ทุกตำแหน่งมีโอกาส อยากทำงานโกอินเตอร์ต้องฟัง

","media_url":"https://mcdn.podbean.com/mf/web/wf7qmp/EP18_Podcast_GOODJOBS_X_WBG9g525.mp3","player_url":"https://www.podbean.com/player-v2/?share=1&download=1&rtl=0&fonts=Arial&skin=666666&font-color=ffffff&btn-skin=8bbb4e&multiple_size=315&square_size=300&order=episodic&filter=all&limit=10&season=all&tag=all&logo_link=episode_page&i=qj9k7-135fb6d-pb","duration":"418","publish_date":"2023-01-12T14:52:58+07:00","image_lg":"https://media.atime.live/podcast/b6602e77-68d7-44a4-8c19-b8a43016a710.jpeg","image_md":"https://media.atime.live/podcast/b0dd1485-38b2-415a-bdce-f45f17659837.jpeg","image_sm":"https://deow9bq0xqvbj.cloudfront.net/ep-logo/pbblog11153028/SQ_18_jb46ua.jpg","total_views":"1624","channel_name":"Good Jobs","channel_description":"Good jobs ไขสเปค ‘คนที่ใช่’ ของ ‘งานในฝัน’ ป๋าเต็ด พาไปบริษัทดัง ล้วงลึกวิธีคัดเลือกพนักงาน ให้รู้ข้อมูลแบบ Exclusive ก่อนที่คุณจะมาสมัครงานจริง ขอให้ได้งานนะครับ! ศุกร์เว้นศุกร์","logo":"https://media.atime.live/podcast/fe5d5cdf-380b-4dcd-9ebb-01671f9c1522.jpeg","category":"knowledge","menu_name":"PODCAST","slug":"/chillonline/podcast","data_type":"podcast","theme":"green-podcast-highlight-grid-3-column-detail","created_at":"2023-01-12T14:53:58.142+07:00","updated_at":"2023-09-20T12:31:17.971+07:00"},"error":null,"msg":"get podcast detail successful"},"ads":{"data":{"station_id":"3","menu_name":"PODCAST","slug":"/chillonline/podcast","content_type":"0","menu_type":"podcast","theme":"green-podcast-highlight-grid-3-column","ads_square_name":"Podcast","ads_script":"","ads_script_encode":"

","ads_image":"","data_type":"ads","url":""},"error":null,"msg":"get podcast detail successful"}},"pin":null,"highlight":null,"replay":null,"allType":"","related":null,"rawDataHome":[{"station_id":3,"content_id":5777,"title":"คุยกับสองสาว “DIDIxDADA” ถึงเบื้องหลังซิงเกิลล่าสุด “พลั้ง” (Confess)","content":"

“DIDIxDADA” สองสาวฝาแฝดแห่ง LIT Entertainment กลับมาอีกครั้ง พร้อมซิงเกิลที่สาม “พลั้ง” (Confess) เพลงช้าฟังสบาย ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการหลุดปากสารภาพรัก นอกจากนี้ยังได้ มิวสิค และเจนนิษฐ์ อดีตเมมเบอร์ BNK48 มาร่วมเล่น MV ด้วย วันนี้เราจึงได้ชวนสองสาว DIDIxDADA มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้กัน

ช่วยเล่าคอนเสปของเพลง “พลั้ง” ให้เราฟังหน่อย

DIDI – “คอนเสปก็เป็นเกี่ยวกับการสารภาพรักค่ะ หลุดปากความรู้สึกของเราออกไป”

DADA – “เหมือนกับเราเผลอพูดออกไปอะค่ะ เพลงนี้ก็เกี่ยวกับว่า ความรู้สึกมันล้นเหลือจนเราหลุดปากพูดออกไป แต่เราก็ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นรู้สึกกับเรายังไง เราก็เลยได้แต่ภาวนาไปกับแสงดาว”

พี่พัดกับพี่มุกเป็นคนแต่งใช่มั้ย แล้วเราได้แชร์ไอเดียตรงไหนมั้ย

DIDI – “พี่เขาแต่งเพลงมาให้แล้ว แล้วหนูสองคนก็ไปอัดเดโม่ จริง ๆ มันมีหลายเพลงมากที่หนูเห็น แล้วหนูก็บอกว่าหนูชอบเพลงนี้มากเลยนะคะ หนูขอเพลงนี้ หนูไม่อยากให้มันหลุดมือไป”

DADA – “ตอนที่คุยกันก็เหมือนพูดว่าอยากได้เพลงที่ไม่ได้ดูเก่ามาก แต่ว่าเป็นเพลงยุคก่อน เพลงที่เราโตมาด้วยกัน แล้วก็รู้สึกว่าพี่เขาได้ทำฟีลนั้นออกมาในเพลงนี้ค่ะ”

เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยที่มีท่อนภาษาอังกฤษด้วย เล่าถึงที่มาของท่อนนี้ให้เราฟังหน่อย

DIDI – “พี่เขาเสนอมาค่ะ แล้วก็ให้หนูเช็คพวกคำ ตอนแรกก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันที่มีท่อนภาษาอังกฤษด้วย”

เพลงนี้ได้ มิวสิค และเจนนิษฐ์ มาร่วมเล่น MV ด้วย การทำงานกับสองคนนี้เป็นยังไงบ้าง

DIDI – “พี่เขาน่ารักมากเลยค่ะ เก่งมาก ๆ หนูเห็นในมอนิเตอร์แล้วหนูเขินพี่เขาสุด ๆ เลยค่ะ เล่นตามตัวละครได้ดีมากเลย”

เรารู้มาก่อนมั้ยว่าสองคนนี้จะมาเป็นนางเอก MV เราเป็นคนเสนอไป หรือใครเป็นคนเลือก

DIDI – “ผู้ใหญ่ค่ะ เป็นแคสติ้งมา แล้วหนูสองคนเพิ่งรู้ตอนวันถ่าย MV เลยว่าจะเป็นใคร”

DADA – “ตอนแรกพี่เขาพูดมาว่าอาจจะเป็นนางเอกพระเอก หรือพระเอกพระเอกนะ ก็เลยคิดมาตลอดว่าน่าจะเป็นผู้ชาย แต่พอรู้ว่าเป็นพี่มิวสิคกับพี่เจนนิษฐ์ก็แบบ ว้าว ดีใจมากเลยค่ะ”

DIDI DADA ชอบซีนไหนมากที่สุดใน MV

DIDI – “ที่จริงมันเป็นซีนในฝนนะคะ แต่หนูว่าใน MV มันอาจจะเห็นไม่ชัด ที่หนูสองคนยืนอยู่ข้างนอก ไฟมืด ๆ แล้วมันมีคอนเฟตตี้หล่นลงมา อันนั้นคือซีนโปรดหนูเลยค่ะ เพราะหนูอยากถ่ายในฝนมาก หนูพูดตั้งแต่ได้เพลงนี้มาครั้งแรก ว่าหนูอยากถ่ายในฝน ขอถ่ายในฝนได้มั้ยคะ แล้ววันนั้นดันฝนตกพอดี ตอนแรกซีนนั้นจะถูกคัทออกไปเลยค่ะ มันถ่ายไม่ได้ เพราะฝนมันตก แต่ว่าพอดีฝนมันตกปรอย ๆ ก็เลยได้ถ่ายในฝน ถึงแม้จะเป็นปรอย ๆ นิดเดียวก็ไม่เป็นไร ดีใจที่ถ่ายซีนนั้น แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็สวยมากค่ะ”

DADA – “หนูชอบซีนที่อยู่ในห้องสมุดที่มีหนังสือเยอะ ๆ ค่ะ มันยูนีคดี มันมีกลิ่นอายของโรงเรียน ไดอารี่ ความรู้สึกของตัวละคร แล้วก็ชอบที่จริง ๆ ถ่ายตอนกลางคืน แต่พี่เขาสาดแสงออกมาเหมือนตอนกลางวันมาก จริง ๆ เป็นซีนสุดท้าย ถ่ายตอนเกือบห้าทุ่มเลยค่ะ”

DIDI – “แล้วจริง ๆ ห้องนั้นมันไม่ได้เซตฉากไว้ มันเป็นโรงเรียนเก่าที่ปิดไปแล้ว แล้วเหมือนเขาเอาหนังสือเรียนมาเก็บไว้ในห้องนั้น มันก็ไม่ได้มีใครจัด มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว มีแต่หนังสือ แค่พี่เขาจัดเรียงให้มันสวย แล้วก็มีที่ให้หนูนั่งร้องเพลง ฝุ่นเยอะมากค่ะ (หัวเราะ)”

