือ 1. "คนเก่งของพี่" เปรียบเบคเหมือนคนเก่งของพี่ฟรีน ซึ่งฟรีนมักจะบอกเบคกี้เสมอว่าหนูเก่งนะคะ หนูทำได้ดีแล้ว ส่วนคำว่า "คนดีของหนู" คือพี่ฟรีนในสายตาน้องเบคค่ะ เป็นพี่ที่น่ารักและแสนดีกับเบคมาตลอด 4 ปี 2. "คนเก่งของพี่" ในอีกนิยาม คือ มุมมองของแฟนคลับของฟรีนเบค ที่มองฟรีนเบคว่าเป็นคนเก่ง น่ารักกับแฟนคลับเสมอ ส่วนคำว่า "คนดีของหนู" คือมุมมองฟรีนเบคที่มีต่อแฟนคลับ ที่คอยสนับสนุนเค้าทั้ง 2 คน จึงอยากมอบรางวัลนี้ให้ฟรีนเบคค่ะ ที่เค้าทั้ง 2 คนรักกันและรักแฟนคลับด้วย3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่กันเเล้วไม่แคล้วกันจ้า” คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? การที่คน 2 คนได้มาพบเจอกัน ได้รู้จัก ได้รัก ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เราเชื่อว่าเบื้องบนได้กำหนดมาให้แล้ว ถึงแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้น หรือเหตุให้ต้องแยกกันไป แต่สุดท้ายก็กลับมาคู่กันและส่งเสริมกันอยู่ดี สมดังคำว่า "คู่กันแล้วไม่แคล้วกันจ้า"4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เคมีฟ้าประทานแห่งปี” เด็ก 2 คนนี้เวลาอยู่ด้วยกันตามธรรมชาติมีสายตาที่ห่วงใยใส่ใจซึ่งกันและกันมาก มันแบบเป็นสายตาเคมีที่หาได้ยากนะคะที่มาเจอคู่แบบนี้ เค้าเติบโตมาด้วยกัน ตอนนั้นคนน้อง18 คนพี่22 ฝ่าฟันในการทำงานว่าจะทำได้ไหม? ทำแล้วซีรีส์จะดังไหม? หรือผ่านคำดูถูกมาเยอะค่ะ คนน้องจากที่อ่านภาษาไทยแทบไม่ได้ เค้าหมั่นเพียรจากแปลคำไทยเป็นภาษาคาราโอเกะ เพื่อท่องบทและแอคติ้งให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะมีความกังวลไม่มั่นใจแต่เค้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันมาดูซีรีย์ล่าสุด ปิ่นภักดิ์ คือเล่นแล้วภาษาสมูท การแสดงเข้ากับบุคลิกน้องจริงดีงามมากค่ะ ส่วนคนพี่เติบโตมาด้วยความที่เป็นคนเต็มที่กับทุกอย่างทำให้ดีที่สุดในทุกวัน พอแสดงมาหลายๆ เรื่องคืองานสายตาคือคนนี้สุดๆ ทั้งอารมณ์ เหงา เศร้า หลงรักและจีบใครน้า ถึงเราจะเป็นแฟนคลับ คสพ.เค้าจะเป็นพี่น้องกันแต่ว่าเราเขินฟินทุกครั้งที่เค้ามองตากัน ดูแลซึ่งกันและกัน คนพี่น่ารักมาก คอยดูแลน้องตอน18 จนโตมาทั้งเปิดขวดน้ำ คีบอาหาร ป้อน ช่วยต่อบท จูงมือเวลาเดินลงบันได ทุกอย่างอีกหลายสิ่ง ตอนนี้น้องโตขึ้นก็คอยเทคแคร์พี่บ้าง ดูแลป้องกันเรื่องใส่ชุดวาบหวิว คอยดูว่าพี่มีอะไรให้ช่วยไหม โอ้ยพี่ๆลองไปดูคลิปที่แฟนคลับเค้าลงไว้ค่ะ พี่จะฟินตามนู๋พูดได้แค่นี้ค่ะ แล้วพี่ๆจะรักน้องๆ อีกอย่างคนพี่เล่นตลกได้ด้วยน้า ขำไปทั้งวันหล่ะ5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คู่พี่น้องแก้วมังกร” ทั้งสองคน เม็ดเยอะ เม็ดมาก หมกเม็ดกันเก่งมากพี่น้องคู่นี้ แก้วมังกรที่ว่าเม็ดเยอะอ่ะ ยังสู้ฟรีนเบคไม่ได้เลยคับบเตรียมตัวรับความฟินของ “ฟรีน-เบคกี้“ เข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการกันนน!!รางวัล “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” เบคกี้ : ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตกันเเละกันนะค้าา~ ฟรีน : ขอบคุณแฟน ๆ นะคะ ที่โหวตให้พวกเราเป็น “sissss of the year (คู่พี่น้องกี่โมงแห่งปี)” นะคะ ก็เป็นชื่อรางวัลที่อะไรใหม่ ๆ ค่ะ ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ขอบคุณมากเลยค่ะ sissss~คุณสมบัติพี่ฟรีนที่ทำให้เป็นพี่สาวในอุดมคติของเบคกี้เบคกี้ : โอ้ หนูว่าทุกอย่างเลย การดูเเล การพูดคุย ทุก ๆ เรื่องอ่ะ ก็เป็นฟีลพี่สาวคนหนึ่งเลยอะ เราสามารถปรึกษาได้หลาย ๆ เรื่อง เพราะเขาโตกว่า เขามีประสบการณ์ที่เยอะกว่า หรือการดูเเลที่หนูอาจจะไม่ได้นึกถึงอะไร พี่ฟรีนก็จะเห็นเเล้วจะดูเเลตลอดคุณสมบัติน้องเบคที่ทำให้เป็นน้องสาวในอุดมคติของพี่ฟรีนฟรีน : ก็ทุกอย่าง เราเป็นคนที่ขี้เทคเเคร์อยู่เเล้ว เวลาน้องไม่รู้หรือต้องการความช่วยเหลืออะไร เราก็พยายามซัพพอร์ตให้เท่าที่เราจะทำได้เคมีของ ฟรีน – เบคกี้ กับแฟนคลับฟรีน : เรากับแฟนกลับส่วนใหญ่จะตลกปะ555+เบคกี้ : เอออ มันเล่นตลกใส่กันฟรีน : สายแบบชอบทำให้เราตลกอะค่ะดีเจเเนน : ก็คือไม่หวานเลยหรอ แฟนคงแฟนคลับหรือว่ามีบ้าง?ฟรีน : ส่วนใหญ่เหมือนจะเป็นฟีลตลก ๆ อบอุ่น ๆ มากกก เเต่พอจะเข้าโหมดซึ้งมันจะแบบร้องไห้ตลอดเบคกี้ : เอาจริง ๆ เมื่อกี้ที่กำลังเดินขึ้นมาเเล้วหันไปเห็นแฟนคลับ อีกนิดนึงอ่ะ ถ้ามองอีกนิดนึงน้ำตาอาจจะไหล มันแบบคิดถึงโมเมนต์นี้มาก มันเเบบ แงงงง~ความตั้งใจที่ผ่านมาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ทำสำเร็จฟรีน : ของฟรีนตอนนี้คือมีน้องหมา 1 ตัวเเละกำลังจะมีบ้าน เป็นอีก 1 ปีที่รู้สึกว่า ได้ทำอะไรที่ปีที่เเล้วอยากทำไว้เยอะมากดีเจดาว : พอมีน้องหมาชีวิตเปลี่ยนมั้ย?ฟรีน : เปลี่ยนอยู่นะคะ รู้สึกอย่างกลับบ้านไว ๆ ไม่อยากทิ้งบ้าน เหมือนเป็นอินโทรเวิร์ดไปเลย เวลาไปไหนข้างนอกก็อยากพกเขาไปด้วยเบคกี้ : ปีที่แล้วหนูพูดถึงเรียน ก็ยังเรียนไม่จบเเต่ก็ใกล้ น่าจะอีกไม่นานเเต่ก็ต้องมีเวลาไปฝึกงาน ซึ่งตอนนี้ยังหาเวลาไม่ค่อยได้ เเต่ถ้ามีก็จะตั้งใจไป ตั้งใจทำให้เสร็จจะได้จบดีเจดาว : เเล้วปกติเวลาที่เราต้องฝึกงานนี่ เราต้องไปนานเเค่ไหน?เบคกี้ : เขาบอกหนูว่า 1 เดือนเเต่ถ้าหนูไปหนูน่าจะไป 2 เดือน ไปหาครอบครัวด้วย เเต่ต้องเเพลนช่วงเวลาดี ๆอุปสรรคของคาแรคเตอร์ตัวละครในเรื่องปิ่นภักดิ์ฟรีน : ความเรียบร้อย ความช้า มันยากสำหรับหนูมาก เพราะหนูเป็นคนทำอะไรเร็ว ๆ ฉับไว คิดไรพูดเลย ความรู้สึกหนูนะมันเเบบพอจะต้องเป็นเขาแปปนึงในซีน พอเอาปุ้บหนูเอาออกเลย หนูรู้สึกอึดอัดมากในการเป็นเขา เเต่ก็เคารพเขานะ เขาเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเบคกี้ : ถ้าเรื่องคาแรคเตอร์ไม่ยากเลย เพราะว่ามันคล้ายหนูมาก ๆ เเต่ภาษาเนี่ยเเหละ มันราชาศัพท์อ่ะ ทุกวันนี้ยังถามเลยว่าคำนี้แปลว่าอะไรดีเจดาว : มีคำไหนมั้ยที่ยังก้องอยู่ในหัวบ้าง ว่ามันแปลกจัง มันแปลว่าอะไร?เบคกี้ : ทุกประโยคที่เจอเลย ทุกคิวอ่ะ555+กว่าที่เบคกี้จะพูดไทยได้ขนาดนี้ ต้องเรียนอยู่หลายเดือน!เบคกี้ : เเรก ๆ ไม่ได้อะไรเลย เป็นการไปถ่ายเเล้วเครียด รู้สึกไม่ดี กลับมาอยู่กับตัวเองจริง ๆ ก็ร้องไห้นะว่าทำไมทำไม่ได้ซักที เเต่ก็ต้องหาทางที่ช่วยทั้งหนูเเละทุกคนเพราะมันเป็นตัวละครหลักตัวนึง เเต่ก็ทำได้แค่พยายามมากขึ้น ไม่เข้าใจอะไรก็ต้องเข้าใจ อ่านจนเอาไปฝันดีเจเเนน : เเล้วตอนไปเรียนคือเราต้องเรียนลึกเเค่ไหน?