Entertainment Space

ผ่านพ้นไปอย่างน่าประทับใจกับคอนเสิร์ต ‘Sqweez Animal เพราะไม่เคยบอก’ ค่ำคืนแห่งโชว์สุดพิเศษที่จบลงอย่างสวยงาม

คอนเสิร์ต “Sqweez Animal เพราะไม่เคยบอก” ค่ำคืนแห่งโชว์สุดพิเศษที่จบลงอย่างสวยงาม

ผ่านพ้นไปอย่างน่าประทับใจกับคอนเสิร์ต “BUD LIVEHOUSE SPECIAL : Sqweez Animal เพราะไม่เคยบอก” เต็มไปด้วยความพิเศษจาก วิน ศิริวงศ์ ที่มอบให้กับแฟนเพลงอย่างอบอุ่น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 ณ Lido Concert Hall 3 ที่ผ่านมา โดยงานนี้ได้การตอบรับอย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายบัตรเพราะทุกคนต่างจับจองกันอย่างรวดเร็วจนบัตรหมดลงภายใน 2 ชั่วโมงเท่านั้น

เมื่อเดินทางมาถึงวันงานแฟน ๆ วง Sqweez Animal ต่างมายืนรอเข้าฮอลล์กันอย่างพร้อมเพรียงและตื่นเต้นที่จะได้รับชมและรับฟังเพลงต่าง ๆ ที่หลายคนคิดถึง หลังจากนั้นไม่นานโชว์ก็ได้เริ่มขึ้นในบรรยากาศที่ทุกคนต่างเฝ้ารอว่าค่ำคืนนี้ Sqweez Animal จะเล่นเพลงไหนให้พวกเขาได้ฟังกันบ้าง เริ่มต้นโชว์ด้วยการเปิดตัววิน เดินออกมาท่ามกลางเวทีที่รอบล้อมไปด้วยทุกคนพร้อมกับเพลง Suffocated เป็นอินโทรเริ่มโชว์ที่ทำเอาขนลุก หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นเพลงแรกอย่าง ครึ่งสายตา เรียกเสียงฮือฮาและเริ่มความสนุกไปพร้อมกัน ต่อด้วยวินทักทายแฟนเพลงด้วยความคิดถึงและโชว์เพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นที่ไหนอย่าง ก่อนหน้านี้, Materialistic, ไม่มีความหมาย ก่อนจะเล่าเรื่องราวของวงที่เติบโตมาด้วยกันกับทุกคน และทำให้คิดถึงสมาชิกวงอย่าง สิงห์ มุสิกพงศ์ และเชื่อว่าทุกคนต่างก็คิดถึงเช่นกัน เมื่อวินบอกว่าขอให้สิงห์ร้องเพลงด้วยกัน นักดนตรีก็ขึ้นเพลง Grow Old ที่สิงห์เคยได้ร้องเพลงนี้เอาไว้ หลังจากนั้นเสียงของสิงห์ก็ขึ้นมาพร้อมกับกีตาร์ของเขาที่วางอยู่ตรงกลางเวที ทำเอาทุกคนอยู่ในภวังค์แห่งความคิดถึงจนน้ำตาซึมจนเพลงจบลง วินก็ยังคงเล่นเพลงที่ทำให้ทุกคนคิดถึงสิงห์อย่าง
ย้ำ ที่แฟนเพลงต่างช่วยร้องกันด้วยความอบอุ่น

หลังจากนั้นวินก็พูดคุยกับทุกคนและโชว์ต่อกับเพลง Secretive, ข่าวร้าย, ไม่เคยจะห่างกัน, ไม่มีที่มา ก่อนจะพาทุกคนโยกและเต้นกันอย่างสนุกสนานกับเซ็ตเพลง ยาเวลา, Funksy, รักไม่หลอก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโหมดเพลงเศร้าอย่าง นางในฝันและคำบางคำ ที่ทุกคนส่งเสียงร้องตามดังสนั่นฮอลล์ ก่อนที่ Sqweez Animal จะเดินกลับเข้าไป ทุกคนต่างส่งเสียงพร้อมกันว่าเอาอีก เอาอีก จนวงต้องขอตัวไปพักสักครู่ และกลับมาพร้อมลิสต์เพลงตามใจแฟนเพลงอย่าง Better day, Let’s cry, เริ่มใหม่, รักเรา, จนวันสุดท้าย และยังไม่จบเพราะแฟนๆ ต่างตะโกนขอเพลงกันอย่างต่อเนื่องและเพลงสุดท้ายที่ได้บรรเลงในค่ำคืนนี้ ก็คือ รักลอยลม ที่ทุกคนต่างส่งเสียงร้องกันอย่างไม่มีเหนื่อยและเต็มไปด้วยความสุข ก่อนจะจบลงไปด้วยการขอบคุณของวินและรอยยิ้มที่สัมผัสได้ถึงความอิ่มเอมของทุกคนและสำหรับวง Sqweez Animal พวกเขาจะเก็บภาพคอนเสิร์ตครั้งนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไปอย่างแน่นอน

ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่พิเศษสุดๆ เพราะ Sqweez Animal ขนเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นที่ไหนอัดแน่นทั้งจากอัลบั้ม อาจยังไม่สาย (2007) และ ไม่มีที่มา (2011) และอีกหลายเพลงที่คัดเลือกมาอย่างดีให้กับทุกคนที่ตั้งใจมารอชมเพื่อเติมเต็มความคิดถึงและความรักที่แฟนเพลงมอบให้กับวงมาเสมอ สำหรับใครที่พลาดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ไป และไม่อยากพลาดคอนเสิร์ตพิเศษเจ๋งๆ แบบนี้ สามารถเข้าไปติดตามข่าวสารกันได้ที่ www.facebook.com/Spicydiscrecord

ซิส PEAKSayaa! ส่งซิงเกิลสอง เพลง ‘พอได้แล้วค่ะซิส’ ใครบอกให้ซิสพอ ซิสก็จะไม่พอ ซิสจะเป็นนักร้องต่อไป

ถ้าพูดถึงนักแสดงที่รักการร้องเพลงเป็นอย่างมาก และมีความสุขกับการร้องเพลงตามฟีลลิ่ง คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก PEAKSayaa! พีคศยา (พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ศิลปินจากค่าย LOVEiS ENTERTAINMENT หลังจากที่เซอร์ไพร์สแฟนๆ ด้วยการส่งซิงเกิ้ลแรกในชีวิตอย่างเพลง “คีย์ใจ” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมาก ปล่อยเพลงได้เพียงแค่ 1 สัปดาห์ ยอดวิวบน Youtube ทะลุล้านวิวได้อย่างรวดเร็ว และตอนนี้พีคศยากลับมาสร้างความสุขอีกครั้ง ด้วยการส่งซิงเกิ้ลที่ 2 ที่มีชื่อว่า “พอได้แล้วค่ะซิส”“พอได้แล้วค่ะซิส” (Enough ka, sis.) เพลงนี้ได้ไอเดียมาจากคำติดปากอย่าง “ซิสสสสสส” มารวมกับตัวตนของ พีคศยา ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านเนื้อร้องและทำนองโดย แจ๊ป The Richman Toy เพลงนี้เล่าถึงการพยายามทำให้ตัวเอง Move On จากอาการอกหัก และอาการเศร้า โดยเป็นการเตือนตัวเองด้วยประโยคง่าย ๆ ที่ว่า “พอได้แล้วค่ะซิส” มาพร้อมดนตรีแนว POP มีกลิ่นไอของเพลงเศร้าในยุค 90’s แท้ ๆ ที่ทุกคนน่าจะคิดถึงในส่วนของ MV ยังได้ “เติร์ด” จากวง Tilly Birds ขึ้นแท่นมาเป็นผู้กำกับ โดยรื่องราวใน MV จะเล่าถึงพีคศยาพยายามที่หาทางช่วยให้เพื่อนสนิท อย่าง (ปิงปอง ธงชัย) สามารถ Move On จากแฟนเก่า รับบทโดย (ตู่ ภพธร) ได้สักที ทั้งๆ ที่เขามีแฟนใหม่ไปแล้ว โดย เป้ อารักษ์ รับบทเป็นแฟนใหม่ของตู่ ภพธร และใช้วิธีต่าง ๆ มากมาย ในแบบฉบับของ Drama Comedy อีกทั้งนักแสดงทั้งหมดเป็นคนที่ล้วนแล้วแต่อยู่ในกระแส รวมถึงตัวผู้กำกับเอง อย่าง “เติร์ด” Tilly Birds ด้วย เชื่อได้เลยว่า MV นี้ต้องเป็นกระแสอย่างแน่นอน “ใครที่อยากจะ Move On ก็เปิดเพลงนี้ฟังเลยสิคะซิส”ติดตามชมมิวสิควิดีโอเพลง “พอได้แล้วค่ะซิส” (Enough ka, sis.) ได้ตั้งแต่วันนี้ที่ Youtube : LOVEiSและติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ทางFacebook : Peak PattarasayaInstagram : PeakpattarasayaTikTok : Peak PattarasayaFacebook : LOVEiSTwitter/Instagram : @LOVEiS_ent

