Talk with “Pentor Jeerapat” ถึงซิงเกิลล่าสุด “เส้นที่เธอขีดไว้ (Parallel)”

พูดคุยกับ "เป็นต่อ จีรภัทร" (Pentor Jeerapat) ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลเดี่ยว ซิงเกิลที่ 3 กับเพลงช้า เศร้า ๆ ในสไตล์ที่เป็นต่อถนัด “เส้นที่เธอขีดไว้ (Parallel)”

จบจาก "Deep talk" ก็พาลงเลยกับ "เส้นที่เธอขีดไว้" (Parallel) ทำไมเราเลือกเพลงนี้มาโปรโมตต่อเลย

“เราอยากให้มันมีความหลากหลายในโปรเจคเพลงที่เรากำลังจะทำออกมา จริง ๆ ตั้งใจจะทำให้เป็นมินิอัลบั้ม แล้วก็อยากให้แต่ละเพลงเป็นตัวตนของเราในเวอร์ชันต่าง ๆ ‘ช็อตฟีลแรงไปไหม’ มันมีความสนุกสดใส พอ ‘Deep Talk’ ก็โตขึ้นมาหน่อย มีความเซ็กซี่มากขึ้น มีกลิ่นอายความจริงจัง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พอมาเพลงนี้ ‘เส้นที่เธอขีดไว้’ ก็เป็นอีกมุมนึงของเราแล้วกัน ที่เราเองก็เคยมีมุมที่อ่อนแอ มีความเศร้าบ้าง เคยมีความรู้สึกแอบรักเกิดขึ้น”

"เส้นที่เธอขีดไว้" (Parallel) เป็นแนวที่เป็นต่อถนัดอยู่แล้วใช่มั้ย

“ถือว่าเป็นแนวที่เราถนัดครับ เพราะส่วนตัวก็เป็นคนที่ร้องเพลงช้า ๆ ชอบร้องเอื้อน ๆ คำยาว ๆ ก็ถือว่าถูกจริตด้วย”

เราถนัดเพราะว่าเป็นเพลงอกหักด้วยหรือเปล่า

“เพราะเป็นเพลงอกหักด้วย ส่วนตัวก็ชอบฟังเพลงเศร้าอยู่แล้ว”

แล้วจริง ๆ เราเป็นคนเศร้า ๆ มั้ย

“มีบางมุมครับ เราแค่รู้สึกว่าเราก็เป็นคนธรรมดาคนนึง ที่ก็มีครบทุกอารมณ์ในหัวแหละ Inside Out มาก (หัวเราะ) เราก็พยายามมอบเอเนอร์จี้ดี ๆ เอเนอร์จี้บวก ๆ ให้กับทุกคน เพราะว่าหลาย ๆ คนอาจจะเห็นเราผ่านหน้ากล้อง แล้วดูเป็นคนที่สดใสจังเลย ดูร่าเริงจังเลย แต่มันก็มีบางมุมของเราที่เราก็มีความรู้สึกเศร้ากับตัวเองอยู่บ้าง ก็เป็นหนึ่งมุมมองที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้เห็นผ่านทางตัวเป็นต่อ แล้วก็ได้โชว์ออกมาในผลงานชิ้นนี้ด้วย”