ฟรีน : เราเรียน Tune Out เฉย ๆ เหมือนพูดปกติให้ชัด ครูบอกว่าถ้าพูดชัดเวลาอ่านบทมันจะชัดไปเองเราเรียนแค่นั้น เเต่เรื่องราชาศัพท์ พวกหนูก็ต้องอ่านแล้วก็แปลด้วยตัวเองทุกคนเลยที่เล่นเรื่องนี้อยากรู้ว่า Take Feedback จากแฟน ๆ บ้างมั้ย?ฟรีน : ก็ Take ทุกอาทิตย์เนอะเบคกี้เบคกี้ : ช่ายย~ดีเจดาว : ส่วนใหญ่เขาว่ายังไงกันบ้าง?ฟรีน : ภาพสวย โปรดักส์ชันดี บทดี การเรียงเรียงเนื้อเรื่องเข้าใจง่ายเเล้วก็ดำเนินเรื่องไวดีเจดาว : เห็นว่ามีซีนดราม่าเยอะมากก เป็นไงบ้าง มันยากสำหรับเรามั้ย?ฟรีน : ก็ยาก ไม่ใช่ว่าง่าย ส่วนใหญ่คนที่ดราม่าจะเป็นหนู เพราะเขาเป็นคนอ่อนโยนอ่อนหวานมาก ๆ อะไรกระทบนิดนึงก็จะ โอ้โหเศร้ามาก เเต่หนูว่ามันยากด้วยความเป็นซีรี่ย์ย้อนยุค มันต้องทำภาพให้สวย ทำให้เราเข้าใจกราฟอารมณ์ของเรื่อง “ปิ่นภักดิ์ (The Loyal Pin)”ฟรีน : ค่อย ๆ ไต่ระดับเบคกี้ : เพราะว่ามันเป็นการที่เป็นเพื่อนกันก่อน เเล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ เเล้วก็ค่อย ๆ โตขึ้น ทุกตัวละครก็โตขึ้นด้วย ปัญหาต่าง ๆ เข้ามาก็ตามอายุฟรีน : มันก็ต้องมีบ้างแหละอุปสรรคชีวิตวันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVEก็มีเกมให้“ฟรีน-เบคกี้”เล่นสนุกสนานด้วยชื่อเกม ‘ปิ่นภักดิ์คุณธรรม’ ละครคุณธรรมของทั้งพี่น้องจะเป็นยังไง ไปดูกันเลยย(เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ“ฟรีน-เบคกี้” (เข้าไปชมได้ในYoutube: ATIME) สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“ฟรีน - เบคกี้”ที่มาร่วมพูดคุยและมอบความฟินให้แฟนๆ และก่อนจะจบรายการกันไปฝากซีรีส์ “ปิ่นภักดิ์ (The Loyal Pin)” สามารถรับชมสด ๆ ได้ทางช่อง Workpoint เวลา 22:15 น. ดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ที่ยูทูปช่อง IDOLFACTORY OFFICIAL เเละฝากคอนเสิร์ตวันเกิดของฟรีน อายุครบ 26 ปีสุดยิ่งใหญ่กับงาน “THE FREENAIRY ORACLE SAROCHA SOLO STAGE BIRTHDAY FAN MEETING” แล้วมาเจอกันในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคมนี้!สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ทำความรู้จัก “ต้า-บอม” สองหนุ่มคู่จิ้นจากซีรีส์ “พี่จะตีนะเนย” ที่บอกเลยว่างานนี้มีแต่คำว่าโคตรน่ารักกกกก...

02 ก.พ. 2023

ทำความรู้จัก “ต้า-บอม” สองหนุ่มคู่จิ้นจากซีรีส์ “พี่จะตีนะเนย” ที่บอกเลยว่างานนี้มีแต่คำว่าโคตรน่ารักกกกก...

EFM FANDOM LIVE [2 กุมภาพันธ์ 2566] “ดีเจดาว – ดีเจแนน” จะพาทุกคนมาพูดคุยกับคู่จิ้นสุดฮอตจากซีรีส์ ‘พี่จะตีนะเนย’ ขอเปิดสตูต้อนรับ “ต้า-บอม” งานนี้เรียกได้ว่าสองหนุ่มพกความน่ารัก ทะเล้น เฮฮา ติดตัวมาขนาดนี้ ถ้าใครไม่หลงยิ้มตาม เดี๋ยวจะโดนตีนะ... ช่วงแรกของรายการ ขอเปิดไมค์รับสายตัวแทนแฟนคลับของทั้ง 2 บ้านที่พร้อมจะมาขายความน่ารักของทั้ง “ต้า-บอม” ให้กับทุกคนได้สัมผัสเสน่ห์ความธรรมชาติของทั้งคู่ และใครหลาย ๆคน อาจจะโดนตกเข้าด้อมโดยไม่รู้ตัวแน่นอนตัวแทนแฟนคลับของ “ต้า” “ในสายตาเรา น้องเป็นเด็กเข้าถึงง่าย สิ่งนึงที่เราเห็นในตัวเค้า คือเค้าเป็นเด็กที่จริงใจมาก ๆ เวลาที่เค้าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร สีหน้าแววตาจะออกเลย อีกอย่างน้องเป็นคนยิ้มง่าย ถ้าสังเกตจะเห็นได้เลยว่าน้องเป็นคนที่หน้ายิ้มตลอด เราชอบที่น้องเป็นแบบนี้”ตัวแทนแฟนคลับของ “บอม” “พี่บอมเป็นคนนิสัยดีมาก ๆพยายามดูแลแฟนคลับทุกคนเลย เจอเค้าครั้งแรกจาก Trailer พี่จะตีนะเนยความรู้สึกแรกคือคนนี้น่ารักดีนะ เดี๋ยวจะรอดูซีรีส์ดีกว่า จากนั้นก็เริ่มติดตามผ่าน Instagram ก็ตกหลุมรักเค้ามาเรื่อย ๆ เค้าเป็นคนมีสเน่ห์ แล้วพอพี่บอมเริ่มมีงานอีเว้นท์ เลยลองไปตามดู รู้ตัวอีกทีก็คือเราตกหลุมรักเค้ามากกว่าเดิมอีก รู้สึกตกหลุมรักคนเดิม ๆซ้ำ ๆหลาย ๆรอบได้มากขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ยยยย”ช่วงที่สอง “ต้า-บอม” พร้อมที่จะมาพูดคุยถึงตัวตน ความชอบ และผลงานที่จะทำให้ทุกคนรู้จักกับทั้งสองคนมากยิ่งขึ้น ไม่รอช้าทางเราเปิดไมค์ เปิดสตูพร้อมแล้ว ไปร่วมพูดคุยกันต่อเลยยยยซีรีส์ถ่ายจบแล้ว แต่ความสัมพันธ์ทั้งคู่ไม่จบง่าย ๆ ทั้งคู่แอบบอกว่าซีรีส์ถ่ายจบไปได้ประมาณ 4 เดือนแล้วแต่ทั้งคู่ยังนัดเจอกันอยู่ตลอด ชอบไปเดินซื้อเสื้อผ้าตามตลาด หรือแหล่งที่มีเสื้อผ้าเยอะ ๆ ด้วยกัน ทำให้ในชีวิตจริงทั้งคู่ค่อนข้างสนิทกันมาก ขนาดที่ว่าจะนัดรวมตัวดูซีรีส์พร้อมกัน ไลฟ์สดคุยกับแฟน ๆทุกอาทิตย์เลย เรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักมาก ๆต้าคือเนย หรือ เนยคือต้า ที่จริงแล้ว ต้ามีความคล้ายกับตัวละคร และตัวละครก็มีความคล้ายต้าด้วย ทั้งนิสัย คาแรคเตอร์ จังหวะการพูด เพราะผู้กำกับเขาพยายามที่จะสร้างคาแรคเตอร์ เนย ในซีรีส์ให้มีความคล้ายต้าเพื่อความธรรมชาติในการแสดงให้สมบทบาทมากที่สุดย้อนความจำกับครั้งแรกที่เจอกัน ต้าตอบด้วยความมั่นใจเลยว่า “จำได้แม่นเลยเราเจอกันครั้งแรกวันที่ 10 พฤศจิกายน จำได้เพราะโดนถามหลายรอบแล้ว(หัวเราะ) วันนั้นเจอกันที่สยามพารากอน เป็นงานเปิดตัวหนังเรื่องนึง ความบังเอิญก็คือช่วงที่ดูหนังเราได้นั่งข้างกัน แต่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย”ครั้งแรกที่เจอกัน ก็ได้เล่นซีรีส์ด้วยกันเลย หลังจากจบงานที่เราเจอกันคืนนั้น พี่ที่เป็นผู้กำกับก็ชวนทั้งสองคนไปพูดคุยโปรเจกต์ ‘พี่จะตีนะเนย’ ตัวต้าเองพอรู้รายละเอียดบ้างแล้วเพราะเคยไปแคสงานไว้เมื่อปีที่แล้ว ส่วนตัวบอมเพิ่งจะรู้ในคืนนั้นเลยว่าจะได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้บทบาทต้าในวงการนักแสดง ต้าเข้าวงการตั้งแต่อายุ 13-14 ในบทบาทสามเณรมาตลอด จนมาถึงซีรีส์พี่จะตีนะเนยก็ยังไม่หลุดพ้นจากวงการศาสนา เพราะในซีรีส์เรื่องนี้ เนย รับบทเป็นเด็กวัด ทุกสถานที่ถ่ายทำก็ยังหนีไม่พ้นวัดเหมือนเดิมบอมกับชีวิตสายธรรมะ บอมไม่ใส่สายมู ไม่ได้มีเครื่องรางของคลังพกติดตัว แต่จะเป็นสายทำบุญมากกว่าและไม่ได้เคร่งขนาดนั้น เพราะตามปกติจะเข้าวัดกับแม่ทุกครั้งที่มีโอกาสเส้นทางจากวงการโฆษณา สู่นักแสดง บอมเข้าวงการโฆษณาตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัย จะไปแคสงานช่วงเสาร์-อาทิตย์ หรือเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ช่วงนั้นมีแต่ผลงานโฆษณา ไม่มีผลงานอื่นเลย อย่างเคยมีโอกาสไปแคสซีรีส์ ก็จะโดนคอมเมนต์ว่า แสดงออกติดแนวโฆษณาทั้งสีหน้า ท่าทางชัดมากเกินไป แต่ส่วนตัวไม่ได้เสียใจหรือดาวน์เพราะยังมีงานโฆษณาอยู่แต่ก็พยายามปรับตัวเอง จนได้มาเจอกับพี่ผู้กับกับซีรีส์เรื่องนี้บอม กับ ทิวา ตัวบอมกับคาแรคเตอร์ทิวาไม่ได้ตรงกัน 100% ขนาดนั้น