เศร้าจนต้องปาดน้ำตา! DEPT กลับมาส่งเพลงช้าเรียกน้ำตาตามคำเรียกร้องในซิงเกิลใหม่ ‘ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)’

Entertainment Space

เศร้าจนต้องปาดน้ำตา! DEPT กลับมาส่งเพลงช้าเรียกน้ำตาตามคำเรียกร้องในซิงเกิลใหม่ ‘ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)’

เศร้าจนต้องปาดน้ำตา! DEPT กลับมาส่งเพลงช้าเรียกน้ำตาตามคำเรียกร้องในซิงเกิลใหม่ ‘ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)’

เศร้าจนต้องปาดน้ำตา! Dept กลับมาส่งเพลงช้าในซิงเกิลใหม่
“ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)”

กลับมาส่งเพลงช้าเรียกน้ำตาตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ อีกครั้ง สำหรับสองหนุ่มดูโอ้จากวง Dept ภายใต้สังกัด Smallroom นำโดย เบนซ์-ภวัต โอภาสสิริโชติ และ ลุค-ลุค ทาวน์เซน หลังจากส่งเพลงรักจังหวะสนุกอย่าง 17 (Hoo Hoo) , ประกาศให้โลกรู้ (Shoutout) จนติดหูแฟนเพลงทั่วประเทศ ล่าสุดก็ได้ส่งซิงเกิลใหม่ล่าสุดบอกเล่าเรื่องราวการจากลาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวในเพลง “ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)”

‘ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time)’ สะท้อนถึงความรู้สึกของคนเราที่วันหนึ่งเมื่อถึงคราวจะต้องจากลา มักรู้สึกเสียดายและอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวต่าง ๆ หรือขอแค่มีโอกาสได้บอกรักและบอกลาก่อนจะจากกันก็เพียงพอ แต่ในความเป็นจริงเรากลับไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้ จึงทำได้เพียงเสียดายและเสียใจกับการจากลานั้น

ด้านดนตรีของเพลงนี้มีการใช้ซาวด์ดนตรีที่ธรรมชาติ ใช้เสียงสังเคราะห์ทางดนตรีน้อยที่สุดเท่าที่ทำมาผนวกกับไดนามิกที่ไม่แข็งกระด้านเพื่อสื่อให้อารมณ์เปรียบกับมนุษย์คนหนึ่ง คลุกเคล้ากับเสียงไวฟโอลินที่ทำให้เพลงนี้สมบูรณ์แบบและถ่ายทอดเนื้อหาของเพลงได้ดียิ่งขึ้น สำหรับพาร์ทมิวสิควิดีโอมีการนำเสนอถึงเสี้ยววินาทีสุดท้ายของชีวิตคนเรา ที่เชื่อกันว่าในช่วงวินาทีนั้นมนุษย์เราจะนึกถึงความทรงจำต่าง ๆ หรือเหตุการณ์ร์สำคัญในชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่อยากทำมากที่สุดก่อนที่จะสิ้นลมหายใจนั้น คงเป็นการกลับไป ทักทาย ขอโทษ บอกรัก บอกลา หรือใช้เวลาร่วมกันในช่วงนาทีสุดท้ายให้ดีที่สุด อีกทั้งเพลงนี้นักร้องนำอย่าง ‘เบนซ์’ ได้แต่งเนื้อเพลงจากประสบการณ์จริงที่ตัวเขาได้พบเจอกับความสูญเสียในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ Dept ตั้งใจทำและหวังว่าคนฟังรับรู้ถึงสิ่งที่เพลงพยายามถ่ายทอดอย่างลึกซึ้ง

สามารถรับชม MV เพลง ถ้ารู้ว่าจะหายไป (About Time) จาก Dept ได้ที่ Youtube : SMALLROOM

และสามารถติดตามวง DEPT ได้ทาง
Facebook : Dept, Smallroom Bangkok Pop Music Label
Instagram : dept.dept, smallroommusic

you may also like

‘ต่อจากคืนนี้ (ฉันจะไม่มีเธออีกแล้ว) I gloomy’ ซิงเกิลแรกจาก ‘Newery’ ศิลปินคลื่นลูกใหม่จากค่าย What The Duck

