‘ฟอส – บุ๊ค’ นักแสดงนำจากซีรีส์ “ชอกะเชร์คู่กันต์” กับมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันตลอด 15 ปี !

EFM FANDOM RECAP

‘ฟอส – บุ๊ค’ นักแสดงนำจากซีรีส์ “ชอกะเชร์คู่กันต์” กับมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันตลอด 15 ปี !

26 เม.ย. 2023

       สวัสดีชาวเด็กฝึกงานทุกท่าน ! วันนี้บริษัท EFM Fandom live มาเชิญชวนทุกท่านไปครื้นเครงกับ 2 หนุ่มสุดฮอตที่กำลังมาแรงอย่างมากในช่วงนี้กับ “ ฟอส จิรัชพงศ์ ”  และ “ บุ๊ค กษิดิ์เดช ” จากซีรีส์เรื่อง “ ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe ” ความสนุก ความฮาจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามไปพร้อมกันได้เลย

 

       ก่อนที่จะไปร่วมพูดคุยกับทั้งสองหนุ่มวันนี้นั้น เรามาเริ่มความจอยกันที่เหล่าแฟนคลับของทั้งคู่ เพื่อล้วงลึกความเป็น ฟอส - บุ๊ค ในแบบฉบับชาวแฟนคลับเล่าสู่กันฟังเลยดีกว่า

 

“ กัปตันฟอส ตำนาน อยู่ทุกด้อม ยกเว้นด้อมตัวเอง ”

 

      เปิดประเดิมมาด้วยคำถามยอดฮิตของเรากับฉายาที่เหล่าแฟนคลับไว้ใช้เรียกหนุ่มฟอส มาดูกันว่าจะมีชื่ออะไรกันบ้างนั้น บอกเลยว่าแต่ละอันปังมากเลยทีเดียว อย่างชื่อแรกที่แสนคุ้นเคยอย่าง ‘ แด๊ดดี้ฟอส ’ ที่มาจากคลิปไวรัลในตำนานอย่างการปลุกหนุ่มบุ๊คในรายการเซฟเฮ้าส์ จนทำเอาหนุ่มบุ๊คของเรารู้สึกคิดถึงพ่อขึ้นมาทันที หรือฉายา “ กัปตันฟอส ” ที่ชอบเป็นพยานคู่รักคนอื่นจนถูกแซวไปว่า ชอบอยู่ทุกด้อม ยกเว้นด้อมตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นชิปเปอร์ตัวเต็งบนทวิตเตอร์เลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้ก็ยังมี ‘ พ่อแมว ‘  ที่ถูกแซวเพราะเป็นทาสแมวอย่างแท้จริง

 

“ พี่เดชจะเป็นโมจิ ”

 

       มาต่อกันที่หนุ่มคนที่สองของเรา กับ บุ๊ค กษิดิ์เดช กับฉายาที่ได้มาจากความน่ารักอย่าง ‘โมจิ’  ที่เปรียบความมุมิของหนุ่มบุ๊คเป็นเหมือนโมจิขนมสุดน่ารัก และถ้าเมื่อไหร่ที่หนุ่มบุ๊คของเราลงรูปสุดหล่อเท่ ก็จะกลายเป็นร่าง “ พี่เดช ” ที่ทำแฟนคลับละลายกันไปตามๆ กัน

 

“ ชาวบรรณา (รัก) บุ๊ค ที่สุดเลย ”

 

       นอกจากความน่ารักของหนุ่มบุ๊คที่ทำชาว EFM Fandom Live เอ็นดูไปตามๆ กันแล้ว ชื่อแฟนคลับก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชื่อที่น่ารักมากเช่นกันกับ “ ชาวบรรณา ” จากด้อมบรรณารักบุ๊ค ที่ถูกตั้งขึ้นผ่านตัวหนุ่มบุ๊คเองที่ให้นิยามกับชื่อนี้ว่า อยากที่จะให้เหล่าแฟนคลับทุกคนเป็นเหมือนบรรณารักษ์ที่คอยปกป้อง ดูแลหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อยๆ เคียงข้างและเดินด้วยกันตลอดไป ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริง

 

       ส่วนหนุ่มฟอสตอนนี้นั้นก็ยังไม่มีชื่อด้อมที่ปล่อยออกมาอย่างแน่นอน แต่เหล่าแฟนคลับก็ยังคงรอคอยได้ ไม่ได้เร่งรีบ ขอเพียงแค่เป็นที่มีความหมายและมาจากความตั้งใจจากหนุ่มฟอสก็เพียงพอ

 

สุดท้ายนี้แฟนคลับทุกคนก็มีข้อความมาฝากถึง ฟอส -บุ๊ค ว่า…

 

        แฟนคลับทุกคนเห็นถึงความตั้งใจทั้งฟอสและบุ๊คในทุกด้านเสมอ ไม่ว่าทั้งคู่อยากที่จะทำอะไรหรืออยากที่จะเป็นอะไร ทุกคนพร้อมที่จะซับพอร์ต ใช้ชีวิตที่อยากจะเป็นได้เลย พวกเราพร้อมที่จะเป็นกำลังใจตรงนี้ ไม่ว่าทั้งคู่จะไปทางไหนซ้ายหรือขวา หรืออยากไปไกลแค่ไหน แฟนคลับทุกคนพร้อมซับพอร์ตเสมอ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม หันกลับมาก็จะเจอพวกเรา และจะดูการเติบโตของทั้งคู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดไป

 

         และก็จบไปแล้วกับการร่วมพูดคุยกับเหล่าแฟนคลับ แต่ความความสนุกความจอยยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะช่วงที่สองของเราทั้งสองหนุ่มฟอส - บุ๊ค จะมาเล่าวีรกรรม กับความเป็นเป็นเพื่อนอันยาวนานถึง 15 ปี !

 

“ แด๊ดดี้ฟอส น่ารักกว่าที่คิด ”

 

       อย่างที่บอกว่าใครหลายคนก็มักจะบอกว่าฟอสเองบุคลิกของเขามีความเป็นแด๊ดดี้สูงมาก บุ๊คก็ยังได้กล่าวอีกว่า ตัวฟอสเค้ามักที่จะบ่นใส่บุ๊คเสมอในหลายๆ เรื่อง แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่เค้าบ่นไป ก็เพราะเค้าแสดงความเป็นห่วงใยเราในหลายๆ เรื่อง มุมนี้เราเลยคิดว่าเค้าจึงมีความเป็นพ่อสูง เลยกลายเป็นว่าใครหลายคนคงเรียกเขาจากนิยามนี้ แต่บางมุมฟอสเขาก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวอย่างวันไหนที่เขาเหนื่อยเขาก็จะมีมุมมางอแงกับบุ๊คบ้างเช่นกัน

 

“ ความฮอตของฟอส กับ จุด (.) ทรงพลัง ”

 

        ด้วยความที่ทั้งฟอสและบุ๊ค รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล ก็เลยอยากให้เล่าวีรกรรมของหนุ่มฟอสให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้างตอนอยู่โรงเรียน อย่างที่บอกว่าถึงทั้งคู่จะรู้จักกันก็จริงแต่ว่าก็อยู่คนละกลุ่มอยู่ดี แต่สิ่งที่การันตีได้เลยก็คือความฮอตของหนุ่มฟอสที่บอกได้เลยว่าฮอตปรอทแตกอย่างแท้จริง เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฟอสเล่นเฟสบุ๊ค แล้วโพสต์แค่จุด(.) จุดเดียว แล้วคนก็มาไลค์ประมาณ 3-4 พันกันเลยทีเดียว ก็เลยทำให้บุ๊คตัดพ้อกับตัวเองว่าเราลงรูปตั้งเยอะ แต่ไลค์ก็ยังไม่เท่าฟอสซักที อันนี้จึงเป็นต้นกำเนิดของจุดทรงพลังในตำนานนั่นเอง

 

“ การคุยกัน สำคัญที่สุด ”

 

     อย่างที่บอกว่า ถึงแม้จะรู้จักกันมานานแค่ไหน แต่เราก็ต้องมีทั้งจุดกึ่งกลางซึ่งกันและกันเสมอ ทั้งฟอสและบุ๊คได้พูดกับทางรายการว่า ทั้งคู่ใช้วิธีการละลายพฤติกรรมซึ่งกันและกันด้วยการพูดคุยกันอยู่เสมอ เพราะเวลาคนเราอยู่ใกล้กันมากๆ มันก็ต้องมีเรื่องทะเลาะกันมาบ้าง ดังนั้นการพูดคุยจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราเลยมักจะเคลียร์กันคุยกันในทุกเรื่อง เพื่อที่จะไม่ได้มีอะไรมาขัดข้องและสามารถทำงานไปด้วยกันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย

 

“ ความแตกต่างของห้องฟอสบุ๊ค ”

 

       ตัวฟอสเองได้บอกเล่าว่า เค้าเคยไปห้องบุ๊คแล้วบุ๊คเองก็เอ่ยปากมาว่า ‘ ห้องอาจจะรกนิดนึงนะ ’ แต่พอสิ่งที่เห็น กลับเป็นคนละอย่างกันไปเลย เพราะห้องบุ๊คสะอาดมากๆ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งเสื้อผ้าและ หนังสือ แล้วโทนห้องก็เป็นสไตล์มูจิอีกด้วย เพราะว่าเขาตกแต่งด้วยตัวเอง ซึ่งบุ๊คก็แอบหัวเราะและบอกมาว่า อาจจะด้วยเหตุผลว่าบุ๊คเป็นภูมิแพ้ด้วย ก็เลยจะต้องรักษาความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ส่วนห้องฟอสตัวบุ๊คเองก็ได้บอกว่า จริงๆ แล้วห้องที่บ้านของเขาเองสะอาดและก็หอมมาก แต่ด้วยความที่ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ฟอสก็เลยย้ายมาอยู่ยังคอนโด ซึ่งอยู่กับเพื่อนอีกที ก็เลยอาจจะมีของเยอะไปบ้าง เพราะด้วยบางทีเราได้ของมาจากแฟนคลับ ก็ต้องเก็บไว้ที่นั่นด้วย ห้องก็เลยอาจจะของมากกว่าเดิมไปบ้าง

 

ฟอส - บุ๊ค กับโมเมนต์ความประทับใจกับเหล่าแฟนคลับ

 