เป็นต่อได้มีการเสนอไอเดียพาร์ทไหนบ้างสำหรับซิงเกิลนี้

“จริง ๆ ได้คุยตั้งแต่แรกเลยครับ อย่างที่เราบอกว่ามันจะเป็นโปรเจคเพลง แล้วก็จะมีเพลงจำนวนหนึ่งแหละที่เรากำลังจะทำเป็นมินิอัลบั้ม มีเพลงแบบนู้น แบบนี้ แบบนั้น ซึ่งเพลงนี้เราก็ฟันมาเลยว่า เราอยากได้เพลงช้า เพลงเศร้า 1 เพลง ที่มันจะบ่งบอกความเป็นตัวเรา แล้วก็ได้เสนอ reference ต่าง ๆ มีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้อหา มีการส่งบิ๊กไอเดียคร่าว ๆ ว่าเราอยากได้เพลงที่พูดถึงเรื่องราวประมาณนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนบ้าง เรื่องราวเกี่ยวกับความบังเอิญนู่นนี่นั่น คือส่งไปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แล้วสุดท้ายแล้วก็จบลงที่ ‘เส้นที่เธอขีดไว้’ ซึ่งกว่าจะผ่านออกมาเป็นเพลงนี้ ก็มีการแก้กันไปหลายดราฟอยู่เหมือนกันครับ แล้วก็โชคดีมาก ๆ ที่ทางพี่โปรดิวเซอร์เขาก็รับฟังความคิดเห็นตลอดเลย คอยช่วยชี้แนะทุกอย่าง จนออกมาเป็นไฟนอลดราฟแบบที่ทุกคนได้ฟังกัน”

เพลงนี้แต่งมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเป็นต่อด้วยมั้ย

“เล็กน้อยถึงปานกลาง (หัวเราะ)”

ปกติเราเป็นฝ่ายที่โดนขีดเส้น หรือไปขีดเส้นคนอื่นมากกว่ากัน

“ทั้งคู่แล้วกัน (หัวเราะ) เราเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจนกับความสัมพันธ์ครับ ถ้าเรารู้สึกดีกับใครสักคนนึง เราก็จะพยายามทำให้เขารู้แหละว่าเรารู้สึกดีกับเขา หรืออาจจะพูดไปตรง ๆ เลย ซึ่งก็มีในบางครั้งที่มันไม่ได้สมหวัง ก็เลยถูกขีดเส้นเอาไว้ อาจจะเป็นสถานะเพื่อน สถานะพี่น้อง ก็เป็นไปได้ แล้วถ้าพลิกมุมกลับปรับมุมมอง เราก็เป็นคนที่ชัดเจนเหมือนกัน ว่าถ้าเราไม่ได้รู้สึกว่าเราชอบคนคนนี้ แต่เขามาชอบเรา เราก็ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราให้ความหวังเขา หรือว่าให้มันคาราคาซังต่อไป แต่เราก็คงเลือกใช้วิธีการที่มันซอฟต์ที่สุดแหละ เพื่อรักษาน้ำใจด้วย เพราะว่าการที่ถูกรัก มันก็เป็นเรื่องราวที่ดีสำหรับเราเหมือนกันครับผม”

ให้คำแนะนำถึงคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเพลง "เส้นที่เธอขีดไว้" (Parallel) หน่อย

“จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ครับ ในการใช้ชีวิตของเรา ไม่อยากให้รู้สึกว่า พออยู่ในสถานะนี้แล้ว มันไม่มีอะไรดีเลยในชีวิต ทุกอย่างในชีวิตมันพังทลายไปแล้ว แค่เราถูกคนคนนึง ที่เขาไม่ได้รักเราในแบบที่เราตั้งใจไว้ ไม่ได้แปลว่าคนทั้งโลกไม่ได้รักเรา เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่เราจะรู้สึกไม่โอเค เราก็แค่เก็บมันไว้ เรียนรู้ แล้วก็ก้าวเดินต่อไป ให้มันเป็นจุดเล็ก ๆ ในชีวิตที่มันผ่านมา อาจจะเป็นความทรงจำดี ๆ ของเราก็ได้”

มาที่พาร์ท MV บ้าง สตอรีเป็นยังไง

“เรามีบิ๊กไอเดียก็คือเป็นความหลากหลายครับผม แต่ว่าเราก็ไม่ได้อยากยัดเยียดความหลากหลายในเชิงของ rainbow washing เราก็อยากให้มันดูมีความหลากหลายอยู่ใน MV ก็เลยนั่งคิดสตอรีกับเพื่อน ว่ามันจะออกมาเป็นยังไงได้บ้าง ก็เลยมาจบลงที่เป็นความหลากหลายทางด้านสปีชีส์ด้วย เจนเดอร์ด้วย แต่ว่าด้วยความที่เนื้อเพลงมันเป็นเพลงเศร้า ตอนจบมันอาจจะไม่ได้สวยงามมากนัก แต่ว่าเราก็พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า มันเกิดความรักเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเพศอะไร เป็นคนชาติพันธุ์ใด มันสามารถเกิดความรักขึ้นได้ ซึ่งความรักที่มันเกิดขึ้นมา มันสวยงามมาก ๆ อยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่จะสามารถไปต่อ ไม่ได้ไปต่อ หรือจุดจบมันจะเป็นยังไง ก็เป็นที่ปัจจัยภายนอกละที่มันจะเกิดขึ้น”