มีเรื่องสนุก ๆ ในกองถ่ายมาแชร์ให้เราฟังบ้างมั้ย

DIDI – “มีนั่งเล่าเรื่องผีกันค่ะ”

DADA – “ตั้งแต่เข้ามาก็รู้สึกว่า ฟีลเหมือนหนังผีเลย โรงเรียนที่ปิดไปแล้ว”

DIDI – “อยากแกล้งตัวเอง เพราะในเบรกดาวน์มันคือถึงสี่ทุ่มเลย เราก็เลยแบบ สี่ทุ่มเราจะเจออะไรมั้ยน้า น่ากลัวจัง อะไรแบบนี้อะค่ะ”

แล้วปกติทั้งสองคนเป็นคนกลัวผีมั้ย

DIDIxDADA – “กลัวค่ะ”

DADA – “ไม่ได้อยากเจอ แต่ว่าพูดไปเฉย ๆ ค่ะ”

DIDI – “ตอนถ่าย Vlog เราก็มีพูด ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการล่าท้าผีกับดีดี้ดาด้า แต่คือกลัวนะคะ แล้วหนูก็แบบ ไม่เอา ไม่พูดละหนูกลัว ไม่เอา ไม่ไปคนเดียวละหนูกลัว”

DADA – “แต่ว่าพี่เจนนิษฐ์กับพี่มิวสิคคือเป็นการเองมาก พี่เขาน่ารักอะค่ะ ไม่คิดว่าพี่เขาจะคุยกับเราได้ถูกคอขนาดนี้ เราก็มีนั่งแชร์เรื่องผีกัน”

เมื่อกี้เราบอกว่าถ่าย Vlog ไว้ด้วยใช่มั้ย

DIDI – “ใช่ค่ะ จะมีปล่อยเร็ว ๆ นี้ เป็น behind the scenes”

ทำงานด้วยกันมา 3 ซิงเกิล มีมุมไหนของอีกฝ่ายมั้ย ที่เรารู้สึกว่าเราไม่เคยเห็นมาก่อนในโพสิชั่นของพี่น้อง จนกระทั่งมาทำงานด้วยกันในฐานะ DIDIxDADA

DIDI – “สำหรับหนู หนูว่าเราอยู่ด้วยกันบ่อยค่ะ ห้องนอนก็ติดกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน แต่ว่าพอเข้ามหาลัยก็เพิ่งแยกใช่มั้ยคะ ก็แบบไม่ค่อยมีมุมไหนที่หนูไม่เห็นของดาด้า ก็เป็นน้องหนูไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยแตกต่าง เหมือนปกติเลยค่ะ”

DADA – “แต่สำหรับหนู เวลาถ่าย MV มันจะมีโฟโต้ชูท เก็บภาพไว้ใช้สำหรับทำนู่นทำนี่ใช่มั้ยคะ แล้วมันมีถ่ายของดีดี้แล้วดีดี้สวยมาก หนูไม่คิดว่าพี่สาวหนูจะสวยได้ขนาดนี้ หนูรู้สึกว่าไม่ใช่พี่สาวตัวเอง คือพี่ก็เคยแต่งหน้าทำผมมาก่อนหน้านี้ แต่รู้สึกว่าไม่มีครั้งไหนที่สวยเท่าครั้งนี้ รู้สึกว่า ว้าว วิชวล”

DIDI – “ขอบคุณนะ อันนี้ชมตัวเองปะเนี่ย เพราะหน้าตาเหมือนกัน”

DADA – “ไม่ค่ะ ไม่ รู้สึกว่าคนละลุค คนละแนวเลยค่ะ”

ถ้าให้พูดถึงกันและกัน 1 ประโยค สั้น ๆ อยากจะบอกอะไรอีกฝ่าย

DIDI – “สู้ ๆ นะ เราอยู่ด้วยกันไปอีกนาน”

DADA – “สู้ ๆ เหมือนกันนะ”

DIDI – “หนูสองคนรักกันนะคะ มันอาจจะดูเหมือนหนูสองคนไม่รักกัน”

DADA – “เราไม่ได้เป็นพี่น้องที่แบบหวาน เรารักเธอน้า สู้ ๆ น้า”

DIDI – “มันจะเป็นแบบ วันนี้ก็ทำดีนะ อะไรแบบนี้ค่ะ”

สุดท้าย อยากให้พูดฝากผลงานหน่อย

DADA – “ฝากเพลงนี้ด้วยนะคะ พลั้ง เป็นซิงเกิลที่สามจากพวกเรา พวกเราตั้งใจมาก ก็สามารถดู MV ได้ทางช่อง YouTube LIT Entertainment”

DIDI – “แล้วก็ฟังเพลงได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งเลยค่ะ”

DADA – “แล้วก็มีชาเลนจ์ในเล่นใน TikTok ด้วยนะคะ”

DIDI – “มีทั้งร้อง ทั้งเต้น แล้วก็มี CapCut ให้เล่นด้วยค่ะ เผื่อใครจะไปตัดต่อรูปตัวเองกับหวานใจ รูปตัวเองกับเพื่อน”

สปอยล์หน่อยว่าจะมีเวอร์ชันอื่นของเพลงนี้ออกมาอีกมั้ย

DIDI – “ตอนนั้นไลฟ์พรีเมียร์เพลง ก็คุยกันไว้ว่าถ้าได้ 5 ล้านวิว”

DADA – “อาจจะล้านนึงอะไรแบบนี้อะค่ะ อาจจะปล่อยเวอร์ชันอังกฤษออกมา ดูอารมณ์อีกที”

DIDI – “ดูคนเขียนเนื้อค่ะ หนูเองค่ะ”

เราเป็นคนเขียนเนื้อร้องเวอร์ชันภาษาอังกฤษเองเหรอ

DIDI – “จังหวะตกหลุมรัก ดีดี้กับพี่มุกก็ช่วยกันเขียนค่ะ”

DADA – “หนูก็ช่วยนะคะ แบบช่วยตอนสุดท้าย เราก็ว่า คำที่เลือกมาก็ดีนะ อะไรแบบนี้ค่ะ (หัวเราะ)”

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/5fab4c9a-d347-4235-8066-772c9877996d.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/fd2ca7af-1901-4a3f-9c38-77de88b8e538.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-29T14:13:08.000Z","content_types_title":"Chill Talk","slug":"/chillonline/chilltalk"},{"station_id":3,"content_id":5774,"title":"คุยกับ “Pam Anshisa” ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ “รักฉันหรือการมีฉัน (Love Ends)”","content":"

หลังจากห่างหายกันไปพักใหญ่ ล่าสุด Pam Anshisa ศิลปินสาวสังกัด D.U.M.B. Recordings กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ \"รักฉันหรือการมีฉัน (Love Ends)\" เพลง Pop R&B ที่มีกลิ่นอาย 90’s-2000’s ที่จะชวนให้ทุกคนได้ทบทวนความสัมพันธ์ ว่าสิ่งที่เหลืออยู่คือ ความรัก หรือแค่ความผูกพันธ์ วันนี้เราเลยได้ชวนแปม มาพูดคุยถึงเรื่องราวเบื้องหลังเพลงนี้กัน

ห่างหายจากการปล่อยเพลงไปประมาณ 1 ปี ระหว่างนี้หายไปไหนมา

“ก็มีร้องโคฟเวอร์บ้าง แต่ว่าจริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราพยายามทำงานเพลงตลอดค่ะ อาจจะมีทั้งแต่งเองด้วย แล้วก็มีที่ลองทำงานกับคนอื่น แต่ว่าสุดท้ายแล้ว ด้วยไทม์มิ่งที่ผ่านมาเรายังไม่เจอเพลงที่เราอยากปล่อยแหละ เราก็เลยใช้เวลานาน แล้วก็มาได้เพลงนี้ ที่เรารู้สึกว่า โอเค เราจะปล่อยด้วยเพลงนี้”