‘แกล้งลืม’ เพลงช้ากลิ่นอายดนตรี Soul ซิงเกิลใหม่จาก Chamook ถ่ายทอดออกมาในมุมของคนที่กำลังจะสูญเสียคนรักไป

‘แกล้งลืม’ เพลงช้ากลิ่นอายดนตรี Soul ซิงเกิลใหม่จาก Chamookถ่ายทอดออกมาในมุมของคนที่กำลังจะสูญเสียคนรักไปแกล้งลืม เพลงช้าสไตล์ Diva เนื้อหาของเพลงพูดถึงความรักที่กำลังจะจบลงเพราะอีกคนมีคนใหม่เข้ามาแต่อีกคนไม่พร้อมที่จะจบความรักครั้งนี้ โดย Chamook ถ่ายทอดออกมาในมุมของคนที่กำลังจะสูญเสียคนรักไป พาร์ทดนตรีเป็นแนว Pop มีกลิ่นอายของดนตรี Soul บวกเครื่องสาย เพลงช้าฟังง่ายไม่ชับซ้อนแต่สื่ออารมณ์ของคนร้องและเนื้อหาออกมาได้ดี โดยเพลงนี้ Chamook ได้แต่งเนื้อเพลงและทำนองเอง เลยทำให้เข้าใจในอารมณ์และเนื้อหาของเพลงได้เป็นอย่างดีสามารถฟังและดู MV เพลง ‘แกล้งลืม’ จาก Chamook ได้ทาง Youtube : Wake Studio

ซิงเกิลแรกจาก JES Jespipat เพลงช้าเศร้าแนว POP-Rock เนื้อหาเข้มข้น ‘จักรวาลคู่ขนาน (Am I The Only One Dreaming?)’

หากมีโลกคู่ขนานอีกใบที่เราจะได้สุขสมหวังและมีความสุขด้วยกันก็คงจะดี...“จักรวาลคู่ขนาน” ซิงเกิลแรกจาก JES Jespipat (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) กับเพลงช้าเศร้าแนว Pop-Rock เนื้อหาเข้มข้น โดยจะพูดถึงการที่เราจินตนาการถึงโลกอีกใบที่สามารถเป็นจริงได้ดั่งใจปรารถนา โดยเฉพาะการได้รักใครสักคน คนที่เรารู้สึกดีด้วยมากๆแต่ไม่สามารถรักกันได้ในโลกความเป็นจริง ซึ่งในยุคนี้การพูดถึงโลกเสมือนหรือจักรวาลคู่ขนานเป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น เลยหยิบยกสิ่งนี้มาเป็นวัตถุดิบและแรงบันดาลใจชั้นดีต่อการสร้างเพลงและถ่ายทอดออกมาเป็นเนื้อหาที่ลึกซึ้ง แทนใจคนที่ทำได้แค่หวังว่ารักของตัวเองจะสมหวังบ้าง แม้มันอาจจะเป็นได้แค่เพียงการเพ้อฝันมากไปเท่านั้นความพิเศษของเพลงนี้คือได้ โอม Cocktail และ ตูน Three Man Down มาเขียนคำร้องและทำนองร่วมกันและ แม็ก The Darkest Romance คอยจัดการในส่วนของการเรียบเรียงดนตรี และ sound design โดยรวม ซึ่งนอกจากจะดูแลในภาคของการอัดเสียงแล้ว เจษ ยังเป็นคนอัดกลองด้วยตัวเองอีกด้วยในส่วนของ Music Video เจษ ก็รับบทพระเอกคู่กับ ออกแบบ (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) ที่มีผลงานการแสดงการันตีความสามารถอย่างมากมาย จึงทำให้เพลงนี้สมบูรณ์แบบทั้งในเชิงภาพและการสื่ออารมณ์ถ่ายทอดความหมายออกมาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเจษ กล่าวว่า "ดีใจมากๆครับที่วันนี้ได้มีโอกาสทำตามความฝันสมัยเด็ก คือ ได้เล่นดนตรีและได้ทำเพลง เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมตั้งใจทำทุกขั้นตอนจริงๆครับ ขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอฝากผลงานเพลงแรกจากศิลปินหน้าใหม่คนนี้ด้วยนะครับ :)"