ตกลงใน MV นี้ ใครขีดเส้นใคร

“จริง ๆ มันมีเฉลยอยู่ใน MV ครับผม ก็ต้องไปติดตามใน MV ‘เส้นที่เธอขีดไว้’ ครับ”

ทำไมใน MV ทางดาวเรา เขาถึงรีบโทรตามกลับบ้าน

“จริง ๆ แล้วถ้าได้ดูทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ มันจะเป็นเรื่องก่อนหน้าที่จะเข้ามาใน MV เป็นเรื่องราวที่เป็นคำโปรย มันเกิดการผิดพลาดทางด้านการขนส่ง การเคลื่อนย้าย จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ตั้งใจที่จะมาอยู่ที่นี่ ซึ่งพอเราไม่ได้ตั้งใจจะมา มันก็คืออยู่ไม่ได้ ความจริงแล้วมันก็คือในตัวรหัสมอสที่เราใส่เอาไว้ เราก็จะเขียนเอาไว้ ฟีลว่า Elf is not belong to there มันไม่สามารถอยู่ตรงนี้ ซึ่งเขาก็กำลังจะเรียกกลับแล้วแหละ แต่ว่ามันเกิดเหตุการณ์ใน MV เกิดขึ้นก่อน”

เป็นต่อชอบซีนไหนที่สุดใน MV

“จริง ๆ ชอบทุกซีนเลย เพราะเราก็ปั้นมากับมือ แต่ถ้าถามว่าชอบซีนไหนที่สุด น่าจะเป็นซีนที่นั่งอยู่ในบ้านอะครับ นั่งกินข้าว ที่ใช้ชีวิตด้วยกัน มันอาจจะเป็นซีนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้ดูมีอะไรมาก แต่ว่าเรารู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริง ๆ แล้วก็ได้เจอเพื่อนใหม่คนนึง ที่เขาคอยสอนเราในการใช้ชีวิต แล้วมันก็ดูแปลกใหม่สำหรับเรามาก ไม่ว่าการกระทำของเขามันจะเป็นยังไง อย่างดูหนังผี ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าหนังผีคืออะไร แล้วเขาตกใจ เขาตกใจทำไม มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรารู้สึกว่าเราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราไม่เคยใช้จริง ๆ”

ได้ยินว่าเป็นต่อจะทำมินิอัลบั้ม สามารถบอกได้มั้ยว่าจะมีกี่เพลง

“อาจจะยังบอกไม่ได้ ขี้อุบมาก (หัวเราะ)”

แล้วจะมี MV ทุกเพลงมั้ย

“จริง ๆ ก็น่าจะมีอะไรออกมาให้ทุกคนได้ดูกันบ้างครับ อาจจะไม่ได้ใช้ชื่อว่า MV 100% ในทุก ๆ เพลง อาจจะมี MV บ้าง มีเป็น special video บ้าง แต่ยังไงก็จะมีคอนเทนต์ปล่อยออกมาให้ทุกคนได้รับชมกันแน่นอน”

เป็นต่อเคยวาดภาพไว้มั้ย ว่าอยากไปถึงจุดไหนในเส้นทางของการเป็นศิลปิน

“ถ้าถามตอนนี้เลยนะครับ อยากมีเพลงที่คนส่วนมากรู้จัก รับรู้ได้เป็นความแมสในวงกว้าง แล้วก็มีเป้าหมายก็คืออยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยว เหมือนทุกคนในฮอลมาเพื่ออยากฟังเพลงของเรา อาจจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในชีวิตของเราเลยก็เป็นได้”