      ทางรายการก็อยากให้ทั้งคู่ได้เล่าถึงโมเมนต์ความประทับใจในตัวแฟนคลับที่ยังคงเป็นความทรงจำดีๆ ในชีวิตให้ฟัง ซึ่งบุ๊คเองก็นึกได้หนึ่งเรื่อง ว่าครั้งหนึ่งบุ๊คเคยรู้สึกหมดแพชชั่นในการทำงาน ซึ่งวันนั้นเขาได้ไปทำงานมาแล้วปรากฏว่าไม่มีใครมาดูเลย เลยกลายเป็น Bad Day ของเราวันหนึ่ง แต่พอกลับมาถึงตึกก็ดันเจอแฟนคลับคนหนึ่งที่ยืนรอเราอยู่ที่ตึกพร้อมกับเอาขนมมาให้และเขียนโพสอิทว่า “ สู้ๆ นะ รอดูรายการอยู่นะ ” ซึ่งมันกลายเป็นสิ่งที่ฮีลใจเขามากๆ ในวันนั้น อาจจะเพราะว่าเขาเองไม่เคยที่จะชื่นชอบศิลปินคนไหนเลย การที่ใครซักคนให้ของกับเขา หรือทำอะไรซักอย่างให้ เลยกลายเป็นความรู้สึกที่อิมแพ็คกับสิ่งเหล่านั้นมาจนถึงทุกวันนี้

 

     และคำถามสุดท้ายที่ทาง EFM Fandom Live ก็คงไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการที่ให้ทั้งสองคนบอกความในใจที่มีต่อกันและกันกับมิตรภาพความเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน

 

Force to Book

    “อาจจะมีเป็นห่วงอย่างหนึ่ง อยากบอกบุ๊คว่า บางสิ่งบางอย่างเราอาจจะควบคุมไม่ได้ อะไรเข้ามาก็รับไว้ทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เราอยากให้ลองมีความสุขกับมันดู สุดท้ายแล้วมันก็คือชีวิต ที่อาจจะมีวันที่แย่ แต่ก็ยังมีคนที่อยู่ข้างหลังเรา และคอยซับพอร์ตเราเสมอ อย่าเครียดมาก เพราะสิ่งที่ยังเป็นห่วงก็คือเรื่องสุขภาพของบุ๊คเอง เพราะเรื่องการนอนดึกของเขา เราก็อยากให้บาลานซ์ให้โอเค ก็เป็นห่วงบุ๊คและรักบุ๊คเสมอครับ”

 

 

Book to Force

      “จริงๆ เรา2คนก็ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันเยอะ และเรารู้ว่าส่วนใหญ่ฟอสเวลามีอะไรจะไม่ค่อยพูด แล้วบางทีเราก็ยังไม่รู้ว่าเค้าจะยังมีเซฟโซนมั้ย แต่เราก็ยังอยากที่จะให้เวลามีอะไรก็สามารถมาระบายกับเราได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราะทุกอย่างย่อมผ่านไปได้เสมอ มีอะไรก็สามารถบอกบุ๊คได้เลย”

 

       เป็นยังไงกันบ้างชาว EFM Fandom Live ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านรู้สึกเอ็นดูและรักทั้ง หนุ่ม ฟอส และ บุ๊ค มากขึ้นไปเรื่อยๆ เลยน้า

 

        สุดท้ายนี้ก็ขอฝากผลงานที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้กับซีรีส์ “ ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe ”  ที่กำลังมีเนื้อหาดำเนินไปอย่างเข้มข้น และเร็วนี้ๆ ก็กำลังจะมีคอนเสิร์ตที่ทั้งฟอสและบุ๊คได้ไปร่วมสนุกด้วยกับ LOVE OUT LOUD FAN FEST 2023 จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น ก็อย่าลืมไปติดตามในทุกๆ ผลงานของทั้งคู่เลย

 

ภาพ EFM Fandom Live

related EFM FANDOM RECAP

บอส - โนอึล เปิดโลกคู่ขนานใน EFM FANDOM LIVE เผยเรื่องราวความสัมพันธ์ พร้อมแสดงซีนที่ชอบที่สุดในซีรีส์สุดฟินอย่าง The Boy Next World คนละกาลเวลา

03 มี.ค. 2025

บอส - โนอึล เปิดโลกคู่ขนานใน EFM FANDOM LIVE เผยเรื่องราวความสัมพันธ์ พร้อมแสดงซีนที่ชอบที่สุดในซีรีส์สุดฟินอย่าง The Boy Next World คนละกาลเวลา