\"รักฉันหรือการมีฉัน\" เพลงนี้มีที่มาจากอะไร

“เริ่มมาจากไอเดียของพี่แม็ค ศรัณย์ ที่แต่งให้ พี่แม็คแชร์ไอเดียนี้มาเลย เนื่องจากเรามีโจทย์ที่ชัดเจนว่า เราอยากได้เพลงที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่จริงจังมากขึ้น แล้วก็เป็นเพลงเศร้า อยากลองมีเพลงเศร้าบ้าง เพราะเมื่อก่อนมีแต่เพลงที่เพ้อ ๆ หน่อย หรือว่าแอบรัก เลยอยากมีเพลงเศร้าไปเลย ซึ่งพี่แม็คก็กลับมาพร้อมไอเดียนี้ เรารักกันหรือการมีกัน”

เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

“นานเหมือนกันค่ะ เพราะว่าพี่แม็คยุ่งมาก (หัวเราะ) ประมาณ 3-4 เดือน รวม ๆ ทั้งหมดแล้ว”

คิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุด เมื่อเทียบระหว่างซิงเกิลนี้กับซิงเกิลก่อน ๆ

“สิ่งที่ใหม่ที่สุด จริง ๆ มีหลายอย่างนะ แปมว่าเป็นเรื่องของเนื้อหาเป็นหลักแล้วกันค่ะ กับสไตล์การเล่า เพราะว่าพอมันไม่ได้เป็นวิธีการเล่าของเรา หรือว่าเรื่องส่วนตัวของเรามาก ๆ มันก็จะมีลายเส้นบางอย่างที่เป็นพี่แม็คเข้ามา ซึ่งแปมรู้สึกว่ามันเป็นการคอแลปกัน ที่ทำให้เกิดอารมณ์ใหม่ ๆ ของแปมดี หมายถึงว่าถ้าสมมุติว่าแปมเขียนเพลงเศร้าเอง แปมอาจจะตีความเรื่องนี้ออกมาไม่เหมือนที่พี่แม็คเขียน ซึ่งพอเราได้ร้องเพลงนี้ ยิ่งเวลาร้องสด เราจะรู้สึกว่าเราได้ไปแตะอารมณ์ที่เราไม่เคยเจอมาก่อนในเพลงอื่น ๆ ของเรา”

เพราะเพลงก่อน ๆ ปกติเราจะมีส่วนร่วมในการเขียนด้วยใช่มั้ย

“ใช่ ๆ ปกติมันก็จะเป็นแบบ เราแต่งทำนองไปก่อน กับเนื้อบางส่วน ส่วนใหญ่จะเริ่มทำนองไปก่อน ซึ่งเพลงนี้เราไม่ได้เข้าไปแตะในเรื่องนั้นเลย เป็นผู้สื่อสารอย่างเดียว”

ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง เพราะอะไร

“จริง ๆ ชอบครึ่งหลังของฮุคอะค่ะ ‘ถ้าเธอไม่เหลือใจ ฝืนกันไปก็เท่านั้น ไม่อยากจะรักกัน จะทนคบไปวันวันเพื่ออะไร’ รู้สึกว่ามันเป็นการที่ คนคนนี้ที่กำลังพูดเรื่องนี้ เขาย่อยทุกอย่างออกมาเองแล้วว่า ก็ในเมื่อไม่ได้รักกันแล้ว เราจะยังอยู่ด้วยกันทำไม ก็ตัดสินใจว่างั้นก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน งั้นก็เลิกกันดีกว่า รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดดีของคนคนนึงที่กล้าเดินออกมา”

เรื่องราวของ MV นี้เป็นยังไง เห็นมีเป็นภาพขาวดำและภาพสี

“เป็นการเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ตอนที่ยังรักกันอยู่ กับตอนที่แค่อยู่ด้วยกันเฉย ๆ ให้มันมีความแตกต่างกันมากขึ้น โดยการที่เราใช้ภาพปัจจุบัน ที่มันเป็นบรรยากาศของการอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้รักกันแล้ว ภาพตรงนี้มันเป็นปัจจุบันที่เป็นขาวดำ แปมว่ามันเป็นการแทนว่ามันไม่มีความรักเหลืออยู่แล้ว สีสันมันหายไป ตัดสลับกับตอนที่ทุกอย่างยังสวยงามอยู่ ยังมีความรักอยู่ เป็นภาพสี”

MV นี้ แปมไม่ได้แสดงเอง มีแค่เป็นซีนลิปซิงค์ ทำไมถึงเลือกทำออกมาในรูปแบบนี้

“พอฟังเพลงแล้ว แปมรู้สึกว่ามีต้องมีเรื่องราว ต้องเป็นการแสดง ต้องมีการแอคติ้ง ซึ่งเราไม่ใช่นักแสดงเนอะ แล้วเราก็ไม่ค่อยมั่นใจในการแสดงของตัวเอง ถ้าสมมุติเป็นเพลงที่พูดถึงเรื่องอื่น ๆ โมเมนต์อื่น การเลิกกันแบบอื่น อาจจะรู้สึกว่าอยากลองเล่นเอง แต่พอเห็นเรื่องเห็นพลอตมา เรารู้สึกอยากให้เป็นนักแสดงมาเล่นมากกว่า เพราะถ้าไปดูเอ็มวี มันจะไม่ได้มีบทพูด หรือว่าสถานการณ์ที่ชัดเจนอะไรขนาดนั้น แต่มันเป็นสิ่งที่เหมือนความรู้สึกที่อยู่ข้างใน มันก็เลยต้องเป็นนักแสดงที่เขาแสดงออกได้ดีทางสายตา เล่นน้อยแต่มากได้ ก็เลยเลือกเป็นคุณแยมมา ที่เป็นนักแสดงอยู่แล้ว แล้วเราก็ชื่นชอบการแสดงของเขา สายตาเขามันแสดงออกมาได้ดีมาก”

ใน MV ตัวละครเลือกที่จะเดินออกมา ถ้าเป็นตัวเองจะเลือกแบบเดียวกับตัวละครมั้ย

“ถ้าเกิดว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเขาไม่ได้รักเราแล้ว เราก็ตัดสินใจแบบเดียวกับตัวละคร แปมคิดว่าถ้าเราเห็นคุณค่าของตัวเองพอ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตัดสินใจอะไรแบบนี้”

แล้วเคยมีประสบการณ์แบบนี้มั้ย

“เคยนะ แต่ตอนนั้นเป็นตอนที่เราเด็กมาก เราตัดสินใจ แต่มันไม่ได้เด็ดขาด หมายถึงว่า เรารู้ว่ามันไม่เหมือนเดิมจริง ๆ เราเห็นทุกอย่างเลย แต่ว่าเราใช้เวลานานมากกว่าที่เราจะเดินออกมา เป็นเวย์นั้นมากกว่า แล้วพอเดินออกมา เขาก็ไม่ได้แคร์ ไปก็ไปสิ เราก็แบบ ทำใจไม่ได้ ไม่มีการง้อซะหน่อยเหรอ มันเป็นช่วงเด็กที่เรายังไม่เข้มแข็งพอ ยังไม่ค่อยโต”

ภายในปีนี้จะมีซิงเกิลใหม่ให้เราฟังอีกมั้ย

“คิดว่ามีค่ะ เขียนว่า มีแหละ (หัวเราะ) อยากมีค่ะ คิดว่าน่าจะได้ปล่อยภายในปีนี้ ถ้าทุกอย่างมันทันนะ”

สปอยล์ซิงเกิลหน้าได้มั้ย จะมาแนวไหน

“จะมาในแนวที่ทุกอยากเห็นแล้วกันค่ะ คิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะอยากเห็นมุมนี้”

ในอนาคตอยากร่วมงานกับใครมั้ย ไม่ว่าจะเป็นโปรดิวเซอร์ หรือ feat. กับศิลปินท่านอื่น

“มีหลายคนเลยค่ะ”

แล้วจะมี feat. กับใครมั้ยในซิงเกิลหน้า

“ยังไม่ได้คิดนะ ยังไม่ได้วางไว้ว่าจะเป็นเพลงไหนยังไง แต่ว่าเราก่อนหน้านี้เคยไป feat. เพลงคนอื่นที่เขาชวนไป เราเลยอยากดึงเขากลับมา feat. เพลงเราบ้าง เช่น Tilly Birds, TIMETHAI รู้สึกว่าเรามีความ R&B บางอย่าง ที่ใกล้เคียงกันอยู่บ้าง รู้สึกว่าน่าจะสนุก”'

