Talk with “Mirrr” ถึงเบื้องหลังซิงเกิลล่าสุด “กำแพงหัวใจ (Heartwall)”
เรียกได้ว่าโดนใจคนใกล้ที่ไม่มีทางได้ลงเอยสุด ๆ สำหรับ "กำแพงหัวใจ (Heartwall)” ซิงเกิลใหม่จาก โต-เลอทัศน์ เกตุสุข และ นาว-วิชชานนท์ ว่องวีรชัยเดชา สองหนุ่มวง Mirrr แห่งค่าย What The Duck ที่หยิบเอามุมมองของคนสองคน ซึ่งกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างมีกำแพงในใจของตัวเอง มาเล่าผ่านเพลงที่ฟังง่าย ให้กลิ่นไอเพลงในยุค 2000 วันนี้เราจึงได้ชวนทั้งคู่ มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวในซิงเกิลนี้กันช่วยเล่าคอนเสปของเพลง "กำแพงหัวใจ" ให้เราฟังหน่อยโต – “คอนเสปมันคือเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่เราอยากพัฒนา แต่อีกฝ่ายไม่อยากพัฒนาความสัมพันธ์ ก็เลยสร้างกำแพงขึ้นมา เลยเป็นคอนเสปของเพลงกำแพงหัวใจ”เพลงนี้เริ่มต้นมาจากอะไรโต – “จำไม่ได้ครับ (หัวเราะ) เพราะเพลงนี้อยู่ที่ช่วงที่เขียนเพลงเยอะมาก ๆ เลยครับ แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ความจำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จริง ๆ นะครับ บางทีพูดไปเมื่อกี้ ลืมแล้ว ก็เลยจำไม่ได้ว่าเพลงนี้มีที่มาจากอะไร”งั้นพอจำได้มั้ยว่าเพลงนี้ได้เนื้อร้องหรือทำนองมาก่อนโต – “อันนี้ถ้าคิดเอาเองนะ โดยปกติแล้วของตัวผมเองจะมาพร้อมกันครับ สมมุติเล่นกับกีต้าร์ ก็จะไม่ใช่แค่ฮัมขึ้นมา แต่จะร้องมาเป็นคำเลย”คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้นาว – “น่าจะเป็นพาร์ทร้องคอรัสครับ เพราะว่าเขาทำคอรัสเยอะมาก มันมีเวลาจำกัด แล้ววันนั้นก็ร้องกันสนุก เพลินไปเรื่อย ๆ เกือบตีห้าอะครับ ก็ไม่เชิงยาก แต่ว่าใช้เวลานาน”โต – “ถ้าในเชิง process น่าจะเป็นเรื่องการอัดร้อง แต่ถ้าในองค์รวมน่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจที่ยากที่สุด เพราะตอนแรกไม่ได้ตัดสินใจจะเอาเพลงนี้มาปล่อยต่อ คือไม่ได้กะจะเอาเพลงนี้มาทำด้วยซ้ำ แต่อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกว่า พอไทม์มิ่งมันใช่ กับมู้ดอะไรต่าง ๆ ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เราสองคนชอบ ณ เวลาตอนนี้พอดี”มีท่อนที่ชอบที่สุดในเพลงนี้มั้ยนาว – “ชอบท่อนพรีครับ เมื่อในทุกค่ำคืน ฉันยืนอยู่ตรงที่เก่า ยังแอบหวังให้เราเป็นมากกว่านี้”โต – “งั้นผมเลือกเป็นท่อนฮุคครับ”ถ้าเจอคนที่กำแพงสูงมาก จะเลือกพยายามทำลายกำแพง หรือไปหาคนอื่นดีกว่านาว – “เลือกอย่างแรกครับ จนกว่าจะไม่ไหวก็ค่อยออกไป”โต – “ผมไม่ชอบทำลายกำแพง แล้วผมก็จะไม่ไปหาคนอื่นด้วย ถ้าผมชอบคนนึง ผมก็คงจริงใจกับเขา ไม่ให้เขาสร้างกำแพงอะครับ คอนเสปของเพลงกำแพงหัวใจ มันคือการที่คนนึงอยากพัฒนาความสัมพันธ์ แต่อีกฝ่ายสร้างกำแพง ผมรู้สึกว่า งั้นการที่อีกฝ่ายอยากพัฒนาความสัมพันธ์ มันอาจจะเร็วเกินไป มันอาจจะไม่ถูกจังหวะ หรือมันอาจจะไม่เหมาะสม ผมก็รู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องไปทำลายกำแพงเขา สำหรับผมนะ ถ้าเขาโอเคกับเรา เขาจะเปิดเอง เราค่อย ๆ ไปได้ เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น”ส่วนตัวเป็นคนที่มีกำแพงมั้ย