รายการ EFM FANDOM LIVE [20 กุมภาพันธ์ 68] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 2 หนุ่มสุดฮอต “บอส - โนอึล” จากซีรีส์ The Boy Next World คนละกาลเวลา พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจคู่ซี้ “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายรักนี้อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน ที่มาของชื่อจดหมายนี้เพราะ บอส – โนอึล เป็นเหมือนความอบอุ่น ความส่องแสงนำทาง เป็นเหมือนศูนย์กลางของหัวใจโบโน่ห์ ชื่อ 2 คนนี้มีความหมายกับเรามาก เราไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมการมีศิลปินคนโปรดถึงมีอิทธิพล จนถึงมาเจอบอสกับโนอึล แค่สบตาเหมือนต่อชีวิตได้อีกพันปี ขอบคุณจังหวะชีวิตมากๆที่ได้ทำให้มารู้จักกัน เราชอบทุกอย่างที่เป็นบอสโนอึลนะ you are my yesterday and tomorrow รักนะคะ ทำได้ดีมากแล้วนะ เก่งมากเลยLetter #1: This letter is titled... This love letter shines brightly beneath the same sun. The name of this letter comes from the fact that Boss and Noeul bring warmth and serve as a guiding light—they're at the very heart of BoNoH. Their names carry a lot of meaning for us. We never really grasped how much a favorite artist could impact us until we met Boss and Noeul. Just gazing into each other's eyes feels like it expands our lives for another thousand years. We're really grateful to life for bringing us together. We truly appreciate everything about Boss and Noeul. You are my past and my future. Love you both—great job, you two! You're incredible.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... นี่คือสารจากคนที่มีความสุขที่สุด อยากบอกว่าหนูมีความสุขมาก พี่เป็นความสุขของหนู ถ้าหนูไม่อยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้จะได้มาทำอะไรแบบนี้รึป่าว มันจริงอย่างที่เขาบอกจริงๆว่า ถ้าเราไม่เป็นติ่ง เงินเราจะเต็มกระเป๋า แต่หัวใจเราจะว่างเปล่า พี่ชอบบอกว่าจะเป็นคนที่เก่งขึ้นและพัฒนาตัวเองขึ้นทุกวัน แต่หนูว่าพี่ไม่ต้องเก่งขึ้นทุกวันก็ได้ อยากให้พี่มีความสุขทุกวันใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากจะใช้ ถ้าพี่บอกว่าพี่จะเป็นความสุขให้เรา พี่ทำสำเร็จแล้วนะ รักนะLetter #2: This letter is titled... This is a note from someone who’s really happy. I just want to share how truly happy I am. You bring me so much joy. Honestly, if I weren’t here, I’m not sure I could manage it. It is really true what they say : without passion, we might have money, but our hearts would feel empty. You often mention wanting to improve yourself and grow each day. But I believe it’s not about getting better every single day. What matters most is your happiness and living your life the way you choose. If you say you're going to be our happiness, then you've already achieved it. I love you.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... Heal the Heart (ไอ่ต้าวขุมพลังใจ) ขอบคุณ บอส - โนอึล ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเลย ตลอด 3 ปีที่ตาม บอสโนอึลเก่งขึ้นมากๆ เก่งขึ้นทุกปี ขอบคุณที่อยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ฮีลใจกันมาตลอด ไม่ว่าจะแตกสลายกับอะไรมากี่ครั้ง บอสโนอึลประกอบขึ้นใหม่ทุกครั้งเลย และทุกครั้งที่ไปเจอ น้องก็จะพยายามกวาดสายตามองแฟนคลับให้ครบทุกคน เก็บทุกกล้องมันมีความหมายมาก สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า จะคอยซัพพอร์ตอยู่ตรงนี้เสมอนะ อยากทำอะไรทำได้เลย ทุกคนพร้อมสู้ไปกับบอสโนอึลนะ รักLetter #3: This letter is titled... Heal the Heart I want to express my gratitude to Boss - Noeul for your continuous growth. Over the three years I've followed you, I've seen you improve significantly each year. Thank you for being such a positive presence in my life and for always healing the heart, no matter how many times it gets hurt. Every encounter with you feels special, as you make an effort to connect with every fan and acknowledge each camera in sight. I want you to know that I’ll always be here supporting you in anything you choose to pursue. Everyone is ready to stand by Boss Noeul. Much love!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... พลังแห่งรอยยิ้ม ตั้งแต่รู้จัก บอส - โนอึล มาจนตอนนี้ ครบ 3 ปีที่เรารู้จักกันแล้วนะคะ อยากขอบคุณที่คอยเป็นรอยยิ้ม ส่งความสุขให้กับแฟนคลับเสมอมา ทั้งคู่พัฒนาตัวเองมาตลอด แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็น มีคนรักทั้งคู่มากขึ้น ก็ดีใจมากๆ หนูต้องขอบคุณที่เข้ามาสร้างพลังบวกและรอยยิ้มเล็กๆ ของทั้งสองคนให้หนูเสมอมา ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความสุขเลย มันโคตรจะฮีลใจมากๆ เหมือนกับได้รับพลังรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้เจอ :)Letter #4: This letter is titled... The Magic of Smiles I've known Boss - Noeul for three years now, and I just want to take a moment to express my gratitude. Thank you for consistently bringing joy and smiles to your fans. It’s inspiring to see how both of you have been growing and showcasing your talents. It makes me so happy to know that many more people appreciate you both. I really appreciate the positive energy you create and those little smiles you share with us. Every single day, I find joy in it all. It feels uplifting, like I’m receiving a boost of happiness with every glimpse of you. :)จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... เธอคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรารักตัวเอง บอส - โนอึล เป็นกำลังใจที่สำคัญมากๆ มาตลอด 3 ปี เรียกว่าเป็นชีวิตประจำวันก็ได้ ตื่นมาก็มีกำลังใจไปทำงานแล้วจริงๆ เพื่อรอวันที่ได้ไปเจอทั้งสองคน ถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุขมากๆ ต่อให้ใครจะบอกว่ารักตัวเองบ้าง อย่ารักแต่บอสโนอึล เราก็อยากบอกเหมือนกันว่า การที่รักบอสโนอึลนี่แหละ คือการรักตัวเองในแบบของเรา รู้สึกหัวใจไม่ว่างเปล่า ใจฟูทุกครั้งที่ได้เจอ มีแรงบันดาลใจ ขอบคุณที่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรารักตัวเองLetter #5: This letter is titled... You are part of what makes us appreciate ourselves Boss, Noeul has been a significant source of support for the last three years. It’s become part of our everyday lives. Each morning, I feel motivated to go to work, looking forward to spending time with both of you. Even when I’m tired, I find happiness in it all. People often tell me to take some time for myself, but my affection extends beyond just Boss Noeul; I believe that caring for Boss Noeul is a way for us to show love for ourselves too. My heart feels complete each time I see you. You inspire me. Thank you for being one of the reasons we can embrace self-love.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “บอส - โนอึล” กัน“วาเลนไทน์นี้ไม่มีดอกไม้… แต่มีกันและกัน” โนอึล : อยู่กับบอสครับผม ทำงานด้วยกัน ก็ได้ใช้เวลาร่วมกัน อยู่ด้วยกันยันดึกเลย ให้ของขวัญเป็นตัวเองได้มั้ย? ผมมองว่าการที่เราได้อยู่ด้วยกันคือของขวัญแล้ว เพราะสำหรับผม บอสคือเพื่อนคนสำคัญ ด้วยความที่เราแพ้เกสรดอกไม้ ก็เลยไม่อินกับการซื้อดอกไม้ให้กัน เพราะสุดท้ายแล้ว ดอกไม้ก็จะเหี่ยวและต้องทิ้งไป ผมเลยรู้สึกว่าเอาเงินไปใช้กับการกิน ของอร่อย หรือใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก ดีกว่าเลือกสิ่งที่หายไปตามเวลา บอส : ใช่ครับ สำหรับผม เราอยู่ด้วยกันมาค่อนข้างนานแล้ว 2-3 ปี จริง ๆ เราก็ให้ลูกอมกันนะ เพราะรู้สึกว่าถ้าให้ดอกไม้ มันก็จะแห้งเหี่ยวไปตามเวลาและไม่เกิดประโยชน์ เลยคิดว่าการให้ช่วงเวลาที่สำคัญแก่กัน น่าจะดีกว่า“ถ้าต้องตื่นขึ้นมาในโลกคู่ขนาน” บอส : ก็คงบอกว่าเราอายุเท่านี้ เราชื่ออะไร บ้านเราอยู่ที่ไหน โนอึล : ตื่นมาผมก็คงตอบว่า “คุณเป็นใคร?” บอส : “จับฉันมาทำไม๊?!” 55555 โนอึล : 55555 กำลังจะเล่นเลยเพื่อน โนอึล : ผมก็คงถามกลับแหละ ถ้าตื่นมาแล้วเขามองหน้าผมแล้วถามว่า “คุณเป็นใคร?” ผมก็คงถามกลับไปว่า “แล้วคุณล่ะเป็นใคร?” จะให้เขาพูดก่อน พอเขาพูดเสร็จ ผมก็จะทวนคำพูดของเขา “คุณเป็นใคร? แล้วคุณเป็นใคร? ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” บอส : ต้องบอกก่อนเลยว่าที่นี่เป็นที่สุดท้ายแล้ว อาจจะมีเบลอ ๆ กันบ้างนิดหน่อย ต้องแจ้งทุกคนไว้ก่อน 55555“ซีนในดวงใจ บอส - โนอึล” บอส : จริง ๆ ผมชอบซีนโทรศัพท์แก้วกระดาษ มันน่ารักดี โนอึล : น่ารัก น่ารักมาก“ซีนหน้าใกล้ไม่เท่าไหร่… แต่ใจเต้นแรงนี่สิ ปิดไม่มิด!” โนอึล : ตอนเป็นคาแรกเตอร์ ผมไม่รู้สึกเขินเลย เพราะเราคือน้องพู่กัน แต่พอเป็น “บอส-โนอึล” ถ้าต้องใกล้กันก็เขินอยู่ เวลาผมเข้าไปวอแวเขา เขาก็จะเขิน บอส : รู้สึกว่าช่วงนี้จะเขินกับจักกะจี้เวลาเรียกแทนตัวเองว่า “บอส-โนอึล” โนอึล : ผมไปแซวเขาไว้เมื่อเช้า บอส : อ่ะ บอกก่อนว่าทำไมถึงจักกะจี้ โนอึล : ช่วงแรกที่รู้จักกัน ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้มาเป็น “พายุ-เรน” เลย เราเพิ่งรู้จักกัน แล้วแลกไลน์กัน ผมจำไม่ได้ว่าบทสนทนาก่อนหน้าคืออะไร แต่ผมถามบอสว่า…ดีไหม? แล้วบอสก็ตอบกลับมาว่า “โนอึลว่าไง บอสก็ว่างั้นแหละครับ” พิมพ์มาแบบนี้เลย ผมยังช็อกอยู่เลย วันนั้นผมก็แคปเอาไว้ เพราะรู้สึกว่ารูปประโยคมันน่ารัก เขาอาจจะจำไม่ได้ แต่ผมมีหลักฐานนะ! ผมแคปเอาไว้แล้วก็กดหัวใจทิ้งไว้ด้วย เพราะรู้สึกว่ามันน่ารักดี ผมไม่เคยมีโมเมนต์คุยกับคนที่รู้จักกันหรือเพื่อนด้วยเวย์แบบนี้มาก่อน มันแปลกใหม่สำหรับผม“7 EP.ที่ผ่านมา แค่เริ่มต้น ที่เหลือจะขนาดไหน…” บอส : ผมขอสปอยล์เลยละกัน ต้องดู EP 8 เพราะว่า 7 ตอนที่ผ่านมา มีคำถามเกิดขึ้นเยอะมาก ใน EP 8 ถ้าเราได้ดูตัวอย่างตอนต่อไปจะเห็นว่า “ทำไมพี่เซอร์ในอีกโลกหนึ่งถึงโผล่มา?” ผมว่า ซีนหลัก ๆ ที่จะอธิบายทุกอย่างอยู่ในตอนนี้เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด! โนอึล : ถ้าเรามีซีนตลก เราก็มีซีนเศร้าเหมือนกัน บอส : อ่อ เอาแล้ว! โนอึล : บอกเลยว่า ถ้าตอนไหนทำให้ทุกคนน้ำตาตกไปแล้ว Prepare your ตับ ให้ดี ๆ นะครับ ได้หาเปลี่ยน “ตับใกล้ฉัน” แน่ ๆ เป็นซีนที่ผมนั่งดูหน้ามอนิเตอร์แล้วยังร้องไห้“สงกรานต์ รังสรรค์ พร้อมรังสรรค์เพลงประกอบซีรีส์สุดพิเศษ!” บอส : จริง ๆ เหมือนพี่เมย์ (MeMineY) เจ้าของค่าย ได้เซ็น MOU กับพี่สงกรานต์ เป็นพาร์ทเนอร์ในการผลิตเพลงประกอบซีรีส์ ซึ่งเขามีแนวคิดอยากทำเพลงที่ไม่ใช่แค่ประกอบซีรีส์ แต่สามารถ สื่อสารได้ครบถ้วน ตรงไปตรงมา แม้แต่คนที่ไม่ได้ดูซีรีส์ก็สามารถฟังได้ ในแง่ของการทำงาน พี่สงกรานต์เป็นคนซีเรียสกับงานมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกกังวลหรือเครียด กลับรู้สึก สนุกและผ่อนคลาย มากกว่า เพราะพี่สงกรานต์เป็นคนเฮฮา โนอึล : ตลกดีครับ“หูเคลือบทองไปกับเพลงเดี่ยวของ บอส - โนอึล” บอส : ฝั่งของผมคือเพลง “พบเธอจึงเข้าใจ (Stay)” ครับ โนอึล : ของผมคือ “คนที่ฉันไม่รู้ว่าใคร” ครับ บอส : จริง ๆ แล้วเพลง “คนที่ฉันไม่รู้ว่าใคร” มีความเชื่อมโยงกับเพลง “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” ของพี่แสตมป์ เพราะเพลงนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่องนี้ ส่วนเพลง “พบเธอจึงเข้าใจ” จะเป็นเพลงที่ ถ่ายทอดอารมณ์ของเซอร์รัส ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่เย็นชา มี กำแพงกับทุกคนรอบข้าง เพราะภูมิหลังของครอบครัวที่ตีกรอบให้เขาต้องทำตามแบบแผน เรียนอย่างเดียว ไม่มีชีวิตอิสระ ไม่มีความสุข ไม่เคยมีสิทธิ์แสดงความคิดของตัวเองเลย เปรียบเหมือนหุ่นยนต์ แต่วันหนึ่ง เขาก็ได้เจอสิ่งที่ทำให้รู้สึกอยากมีชีวิตต่อไปอีกครั้ง นั่นก็คือ พู่กัน นั่นเองทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้ “บอส - โนอึล” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “ถึงจักรวาลนี้ผมไม่กล้า แต่อีกจักรวาลคู่ขนานผมกล้า”แล้วมาดูกันว่าทั้งสองคนจะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้ “บอส - โนอึล”ได้เลือกเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “บอส - โนอึล” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ สุดท้ายนี้... ฝากซีรีส์ The Boy Next World Series คนละกาลเวลา ทางอัมรินทร์ทีวี HD ช่อง 34 ดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 23:45 น. บนแอป iQIYI และฝาก 3 เพลงประกอบซีรีส์ด้วยน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

จอส – กวิน พาซีรีส์ My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน มาฝากแฟนๆ EFM FANDOM LIVE เม้าท์มอย พร้อมทำภารกิจเล่นเกม Fly me to the moon กันถึงในสตู!

06 มิ.ย. 2025

จอส – กวิน พาซีรีส์ My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน มาฝากแฟนๆ EFM FANDOM LIVE เม้าท์มอย พร้อมทำภารกิจเล่นเกม Fly me to the moon กันถึงในสตู!