สุดท้ายให้พูดฝากซิงเกิลนี้ รวมถึงผลงานอื่น ๆ ในอนาคตหน่อย

“ฝาก รักฉันหรือการมีฉัน นะคะ เป็นเพลง Pop R&B ที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองฟังค่ะ เป็นแนวใหม่ ๆ จากแปม ที่หวังว่าจะทำให้หลาย ๆ คนได้ทบทวนความสัมพันธ์ปัจจุบันละกัน ว่ามันเฮลตี้อยู่มั้ย มันยังมีความรักอยู่หรือเปล่า แล้วก็ฟังกันได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งนะคะ แล้วก็ฝากติดตามเพลงอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาด้วยในปีนี้หรือปีหน้า”

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/2692a16d-b6d6-4568-854b-3aa4e59b65de.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/2e524007-cc2b-4e03-80f3-54baf87cb96f.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-29T13:26:27.000Z","content_types_title":"Chill Talk","slug":"/chillonline/chilltalk"},{"station_id":3,"content_id":5747,"title":"พาชม Disney Collection by Satoru KOIZUMI งานแกะสลักตัวการ์ตูนดิสนีย์สุดน่ารัก","content":"

โอกาสสุดท้ายของแฟน ๆ ดิสนีย์ สำหรับนิทรรศการงานแกะสลักสุดน่ารัก Disney Collection by Satoru KOIZUMI ที่เปิดโอกาสให้เราได้ชมผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. ถึง 1 ต.ค 66 ที่อาร์ตสเปซแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ Maison JE Bangkok

Satoru KOIZUMI เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่นำเสนอผลงานแกะสลักไม้ และมีชื่อเสียงในวงการศิลปะอย่างรวดเร็ว เพราะนอกเหนือจากเสน่ห์ที่ดึงดูดแล้ว ผลงานศิลปะของโคอิซึมิ ยังแสดงถึงความโดดเดี่ยวภายในของแต่ละคนด้วย

สำหรับนิทรรศการที่จัดขึ้นที่ไทยนี้ จะพาทุกคนเดินทางไปสู่ดินแดนดิสนีย์อันน่าหลงใหล เข้าถึงแก่นแท้ของตัวละครอันเป็นที่รักในวัยเยาว์ ไม่ว่าจะเป็น มิกกี้เมาส์ ชิพ เดล พิกเล็ต ทิกเกอร์ สติช เชสเชียร์ ล็อตโซ่ และเอเลี่ยน ผ่านงานแกะสลักไม้สุดคลาสสิค

นอกจากนั้นยังมีชิ้นงาน Limited Edition จัดจำหน่าย นั่นก็คือ คอลเลกชันชุดดิสนีย์เรซิน พิกเล็ต จำกัดเพียง 300 ชิ้นทั่วโลก ให้นักสะสมได้จับจองเป็นเจ้าของกัน

สำหรับใครที่แวะไปชมนิทรรศการนี้กัน ก็อย่าลืมเปิดประตูออกไปด้านหลังนะ เพราะทุกคนจะได้พบกับสติชเป่าลมตัวยักษ์ ยืนรอให้เพื่อน ๆ เข้าไปถ่ายรูปกันด้วยอยู่

เข้าชมนิทรรศการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 66 เท่านั้น ที่ Maison JE Bangkok บางรัก เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 - 19:00 น. เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/11f369bc-c12c-4a88-8f5c-316e3e51dc54.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/b4d1a9d2-441f-4a29-8b73-a238f25c2f63.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-26T17:05:15.000Z","content_types_title":"Review Chill Style","slug":"/chillonline/reviewchillstyle"},{"station_id":3,"content_id":5743,"title":"คุยกับ BOTCASH ถึงการเป็น DJ/Producer พร้อมซิงเกิลล่าสุด “เต็มสิบไม่หัก”","content":"

หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ เอ้ BOTCASH ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในฐานะ DJ/Producer ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วันนี้เขากลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ \"เต็มสิบไม่หัก\" ที่ได้มุกดามา feat. ด้วย เราจึงได้ชวนเขามาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้ และเส้นทางการเป็น DJ/Producer ของ เอ้ BOTCASH กัน

ช่วยขยายความคำว่า DJ/Producer หน่อย อาชีพนี้คืออะไร

“DJ ย่อมาจาก Disc Jockey ก็คือคนที่เปิดเพลงเวลาเราไปเที่ยว ไปคลับ ไปเฟสติเวิล เป็นดีเจที่เปิดเพลงบนเวที เพลงอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้เล่นเพลงของตัวเอง Producer ก็คืออีกหนึ่งอาชีพ ถ้าเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ก็คือคนที่ควบคุมการผลิตทุกอย่าง จนกระทั่งเสร็จออกมาเป็นผลงานเพลงหนึ่งชิ้น ถ้าโปรดิวเซอร์แต่งเพลงให้คนอื่น ก็เป็นโปรดิวเซอร์เบื้องหลัง แต่ทีนี้พอ DJ กับ Producer รวมกัน กลายเป็นอาชีพใหม่ คือ DJ/Producer ก็คือดีเจที่อยากเป็นศิลปิน ดีเจที่อยากทำเพลงของตัวเอง โปรดิวซ์เพลงของตัวเอง ขึ้นเวทีแล้วเล่นเพลงของตัวเองเหมือนนักร้อง อย่างนักร้อง ถ้าร้องเพลงคนอื่นก็เป็นนักร้องโคฟเวอร์ นักร้องกลางคืน แต่เมื่อไหร่ที่แต่งเพลงตัวเองขึ้นไปร้องบนเวทีจะกลายเป็นศิลปิน ดีเจเหมือนกัน ดีเจเปิดเพลงคนอื่นก็คือดีเจเฉย ๆ แต่ถ้าโปรดิวซ์เพลงตัวเอง เล่นเพลงตัวเองเมื่อไหร่ เขากลายเป็นศิลปิน นี่คือ DJ/Producer ครับ ถ้าเมืองไทยมันไม่มีใครให้นึกภาพตาม แต่เมืองนอกมันมี Martin Garrix, Hardwell, Marshmello, Swedish House Mafia นี่คือ DJ/Producer ที่เป็นศิลปิน ที่เราเห็นว่ามันมีเป็นสิบปีแล้วที่เมืองนอก แต่บ้านเรายังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่มีศิลปินที่เป็น DJ/Producer เต็มตัว เพื่อให้คนเข้าใจว่ามันคืออะไรด้วย เอ้ก็พยายามทำสิ่งนั้นอยู่”

เห็นว่าคุณเอ้ได้ไปร่วมงานกับค่าย Monstercat ที่ต่างประเทศด้วย ไปทำอะไรมาบ้าง

“ก็ไปทำเพลงครับ เอาแค่ว่าโอกาสได้ไปทำเพลงกับเขาเนี่ย ผมก็สู้เพื่อโอกาสนี้มา 10 ปีแล้ว มันยากมากครับ แล้วลองคิดดูว่าค่ายนี้ คนที่เป็นเหมือนเอ้ทั่วโลกก็คิดแบบเดียวกัน มันคือ Top 10 แล้วอะ เพราะฉะนั้นคนทั่วโลกให้ความสนใจค่ายนี้ การที่ได้โอกาสไปทำเพลงกับค่ายเขา ก็คือประตูบ้านแรกที่ใหญ่มาก ๆ แล้วพอเปิดได้ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการทำเพลง คุยเรื่องสัญญา แล้วช่วงมกราคม ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาจะบินมาไทยเพื่อมาถ่าย MV เราก็คาดว่ามันจะเป็นเพลงแรกที่เปิดประตูให้มีอีกหลาย ๆ เพลงกับเขาต่อไป”

มาที่ซิงเกิลล่าสุด “เต็มสิบไม่หัก” ซิงเกิลนี้เริ่มต้นมาจากอะไร

“ก็คือผมอยากจะทำเพลงใหม่ก่อน แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันเหมาะกับเสียงนักร้องผู้หญิงที่หวาน ๆ หน่อย แล้วผมก็คิดไม่ออกว่ามันจะเป็นใคร ก็เลยปรึกษากับผู้จัดการ แล้วเขาก็ส่งมุกดามาให้ดู ผมก็ เอ๊ะ มุกดาเขาเป็นนักแสดง เขาร้องเพลงได้เหรอ ทีนี้เขาก็เลยส่งคลิปที่มุกดาร้องเพลงเล่นของสูงมาให้ แล้วพอได้ดูคลิปนั้น ก็รู้สึกว่าเหมือนเขาเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว แล้วยังเติมได้อีกเยอะ ถ้าเราได้โค้ชเขา มันน่าจะได้สิ่งที่เราต้องการในเพลงของเรา”