จัดที่ไหนดี

“ราชมังเลยมั้ย (หัวเราะ) อาจจะเป็นอิมแพคก่อนแล้วกัน แกล้ง ๆ หรือว่าที่เขากำลังจะสร้างใหม่แถวบางนา”

มีงานไหนในวงการที่เป็นต่อยังไม่เคยทำ แล้วรู้สึกอยากทำบ้าง

“อยากเล่นหนังครับ เพราะว่าเราเคยเล่นแต่ซีรีส์ ผมเคยถ่ายไปสองเรื่อง รู้สึกว่าในพาร์ทของการแสดง ยังมีอะไรอีกเยอะมากเลยที่เรายังไม่ได้ไปสัมผัสมัน แล้วก็ครั้งนึงเคยได้มีโอกาสไปแคสหนังเรื่องนึง แล้วเรารู้สึกว่ามันค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่เราเคยเล่นเหมือนกัน ซึ่งอาจจะเป็นความเก่งของแคสติ้งด้วย ที่สามารถพาเราไปถึงจุดจุดนั้นได้ มันทำให้ว้าวกับการแสดงมาก แล้วรู้สึกว่าศาสตร์ของการเล่นหนังมันค่อนข้างละเอียด เป็นสิ่งที่เรายังไม่ได้เข้าไปเจอมันอย่างจริงจัง ถ้ามีโอกาสก็อยากจะทำให้มันเต็มที่”

อยากให้พูดอะไรถึง “ลักยิ้ม” ที่ติดตามเป็นต่ออยู่หน่อย

“ต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลย ที่ยังคงซัพพอร์ต แล้วก็น่ารักกับเป็นต่อเสมอเลย ไม่ว่าเป็นต่อจะทำผลงานแบบไหนออกมา ปล่อยออกมาในช่วงไหน หรือว่าอาจจะไม่ใช่ผลงาน อาจจะเป็นการมาไลฟ์พูดคุยกัน ไปออกงานอีเวนต์ต่าง ๆ ลักยิ้มทุกคนคอยสนับสนุนตลอด ทั้งทีมหน้างาน ทั้งทีมหน้าจอ เราได้รับเอเนอร์จี้ที่มันดีมาก ๆ แล้วก็คำพูดทุก ๆ อย่างที่ทุกคนให้กำลังใจเรามา มันต่อชีวิตเรามาก ๆ ในเส้นทางนี้ คือพูดได้เลยว่า การมีอยู่ของทุกคน มันทำให้เป็นต่อมีวันนี้จริง ๆ”

สุดท้าย ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้เป็นต่อมีอะไรให้ติดตามกันบ้าง

“เริ่มจากผลงานเพลงก่อนละกัน ฝากติดตามเพลงใหม่ของ ‘เป็นต่อ จีรภัทร’ ด้วยนะครับ ‘เส้นที่เธอขีดไว้’ สามารถรับชม MV ได้แล้ว ทาง YouTube Insight Entertainment แล้วก็ฟังเพลงได้ในสตรีมมิงทุกแพลทฟอร์มนะครับ นอกจากนี้ก็ยังมีเพลงที่ปล่อยออกไปแล้วก่อนหน้านี้ ‘ช็อตฟีลแรงไปไหม’ แล้วก็ ‘Deep Talk’ ด้วยครับ นอกจากเพลงก็มีผลงานการแสดงด้วยครับ ที่ออนแอร์อยู่หลัก ๆ ก็มี ‘เพราะเธอคือรักแรก (A love so beautiful)’ ออกอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร สองทุ่มครึ่ง ทางช่อง GMM25 แล้วก็ดูย้อนหลังได้ผ่านทาง VIU สี่ทุ่มครึ่งครับผม แล้วก็แอบมีไปรับเชิญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับทางบ้าน Me Mind Y ด้วย ‘ต้องรักมหาสมุทร’ ครับ ตอนนี้ก็ออนแอร์อยู่ รับบทเป็น ‘คม’ ครับผม ต้องรอดูว่าน้องคมจะออกมาตอนไหนอะไรยังไง แล้วก็ออกมาทำอะไรครับ”