แต่พอได้ลองเล่นแล้วบวกกับความเป็นนักแคสโฆษณา ทางผู้กำกับเขามองว่าแคสแตกต่างกับคนอื่นมาก ๆมีความตลกได้ คอมเมดี้ได้ เขาก็เลยสนใจ พอเล่นจริง ๆได้ไม่กี่คิวพี่เขาเลยมองเห็นว่าตัวบอมไปทางคอมเมดี้ได้สุดทาง ก็เริ่มเขียนบทให้เข้ากับบอมมากขึ้นด้วย ตัวทิวาในซีรีส์เลยมีความแตกต่างกับในนิยายค่อนข้างสูงสมมุติว่าถ้าบอมไม่ได้เล่นซีรีส์จะเป็นยังไง บอม “คิดว่าคงเล่นโฆษณาต่อไป เพราะส่วนตัวยังชอบการแสดง ถึงแม้ว่าจะแก่ตัวไปก็จะรับบทพ่อ หรืออาจจะทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย แต่จะยังวนเวียนให้มีการแสดงอยู่ในชีวิต”ในมุมมองของกันและกัน ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงจะทำอาชีพอะไร ต้าพูดถึงบอม “น่าจะเปิดร้านขนม เพราะเขาชอบกินขนมไทยแล้วเคยเห็นพี่บอมทำขนมเองด้วย” แต่บอมแอบเล่าว่าวันนั้นที่ทำสรุป อบออกมาน่าตาสวยน่ากินมาก แต่ต้องทิ้งหมด เพราะมองเกลือเป็น Baking powder (หัวเราะ)บอมพูดถึงต้า “นักร้องแน่นอน หรืออาจจะเป็นนักเขียนเพลง”ลองรีวิวเสน่ห์ของกันและกัน ต้าพูดถึงเสน่ห์บอม “เสน่ห์ของพี่บอมจะอยู่เวลาตอนทำงาน เพราะเป็นคนตั้งใจทำงานมาก เวลามีงานเข้ามาจะตั้งใจทำงานของตัวเองให้ออกมาดีแบบ 100%เลย” บอมพูดถึงเสน่ห์ต้า “แฟนคลับน่าจะรู้ เพราะเค้าเป็นคนพูดจาเจื้อยแจ้ว พูดเยอะมากกก เห็นนกก็พูดถึงนก เห็นไม้ก็พูดถึงไม้ เห็นอะไรก็พูดไปได้เรื่อย แล้วจะหาทางลงไม่เจอ(หัวเราะ) แบบพูด ๆอยู่ก็จบไปเลย แต่เวลามีเค้าอยู่ข้างๆบรรยากาศก็จะสนุกไม่น่าเบื่อเลย”เส้นทางเพลงของต้า ต้าเริ่มแต่งเพลงตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว จุดเริ่มต้นเล่าว่าตอนอยู่โรงเรียน แล้วเพื่อนเปิดเพลงให้ฟังก็เลยคิด “เห้ย เราลองมาทำเพลงกัน” แค่นั้นเลย แค่อยากลองทำดูว่าจะเป็นยังไง ย้อนกลับไปตอนนั้นมันก็ออกมาสนุกดี แต่พอกลับไปฟังตอนนี้มันแย่มาก (หัวเราะ)บรรยากาศในการถ่ายซีรีส์ อุปสรรคแรกเลยคือเรื่องฝน ตกกระหน่ำแบบว่า 80-90% เลย ทำให้ต้องเลื่อนกองกันบ่อยมากจนทำให้ระยะเวลาในการถ่ายจากจริง ๆต้องถ่ายจาก 2-3 เดือน ทำให้ยาวมาเรื่อย ๆ เป็น 9 เดือน บวกกับพวกเราติดโควิดด้วยคาดไม่ถึงกับผลลัพธ์ที่ได้ ตอนถ่ายซีรีส์ยอมรับเลยว่าคาดหวังแต่ไม่คิดว่าจะดัง จะได้ผลตอบรับดีขนาดนี้เพราะเป็นซีรีส์เรื่องแรกของทั้งคู่ด้วย อีกอย่างทั้งคู่เล่าให้ฟังว่าเคยคุยกันว่าอยากให้คนมาดูซีรีส์เยอะ ๆเพราะทีมงานทุกคนตั้งใจกันมาก ๆซีรีส์เปลี่ยนชีวิต ‘พี่จะตีนะเนย’เปลี่ยนเกือบทุกอย่างในชีวิตของทั้งสองคนเลย ต้าพูดถึง “ผลงานเก่า ๆของต้าเองอย่างเคยปล่อยเพลง ประมาณเดือนนึงยอดหลักร้อยหลักพัน แต่ตอนนี้ปล่อยวันเดียวขึ้นหลักแสนแล้ว โอ้โห! (หัวเราะ) ”เปรียบกันและกันเป็นอาหาร “บอมเปรียบต้าเป็นข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว” เพราะว่า ต้าเป็นคนง่าย ๆเป็นจานด่วนไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ซับซ้อน “ต้าเปรียบบอมเป็นมาชเมลโล่” เพราะว่า พี่บอมดูนุ่มนิ่ม สะอาดเรียบร้อยคู่นี้เรียกได้ว่ายิ่งคุยยิ่งมีเสน่ห์คำนี้ไม่เกินจริง ทางเราเลยเตรียมเกมมากระชับความสัมพันธ์ให้แฟนคลับได้เสพความเป็นคู่จิ้น ความน่ารักสายฮาของ “ต้า-บอม” กับเกมที่มีชื่อว่า “กระดาษทายใจ…” (เข้าไปชมใน Youtube ทางช่อง ATIME)ก่อนจะลากันไปคืนนี้ มาฟังความรักความประทับใจ ความห่วยใยของแฟนคลับที่มีถึง “ต้า-บอม” “เป็นห่วงต้า ต้าต้องระวังอย่าเผลอบอกข้อมูลส่วนตัวของตัวเองเยอะน้า เริ่มมีชื่อเสียงแล้วด้วย เราจะคอยเป็นกำลังใจให้ต้าในทุก ๆผลงานนะ ไม่เคยคาดหวังว่าน้องจะเป็นอะไรแบบไหน ขอแค่น้องเป็นตัวเองมีความสุขในทุกวัน” “เห็นบอมเงียบ ๆแต่แฟนคลับทุกคนรู้ว่าบอมจะคอยดูคอยส่องแฟน ๆอยู่ตลอด ทำให้เรารู้ว่าบอมจากคนไม่เล่นโซเชียล ต้องมาเล่นบ่อย ๆเพราะอยากเข้ามาคุยมาไลฟ์กับแฟนคลับ เป็นสิ่งที่น่ารักมากๆ” “พูดถึงทั้งคู่ก็อยากบอกต้าอย่านอนดึกมากน้า พักผ่อนเยอะ ๆอย่าเล่นเกมดึกมาก ส่วนพี่บอมอย่าลืมทานขนมอร่อย ๆเยอะๆนะ ชอบเวลาพี่บอมกินขนมน่ารักมากเลย”EFM FANDOM LIVE รู้สึกดีใจมาก ๆที่ได้มีโอกาสมาร่วมพูดคุย ทำความรู้จักให้ทุกคนได้เห็นถึงความน่ารัก เสน่ห์ในความเป็นตัวของตัวเอง ของ ‘ต้า-บอม’ ก่อนจบรายการลงทางเราก็ขอฝากซีรีส์เรื่องแรก ‘พี่จะตีนะเนย’ ของทั้งคู่ด้วยน้า รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ครบรสมาก ๆทั้งฮา เรียกรอยยิ้ม จิ้น ฟิน และเรียกน้ำตาของทุกคนได้แน่นอนสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ผีหนุ่มหล่อทั้ง 7 “ATLAS” ถึงซิงเกิลใหม่จะชื่อ ฉันคนเก่า แต่สัญญาเลยว่าพร้อมจะกลับตัว และรับรางวัล EFM FANDOM AWARDS ถ้วยที่ 2 สาขา ‘เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเอลิส’

26 พ.ย. 2024

ผีหนุ่มหล่อทั้ง 7 “ATLAS” ถึงซิงเกิลใหม่จะชื่อ ฉันคนเก่า แต่สัญญาเลยว่าพร้อมจะกลับตัว และรับรางวัล EFM FANDOM AWARDS ถ้วยที่ 2 สาขา ‘เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเอลิส’

รายการ EFM FANDOM LIVE [31 ตุลาคม 67] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 7 หนุ่ม T-POP อย่าง “ATLAS” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ฉันคนเก่า (Lat Me Try Again)” พร้อมอัปเดตพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจแนน และ ดีเจโจเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ“EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดโหวต1. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “แอทลาสคนเก่า ยังเศร้าเหมือนเดิม” ผ่านมาหลายซิงเกิล หลายแนวดนตรีแล้ว แอทลาสก็ยังคงคอนเซ็ปผู้บ่าวอกหัก รักไม่สมหวังเหมือนเดิม พ่อคุณเอ๊ยยย!!! จะสมหวังกี่โมงThe original ATLAS remains just as melancholy as before. Despite exploring various musical styles and themes, ATLAS continues to portray a story of a lovelorn youth, yearning for reciprocated affection. Wow !!! When will their hearts find solace?2. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ทีมนักซิ่งวิ่งสู้ฟัดสุดจัด ๆ ย่านรังสิต” ใน mv เพลงนี้ ATLAS ทุกคนรับบทเป็นสมาชิกทีมแข่งรถ แต่ละคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง บางคนดูแลอะไหล่ บางคนเป็นนักแข่ง ซึ่งแต่ละหน้าที่มีความสำคัญหมดจะขาดใครไปไม่ได้สักคน ก็เหมือนกับ ATLAS ในชีวิตจริง ที่ขาดใครไปไม่ได้เลยและน้องทุกคนก็ผ่านเรื่องราววิ่งสู้ฟัดมาเยอะมากกว่าจะมาถึงวันนี้ เลยคิดว่าชื่อรางวัลนี้ เหมาะสมกับแอทลาสมากที่สุดแล้วค่ะThe top racing team in Rangsit In this music video, every member of ATLAS has a role to play as part of the racing team. Some are responsible for spare parts, while others race. Each role is crucial and cannot be overlooked. Just like in real life, ATLAS relies on each member. They have all gained experience through many races to get to this point. Therefore, I believe the name of this award is most fitting for ATLAS.3. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ตัวพ่อคนเดิมไงหนู...ไม่คุ้นหูเลยเหรอ” เป็นชื่อรางวัลที่อยากให้ล้อไปกับเนื้อเพลง "ฉันคนเก่า" ค่ะ แล้วก็ใช้คำว่าตัวพ่อเพราะว่าแอทลาสของเราเป็นตัวพ่อบอยกรุ๊ป T-pop สุด ๆ โหด ตึง เก่งกาจ มากประสบการณ์ ผ่านอะไรมามากมาย เป็นตัวพ่อคนเดียวคนเดิมในใจเอลิส เป็นตัวพ่อที่ใคร ๆ ก็รู้จัก คุ้นหู เคยได้ยินชื่อเสียง เคยฟังเพลง หรือเห็นผลงานผ่านตาอย่างแน่นอน แต่ก็อยากให้ชื่อดูมีความกวน ขี้เล่น เพราะแอทลาสเป็นวงตลกค่ะ เผลอ ๆ บางคนอาจจะรู้จักจากคลิปตลก เพราะเรื่องตลกเราขึ้นชื่อจริง แต่รวม ๆ แล้วชื่อนี้ก็ตั้งมาจากความเก่ง ความเก๋า ความเจ๋งของแอทลาสที่ไม่เคยน้อยลงเลย และก็ยังเป็นตัวพ่อคนเดิมของเอลิสเสมอ 3The familiar daddy, my dear… Does that ring a bell? It's a title I chose inspired by the lyrics of "I'm the Old One," with the term "daddy" reflecting our ATLAS as the leader of the T-pop boy group. He's strong, skilled, talented, and seasoned. In ALIS's heart, he's the one and only daddy. He's the daddy known to all, recognized, heard of, listened to, or seen in action. I wanted the name to be playful and mischievous to match ATLAS's comedic band. Some may recognize him from their comedy sketches as they are quite popular. But ultimately, this name highlights ATLAS's expertise, experience, and everlasting coolness. And he remains ALIS's beloved daddy.4. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเอลิส” คำนี้ได้มาจากน้องภูมิค่ะ น้องบอกว่า "เอลิสคือน้ำมันเต็มถังของแอทลาส” มันใช่มาก ๆ แอทลาสก็เป็นเชื้อเพลิงที่สุดของเอลิสเหมือนกัน เวลาได้ดูคอนเทนต์ของแอทลาส ได้ฟังเพลง ได้เจอน้อง ๆ เหมือนได้เติมพลังให้ตัวเองมีแรง ไปสู้กับชีวิตต่อ ทุกครั้งเวลาวางแผนจะไปหาน้อง ๆ รู้สึกมีพลังในการเคลียร์งานเป็นพิเศษ เรียกได้ว่ามีความสุขตั้งแต่มีบัตรคอนอยู่ในมือด้วยช้ำThe Best fuel for ALIS Nong Bhum shared with me that ALIS is like a full tank of fuel for ATLAS. This statement holds true to me as well. ATLAS serves as the best source of energy for ALIS, rejuvenating me whenever I engage with their content, music, or in person. Planning to see them fills me with an extra dose of positivity and motivation to tackle my responsibilities. Having a concert ticket in hand has brought me immense happiness.5. ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “โชว์ไม่ช้า จําได้ทุกโชว์” ATLAS วงที่ยืน 1 ด้านการโชว์ โชว์ของแอทลาสแต่ละงาน จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด ทำให้แต่ละงาน มีซีนประใจในแต่ละงานที่ต่างกัน เป็นที่จดจำของเอลิสและคนนอกด้อมตลอด แอทลาสมีการดีไซน์การโชว์ได้ดีมาก ๆ แต่ละงาน แต่ละโชว์ ผู้ชมคุ้มสุด ๆ ได้ดูเพอร์ฟอร์มเต็ม ๆ จุก ๆ แถมช่วงพูดคุยยังสร้างเสียงฮาให้ตลอด แอทลาสเก่งอ่ะบางครั้งเปลี่ยนโชว์จนเอลิสกลายเป็นนักร้องนำเลย เข้าจังหวะผิดกันหมด 55555Every show by ATLAS is special and unforgettable. The band constantly switches things up, ensuring that each event is unique and leaves a lasting impression on both fans and newcomers. ATLAS puts on a top-notch show with fantastic design, guaranteeing that every audience member is thoroughly entertained and delighted. Their performances are always worth the price of admission, leaving us laughing and in awe. ATLAS's talent shines through, even when they switch things up and showcase ALIS as the lead singer, bringing a different but still amazing experience every time.ถึงเวลาที่ ALIS รอคอยแล้วน้าาา...เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE มาพูดคุยกับหนุ่ม ๆ “ATLAS” กัน ฮาโลวีนปีนี้แอทลาส 7 คนขอเป็นผี….. ไนซ์ : วันนี้ผมตั้งใจมาเป็นผีติดแกรม ใส่สูทมาแบบเราตายในตอนที่เรายังเดินอยู่ในคฤหาสน์ของเรา จูเนียร์ : แล้วมีดเกี่ยวไร ไนซ์ : ก็ลื่นแล้วก็มีดเสียบหัว 55555 ภูมิ : อ่ออ กำลังหั่นสเต็ก 5555 เออร์วิน : เพราะเป็นพ่อครัว จูเนียร์ : ของผมตายด้วยจากการวิ่งเข้าไปช่วยไนซ์ เอ้ยเสร็จปุ๊ปไนซ์เป็นไรอะ โดนแทงเข้าหน้า ไนซ์ : เลือดนี่คือของพี่เหรอเนี่ย จูเนียร์ : ของพี่อันนี้ของพี่ คือโดนปักเข้านี่เลย ไนซ์ : แล้วม้วนตายไง มิวอ้อน : ผมเป็นผีคิ้วบากจนตายครับ ภูมิ : คือเขาเป็นคนชอบบากคิ้วแต่อันนี้น่าจะบากแรงไปหน่อย 55555 ก็เลยโดนเส้นเลือดใหญ่ตายไปเลย แทด : ส่วนผมเป็นผีหมูเด้งครับ….เอ้าเงียบเลย 5555 ไนซ์ : ต้องมีภาพประกอบด้วย แทด : คือที่เห็นบากตรงเนี้ย เพราะหมูเด้งมันซนไงแล้ววิ่งไปชนไหล่ม้วน ช่วงนี้เขาเล่นฟิตเนสเยอะมันแข็งง จมูกแตกเลยครับผม เออร์วิน : เออร์วินเป็นผีโดนรุมกระทืบครับ โดนแอทลาสรุมกระทืบเพราะว่าชอบแกล้งพี่ ๆ แต่แผลน้อยเพราะว่าเขาเน้นคนละส่วนครับ พี่ภูมิจะเน้นศอกผมอะไรเงี้ยอ่ะงง 5555 ไนซ์ : ซ้ำใน ๆ ภูมิ : ส่วนผม relate กับชีวิตจริงนะ ตาแดงด้วย จูเนียร์ : ต้องซื้อยาหยอดตามาให้ 5555 แทด : ฟีลแบบตาอักเสบอยู่ ภูมิ : ไม่ตอนเด็กอ่ะ ผมเคยโดนชิงช้าฟาดปากเคยเล่าไปแล้ว มิวอ้อน : อ่าวแล้วไมตาแดงอ่ะ เออร์วิน : แล้วตาแดงมาจาก กินน้ำพริก ภูมิ : 555555 กินน้ำพริกตาแดง ชอบกินเยอะไปหน่อย อ่ะพี่เจ็ท เจ็ท : เป็นแวมไพร์ครับ ATLAS : เฮ้ยยย แทด : เขามาหล่อเลยอะ เจ็ท : คือเสื้อเชิ้ต สร้อยแล้วทรงผมมันต้องแวมไพร์แล้วป่ะ ไนซ์ : ดูคิดมาที่สุดแล้วคนนี้ 5555รางวัล “เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเอลิส” จูเนียร์ : เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเอลิส ภูมิ : คือเอาจริง ๆ ประโยคนี้ผมพึ่งพูดไปเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว พึ่งพูดไปในไลฟ์หรือว่าในสักที่แบบว่าเอลิสเหมือนเชื้อเพลิงให้เรา