แนวเพลงของเพลงนี้คือ Color Bass เล่าให้เราฟังหน่อยว่าแนวเพลงนี้คืออะไร

“Color Bass มันคือแนวเพลงที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 3 ปีครับ เอ้ก็เพิ่งรู้จักกับแนวนี้ได้สักปีครึ่ง Color Bass มันจะเน้นไปที่ sound design เสียงเบส ที่ต้นฉบับมันมาเป็นเสียงที่ค่อนข้างจะฟังยาก ฟังหนัก ไม่รู้ว่ารู้จักแนวเพลง Dubstep มั้ย เสียงเบสมันจะค่อนข้างฟังยากหน่อย เขาจะเอาเสียงนั้นมา แล้วก็ทำเหมือน add color เข้าไป ที่เขาใช้ว่า color เพราะเวลาเราดูในโปรแกรม เวลาเราดันย่านความถี่ขึ้นมา มันจะมีสีให้เห็น ทีนี้ย่านความถี่ทุกย่าน มันมีเสียงโน้ตเพลงอยู่ข้างใน เพียงแต่เวลาเราได้ยิน เราได้ยินทุกย่านพร้อมกัน มันก็เลยมีหลาย ๆ เสียง แต่ถ้าเราดันแค่บางย่านขึ้นมา มันจะเกิดเป็นโน้ตเพลงขึ้น จากสิ่งที่ไม่น่าเป็นเสียงเพลงได้ Color Bass คือการดันความถี่เหล่านั้น ให้กลายเป็นโน้ตเพลงที่เราต้องการ ซึ่งโน้ตตัวนึงมันใช้เวลาทำนานมาก เพราะมันต้องค่อย ๆ บิดความถี่ครับ แต่ว่ามันก็ออกมาเป็นเสียงอย่างที่ได้ยินครับ ถ้าไม่ใช้เทคนิคนี้ มันก็จะไม่เกิดเป็นเสียงแบบนี้ อย่างที่เราได้ยินกันในเพลง”

เพลงนี้ได้เพิ่มกลิ่นอายของ T-pop เข้าไปด้วย ทำไมถึงเลือกเป็นแนว T-pop

“T-pop มันเป็นสิ่งที่เอ้โปรดิวซ์ แล้วก็เป็นสิ่งที่เอ้ถนัด แต่ว่าเอ้ทำให้ศิลปินคนอื่นหมดเลย ไม่เคยเอาความ T-pop มาใส่ในเพลงตัวเอง แล้วก็พอเรารู้สึกว่า Color Bass มันเป็นอะไรที่ล้ำมากแล้ว ถ้าสมมุติว่าเอาแค่ Color Bass มาอย่างเดียว ยังไม่ต้องไปถึงแฟนคลับ เอาแค่มุกดาก็คงไม่เอาด้วยแล้ว เขาคงร้องด้วยไม่ไหว งั้นเราก็เลยเลือก T-pop ที่เหมาะกับมุกดา แล้วทีเลือก T-pop ก็เพราะเราถนัด เราไม่ได้ถนัด Jazz บางทีเอา Jazz ไปผสมกับ Color Bass อาจจะเพราะกว่านี้ก็ได้ แต่ผมไม่ถนัด Jazz เราถนัด T-pop แล้วก็รู้สึกว่า T-pop มันเข้าสู่คนหมู่มากได้ง่าย แฟน ๆ ของมุกดาก็น่าจะเอ็นจอยกับเพลงได้ แฟน ๆ ของผมก็เอ็นจอยกับเพลงได้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า งั้นลองเอา T-pop มาผสมกับ Color Bass ดูแล้วกัน แล้วมันก็ออกมาลงตัว”

เรื่องราวใน MV “เต็มสิบไม่หัก” เป็นยังไง

“ถ้าได้ดูจะเห็นว่ามุกดาพยายามเอาไอเท็มชิ้นนึงมาให้เอ้ แล้วก็จะมีตัวหน้ากาก 4 ตัว พยายามแย่งไปจากเขา แต่ไอเท็มชิ้นนั้นมันสำคัญยังไงเนี่ย ยังบอกไม่ได้ ตอนจบพอได้ไอเท็มชิ้นนั้นมา ผมเปิดกระเป๋าแล้วในกระเป๋ามันมี 5 ช่อง ผมใส่ไอเท็มอันนี้ลงไป แล้วมันเหลืออีก 4 ช่อง ซึ่งถ้าดู MV ตัวต่อไปจะรู้แล้วว่าไอเท็มชิ้นนี้มันสำคัญยังไง แต่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าบอกตอนนี้คือสปอยล์ MV ตัวต่อไปเลย”

แสดงว่าจะมีซิงเกิลหน้า จำนวนตามช่องในกระเป๋าเลยหรือมั้ย

“ยังบอกไม่ได้ อาจจะเพลงเดียวได้สองชิ้น เรายังไม่รู้ใช่ปะ ต้องดูก่อน”

เคยจัดงานแฟนมีตไปแล้ว มีแพลนจะจัดในสเกลที่ใหญ่ขึ้นอย่างคอนเสิร์ตมั้ย

“ใช่ครับ ก็อยากจะมีคอนเสิร์ตนะ น่าจะเป็น 17 ธันวาครับ แต่ว่าบอกเป็นช่วงธันวาคมละกัน เผื่อเปลี่ยน (หัวเราะ)”

อยากให้ฝากอะไรถึงคนที่อยากเป็น DJ/Producer หรือว่ากำลังทำตามความฝันแบบพี่เอ้หน่อย

“การเป็น DJ/Producer เนี่ย มันไม่ได้ต่างกับอาชีพศิลปินอาชีพอื่นเลย ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นอะไร มันใช้ความพยายามสูงมาก ๆ เพราะว่าถ้าคุณปล่อยแค่สองเพลงแล้วท้อ มันไม่มีทางสำเร็จแน่นอนถูกมั้ยครับ เอ้เลยชอบให้คำแนะนำว่า ลองดูรูปที่เป็นคนกำลังเอาเสียมขุดเพชรอะ กำลังจะถึงเพชรละ แล้วหันหลังกลับก่อน จริง ๆ ขุดอีกทีเดียวก็เจอเพชรแล้ว ผมเลยจะชอบบอกกับเด็ก ๆ DJ/Producer ว่า เวลาคุณทำเพลง คุณทำมา 10 เพลง บางทีคุณอาจจะดังเพลงที่ 11 บางคนโชคดีทำเพลงเดียวแล้วดังเลย แต่ผมทำ 100 เพลงแล้ว ผมยังไม่ดังเลย ผมทำเพลงที่ 101 ผมทำเพลงที่ 102 ผมทำเพลงที่ 103 ต่อ เพราะผมไม่รู้เลยว่า เราอยู่ห่างจากความสำเร็จแค่เพลงเดียวหรือเปล่า พอเราคิดแบบนี้ได้ มันจะไม่ท้อ แล้วมันจะลุยได้ตลอดครับ”

สุดท้าย อยากให้พูดฝากซิงเกิลนี้หน่อย

“เพลงเต็มสิบไม่หัก ก็เป็นเพลงที่พยายามจะเอา Color Bass ที่เป็นแนวใหม่ ๆ เข้ามาผสมผสานกับ T-pop ที่พวกเรารู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ ก็ทั้งเรื่องซาวน์ดีไซน์ และเรื่องเนื้อหาของเพลงที่ได้มุกดามา feat. ด้วย คำร้องต่าง ๆ ที่ได้เบนซ์ วรเชษฎฐ์ และนุ้ย อรัณย์ มาช่วย ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะย่อยง่ายแล้ว จาก Color Bass ที่มันเป็นอะไรที่ฟังยาก ผมคิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะเอ็นจอยกับเพลงนี้ได้ครับ มันเป็นเพลงบอกรักง่าย ๆ ว่าอยากจะรักกันก็ไม่ต้องอะไรเยอะแยะ เต็มสิบไม่หักให้อยู่แล้วถ้ารักกันจริง”

