6 นักแสดงหนุ่ม “ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” พาซีรีส์ “เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก” บุกสตู! พร้อมส่งต่อความ In Love และความแสบซนใน EFM FANDOM LIVE

EFM FANDOM RECAP

6 นักแสดงหนุ่ม “ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” พาซีรีส์ “เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก” บุกสตู! พร้อมส่งต่อความ In Love และความแสบซนใน EFM FANDOM LIVE

09 มิ.ย. 2025

                รายการ EFM FANDOM LIVE [29 พฤษภาคม 68] คืนนี้เตรียมหัวใจว้าวุ่นไปกับ 6 หนุ่มนักเรียนสุดซ่า “ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”

ในช่วงเปิดรายการ “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน” ได้อ่านจดหมายทั้ง 5 ฉบับของแฟนคลับ

ที่ส่งความรักแบบไม่มีกั๊กถึงศิลปิน และถูกเลือกมาอ่านในช่วง “EFM FANDOM LOVE LETTER”

จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ใจเราเผลอรักพวกคุณตั้งแต่คุณยังไม่รู้ตัวว่ารักกัน

                ซีรีส์เรื่องนี้พาย้อนกลับไปสัมผัสความรู้สึกของรักวัยมัธยมอีกครั้ง เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอายุ 17 ที่โลกทั้งใบหมุนรอบเรื่องเรียนและการแอบชอบใครสักคน นักแสดงทุกคนถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่ารักจนรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เปิดดูขอบคุณ ลูค มิค โชกุน แอสตัน เคน และ พอล ที่ตั้งใจสร้างผลงานดีๆ ออกมาให้เราได้ดูกันนะคะ เด็กๆ Boys In Love คือ ยาใจวัยทำงานของเราเลยค่ะ

Letter #1: This letter is titled... We unexpectedly found ourselves in love with you all, even before you realized your feelings for each other.

                This series brings us right back to the experience of high school romance, reminiscent of being 17 and having your entire world centered around school and a crush. The actors captured those emotions beautifully and authentically, bringing us joy with each episode. A big thank you to Luke, Mick, Chokun, Aston, Ken, and Paul for pouring your hearts into this wonderful creation for us. The boys in Boys In Love are just what we need to heal our working-age hearts.

จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... หลานคนเก่งของลุงคนแก่

                ลุงดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วรู้เลยว่า หลานโตขึ้นมากจริงๆ ทั้งในการใช้ชีวิตและในงานแสดง ลุงเห็นความพยายามในงานแสดง เบื้องหลังการซ้อมและงานอีเว้นต์ แม้จะเหนื่อยแค่ไหน หลานก็ยังสู้  หลานไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดในวันนี้ แค่ไม่หยุดพัฒนาตัวเองก็พอ เพราะวันหนึ่ง…ความฝันมันจะพาหลานไปถึงที่ที่ฝันไว้แน่นอน แล้วลุงจะนั่งอยู่แถวไหนสักแถวในอิมแพค คอยปรบมือให้หลานเสมอ สุดท้ายลูกค้าเข้าได้นะ หลานผมเต็มที่เกินร้อย

Letter #2: This letter is titled... The remarkable great-grandsons of the elderly uncle.

                Having watched this series, I can really see how much you’ve grown, both in your life and in your acting. I notice all the hard work you put in, whether it’s during rehearsals, behind the scenes, or at events. Even when you're exhausted, you keep pushing through. Just remember, you don't have to be at your best every day; what matters is that you keep striving to improve. One day, your hard work will lead you exactly where you want to be, and I’ll be right there at Impact Arena, cheering you on. Lastly, it’s great that customers can now book you. My grandsons have truly given it their all.

จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... No Nong BOYS, No Life

                Yo! แก๊งน้องบอย ขอบคุณน้องบอยและซีรีส์ Boys in love ที่มาช่วยฮีลใจพี่สาววัยทำงานคนนึงให้มีแรงใช้ชีวิตต่อไปมาก ๆ การได้รู้จักน้องบอยทำให้ชีวิตของพี่สดใสขึ้นมาก พี่ไม่มีแฟนก็ได้ แค่มีน้องบอยก็พอ ขอบคุณเด็ก ๆ ที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อผลงานคุณภาพแบบนี้นะคะ เก่งกันมาก ๆ เลย พี่เชื่อว่าคนเก่ง ๆ แบบพวกเราต้องถูกค้นพบจากผู้คนอีกหลายล้านคนแน่ ๆ ฮึบ! NO BOYFRIEND NO PROBLEM  NO “NONG BOYS” BIG PROBLEM!!

Letter #3: This letter is titled... No Nong BOYS, No Life

                Hey, Nong Boys gang! I just want to say a huge thank you to you all and to the series ‘Boys in Love.’ You've helped mend my heart and given me the strength to keep going. Getting to know Nong Boys has truly brightened my life. I don’t need a boyfriend; just having you guys around is more than enough. I really appreciate all the hard work that went into creating such amazing content. You’re all incredibly talented! I truly believe that talented individuals like us will eventually be recognized by millions. Let’s keep going! NO BOYFRIEND? NO PROBLEM! NO “NONG BOYS”? NOW THAT’S A BIG PROBLEM!!

จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... เธอคือ Lesson one บทเรียนที่ฉันนั้นอยากจดจำเรื่องราวตลอดไป

                ตั้งแต่วันแรกที่ทั้ง 6 คน เปิดตัวในฐานะนักแสดงเรื่อง “เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก” พี่ก็เฝ้ารอวันที่เรื่องนี้ฉายมาตลอด ทั้ง ลูค มิค โชกุน แอสตัน เคน และ พอล เป็น 6 คนที่พี่อยากซัพพอร์ตมาก ๆ พี่หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นเหมือนใบเบิกทางที่ทำให้หลายคนได้เริ่มรู้จักน้อง ๆ มากขึ้น แล้วก็ขอบคุณที่มาสร้างบทเรียนที่น่าจำจดขนาดนี้ไปด้วยกัน พี่สัญญาว่าจะอยู่ดูทั้ง 6 คน ตั้งแต่บทที่หนึ่งไปจนถึงบทสุดท้ายเลย

Letter #4: This letter is titled... You are my first lesson, and I want to hold on to that memory for a lifetime.

                Ever since the first day the six of you premiered as actors in 'Boys in Love,' I've been eagerly anticipating when this series will be released. I really want to cheer on Luke, Mick, Chokun, Aston, Ken, and Paul. I hope this series serves as a great opportunity for many to get to know these younger talents better. Thank you for crafting such an unforgettable experience together. I promise to watch each of them from the first episode to the last.

จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... Love you all :)

                พวกหนูอาจจะไม่เคยรู้ว่าการที่พวกหนูลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่รัก มันส่งพลังไปให้ใครหลายๆคนที่รักหนู ศิลปินไม่ได้เป็นแค่คนที่ร้องเพลงหรือแสดงเก่ง แต่ยังเป็นคนที่ส่งต่อความรู้สึกดีๆให้คนที่อาจกำลังเหนื่อยล้า หรือเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ขอบคุณที่ถ่ายทอดตัวละครดีดีผ่านซีรีส์               Boys In Love เพราะทุกฉากคือความคิดถึงวัยเรียน ความอบอุ่นของมิตรภาพ ความรักระหว่างตัวละคร ขอยกให้เป็นซีรีย์ที่น่ารักสดใสที่สุดของปี

Letter #5: This letter is titled... Love you all :)

                You may not realize that when you pursue what you’re passionate about, it has a powerful impact on those who care about you. Artists aren’t just talented singers or actors; they also have a remarkable ability to share uplifting emotions with those who are feeling tired or lonely. I really appreciate how you embody such positive qualities in the series 'Boys In Love.' Each scene beautifully captures the essence of school life, the warmth of friendship, and the love among the characters. I believe it deserves the title of the cutest and most uplifting series of the year.

ถึงเวลาเลี้ยงเด็กแสบซ่าแสนซนกันแล้ว~~ เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE

และตอนนี้ “ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” รอคุณอยู่น้า

รุ่นพี่ใน GMMTV ที่เป็น IDOL ของทั้ง 6 คน

                มิค :  พี่วิลเลี่ยมครับ ผมเลือกพี่วิลเลี่ยมเพราะผมชอบในพลังเสียงของเขา เขาร้องเพลงเพราะมากครับ

                พอล : พี่จูเนียร์ครับ ที่ผมเลือกพี่จูเนียร์เพราะว่าพี่จูเนียร์พูดเก่ง ผมอยากพูดเก่งแบบพี่เขา

                โชกุน : พี่มาร์ค ภาคิณครับ ผมชอบความตลก ความเฮฮาของพี่มาร์คครับ แล้วก็ความเป็นกันเองกับรุ่นน้อง

                ลูค : พี่จุงครับ ผมรู้สึกว่าพี่จุงเป็นคนที่ครบเครื่อง ร้อง เต้น ทุกอย่างเก่งหมด แล้วก็เท่มาก ก็เลยรู้สึกว่าเป็นไอดอลของผมได้

                เคน : พี่เฟิร์สครับ เพราะผมเคยเล่นเป็นน้องพี่เฟิร์สด้วย ผมชอบคารัคเตอร์ของเขา ก็รู้สึกว่าเป็นพี่ที่น่ารักมาก ๆ

                แอสตัน : พี่ซีเดชชาติครับ ผมเลือกเพราะผมรู้จักพี่เขาก่อนที่จะเข้า GMMTV ตอนนั้นพี่เขาเล่นเรื่องแค่ที่แกงอยู่ พอผมเห็นคนใกล้ตัวทำอะไรแบบนี้แล้วมันก็เป็นแรงบัลดาลใจครับ

ตำแหน่งไหน ใช่ที่ของเรา…

สายกิจกรรม : ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล //ยกมือ

เด็กเรียน : …

เด็กหลังห้อง : ลูค - โชกุน - แอสตัน - เคน //ยกมือ

เพื่อนเยอะ Extrovert ที่สุด : โชกุน

                โชกุน : ผมรู้สึกว่าการรู้จักคนใหม่ ๆ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสำหรับผม

ใครเป็น Introvert ที่สุด : มิค

                มิค : น่าจะเพราะผมขี้เขิน เขินในการเข้าไปทักก่อนครับ ต้องให้โชกุนสอนละครับ

นักกีฬาโรงเรียน :  ลูค - มิค - แอสตัน- พอล //ยกมือ

                ลูค : ผมกับมิคเตะบอล

                มิค : ใช่ครับ อยู่โรงเรียนเดียวกันเลย

                พอล : ผมเคยเล่นบอลตอนประถมเลยที่แบบเตะเยอะ ๆ

                แอสตัน : ผมเล่น บอล บาส วอลเล่ย์ที่มหาวิทยาลัยครับ

                ลูค : จริง ๆ เคนก็เป็นนักกีฬาแบตนะครับ

                เคน : ใช่ครับ ผมเป็นนักกีฬาของบัญชีครับ

ความรู้สึกตอนได้เข้ามาในโปรเจกต์นี้

                ลูค : ผมว่าทุกคนน่าจะตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ หลังจากที่ได้เข้า ผมก็รุ้สึกแบบ ดีใจนะที่ได้รับเลือก แล้วก็รู้สึกอยากจะทำตรงนี้ให้เต็มที่