‘ต่อจากคืนนี้ (ฉันจะไม่มีเธออีกแล้ว) I gloomy’ ซิงเกิลแรกจาก ‘Newery’ ศิลปินคลื่นลูกใหม่จากค่าย What The Duck

‘ต่อจากคืนนี้ (ฉันจะไม่มีเธออีกแล้ว) I gloomy’ซิงเกิลแรกจาก ‘Newery’ ศิลปินคลื่นลูกใหม่จากค่าย What The Duck“Newery” หรือ นิว - วิศรุต ณ นคร ศิลปินคลื่นลูกใหม่น่าจับตามองลำดับล่าสุดจากสังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) เจ้าของเพลงฮิต อย่าง “กลิ่นดอกไม้” เพลงป็อปฟังง่ายที่กลายเป็นเพลงฮิต กวาดยอดวิวไปกว่า 33 ล้านกว่าวิว ด้วยน้ำเสียงเอกลักษณ์ และสไตล์เพลงที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร จึงทำให้เพลง “กลิ่นดอกไม้” ถูกนำไปประกอบซีรี่ย์ช่อง 3 เรื่อง “พี่จะตีนะเนย” นอกจากนี้ยังมีผลงานเพลงคุณภาพอีกมากมาย อาทิ “หลงรัก” ที่ได้กระแสตอบรับดีไม่แพ้กัน รวมถึง “ตั้งแต่นั้นมา” , “ฉันคนนี้ไม่ได้อยู่ในวงโคจร” , “คราวนี้” โดยทุกเพลงผสมลายเซ็นของ Newery ไว้อย่างชัดเจนต้อนรับการเป็นศิลปินลำดับล่าสุดจากค่ายเพลง What The Duck ด้วยซิงเกิลแรกที่ใช้ชื่อว่า “ต่อจากคืนนี้ (ฉันจะไม่มีเธออีกแล้ว)I gloomy” ที่ยังคงผสมผสานความเป็นเพลงป็อป กับซาวน์ดีไซน์ที่แตกต่างจากเพลงก่อนหน้า โดยเพลงนี้พูดถึง ความรู้สึกหลังจากความสัมพันธ์จบลง บางคนอาจจะรู้สึกว่า โลกใบเดิมที่ไม่มีคน ๆ นั้น แล้ว มันกลับดูหม่นลง อะไรที่เคยดูสวยงามก็ไร้ความหมาย นอกจากนี้เพลง “ต่อจากคืนนี้ (ฉันจะไม่มีเธออีกแล้ว)” ยังได้ศิลปินมากมีฝีอย่าง “กอล์ฟ” หรือ “กอล์ฟ - ประภพ ชมถาวร จากวง Superbaker มาร่วมงานกันในซิงเกิลใหม่นี้อีกด้วย

Jeff Satur ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝัน ผ่านซิงเกิลเพลงใหม่ล่าสุด ‘ก่อนที่เธอจะลืมฝัน’

Jeff Satur ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝัน ผ่านซิงเกิลเพลงใหม่ล่าสุด ‘ก่อนที่เธอจะลืมฝัน’

