Review Chill Style

ร้านน้ำผลไม้สด เจ้าดังถนนพระอาทิตย์ 108 Juices

ใครที่กำลังมองหาคาเฟ่น้ำผลไม้น่ารักๆ Atime ขอนำเสนอร้าน “108 Juices” ที่กำลังเป็นกระแส ณ ตอนนี้ แห่งย่านถนนพระอาทิตย์

ร้าน 108 Juices เปิดมาแล้วเกือบ 20 ปี เป็นร้านเล็กๆ ตกแต่งกลมกลืนกับธรรมชาติ อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปหลากหลายอีกด้วย

เมนูน้ำผัก ผลไม้ ของร้าน 108 Juices มีให้เลือกมากมาย คุณป้าคั้นให้สดใหม่ทุกแก้ว ไม่เติมน้ำ ไม่ใส่น้ำตาล ได้เนื้อและรสชาติผลไม้แท้ แบบเน้นๆ หรือใครมีสูตรที่อยากลองก็สามารถแจ้งคุณป้าได้เช่นกัน

สายถ่ายภาพห้ามพลาด เพราะนอกจากจะได้มาดื่มน้ำผลไม้สดแล้วนั้น ยังได้เดินเที่ยวที่ถนนพระอาทิตย์แหล่งรวมพิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ต่างๆ

หากใครที่มาถนนพระอาทิตย์ หรือย่านปากคลองตลาด อย่าลืมมาแวะ ร้าน “108 Juices” เปิดให้บริการวันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 12.00-18.00น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.00-18.00 น.

รีเฟสความสดชื่นด้วยน้ำผลไม้ Oh Juice!

หากพูดถึงร้านน้ำผลไม้ปั่นที่เป็นกระแส ณ ตอนนี้ ATIME ขอพูดได้เลยว่าต้องเป็นร้าน Oh Juice!! ร้านสมูธตี้น้องใหม่ในเครือโอ้กระจู๋ ที่พึ่งมาเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นร้านที่คนต่อคิวยาวเพื่อพิสูจน์ความอร่อยกันทุกวันเมนูของร้าน Oh Juice ไม่ได้มีแค่สมูธตี้ หรือผลไม้ปั่นเท่านั้น ยังไม่เมนูอื่นๆ อย่าง อาซาอิ อีกด้วย และเมนูซิเนเจอร์ของร้านหากใครมาแล้วต้องลอง คือ 5 เมนู ดังนี้OCEAN N EARTHANGEL’S SECRETKING GREEN MILEPASSIONATEACAI ANTIOXIDANT SUNRISE GINGERหากใครที่สั่งเมนูอื่นที่ไม่ใช่ ซิเนเจอร์ ทางร้าน Oh Juice จะมีขนาดให้เลือก 3 ขนาดด้วยกันได้แก่ GRAND CLASSIC PETITEวันนี้ ATIME ขอนำเสนอความอร่อยของร้าน Oh Juice ด้วยเมนู OCEAN N EARTH ราคา 270 บาท แนะนำว่าห้ามพลาด เพราะเมนูนี้นอกจากจะหน้าตาดี สีสวยแล้ว รสชาติอร่อยนัว เต็มไปด้วยกล้วย มะพร้าวและอโวคาโด้ ดูดแปปเดียวหมดแก้วแน่นอนมาต่อที่แก้วที่สองด้วยเมนู ACAI ANTIOXIDANT SUNRISE GINGER ราคา 270 บาท เป็นสมูธตี้ที่รวมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เรียกได้ว่าเมนูเป็นเมนูของคนสวยคนหล่อก็ว่าได้ เพราะว่า เมนูนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แถมอุดมไปด้วยวิตามินเอ แคลเซียม และไฟเบอร์ แถมที่ร้าน Oh Juice เขายังเคลมตัวเองว่าไม่ใส่น้ำตาลอีกด้วย เป็นรสชาติจากผลไม้แท้ๆ กันเลยใครอยากมีรีเฟรชความสดชื่น สามารถแวะมาได้ที่ ร้าน OH Juice สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 2