ความรู้สึกที่รู้ว่าในซีรีส์จะเป็นทั้ง 6 คนนี้

                โชกุน : สนุกแน่นอน

                มิค : สนุกแน่นอนด้วย แล้วก็ยิ่งตื่นเต้นมาก ๆ เลยด้วย ยิ่งผมกับพี่ลูครู้จักกันมาก่อนแล้วอ่ะครับตอนประถม เรามารู้ว่าได้เล่นกับเขา ยิ่งคู่กันกับเขาด้วยก็ โห อเมซิ่งเหมือนกัน

ความ In Love ใน Ep. 7

                ลูค : คู่โชกุน แอสตันก่อนละกัน คู่นี้หวานกันมานานแล้ว

                แอสตัน : คู่ของผมกับโชกุนหวานตั้งแต่อีพีสองกับสามแล้วครับ พวกเราก็เป็นแฟนกันเร็วมาก ก็คือมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีความสัมพันธ์ของคนที่มี Relationship แล้วอะไรอย่างนี้ครับ

                โชกุน : ใช่ ปัญหาของคนที่มีแฟน มีปัญหาอะไรไรบ้าง

                มิค : คู่เราท้ายอีพีหกก็คือเพิ่งตกลงเป็นแฟนกัน อีพีเจ็ดก็จะเป็นความสัมพันธ์แบบแฟนแล้วครับ

                ลูค : คู่ผมเป็นคู่ที่เรียกว่าสองคนต่างกันมาก คนนึงจะตั้งใจเรียนมาก ไม่ค่อยสนใจการใช้ชีวิต อีกคนก็จะชอบใช้ชีวิตสุด ไม่ค่อยเรียนหนังสือ ก็ต้องโดนจับมาเจอกัน เนี่ย ท้ายอีพีหกก็เพิ่งมาตกลงเป็นแฟนกัน หลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของกิตกับเชนที่เป็นแฟนกัน แล้วก็ค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากัน

                เคน : คู่ของเคนกับพอลต้องรอชมครับ

                พอล : ใช่ ต้องรอดูครับอาจจะมีเซอร์ไพรส์

                เคน : จะเป็นแนวแบบคู่กัดกันมากกว่า เป็นแบบเพื่อนสนิทชอบตีกัน

                พอล : ยัก หยอก จึง หยอก เย่ง

เด็ก Gen Z จะพาหวานใจไปไหนกันบ้างน้า

                โชกุน :  ไอซ์สเก็ต

                ลูค : คือถ้าเกิดทุกคนอยากเห็นว่าเด็กรุ่นนี้เป็นแฟนกันแล้วเข้าทำอะไรกันเนี่ย สามารถไปดูพวกผมได้ มันมี Vlog แฟนกัน One Day ที่พวกผมทำอยู่

                แอสตัน : มีอะไรบ้างนะ

                แอสตัน/โชกุน/มิค :  ไปไอซ์สเก็ต, ซื้อของ

                เคน : โยนโบว์ลิ่ง

                แอสตัน : กินข้าว

                ลูค : ก็ไปเดทกันอ่ะครับ

“เคนจิ” ซนเก่งเหมือนเล่นกับใจ

                ลูค : ผมว่าน่าจะเคนจิ

                พอล : ผมว่าก็น่าจะเคนจิ

                โชกุน : ผมว่าน่าจะเคนจิ

                แอสตัน : ผมว่าคนว่าดื้อทึ่สุดไม่ได้อยู่ตรงนี้ เรื่องเราจะมีคู่คุณครูด้วย พี่ป๊อดกับพี่ปาแปง ซนที่สุดต้องพี่ปาแปง

                ลูค : จริง ๆ เห็นพวกเราเด็ก ๆ แบบนี้พวกเราเรียบร้อยมากนะครับ ไม่ค่อยซนกันเลย

                เคน : พี่บอยยังชมอ่ะครับ ว่าเป็นเด็กเรียบร้อย

                พอล : พวกเราเงียบจนพี่วางงอ่ะครับ

ซีรีส์ “Boys in Love เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก” ใครๆก็ต้องกดดู

                มิค : ก็ฝากด้วยนะครับ ซีรีส์เปิดเทอมใหม่หัวใจหัดรัก Boys In Love อาทิตย์นี้เดินทางมาถึงอีพีที่เจ็ดแล้วครับ ก็จะเป็นความสัมพันธ์ที่เข้มข้นกันขึ้น คู่ที่เป็นแฟนกันแล้วก็จะเข้มข้นขึ้นไปอีก ส่วนของเราเนี่ย

                แอสตัน : เป็นแฟน

                มิค : เป็นคู่ใหม่ ส่วนคู่นี้ (เคน-พอล) ก็

                โชกุน : รอลุ้นต่อไป

                มิค : รอลุ้นต่อไปดีกว่าว่าจะเป็นยังไงครับ ฝากด้วยนะครับก็ทุกวันอาทิตย์เวลา 20.30 น. ทำช่อง GMM25 ครับ และสามารถดูย้อนหลังเวลา 21.30 น.บนแอป IQIYI และเว็บไซต์ iq.com ที่เดียวเท่านั้นครับ

ความแสบซนยังไม่จบ งั้นพาหนุ่มๆไปซนกันต่อ...

ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ชวนเล่นในเกม “เสียงลับจับให้ได้”

ทั้ง 6 จะจำเสียงกันได้หรือไม่ ? (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)

เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการส่งต่อความซนของ

“ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” ถึงทุกคน ให้กดเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน

(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)

                สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ลูค - มิค - โชกุน - แอสตัน - เคน - พอล” ที่มาร่วมพูดคุย แบ่งปันความน่ารักสดใส สร้างความสนุกและส่งต่อความสุขให้กับแฟน ๆ ทุกคน และฝากซีรีส์ "เปิดเทอมใหม่หัวใจหัดรัก Boys In Love" ทุกวันอาทิตย์เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และดูย้อนหลังเวลา 21.30 น.บนแอป IQIYI และเว็บไซต์ iq.com ที่เดียวเท่านั้นน้าา

สามารถเข้าไปรับชมความฟินและความสนุกกันได้ทาง

เจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

 

related EFM FANDOM RECAP

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

19 พ.ค. 2025

ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ 2 หนุ่มสุดฮอต “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ มาเสิร์ฟความฟินใน EFM FANDOM LIVE

