พูดคุยกับ “อูน TheChanisara” ถึงที่มาของ “ใจสมใจ”

Chill Talk

พูดคุยกับ “อูน TheChanisara” ถึงที่มาของ “ใจสมใจ”

หลังจากสร้างปรากฎการณ์ในเพลง "เฮอร์ไมโอน้อง" มาแล้ว “อูน TheChanisara” หรือ “อูน-ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์” ก็ได้กลับมาสร้างปรากฎการณ์ไวรัลอีกครั้งในเพลงใหม่ล่าสุด “ใจสมใจ” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตของตัวเอง เราจึงได้ชวนเธอ มาพูดคุยถึงเรื่องราวในเพลงใหม่เพลงนี้กัน

 

เพลง “ใจสมใจ” มีที่มายังไง

“มันเกิดจากความรู้สึกเราที่รักคนคนนึงมาก ๆ ในที่นี้ก็คือสามีค่ะ เรารู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันทุกวันจนเป็นความเคยชิน แต่ว่าใต้ความเคยชินนั้นมันก็มีความกังวลบางอย่าง มันจะชอบมีคำถามว่าใครจะตายก่อน ถ้ามีใครสักคนนึงต้องไป อยากให้ใครไปก่อน พอมันเริ่มมีคำถามแบบนี้ พอเราอายุมากขึ้น เราก็จะเริ่มคิดว่า ถ้าเราไปปุ๊บอะ แล้วจะกลับมาเจอกันตอนไหน แล้วความรักที่โดนแยกออกจากกันด้วยความตาย มันจะได้กลับมาเจอกันอีกมั้ย หรือว่าถ้าชาติหน้าเราได้กลับมาเกิดจริง ๆ เราจะรักใครได้จริง ๆ เหรอ ถ้าไม่ใช่คนคนนี้ มันเป็นความรู้สึกแบบ เราไม่รู้ว่าความตายมันจะพาเราไปที่ไหนต่อ ก็เลยรู้สึกว่า สิ่งเดียวที่เราจะเสียดาย สิ่งเดียวที่เราจะคิดถึง ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้อยู่ในร่างนี้แล้ว ก็คงเป็นความผูกพันกับเขา ก็เลยพูดกับพี่แอ้ม ว่าอูนรู้สึกแบบนี้ ถ้าได้มีโอกาสออกเพลงอีก ก็อยากจะอธิบายความรู้สึกนี้ ที่มันไม่ต้องกังวลแล้วว่าชาติหน้าจะเป็นยังไง เพราะชาตินี้เราทำดีที่สุดแล้ว”

เป็นอีกครั้งที่ได้ทำงานร่วมกับ คุณแอ้ม อัจฉริยา การทำงานเป็นยังไงบ้าง

“จริง ๆ อูนกับพี่แอ้มทำงานด้วยกันเหมือนไม่ใช่การทำงาน เหมือนเรามาลงขันลงโปรเจคด้วยกัน แล้วใส่งานอาร์ตของเราลงไปเต็มที่ อูนไม่ขัดพี่แอ้ม พี่แอ้มไม่ขัดอูน คือเราถ่ายทอดเพลงออกมาในวิถีคล้าย ๆ กัน พี่แอ้มเขาอยากให้อูนทำอะไร อูนเป็น instrument ให้พี่แอ้มเลย เพราะว่าอูนไว้ใจเรื่องการทำเพลงของเขามาก อูนไม่สามารถเก่งไปกว่าเขาได้ในเรื่องของท่อนนี้ต้องออกเสียงยังไง ช่องเสียงที่ต้องใช้คือยังไง อูนให้พี่แอ้มจัดการทั้งหมด ส่วนการเล่าเรื่องต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งพอมาทำงานด้วยกัน อูนว่าเวลาที่เราทำงานอาร์ต แล้วเราภูมิใจกับมัน เราก็จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองไปด้วย”

มีท่อนที่ร้องว่า “ดวงสมพงษ์ก็คงไม่เท่ากับใจที่มันสมใจ” ในมุมมองของอูนตีความท่อนนี้ยังไง

“อูนมองว่า เวลาเรามีคนรัก เราก็จะถามหมอดูก่อนเลย ว่าเขาใช่เนื้อคู่มั้ย ดวงสมพงษ์กันหรือเปล่า แต่ทำไมเราไม่เคยถามตัวเองเลย ว่าสุดท้ายเราชอบคนคนนี้มากขนาดไหน สมมุติเราอยากรู้ว่าคนคนนี้เป็นเนื้อคู่เราหรือเปล่า ทำไมเราต้องให้คนอื่นมาบอกว่า ใช่คนนี้แหละที่ถูกต้อง ทำไมเราไม่ถามตัวเอง ว่าคนคนนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจขนาดไหน หรือว่าหัวใจเรามันมีความสุขขนาดไหน เพราะฉะนั้นก็เลยเลือกที่จะเมนชั่นเรื่องนี้ขึ้นมา ว่าสุดท้ายดวงชะตา หรือว่าอะไรที่เขาว่ากันว่าจะทำให้เรารักกันกับคนคนนี้มาก ๆ อะ มันก็ยังยืนยันอะไรไม่ได้ เท่ากับหัวใจที่มันสมใจซึ่งกันและกัน”