นึกถึงของวินเทจ นึกถึงช่างชุ่ย

หากมองหาของวินเทจ หรือของมือสอง ต้องมาที่ ช่างชุ่ย ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร สามารถมาเดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืนที่ช่างชุยแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนสีเขียวและกลางคืน และแบ่งย่อยออกเป็น 4 เกจด้วยกันภายในมีแลนด์มาร์คหลายจุด เป็นรูปปั้นตัวการ์ตูน สัตว์ กระโหลก รวมถึงเครื่องบิน ถือเป็นจุดแลนด์มาร์คตามเกจต่างๆอาคารอาเหนกป้าสง ที่ช่างชุ่ย จะป็นตลาดโซนแอร์ ภายในมีเสื้อผ้า โมเดล ตุ๊กตามากมาย และแลนด์มาร์คของโซนนี้ คือ คิงคองยักษ์สีทองจุดไฮไลท์ของช่างชุ่ย หรือ จุดกึ่งกลางของที่นี่ คือ เครื่องบิน และลานขายแว่นตา สร้อย ต่างหู เสื้อผ้า และอื่นๆ มากมายอีกทั้งที่ช่างชุ่ยเขายังมีร้านอาหารทั้งของคาว และหวาน ร้านอาหารบางร้านในช่างชุ่ยจะเปิดแค่ช่วงกลางวันเท่านั้นนอกจากที่ช่างชุ่ยจะมี เสื้อผ้า โมเดล ของเล่น ของกินแล้วนั้น ยังมีโซนเครื่องเล่นอย่าง ตู้คีบตุ๊กตา และตู้เกมอื่นๆ ให้เหล่าเด็กน้อย และวัยรุ่นได้เข้ามาเล่นกันได้อีกด้วยและที่ช่างชุ่ย ยังมีจุดรวมพลเหล่าวัยรุ่น อย่างช่างเชื่อม ที่มีการจัดงานดนตรีต่าง ๆ ทั้งนี้ช่างเชื่อมจะเปิดเฉพาะมีงามเท่านั้นหากใครอยากลองมาเที่ยวตลาดของวินเทจก็สามารถมาเดินเล่นชิลๆ เดินดูเสื้อผ้าต่างๆ ก็สามารถมาชมได้ที่ ช่างชุยเวลาเปิด : วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เวลา 17.00-23.00 น. (หยุดวันจันทร์)พิกัด : ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร (จอดรถฝั่งตรงข้าม)

Penn coffee and more คาเฟ่ใกล้ ม.รังสิต

ร้านกาแฟ ฟิลกู้ด ต้องที่ร้าน Penn coffee and more (เพ็ญ คอฟฟี่ แอนด์ มอร์) คาเฟ่ใกล้มหาลัยรังสิต ตกแต่งสไตล์มินิมอล สีเขียว ขาว คู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใครชอบถ่ายรูป ทำคอนเทนต์ ต้องมาที่นี่เพราะมีมุมสวยๆเยอะมากที่ Penn coffee and more (เพ็ญ คอฟฟี่ แอนด์ มอร์) แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ Outdoor และ IndoorPenn coffee and more (เพ็ญ คอฟฟี่ แอนด์ มอร์) มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งชา กาแฟ อีกทั้งที่ร้านนี้ยังมีเมล็ดกาแฟพิเศษ (specialty coffee) อีกด้วยใครที่ชื่นชอบขนมหวานที่ร้าน Pen coffee and more (เพ็ญ คอฟฟี่ แอนด์ มอร์) ก็มีหลากหลายประเภท ทั้งเค้ก คุ้กกี้ ครัวซอง และอื่นๆ มากมาย ที่อบสดใหม่ทุกวันหากใครที่กำลังหาคาเฟ่น่ารัก รสชาติกาแฟดี พนักงานน่ารักเป็นกันเอง ต้องมาที่ Penn coffee and more (เพ็ญ คอฟฟี่ แอนด์ มอร์) ใกล้มหาลัยรังสิตที่ตั้ง : ถนน เอกทักษิณ ตำบล หลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12000เปิดให้บริการ : จันทร์ – อังคาร 09:30 - 17:00พฤหัสบดี - อาทิตย์ 09:30 - 17:00

เรียนรู้โลกใต้น้ำที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา

สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ตั้งอยู่บริเวรด้านหน้าของมหาลัยบูรพา ซึงเป็นสถานที่ท่องโลกทะเล และให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนละ 80 บาท ส่วนเด็กราคาคนละ 40 บาทเท่านั้น ซื้อเมื่อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปชมความอลังการของโลกใต้ทะเลกันได้เลยระหว่างทางเดินก็จะมีน้องนักศึกษาจากมหาลัยบูรพาที่ประจำอยู่ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มาให้ความรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเล หรือจะเดินอ่านตามป้ายเองเพลิน ๆ ก็ได้เช่นกันจุดไฮไลท์ของ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล อีกหนึ่งจุด คือ แมงกระพรุนพระจันทร์ (Moon Jellyfish) ใครที่เดินผ่านจะต้องแวะดูสีสันความสวยงาม และถ่ายรูปคู่กับน้องแมงกระพรุนกันไฮไลท์สำคัญของ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล คือ ตู้จัดแสดงปลาขนาดใหญ่ ที่รวบรวมเหล่ายักษ์ใหญ่ของปลาทะเลไทย มาให้เราได้ดูกันแบบใกล้ชิด มีทั้งปลาฉลาม ปลากระเบน ปลาทูน่า และปลาอื่น ๆ อีกมากมายเรียกได้ว่า สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา แห่งนี้ คือ ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลที่อลังการ อีกทั้งยังมีอีกหลากหลายมุมที่มีให้ชม ได้ดูความสวยงามของทะเล แถมยังได้ความรู้อีกด้วย ถือว่าคุ้มค่ากับค่าบัตรเพียงแค่ 80 บาท ส่วนใครยังไม่เคยได้ไป ต้องลองไปสักครั้งในชีวิต หรือจะพาน้อง ๆ หนู ๆ ไปเสริมทักษะการเรียนรู้โลกใต้ท้องทะเลก็ได้เช่นกันพิกัดสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา : https://goo.gl/maps/aZwJqCeARNUhPu7W7เวลาให้บริการเวลา : 9.00-16.00 น.ค่าเข้าชม : เด็ก 40 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท คนต่างชาติ เด็ก 120 บาท ผู้ใหญ่ 220 บาท

0.8