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/c5705732-722a-4bff-83a9-f654a37eae8c.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/fcbadb64-9ec9-43c0-8b4f-f6874b464557.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-26T14:03:21.000Z","content_types_title":"Chill Talk","slug":"/chillonline/chilltalk"},{"station_id":3,"content_id":5742,"title":"Talk with \"PAWAE\" ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด \"แพ้หว่ะ\"","content":"

PAWAE (พาแว) หรือ แพรวา - แพรรุจิรา โกมลารชุน จากค่าย kiddo records กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลล่าสุด \"แพ้หว่ะ\" แต่งมาจากความรู้สึกของพาแว ที่ไม่อยากแข่งกับใคร แค่แข่งกับใจตัวเองให้ไหวก็พอ วันนี้เราได้ชวนพาแวมาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้กัน

เพลง \"แพ้หว่ะ\" เริ่มต้นมาจากอะไร

“เริ่มมาจากช่วงชีวิตนึงที่รู้สึกว่าเราแพ้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก รู้สึกว่าเราท้อด้วย บวกกับชื่อแพรวา ก็สามารถเล่นเสียงเป็นแพ้หว่ะได้ด้วย ก็เลยได้มาเป็นไอเดียนี้ค่ะ”

เพลงนี้ได้ลงมือเขียนเองด้วยใช่มั้ย

“จริง ๆ ช่วยกันเขียนกับพี่ตูน Three Man Down แล้วก็พี่ไมโล Tilly Birds ด้วยค่ะ”

การร่วมงานกันกับพี่ ๆ ทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง

“ดีค่ะ สนุก แล้ว process การทำงานก็โอเคเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเกร็ง ๆ แต่พอมาทำงานจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าพี่เขาน่ารัก เป็นกันเองมาก เวลาเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจในมุมเราด้วย แล้วก็เหมือนทำเพลงออกมาให้เป็นตัวหนูมากที่สุด”

คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้

“ยากที่สุดน่าจะเป็นดนตรี จริง ๆ เนื้อเพลงมันค่อนข้างจะไปทางเศร้า ท้อ ๆ นิดนึง แต่ว่าพอมาทำเพลง ก็คิดว่าอยากทำเป็นแนวร็อค การทำดนตรีมันก็เลยยากนิดนึง กว่าจะออกมาเป็นผลงานไฟนอล ก็คือต้องมีเป็นดราฟหลาย ๆ อัน เปรียบเทียบกัน”

ซิงเกิลนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

“ไม่นานค่ะ ประมาณ 2 วัน จริง ๆ เพลงนี้มันเป็นโปรเจคที่เคยพับเอาไว้ แล้วก็ปล่อยเพลงอื่นไปก่อน”

ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง

“ชอบท่อนฮุคค่ะ แค่เพียงสักครั้ง ที่เธอจะมองที่ฉัน”

ปกติเรามักจะแพ้กับเรื่องอะไร

“ก็มักจะแพ้กับเรื่องความรัก เรื่องการเรียน อะไรแบบนี้ค่ะ”

แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

“น่าจะเรียนการเรียนค่ะ เพราะรู้สึกว่าชอบเอาชนะด้วย เหมือนเราก็จะพยายามเต็มที่ของเรา ไม่อยากให้ใครมามองว่าเราทำไม่ได้”

ลุคใน MV ออกแนวพังค์นิด ๆ เรามีส่วนร่วมในการออกไอเดียมั้ย

“มีส่วนร่วมด้วยค่ะ จริง ๆ ผู้กำกับเขาก็จะมีเป็นไอเดียอยู่แล้วว่าอยากจะได้ประมาณนี้ หนูจะมีส่วนว่าตรงนี้ขอเอาออกได้มั้ย อยากแต่งหน้าประมาณนี้นะ”

ปกติแล้วสไตล์จริง ๆ ของตัวเองเป็นแบบไหน

“จริง ๆ ก็คล้าย ๆ ใน MV นะคะ หนูว่าหนูเป็นคนสองคาแรคเตอร์ เวลาทำงานทั่วไป ไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ก็จะแต่งตัวชิล ๆ หน่อย แต่ว่าถ้าขึ้นคอนเสิร์ตก็จะเป็นแนวร็อคไปเลย เวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็อยากให้คนเห็นตัวตนที่แท้จริงของเราแบบชัด ๆ เลย”

พาแวหุ่นดีมาก มีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองมั้ย

“จริง ๆ เคยออกกำลังกายอยู่ช่วงนึงค่ะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ออก แต่ว่าจะคุมอาหาร ไม่กินของทอด แต่หนูเป็นคนที่ค่อนข้างเผาผลาญดีอยู่แล้ว เหมือนเป็นคนที่กินแล้วไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่ จริง ๆ อยากให้อวบขึ้นกว่านี้ พยายามสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเป็นคนขี้หนาวค่ะ”

เพลงของพาแวจะชอบมาในแนวรักไม่สมหวัง ซิงเกิลต่อไปจะมีเพลงรักสมหวังบ้างมั้ย

“อาจจะมีในอนาคตค่ะ จริง ๆ ส่วนนึงที่ปล่อยเพลงแนวนี้ออกมา เพราะเพลงทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจะเป็นคอนเสป Loser อะค่ะ เป็นคอนเสปแบบเราแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้ในรูปแบบ มีแฟนแล้วแฟนติดเพื่อน หรือว่ามีมือที่สาม หรือเรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่า รวมไปถึงเพลงนี้ ที่ว่าเราแพ้ตัวเองนะ แล้วเราก็แพ้คนอื่นด้วย ตอนนี้กำลังจะทำ EP Album ด้วยค่ะ ก็เลยอยากคงคอนเสป Loser”

มีแพลนจะรวมเป็นอัลบั้มด้วย จะปล่อยช่วงไหน

“เป็น EP Album แบบมินิอัลบั้มค่ะ จริง ๆ ยังไม่มีกำหนดการที่สามารถบอกได้ แต่ว่าน่าจะภายในปีนี้”

จะมีซิงเกิลเพิ่มด้วยมั้ย

“มีเพลงนึงค่ะ จริง ๆ แอบปล่อยเป็นอะคูสติกเวอร์ชั่นไปแล้ว ชื่อเพลงจมอยู่กับน้ำตา”

ฝากอะไรถึงคนที่กำลังอยู่ในสถานะคนแพ้แบบในเพลง \"แพ้หว่ะ\" หน่อย

“สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร หรือรู้สึกว่ากำลังแพ้อะไรก็แล้วแต่ จริง ๆ แล้วเราก็ปล่อยจอยไปก็ได้ค่ะ อย่างของหนูที่รู้สึกว่ามันช่วยมาก ๆ ก็คือปล่อยจอย ชิล ๆ ไป เราไม่จำเป็นต้องชนะทุกเรื่องก็ได้ ถ้าใครกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ”

สุดท้าย อยากให้เพลง “แพ้หว่ะ” เป็นอะไรสำหรับคนฟัง

“อยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนสำหรับคนฟังค่ะ เป็นเพลงที่จะอยู่กับคนฟังในวันที่รู้สึกว่าท้อ แต่ว่าเราจะไม่ถอยนะ”

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/8f7d05e5-9d6a-4a1c-b0c3-0847e7e1198f.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/a507c212-9ed0-499c-800c-1b9d25ac9f0a.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-26T13:46:15.000Z","content_types_title":"Chill Talk","slug":"/chillonline/chilltalk"},{"station_id":3,"content_id":5701,"title":"พาทัวร์ BDMS WELLNESS CLINIC ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ","content":"

ช่วงนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง เพราะรอบตัวเต็มไปด้วยมลพิษต่าง ๆ ผู้คนก็เลยหันมาสนใจในการดูแลตัวเองมากขึ้น วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาดูแลตัวเองแบบครบวงจร ตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่ BDMS WELLNESS CLINIC ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ ปาร์คนายเลิศ

BDMS WELLNESS CLINIC มีทั้งหมด 8 ชั้น ก็จะครอบคลุมหมดเลย ทั้งสุขภาพร่างกาย การเสริมวิตามินต่าง ๆ ทันตกรรม เส้นผม ผิวพรรณ รวมไปถึงภาวะการมีบุตรยากด้วย

สำหรับโปรแกรมที่เราได้ทดลองทำ คือโปรแกรม BWC Antioxidants Plus Customized Vitamin เป็นการตรวจเลือด เพื่อวิเคราะห์ปริมาณวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ 10 ชนิด พร้อมรับวิตามินเฉพาะบุคคลออกแบบตามผลเลือด สำหรับ 1 เดือน