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 8 พฤษภาคม 68] คืนนี้ต้อนรับหนุ่ม ๆ “จอส - กวิน” จากซีรีส์เรื่อง My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน มาร่วมพูดคุยเม้าท์มอยกับดีเจสองสาว “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงเปิดรายการพี่ ๆ ดีเจได้อ่านจดหมายทั้ง 5 ฉบับของของแฟน ๆ “จอส – กวิน”ที่เขียนแสดงความรักถึงศิลปิน และถูกเลือกมาอ่านในช่วง “EFM FANDOM LOVE LETTER”จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า… “May My Golden Blood” bring you “Golden time” :-) ขอบคุณ จอส - กวิน ที่ตั้งใจกับโอกาสใหญ่ครั้งนี้อย่างเต็มที่นะ แอคติ้งของทั้งคู่มีมิติมากทำให้เชื่อเลยว่า มาร์ค - ตอง มีอยู่จริงๆ ทั้งที่จอสกวินคอยบอกแฟนคลับเสมอว่า ไม่ต้องเครียดเรื่องปั่นแท็ก ให้เอาเท่าที่สนุก แต่ทุกวีคก็จะมาช่วยเล่นแท็กกับแฟนคลับตั้งแต่เย็นจนวันรุ่งขึ้นอีกวัน จากที่ปกติไม่ค่อยแอคทีฟโซเชียลกัน appreciate สิ่งนี้มากเลย ขอบคุณนะคะ ขอให้ MGB พาจอสกวินได้ไปในที่ที่อยากไป และได้ทำในสิ่งที่อยากทำอีกเยอะๆเลยนะLetter #1: This letter is titled... “May My Golden Blood bring you Golden time” :-) Thank you, Joss - Gawin, for fully committing to this incredible opportunity. The performances from both actors are rich and layered, truly convincing me that Mark - Tong is real. Although Joss-Gawin often reminds fans not to stress over boosting the hashtag and encourages everyone to simply enjoy the process, they consistently show up every week to support the hashtag alongside the fans, from evening until dawn, despite typically being inactive on social media. I genuinely value this dedication. I am confidence that MGB will help Joss-Gawin reach their aspirations and enable them to pursue their passions even further.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... “เพื่อนแท้คู่ซี้ชีวิตนี้มีแต่เธอ” เรารู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ได้ค้นพบทั้งจอสและกวิน ถึงแม้การค้นพบพวกพี่จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ความรักที่มีให้ตอนนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจมอบให้ ขอบคุณพี่จอสที่ทำให้รักสุขภาพตัวเองมากขึ้น ทำให้ทัศนคติ positive มากกว่าเดิม และขอบคุณพี่กวินที่ทำให้กลับมาร้องเพลง และชอบเครื่องดนตรีนะ เราจะคอยซัพพอร์ตพวกพี่เสมอเลย จะคอยยินดีกับสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตพี่ ๆ นะคะ มีโอกาสจะไปหาให้ได้! ฉบับนี้เขียนด้วยความรักLetter #2: This letter is titled... “You are the solo shining star in my universe of friendship.” We consider ourselves incredibly fortunate to have found Joss and Gawin. Although our meeting was unexpected, the affection we feel for both of you is genuine and what we want to share. Thank you, Joss, for encouraging me to take better care of myself and for inspiring a more positive outlook. And thank you, Gawin, for reigniting my love for singing and playing musical instruments. I’ll always be here to support you and celebrate the wonderful things that come your way. If the opportunity arises, I'll absolutely come to see you! This letter comes from the heart.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... “ความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดของฉันที่มอบให้กับคุณ” ตั้งแต่แรกที่สายตาของฉันจับจ้องไปที่คุณ ความรู้สึกหลงใหลเข้าครอบงำด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์ราวกับชวนให้ค้นหา ความแน่วแน่ในสายตาของคุณ และรอยยิ้มอบอุ่นที่เปล่งประกายดั่งพระอาทิตย์ยามเช้า ฉันชื่นชมทุกความพยายามที่คุณทุ่มเทให้เหล่าแฟนๆ ชาวเวียดนามอย่างเรา เราจะติดตามเส้นทางที่คุณสร้างขึ้นเสมอ ฉันอยากให้คุณรู้ว่ามีคนมากมายที่รักและเคารพคุณอย่างสุดหัวใจ ขอให้คุณเป็นตัวของคุณเองอย่างเต็มที่~ จงเปล่งประกายและก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งนะที่รัก~Letter #3: This letter is titled... “My Enternal Love for You” From the first time I saw you, I was mesmerized by your captivating looks, your steadfast gaze, and your warm smile like the early morning sun. I cherish every effort you dedicate. We, the Vietnamese fans, will always follow in your footsteps. I want you to know that there are always many people who love you. Please always be yourselves~ Keep shining brightly and moving forward strongly, my loves~จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า… ‘จอสกวิน’ ความเหมาะสมของห้วงเวลา และคุณค่าที่ถูกค้นพบ เวลาที่ใช่ในวันที่ใช่กับคนที่ใช่ บางทีนี่อาจเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ 'จอส - กวิน' จะถูกค้นพบ ผ่านการบ่มเพาะประสบการณ์ สั่งสมคุณค่าในตัวเอง จนกระทั่งวันนึงได้มาพบกัน คงไม่ง่ายนักที่จะเจอ partner การทำงานที่สามารถไว้ใจได้ และเป็น dear friend ในชีวิตจริงได้อย่างสนิทใจด้วย ขอบคุณที่ตั้งใจสร้างผลงานที่มีคุณภาพ เราเชื่อว่าคุณค่าของ จอสกวิน จะถูกค้นพบมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนดาวที่พร้อมเปล่งประกาย รัก JGLetter #4: This letter is titled… ‘Joss Gawin’: The richness of the moment and the treasures we uncover The right time on the right day with the right person. Maybe this is the perfect moment for 'Joss - Gawin' to be found as we build experiences and grow in self-worth until that day arrives. It's tough to find a work partner you can really trust, someone who can also be a close friend in real life. We appreciate your commitment to producing great work. We’re confident that the value of Joss - Gawin will become increasingly evident, like a star poised to shine. With love, JG.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... “Thank you” Hi both :) hope you are doing well. I am a very new fan from the other side of the world. Thank you for making international fans very welcome. I appreciate you in English and by the way your English is really good :) I am a retired athlete, so watching you play basketball because you love it is very inspiring for me to continue playing my sports for fun this time :). I wish you all the success.Letter #5: This letter is titled... “ความซาบซึ้งในใจ” สวัสดีทั้งคู่! หวังว่าทั้งสองจะสบายดีนะคะ ฉันเป็นแฟนคลับใหม่ที่เดินทางจากอีกฟากของโลก ขอบคุณมากที่ให้การต้อนรับแฟนๆ ชาวต่างชาติอย่างอบอุ่น ฉันชื่นชมทักษะภาษาอังกฤษของคุณอย่างมาก และต้องบอกว่า ภาษาอังกฤษของคุณยอดเยี่ยมมาก ฉันคืออดีตนักกีฬาที่เกษียณแล้ว การได้เห็นคุณเล่นบาสเก็ตบอลด้วยความรักและ ความหลงใหลของคุณ ทำให้ฉันมีแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬาเพื่อความสนุกสนานอีกครั้ง ขอให้คุณประสบความสำเร็จในทุกก้าวนะถึงเวลาเข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE มาพูดคุยกับ “จอส - กวิน”จากซีรีส์เรื่อง “My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน” กันเลย“จอส” ทำให้ “กวิน” กลายเป็น “เจ้าจิ๋ว” กวิน : ผมดูตัวเล็กมั้ยครับ? จอส : สำหรับผม..ไม่ได้ตัวเล็กนะ กวิน : เขาไม่ได้ถามถึงน้ำหนัก เขาถามถึงฟีลลิ่ง จอส : แต่ถ้าถามว่าเขาน่าดูแล น่าป้องป้องมั้ย..ก็ใช่“จอส” กับบทบาทการเป็นเทรนเนอร์ให้ “กวิน” จอส : พอรู้ว่าต้องเล่นซีรีส์ด้วยกัน เบื้องบนเขาสั่งมาว่าต้องฟิตหุ่นให้กวิน ก็จะออกกำลังกาย กับเล่นบาสด้วยกันครับ กวิน : เวลาออกกำลังกายจอสไม่ดุครับ แต่เวลาผมไม่ทำเขาก็แอบนอย จอส : เพราะในซีรีส์มันมีต้องถอดเสื้อ เราก็อยากให้เขาดูดี เลยอยากให้เขากระตือรือร้นกว่านี้นิดนึง กวิน : เขาหวังดีครับ จอส : จนตอนนี้ผมรู้สึกว่าการออกกำลังกายมันก็ไม่ได้สนุก แต่ว่าพอมีกล้ามเราก็จะรู้สึกดีถ้าย้อนกลับไป “จอส – กวิน” อยากบอก “มาร์ค - ตอง” ว่า... จอส : ผมจะมาร์คว่า..ให้มันน้อย ๆ หน่อยนะ อย่าดื้อให้มันมากนะ กวิน : เขาดื้อขนาดนั้นเลยหรอครับ? จอส : ค่อนข้างจะดื้ออยู่ เพราะหลังจบep.9ไปก็เสียใจมากโหมดอ้อนของ “ตอง” กับ “กวิน” ความเหมือนที่แตกต่าง กวิน : ถ้าตองก็จะอ้อน แต่ถ้าเป็นผมก็จะไม่ง้อครับ ไม่อ้อน จอส : เขาจะไม่ได้ง้อ จะทำให้ขำเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้นมากกว่าครั้งแรกกับซีรีส์แวมไพร์ จอส : เราเป็นคนผิวแทนมีกล้ามไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเหมาะกับบทแวมไพร์ กวิน : ผมดีใจมากคิดว่าจะได้เล่นเป็นแวมไพร์ แต่จริงๆแวมไพร์คือจอส แต่ก็ดีใจที่ได้ร่วมโปรเจคต์นี้ จอส : แล้วแวมไพร์ในแบบที่คิดไว้ แตกต่างกับแวมไพร์คลั่งรักขี้อ้อนอย่าง “มาร์ค” ปกติแวมไพร์จะไม่มีความรู้สึก ไม่มีอารมณ์ แต่เรื่องนี้ทำให้แวมไพร์กลับมามีความรู้สึกนอกจากมาเม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมมาให้ “จอส - กวิน” เล่นกัน!ชื่อเกมว่า... Fly me to the moon (สามารถเข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบฉ่ำๆให้ “จอส - กวิน” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้… ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณหนุ่ม ๆ “จอส – กวิน” ที่มาร่วมสร้างเม้าท์มอยและสร้างเสียงหัวเราะให้กับพี่ ๆ และแฟนคลับ ฝากติดตามซีรีส์ “My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน” ได้ทุกวันพุธ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI ได้เลย และสามารถติดตาม จอส-กวิน ได้ทาง Instagram @josswayar และ @gawincaskey ได้เลยน้าสามารถเข้าไปรับชมความฟินและความฮากันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

5 หนุ่ม LYKN รับรางวัล "EFM FANDOM AWARDS" สาขา 'ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี' พร้อมขอบคุณที่ทำให้สิ่งที่ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็นแล้ว

10 เม.ย. 2024

5 หนุ่ม LYKN รับรางวัล "EFM FANDOM AWARDS" สาขา 'ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี' พร้อมขอบคุณที่ทำให้สิ่งที่ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็นแล้ว