เพราะว่าจะมีหลายครั้งที่แบบเหนื่อยอาจจะแบบทะเลาะกันเองบ้าง เหนื่อยจากการซ้อมบ้างแต่พอเรารู้ว่าเราทำไปเพื่อใครมีเอลิสรอที่จะดูผลงานเราอยู่ มันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมันทำให้เรามีแรงขึ้นในวันที่เราเหนื่อยครับ ใช่ผมก็เลยพูดประโยคนี้ออกไป เออร์วิน : for interfan ด้วย ภูมิ : Thank you แทด : Thank you เลยเหรอ 5555 ไนซ์ : Thank you very much so much เออร์วิน : Thank you for The gas ภูมิ : Thank you for The gas นะครับ 55555Passion ของแต่ละคนที่ทำให้ออกมาใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไนซ์ : จริง ๆ Passion ของไนซ์ในแต่ละวันไม่มีอะไรมากครับ แค่รู้สึกว่าวันนึงเราต้องทำไรแล้วเรารู้สึกว่ามันคืบหน้ากับตัวเองไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเราแบบซ้อมเต้น สมมุติซ้อมเต้นจำท่านี้ไม่ได้วันนี้ต้องจำได้ เมื่อวานเราร้องยังไม่ชอบโทนนี้ของตัวเอง วันนี้จะต้องร้องให้มันดีขึ้น อาจจะยังไม่ต้องได้มากก็ได้แต่ว่าอย่างน้อยมันต้องมีอะไรที่คืบหน้าในทุก ๆ วัน ใช่ผมก็เลยใช้มายเซ็ทนี้มาอยู่เรื่อย ๆ แล้วมันก็จะเป็นมายเซ็ทที่ไม่ได้กดดันตัวเองมากจนเกินไป เพราะว่าถ้าเกิดเราแบบเอ้ยต้องได้ ๆๆ มันจะเครียดมันจะกดดันเราก็เลยรู้สึกว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า มิวอ้อน : ครับผม Passion ในแต่ละวันช่วงนี้ผมส่วนมากผมจะเป็นเรื่องอนาคตมากกว่าว่า แบบผมอยากเป็นผู้ชายแบบไหนเราอยากแบบโตมาเป็นผู้ชายแบบไหนอะไรเงี้ย ผมก็อยากทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มันจะช่วยให้เราไปถึงจุดนั้นมากขึ้น อย่างแบบ วันละ 1% ก็พออะไรเงี้ย อย่างเช่นเหมือนเราอยากเป็นผู้ชายที่ดูแลครอบครัวได้ อยากเป็นผู้ชายที่สุขภาพแข็งแรงเหมือนแบบผมอ่ะ อยากอายุ 45 แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ผมแบบไม่ได้อยากมีปัญหาที่จะต้องเข้าหาหมอบ่อย เพราะเหมือนบางทีเรามีผู้ใหญ่ในบ้านที่เขาสูงอายุหน่อย เขาก็มีปัญหาผมเลยรู้สึกว่า เฮ้ยมันแบบถ้าเราเริ่มดูแลตัวเราได้เร็วกว่ามันอาจจะเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วก็เรื่องแบบไฟแนนซ์ แล้วก็การกูแลตัวเองในเรื่องทุก ๆ อย่าง ผมแค่อยากเป็นผู้ชายที่ดีสำหรับอนาคตครอบครัวผมในอนาคตครับผมแล้วก็สำหรับตัวเองครับ ไนซ์ : คือ 45 สุขภาพยังดียังไม่เข้าโรงบาล 24 นี่เข้าบ่อยมาก 5555 เออร์วิน : โอโห้รอดถึง 30 ก็บุญแล้ว จูเนียร์ : Passion ที่ทำให้ออกมาใช้ชีวิตในแต่ละวัน ของผมแค่ง่าย ๆ เลยครับ ผมแค่ตื่นขึ้นมาหาความสุขให้ตัวเองก่อนอย่างแรก 1 อย่าง คือผมจะหาความสุขให้ตัวเอง 1 อย่างในทุก ๆ เช้า เพราะรู้สึกว่ามันจะทำให้ทั้งวันของเรามันมีความสุขไปด้วย เช่น ตื่นมากินอะไรอร่อย ๆ ตื่นมาเข้าฟิตเนสแค่แบบในที่ที่เราชอบอยากไปอะไรอย่างเงี้ย ใช่ครับผมก็อะไรประมาณนั้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วผมรู้สึกว่ามันให้ทั้งวันของผมมันมีความสุขและก็สนุก แล้วเต็มที่กับมันได้ทั้งวัน ไนซ์ : เพราะว่าเริ่มให้ถูก 5555 ภูมิ : Passion เหรอครับอาจจะฟังดูเลี่ยน แต่ว่าจริง ๆ สำหรับผม ผมว่าเพื่อน ๆ ในวงนี่แหละครับผม ก็ปมถือรางวัลแล้วอะเนอะ 555 ภูมิ : ผมจะบอกว่ารางวัลอันนี้ใช้ได้กับทุกคนเลยนะ ผมรู้สึกว่าการที่จะทำให้ชีวิตเราเป็นไปได้อย่างที่เราคิด เราต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่เขาคิดแบบเรา ผมรู้สึกว่าการอยู่ในวงแอทลาสครับ อยู่กับเพื่อน ๆ ที่เรามี Passion ตรงกัน มีเป้าหมายตรงกัน อาจะมีไม่ตรงบ้างในบางครั้งแต่ว่าโดยรวมมันไปทางเดียวกันอย่างเงี้ย มันทำให้เราแบบมีแรงให้เห็นภาพอนาคตเราชัดขึ้น เวลาเราตื่นมาเปิดในไลน์กลุ่มเจอคลิกเต้นเรา เราเฮ้ยเมื่อวานเราเต้นอันนี้แบบนี้นะ เอ้ยงานนี้ดีนะแฟนคลับ ชอบนะโชว์นี้ ชอบนะเวอร์ชั่นนี้ ชอบนะมันทำให้เรารู้สึกแบบอุ๊ยมันมี Passion ช่วยกันดันไปข้างหน้า ก็ฝากทุกคนนะครับผม อยากอยู่ตรงไหน ให้เอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น แทด : ผมก็จะตอบคำตอบเดิม คืออย่างแรกจริง ๆ Passion แรกของผมเลยก็คือเอลิส แหละครับผม เวลาได้ขึ้นเวทีไป ได้โชว์ performance ได้เต้นได้ร้องให้กับเอลิส ได้แชร์บรรยากาศนั้นคือ Passion แรกของผมอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดต้องเลือกอย่างอื่นก็คือ การได้ไปทำงานทุก ๆ วันกับพี่ ๆ 6 คน คือหลัง ๆ เนี่ยผมชอบจินตนาการเล่นอะไรเงี้ยว่าเออถ้าเกิดวันนึงเราแบบเราต้องมาทำงานคนเดียวเป็นยังไงวะหรือว่าสมมุติวันนี้เราต้องงถ่ายงานนี้คนเดียวหรือถ่ายแบบนี้คนเดียวจะเป็นยังไง รู้สึกเหงามาก ๆ รู้สึกว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตแบบอยู่กับพี่ ๆ เรา Enjoy ทุกโมเมนต์ให้ดีที่สุด เราออกไปทำในสิ่งที่เรารักด้วยกันกับอีก 6 คนแล้วมันก็รู้สึกไม่เหงาดีก็รู้สึกว่าทุกวันนี้ก็ตาม Passion นี้ไปตลอดครับ ไนซ์ : แทดก็ออกงานเดี่ยวบ่อยนะ 55555 เออร์วิน : สำหรับผมจริง ๆ เป็นคนถามที่ยากมาก เพราะว่า Passion ผมไม่ค่อยมี Passion เท่าไหร่ครับถามพูดตรง ๆ ใช่ก็อย่าง Passion แรกและ Passion เดียวที่ทำมาเสมอและคิดมาเสมอก็คือการเป็น ATLAS การทำเพลงให้เอลิสแล้วก็คนฟังคนอื่นฟังอะไรเงี้ยครับ มันก็คือเป้าหมายสูงสุดของเราละในช่วงชีวิตนี้ พอให้คิดถึง Passion อื่นผมก็พยายามนั่งนึกถ้าจะตอบคงตอบเหมือนพี่จูแล้วกันว่าแค่ตื่นมาแล้วเห็นตัวเองยิ้มก็โอเคละ มีความสุขในทุก ๆ วันผมว่าก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วเพราะว่าเวลาเรามาเจอแอทลาส มันคือพื้นที่ปลอดภัยของเรา เรามีความสุขแต่เวลาเราอยู่คนเดียวเราก็อยากให้ตัวเองยิ้มเยอะ ๆ มีความสุขกับตัวเองเยอะ ๆ ประมานนี้แล้วกัน เจ็ท : ผมว่าผมอยากแยกออกมาในเชิงแต่ละวันกับในแต่ละช่วงละกัน เพราะว่าถ้าแบบเป็นในแต่ละวันผมจะรู้สึกว่าของผมมันจะเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นพวกแบบว่าวันนึงอยากที่จะอย่างน้อยรู้อะไรมากขึ้นมั้งในส่วนของวันนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ได้อาจจะเป็นเรื่องที่มันแบบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราขนาดนั้นแต่แค่เราได้รู้ว่า เอ้ยอ๋อมันคืออย่างงี้นะแบบเราแค่เรียนรู้สักอย่าง 2 อย่างต่อวัน ผมว่ามันก็เป็นแบบ Happiness นึงที่ผมรู้สึกว่ามันทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ ผมรู้สึกว่าทุกคนบนโลกทุกคนเรียนรู้ทุกวันอยู่ละแต่ว่าบางคนแค่อยากจะไม่ได้จับจุดว่า