วิธีการของเขาก็คือจะมีแบ่งเป็นขั้นตอน เริ่มต้นกันที่วัดความดัน ตรวจสุขภาพในร่างกายทางด้านต่างๆ

ต่อมาคุณหมอก็จะทำการสอบถามเช็คประวัติในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ภาวะความเครียด การรับประทานอาหารแต่ละมื้อ และการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อทำการวิเคราะห์

ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปคือ \"การเจาะเลือด\" เพื่อตรวจวัดระดับวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย จากนั้นนำผลตรวจไปวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน

หลังจากนั้นทางคลินิคก็จะจัดวิตามินเฉพาะบุคคลมาให้เราทาน 1 เดือน เรียกได้ว่าขาดตรงไหน ก็ทานเสริมตรงนั้นแบบตรงจุดของแต่ละคนเลย

อีกโปรแกรมที่เราได้ทดลอง และน่าจะถูกใจคนที่กำลังกังวลเรื่องปัญหาผิวพรรณ ก็คือโปรแกรม Skin Analysis การตรวจวิเคราะห์สภาพผิวเฉพาะบุคคล

โปรแกรมนี้จะทำให้เรารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิว โดยใช้กล้องที่มีความละเอียดสูง ตรวจวิเคราะห์ผิวชั้นบนและผิวชั้นที่ลึกลงไป ซึ่งจะช่วยในการประเมินการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตั้งแต่ปริมาณรอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ ริ้วรอย ความไม่สม่ำเสมอของผิว ความกว้างของรูขุมขน UV Spots สารที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวบนใบหน้า รวมถึงประเมินอายุผิวของแต่ละบุคคลด้วย

หลังจากที่ได้ใช้กล้องตรวจแล้ว เราก็จะได้พบแพทย์ เพื่อฟังคำอธิบายในแต่ละส่วน แพทย์ที่นี่ก็จะชี้ให้เราเห็นเลยว่า เรามีปัญหาผิวทางด้านใดบ้าง ต้องเสริมตรงไหน ดูแลยังไง ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับปัญหาผิว ก็สามารถปรึกษาแพทย์ที่นี่ได้หมดเลย เขาพร้อมที่จะให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเองสุด ๆ

เมื่อรู้ปัญหาผิวแล้ว ก็ตบท้ายด้วยการทำ BWC Royal Bright ทรีตเมนต์ผลักวิตามินและสารอาหารเข้าสู่ผิวพรรณบริเวณใบหน้าและลำคออย่างล้ำลึก โดยไม่ต้องใช้เข็ม สำหรับใครที่กลัวเจ็บ หมดความกังวลทันที เพราะที่ BDMS WELLNESS CLINIC เขาเน้นการดูแลแบบไม่จำเป็นต้องเจ็บตัว

สำหรับโปรแกรม BWC Royal Bright ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที โดยเขาจะใช้นวัตกรรมจากเครื่อง Infusion ทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่และเวลาในการปล่อยที่เหมาะสม เพื่อสร้างช่องว่างชั่วคราวบริเวณเซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุด และส่งผ่านวิตามินลงไป

ซึ่งวิธีนี้สามารถส่งวิตามินและสารอาหารผิวลงไปได้อย่างล้ำลึก และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดเรือนริ้วรอย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เผชิญมลภาวะมาเยอะ จนทำให้ผิวเสื่อมโทรม และต้องการกู้ให้ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง

เห็นแบบนี้แล้ว เริ่มสนใจกันบ้างหรือยัง สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ดูแลตัวเองแบบครบวงจร เรียกว่ามีปัญหาสุขภาพตรงส่วนไหน ก็สามารถมาดูแลได้อย่างตรงจุด สามารถแวะมาได้ที่ BDMS WELLNESS CLINIC ถนนวิทยุ ปาร์คนายเลิศ ได้เลย แล้วมาดูแลตัวเองไปด้วยกันนะ

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/3868c074-2982-42a5-a0d5-0df94dc3dcea.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/4b798852-577e-40d7-b85c-5dc4622fbcd9.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"","publish_date":"2023-09-21T17:08:46.000Z","content_types_title":"Review Chill Style","slug":"/chillonline/reviewchillstyle"},{"station_id":3,"content_id":5665,"title":"7 หนุ่ม ATLAS ส่งซิงเกิลใหม่สุดสนุกกับเพลง ‘ มังคุด(Mangosteen) ’ ที่ได้ชวนทุกคนต้องลองชิม เอ้ย! ลองฟังเพลงที่สุดจะแสนอร่อย","content":"

ATLAS 7 หนุ่มศิลปินจากค่าย XOXO Entertainment หลังจากที่ได้ปล่อยเพลง ‘ เค้ามาก่อน ’ ซึ่งเป็นเพลงช้าสุดไพเราะ ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างมากจากทุกคน และคราวนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะได้ลุกขึ้นมาเต้นไปกับพวกเค้าอีกครั้ง กับซิงเกิลใหม่ล่าสุดในชื่อเพลง ‘มังคุด(Mangosteen)’ กับแนวเพลง Pop Electronic Disco ที่ได้โปรดิวเซอร์คนเก่งอย่าง Jap The Richman Toy มาช่วยแต่งและเรียบเรียงทำนองให้ และนอกจากนี้ยังได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง สอง - ศาศวัต เลิศฤทธิ์ที่เคยกำกับมิวสิกวิดีโอเพลง ‘คุยแก้เหงา (Mr.Lonely)’ และ ‘เค้ามาก่อน (Lovefool)’มากำกับมิวสิกวีดีโอเพลงนี้ให้อีกครั้ง

มังคุด (Mangosteen) โดยเนื้อหาเพลงนี้ได้ถ่ายทอดมุมมองของคนที่ไม่สมหวังในรัก เสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายเบลอ ทำอะไรผิดๆ ถูกๆ เพราะฤทธิ์ความคิดถึง จึงทำให้จากที่แม่บอกให้ไปซื้อมังคุด แต่ดันไปหยิบละมุดกลับบ้านมา โอดครวญแบบกวนๆ ด้วยภาษาที่คมคาย สละสลวย มีเอกลักษณ์ เช่น “เปลืองไฟเลยถอดปลั๊ก ยูกลัวเปลืองรักเลยถอดใจ” “ต้องทรกรรมกับไฟรักที่กำลังมอดดับ” “มายเบรนก็เบลอ” เป็นต้น นอกจากนั้นเพลงนี้ยังได้หยิบยกราชินีผลไม้ อย่าง “มังคุด” มาอยู่ในเพลง T-POP อีกด้วย

ในส่วนพาร์ทของ MV เพลงสนุกสนานชวนเต้นที่มาพร้อมกับอีกหนึ่งความพิเศษคือท่าเต้นของเพลงนี้ ยังได้สอดแทรกภาษามือ ให้ตรงตามเนื้อหาของท่อนที่เต้น ไว้อีกด้วย ถือเป็นผลงานเพลงรสชาติใหม่ อีกรสชาติหนึ่ง ที่ ATLAS ได้ตั้งใจทำออกมาในปีนี้ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลง โดยหวังให้ทุกคนได้ลองลิ้มชิมรส “มังคุด” ผลนี้ กันอย่างเอร็ดอร่อย และทานซ้ำได้ไม่มีเบื่อนั่นเอง สามารถติดตามฟังเพลงพร้อมรับชม

สามารถรับฟังเพลงและติดตาม MV ของ ATLAS ‘ มังคุด (Mangosteen) ’ ที่จะชวนทุกคนมาลองชิม เอ้ย! ลองฟังเพลงที่สุดจะแสนอร่อย
ได้ที่ Youtube : ATLAS

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/e5ab263e-1d89-4b22-b8b6-0868368d5ec6.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/82d93395-a8e1-4847-a5fb-b9a8c7197d81.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/67a4fae4-195a-483f-b1b1-701c5ed28733.jpeg","publish_date":"2023-09-19T17:17:00.000Z","content_types_title":"Entertainment Space","slug":"/chillonline/entertainmentspace"},{"station_id":3,"content_id":5664,"title":"Dept ปล่อยซิงเกิลใหม่ล่าสุด กับเพลง ‘ ฟ้ามืดทีไร (Until Sunset) ’ เอาใจคนเหงา บอกเล่าเรื่องราวความเศร้าปนคิดถึงในห้วงเวลากลางคืน","content":"