รายการ EFM FANDOM LIVE [24 เมษายน 68] คืนนี้ต้อนรับ “มาร์ค - โอม” จากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดฮอต “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS"ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ไม่ใช่ยาเม็ด ไม่ใช่ยาน้ำ แต่เป็นยาใจ การค้นพบ MarkOhm คือเรื่องราวดีๆในชีวิต “MarkOhm เหมือนยาวิเศษ”รู้ตัวอีกที MarkOhm ก็เป็นเหตุผลหลักของความสุขไปแล้ว “เธอทำให้ฉันยิ้มได้”ในวันที่เหนื่อยล้า ต้องการฮีลใจ แค่ได้ดูคอนเทนต์ ทั้งคู่ก็เหมือนได้บูสความสุขขึ้นมาใหม่ “MarkOhm คือคนที่รักษาใจฉันดีที่สุดเลย” ขอบคุณทั้งคู่ที่ตั้งใจกับทุกๆอย่างที่ทำ อยากบอกว่าเห็นเสมอและจะคอย support อยู่ข้างหลัง มองดูทั้งคู่ค่อยๆเติบโตและเดินเคียงข้างกันบนเส้นทางนี้นะLetter #1: This letter is titled... Neither a pill nor a liquid remedy, but a potion for the soul. Discovering MarkOhm has been a wonderful journey in my life. "MarkOhm feels like a magic remedy." Before I knew it, you became a huge source of my joy. "You bring smile to my face" On a day when I was feeling drained and needed some emotional recovery, just watching your content lifted my spirits. "MarkOhm truly has a unique way of mending my heart." I'm grateful to both of you for pouring your hearts into everything you create. I want you to know that I notice all your efforts and will always be here to support you. I’m excited to see you grow, and I look forward to walking alongside you on this journey.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า...ตะล๊อกต๊อกแต๊กมาทำไม มาทำไม ก็มาบอกความในใจถึงคุณไง อยากบอก พี่มาร์ค กับ พี่โอม ว่าเก่งมาก ขอบคุณที่มารับบทเป็นหมอเจย์ น้องซองต์ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เป็นซีรีส์ฟีลกู๊ดที่ชอบมากเลย ตั้งตารอตั้งแต่เปิดกล้องจนตอนนี้ได้ออนแล้ว ภูมิใจในตัวพวกพี่มาก ๆ เลย หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้พวกพี่ได้รับความรักเพิ่มขึ้นไปอีก วันศุกร์มันสดใสอยู่แล้วที่จะได้พักผ่อน แต่พวกพี่สามารถทำให้มันสดใสขึ้นได้ไปอีก ขอบคุณที่มาช่วยเติมพลังให้กับชีวิต เป็นเหมือนยาวิเศษจริง ๆ รักนะคะLetter #2: This letter is titled...What's brought me here? I’m here to share my feelings with you. I just want to say to P'Mark and P'Ohm that you both areamazing. Thank you for stepping into the roles of Dr. Jay and N' Sant—you’re truly the perfect fit. This series brings me so much joy, and I've been eagerly waiting for it since filming began, right up until it started airing. I’m so proud of both of you. I really hope this series brings you even more love and appreciation. Fridays were already lovely for some downtime, but you both make them even more special. Thanks for bringing such positivity into my life; it feels like a miracle. Much love to you both!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ตั้งแต่วันเปิดตัวว่า มาร์ค - โอม จะได้เป็นพาร์ทเนอร์กัน เราดีใจมาก นี่มันคู่ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด เคมีที่เข้ากันขนาดนี้ ใครจะเอามาร์คอยู่เท่าน้องโอม และใครจะปราบเด็กดื้อแบบน้องโอมได้เท่ามาร์ค ดีใจที่ได้ซัพพอร์ตทั้งสองคน เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ รอดูความสำเร็จอยู่เสมอ หวังว่า จดหมายที่แฟน(คลับ)ส่วนใหญ่แนะนำ ฉบับนี้จะสร้างรอยยิ้มให้กับมาร์คโอม เหมือนกับ “แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ” คอยสร้างรอยยิ้มให้กับเรานะLetter #3: This letter is titled...Letters that are highly suggested by the majority of fans (club). From the moment it was revealed that Mark and Ohm would become partners, our excitement has been undeniable. They truly complement each other perfectly. With their exceptional chemistry, who else can manage Mark better than Ohm? And who can handle the stubbornness of Ohm quite like Mark can? We’re excited to cheer for both of them and can’t wait to see what they achieve. I hope this letter, which comes highly recommended by many fans, will make Mark Ohm smile, just as the 'fans endorsed by most dentists' never fail to brighten our day.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... จากฉันคนนี้ ถึง พวกเธอคนโปรด จากวันแรกถึงวันนี้ จากที่เห็นเธอยืนอยู่มุมๆบนเวที จนวันนี้มายืนตรงกลางให้เห็นชัดๆแล้ว ภูมิใจและดีใจมากที่ได้อยู่เห็นทุกความสำเร็จ ได้เห็นมาร์คและโอมในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด เป็นเวอร์ชั่นที่เติบโตอย่างมั่นคงทั้งกายและใจ เก่งมาก ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่ฉันเชื่อมั่นในพวกเธอเสมอ ดีใจที่ได้รู้จักกันนะ ขอบคุณที่ทำให้ประโยคที่ว่า 'รักเธอไม่เคยเสียใจเลยสักวัน' มันไม่เคยเกินจริงเลยเมื่อได้รู้จักมาร์คโอมLetter #4: This letter is titled... From me to those who mean the most to me. From the very beginning until now, watching you go from standing on the corner of the stage to today standing in the middle and clearly visible. I've witnessed all your successes and seen Mark and Ohm become the best versions of themselves, both physically and mentally. You all have such incredible talent. Always believe in yourselves, just as I believe in you both. It's been a pleasure getting to know you. Thank you for making the phrase 'I love you and have never been sad even once' feel completely true since I met Mark and Ohm.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... แด่มาร์คโอม คนที่ฉันอยากจะปกป้องและดูแลให้ดี นี่คือความรู้สึกภายในใจที่ไม่เคยได้บอกพวกเธอไป ทุกครั้งที่พวกเธอขอบคุณแฟนคลับ อยากจะบอกว่าความอบอุ่นที่ได้รับจากพวกเธอ รอยยิ้มของพวกเธอ มันสามารถแทนคำขอบคุณทั้งหมดที่มีให้กันได้แล้ว ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธออยู่ในจุดที่ฉันสามารถมองเห็นได้อยู่เสมอ โลกของฉันมันดีกว่าเดิมเพราะการมีอยู่ของพวกเธอจริงๆ ฉันจะปกป้องพร้อมดูแลคนที่ฉันรักอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเป็นตัวเองที่มีความสุขในทุกวันได้เลยนะLetter #5: This letter is titled... For Mark Ohm, the one I want to look after and keep safe. I’ve never shared these emotions with you before. Whenever you express your appreciation to your fans, I feel like I want to convey that the kindness and smiles I get from you mean more to me than any thanks I could give. Honestly, I should be the one expressing my gratitude for your constant support. I really appreciate that you're always around for me to notice. You truly make my life brighter just by being in it. I promise to cherish and look after those I love as best as I can, so just be yourself and find joy each day.ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE เราจะมาพูดคุยกับ “มาร์ค - โอม” กันจะเกิดอะไรขึ้นถ้า มาร์ค - โอม - ปูน - บุ๊ค - จูเนียร์ - เต ตะวัน อยู่ด้วยกัน! มาร์ค : มันก็จะเป็น สิ่งที่มีแต่ผู้พูด ไม่มีพูดฟัง และผมเชื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ผมก็จะเป็นคนฟัง แล้วจะพยายามหาช่องแทรกเรื่อยๆ โอม : พี่เต พี่จูเนียร์ จะเป็นตัวนำ มาร์ค : และปูนจะเป็นคนที่ออนตลอดเวลา คือจะพูดไปเรื่อยๆ ไม่หยุด โอม : เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่พูดไปก่อน ส่วนผมจะเป็นตัวเสริม ใครเริ่มชนะ ผมจะอยู่กับคนนั้นที่ 1 ของการเมาท์แฟ่ด! มาร์ค : ถ้ามีแค่ในแก๊งนั้น ผมว่าเป็นปูด ปูนคือคำนิยามง่ายๆ ของคำว่าพูดจนลิงหลับได้ โอม : ผมว่าพี่เต พี่เตเขาพูดไปเรื่อย แต่พี่ปูนเขาพูดไม่รู้เรื่อง มาร์ค : เขาพูดไปเรื่อยจริงๆ เขาเหมือนใช้ชีวิตแบบการ์ตูนหน่อยๆ รีแอคก็จะเป็นการ์ตูน โอม : เหมือนสั่งคัดเขาจะยังอยู่ในเรื่องอยู่ ทุกการกระทำของเขามันจะดูเป็นการ์ตูนไปหมด แม้กระทั้งตอนที่เราถ่ายซีรีส์ด้วยกัน เขาเป็นคนที่คุยกับไก่ คุยกับสุนัข คุยกับตัวเอง คุยไปเรื่อยดีเจมือใหม่ กับการส่งเข้าเพลง Mr.Romantic แบบใหม่ มาร์ค : บทเพลงต่อไป เป็นหนึ่งเพลงที่ ผมคิดว่ามันดีต่อใครหลายๆ คน สำหรับคนที่มีคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแฟน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ พี่ป้าน้าอา หรือใครก็ได้ที่คุณรู้สึกว่า คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณ แล้วเพลงนี้เป็นตัวแทนของคนที่คลั่งรักคนๆ หนึ่งมากๆ เพลงนี้มีชื่อว่า Mr.Romantic อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังดูนะครับ โอม : อย่างที่พี่มาร์คบอก เพลงนี้มันสำหรับคนที่มีความรักให้กันแบบ full feel เพลงนี้มันเป็นเพลงที่ดี ถึงนักร้องจะไม่ดีมาก แต่ผมอยากให้ทุกคนติดตาม เป็นซิงเกิ้ลแรกของนักร้องคนนี้ เป็นนักร้องหน้าใหม่ ไฟแรง ซึ่งจะเป็นยังไง อยากให้ทุคนลองไปฟังกันดูครับสปอย ซีรีส์ Sweet Tooth ,Good Dentist EP ต่อไปแบบกรุบกริบ… มาร์ค : สปอยตามตัวอย่างที่ปล่อยไปละกัน คือจะมีตัวละครใหม่เข้ามาชื่อว่า กัปตัน เล่นโดยพี่หมอจิมมี่ ตัวละครนี้จะเป็นตัวที่เข้ามาขับเคลื่อนทุกความสัมพันธ์เลย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเจกับซองต์ และจะเข้ามาแข่งกันจีบซองต์ เส้นเรื่องที่เป็นตัวละครเจ ก็จะบอกอะไรมากขึ้นจากตัวกัปตันด้วย โอม : ใช่ เหมือนตัวละครกัปตันเข้ามา เป็นไดนาไมท์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครขับเคลื่อนเร็วขึ้น ทั้งตัวเจซองต์ ทั้งกัปตันมาร์ค กับ หมอเจ ความขี้หึงที่แตกต่าง มาร์ค : คือถ้าเจหึง มันดูชัดว่าหึง คือเจจะตามไปทุกที่ แต่ตัวผม ไม่ ผมจะปล่อย เพราะผมรู้สึกว่าอาการหึง มันคือความเชื่อใจ หมายความว่าไม่ต้องให้เราไปกีดกันหรือตามไปทุกที่ ทุกสิ่งเขาทำ ถ้าเขาทำให้เราสบายใจ เชื่อใจ ถ้าเขาซื่อสัตย์กับเรา ฉะนั้นเราไม่ต้องไปตามหึงอะไรเลย แต่ถ้าเขาจะไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเขาจะทำอะไรลับหลังเรา ต่อให้มี 108 วิธี ที่เราไปตามเขา ยังไงเขาก็จะหักหลังเราอยู่ดีจะหึง หรือ โดนหึง แต่ความสัมพันธ์ ต้องมีพื้นที่ให้กัน… โอม : ถ้า ณ ปัจจุบัน โอมคิดว่าโอมไม่ใช่คนขี้หึง แต่มันก็เคยมีช่วงที่ผ่านมา เราเป็นคนที่ขี้หึงมาก เราต้องอยากรู้ตลอดว่าเขาทำอะไรอยู่ เขาอยู่ที่ไหน ทำไมไม่บอกกันเลย พอมันโตมาเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่า 1 เลย เหมือนที่พี่มาร์คบอก มันคือการให้เกียรติกัน แล้วอย่างที่ 2 มันคือการให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน คนสองคนเรามาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันอยู่Workshop กับการเตรียมตัวเป็นหมอเจ มาร์ค : จริงๆ ตอนที่ว้าวอย่างแรกเลยคือการสวมใส่อุปกรณ์ ตอนแรกผมเห็นอุปกรณ์ มีถุงมือ ที่คลุมผม มีแมส ผมก็หยิบใส่แบบปกติ แต่จริงๆ มันมีลำดับขั้นตอน ทั้งหยิบใส่แล้วก็ถอด ถุงมือต้องใส่เป็นสิ่งสุดท้าย ต้องใส่แมส ใส่ที่คลุมผมให้เสร็จ แล้วค่อยใส่ถุงมือ เพราะเราต้องรักษาความสะอาด ไม่ใช่เราใส่ถุงมือก่อนแล้วไปใส่แมส มาจับผมตัวเองมันไม่ได้ เวลาถอดก็ถอดถุงมือออกก่อนได้เลย โอม : ทุกครั้งก็จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อยู่หน้าเซตจริงๆ ค่อยกำกับว่าควรทำยังไงก่อน ถ้าผิดเขาจะให้ถ่ายใหม่หมดเลยถึง“ซองต์” จะสู้ชีวิต แต่ “โอม” คือลูกคุณที่แท้จริง โอม : จริงๆ ไม่ขนาดนั้น แต่เหมือนตัวละครซองต์ เป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็เป็นคนที่คอยหาเงิน ทำงาน ทั้งดูแลยาย ดูแลหลาน เป็นเดอะแบก รวมถึงต้องดูแลชีวิตตัวเองด้วย ซึ่งโอมในชีวิตจริง โอมเป็นลูกคนเล็กมีพี่ชาย 2 คน แล้วมีพ่อแม่ ลูกคนเล็กพ่อแม่ก็จะตามใจ เวลาไปขออะไรพี่ชายก็จะให้ก่อน ซึ่งตรงนี้มันยากสำหรับโอม ที่เราไม่เข้าใจว่าการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมันเป็นยังไง ความรู้สึกที่มันต้องมีภาระมันเป็นยังไงความห่วงใยจากทันตแพทย์ ถึงแฟนๆ ทางบ้าน มาร์ค : ก็แปรงฟันให้ถูกวิธี มันจะมีคำหนึ่งที่หมอเจเคยพูดไว้ว่า ฟันเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาตั้งแต่กำเนิด คุณก็ควรดูแลรักษาให้ดีที่สุด บางคนคิดว่าเป็นอะไรนิดนึงก็ถอนทิ้งไปเลย มันไม่ใช่ จริงๆ เราควรรักษาให้ถึงที่สุด ที่เริ่มต้นง่ายๆ เลย คือการแปรงฝันให้ถูกวิธี ซึ่งจริงๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังทำไม่ค่อยได้ มันเหมือนง่าย แต่มันยาก โอม : ก็ต้องไปพบหมอตามที่หมอนัด เหมือนโอมเคยไม่ไปตามที่หมอนัดแล้วก็ลืมไปเลย และมันก็มีซีนที่ต้องส่องกล้องไปที่ฟันจริงๆ แล้วพี่มาร์คก็บอกว่า “โอม มึงนี่หินปูเยอะเหมือนกันนะ”หมอไม่ดุ แต่ฟันผุ ไม่สนุกน้าา มาร์ค : ในฐานะนักแสดงที่ผมเล่นเป็นทันตแพทย์ ผมรู้สึกว่าการดูแลรักษาช่องปากตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อาจก่อให้เกิดหลายๆ โรค วิธีง่ายๆ ในการดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน คือ การแปรงฟันให้ถูกวิธี ถ้าให้ดี คือแปรงทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ผมรู้สึกว่านั้นเป็นสิ่งที่โอเคแล้ว หรือบ้วนน้ำยาบ้วนปากอะไรอย่างเงี้ย โอม : ใครกลัวหมอฟัน ก็แค่แปรงฟันให้สะอาด ดูแลเหงือกของเราให้ดี กินของหวานตอนดึกได้ แต่ต้องแปรงฝันก่อนนอนด้วยนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “มาร์ค - โอม” เล่นกัน! ชื่อเกมว่า... จุดจุดจุด ที่ มาร์คโอม แนะนำ(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆให้ “มาร์ค - โอม” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “มาร์ค - โอม” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ แฟนที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ Sweet Tooth, Good Dentist ทุกวันศุกร์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น และฝากเพลง OST.ของซีรีส์จากทั้งสองหนุ่มด้วยน้าสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