คุณกำลังเรียนรู้อยู่แต่ผมก็รู้สึกว่าผมอยากโฟกัสในจุดอันเนี้ย มันคือ Happiness ของผมคือผมเรียนรู้ 1 อย่างต่อวันอะไรเงี้ยก็ Happiness CD แล้วก็ในเชิงของ Passion โดยรวมก็รู้สึกว่า Passion ที่ทำให้ไปข้างหน้าก็คือการที่ได้อยู่เป็นแอทลาสได้เป็นศิลปินนี่แหละ เพราะสำหรับส่วนตัวผมนะ ผมไม่รู้ว่าผมจะได้อยู่ในวงการหรือว่าได้อยู่กับเพื่อน ๆ หรือได้ทำสิ่งนี้ไปอีกนานแค่ไหน พูดตรง ๆ เลยไม่รู้จริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าอยากจะ Enjoy ดื่มดำกับบรรยากาศนี้ให้ได้มากที่สุด ให้ได้มากที่สุดให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ถ้า ATLAS จะพาคนที่รักไปเที่ยว ภูมิ : จริง ๆ ผมมีได้ทำแล้วบางครับ คือใรแต่ละปีผมพยายามจะตั้งแบบตั้งจุดหมายไว้ว่าในปี ๆ เราทำอะไรบ้างอย่างปีนี้ตั้งใจจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะว่าเขาก็ไม่ได้ไปนานแล้วเราก็จะตั้งไว้ว่าแบบโอเค เราจะรีบตั้งใจทำงานแล้วเก็บเงินพาพวกเขาไปเที่ยว พอพาไปเราก็สบายใจก็ดีใจที่เห็นเขาไปด้วยเงินของเราเองที่เราตั้งใจทำงานเอง เจ็ท : ผมมีชัดเจนมากมันเป็นแบบ 1 อย่างที่ผมอยากจะไปด้วยผมอยากจะไปอเมริกา ผมอยากไปดู NBA มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กอยู่แล้วคือ อันนี้สำหรับผมอันนี้คือความอยากส่วนตัวอยากไปอเมริกาอยากไปดู NBA แล้วก็อยากไปดูกับคนที่เรารักแค่นั้นเลยแบบ Simple มากแต่ว่ามันยากมากที่จะไป แทด : พูดจริงนะพี่ ตั้งแต่เด็กผมอยากไปเหมือนกันเหมือนพี่เจ็ทเลยแต่ว่าแบบเวลามันจะเป็น seasonsบาส มันจะเป็นช่วงที่เราเรียนอยู่พอดีก็แบบปิดเทอมไปไม่ได้ เจ็ท : ผมดูแล้วผมขนลุกเลย เพราะผมอยากไปมาก เออร์วิน : อยากพาไปต่างประเทศเหมือนกันครับ อยากพาไปฝรั่งเศสแล้วกันเพราะว่าเป็นที่ที่ผมก็อยากกลับไปเหมือนกันเพราะไม่ได้ไปนานมากแล้ว คิดว่าถ้าไปพาไม่ว่าจะครอบครัวหรือว่าคนที่เรารักก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีก็น่าจะสนุกดี คือคนส่วนใหญ่อาจจะอยากไปแบบว่าปารีสไปเมืองหลวงอะไรเงี้ย แต่ผมจะอยากไปแบบนีซ อยู่ฝั่งใต้ของฝรั่งเศสเป็นทะเลอะไรเงี้ย ผมรู้สึกว่ามันเงียบสงบกว่าโจรน้อยกว่า เพราะที่ปารีสมันก็โจรเยอะกว่า แล้วผมก็รู้สึกว่าธรรมชาติดูดีกว่า แทด : ผมอยากพาไป Road Trip ครับ รู้สึกว่าเป็นคนไม่ชอบเที่ยวแบบเมืองหลวงเมืองใหญ่มากรู้สึกมันวุ่นวายเกิน จะชอบแบบคิดว่าเกิดเราได้ไป Road Trip อย่างเช่น อเมริกา แกรนด์แคนยอนอย่างงี้หรือว่าขับเรื่อย ๆ รู้สึกว่ามันชิวดีแล้วอาจจะแบบเลื่อน TikTok เจอบ่อยที่แบบนอนอยู่หลังรถแล้วมองวิวสวย ๆ รู้สึกว่ามันเป็นบาที่ดีมาก ๆ เลยครับ มิวอ้อน : เป็นความฝันของผมเลย ไนซ์ : มาแล้ว อยากพาไปเจอจองกุก 55555 มิวอ้อน : เฮ้ยไม่ใช่ ใจเย็น ๆ อันนั้นเอาไว้คนเดียว มิวอ้อน : แต่ว่าจริง ๆ ผมถ้าแบบอายุ 40 กว่าแล้วมีครอบครัวแล้วผมแบบอยากพาไปขี่ฮาเล่ ที่แคลิฟอร์เนีย เพราะจริง ๆ พ่อแม่ไม่ให้ขี่มอเตอร์ไซต์แต่ผมเห็น อควาแมน เจสัน โมโมอา แล้วมันเท่มากผมอยากไว้หนวดแบบนั้นเลย ยาวมากหนวดเขายาวมาก แต่ผมไว้ไม่ได้มันไม่ขึ้น 5555555 ผมว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่สนุกมากเลย เพราะว่า 1 มันไม่ใช่แบบสิ่งที่เราเคยทำแล้วก็ 2 มันก็คือแบบประเทศที่เราไม่เคยไปอยู่ แต่มันแบบน่าจะสนุกมาก จูเนียร์ : ของผมง่ายมาก ๆ เลยครับ แค่แบบวันที่มีวันหยุดวันว่างหรือว่าแบบวันที่เรามีเวลาว่างสักช่วงนึง ผมจะพาคุณแม่ไปทานข้าวครับ ผมรู้สึกว่าอยากใช้เวลาอยู่กับเขาให้มันแบบให้มันได้มากที่สุด คือให้มันได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ณ ตอนนี้ เพราะว่าเขาก็อายุมากขึ้นทุกวันทุกปีแล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะแบบ Enjoy อาหารได้เหมือนตอนนี้ถ้าแบบในอีก 10 ปีหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ ก็เลยมองสั้น ๆ ว่าแบบวันนี้ว่างพาไปทานข้าว วันนี้ว่างพาเขาไปคาเฟ่ไปอยู่กับเขา ถ้าใหญ่ ๆ เลยทุกปีก็ตั้งเป้าว่าจะพาเขาไปเที่ยวไปเที่ยวเหมือนภูมิเลยครับใช่ ไนซ์ : ผมก็ไม่มีไรมากครับแค่รู้สึกว่า ถ้ามันว่างมีช่วงเวลาที่ว่างแค่อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว ไม่ ๆ เพราะว่าตอนนั้นที่ผมก็เคยมีฝันว่าอยากจะพาครอบครัวไปต่างประเทศโดยที่เราออกเงินเองทั้งหมดซึ่งก็ทำไปแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าเป็นทริปที่เหนื่อย 5555 คือมันเป็นช่วงว่างที่มันปึ๊บปั๊บแล้ว ผมก็ไม่ได้แบบเช็คสภาพอากาศไม่ได้เช็คแบบว่าฤดูของเขา ดอกมงดอกไม้อะไรเงี้ย แต่ว่าผมก็พาไปดูฟูจิ พาไปเดินช้อป พาไปทุกอย่างที่แบบควรจะไปญี่ปุ่น พาไปนอกเมืองแบบในป่าที่พ่ออยากไปอะไรเงี้ย ซึ้งร้อนมาก เพราะผมไปหน้าที่ร้อนมากแล้วฟูจิที่มันจะเป็นแบบทุ่ง แล้วข้างหลังเป็นแบบฟูจิมีหิมะอยู่ข้างบนอะไรเงี้ย ไม่มีเมฆบัง ดอกไม้ข้างล่างร่วงหมดเลย คือโล้นแล้วร้อนด้วย ผมรู้สึกว่ามันเป็นทริปที่เหนื่อยมากเพราะว่ามันเป็นทริปที่ตกรถ อาหารก็ไม่ได้แบบรีเซิร์ชไว้ก่อน ก็มีถูกใจบ้างเฉย ๆ บ้างกลาง ๆ บ้างเลยรู้สึกว่ามานั่งคุยกันกับพ่อกับแม่ พ่อผมก็ไม่ได้อยากที่จะไปไกลแต่ว่าเขาเห็นว่าผมอยากพาเขาไปเลยโอเคมาด้วย คือเขาก็แค่แบบว่าจริง ๆ แบบอยากอยู่ในประเทศไทยใกล้ ๆ อยากไปใกล้ ๆ อะไรอย่างงี้ก็ได้แล้วก็แค่แบบอยู่ด้วยกันก็พอแล้ววันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้หนุ่มๆ “ATLAS” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “ATLAS 7 ผีมหัศจรรย์”บอกเลยว่าสนุกสนาน ตลก เฮฮากันสุดๆ (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยกับ “ATLAS” (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ATLAS” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แฟนๆกันก่อนเข้านอน ฝากซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ฉันคนเก่า ( Let Me Try Again )” สามารถรับชมได้ทาง Youtube : ATLAS และฝากผลงานในอนาคตที่จะปล่อยออกมาให้ได้ชมติดตามได้ทาง Atlas_official_th รอติดตามกันได้เลยน้าสามารถเข้าไปรับชมกันได้ที่ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“เห็นทรงพี่อย่างนี้…แต่พี่คือบอยแบนด์นะครับ! หนุ่ม ๆ ATLAS ขนความหล่อ และความแสบซ่า บุก EFM FANDOM LIVE พร้อมโชว์ซิงเกิลใหม่ ‘เป๊ะ’ ที่เป๊ะทุกเม็ด ทุกโมเมนต์จนแฟน ๆ ต้องร้องว้าว!”

19 พ.ค. 2025

“เห็นทรงพี่อย่างนี้…แต่พี่คือบอยแบนด์นะครับ! หนุ่ม ๆ ATLAS ขนความหล่อ และความแสบซ่า บุก EFM FANDOM LIVE พร้อมโชว์ซิงเกิลใหม่ ‘เป๊ะ’ ที่เป๊ะทุกเม็ด ทุกโมเมนต์จนแฟน ๆ ต้องร้องว้าว!”