แล้วคิดว่าคนแบบไหนถึงจะทำลายกำแพงเราได้นาว – “ปกติถ้าใครเข้ามาก็คงจะลองศึกษาดูใจกันมั้งครับ”โต – “ผมว่าสุดท้ายผมนี่แหละจะเป็นคนทำลายกำแพงลงเอง มันเหมือนผมสร้างเมืองอะครับ ผมจะสร้างกำแพงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะว่าเมืองของผมต้องปลอดภัย คิดแค่นั้น แต่ฟังก์ชันของผมคือผมไม่จำเป็นต้องไปทำลายกำแพง ถ้ากับคนที่ผมโอเค ผมก็แค่เปิดประตูให้เขาเข้ามา คือผมแค่มีกำแพงกับอันตราย กับหมาป่า กับทุก ๆ อย่าง ผมสร้างกำแพงขึ้นเพียงเพราะผมต้องการปกป้องคนในกำแพง ซึ่งผมมองว่าประชาชนในกำแพงนั่นก็คืออินไซด์ร่างกาย คือจิตใจ คือทุกอย่างของผม ถ้ากับคนที่ผมโอเค ผมจะไม่มีกำแพงเลย เพราะเขาเข้ามาอยู่ในเมืองของผมแล้ว ผมเปิดประตูรับเข้ามาแล้ว มาเอ็นจอย มาแฮงค์เอาท์ด้วยกันได้เต็มที่ในนี้ แล้วเราจะปลอดภัยจากข้างนอกด้วยกันครับ”อยากให้เพลง “กำแพงหัวใจ” เป็นอะไรสำหรับคนฟังนาว – “จริง ๆ เลย ผมอยากให้เป็นแรงบันดาลใจครับ เราคิดอะไรก็ทำในสิ่งที่เราคิด พยายามในสิ่งที่เราเป็น บางทีชีวิตเราก็ลีดด้วยความหวัง แต่ถ้ามันมีแต่ความหวัง ไม่มีความจริงเลย มันก็จะทำให้เราหาทางลงไม่ได้ ผมก็เลยอยากให้เราเอาความจริงมาพูดคุยกันมากกว่า ถ้าเอาความจริงมาพูดคุยกัน ผมว่ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์สร้างกำแพงอะไรพวกนี้ มันน่าจะเป็นเรื่องของความชัดเจน ความจริงใจ ฟังก์ชันของมันคือ ในความสัมพันธ์ของเรา เราไม่ take advantage กัน เราไม่พยายามหาประโยชน์จากอีกฝ่าย ทั้งเราและฝ่ายตรงข้าม แต่เราทั้ง give and take กัน อย่างน้อยถ้าหลุดพ้นจากสิ่งนี้ไปได้แล้ว คำว่าหลุดพ้นในที่นี้คือ ไม่ว่าจะเป็นการทำลายกำแพงได้ ได้คบกัน หรือว่าจะแยกย้ายกันไป แต่อย่างน้อยมันไม่ต้องอยู่ในลูปนี้แล้ว ไม่อยู่ในลูปที่เราจะต้องสับสน ฟุ้ง ไม่แน่ใจ ไม่มั่นคง มันเหมือนเป็นแค่ stage แรกของความสัมพันธ์ที่บางคนอาจจะชื่นชอบ เพราะมันตื่นเต้น แต่ step ต่อไปอะครับ มันเป็น step ที่เรากำลังจะพูดถึง มันเป็น step ที่กำแพงกำลังจะเกิดขึ้นละ ซึ่งอันนั้นมันเป็น step ที่เราไม่ควรให้เขาสร้างกำแพงละ เราควรจะจริงใจกับตัวเราและกับเขา ผมไม่แน่ใจว่ามันตอบคำถามนี้ได้มั้ย แต่อย่างน้อยแค่เขาส่งเพลงนี้ไปให้อีกคน แล้วมันเคลียร์ประเด็นความสัมพันธ์เขาได้ ผมว่ามันก็ถือว่าโอเคแล้วครับ”MV เพิ่งจะทะลุ 1 ล้านวิวไปด้วย มีอะไรอยากบอกแฟนคลับที่ติดตามเราอยู่มั้ยนาว – “อยากขอบคุณที่ซัพพอร์ต รอติดตามผลงาน พวกเราดีใจมาก ๆ ที่ได้รับการตอบรับมาอย่างดี”โต – “เราอาจจะพูดด้วยน้ำเสียงโมโนโทน แต่เราดีใจมาก ๆ ครับ”นาว – “ก็คืออยากจะออกไปเจอทุก ๆ คนที่ซัพพอร์ต ถ้ามีโอกาสก็ทักทายกันได้ เพราะว่าพวกเราดีใจที่จะได้คุยแล้วก็ได้เจอทุกคนตลอดครับ”สปอยล์ซิงเกิลหน้าได้มั้ยว่าจะมาแนวไหนโต – “ร็อคครับ ผมก็พูดไปเรื่อย จริง ๆ ตอนนี้เราคุยกันว่า เราอยากจะทำในสิ่งที่เราอยากทำ เราอยากให้เพียวที่สุด ณ ตอนจุดเริ่มต้น เหมือนตอนอยู่ในห้องหลังม. อัดเพลง ไม่ต้องคิดเรื่องที่มันใหญ่เกินตัว คิดแค่ตัวเราสองคนว่าเราอยากทำอะไร เพราะฉะนั้นมันเหมือนกับว่า เพลงเราทำเรื่อย ๆ อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้มองว่าทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น