EFM FANDOM LIVE เปิดสตูดิโอต้อนรับ “พูห์ – พาเวล” มาพร้อมซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จ จนต้องเพิ่มซีซั่นกันอย่างต่อเนื่อง กับ PIT BABE The Series 2 ที่แฟนๆได้ดูแล้วคุ้มค่าแน่นอน

09 มิ.ย. 2025

EFM FANDOM LIVE เปิดสตูดิโอต้อนรับ “พูห์ – พาเวล” มาพร้อมซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จ จนต้องเพิ่มซีซั่นกันอย่างต่อเนื่อง กับ PIT BABE The Series 2 ที่แฟนๆได้ดูแล้วคุ้มค่าแน่นอน

รายการ EFM FANDOM LIVE [22 พฤษภาคม 68] คืนนี้ต้อนรับ “พูห์ - พาเวล” ที่มาเสิร์ฟความฟินส่งท้ายซีรีส์ “PitBabe The Series 2” พร้อมพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจแนน” และ “ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมายความในใจจากแฟน ๆ สุดน่ารักที่อยากจะบอกศิลปิน และถูกเลือกมาใน “EFM FANDOM LOVE LETTERS”จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ถึง "คุณความรัก" ของ BabeHoopers ถึง พูห์ - พาเวล ขอให้ทั้งสองถูกโอบกอดด้วยความรัก อย่าแตกสลายไปเพราะใครเลยระหว่างการเติบโต พูห์พาเวลคือรอยยิ้มและความสุขของแฟนคลับ ทุกการเติบโตจะมีพวกเราเสมอ รู้สึกว่าการได้รัก ได้ค้นพบพูห์พาเวลนับว่าเป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ รู้แหละว่ากว่าจะมีวันนี้มันไม่ง่าย ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้จนได้เจอกับพูห์พาเวลที่น่ารักกับแฟนคลับเสมอ เพราะแบบนั้นถึงอยากตั้งใจรักให้ดีที่สุด I stay with you till I canLetter #1: This letter is titled... To "Adoration" by BabeHoopers Dear Pooh and Pavel, I hope you both feel surrounded by love. Never let anyone bring you down as you continue to grow. You both bring so much joy and happiness to your fans. We’ll always be here to support you as you develop. It means a lot to me to love and have found you both. I know it hasn’t been easy to get to this point, so thank you for persevering until I had the chance to meet you, who are always kind and present for the fans. That’s why I want to give you both my love wholeheartedly. I’ll be right here with you as long as I can.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... I am so proud of you. Today tomorrow. “ภูมิใจในตัวพูห์และพาเวลมากนะ ไม่ใช่แค่วันนี้…แต่ทุกวัน และตลอดไป” เป็นความรู้สึกที่มีให้ตลอดมาตั้งแต่วันแรกที่บังเอิญพบ จนถึงวันนี้ที่ตั้งใจรักอย่างดี เรารับรู้ถึงความตั้งใจ มุ่งมั่นและพยายามสำหรับทุกๆก้าวเดินนั่นทำให้เราหลงรักพวกเธอ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะพบวันที่ยิ้มได้หรือวันที่เหนื่อยล้าก็ขอให้ยังเชื่อมั่นในตัวเองและดูแลหัวใจตัวเองให้ดีเพราะนั่นคือหัวใจแฟนคลับเช่นกัน รักทั้งสองคนน้าาLetter #2: This letter is titled... I am so proud of you. Today tomorrow. "I'm incredibly proud of Pooh and Pavel, not just today, but every single day and for all time." This feeling has filled my heart since the first moment I randomly crossed paths with them. My love for them has only grown deeper since then. We can truly see their determination and hard work in everything they do, which makes us admire them even more. So, on the days when you're smiling or feeling worn out, remember to believe in yourselves and take care of your hearts, as they also hold the love of your fans. Love you both!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... อำนวยอวยชัย พูห์พาเวลไกลเกินเอื้อม สวัสดีพี่ๆน้องๆทุกคนที่อยู่ที่นี่ ตามชื่อจดหมาย ด้วยความฝันต่างๆมากมายจนมาถึงนักแสดงของทั้งสองคน มันไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจุดตรงนี้ได้ ก็อยากให้ทั้งสองคนมีแต่คนรักและเอ็นดูพวกเราเสมอ ตั้งใจทำงานพยายามให้เต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะยากหรือต้องแลกบางอย่างไป ก็อยากให้เป็นแรงผลักดันที่ดีในหน้าที่การงานและธุรกิจของทั้งสองคน ขอบคุณพี่พูห์ที่เป็นความสดใสให้พี่พาเวล และขอบคุณพี่พาเวลที่คอยแนะพูห์มาเสมอ รักนะคะ♡Letter #3: This letter is titled... Pooh Pavel's blessing is out of reach. Hey everyone, it’s great to see all of us gathered here. As the letter suggests, we all share many dreams of becoming actors, and getting to this stage hasn’t been easy. I truly wish for both of them to be surrounded by love and support. Keep pushing yourselves and giving it your all, even when things get tough or require some sacrifices. I hope this drives both of their careers and businesses forward. A big thank you to Pooh for being such a shining light for P'Pavel, and to P'Pavel for always offering your wisdom to Pooh. Love you both! ♡จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... ถึงไม่ใช่รักแรก แต่เป็นครั้งแรกที่รักมาก สวัสดีนะครับคุณความรักของเราทั้งสองคน ดีใจที่ได้มีโอกาสค้นพบและได้มาเป็นแฟนคลับของ พูห์ - พาเวล นะครับ การได้รักทั้งสองคนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นแรงใจสำคัญสำหรับแฟนคลับแบบเรามากเลย ขอบคุณทุกความพยายาม ทุ่มเท ความตั้งใจในทุกๆผลงานเลยนะครับ เก่งกันมากเลยนะ ขอบคุณที่ appreciate การมีอยู่ของแฟนคลับอยู่เสมอ ขอให้ทั้งพูห์และพาเวลถูกโอบกอดด้วยความรักในทุกวัน กินอิ่มๆนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ เติบโตไปด้วยกันนะครับLetter #4: This letter is titled... While it may not have been my first crush, it was the first time I truly experienced deep love. Hi there, our dear Pooh and Pavel. I'm really happy to have the opportunity to get to know and support Pooh and Pavel. Loving both of you gives us so much strength and motivation. I truly appreciate all the hard work, commitment, and passion you put into everything you do. You’re incredibly talented. Thank you for always recognizing the importance of your fans. I hope both Pooh and Pavel are surrounded by love every day, enjoy good meals, get plenty of rest, and continue to grow together.