รายการEFM FANDOM LIVE[17เมษายน68] คืนนี้พร้อมต้อนรับหนุ่ม ๆ บอยแบนด์สุดเป๊ะ“ATLAS”พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจคู่ซี้“ดีเจเคเบื้ล”และ“ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่1ชื่อจดหมายว่า...ถึงชายทั้ง 7 ที่หล่อ ขี้เก๊ก และติดตลก แต่รวมๆ เป๊ะเวอร์​ ดีใจที่ได้ค้นพบATLASจากผลงานและความสามารถของATLASทุกผลงาน ทุกโชว์ มันโคตร Ooh! โคตร เป๊ะ ทุกคนเก่งมากจริงๆ เราไม่เคยอายเลยเวลาไปหน้างาน แล้วมีคนถามว่าเป็นเอลิสมั้ย เราตอบอย่างมั่นใจทุกครั้งว่าเราคือเอลิส 100% อยากขอบคุณกำลังใจที่ATLASส่งมาให้ในวันที่เราเจอปัญหา มันทำให้เรามีแรงสู้จนผ่านไปได้ ขอบคุณมากๆเลยนะ เอลิสภูมิใจเสมอ และจะซัพพอร์ตเคียงข้างATLASขอให้ทุกคนสู้ๆนะ รักนะไอต้าวก้อน :)Letter#1: This letter is titled... To the seven charming, witty, and attractive guys who make such a great match. I feel really fortunate to have found ATLAS through the incredible talent and performances. Each piece and show is simply amazing—so impressive! The entire team is truly skilled. I never feel awkward when someone asks if I'm ALIS at events; I proudly say that yes, I am 100% ALIS. I want to express my gratitude to ATLAS for the support they showed me when I faced challenges. That encouragement really helped me keep going until I got through it. Thank you so much. ALIS is always proud to back ATLAS. Let’s all keep pushing forward together. Love you all! :)จดหมายฉบับที่2ชื่อจดหมายว่า...Life is hard but ATLAS is here​ ผ่านช่วงเวลาแย่ๆมาเพราะพวกแกจริงๆ ความเป็นATLASมันฮีลใจเราได้มากๆ มีพวกแกคอยเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต บอกตัวเองอยู่ทุกวันว่า ไม่มีใครก็ยังมีแอทลาส ขอบคุณที่เป็นตัวเองกันมากๆ บ้าๆ บ๊องๆ ตลก แต่มันมีความสุขจริงๆนะ ขอบคุณที่เต็มที่กับทุกอย่างนะ เพราะนี่ก็จะเต็มที่กับการรักพวกแกเหมือนกัน อยู่ด้วยกันมาจนครอบครัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเลยนะ ภูมิใจในตัวพวกแกมากๆ เติบโตไปด้วยกันอีกนะ รักนะ ไอ้เด็กแผนที่Letter#2: This letter is titled...Life is hard but ATLAS is here I managed to get through tough times thanks to all of you. Being part ofATLAStruly mends my heart. With your support, I remind myself daily that even if I feel alone, I always have ATLAS by my side. I appreciate how genuine you are—quirky, playful, and always cheerful. Thank you for putting in your best effort, as I’ll do my best to love you back. Let’s stick together and watch our family grow. I’m really proud of each one of you. Here’s to us continuing to grow together. Love you, map kid!จดหมายฉบับที่3ชื่อจดหมายว่า...ขอบคุณแอทลาสเกิดมาให้เอลิสรัก เราเป็นคนต่างจังหวัด เราชอบแอทลาสมาก จะบอกว่าอยากขอบคุณแอทลาสทุกๆคนที่ทำตัวน่ารักกับเอลิสทุกคน เราเพิ่งเข้ามาในด้อม ไม่ได้ตามงานบ่อย นานๆได้ตามที แต่ทุกครั้งที่ได้ไปรู้สึกมีความสุขมากๆ เวลาเห็นศิลปินอยู่บนเวที ได้เจอศิลปินวงโปรดเหมือนแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้คนนึงที่ท้อมากๆหายเหนื่อยกลับมีแรงมีกำลังใจในการเรียนได้ ขอบคุณที่เป็นแรงผลักดันในเรื่องต่างๆ และเราภูมิใจที่ได้เกิดเป็นเอลิสของแอทลาสมากLetter#3: This letter is titled... Thanks, ATLAS, for existing so that ALIS can share their love with you. I'm someone from the province, and I'm a big fan of ATLAS. I really want to thank to all the ATLAS members for their kindness towards the ALIS community. I recently joined the fandom and I don’t always keep up with their work, but every time I get the chance to attend an event, it brings me so much joy. Seeing the artists perform is a special experience, and it allows me to connect with my favorite performers. It’s truly uplifting and helps me feel less drained, giving me the motivation I need to study. Thank you for being such an inspiring force in many areas of life; I’m really proudto be an ALIS of ATLAS.จดหมายฉบับที่4ชื่อจดหมายว่า...ถึงพี่ๆ ทั้ง 7 ผู้มีพลังพิเศษ…​ จดหมายนี้หนูอยากจะส่งความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อแอทลาสให้ฟังสำหรับหนูแอทลาสเป็น บอยกรุ๊ปที่มีพลังพิเศษจริงๆ จะเต้นกี่เพลงก็ไม่เหนื่อย เพลงปล่อยออกมากี่แนวก็เพราะไปหมดเลย ทุกครั้งที่ไปอีเว้นท์ การได้เจอแล้วก็ฟังเพลงพวกพี่เป็นเหมือนยาวิเศษที่ทำให้หนูมีพลัง ต่อให้เจอเรื่องอะไรก็ยิ้มได้เพราะพวกพี่เลย ไม่ว่าจะเป็นยังไง หนูจะตั้งใจรอยินดีให้กับทุกๆความสำเร็จของพวกพี่นะ ภูมิใจในตัวเองมากๆนะคะ รักเสมอLetter#4: This letter is titled...To the seven members with extraordinary abilities... In this letter, I’d like to express my appreciation for ATLAS. To me, they are a remarkable boy group with unique talents. They can dance through endless songs without losing energy, and every genre they explore is fantastic. Whenever I attend an event and hear your music, it feels like a magical boost that fills me with strength. No matter the circumstances, you bring a smile to my face. I’ll always be here, eagerly waiting to celebrate your achievements. I take great pride in what you do, and my love for you will never fade.จดหมายฉบับที่5ชื่อจดหมายว่า...จดหมายร้องทุกข์ถึงแอทลาส​ อยากร้องเรียนไปยังศิลปินที่รักค่ะ ตั้งแต่เป็นเอลิสมา ทำให้รู้สึกได้เลยว่า หนทางในการมีแฟนของเราริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ แอทลาสเข้ามาเช็ตมาตรฐานผู้ชายในอุดมคติของเราให้สูงยิ่งๆขึ้นไป ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งเห็นคานชัดเลย… แต่ๆๆๆ ไม่เป็นไรน้า เพราะตอนนี้ความสุขของเราคือการได้มาติ่งแอทลาส ได้ไปคอน ออกไปใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องนอนเปื่อยอยู่ที่ห้องอีกแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาทำให้โลกของเราสดใสมากๆเลยน้า รักมากๆเลยนะคะLetter#5: This letter is titled...Complaint Letter to ATLAS. I need to express my feelings to the artist I admire. Since I became an ALIS, it seems like finding a boyfriend is becoming more challenging. ATLAS has raised my expectations for my ideal partner even more. As we get to know each other better, my single status feels more pronounced. However, I’m okay with that because right now, what brings me joy is being a fan of ATLAS, attending concerts, and enjoying life without spending all my time in my room. Thank you for bringing so much light into my world. I truly love you.