Dept ศิลปินสองหนุ่มดูโอ้สุดอินดี้ป็อบอย่าง เบนซ์–ภวัต โอภาสสิริโชติ (ร้องนำ/กีตาร์) และ ลุค- ลุค ทาวน์เซน (คีย์บอร์ด) แห่งวง Dept สังกัดค่าย Samallroom หลังจากทยอยส่งผลงานจากอัลบัมล่าสุดอย่าง ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time) , ประกาศให้โลกรู้ (Shoutout) และ รบกวน (Unstable Relationship) ก็ทำเอากวาดยอดวิวและยอดฟังบนสตรีมมิ่งต่าง ๆ กว่าหลักล้านวิว

ฟ้ามืดทีไร (Until Sunset) ได้ถ่ายทอดเนื้อหาของ ‘ความคิดถึง’ คนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วในตอนนี้ และแน่นอนว่าการทำงานของความคิดถึงของคนเรานั้นมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน หลายครั้งที่รู้สึกเหงาในเวลากลางคืนเราก็มักจะมีคำถามในใจว่า เขาจะเป็นยังไงบ้าง จะสบายดีไหม หรือมีความสุขรึเปล่า แต่น่าเศร้าที่คำถามเหล่านั้นไม่อาจส่งไปถึงเขาคนนั้นได้ ทำได้เพียงแค่คิดถึงความทรงจำที่เคยมีกันต่อไป

ในส่วนพาร์ทของ MV เล่าถึงเรื่องราวของคู่รักที่เคยใช้ชีวิตด้วยกัน แต่วันนึงหลังจากเลิกราและอีกฝ่ายต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง และมักจะคิดถึงภาพความทรงจำดี ๆ ก่อนเลิกรากัน ทุกครั้งที่ฟ้าเริ่มมืดภาพต่าง ๆ เหล่านั้นจะผุดขึ้นมาทุกที ก่อนจะพบว่าในความเป็นจริงเขาไม่ได้อยู่ในชีวิตอีกต่อไปแล้ว คงเหลือแต่ความเหงาะและความคิดถึงต่อไปเรื่อย ๆ ตามท่อนนึงในเพลง “ นอนหมอนใบเดิม คิดถึงแต่เรื่องเก่า บนเตียงของเรา กลิ่นหอมของเส้นผมเธอฉันจำได้อยู่ ที่ปลายจมูก ” รวมถึง mood&tone ใน MV

สำหรับเพลงนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงของ Dept ที่มีกลิ่นอายใหม่ ๆ จากทุกเพลงที่ผ่านมา โดยเพิ่มความป็อบทางด้านดนตรีที่มาพร้อมจังหวะและซาวด์ที่ฟังสบาย ๆ

สามารถรับฟังเพลงและติดตาม MV ของ Dept ‘ ฟ้ามืดทีไร (Until Sunset) ’ ฟ้ามืดทีไรยิ่งรู้สึกคิดถึงเธอทุกคืน

ได้ที่ Youtube : SMALLROOM

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/4c53c160-0358-41f5-bc68-3c4de81b9fb5.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/9e304ec7-2cc2-4d7e-8d86-fd9cf6e2993e.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/952c2d80-c061-423b-b369-8ffd0c08f995.jpeg","publish_date":"2023-09-19T17:12:03.000Z","content_types_title":"Entertainment Space","slug":"/chillonline/entertainmentspace"},{"station_id":3,"content_id":5663,"title":"ว่าน ธนกฤต ส่งซิงเกิลใหม่ล่าสุดกับเพลง ‘ คนข้างๆ ’ ถ้ามีเธอคอยอยู่ข้างๆ มันก็คงจะดี","content":"

ว่าน ธนกฤต ศิลปินหนุ่มเสียงเพราะแสนอบอุ่นที่ใครก็รู้จัก สังกัดจากค่าย SpicyDisc ได้ปล่อยวิงเกิลใหม่ล่าสุดกับเพลง ‘ คนข้างๆ ’ โดยเพลงนี้ยังได้ยอดฝีมืออย่าง Funky Wah Wah มาช่วยเสริมให้ดนตรีฟังสบายๆ ด้วยซินธิไซเซอร์ควบรวมกับดนตรี Disco ให้เพลงนี้มีกรู๊ฟชวนโยกตาม จนกลายเป็นเพลงสุดแฮปปี้ ที่มีใครสักคนมาเป็น คนข้างๆ กัน

คนข้างๆ เป็นเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้ยิ้มไปกับความชุ่มชื่นหัวใจ เมื่อเราได้พบกับใครสักคนมาทำให้หัวใจเราเต้นไม่เป็นจังหวะ เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าได้รีรอทิ้งเวลาให้เสียเปล่าหันไปกระซิบบอกเขาไปเลยว่าอยากมีเธอมาเป็นคนข้างใจ

ในส่วนพาร์ทของ MV สุดพิเศษนี้ ว่าน ได้ขอชวนนักแสดงสาวที่เปรียบเสมือนดรีมเกิลของชายหนุ่มในยุค 90 อย่าง ‘ พอลล่า เทเลอร์ ’ มาร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอด้วย โดยเนื้อเรื่องเป็นการอ้างอิงถึงซีรี่ย์ในตำนานอย่าง ‘ เนื้อคู่ประตูถัดไป ’ มาเป็นแกนการเล่าเรื่อง ซึ่งความพิเศษยังได้ผู้กำกับซีรี่ย์อย่าง ‘ มุก ปิยะกานต์ บุตรประเสิรฐ ’ มาเนรมิตภาพที่เราคุ้นตาผ่านเพลง คนข้างๆ ของว่าน

โดยเพลงนี้ว่านเล่าว่า “ ถ้าจะพูดว่าพี่พอลล่าเป็นคนทำให้เพลงนี้เสร็จสมบูรณ์ก็คงไม่ผิด เพราะผมเขียนเพลงนี้จบหลังจากที่ได้ไปออกรายการแล้วมีพี่พอลล่าไปเป็นแขกเซอร์ไพร์ส ช่วงเวลานั้นความรู้สึกผมมันตีวนไปหมด ทำตัวไม่ถูก เหมือนเราได้เจอใครสักคนที่เราชอบเขามากๆ เลยนำความรู้สึกนั้นมาเขียนออกมาเป็นเพลงคนข้างๆ ครับ ต่อมาก็เป็นเรื่องของเอ็มวีผมอยากให้พี่พอลล่ามาเล่นและเพราะไหนๆ

ก็เขียนจบเพราะเขาก็เลยลองเลียบๆ เคียงๆ ไปแล้วทางพี่เขาก็ตอบรับกลับมาว่ายินดีมาเล่นให้เลยติดต่อไปถึงผู้กำกับที่คุ้นเคยกับเขาจึงมาเป็นพี่มุก โดยยึดโยงโครงเรื่องของซีรี่ย์เนื้อคู่ประตูถัดไป ซึ่งการถ่ายทำจะเป็นการใช้เทคนิคแบบกรีนสกรีนแล้วสร้างฉากมุมต่างๆ ตามที่ได้เห็นในเอ็มวีกันเป็นความแปลกใหม่ในการนำเทคนิคนี้มาใส่ในเอ็มวีของเรารวมถึงเพลงนี้ยังมีท่าเต้นแบบไม่ยากและก็ไม่ง่ายจนเกินไปให้ทุกคนเต้นไปด้วยกันครับ ”

สามารถรับฟังเพลงและติดตาม MV ของ ว่าน ธนกฤต ‘ คนข้างๆ ’ ถ้ามีเธอคอยอยู่ข้างๆ มันก็คงจะดี

ได้ที่ Youtube : SpicyDisc

","feature_image16_9":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/b1f0413b-8b45-49f4-94e3-1f8549c6b340.jpeg","feature_image1_1":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/d4db8f3c-be4b-4f8b-934f-376979eccfc6.jpeg","feature_image3_2":"","feature_image2_3":"","feature_image9_16":"https://storage.googleapis.com/atime-media-prod/content/29f0779e-4851-45ad-a773-63d9b1aa5e4f.jpeg","publish_date":"2023-09-19T17:06:09.000Z","content_types_title":"Entertainment Space","slug":"/chillonline/entertainmentspace"}]}

Good Jobs

EP18_WBG

Share :