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... รักเธอจนลืมหายใจ แต่ไม่ลืมเปย์เธอแน่นวลลล ถึง พูห์ - พาเวล ที่รักยิ่ง รู้มั้ยว่าเธอคือ notification เดียวที่ทำให้ใจเราต้นแรงเวลาเรื่องเธอเด้งขึ้นมา เราหลงรักพูห์พาเวลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักจนตอนนี้ heartbeat เราก็ไม่ได้ลดลงเลยเวลาเห็นพวกนาย อยากบอกว่าพูห์พาเวลคือแหล่งกำเนิดพลังในหัวใจของเรานะ โชคดีที่โลกนี้มีคนสวยขาและสามีของเค้า โชคดีที่ได้รู้จักกัน ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราลุกขึ้นสู้ในทุกวัน พูห์พาเวล คือ safe zone ของเรานะLetter #5: This letter is titled... I care about you deeply—it takes my breath away, but I’ll always remember to pay for you. Dear Pooh - Pavel, you’re the only alert that truly makes my heart race whenever you appear. From the very first moment I met you, I fell in love, and every time I see you, my heartbeat stays just as quick. I want to express how much you mean to me; you are my source of strength. I feel incredibly fortunate to have such a wonderful woman and her husband in my life. Meeting you has been a true blessing. Thank you for motivating me to rise and face each day. You are my safe haven.มาถึงช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE กันแล้วต้อนรับ 2 หนุ่ม “พูห์ - พาเวล” มาพูดคุย เม้าท์มอยกันเลยยหลังจากรับรางวัล EFM FANDOM AWARDS ก็ได้รับรางวัลนาฏราชต่อเนื่อง พูห์/พาเวล : ได้เข้าชิงรางวัลนาฏราช พาเวล : ถือว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ละกัน พูห์ : เป็นรางวัลที่บิ๊กบึ้มที่สุดที่เราเคยไปเข้าชิง เพราะในงานนี้มีแต่ตัวท็อปทั้งนั้น แล้วเป็นการโหวตจากทั่วทั้งวงการ พาเวล : ถือว่าเรายังอยู่ในสายตาของพวกเขา ขอบคุณนะครับ พูห์ : ขอบคุณครับเพิ่งผ่านวันเกิด “พาเวล” มาไม่กี่วัน คำอธิฐานในวัยอายุ 28 ปีคือ... พาเวล : เอาจริงก็มีนะ เพราะปีที่แล้วที่เราทำ PitBabe The Series มา เราก็เหมือนคาดหวังแบบไม่คาดหวังมาก ทำให้ดีที่สุดแหละ แต่พอเราได้รับโอกาสได้ทำ PitBabe The Series 2 และมีซีรีส์ “สิงสาลาตาย” ด้วย ก็อยากให้ตัวเองได้เดินทางไปอีกก้าวนึง ไปกับน้องพูห์ หรือไปกับเพื่อนๆ PitBabe ตอนนี้ทุกคนก็แตกแยกกันไปทำโปรเจกต์ อยากให้แก๊งค์เราปังๆไปเลย พูห์ : อยากให้พี่เขาสมหวังตามที่พี่เขาคิด ในทุกๆเรื่อง เพราะปีนี้เราต้องอยู่ด้วยกันอีกยาวนาน ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกผมอายุ 19 จนตอนนี้กำลังจะอายุ 22 ในไม่กี่เดือนข้างหน้าขอบคุณ “พี่พาเวล” ที่สอน “น้องพูห์” เติบโตมาอย่างดี พาเวล : ผมเคยพูดหลายรอบแล้ว PitBabe เป็นเฮือกสุดท้ายของผม เพราะตอนนั้นเหมือนจะล้มเลิกแล้ว ทั้งโควิด ทั้งเคยผิดหวังมา แต่พอได้รับโอกาสจากพี่ฉอด ผมก็ใส่อย่างเต็มที่ สุดท้ายผลก็ออกมาแบบนี้ มันดีมากๆPIT BABE The Series 2 มีอะไรใหม่ๆให้ทุกคนได้ติดตามชมแน่นอน พูห์ : ซีซั่น 2 นี้ นอกจากพวกผมก็ยังมีตัวละครใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัวละคร ซึ่งเป็นตัวสร้างปัญหาให้เรา คนนั้นเขาชื่อ วิลลี่ เขาชอบมาทำให้คู่เราแตกแยก พาเวล : คู่เรากำลังรักกันดี เขาเหมือนกลับมาสร้างเรื่อง ความร้าวฉาน ส่งคนเข้ามาเราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ต้องรอดู รอติดตามดูแฟนๆส่งจดหมายให้ 2 หนุ่ม กว่า 100 ฉบับคราวนี้ถึงเวลาแล้ว... ที่ “พูห์ – พาเวล” จะเขียนจดหมายถึงพวกคุณทุกคนบ้างที่มาของยาสลายทักษะในซีรีส์ พูห์ : ในซีซั่น 1 เกิดเรื่องราว ปัญหามากมาย เพราะว่าโทนี่เขาต้องการคนมีพลัง มีทักษะไปประมูลขาย แล้วพลังของแต่ละคนเกิดมามันไม่สามารถควบคุมได้ ไม่มีทางเลือกในชีวิตตัวเอง เราก็เลยสร้างยาสลายทักษะ เพราะว่าเขาจะได้สามารถเลือกทางเดินในชีวิตตัวเองได้ และป้องกันไม่ให้คนอย่างโทนี่เอาไปขายด้วย ซึ่งอีกฝั่งนึงเขาตรงข้ามกับเรา พาเวล : ต้องไปรอลุ้นดูว่าเขาทำอะไรกันอยู่ถ้าชีวิตจริงมียาสลายทักษะ “พูห์ - พาเวล” อยากเอามาใช้สลาย... พูห์ : สลายความง่วง เพราะเราจะได้ไม่ง่วงเลยตลอดเวลา ผมนอนได้ตลอด แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็นอนได้ zzZZ พาเวล : ผมขอสลายโรคภัยแล้วกัน ความป่วย โรคภัยใดๆเอาออกไปให้หมด ให้ทุกคนอยู่ไปเลยแบบแวมไพร์ความท้าทายของบทซีซั่น 2 ที่จะไม่เหมือนกับซีซั่นแรก พูห์ : บทค่อนข้างเข้มข้น ลึกซึ้งในตัวบทมากขึ้น เพราะแต่ละตัวละครเขาก็จะมีการโตขึ้น มีพัฒนาการการเข้ามารับคาแรคเตอร์ในซีซั่น 2 เพื่อให้มันมีความแตกต่างจากซีซั่น 1 พาเวล : ส่วนผมคงเป็นการหามุมใหม่ๆ ของตัวละครเดิมที่เราอาจจะไม่เคยเห็นในซีซั่นแรก เราจะพรีเซนต์ออกมายังไงให้แฟนๆเขาได้เห็นอีกมุมนึง แล้วทำไมเขาถึงต้องเป็นแบบนั้น ทั้งโปรดักชั่นและการแสดงเลย ตอนแรกเราได้เห็นบทแล้ว เราก็คิดว่าซีซั่นนี้เขาจะมีพลังวิเศษ วิจัยอะไรมากขึ้น ก็อาจจะลดการแข่งรถน้อยลง แต่ความจริงไม่เลย เท่าเดิม หรือยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ พูห์ : มีการเปลี่ยนรูปแบบการแข่งรถด้วย แบบสตรีท สนามมีหลายโซนมากขึ้น ตอนถ่ายทำนี่คือถ่ายกันแบบขับรถตามกัน ทำให้มันสมจริงมากที่สุด แฟนๆได้ดูก็คือคุ้มแน่นอน เหมือนได้ลงไปแข่งเอง พาเวล : อุปกรณ์กล้องก็เปลี่ยนใหม่หมด ทั้งมุมกล้อง อุปกรณ์กล้องเป็นแบบใหม่หมดเลย ไม่มีกล้องนิ่งเลย แบบเดินได้ตลอด เดินได้ทุกที่เป็นการถ่ายทำ 3 เดือนที่หนักโคตรๆ พูห์/พาเวล : ถ่ายกันประมาณ 3 เดือนได้ พาเวล : ถือว่าหนักอยู่นะ หนักกว่าซีซั่นแรกอีก ตอนนั้นเหมือนมีเวลาให้มากกว่า พูห์ : ตอนนี้เหมือนมีงานอย่างอื่นด้วย เราทำหลายอย่างพร้อมกัน ถึงแม้จะออกงาน แต่ก็ยังว่างนะครับ ยังจ้างได้เพิ่มเดินทางเข้าสู่ EP.4 พร้อมวิเคราะห์เหตุผลที่ตัวละคร “วิลลี่” เข้าหา “เบ๊บ” พาเวล : เท่าที่ดู เขาอาจจะเข้าหาเบ๊บเพื่อไปหาชาลีหรือเปล่า? อีกมุมนึงก็เป็นไปได้ หรือเข้าหาเบ๊บเลยแล้วต้องการอะไรบางอย่าง เพื่อต้องการให้ชีวิตของเบ๊บชาลีพังลง หรือเขาถูกส่งมาจากโทนี่หรือเปล่า มันมีพิรุธเพราะโทนี่พูดว่า ได้ส่งใครบางคนเข้าไป พูห์ : แต่ในฐานะคนดูนี่... มัมหมีผมจะพาชาลีกลับบ้านหมดแล้วนะ เขาจะพาหนีคุณ เพราะคุณเบ๊บไปอยู่กับคุณวิลลี่ พาเวล : เขาจะพาไปเมื่อไร บอกนะ จะได้ช่วยแพ็คกระเป๋า555ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็ได้ชวน “พูห์ - พาเวล” มาเล่นเกมไปด้วยกันชื่อเกมว่า “อ่านคำเตือนในฉลากก่อนใช้ยา” (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) เข้าสู่ช่วงสุดท้าย ทางรายการส่งต่อความสุขด้วยการสานฝันให้ “พูห์ - พาเวล” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “พูห์ - พาเวล” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน และเสียงหัวเราะไปกับเรา และฝากซีรีส์ "PIT BABE The Series 2" ทางช่องวัน 31 ทุกวันศุกร์ เวลา 22:15 น. และดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 23.15 น. บนแอปฯ iQIYI ฝากเพลง LEVEL UP จากหนุ่มๆ PIT BABE และฝาก Photo Book ของ PITBABE กำลังจะเปิดพรีออเดอร์แล้วน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟินและความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก ซิงเกิลคัมแบคของ 10 หนุ่ม “DICE” แต่พี่ “PRIZE” พิสูจน์แล้ว ยิ่งคบ ยิ่งรักน้องไดซ์ที่สุด~~ พร้อมเล่นเกมสนุกสนานกันใน EFM FANDOM LIVE