'Jeff Satur' ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่อาจเป็นเพียงเทพนิยายในความฝันผ่านซิงเกิลเพลงใหม่ล่าสุด ‘ก่อนที่เธอจะลืมฝัน’เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปิน และนักแต่งเพลง ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดพาแฟนเพลงก้าวเข้าสู่โลกแห่งความฝันที่ไม่อาจจับต้องได้ ในบทเพลงที่มีชื่อว่า ‘ก่อนที่เธอจะลืมฝัน’ (Lucid) ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลเพลงลำดับที่ 7 และซิงเกิ้ลเพลงภาษาต่างประเทศลำดับที่ 4 ของ เจฟ ซาเตอร์ กับ เวย์เฟอร์ เรคอร์ดส (Wayfer Records) ค่ายเพลงในเครือ วอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย (Warner Music Thailand)ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid) เป็นเพลงแนวบัลลาดนำเสนอเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในโลกที่เป็นเสมือนดั่งเทพนิยาย และไม่ต้องการให้เรื่องราวความรักของพวกเขาต้องสิ้นสุดลง เปรียบเสมือนกับกับที่เวลาตื่นเช้าขึ้นมา และคนเรามักจะลืมความฝันไป ถึงแม้ว่าเรื่องราวในฝันนั้นจะสวยงามเพียงไหนก็ตาม เจฟสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงด้วยการจินตนาการว่าได้เข้าไปในความฝันของคนรัก ได้มีเรื่องราวความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน และไม่ต้องการให้เธอลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อต้องตื่นขึ้นมา โดยเพลงนี้สามารถถ่ายทอดความหมายของชื่อเพลงเป็นภาษาไทยได้ว่า “ก่อนที่เธอจะลืมฝัน”ในท่อนแรกของบทเพลง เจฟ จึงได้นำเสนอการทะนุถนอมความรักร่วมกันไว้ว่า“Won’t you miss the nights you slept in my arms?And knew, we would find a place in the starsFor two, taking you to dance in the sky”ซึ่งท่อนดังกล่าวได้นำเสนอความรัก ความลุ่มหลง และความโหยหาถึงช่วงเวลาที่ดี ๆ ที่เกิดขึ้น ราวกับว่าเราทั้งสองนั้น ได้เต้นรำท่ามกลางหมู่ดาวอยู่บนฟากฟ้า ซึ่งใครจะรู้ว่าศิลปินหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งคนนี้ จะมีความเจ้าบทเจ้ากลอน เขียนเพลงออกมาได้อย่างสละสลวย ราวกับบทกวีที่ถูกบรรยายออกมาอย่างลึกซึ้งทำนองและเนื้อร้องของเพลงนี้ ผ่านกระบวนการแต่งเพลงในรูปแบบของเจฟ ที่ลึกซึ้งมากไปกว่าเรื่องราวของความสัมพันธ์เหมือนอย่างเพลงอื่น ๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นการคิดในรูปแบบที่เป็นนามธรรม และจับต้องไม่ได้ก่อน – จะเป็นอย่างไรถ้าต้องแต่งเพลงที่เป็นเหมือนเทพนิยายปรัมปราหรือแฟนตาซี? จึงทำให้ภาษาที่ใช้นั้น มีความหมายลึกซึ้ง ที่อ่านผ่านๆ และทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอ่านบทกวีเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งเรื่องของเวลาแห่งห้วงความฝัน ที่เจฟอธิบายว่า มันคือเวลาที่ใกล้จะสว่าง หรือที่เรียกกันว่า “รุ่งสาง” เมื่อนำมาผนวกกับสิ่งที่เป็นปริศนา การค้นหาความทรงจำในมักจะหายไปในยามตื่น เจฟจึงได้คิดแทนที่ตัวเองว่าเป็นความฝัน แล้วถามตัวเองว่า ถ้าเขาเป็นความฝัน เขาจะร้องเพลงเกี่ยวกับอะไร? “ผมต้องการเขียนผลงานที่เป็นทั้งแนวคิดและเป็นตำนาน ที่ทุกคนสามารถเชื่อในความเป็นไปได้ในสิ่งที่ใคร ๆ ต่างบอกว่าเป็นไปไม่ได้” -. เจฟ ซาเตอร์ในผลงานเพลงล่าสุดชิ้นนี้ “เจฟ” ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์มิวสิควิดีโอนี้ด้วยโดยเป็นการทำงานร่วมกับ ‘จีน’ คำขวัญ ดวงมณี ผู้กำกับมิวสิควิดีโอมากความสามารถที่มีผลงานมาแล้วมากมาย จากไอเดียที่เกิดขึ้นระหว่างเขียนบทเพลง เจฟนึกถึงเรื่องราวของ ปีเตอร์ แพน ที่ต้องการจะเป็นเด็กตลอดไป ในขณะที่เพลงของเจฟคือไม่ต้องการจะตื่นจากความฝัน เรื่องราวในมิวสิควิดีโอจึงเกิดขึ้นในช่วงก่อนรุ่งสาง เป็นช่วงเวลาที่คนสองคนได้ใช้เวลาพิเศษร่วมกัน และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความฝันไปเรื่อย ๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละคร และทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมโอบอุ้มเรื่องราวของทั้งสองในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างลึกซึ้ง ‘จีน’ คำขวัญ ดวงมณี ได้กล่าวถึงการทำงานกับเจฟว่า “เจฟเป็นคนสนุก และทำงานด้วยง่าย เจฟมีพลังความคิดสร้างสรรค์อย่างล้นเหลือ บทบาทของเราคือการนำไอเดียของเจฟมาทำให้เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้เจฟยังเป็นนักแสดงที่มีความสามารถสูงอีกด้วย”ที่สำคัญเจฟยังคงแสดงนำในมิวสิควิดีโอของตัวเอง และในบทเพลง ก่อนที่เธอจะลืมฝัน นี้ ได้มีโอกาสแสดงคู่กับ ‘เนเน่’ พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ นักร้องชาวไทยที่ได้เปิดตัวเป็นศิลปินและได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีน เนเน่ มีความตั้งใจและได้บินกลับมาจากประเทศจีนเพื่อถ่ายมิวสิควิดีโอกับเจฟโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการทำงานที่สร้างความประทับใจและความสนุกสนานกับทั้งคู่โดย เนเน่ พรนับพันได้ฝากความรู้สึกที่ได้ทำงานกับเจฟไว้ว่า “ได้ติดตามผลงานของเจฟมาสักระยะแล้ว และก็ตื่นเต้นมาก ๆ ที่เจฟได้ชวนร่วมงานในมิวสิควิดีโอของเจฟ เมื่อได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกก็ชอบทันที และเมื่อเจฟเล่าถึงแนวคิดของการทำเอ็มวีก็ยิ่งรู้สึกถูกใจและเป็นเกียรติมาก ๆ ที่เจฟเลือกเราไปร่วมงาน”ก่อนที่เธอจะลืมฝัน เป็นซิงเกิ้ลลำดับที่ 7 ของเจฟ ซาเตอร์ กับค่ายเวย์เฟอร์ เรคอร์ดส (Wayfer Records) ค่ายเพลงในเครือ Warner Music Thailand และเป็นบทเพลงภาษาอังกฤษลำดับที่ 4 ที่ตั้งใจทำเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนเพลงทั่วโลกที่ให้ความสนใจและชื่นชอบผลงานของเจฟ ซึ่งผู้บริหารวอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ ‘คาล’ นิทัศน์ คงขำ, กรรมการผู้จัดการ ก็มีความตื่นเต็นที่ได้เห็นการเติบโตของเจฟในวันนี้และได้กล่าวถึงเจฟว่า “เจฟยังคงพัฒนาต่อไปในฐานะศิลปิน มีคนไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาพัฒนาฝีมือในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์มากว่า 10 ปีแล้ว เราจำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้เมื่อเราพบกันครั้งแรกเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน และเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของเขาตั้งแต่การพบกันครั้งแรก และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นฐานแฟนคลับของเขาเติบโตขึ้นทั่วโลก”ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะใน ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บราซิล ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และเม็กซิโก จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีการอวยพรวันเกิดให้กับเจฟจากทั่วโลกในวันเกิดของเจฟเมื่อ 6 มีนาคม ที่ผ่านมาสำหรับก้าวต่อไปของ เจฟ ซาเตอร์ หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบ 4 ครั้งที่ผ่านมา ครั้งแรกในกรุงจาการ์ตา 2 ครั้งในสิงคโปร์ และคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งใหญ่ของเจฟที่กรุงเทพ เจฟมีกำหนดการและได้เกียรติให้เป็นศิลปินหลักขึ้นแสดงในเทศกาล Asian Stars ณ กรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล ในวันที่ 7 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ นอกจากนั้น เจฟยังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Wuju Bakery และในปลายปีนี้เจฟมีกำหนดออกซิงเกิ้ลเพลงใหม่ พร้อมอัลบั้มเต็มของตัวเอง อย่างไรก็ตามแฟนเพลงของเจฟต่างเชื่อว่ายังมีอีกหลายความประหลาดใจที่สามารถเกิดขึ้นได้จาก เจฟ ซาเตอร์