EFM FANDOM LIVE [4 เมษายน 2567] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 5 หนุ่มอย่าง “LYKN” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ฉ่ำ (CHARM)” พร้อมอัพเดตพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ “EFM FANDOM AWARDS รางวัลพิเศษ เพื่อคนพิเศษ” จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ต้าวก้อนพลังบวก” ต้าวก้อนก็คือ LYKN ทั้ง5คน เรียกให้น่ารักเหมือนแบบไอต้าววว เวลาเด็กๆอยู่รวมกันแล้วมันน่ารักมากๆ มันเหมือนมีมวลรวมที่เป็นพลังงานบางอย่างที่ไม่ว่าน้องจะทำอะไรก็จะยิ้มตามตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนไลฟ์ ตอนเต้น tiktok หรือตอนเล่นมุกโบ้ะบ๊ะ ยิ่งได้ไปเจอน้องตามงานได้เห็นน้องเพอร์ฟอร์มมันเหมือนได้เติมพลังงานที่ดีมากๆ ยิ่งเจอยิ่งใจฟู (บางทีอาจจะทำให้เราลืมเรื่องแย่ๆในวันนั้นไปชั่วขณะเลย) และการอยากเจอ1ครั้ง เท่ากับ อยากเจอตลอดไป ไลค์ยูทุกคนจะคอยซัพพอร์ต LYKN อยู่ตรงนี้เสมอนะค้าบ และอยากจะเติมพลังให้กับ LYKN เยอะๆเลยน้า2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” ทุกครั้งเวลาไปตามงาน ตามอีเว้นท์ หรือคอนเสิร์ตของ LYKN จะครั้งไหนไม่เคยผิดหวังในตัว LYKN เลยสักครั้ง เป็นเด็กห้าคนที่พลังเหลือล้นไม่แผ่วเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง เต้นมันส์ เล่น(กับใจ)ไลค์ยู และยังไปตกพี่สาวด้อมอื่นเข้ามาได้ทุกครั้งที่ออนสเตจอีกด้วย ขอบคุณ LYKN ที่เต็มที่กับทุกโชว์เสมอมานะ ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกได้ว่า "พวกแกไม่เคยดูถูกคนดูเลย"3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ยูกหมาน้อยที่อยากจะกำพร้าแม่” ทุกคนในวง LYKN น่ารัก บ้อกแบ้กเหมือนยูกหมาน้อยของไลค์ยูมาโดยตลอด ตั้งแต่ปล่อยโปสเตอร์ ทีเซอร์ของซิงเกิ้ลใหม่เพลงฉ่ำ ก็คือฉ่ำสมชื่อเพลง รับรู้ได้เลยว่า LYKN กำพร้าแม่แน่นอน!!! มัมหมี มัมหม๊าตายเรียบ!!! ฉีกสัญญาแม่ลูกเท่านั้น รักLYKN ทุกคนน้าาาา4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “like you (just the way you are)” รางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิลปินที่รัก เลยตั้งชื่อรางวัลว่า like you (just the way you are) เป็นรางวัลของคนที่เก่งที่สุดในโลกของไลค์ยู โดยที่ LYKN ไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใครเลย เลยนำคำว่า "like you" ซึ่งอาจจะเป็นคำง่าย ๆ แต่มีความหมายมาตั้งเป็นชื่อรางวัลนี้ 1. LYKYOU รางวัลนี้เป็นของ LYKN ที่มาจากหัวใจของไลค์ยู และบอกให้ไลแคนรู้เสมอว่าไลค์ยูจะคอยอยู่กับไลแคนไปตลอด 2. จากอีกหนึ่งความหมายของชื่อด้อม LYKYOU คือ like you (เมื่อ LYKN ลงมาจากเวทีแล้ว LYKN จะไม่ใช่หมาป่า แต่เราจะต่างเป็นเพื่อนพี่น้องกัน) รางวัลนี้จึงไม่ได้ให้ LYKN เพียงแค่ในฐานะศิลปินเท่านั้น แต่ยังให้ในฐานะเพื่อนพี่น้องคนสำคัญของไลค์ยูด้วย 3. like you (like each other) เราต่างรักกันและกัน LYKN เป็นคนในใจของไลค์ยู และไลค์ยูก็เป็นคนในใจของ LYKN เช่นกัน 4. like you just the way you are คือไลค์ยูรัก LYKN ในแบบที่ LYKN เป็น รักในตัวตน รักในทุกอย่างที่เป็น LYKN และอยากให้คงตัวตน ความสดใส และรอยยิ้มนี้ไปนาน ๆ สุดท้าย We're LYKYOU because we love the way you are ขอบคุณที่โลกใบนี้มี LYKN นะ :))5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “T-POP ที่ซัพพอร์ตและรักกันมากที่สุด” LYKN เป็นวงที่รักกันมากๆแบบมากสุดๆ ไม่ใช่เเค่เพื่อนแต่เป็นถึงครอบครัวกันไปเเล้ว แถมทำงานกันเก่งอีกตั้งหาก น้องๆน่ารักและซัพพอร์ตเพื่อนในวง และเพื่อนในวงการ t-pop ตลอดเลยยย(ปล.น้องน่ารักกันมากจริงๆอยากให้น้องดังยิ่งๆขึ้นไปอีก มีคนรักเยอะๆและไลยูก็จะอยู่ซัพพอร์ตแบบนี้ไปนานๆๆๆๆๆๆเลยน้ะ!!)ถึงเวลาที่ LYKYOU รอคอยยย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับหนุ่มๆ “LYKN”รางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี”ความรู้สึกที่มีต่อรางวัลนี้ เลโก้ : ไม่คิดเลยว่าจะได้มา ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี เป็นอะไรที่ไกลตัวมาก ไม่เคยคิดว่าจะได้นึกภาพตัวเองนั่งรับรางวัลอยู่ตรงนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมให้เลโก้เติบโตมาเป็นคน…ที่ดีในทุกวันนี้ 555 ตุ้ย : อย่าเว้นนาน ๆ 555 เลโก้ : ก็ขอบคุณ LYKYOU มาก ๆ ที่เสนอชื่อรางวัล เป็นรางวัลที่รู้สึกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ LYKN ก็ได้เห็นว่าสิ่งที่ LYKN ฝึกฝนมาตั้งนานอย่างน้อยก็มีคนเห็น ตุ้ย : อยากขอบคุณ EFM FANDOM ด้วยที่ตั้งแคมเปญแล้วก็มอบรางวัลน่ารัก ๆ ให้กับเรา เราก็สัญญาว่าจะตั้งใจทำงานต่อไป ให้ LYKYOU และทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอนชวนทุกคนเข้าด้อม LYKN นัท : สวัสดีครับ ผมนัท LYKN สำหรับพี่สาวคนไหนที่ยังไม่รู้จัก LYKN อยากให้พี่สาวทุกคนลองกดเข้าไปในไอจีดูแล้วลองเสิร์ชคำว่า LYKN Official คุณจะเจอไอจีที่เรียกว่าค่อนข้างจะเทสดีเลยทั้ง 5 คน บอกเลยว่าหนุ่มทั้ง 5 คนนี้ คือหนุ่มที่น่าค้นหามาก ๆ ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง 555 เลโก้ : ผมเลโก้ LYKN ผมอาจจะไม่ใช่ผีพราย คุณไม่ต้องตาย ก็ตกอยู่ที่ LYKN ได้ ฮง : ตอนแรกอาจจะสมัครเป็นมัมหมี แต่ว่าอย่าให้ผมเผลอที… ได้ละ ๆ ตอนแรกอาจจะสมัครเป็นมัมหมี แต่เจอกันคราวหน้าอีกที อาจจะเป็นเบบี๋แทนละกัน 555 วิลเลี่ยม : สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก ใครที่อยากจะมองซิกแพคก็มาดู LYKN กันได้ ตุ้ย : อยากจะฝากแฟน ๆ ทุกคน LYKN พึ่งจะปล่อยเพลงใหม่ออกไป ชื่อเพลงว่า ฉ่ำ เป็นเพลงที่ LYKN x กับพี่จุงแล้วก็พี่ปอน อยากจะฝากทุกคนเข้าไปฉ่ำกันเยอะ ๆ เพราะว่านึกถึงฉ่ำ นึกถึง LYKN x จุงปอนแน่นอนรางวัล “ยูกหมาน้อยที่อยากจะกำพร้าแม่”ภารกิจพูดคำว่า “รักมัมหมี” เวอร์ชันฉีกสัญญากับยูกหมาน้อย ฮง : ถึงมัมหมี อาจจะทำใจยากหน่อยเพราะผมอาจจะโตแล้ว แต่ว่าผมก็ยังรักมัมหมีเหมือนเดิม แค่อาจจะขอแม่มีแฟนเล็กน้อยอะไรอย่างงี้ 555 นัท : จะฉีกสัญญามัมหมีก็วันนี้แหละ รักมัมหมีนะครับ~ วิลเลี่ยม : รักมัมหมีนะก๊าบบบ~ เลโก้ : น้องเลโก้ยั๊กมัมหมีค้าบบบ~ ตุ้ย : อยากจะบอกว่า...