20 พ.ค. 2025

ยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก ซิงเกิลคัมแบคของ 10 หนุ่ม “DICE” แต่พี่ “PRIZE” พิสูจน์แล้ว ยิ่งคบ ยิ่งรักน้องไดซ์ที่สุด~~ พร้อมเล่นเกมสนุกสนานกันใน EFM FANDOM LIVE

รายการ EFM FANDOM LIVE [1 พฤษภาคม 68] คืนนี้ต้อนรับหนุ่ม ๆ วง “DICE” ที่มาพร้อมกับผลงานการคัมแบค แบบสด ๆ ร้อน ๆ “ยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก” และพูดคุยเม้าท์มอยกับ “ดีเจแนน” และ “ดีเจโซเซฟ”ในช่วงเปิดรายการ ดีเจแนนและดีเจเซฟ อ่านจดหมายทั้ง 5 ฉบับของ PRIZEที่เขียนแสดงความรักถึงศิลปิน และถูกเลือกมาอ่านในช่วง “EFM FANDOM LOVE LETTER”จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า… ยิ่งพบยิ่งรัก DICE จากพี่ PRIZE ถึงเด็กๆ ซิงเกิลที่ 7 ว่าไว้ ยิ่งคบยิ่งไม่รัก แต่ยิ่งพบยิ่งเจอยิ่งรู้จักก็ยิ่งรักไดซ์หมดทั้งใจ มากกว่า 1 ปีที่เติบโตมาด้วยกัน ไดซ์เป็นอีกหนึ่งความผูกพันในชีวิตที่อยากรักษาไว้ตลอด เป็นความรักที่อยู่รอบตัวไม่ห่าง คอยถามไถ่เป็นห่วงเป็นใย และทุ่มเทพยายามทุกวัน เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุดให้ได้ชื่นชม รักน้องไดซ์แล้วได้ความรักกลับมาพันเท่า รักแล้วก็อยากรักตัวเองมากขึ้น จะได้มีใจไปรักน้องไดซ์อีกเยอะๆ รักมากนะเด็กๆLetter #1: This letter is titled... The more we discover, the greater our admiration for DICE grows, from PRIZE to each and every one of you. The seventh single expresses that the longer we’re together, the less our love seems to grow. However, the more I spend time with you and get to know you, the deeper my love for DICE becomes. Over the past year of growing together, DICE has become a vital part of my life that I want to hold onto forever. This love surrounds us, always showing interest in us, caring, and putting in the effort daily to create something truly special for us to appreciate. My love for DICE is immense, and I feel that love returned many times over. I want to cherish and love myself more so that I can fully embrace my love for DICE even deeper. I care about you so much.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า… กระถางต้นรักของไดซ์ ถ้าเปรียบเส้นทางการเป็นศิลปินของ DICE เป็นการปลูกต้นรัก PRIZE อยากให้ DICE รู้ว่าทุกการเติบโต มีระยะเวลา มีปัจจัยหลายสิ่ง แต่อยากให้ DICE เชื่อมั่นในการเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีและมีคุณค่า PRIZE จะอยู่เป็นดินหล่อเลี้ยง คอยเก็บสะสมน้ำให้ DICE ชุ่มชื่นใจ เป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงใจ แล้วในวันที่ฟ้าสดใส DICE จะผลิดอกออกใบได้อย่างสวยงาม กระถางใบนี้ค่อยๆใหญ่ขึ้นทุกๆวันนะเพราะเรารู้ว่าต้นรักต้นนี้จะเติบใหญ่และสวยงามเสมอLetter #2: This letter is titled... DICE's love tree pot If we think of DICE's journey to becoming an artist like planting a 'love tree', PRIZE wants to remind DICE that every stage of growth takes time and is influenced by many elements. We hope DICE will recognize the importance of being a strong and valuable seed. PRIZE will act as the rich soil, gathering water to keep DICE refreshed and providing the nutrients needed to nurture the spirit. As the days go by, DICE will bloom with stunning flowers and vibrant leaves. This pot is growing larger each day because we believe that this love tree will always flourish beautifully.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า… การเป็นศิลปินคือฝันของแก การเห็นแกเป็นศิลปินคือฝันของฉัน ไดซ์ เป็นแค่เด็กกลุ่มนึงที่วิ่งตามหาความฝัน เราคอยมองหาและติดตามตั้งแต่ในรายการจนเดบิวต์ จำวินาทีที่ประกาศวันเดได้เลย นี่รู้สึกเหมือนฝันไป แกรู้มั้ยว่านอกจากฝันของพวกแกจะเป็นจริงแล้ว ฝันของเราก็เป็นจริงเหมือนกัน เห็นพวกแกยืนอยู่ในแสงที่เรามองเห็น เราภูมิใจและดีใจที่สุดในโลก ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้และทำมันสำเร็จไปด้วยกัน ขอบคุณที่คอยเปล่งแสงสว่างให้กับตัวเองและยืนโดดเด่นให้เรามองเห็น นี่รักพวกแกมากนะLetter #3: This letter is titled... Your dream is to be an artist, and watching you achieve that dream is mine. DICE is simply a group of kids pursuing their dreams. We’ve been following their journey from the very beginning until they finally debuted. I still remember the moment when they announced their debut date—it felt surreal. It's amazing to think that not just their dreams came true, but ours did too. Watching them shine and make it all happen brings us so much joy and pride. Thank you for persevering and achieving this together. Your light makes all the difference, and I just want you to know how much I adore you all.จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า… DICE ทำให้ PRIZE กล้าฝัน น้องไดซ์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรากล้าทำตามความฝันที่ไม่ค่อยกล้าทำ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งได้ติดตาม DICE แล้วเห็นความพยายาม เห็นพัฒนาการของน้อง ๆ ทำให้เราอยากที่จะสู้ต่อเหมือนกัน ไดซ์ทำให้รู้สึกว่ามีเพื่อนเดินทางไปด้วยกัน อย่างที่ไดซ์บอก ไม่ว่าก้าวนั้นจะสั้นขนาดไหน ก็เป็นก้าวที่ไปข้างหน้าเหมือนกัน เมื่อคิดแบบนี้มันทำให้เราไม่กลัวที่จะทำตามฝันอีกต่อไป ขอบคุณนะ DICELetter #4: This letter is titled... DICE inspires PRIZE to reach for the stars. DICE has really changed the game for us, motivating us to chase dreams we once hesitated to pursue. Before engaging with DICE, we often struggled with self-doubt. But witnessing the hard work and progress of those younger than us inspired our own determination. With DICE, it feels like we have a group of friends all on this journey together. As DICE reminds us, even the smallest step counts as progress. This perspective has helped us overcome our fears and boldly follow our dreams. Thank you, DICE.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า… ซองกฐินให้ลูกไดซ์ ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญงานกฐิน เอ้ย!!! ไม่ใช่ มุกแบบนี้มันจะมีใครนอกจากมัมหมีชาว PRIZE ที่ครื้นเครงแบบลูกๆ DICE ยินดีและภูมิใจในทุกความสำเร็จ และเชื่อมั่นว่าน้องจะไปได้ไกลอีกแน่นอน อยากให้เด็กๆจับมือกัน พยุงวง ช่วยเหลือกันไปตลอด นอกจากกำลังใจชีไพร์ซ หนูยังมีคนข้างๆอีก 9 คนเดินไปด้วยกันนะลูก ดีใจที่ได้เจอศิลปินที่จริงใจแบบเด็กๆ รักทุกคนน้า Min Alex Jay Apo Jisang Obo Cheese Maddoc Otto FrameLetter #5: This letter is titled... Donation envelope for DICE Feel free to invite everyone to participate in creating merit during the ‘Kathina’ ceremony. It’s a lighthearted moment—who would appreciate this joke more than our lovely mommies? PRIZE is incredibly proud of DICE's achievements and believes in their bright futures. I hope they’ll support each other, hold hands, and always have each other's backs. In addition to PRIZE's encouragement, there are nine other fantastic people by your side, all moving forward together. I’m really grateful to have met such genuine artists like you. Much love to all : Min, Alex, Jay, Apo, Jisang, Obo, Cheese, Maddoc, Otto, and Frame.ยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก แต่ความรักของทุกคนถูกส่งมาถึงช่วงนี้แล้ว !!เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE หนุ่ม ๆ วง “DICE” เล่นซน รอคุณอยู่เวลาผ่านไป… 3 คนไหนโตไวสุดด เจ : ผมว่าอันดับ 3 ผมให้ ชีส เพราะเขาโตขึ้นในเรื่องของความคิดที่มีมิติมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ปกติเขาเป็นเด็กคิดมาก แต่ทุกวันนี้เขาปล่อยผ่านมันได้แล้ว ก็เลยรู้สึกว่า “เอ้อ ดูโตขึ้นนะ” อันดับ 2 ผมให้จีซัง เพราะเอ็มวีล่าสุดเขาเป็นพระเอก อยู่ด้วยกันมานาน รู้สึกว่าซังทำสิ่งนี้ได้ดีมากเลย แม้จะเป็นครั้งแรกแต่ซังเก่งมาก อันดับ 1 ให้อ๊อตโต้ เพราะทุกวันนี้ เขาคุมพวกผมแล้ว คนพี่แบบผมเริ่มมีขี้เกียจบ้าง โต้จะเป็นคนคอยบูส และคอยคุมในการทำงาน ชีส : ของผมอันดับ 3 ผมให้ น้องเฟรม เพราะปกติน้องโตเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว เรื่องการจัดการชีวิต ทั้งเรื่องการเรียนและความรับผิดชอบ น้องเฟรมทำได้ดีมาก พออยู่ด้วยกันมาเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาก ๆ อันดับ 2 จีซัง ตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกันมาสมัยเป็นเทรนนี จนถึงตอนนี้เขาได้เป็นเซ็นเตอร์เพลงยิ่งคบยิ่งไม่รัก แล้ว ตอนผมดูเอ็มวีผมรู้สึกว่าพี่ซังพยายามพัฒนา ตั้งใจและมุ่งมั่นมาก ๆ เขาเก่งมาก โตขึ้นมาก อันดับ 1 เหมือนพี่เจเลย น้องอ๊อตโต้ เพราะเวลาอ๊อตโต้จะมาปรึกษากับผม เราก็จะเห็นมุมมองต่าง ๆ ของน้อง จนมาถึงวันนี้ก็รู้สึกว่า “เออ อ๊อตโต้เก่งขึ้นมาก ๆ แล้ว” จีซัง : ของผมอันดับ 3 ผมให้แมด เพราะลุคแมดเป็นลุคที่ชัดสุดแล้วว่าโตขึ้นมากจากรายการที่เจอครั้งแรก อันดับ 2 ผมให้ ชีส เพราะชีสก้าวข้ามความมั่นใจ แล้วก็เรื่องเบลมตัวเองเยอะมาก ๆ อันดับผมให้อ๊อตโต้เหมือนกัน เพราะน้องมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วลุคน้องก็ให้ด้วย น้องโตขึ้นมาก ๆ เฟรม : อันดับ 3 สำหรับเฟรมคือพี่โอโบ เมื่อวานมานี้ผมได้ย้อนกลับไปเห็นเค้าในรายการ 789 Survival ซึ่งผ่านมาปีกว่าแล้ว ตอนนั้นพี่โอโบยังเป็นน้องโอโบอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมากแล้ว ทุกอย่างเลยภาพรวมชีวิต แล้วก็คอยเรียนรู้ไปด้วยกัน เห็นความพัฒนาของเขามาตลอด อันดับ 2 คือพี่ชีส อย่างที่ทุกคนบอกเลย อันดับ 1 พี่อ๊อตโต้เหมือนกัน ปกติเค้าเป็นผู้นำในการซ้อมอยู่แล้ว แต่ผมบวกคะแนนขึ้นไปอีกเพราะเขาเรียนจบ ม.6 แล้ว อาโป : อันดับ 3 ของโปคือจีซัง เพราะจีซังมีพัฒนาการในเรื่องต่าง ๆ ขึ้นเยอะมาก และมีหลายอย่างที่เราปรับจูนเข้าหากันจน spark ติดแล้ว อันดับ 2 คือ ชีส ละกันเพราะว่าชีสไม่เอาอะไรมาไว้บนบ่าให้มันหนักเกินแล้ว อันดับ 1 คืออ๊อตโต้ ปกติทำงานกับน้องบ่อย หนูกับน้องจะพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง จะเก็ทกันว่าหมายถึงอะไร อยากได้อะไร แล้วเราก็พูดกันได้หลายเรื่องมากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่า “นี่แหละ ลูกของพี่” แมดดอค : คนที่ 3 ผมให้โบเลย เพราะเขาขรึมขึ้น โตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น มีความคิดที่ดีขึ้นด้วย คนที่ 2 ให้อ๊อตโต้ เพราะโต้มีวิวัฒนาการเยอะมาก เหมือนที่เพื่อน ๆ พูด อันดับ 1 ให้พี่ซัง เพราะผมอยู่กับพี่ซังบ่อยสุด เวลาคุย เราเห็นอะไรหลายอย่างมากขึ้นจากความคิดเมื่อก่อน จนตอนนี้รู้สึกโตขึ้น เจ๋งแจ๋วขึ้น โอโบ : ของโอโบอันดับ 3 ผมให้พี่อเล็กซ์ เพราะผมอยู่กับพี่เขามานานตั้งแต่เป็นเทรนนี ทุกคนอาจจะมองเขาเหมือนเดิม แต่ผมมองว่าเขาโตขึ้นในหลาย ๆ มุมทั้งในการทำงานและชีวิตประจำวันด้วย อันดับ 2 ให้พี่อาโปเพราะเมื่อก่อนเขาเป็นคนคิดมาก แล้วพี่เขาก็จัดการได้ดีมากแล้ว ดีใจด้วยที่โตขึ้น อันดับ 1 ให้อ๊อตโต้เพราะอย่างที่ทุกคนบอก อ๊อตโต้โตขึ้นมากและมีวุฒิภาวะสูงขึ้นมากแล้วตอนนี้ อ๊อตโต้ : 2 คนแรกจะคล้าย ๆ กันมากเทียบลุคจาก 789 เหมือนเฟรม นั่นคือ พี่โอโบกับพี่แมดดอค เมื่อก่อนพี่แมดดอคตัวผอม ๆ น่ารัก ๆ ดูเป็นเด็ก แต่ตอนนี้โครงหน้าเขาเปลี่ยนด้วย พี่โอโบเหมือนกันตอนนี้เขาบึ้กแล้ว มีความซิกมา ส่วนอันดับ 1 ผมให้พี่ชีสเพราะช่วงนี้เขามีความโตขึ้น มีความคิดที่ลึกซึ้งมากขึ้น ผมก็เลยปรึกษาเขาได้หลายเรื่องมากขึ้น มิน : ของผมจะคล้าย ๆ เพื่อน อันดับ 3 คือจีซัง 2 คือชีส 1 เป็นอ๊อตโต้ ด้วยเหตุผลที่คล้ายของทุกคนหมดเลย เพราะผมเห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเทรนนี ตั้งแต่ยังไม่ได้ถ่ายรายการอีพีหนึ่ง จนถึงตอนนี้ที่เดบิวต์เป็น DICE แล้วทุกคนโตขึ้นมาก ๆ เลยก่อนจะเศร้า DICE ขอลองเล่าถึง BANG ! อาโป : มันคือลุคเฟียส ๆ ซ่า ๆ มิน : จริง ๆ มันเป็นลุคฟีลเป็นเด็กเป็นแก๊งที่อยู่ด้วยกันหลังจากยุค dystropia แบบเมืองใกล้ล่มสลาย เราเลยลุกขึ้น มาทำสิ่งสุดท้ายที่อยากจะทำ ก็คือได้ใจเธอยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก DICE อาโป : ตัวเพลงนี้จะเล่าเป็นฟีลว่า วันนึงที่เราคบกับใครสักคนมา มันอาจจะถึงจุดอิ่มตัว หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม เพลงนี้จะเล่าถึงความสัมพันธ์ที่มาถึงจุดแยก ที่ทั้ง 2 คนรู้สึกไม่เหมือนเดิมต่อกันและกันเหตุผลของคนไม่รักในมุม DICE ชีส : ผมว่าน่าจะเป็นความเปลี่ยนไปอะไรสักอย่าง การเปลี่ยนไปของเขาทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว มันแปลกแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า “เออ ทำไมยิ่งคบยิ่งไม่รักล่ะ” อาโป : เหมือนว่าเราคุยกับใครสักคน คุยกับแฟนมาทุกวัน แล้ววันนึงเขาเปลี่ยนไป ยังไงเราก็จะต้องรู้สึกอิ่มตัว“จีซัง DICE” พี่พระเอก MV ยิ่งคบ ยิ่งไม่รัก เจ : ความเหมาะสมด้วย คาแรคเตอร์เอย อะไรเอย เหมาะกับซิงเกิลนี้ อาโป : พี่ ๆ เลือกให้ครับ มิน : น้องพรีเซนต์เพลงได้ดีจุดเปลี่ยนของแป้ง ตัวละครใน MV จีซัง : จุดเปลี่ยนจะเป็นช่วงที่แป้งได้รับการถูกทาบทามให้ไปเล่น จุดนั้นจะเห็นถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มห่างขึ้นระหว่างซังกับแป้งแล้วก็เพื่อน ๆ กับแป้ง มิน : เหมือนแต่ละคนมีหน้าที่ที่ต้องโฟกัส ตอนแรกแป้งจะเป็นคนที่ซัพพอร์ตพวกเราอยู่ในเส้นทางเดียวกันไปเรื่อย ๆ แต่พอแป้งมีหน้าที่ของแป้ง เรามีหน้าที่ของเรา เหมือนเป็นเส้นคู่ขนานกันไปเรื่อย ๆ แต่พอเวลาผ่านไปเราใช้เวลาเรื่อย ๆ เส้นก็ห่างไปทีละนิด จนวันนึงมองกลับมามันก็ห่างไปแล้วซีนสุดหินของ “จีซัง DICE” กับการเป็นพระเอก MV แรกของเขา! แมดดอค : พี่ซังทำสมาธิแทบจะ 24 ชั่วโมงเลย จีซัง : หนักมากเลยวันนั้น ปกติอยู่ในกองจะติดเล่นเพื่อบูสท์ตัวเองตลอด แต่ตอนอยู่ในกองวันนั้นผมเหมือนต้องอยู่กับจีซัง ซันเรย์วิทยา ทั้งวันเลย มันเครียดไปหมด แล้วก็ยังปรับ mood ไม่ค่อยทันแต่สนุกมาก ๆ เลย จีซัง : ตรงห้องโถงที่เป็นซีนหลังจากที่แป้งวิ่งพาซังไปงานเทศกาลที่มีเปเปอร์ชู้ต ตรงนั้นที่หยุดมาอายคอนแทคกันเหมือนบอกว่า “จะไม่ได้ไปดูด้วยกันแล้ว” ก็คือยากที่สุดแล้วเพราะเป็นซีนที่เหมือนจะอยากสื่ออารมณ์แต่สื่อไม่ออก เพราะต้องโฟกัสกล้องฝั่งซังบ้าง ฝั่งแป้งบ้าง ทำให้ต้องถ่ายหลายรอบ มันจะเดรนพลังงานเรามาก ๆ ก็เลยเหนื่อยมาก ๆ แต่ก็พยายามช่วยกันมาก ๆนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “DICE” เล่นกัน! ชื่อเกม “วันงานเทศกาล DICE ผ่านมา”(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการ มาเม้าท์ให้สุด ฉุดไม่อยู่ ในช่วง QAที่จะให้หนุ่มวง DICE ตอบคำถามชาว PRIZE กัน สุดท้ายนี้… ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณหนุ่ม ๆ วง DICE ที่มาร่วมสร้างสีสัน พร้อมมอบความสดใส และเสียงหัวเราะให้กับพี่ ๆ รวมถึงชาว PRIZE ด้วยนะคะ สามารถไปฟังพร้อมดู MV ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจากน้องไดซ์ “ยิ่งคบยิ่งไม่รัก (Why?)” ได้ที่ Youtube : TADA LEBELS และติดตามข่าวสารของ DICE ได้ทางโซเชียลมีเดีย dice.sonray ได้ทุกแพลตฟอร์มสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