SPICYDISC จัดหนักเนรมิตลาน CentralwOrld จัดงาน ‘ตลาดโสด MADE WITH PRIDE’ คนแห่เข้างานแน่นเอี้ยด!

SPICYDISC จัดหนักเนรมิตลาน CentralwOrld จัดงาน ‘ตลาดโสด MADE WITH PRIDE’ คนแห่เข้างานแน่นเอี้ยด!

“สไปร์ซซี่ ดิสก์” จัดหนักเนรมิตลาน CentralwOrldจัดงาน "ตลาดโสด MADE WITH PRIDE" คนแห่เข้างานแน่นเอี้ยด!เปิดต้อนรับเดือน ‘Pride Month’ สุดพิเศษไปกับงาน "Tinder Presents ตลาดโสด MADE WITH PRIDE" จัดโดยค่ายเพลง SPICYDISC ร่วมกับแอพหาคู่ที่ฮิตที่สุดในโลกอย่าง Tinder เนรมิตหน้าลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ให้เป็นดินแดนแห่งความสุขและความสนุกขนทัพศิลปินหลากหลายค่ายจัดเพลย์ลิสเอาใจคนโสด พร้อมเพลิดเพลินกับโซน Flea Market ที่มีทั้งร้านอาหารแบบจัดเต็ม เสื้อผ้าร้านดัง ๆ และโซน Horoscope กับหมอดูสุดแม่น รวมถึง บูทขายของสุดเอ็กซ์คลูซีฟสุดเริ่ด สุดปัง ของเหล่า LGBTQIA+ ที่มาเปิดบูทในครั้งนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าก่อนกลับบ้านมีของติดไม้ติดมือกันถ้วนหน้าตลอดทั้ง 4 วัน (1- 4 มิถุนายน)บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกคักกันตั้งแต่วันแรกด้วยขบวนพาเรดของเหล่า LGBTQIAN+ นำโดย เมทินี กิ่งโพยม ตัวแม่แห่งวงการ LGBTQIAN+ และคนดังหลากหลายวงการ รวมกว่า 500 ชีวิต เพื่อร่วมฉลองไปกับเดือน ‘Pride Month’ เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมของชาว LGBTQIAN+ พร้อมชมโชว์จากดาราศิลปินที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นความสนุกยังมีต่อกับทัพศิลปินดังหลากหลายค่ายพร้อมเสิร์ฟความสนุกแบบไม่มีกั้ก ซึ่งมีในวันที่ 2 เริ่มจากศิลปิน PURPLECAT (เพอร์เพิลแคท) , Txrbo (เทอร์โบ) , QLER (คิวเลอร์) , SHERRY(เชอร์รี่) และวันที่ 3 พบกับโชว์จากศิลปิน BABEPOOM (เบ๊บภูมิ) , Raine Cloud (เรน คลาวด์) และ CORNBOI (คอร์นบอย) , WHAT'S UP (วอสซัพ), AUN JESSADA (อั๋น เจษฎา), ROOFTOP (รูฟท็อป) ปิดด้วยวง HYBS (ไฮบ์ส) ไปในค่ำคืนนี้ และมาต่อถึงวันสุดท้ายของงานแต่ความสนุกยังคงเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก Porch Pathaseth (พอร์ช พัทธเศรษฐ์) X Praesun (แพรซัน) ,SOBBOY (ซ็อบบอย) , Marctatc (มาร์ค), NAP A LEAN (แนป อะ ลีน) และโชว์สุดท้ายจาก The Rube (เดอะ รู๊บ) สำหรับไฮไลท์งานนี้นอกจะมีโชว์จากศิลปินแล้วยังมีโซน Horoscope ให้ได้เข้ามาเช็คดวงกับหมอดูแม่น ๆ ถ่ายรูปกับตู้ถ่ายรูปสุดฮิตก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน และ ถัดมาข้าง ๆ กับโซนที่ครึกครื้นเป็นพิเศษในบูทขายของเหล่าดาราเซเลปร้านดังที่รวบรวมมาไว้งานนี้ โดยค่ายเพลงสไปร์ซซี่ ดิสก์ กำลังเข้าสู่การเป็นค่ายเพลงสีเขียว ภายในงานจึงจัดจุดคัดแยกขยะ คอยบริการให้กับผู้เข้ามาร่วมงาน ให้ได้ตระหนักถึงปัญหาขยะที่ล้นเมืองสร้างจิตสำนึกที่ดีให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้นไปอีกด้วยนับว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่เต็มไปด้วยมวลความสุขและความสนุก แถมยังได้ของที่มีขายเฉพาะที่งานนี้เท่านั้น จบครบในที่เดียว สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดงานดี ๆ แบบนี้ที่ทางค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์จัดขึ้นสามารถเข้าไปติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/spicyevent.official หรือทาง www.facebook.com/Spicydiscrecord แล้วมาสนุกต่อด้วยกันน้า