7 สาว 4EVE ฉีกลุคใหม่ของแฟชั่น เปลี่ยนอารมณ์ มาสนุกกับเพลงในซิงเกิลใหม่ ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’

4EVE ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’ ฉีกลุคใหม่ของแฟชั่นถึงเวลาที่ทุกคนจะลุกขึ้นมาเต้นด้วยกันอีกครั้ง! กับ 7 สาว 4EVE ศิลปินสังกัดค่าย XOXO Entertainment หลังจากปล่อยซิงเกิลแรก เพลง ‘หยดน้ำตา’ ต้อนรับการคัมแบคในปี 2566 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ยอดวิวทะลุกว่า 10 ล้านเป็นที่เรียบร้อย และครั้งนี้พวกเธอขอพาแฟนๆ เปลี่ยนอารมณ์ มาสนุกกับเพลงในซิงเกิลใหม่ ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’ เป็นเพลงป๊อป จังหวะสนุกสนาน และเพลงนี้ยังได้ แจ๊ป นักร้องนำวง The Richman Toy มาช่วยเขียน เนื้อร้อง ทำนอง และช่วย โปรดิวซ์ให้ โดยได้ใส่เอกลักษณ์ และภาษาที่โดดเด่น ลงไปในส่วนของดนตรีก็แอบมีการผสมผสานบรรยากาศของเสียงดนตรีไทยลงไปด้วย ทำให้แฟน ๆ ที่รอคอยได้เซอร์ไพรส์และโยกหัวตาม หรือ ขยับปากฮัมเพลงตามได้อย่างแน่นอนเพลง ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’ ความหมายของชื่อเพลงคือ พูดอะไรออกไป หรือทำอะไรไป ก็เสียเวลาเปล่า ไม่มีใครเห็นคุณค่า โดยในเพลงนี้ได้พูดถึงนิสัยของผู้ชาย ที่เป็นเหมือนเดิมไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ ก็ยังคงนัดไม่เป็นนัดและมาสาย ทุกครั้ง สุดท้ายความอดทนของคนที่รอก็หมดไป เหมือนท่อนที่ร้องว่า “ไม่เอาและ ถ้าเจอแบบนี้ไม่เอาและ ไม่เอาและ อยู่ไปก็ไลฟ์บอย ไม่เอาและ ไม่เอาและไม่เอาและ” ไม่เพียงแค่จังหวะและเนื้อหาของเพลงที่เปลี่ยนไป แต่มิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็มีความแปลกไปจากเพลงก่อน ด้วยการกลับมาขายความเป็นแฟชั่นในยุค 90’s, y2k เพิ่มเข้าไป ซึ่งเป็นยุคที่มีสันฉูดฉาดแหละหลากหลาย ซึ่งต่างจากเพลงก่อนอย่างสิ้นเชิงสำหรับเพลง ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’ นอกจากจะมีท่าเต้นที่เรียกได้ว่าท้าทาย 4EVE เป็นอย่างมาก เพราะได้ดีไซน์ท่าเต้นในเพลงนี้ด้วยจังหวะของมือและการเคลื่อนที่ ที่มีความเร็วและใช้พลังอย่างสุดๆ เรียกได้ว่า 4EVE เป็นวง Girl Group ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องการเต้นเลยจริง ๆสามารถติดตามฟังเพลงพร้อมรับชม Music Video เพลง ‘Life Boy (พูดไปก็ไลฟ์บอย)’ ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube : 4EVEและ Music Streaming ทุก Platform เสิร์ช 4EVE

0.8