โชคชะตาพาให้สองหัวใจมาเจอกันกับ จิมมี่ – ซี จากซีรีส์ ทำนายทายทัพ My Magic Prophecy ที่มาทำนายความรักให้แฟนๆ กันแบบใกล้ชิดในค่ำคืนพิเศษ

20 ส.ค. 2025

โชคชะตาพาให้สองหัวใจมาเจอกันกับ จิมมี่ – ซี จากซีรีส์ ทำนายทายทัพ My Magic Prophecy ที่มาทำนายความรักให้แฟนๆ กันแบบใกล้ชิดในค่ำคืนพิเศษ

รายการ EFM FANDOM LIVE [14 สิงหาคม 2568] ค่ำคืนนี้ต้อนรับการกลับมาของ 2 หนุ่มสุดหล่อ “จิมมี่ – ซี” จากซีรีส์ “ทำนายทายทัพ” My Magic Prophecy พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ 2 ดีเจสุดฮอต “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆ ส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามา จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... My Heart’s Prophecy คำทำนายบอกไว้…การได้รู้จักจิมมี่ซีคือโชคที่ดีที่สุด ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักเหมือนหัวใจถูกเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่เหนื่อยหรือรู้สึกท้อก็เหมือนมีพลังใจเล็ก ๆ เข้ามาปลอบประโลมอยู่เสมอ เหมือนเป็นยาใจทำให้มีความสุขในทุกวัน My Heart’s Prophecy บอกว่า ขอให้จิมมี่ซีกินอิ่ม นอนหลับเต็มที่ในทุกคืน ขอให้ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องดี ๆ และรอยยิ้มที่ไม่รู้จบ สุดท้ายแล้ว “รักจิมมี่ซีไม่เสียใจเลยสักวัน”Letter #1: This letter is titled... My Heart’s Prophecy The prophecy reveals… Knowing Jimmy Sea is the best luck I've ever had. From the moment I met them, I felt a sense of completeness in my heart. Whenever I felt worn out or down, it's as if a little boost of encouragement would lift my spirits. It’s been like a healing balm for my heart, bringing me joy each day. My Heart’s Prophecy wishes for Jimmy Sea to always have enough to eat, to enjoy restful nights, and to live a life brimming with happiness and endless smiles. In conclusion, 'I adore Jimmy Sea, and I will cherish every single day we have together.'จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... จังหวะชีวิตในครั้งนี้ขอมอบให้จิมมี่ซี สวัสดีจิมมี่ซี อยากจะบอกว่าดีใจจริงๆ ที่ได้มารัก ถึงแม้จะมาช้าไปหน่อย แต่เชื่อว่าจังหวะชีวิตของเราในตอนนี้ได้เลือกแล้ว ว่าให้อยู่ตรงนี้กับจิมมี่ซี จะคอยสนับสนุนไม่ว่าจะมีผลงานอะไร คู่ หรือ เดี่ยว ขอให้ทั้งสองคนตั้งใจทำงานของตัวเองให้ดี ทางนี้จะคอยซัพพอร์ตทุกอย่างเอง กินให้อิ่ม นอนให้หลับ พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพกันด้วย ยิ้มกว้างๆในทุกวัน เจอแต่คนรัก และเอ็นดู รอแฟนมีตอยู่นะค้าบบ รักนะจิมมี่ซีLetter #2: This letter is titled... This time, I entrust the timing in my life to Jimmy Sea. Hi Jimmy Sea! I just wanted to express how happy I am to have you here. Even though I might be a bit late, I feel like life has brought me to this moment with you. I’m here to support you, whether you’re working as a couple or individually. I truly hope both of you are focused and dedicated to your tasks. I’m here for you through everything. Remember to eat well, get enough sleep, and prioritize your health. Make sure to smile every day! I hope you surround yourself with people who cherish and care for you. I’m looking forward to your fan meeting. Love you, Jimmy Sea!จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... ขอบคุณที่เปิดโลกมองไม่เห็นให้คนมองเห็น (Beyond what eyes can see) ตอนมหาลัยต้องทำงานกลุ่มสอนคนตาบอด เลยตั้งคำถามว่าในไทยพอจะมีซีรีส์ดีๆสักเรื่องให้เราได้ศึกษาเข้าใจมุมมองพวกเขาไหม แล้วก็บังเอิญเจอเรื่อง Last twilight ซึ่งทั้งพี่ซีและพี่จิมมี่ก็ถ่ายทอดได้ดี ทำให้เราเข้าใจในมุมคนตาบอดและวิธีการปฏิบัติกับพวกเขา คือ อย่าทำให้เพราะสงสาร แต่ไปเพื่อซัพพอร์ต ให้เขาได้ทำเพราะเขาก็ทำเองได้ ขอบคุณที่เปิดโลกมองไม่เห็นให้คนมองเห็นคนนี้นะคะ ขอบคุณจากใจและจะคอยติดตามค่ะ ;)Letter #3: This letter is titled... Thanks for revealing the unseen world to those who are able to perceive it! (Beyond what eyes can see) When I was in college, I participated in a group project focused on teaching visually impaired individuals. I found myself thinking about whether there was a good series from Thailand that could help me learn more about their experiences. That's when I discovered 'Last Twilight,' which was beautifully portrayed by both P'Sea and P'Jimmy. It really helped me grasp the perspective of blind people and how to interact with them—it's important to support them rather than act out of pity. They can do things on their own, and we should encourage that. I genuinely appreciate you for shedding light on the world of the visually impaired for someone like me who can see. Thank you so much, and know that I’ll continue to support you!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... กว่าเจ็ดแสนแปดหมื่นแปดพันสี่ร้อยนาทีที่ฉันรอจิมมี่ซี (waiting zone) ตั้งแต่ Last twilight จบไป ความสัมพันธ์ของเรากับจิมมี่ซีเหมือน long distance relationship เลย555 งานส่วนใหญ่ต้องไปต่างประเทศ ส่วนในไทยเป็นงานปิดที่เราไม่เคยถูกเลือกเลย แถมผลงานใหม่ให้ติดตามก็ไม่มี ช่วงหนึ่งเคยแอบกลัวว่าความห่างจะทำให้ความรู้สึกเราลดน้อยลง แต่พอจิมมี่ซีกลับมาวันนี้ คุณก็พาเอาทุกอย่างกลับมาหมดเลย ทำให้รู้ว่าที่จริงเราเองก็รอจิมมี่ซีอยู่ตลอด 1 ปีครึ่งหรือ 788,400 นาที วันนี้สิ้นสุดการรอคอยแล้วLetter #4: This letter is titled... I waited for Jimmy Sea for more than seven hundred eighty-eight thousand four hundred minutes. (waiting zone) Since the end of Last Twilight, it's felt like we're in a long-distance relationship with Jimmy Sea, haha. A lot of the work has been happening overseas, and for the events in Thailand, I've never been selected. There hasn't been anything new to work on either. At one point, I was worried that the distance might dull our feelings. But with Jimmy Sea back today, everything has changed. It hit me that I've actually been waiting for them for a year and a half—about 788,400 minutes. Now that wait has finally come to an end.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... จดหมายจากบ้าน.. .ถึงเจ้าของบ้าน ถึงคุณเจ้าของบ้าน ความรักของเราที่มีให้จิมมี่ซีเป็นเหมือนบ้านหลังเล็กๆที่เต็มไปด้วยความรัก เป็นห้องนอนที่คอยให้จิมมี่ซีล้มตัวลงนอนพัก เป็นห้องครัวที่คอยเติมพลังกายพลังใจ เป็นห้องน้ำที่คอยจัดการสิ่งที่รบกวนจิตใจ เป็นสวนหน้าบ้านเล็กๆที่คอยโอบอุ้มรอยยิ้มของจิมมี่ซีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เจ้าของบ้านออกไปทำงาน บ้านหลังนี้จะคอยเปิดรอต้อนรับการกลับมาอย่างอบอุ่นให้จิมมี่ซีเสมอ ทุกครั้งที่กลับมาจะมีเรารอต้อนรับนะLetter #5: This letter is titled... A note from home... addressed to the homeowner. To the homeowner, our affection for Jimmy Sea feels like a cozy little house brimming with warmth. It’s a peaceful bedroom where they can relax and unwind, a kitchen that helps nourish both their body and spirit, a bathroom where they can wash away their worries, and a cheerful front yard that brings a smile to Jimmy Sea’s face. Whenever the homeowner heads out to work, this place will always be ready to greet Jimmy Sea with open arms. Each time they returns, I will be here, excited to welcome them back.เข้าสู่ช่วงเวลาที่รอคอยกับ ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEพร้อมกันหรือยังคะ!!? เราจะมาพูดคุยกับ “จิมมี่ - ซี” กันน้องแพ้แต่ผมดูแลได้อวอร์ดแต่จะตอนไหนๆก็ดูแลได้เหมือนเคย! จิมมี่ : ดูแลได้ครับ ไม่มีปัญหา ผมดูแลได้ทุกคนอยู่แล้วครับจบวิจัยเหมือนยกภูเขาออกจากอก ได้เล่นเกมผ่อนคลาย จิมมี่ : ต้องเน้นคำว่าเล่นเกมด้วยหรอ ทุกวันนี้ก็เล่นเกมทุกวันเลยครับ เยี่ยมเลย! มีก๊วนเล่นกับเพื่อนแต่ผมเล่น ดอทเอ ต้องมีเกินห้าคนที่เล่นด้วยกัน เผื่อหัวร้อนจะได้เปลี่ยนคน ซี : ผมไม่ได้เล่นพี่ ส่วนใหญ่จะเล่นกีฬาครับไลฟ์สไตล์ที่ใช่ คาเฟ่ที่ชอบ ซี : คนส่วนใหญ่เขาจะคิดว่าผมไปบ่อย แต่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ไปบ่อยขนาดนั้น เหมือนรูปที่เราลง เราอาจจะแวะกินกาแฟแล้วก็ถ่ายเลย ส่วนใหญ่ที่ไป เป็นเพราะอยากเจอเพื่อน นัดเจ้ นัดเพื่อน โทรหาว่า อยู่มั้ย ถ้าอยู่ก็ไปเลย ผมเป็นพวกทริปปุปปับจิมมี่ไปสวิตเซอร์แลนด์กับซีที่แรกที่จะพาไป คือ... จิมมี่ : พาซีไปเที่ยวซูริคก่อนครับ เราสามารถนั่งรถไฟไปที่เมืองอื่นได้เลย เพราะเหมือนเป็นศูนย์กลาง ผมว่ามันเหมาะกับคนที่รักความสงบ ชอบธรรมชาติ ไม่วุ่นวาย เหมือนได้อยู่กับตัวเองจริงๆ อากาศดีมาก ถึงแม้ตอนที่ผมไปจะเป็นซัมเมอร์ แต่ไม่มีฝุ่นเลยนะประเทศที่ซีอยากจะไป ซี : ไปได้ทุกที่พี่ ใครชวนไปก็ไปได้ทุกที่ แค่ดูบ้านเมืองเขาก็ชอบแล้ว เราเป็นฟิลไปที่ไหนก็ได้ แต่ที่สำคัญคือต้องมีของกินที่อร่อยอโวเชี่ยนกับชีวิตประจำวัน และชีวิตในห้องเรียน ซี : ผมน่าจะพาไปวิ่ง เป็นเด็กสายกิจกรรม เขาเอเนจี้เยอะ ต้องพาไปทำกิจกรรมเบิร์นเอเนจี้เขาออก จิมมี่ : เขาน่าจะไม่ตั้งใจเรียนหรอก เพราะว่าเขาน่าจะรู้หมดแล้ว เป็นเด็กอัจฉริยะ ไอคิวทะลุ150 เป็นเด็กที่ไม่สนใจเรียน ตัวท็อปๆ ได้รับใบเซอร์ด้วย ผมสปอยเขาความแตกต่าง และการเติบโตของซีรีส์ My Magic Prophecy กับซีรีส์ Last Twilight จิมมี่ : มันต่างกันหมดเลยพี่ ตัวละครหมอกกับทัพฟ้า แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ด้วยอาชีพ วุฒิภาวะ สังคมเป็นอยู่ ครอบครัว ต่างกันหมดเลย เรื่องนี้แทบจะไม่แต่งหน้า หน้าสดเลย ถ้าแต่งเยอะเกิน มันจะฟุ้งเกิน แต่ last twilight ต้องทำให้มอมๆ ซี : ต่างค่อนข้างเยอะ ตัวละครลึกกว่า ตัวละครครั้งที่แล้ว อินแบ่งได้หลายเลเยอร์มากๆ เราต้องทำความเข้าใจเขามีความคิดที่ซับซ้อนกว่าคนปกติ เห็นนิมิตจากคนที่ใกล้ชิด มีหลายอย่างที่เขาต้องคิดเผื่ออินทุกับความรู้สึกภายในตัวเอง ซี : ตัวละครมันแตกสลายมากๆ ปมชีวิตที่เวลากลับไปบ้านที่แม่ฮ่องสอน สถานที่ที่เขาไม่อยากกลับไป แต่เขาก็รักมาก เพราะเขาเคยอยู่กับพ่อแม่ที่นั่น เราแตกสลายเพราะว่าทัพฟ้าดันไม่รู้ว่า เก้าอี้ตัวนั้น เป็นเก้าอี้ตัวโปรดของคุณพ่อคุณแม่ เขาไปทำหัก อินเลยประทุขึ้นมา ผมเล่นไปตามตัวละครเลย เรารู้สึกยังไง ก็ไปตามนั้นจิมมี่กับซี ใครคือสายมูตัวจริง จิมมี่ : ผมไม่ได้มู แต่ว่าผมทำบุญ สวดมนตร์ทุกคืน มีความเชื่อเรื่องก้าวเท้าซ้าย ข้ามธรณีประตู หรือเวลาไปต่างประเทศ เท้าซ้ายต้องก้าวเหยียบแผ่นดินเขาก่อน เป็นเคล็ดของผมเอง ซี : แล้วหลังจากที่เขาพูดเราก็คิดว่า เอ๋ ใช้เท้าไหนว้า ผมเชื่อสัก 40 ที่เหลือคืออยู่ที่การกระทำ สิ่งที่เราคาดไม่ถึง แต่ทางบ้านเชื่ออยู่แล้ว ทางบ้านก็เจอมาเยอะ ผมคนอีสานด้วย แต่ก็กลัวเรื่องอะไรแบบนี้พูดคุยกันไปพอหอมปากหอมคอ ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “จิมมี่ - ซี” เล่นกันด้วย! ชื่อเกมว่า “จิมมี่ซี ขอทำนายทายครับ!”(เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)ในช่วงสุดท้าย ทางรายการก็ได้เสิร์ฟความฟินให้กับงั่มงั่มโดยให้โชคชะตานำพา “จิมมี่ - ซี” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “จิมมี่ - ซี” มากๆเลยน้า ที่มาร่วมพูดคุย ทำนายดวงชะตา สร้างความน่ารัก และเป็น made my day ให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ “ทำนายทายทัพ My Magic Prophecy” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และดู Uncut ย้อนหลัง เวลา 22:30 น. บนแอป VIU ที่เดียวเท่านั้น และฝากเพลง OST.ของซีรีส์ด้วยน้าสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1