มันเหมือนกับว่า วันนี้มึงอยากกินอะไรวะ มา กูกินด้วย วันนี้อยากทำเพลงอะไรวะ มา กูทำด้วย อันนี้กูไม่อยากทำอะ กูอยากทำอันนี้และ เพราะฉะนั้น ถ้าผมบอกตอนนี้ แพลนมันเป็นแบบนี้ใช่ปะ แต่พอไปถึงวันปล่อยจริง ๆ มันอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ อย่างเพลงกำแพงหัวใจเนี่ย อยู่ดี ๆ มันมาต่อโดยที่ไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ แต่จริง ๆ แล้วมันคือตั้งใจนะครับ คือการทำงานอะ แพลนไว้นานมาก เราตั้งใจที่จะยึดโยงกับตัวแพลนมาก ๆ แต่วิธีคิดของเราอัปเดตตลอดเวลา แล้วพอเราอัปเดตตลอดเวลา มันเลยทำให้บางอย่างมันไม่ up to date ของพวกเราแล้ว”นาว – “ก็คือเราทำอาร์ตด้วยความรู้สึก ด้วยฟีลลิ่ง ตอนที่เราคุยกันว่าเราอยากจะทำ สมมุติเราอยากจะทำแบบนี้ เมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว แต่ความรู้สึกปัจจุบันมันอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว เราอาจจะเจอความรู้สึกที่มันเฟรชกว่า น่าสนุกกว่า”โต – “แต่ process เดดไลน์การทำงานมันก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามปรับสองสิ่งนี้ให้มันไปด้วยกันได้”สุดท้าย ฝากถึงคนที่กำลังเจอกับสถานการณ์แบบในเพลง “กำแพงหัวใจ” หน่อยโต – “สำหรับผม ผมอยากให้จริงใจกับตัวเองครับ แล้วค่อยจริงใจกับคนอื่น เราต้องจริงใจกับตัวเองก่อน ถึงจะจริงใจกับคนอื่นได้ จริงใจกับความรู้สึกของตัวเอง จริงใจว่าเรารู้สึกยังไง จริงใจว่าเราต้องการอะไร จริงใจว่าสิ่งที่เราคาดหวังคืออะไร สิ่งที่เราไม่คาดหวังคืออะไร สิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นคืออะไร แล้วถ้ามันเป็นไปได้ ก็อยากให้ตั้งใจเพื่อตัวเอง ตั้งใจเพื่อสิ่งที่เราจริงใจกับตัวเอง ไม่เกี่ยวกับแค่เรื่องการทำลายกำแพงของใครนะครับ หมายถึงว่าถ้าเรามีแพชชั่นกับสิ่งที่เราทำ กับอะไรก็ได้ เราตั้งเป้าแล้วก็ทำมันไปเลย พรุ่งนี้เราอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ มันไม่ผิด เราก็ค่อยชัดเจนกับวันพรุ่งนี้ต่อไป มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ มันไม่เกี่ยวแล้ว เราเอาแค่ปัจจุบัน ดังนั้นผมเลยรู้สึกว่า ในเรื่องนี้มันเป็นแค่พาร์ทพาร์ทนึงในชีวิตของเรา มันเหมือนเป็นสารตั้งต้นของ attitude ทุกอย่าง แล้วเรื่องความสัมพันธ์ของคนที่เราอยากทำลายกำแพงอะ มันก็เหมือนโจทย์ที่ผมบอก คือสุดท้ายแล้วพอเรามีความตั้งใจตรงนั้นอะ มันก็จะโยงไปถึงความสัมพันธ์ที่เราก็จะตั้งใจ ทำตรงนั้นไม่ให้มันเกิดกำแพงขึ้นมา”นาว – “เพลงนี้มันกำลังพูดถึงกำแพงใช่มั้ยครับ ถ้ามันสูง จริง ๆ เราก็แค่พัฒนาตัวเองให้มีความสามารถในการที่จะเดินทางขึ้นไป สมมุติถ้าเขากำแพงสูง เราก็แค่สร้างกำแพงของเราขึ้นมาให้สูงเท่าเขา แล้วก็กระโดดข้ามไปก็ได้ มันก็มีหลายวิธี แต่ว่า core หลัก ๆ ก็คือ ถ้าเราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด มันน่าจะมีวันที่เราประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น”สามารถเข้าไปฟังและชม Music Video เพลง "กำแพงหัวใจ (Heartwall)” จากวง Mirrr ได้แล้ววันนี้บน YouTube: Whattheduck และทุกบริการ Music Streaming