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE เราจะมาพูดคุยกับ 7 หนุ่ม “ATLAS” กันสงกรานต์ที่ผ่านมาของหนุ่ม ATLAS เออร์วิน:ปีนี้เล่น 6 วันติดเลยครับ แทด:ฟิลไปเปิดเวที เลยต้องพกแว่นไปทุกงาน คนจะได้มีรูป ATLAS ใส่แว่นดำกันหมด เจ็ท:แล้วก็… ค่อย ๆ หายไปทีละอัน สองอัน… ไนซ์:มีหักบ้าง มีผมโยนให้แฟนคลับบ้าง ภูมิ:โดยที่ไม่ถามกันเลย! ไนซ์:จริง ๆ ผมรู้สึกว่าเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ แต่กว่าจะถึงมือแฟนคลับ… แว่นก็หักแล้ว จูเนียร์:มีคนถ่ายรูปมาให้ดูนะ นิ้วทะลุกรอบแว่นเลย 55555 เจ็ท:แย่งกันรับ ๆ ภูมิ:ของดีมีคุณภาพ จูเนียร์:ก็ถือว่าเป็นแหวนละกัน… การของแต่งงานเบา ๆ ~ซีนไวรัลวันสงกรานต์ ‘ไนท์ถูพื้น’ แทด:ถูพื้นรู้สึกยังไงบ้างพี่ไนท์ จูเนียร์:นี่เลย ๆ คลิปที่แมสที่สุด ไนซ์:คือท่าซิกเนเจอร์ของทีมผมสมัยก่อน แล้วเราก็นึกออกพอดีเลยลองเอามาทำ แล้วคนก็ชอบกัน เออร์วิน:เรียกว่าปีนี้ พี่ไนท์ตีลังกา 6 วันติดครับ ไนซ์:จริง ๆ ผมอยากให้ทุกเวทีมันมีตีลังกาที่ไม่ซ้ำกันเลย แต่ว่าสุดท้ายก็ซ้ำกันบ้าง ภูมิ:ปีนี้แฟนคลับทุกคนน่ารักมากครับ อย่างช่วงเวลาโชว์ ที่เราบอกว่าอย่าเพิ่งฉีดน้ำมานะ เพราะเรายังถือไมค์อยู่ ยังติดเครื่องอยู่ เขาก็ไม่ฉีดเลย แทด:แบบเป็นคำสั่งได้ทันที แฟนคลับเก่งมาก อย่างตอนนั้นเราไปที่สยามสแควร์ เราอยากถ่ายคอนเทนต์ และเราก็บอกแฟนคลับว่าพอเพลงถึงท่อนนี้ค่อยฉีดน้ำนะ แฟนคลับทุกคนก็โอเค พอเราบอกให้ฉีดน้ำก็มาเลยพร้อมกันทั้งหมด ภูมิ:ทำตามมาก น่ารักมาก แทด:บอกว่าไม่อยากให้โดนหน้า ไม่อยากให้โดนไมค์ เขาก็หลบให้ ภูมิ:ปลอดภัยมากปีนี้เพลงใหม่ ‘เป๊ะ’ ที่โคตรเป๊ะ! ไนซ์:มันมี Song Camp เนอะ แล้วเราก็คุยกันว่าเพลงหน้าที่ ATLAS อยากจะทำ คืออยากลองทำอะไรที่มันหลุด ๆ กวน ๆ ไปเลย เพราะเรามีเพลงเดือด ๆ เพลงเต้น เพลงร้อง อะไรมาหมดแล้ว เราอยากลองทำเพลงกวน ๆ ไปเลย เลยได้เป็นเพลงนี้ออกมา เขาก็เรียกระดมพล กดบีท แล้วก็ลองให้มิวอ้อนแต่งเลย มิวอ้อน:ผมเขียนเดโม่ 1 ครับ ภูมิ:มีการคิดเมโลดี้อะไรมา แล้วก็มีแปลเป็นไทยบ้าง แก้บ้าง ให้มันดูชัดเจนที่สุด เออร์วิน:วันนั้นก็จะวิ่งเข้าหลายห้องครับ เพราะว่าจะมี Song Camp แต่ละเพลงแล้วก็สลับกัน ตอนแรกเพลง “เป๊ะ” ก็จะเป็นมิวอ้อน พี่เจ็ท และพี่ไนท์ ที่จะอยู่ในห้องก่อน ตอนแรกเป็นบีทเท่ ๆ เลย แล้วก็สลับเป็นผมกับพี่ภูมิเข้าไป เลยได้หัวตอนเริ่มมา ก็ผสม ๆ กันไปATLAS เปิดใจท่อนโปรดที่เหมือนแต่งมาจากตัวเองเป๊ะทุกคำ ภูมิ:เข้าปากมาก จูเนียร์:มันดูใช่ไปหมดเนอะ ภูมิ:ใช่ไปหมด ทุกประโยคคือเหมือนคนนั้นพูดออกมาเอง ภูมิ:ของผมเป็น “ใครก็บอกว่าหลงอะ หลงตัวเอง” คือคนชอบบอกว่าผมหลงตัวเอง แต่จริง ๆ คือมันไม่ใช่ เราแค่รักตัวเอง เราแค่รู้ว่าเราเป็นยังไง เราแค่พูดไปตามนั้น อันนี้หลงตัวเองยัง 55555 แทด:ผมก็ต้องเป็นท่อน “เรื่องความเป๊ะ ผมไม่เคยจะมาเล่น” เพราะผมไม่ชอบมาทำอะไรเล่น ๆ ไม่ชอบล้อเล่น เป็นคนจริงจังแต่ไม่จิงโจ้ครับ จูเนียร์:ผมชอบท่อนนี้ครับ “เห็นทรงพี่อย่างงี้แต่พี่อยู่บอยแบนด์” มีความเป็นตัวเองดี ว่าแบบไม่ได้ตลกได้อย่างเดียว แต่อยู่บอยแบนด์ด้วยนะ ภูมิ:พี่ไนท์ครับ ท่อนไหน ไนซ์:ท่อนที่มันร้องว่า “ถึงมุกพี่นั้นจะฝืด แต่สเต็ปนี่ลื่นไม่เบา” เหมาะกับผมสุด ๆ แต่จริง ๆ ลื่นตลอด 555555 แทด:สงกรานต์นี้ พี่ไนท์ต้องมีลื่นทุกวันครับผม เออร์วิน:ลื่นทุกวันเลยครับ วันสุดท้ายพายุเข้าลมแรงมาก เขาโดนลมเข้าไปล้ม อยู่ดี ๆ ก็ปลิว ไนซ์:เต้นอยู่แล้วพายุเข้า แล้วลมพัดแรงมาก ผมก็ปลิวไปนั่งอยู่ตรงพื้นข้างหลัง แล้วผมก็แบบ อ้าว ทำไมทุกคนยังยืนเต้นได้อยู่ปกติ แล้วผมก็พยายามลุกขึ้นมา ลุกไม่ได้ 55555 เออร์วิน:หลังจากนั้นพอลมแรง ล้มปั๊บ 2 8 เต้นต่อพี่ไนท์ล้มอีกทีนึง เจ็ท:บนเวทีก็ลื่น ล่างเวทีก็ลื่นครับ เวลาจะเดินเพิ่งทำงานเสร็จหรือกำลังจะขึ้นเวที ก็เห็นไนท์อยู่ข้างหน้าก็จะมีเสียงล้ม ภูมิ:ไม่ ผมว่าเขาตีลังกาทุกวันไง เขาใช้แรงที่ขาเยอะ เออร์วิน:น้ำในหูไม่เท่ากัน ไนซ์:555555 มิวอ้อน:ของผมเป็นท่อน Verse 2 ฮะ อันนี้เซอร์ไพรส์นิดนึงเพราะผมไม่ได้แต่งท่อนนี้ แล้วสมิวก็ส่งมา ผมก็แบบ… เฮ้ย มึงเอาจริงหรอวะ “Cool guy that’s me หล่อกว่านี้ Nobody” เออร์วิน:มันจะมีท่อนฮุคสุดท้ายที่ผมเติม Adlib เข้าไป อ่ะพี่เจ็ทร้องให้หน่อยท่อนฮุค เจ็ท:เป๊ะ เออร์วิน:(โคตรเป๊ะ) เจ็ท:เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม พี่นี่อย่างเป๊ะ เออร์วิน:(เป๊ะจัด) เจ็ท:ทำเอาสาวหลง เรื่องนี้คงไม่ต้องเอ๊ะ เออร์วิน:(ของแทร่) เจ็ท:ตอนที่อัดในสตู ท่อนนี้คือทุกคนเฮกันมาก แบบ เอาาาา! เออร์วิน:ส่วนท่อนผมเป็น เอ่อออ…. “โทษที ไม่ได้อยากทำให้ใจเต้น I got that magic เขาบอกผม Rare item”MV โคตรเป๊ะ จากแรงบันดาลใจ ‘พี่ชาวีน้ำตากามเทพ’ ภูมิ:ผมว่าง่ายนะ ผ่านไปได้ดี สนุกมาก ๆ ครับวันนั้น จูเนียร์:ผมรู้สึกว่ามีความเป็นตัวของพวกเราสูงมาก ๆ เขาบอกเต็มที่ เอาให้สุด แทด:อยากทำอะไรทำครับ ภูมิ:คือผู้กำกับเขารู้จักพวกเราดีอยู่แล้ว เขาเคยทำ MV เพลงแรกให้เราคือ “Mayday Mayday” อยู่กับเราตั้งแต่วันแรก เขาเลยรู้ว่า ATLAS ประมาณไหน เขาเลยแค่ใส่สถานการณ์แล้วให้เราเล่นเลยเปิดตัวดารานำใหม่ ‘น้องเป๊ะ’ ตัวเงินตัวทองในMV ภูมิ:น้องตัวเงินตัวทองเนี่ย จะบอกว่าเป็นนักแสดงที่ชื่อดัง เขาเกิดมาเพื่อเป็นดาราเลย จูเนียร์:เหมือนเขาจะล้อกับคำว่า ‘หล่อเฮีย ๆ’ ภูมิ:คือตอนแรกเขาถามก่อนว่ามีใครกล้าอุ้มกล้าจับบ้าง แล้วเรารู้สึกว่าถ้าสมมุติว่าไม่มีใครกล้าเลย แล้วเราไม่กล้าอีกคนนึง สิ่งนี้มันจะไม่เกิดขึ้นใน MV คือพี่ไม่อยากจะพูด พี่อยากทำเพื่อทุกคนจริง ๆ แทด:แต่ทุกคนในวงคือตอบว่าถือได้หมดนะ 555555 ภูมิ:มีแท็ดกับผมที่กล้าถือ บางคนก็จับได้ บางคนอยู่ใกล้ได้ ก็จะมีเลเวลต่างกันไป แต่พอไปเจอน้องตัวจริง น้องนิ่งมาก น่ารักมาก คือน้องถูกฝึกมาอย่างดี แล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ด้วย ที่เห็นเทคเดียวผ่านเลย แล้วผมก็ถามว่าน้องมีชื่อยังครับ เขาบอกยังไม่มีชื่อ น้องเป็นตัวผู้ งั้นผมต้องเลยชื่อน้องเป๊ะ แทด:ใช่ ผ่านไปราบรื่นมาก เพราะว่าอย่างแรกคือทีมกอง ทุกคนคือร่วมมือกันมาก ๆ เพราะว่าน้องเขาอาจจะกลัวเสียงดัง เราก็ต้องเทคแคร์เขามาก ๆ“ล้มยังหล่อ!” ชุดแฟชั่นจัดเต็มที่ ATLAS ก็ยังเอาอยู่ จูเนียร์:ได้คอนเซปต์มาจากคอลเลกชันรันเวย์ของพี่ผักกาด ภูมิ:พี่ผักกาด Hook ครับ MONSTER KID ‘Elle Fashion Week 2024’ มีโอกาสได้ไปเดินด้วยปีที่แล้ว ก็เลยได้กลับมาใส่ชุดนี้อีกครั้ง ก็ดี เป็นชุดที่แฟชั่นมาก คือพี่ผู้กำกับเขาอยากได้ซีนเดินแบบที่แฟชั่นจัด ๆ แม้ชุดจะแฟนตาซีแค่ไหน พวกเราก็เอาอยู่ แทด:มีซีนรันเวย์เลย เจ็ท:สมมุติเราสะดุดล้มลงไป แต่ต่อให้เราล้ม เราก็ยังเป๊ะ! ภูมิ:ให้เราเป็นหล่อลื่นแทนนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้ “ATLAS” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “สายลับ ATLAS” แล้วมาดูกันว่าหนุ่มๆจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่?(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้“ATLAS” ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการEFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“ATLAS”มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ สุดท้ายนี้...ฝาก "เป๊ะ" ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก ATLAS ด้วยน้าา สามารถฟังได้ทุกสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม เข้าไปรับชม MV หล่อเท่ได้ใน YT : ATLAS และอย่าลืมมาขอกันที่ #EFM94 เยอะๆได้เลยน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟินความสนุกกันได้ทางhttps://www.youtube.com/watch?v=IGNKHUmysyMt=5000sเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1