ตุ้ยรักมี้นะก๊าบบบ~สำหรับซิงเกิล “ฉ่ำ (CHARM)~” ทุกคน : เป็นซิงเกิลที่ 4 แล้วครับ ตุ้ย : เหมือนเพลงนี้บอสก็รู้สึกว่าอยากจะให้โตแล้ว แบบว่าเหมือนพอผ่านมากำลังจะครบปีแล้ว ก็รู้สึกว่าอยากจะให้ LYKN โตขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าถ้าเอาพี่ปอนกับพี่จุงมาช่วยมันก็จะดูโตขึ้นไปอีก พี่ปอนกับพี่จุงก็คือคอลแลปอาร์ตติส คือเหมือนวงที่มี 7 คน เป็นอะไรที่เดือดมาก ๆ ความฉ่ำในเพลงนี้ ถ้าเอาเนื้อเพลงเหมือนเราไม่ได้เจอความรักดี ๆ มานาน เราค่อนข้างหัวใจแหบแห้ง แล้วมาเจอเธอมันทำให้หัวเราฉ่ำอีกครั้งนึง วิลเลี่ยม : ท่อนแรก โคตรจะแห้ง โคตรจะแล้ง โคตรจะไม่มีใคร~ เลโก้ : ดีนะผมเป็นคนโคราช ผมได้ยินโคตรจะแฮงแบบ อ้าว บ่มีแฮงหรอ เฮ้ย พี่แกงแต่งเพลงอีสานแล้วหรอ? 555“ตุ้ย” ร่วมแต่งเพลงฉ่ำ (CHARM)~ ตุ้ย : ก็คือเหมือนพี่แกงให้โอกาส เขาจะเห็นว่าผมชอบทำอะไรอย่างนี้ แล้วเพลงนี้ก็มีโอกาสได้ช่วยแต่ง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นท่อนแร็พที่เสนอไปเยอะมาก เท่าที่ผมรู้สึกว่าใช้เวลาตรงนั้นนานที่สุดจะเป็นท่อนพี่ฮง เดี๋ยวผมจะลองสัก 1 ทีประมาณว่า จากสะเงาะสะแงะ ไม่มีสติสะเงอะสะงะ พอเธอผ่านตามาเคาะมาแคะ มาแวะปะทะ Uh อยากไปชิดไปแชะ เข้าไปสะกิดสักนิดSnap มันคงไม่ผิดถ้าคิดจะแวะไม่เว้นระยะ (Bring it back)~~ เลโก้ : ที่ไม่เคยได้กอดใคร~ ตุ้ย : ถ้าอนาคตดัดฟันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไง 555 พี่แกงเขาอยากได้แบบกลับคำ เราก็คิดว่า เอ้ย พี่ฮงร้องได้แหละ แต่งไปก่อน ฮง : ผมก็พูดเลยใครแต่งวะ 555 ร้องยากเพราะมันงงตรงหลัง ๆ วิลเลี่ยม : พาร์ทที่ยากก็ท่าเต้นเรารับกันเร็วมาก แต่ว่าน่าจะยากตรงกรูฟ กรูฟเพลงมันเป็นแดนซ์ฮอลล์แล้วก็ฮิปฮอป เรารู้สึกว่ามันเป็นแนวที่เราเคยลองเต้นเบสิกมาบ้าง แล้วรู้สึกว่ามันยากมาก ๆซีนนัทอุ้มเลโก้ใน MV ฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : ผมไม่ได้กอด พี่นัทกอดผมเอง ตอนแรกกังวลอยู่เพราะว่าต้องใช้ความเชื่อใจประมาณนึงว่าเขาจะรับเราได้ไหม 555 แอบกังวลอยู่เลยคิดว่าอะไรที่ช่วยได้เราก็จะช่วย เช่น คุมน้ำหนักจะได้สะดวกเขาที่สุดโจทย์ในการฟิตหุ่น เลโก้ : ผมว่าทำเพื่อตัวเองมากกว่า พี่แกงพูดว่า ซีนนี้ขอโตขึ้นนะ แล้วเขาก็เกริ่น ๆ ว่า เพลงนี้น่าจะมีเปิดเนื้อเปิดหนังนะ คือผมก็คิดว่าน่าจะเปิดแค่ช่วงแขนปกติ แต่ก็…ว้าววว! นัท : อย่างที่น้องบอกเหมือนพี่แกงเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาทำซิงเกิล 4 ว่า ซิงเกิลที่ 4 มันจะโตขึ้น แล้วเหมือนจะต้องโชว์อะไรนิดหน่อย ผมก็เลยได้ยินแล้วต้องเข้าฟิตเนสเยอะขึ้น พอใกล้ถ่าย MV ก็มีไดเอทอะไรด้วยเพื่อให้ชัดขึ้น เลโก้ : อย่างที่พี่วิลเลี่ยมบอกว่าเพลงนี้มันเน้นในเรื่องของกรูฟมากขึ้น มันมีเรื่องของอินเนอร์เข้ามาเกี่ยวละ ผมรู้สึกว่าท่อนนี้เหมาะกับพี่นัทดี เพราะพี่นัทเขาก็โชว์อินเนอร์ตรงนี้ได้ออกมาเสียวสุด 555โลเคชันในการถ่าย MV ฉ่ำ (CHARM)~ นัท : จริง ๆ โลเคชั่นแรกเราไปถ่ายที่บางปะอินเป็นโรงประปาเก่า ฮง : ไม่ได้ร้อนเท่าที่คิด ไม่ร้อนเท่าซิงเกิลแรก อันนั้นจะเป็นโกดังที่เก็บความร้อน แต่อันนี้ไม่ค่อยร้อนขนาดนั้น นัท : เต้นฉากนี้แล้วเหมือนแบบลื่นด้วย กว่าจะผ่านฉากนี้ได้สะดุดหลายรอบอยู่ ตุ้ย : คนแรกก็คือเลโก้ ตอนแรกเลโก้ลงไปเซอร์เวย์ข้างล่างก่อนว่ามีอะไรบ้าง แล้วผมก็ลงไปเต้นเหมือนท่า Hit me up ครึ่งหลัง 555 แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ พอมันมีน้ำแล้วมันเป็นเหมือนรองเท้าคอมแบทมันก็จะเข้าไปขังอยู่ข้างใน ตอนที่ฟินที่สุดตอนถ่ายก็คือตอนที่ได้ถอดรองเท้าคู่นั้นหลังจาก 3-4 ชั่วโมงแล้ว เลโก้ : เวลาที่เท้าเราโดนน้ำแล้วมันอ่อนแอมาก ๆ แค่เปลี่ยนไปใส่สลิปเปอร์แล้วเดินก้าวปกติเอามือเดินยังจะง่ายกว่าแต่ไม่ทำ ส่วนทะเลทรายเป็นจังหวัดราชบุรี ถ่าย MV 2 วัน วิลเลี่ยม : วันแรกผมรู้สึกว่าตอนแรกจะร้อนมาก ๆ แต่ว่าวันนั้นโชคดีบรรยากาศอึมครึมการทำงานร่วมกับจุงและปอน เลโก้ : พี่จุงกับพี่ปอนมีส่วนร่วมเกี่ยวกับ LYKN มาสักพักละ อย่างกับพี่จุงนี่คือเราเคยมีสเตจร่วมกันที่ญี่ปุ่นมาแล้ว กับพี่ปอนผมก็เคยทำโชว์ Collab ด้วยกันสมัยอยู่ Project Alpha ก็เลยรู้สึกว่าไม่น่าทำงานด้วยยากคอนเซ็ปต์ของเพลงฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : เหมือนที่พี่ตุ้ยพูดไปว่าคอนเซ็ปต์เพลงคือจิตใจเรามันแห้ง เราก็เอาโลเคชันที่นึกถึงนั่นก็คือทะเลทรายพื้นที่ที่ขาดน้ำ พอเราไปทะเลทรายปุ๊บสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คือน้ำ ถ้าเกิดเปรียบกับเนื้อเพลงเธอเข้ามาทำให้จิตใจฉันชุ่มฉ่ำ เหมือนเป็นคนที่เดินตามหาแหล่งชุ่มชื้นความรู้สึกหลังจากที่ดู MV ฉ่ำ (CHARM)~ เลโก้ : ตอนถ่ายจริง ๆ ก็รู้สึกว้าวแล้ว พอเราดู Play Back รู้สึกว่าน่าจะทำออกมาดี แต่ครั้งนี้ได้เห็นประกอบกับ CG ด้วย มุมกล้องที่ Cutting ไปมารู้สึกว่าโอเค นี่แหละคือเพลงที่ทำถึงที่สุดของ LYKN วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ 5 หนุ่มอย่าง “LYKN” เล่นกันด้วย กับเกมที่มีชื่อว่า ‘Battle ฉ่ำ!’ บอกเลยงานนี้สนุกสนาน ฉ่ำๆกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “LYKN” อยากจะบอกน้อง ๆ LYKN ทุกคนว่าขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ในทุกช่วงเวลา คือพึ่งจะเรียนจบ ช่วงที่ทำโปรเจกต์จบเหนื่อยมาก ๆ แค่ได้เห็น LYKN เห็นหน้าน้องก็รู้สึกหายเหนื่อย แล้วบางทีลงอะไรไปก็มาดูกันเยอะมาก น้องตุ้ยมากดไลค์ในทวิตเตอร์ วิลเลี่ยมบางทีก็มาดูสตอรี่ตอนดึกมาก จริง ๆ อยากให้นอนเร็ว ๆ บ้าง เพราะว่ามาดูดึกมากเลยเป็นห่วงทุกคน และอยากให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพตัวเองด้วย เพราะว่าช่วงนี้ทำงานเยอะมาก ๆ ก็อยากจะให้นอนเยอะ ๆ กินน้ำเยอะ ๆ กินยาอมเยอะ ๆ อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าขอบคุณที่มาเป็น LYKN ในปัจจุบันนี้ ขอบคุณมาก ๆ ที่เป็นกำลังใจให้ อยากให้เด็ก ๆ ทำทุกอย่างให้มีความสุข แล้วก็ถ้าเหนื่อยหันมาหา LYKYOU บ้าง เดี๋ยว LYKYOU จะคอยปลอบ“LYKN” ขอบคุณสำหรับรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” นัท : ก็อยากจะขอขอบคุณทุกคนที่โหวตให้ LYKN ได้รับรางวัล “ร้องเล่นเต้นฉ่ำแห่งปี” ต้องขอบคุณ LYKYOU ทุกคนมากที่ทำให้พวกเราได้รับรางวัลนี้มา ไว้มีโอกาสมาเจอกันนะ สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “LYKN” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสนุก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามซิงเกิลที่ 4 “ฉ่ำ (CHARM)” สามารถรับชมได้ทาง Youtube : RISER MUSIC หรือสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม พร้อมเจอกันที่ Gotcha Pop 2 Concert 2024 วันที่ 11 พฤษภาคมนี้ และ Event ตลอดทั้งเดือนไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