เพลง ‘CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)’ ซิงเกิลเดบิวต์จาก ‘TAMP’ ศิลปินใหม่ ภายใต้ค่าย NEW WAV. Entertainment

เพลง ‘CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)’ ซิงเกิลเดบิวต์จาก ‘TAMP’ ศิลปินใหม่ ภายใต้ค่าย NEW WAV. Entertainment

“CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)” ซิงเกิลเดบิวต์จาก “TAMP”ศิลปินใหม่ภายใต้ค่าย “NEW WAV. Entertainment”หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ “TAMP” หรือ “แทมป์” (พงษ์ประวิตร ศรีธรรมธนา) จากผลงานคัฟเวอร์รีมิกซ์เพลงดังหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น OMG (New Jeans Remix), LIMBO (keshi Remix), Here With Me (d4vd Remix) และ van gogh (lullaboy Remix) ที่ใครฟังครั้งแรกคงมีหลงเสน่ห์เสียงร้องของเขากันบ้าง ไม่เพียงเท่านั้นเสน่ห์ในแบบฉบับของ “TAMP” ยังทำให้หลายคนหลงใหลในตัวตนของเขา จนรีเควสอยากให้เขามีผลงานเพลงของตัวเองออกมาให้ฟังกันบ้าง มาวันนี้ “TAMP” ก้าวขึ้นมาใน Chapter ใหม่ นั่นคือการเป็นศิลปินเต็มตัว ภายใต้การดูแลของค่าย “NEW WAV. ENTERTAINMENT” สังกัด “HYPE TRAIN GROUP” ของโปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่าง “NINO” ที่คอยซัพพอร์ต และอยู่เบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลเดบิวต์อย่าง “CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)”สำหรับเพลง “CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)” ให้กลิ่นอาย RB ผสมซาวด์ดนตรี T-POP บอกเล่าความรู้สึกผิดของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้ และถ้าบังเอิญเราได้เจอกันอีก อยากขอโอกาสได้กลับไปแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองเคยทำพลาดไปในอดีต โดย “TAMP” สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆ ในใจ และความผิดหวังครั้งนี้ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ผ่านเสียงร้องที่ละมุน เต็มไปด้วยเสน่ห์ ร้องสลับทั้งเนื้อเพลงไทย และอังกฤษได้อย่างลงตัว เนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องด้วยตัวเอง ไม่เพียงเท่านี้เพลงนี้ยังคงได้การซัพพอร์ตจาก “NINO” ที่มาคุมงานโปรดิวซ์ด้วยตัวเองเช่นเคย ทั้งซาวด์ดนตรีที่คมขึ้น เนื้อเพลงที่ชัดเจน ขยี้อารมณ์ให้รู้สึกผิดมากไปเดิมฤ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงไทยอีกเพลงจากค่าย “NEW WAV. ENTERTAINMENT” ที่โดดเด่นทั้งเนื้อหา เสียงร้องของศิลปิน และซาวด์ดนตรีที่ลงตัว นอกจากนี้ในซิงเกิลเดบิวต์ของ “TAMP” ยังมี “CYPHER” ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของตัวเอง รวมถึงการโชว์ Skill ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ Rap ด้วยเสียงโทนต่ำแต่น่าค้นหา และเนื้อหาเพลงที่เย้ายวนใจ ซึ่งความพิเศษส่วนนี้ หากใครได้ฟังต่อกันแล้วจะให้ความรู้สึกถึง Transition ของเพลงที่เชื่อมต่อกันอย่างชัดเจนเชื่อว่าการเปิดตัวของ “TAMP” กับซิงเกิลเดบิวต์ “CHANCES (ถ้าบังเอิญได้เจอ)” จะทำให้เขากลายเป็นศิลปิน GEN ใหม่สไตล์ RB / POP อีกคนในวงการเพลงที่น่าจับตามองไม่น้อย …. แฟนเพลงสามารถรอชม MV เพลงนี้ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube ช่อง “NEW WAV.”

album

0
0.8
1