“PP KRIT” ขอเสนอตัวใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล ‘ศิลปิน ICONIC แห่งยุค’ ที่ไม่ว่าจะไปบุกที่ไหน #พีพีพูดไปเรื่อย จะเป็นตำนานตลอดไป

20 มี.ค. 2024

“PP KRIT” ขอเสนอตัวใน EFM FANDOM LIVE พร้อมรับรางวัล ‘ศิลปิน ICONIC แห่งยุค’ ที่ไม่ว่าจะไปบุกที่ไหน #พีพีพูดไปเรื่อย จะเป็นตำนานตลอดไป

รายการ EFM FANDOM LIVE [14 มีนาคม 2567] คืนนี้เปิดสตูต้อนรับ “PP Krit” กับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “เสนอตัว (Ooh!)” พร้อมอัพเดตพูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ศิลปิน ICONIC แห่งยุค” **ชื่อสาขานี้เป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้ามาเยอะที่สุด นี่คือแนวคิด/ที่มาบางส่วนเท่านั้น**​ แนวคิด 1:เพราะพีพีไม่ใช่แค่เป็นนักร้องที่สร้างความสุขผ่านเสียงดนตรีเพียงนั้น แต่ชื่อของพีพียังถูกจดจำในบทบาทของไอคอนิคด้านแฟชั่น และการยืนหยัดความเป็นตัวเองในด้านของLGBTQ+อีกทั้งยังเป็นเด็กน่ารักที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่พบเจอทั้งหมดทั้งมวลของความแตกต่าง อยู่ในตัวของคนๆนี้ที่ชื่อว่าพีพี กฤษฏ์ไม่รู้ว่าอีกกี่สิบปีหรือยี่สิบปีจะได้เจอคนแบบพีพีอีก จึงสมควรได้รับรางวัลให้สมกับการมีส่วนขับเคลื่อนโลกศิลปิน แฟชั่น และLGBTQ+ แนวคิด 2:น้องพีพีเป็นศิลปินที่ยูนีคมากไม่ว่าจะหยิบจับหรือทำอะไรก็กลายเป็นกระแสไปหมดรางวัลศิลปิลไอคอนิคคือศิลปินที่เป็นไอค่อนของวงการตัวแม่ตัวพ่อตัวปังตัวเปิดผู้ที่พลิกวงการเพลงทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำมาก่อนกล้าเปิดเผยสิ่งที่เป็นสิ่งที่ตัวเองอยากทำและเผยแพร่สู่สาธารณะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมใหม่ๆ การเป็นดาวรุ่งที่พุ่งแรงมากที่สุดแมสทุกการเคลื่อนไหวมีแต่คนรักคนเอ็นดูลูกหลานที่ควรมีทุกบ้าน รางวัลนี้มีไว้สำหรับศิลปินเดี่ยวที่ทั้งร้องและเต้นรวมถึงแสดงโชว์ได้น่าสนใจและน่าประทับใจจนมีแต่คนพูดถึง ซึ่งน้องพีพีเป็นทั้งไอค่อนrisingและยูนีคเพราะฉนั้นจะมาเป็นพีพี กฤษฏ์เหมือนกันไม่ได้คนที่คู่ควรกับรางวัลนี้ที่สุดคือศิลปินPPKritค่ะ 2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นางฟ้า Award”​ สำหรับน้องพีพีลูกรักของมัมหมี ไม่มีใครจะน่ารักและแสนดีกับแฟนคลับเท่าน้องพีพีแล้ว เวลามีอีเว้นท์ต่อให้ไกลตามซอกตามหลืบแค่ไหนน้องพีพีก้อจะพยายามเดินไปหาตลอดเพราะกลัวแฟนคลับจะไม่ได้เห็นน้องใกล้ๆ ไหนจะน้ำเย็นๆ กับขนมที่เคยซื้อแจกแฟนคลับเพราะเห็นแฟนคลับตากแดดร้อนมารออีก แสนดีแบบนี้ต้องเป็นนางฟ้า นางสวรรค์มาเกิดแล้วหล่ะ ยังไม่รวมถึงความตั้งใจในการทำงานทุกงานให้ออกมาดีที่สุดเพื่อเป็นการตอบแทนกับความรักและแรงซัพพอร์ตที่แฟนคลับมีให้ สมมงนางฟ้าที่สุด แสนดีไม่ไหว3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “บุคคลผู้เป็นที่รักและแรงบันดาลใจ” ตลอด 5-6 ปีหลังที่เราเริ่มเห็นน้อง พีพี มา เริ่มตั้งแต่ช่วงซีรี่ส์รักฉุดใจนายฉุกเฉิน จนมาซีรี่ส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ จนเรื่อยๆมาถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าน้อง พีพี มีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าทุกช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ใครๆก็รู้จักชื่อ พีพี ซึ่งงานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ต่างๆจำนวนมากนี้ เป็นเครื่องการันตีว่าเป็นที่รักของผู้คนมากมายจริงๆ จากวันแรกที่ได้รู้จักน้อง พีพี ตอนนั้นยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูด พูดน้อย เขินกล้องเล็กๆ ใส่เสื้อยืดสีขาวบ่อยๆ แต่จากแรงซัพพอร์ตของทั้งคนรอบข้าง ทั้งจากแฟนๆ ทำให้น้อง พีพี ค่อยๆกล้าที่จะเผยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาทีละนิด จากในวันที่อาจจะยังมีคนไม่เข้าใจ แต่น้อง พีพี ก็ยังยืนหยัดในความเป็นตัวตนของตัวเอง ในทุกๆผลงานที่เค้าทำออกมา น้อง พีพี ทำให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องพูดว่าเราเป็นอะไร ไม่ต้องมีคนมาคอยตั้งคำถามอะไร แค่เป็นตัวเองในทุกๆวัน ใส่ความเป็นตัวเองในทุกผลงานก็พอ น้อง พีพี อาจจะไม่ใช่คนแรก แต่เราเชื่อว่าการที่มีน้อง พีพี อยู่ในวงการบันเทิงนี้ ยิ่งในช่วง 4 ปีหลังนี้ มันเปลี่ยนแปลงวงการบันเทิงไทยและวงการ Marketing ไปมากทีเดียว รวมถึงความคิดและทัศนคติของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน หากถามใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เราเชื่อว่ามีหลายคนที่มีน้อง พีพี เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆเรื่องแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นศิลปิน นักแสดง การแต่งตัว การวางตัว การรักตัวเอง เชื่อมันในตัวเอง และอื่นๆอีกมากมาย ในอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า หากเราย้อนมาพูดถึงเรื่องอดีตในวงการบันเทิง เราชื่อว่าจะมีชื่อ พีพี กฤษฏ์ เป็นตำนานแน่นอนค่ะ 4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “นักปลูกดอกไม้ในหัวใจแห่งปี” เพราะความรู้สึกตอนได้รักน้องพีพีเหมือนมีดอกไม้เติบโตขึ้นมาในหัวใจค่ะ แล้วดอกไม้ในหัวใจเติบโตได้ด้วยรอยยิ้มของน้องพีพีเสียงหัวเราะของน้องพีพีและผลงานของน้องพีพีน้องพีพีเลยเป็นสุดยอดนักปลูกดอกไม้ในหัวใจแห่งปี! คอยดูแลรดน้ำดอกไม้ในหัวใจของแฟนๆ ให้อยากเป็นคนที่ดีขึ้น และเพราะความน่ารักของน้องพีพีทำให้ดอกไม้ในหัวใจแฟนๆเติบโตได้อย่างดีเลยค่ะ5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อย” เพราะน้องพีพีมีวาทศิลป์การพูดที่เลิศสุด ๆ รู้จักใช้คำ ใช้ประโยค ถึงแม้จะมีการเล่นมุข 5 บาท 10 บาทบ่อย ๆ บ้าง แต่ก็สามารถสร้างสีสันและความบันเทิงให้คนฟังอย่างหลากหลายจริง ๆ ค่ะ หรือในบางครั้ง(หลายครั้ง)น้องพีพีจะตอบไม่ตรงคำถาม(คนถามถามไม่ตรงคำตอบ) แต่ก็สามารถเลี้ยววกวนเข้าซอกออกซอยไปทุกที่แบบสนุกม่วนจอยตลอด ในช่วงแรก ๆ อาจจะทำให้คนฟังหลายคนมีงงบ้างนิดหน่อย แต่พอได้ติดตามฟังสัมภาษณ์หรือรายการที่น้องพีพีไปออกบ่อย ๆ ก็จะชินและเพลิดเพลินไปเองค่ะในตอนนี้น้องพีพีเองก็มีแฟนสัมภาษณ์อยู่พอสมควรเลยค่ะ เวลาเสิร์ชชื่อน้องพีพีในXก็จะเห็นหลาย ๆ คนพิมพ์มาประมาณว่า'ชอบเวลาน้องพีพีสัมภาษณ์มาก ๆ เพราะน้องใช้คำพูดคำจาน่ารัก ดูแล้วเอ็นดู''อยากให้พีพีมีงานทุกวันเลย อยากเห็นเค้าให้สัมภาษณ์''พีพีสัมภาษณ์ตลกมาก หัวไวเกิน'หรือ'เวลาเห็นพีพีสัมฯทีไรต้องกดดูตลอด ชอบความไปเรื่อยของน้องมาก'ประมาณนี้เลยค่ะ ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อยสุด ๆ ค่าาาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “PP Krit”รางวัล “ศิลปิน ICONIC แห่งยุค”ความรู้สึกที่มีต่อชื่อรางวัลนี้ ก็ดีใจ ถ้าพีมองตัวเอง พี่ก็รู้สึกว่าเราก็ยังไม่ถึงขั้น ICONIC จริง ๆ คนที่เป็น ICONIC มันก็มีอีกเยอะมาก อาจจะเป็นแค่เราแตกต่างจากคนอื่นมั้ง คนอื่นอาจจะไม่ใส่แว่นแบบนี้ไง 555“พีพี” ตั้งชื่อรางวัลให้กับ “บิวกิ้น” ศิลปินพูดมากแห่งปี พูดมากแบบสาระดี ๆ ความรู้แห่งปี ระหว่างพีพีกับบิวกิ้น บิวกิ้นพูดเยอะกว่าอยู่แล้ว ปกติพีอยู่ข้างหลังจะเป็นคนเงียบ ๆแนวคิดหรือพลังบวกเกี่ยวกับความสวย ก็ขอบคุณแฟน ๆ ก่อนละกันที่มองพีว่าเป็น ICONIC หรือมองว่าพีเป็น ICON แล้วก็ได้รางวัลนี้มาด้วย จริง ๆ พีรู้สึกว่ามันไม่ได้อยู่กับว่าแฟชั่นหรืออะไรหรอก มันคือความมั่นใจในการเป็นตัวเอง ความมั่นใจที่เราจะกล้าแสดงออกในแบบของเรา แล้วก็เป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุดในทุก ๆ วัน หวังว่าทุก ๆ คนจะมีความสุขมากกว่า อยากให้ทุกคนมีความสุขที่แบบเหมือนเราได้ออกไปเป็นตัวเอง ส่งต่อเอนเนอร์จี้นี้ให้กับคนอื่นด้วยแสกผมเป็นของตัวเอง ปัดขวา! คือทุกคนจะไม่เห็นเลยว่าส่วนใหญ่เวลามีแสก แสกที่มากกว่าคือจะเป็นแสกข้างขวาตลอด แล้วข้างซ้ายจะปัดขึ้นหรือไม่ก็เอาลง ทุกคนจะเห็นว่าพีถนัดหน้ามุมซ้ายมากกว่า…รางวัล “ขวัญใจชาวไทยพูดไปเรื่อย”ความม่วน ความจอยเวลาให้สัมภาษณ์สื่อ คือเราก็ตอบแบบว่าในมุมมอง ทัศนคติของเราไง ไม่มีอะไรเลยก็พูดไปเรื่อยแหละ อะไรมาอย่างแรกปุ๊บพูดเลย ไม่ผ่านกระบวนการความคิดอะไรทั้งสิ้น อยู่ดี ๆ ก็ผุดขึ้นมา บางทีเราก็งงว่า อ้าว เราตอบอะไรไปว่ะเนี่ย? จริง ๆ พีว่าพอไปสัมภาษณ์ไม่อยากซีเรียส รู้สึกว่าอยากแฮปปี้ ๆ ดีกว่า เพราะเราไม่ได้มีข่าวเกาเหลาอะไรกับใครไง~ 555 นักข่าวชอบมาถามเรื่องของคนอื่น ซึ่งเราไม่รู้เรื่องคนอื่นเลย หนูไม่รู้จริง ๆ สมมติเป็นเรื่องเพื่อนหรือคนใกล้ตัว พีไม่รู้อยู่คนเดียว รู้อีกทีแบบเขาตีกันประมาณปีนึงจนเขาดีกันแล้ว พีก็อ้าว ดีกันแล้วหรอ? 555สำหรับเพลง “เสนอตัว (Ooh!)”มันคือเรื่องของการเสนอตัวไปเทคแคร์ดูแลเธอ~ ถ้าเราชอบกัน เราขอเข้าไปพูดคุยก่อนละกัน ฉันขอเสนอตัวชีวิตจริงเป็นคนชอบเทคแคร์ รู้สึกว่าการที่เราได้เทคแคร์เขา เราก็มีความสุขไปด้วย เหมือนเวลาเราทำอะไรบางอย่างให้เขาประทับใจ เราก็ดีใจไปด้วยไงใน MV พีพีไม่เปียกน้ำ… ซีนที่อยู่ในน้ำอันนั้นคือเปียกน้ำจริง ตอนแรกว่าจะเปียกแบบราดหัว แต่กลัวว่ามันจะหลายเทค เป็นเรื่องของเทคนิคกับเวลาด้วย แล้วเราก็รู้สึกว่าน้ำด้านหลังก็ดูเหมือนเราอยู่ในโลกแฟนตาซีขึ้น แต่จริง ๆ ท่อนล่างเปียกหมด เพราะแดนเซอร์เตะทีเข้าหน้า ปัดน้ำเข้าตาบ้างนิดหน่อย 5551 ท่อนที่ชอบที่สุดในเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” ท่อน…ถ้าชอบ ถ้าชอบ เธอจะลังเล ลังเล ลังเลไม่ได้~ คำว่า ถ้าชอบ ถ้าชอบ อันนี้ตอนที่พีได้ยินเมโลดี้มา พีเป็นคนใส่คำนี้เข้าไปเอง อย่างท่อน อยู่ด้วยกันนาน ๆ นานอีกนิด~ อันนี้พีก็เป็นคนคิด คือพอคอนเซ็ปท์มันมา เรารู้สึกว่าถ้าเป็นเราในเมโลดี้นี้ เราคงอยากให้เขาอยู่กับเรานานอีกนิดนึง ถ้าสมมติเราชอบใครสักคน วันนึงเราก็ไม่อยากให้มันจบเร็ว ๆ เราอยากจะอยู่กับเธอมากกว่า 24 ชั่วโมงได้ไหม…ระยะเวลาในการถ่ายทำ MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) ถ่ายวันเดียว แต่ถ่ายตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึงประมาณตี 4-5 เกือบ 24 ชั่วโมงชุดในการถ่ายทำ MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) การเปลี่ยนชุดจริง ๆ มีประมาณ 8 ชุด แต่ใช้ไปทั้งหมด 6 ชุด เพราะว่ามีอันนึงมันโป๊ไป อีกชิ้นนึงเหมือนสั้นเกิน เลยต้องตัดอันนั้นออก เรื่องเสื้อผ้าก็ทำงานกับสไตล์ลิส อย่างหลาย ๆ ชุดในนี้เราก็บอกเขาไปแหละว่าเราต้องการอะไร พีบอกเขาว่า คอนเซ็ปท์เป็น Fallen Angle บางคนอาจจะคิดว่าเป็นชุดยาว สูง ๆ แต่เราแค่รู้สึกว่าไม่ได้อยากเป็นนางฟ้าแบบนั้น เราอยากเป็น Fallen Angle ที่แบบโดนไล่ลงมาจากสวรรค์ เสื้อผ้ามันเลยมีความขาด ปีกก็เป็นคนบรีฟเอง ไม่เอาปีกแบบสะพรึง แต่อยากได้ปีกมีความขาด ๆ นิดนึงพระเอก MV เพลงเสนอตัว (Ooh!) เจอน้อง “อีตั้น” นานแล้ว ตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว เหมือนเรารู้จักพี่คนเดียวกัน พี่วร-ทัตวร ศุกัณศีล ก็เลยได้มีโอกาสเจอน้องอีตั้นตามงานแฟชั่นโชว์บ้าง งานพี่วรบ้าง ได้พูดคุยกันตลอด ติดต่อไปตั้งแต่เพลง Fire Boy แต่ตอนนั้นคิวน้องไม่ได้จริง ๆ แล้วคิวพีก็ไม่ได้ด้วย พอผ่านไปเจอกันอีกทีที่งานดินเนอร์ แล้วได้คุยกัน ก็เลยชวนน้องอีตั้น เรากำลังจะทำเพลงนี้พอดี สนใจมาเล่นไหม? บางซีนก็เขินเวลาเราใกล้มาก ๆ เรารู้สึกว่า เราบ้วนปากยังนะ 555 แต่เขาไม่เขินเลย เขาเก่งมาก แล้วพอได้คุยกันระหว่างวันทำความรู้จักกันมากขึ้น เขาเป็นคนน่ารักมาก มี Attitude ที่ดี มีความคิดที่น่ารักREACTION ของ “น้องแอบิเกล” แอบิเกลบอกว่า เปลี่ยน! ไม่ดู! แอบิเกลจะดูคลิปช้างอะไรสักอย่าง ไม่ใจเสียก็บอกว่า เปลี่ยนก็ได้แอบิเกล ไม่เป็นไร เราเข้าใจ 555พระเอก MV ที่อยากร่วมงานด้วย ได้หมด เปิดโอกาสให้ทุกคน 555 จริง ๆ ก็ยังมีพี่ ๆ หลายคนที่อยากร่วมงานด้วย ให้นึกชื่อก็คิดไม่ออกเลยตอบไม่ได้พี่ณเดชน์ก็คือยืนหนึ่ง นัมเบอร์วัน เพราะเราคือนางฟ้าของพี่สายชล ใน MV เราเป็นนางฟ้าไง มีความเชื่อมโยงละ 555วันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับ “PP Krit” เล่นกันด้วยกับเกมที่มีชื่อว่า ‘ฉันขอเสนอตัว (ตัวอักษร…)’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้เข้ามาถาม QA กับ “PP Krit”น้องพีพีมีแพลนจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวไหม? ที่จริงมี ทุกอย่างมันอยู่ในไทม์ไลน์ปีนี้ที่เราวางไว้แล้ว เดี๋ยวรอติดตามละกันพีพีจัดทอล์กโชว์ไหม? จริง ๆ ถ้าให้หนูพูดเองคนเดียวก็ยาก แต่ถ้าเราคุยกันอย่างนี้ หนูก็คุยกันได้หลาย ๆ เรื่องเห็นพีพีทำงานทุกวัน รู้ว่าต้องเหนื่อยมากแน่ ๆ อยากรู้ว่าพีพีให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง? ถามว่าเหนื่อยไหม ก็มีเหนื่อยบ้าง บางทีก็ท้อบ้าง มีจังหวะถอดใจด้วย แต่รู้สึกว่าเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เราทำ พอเราได้ไปเจอแฟน ๆ บางคนตั้งใจมารอพี อย่างแฟน ๆ ที่รออยู่ด้านล่าง หรือแฟน ๆ ที่ไปอีเว้นท์ บางคนบินมาจากต่างประเทศ จากต่างจังหวัดก็มี และเขาไม่ได้หวังอะไรเลย เขาหวังแค่ว่าได้เห็นเราใกล้ ๆ แค่นั้นเอง ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจให้พี เราอยากทำลุคใหม่ ๆ งานเพลงใหม่ ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณพวกเขาที่ให้การซัพพอร์ตเราน้องพีพีมีแพลนจะไปเรียนต่อต่างประเทศตอนอายุเท่าไหร่? จริง ๆ เคยแพลนสิ่งนี้ไว้ แล้วล้มเลิกไป เพราะว่าแผนมันปรับตลอด ถามว่ายังอยากไปอยู่ไหม ทุกวันนี้ก็ยังอยากไป เพื่อนหลาย ๆ คนไปเรียนต่างประเทศก็ทยอยกลับมาแล้ว พอเจอบางคนก็เปลี่ยนไปเลย บางคนก็เหมือนเดิม ตัวเราเองเคยมีประสบการณ์ที่ไปต่างประเทศ เราเลยรู้ว่า สิ่งที่มันสำคัญที่สุดของการไปเรียน มันอาจจะไม่ใช่การได้รู้ความรู้กลับมาแบบ 100% แต่มันคือประสบการณ์มากกว่าถ้ามีคนมาเสนอตัวให้เรา สิ่งแรกที่พีพีจะเลือกมองอันดับแรกคืออะไร? มองตา ชอบใครก็จะมองตาเขาก่อน ตามันบอกความรู้สึก มองเข้าไปเรารู้เลยว่า ถ้าเขาชอบเรา แววตามันจะไม่เหมือนกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรกับเรา เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ผ่านดวงตาน้องพีพีช่วยแนะนำทริคการเสนอตัวแบบปัง ๆ หน่อย? การที่เราจะไปเสนอตัวให้ใคร หมายความว่าเราเริ่มคุยกับใคร มันควรเปิด Conversation ด้วยความ Positive ก่อน แต่ถ้าสมมติเราเดินเข้าไปแล้วแบบ เป็นไรอะ? เสนอตัวแบบใด 555 จริง ๆ มันคือความเข้าใจแหละ ในความสัมพันธ์ทุกอย่าง ความเข้าใจกันมันเป็นประเด็นหนึ่งที่สำคัญ พีเชื่อว่า ถ้าเราเริ่มจากการเข้าใจกันและกัน มันก็จะพัฒนาไปในความสัมพันธ์ที่ดีถ้าต้องมอบเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” ให้ใครสัก 1 คน น้องพีพีจะมอบเพลงนี้ให้ใคร? มอบให้แฟน ๆ ที่เรารักตอนนี้มีอะไรที่ไม่ได้ทำ แล้วอยากลองไหม? พีว่า…สิ่งทีพีทำมาทั้งหมด มันอาจจะดูเหมือนเยอะ แต่จริง ๆ ยังน้อยมาก ยังมีคนที่มีประสบการณ์เยอะกว่าพีมาก พี่ ๆ บางคนทำงานมาเป็น 10 ปี เขาเก่งแบบ…สมมติเขาเดินเข้าไป เขาสามารถทำได้เลย เราก็อาจจะยังไม่ถึงเวอร์ชันนั้น เราก็ต้องทำการบ้านบ้าง ความพยายามบ้าง การพัฒนาตัวเองบ้าง ในแนวเพลง พีก็ยังทำแค่ 4 เพลง แสดงจริง ๆ ก็ 2 เรื่อง รู้สึกว่ายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ แล้วมีอะไรอีกหลายแนวให้ลอง เรื่องแฟชั่นอาจจะได้เห็นพีในหลาย ๆ ลุค แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรน่าตื่นเต้นที่มันจะเกิดขึ้นอีก สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “PP Krit” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความน่ารัก ความสุขให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามเพลง “เสนอตัว (Ooh!)” สามารถรับชมได้ทาง YouTube : PP Krit Entertainment หรือสตรีมมิ่งทุกแพลตฟอร์ม ไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1