MV ใจสมใจ มาในคอนเสปอะไร

“MV นี้มันจะเป็นภาพบรรยากาศของงานแต่งเนอะ แต่ว่ามันเป็นงานแต่งที่ถูกรีพีทซ้ำไปเรื่อย ๆ วนไปเรื่อย ๆ มันเป็นงานแต่งทั้งในชาติหน้า ในชาติที่แล้ว แล้วก็วนกลับไปกลับมา จนมาเป็นชาตินี้ มันเป็นภาพสะท้อนระหว่างงานแต่งปัจจุบัน ซึ่งเป็นภาพจากงานแต่งอูนจริง ๆ ที่เอามาตัดสลับกับภาพงานแต่งที่อยู่ในโลกแห่งความฝันของอูน ซึ่งอูนไม่รู้นะว่ามันจะหมายถึงชาติหน้าหรือชาตินี้ แต่แค่แก่นของมันก็คือ ถ้าเกิดว่าอูนจะต้องแต่งงานอีกครั้งนึง อูนก็อยากจะให้มันเป็นคนนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นวันที่เราอยู่ในร่างไหนก็ตาม”

เห็นว่าภาพต่าง ๆ ใน MV เป็นของจริงทั้งหมด ไอเดียส่วนนี้พี่อูนเป็นคนเสนอเองมั้ย

“ใช่ค่ะ คืออูนรู้สึกว่า ถ้าเกิดเป็นเรื่องงาน เรื่องธุรกิจ อูนแทบไม่ใส่ความเป็นตัวเองลงไปเลย ถึงแม้มันจะดูเหมือนเป็นงานของเรา มีหน้าของเราอยู่ในนั้น แต่จริง ๆ แล้วงานที่อูนทำทุกอย่าง มัน customer base หมดเลย เราทำทุกอย่างเพื่อลูกค้า เพราะฉะนั้นตัวตนของเราอยู่ในงานของเราไม่ได้เยอะขนาดนั้นเลย น้อยมาก แต่พอเรามาทำงานศิลปะ ที่เรามีโอกาสจะเล่าในสิ่งที่เราอยากเล่า อูนว่าเรื่องราวที่มันชัดเจนที่สุด มันไม่จำเป็นต้องเอาคนอื่นมาเล่า เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเชื่อ แล้วก็เป็นเรื่องที่มาจากความเชื่อของความรักของเรา ก็เลยรู้สึกว่าทำไว้ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร”

MV ทะลุ 4 ล้านวิวแล้ว คาดหวังไว้มั้ยว่าจะกระแสตอบรับดีขนาดนี้

“ไม่คาดหวังค่ะ ตั้งแต่เฮอร์ไมโอน้องแล้ว ก็ไม่ได้คาดหวังค่ะ เวลาเราทำงานอาร์ตขึ้นมาหนึ่งชิ้น งานอาร์ตจะต่างจากการทำธุรกิจ เพลงสำหรับอูนมันไม่ใช่ธุรกิจของเรา เราไม่ได้หากินจากสิ่งนี้ อูนทำบุญหมดเลย เวลาเราทำธุรกิจ ความสำเร็จมันจะอยู่ที่การตอบรับ การสั่งซื้อ อันนั้นคือความสำเร็จของการทำงาน แต่พอสิ่งนี้มันไม่ใช่งาน มันคืองานอาร์ต ความแตกต่างระหว่างงานอาร์ตกับงาน คืองานอาร์ตอะ ผู้สร้างมันคือพอใจไปแล้ว ถ้าเกิดบังเอิญมีใครมา appreciate มาชื่นชอบด้วย มันก็แปลว่างานอาร์ตของเรา มีคนชื่นชอบในสิ่งนี้ แล้วก็ทำให้เขามีความสุขได้ อันนั้นก็เป็นโบนัสไป แต่ว่าเบื้องต้นเลย อูนมองว่าอูนและศิลปินที่ร่วมงานด้วยทั้งหมด พี่แอ้มที่ทำเพลง น้องก๋วยเตี๋ยวที่ร่วมทำเอ็มวี ใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานนี้ ต้องชอบทั้งหมดก่อน แล้วอันนั้นคืออูนโอเค สบายใจแล้ว หลังจากนั้นถ้ามันจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้คนได้ อูนก็ทำหน้าที่สื่อสารต่อไป แล้วก็อยากให้มันเป็นประโยชน์กับความรู้สึกของคน อูนว่าเพลงมันทำหน้าที่ของมันได้ดีด้วยค่ะ”

อูนทำหลายอย่างมาก พาร์ทไหนที่รู้สึกว่าชอบที่สุด หรือคอมฟอร์ทกับมันที่สุด

“อูนว่าในทุก ๆ วันไม่มีพาร์ทไหนที่อูนรู้สึกคอมฟอร์ทเลย ถ้าพาร์ทที่อูนคอมฟอร์ทคือตอนที่นอนอยู่บ้าน ทุก ๆ วันมันคือความชาเลนจ์ แล้วอูนอาจจะชอบความชาเลนจ์มั้งคะ ธุรกิจมันดูเหมือนง่าย เราบอกว่าเราเป็นนักธุรกิจ ดูออกมาให้คำแนะนำเยอะ ไม่ใช่ว่ามันไม่ชาเลนจ์นะ ทุกครั้งที่ประชุม อูนก็เห็นยอดขึ้นยอดลงเหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ มันก็ยังชาเลนจ์ตัวเองอยู่ทุกวันเลยค่ะ แล้วก็การทำเพลงเนี่ยที่สุด เพราะว่าเป็นอะไรใหม่ ๆ หรือว่าทำอะไรก็ตาม ถ้ามันไม่ชาเลนจ์อูนแล้วอะ อูนจะเลือกที่จะนอนอยู่บ้านทันที เพราะอูนชอบอยู่บ้านมากเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่าอันเนี้ย อูนมีโอกาสที่จะได้เห็นเวอชั่นที่ดีขึ้นของตัวเองได้ในงานนั้น ๆ อูนจะเลือกทำในวัยที่อูนยังมีแรงอยู่ค่ะ”

แบ่งเวลายังไง หรือมีเทคนิคอะไรมั้ย ในการทำทุกพาร์ทของตัวเองให้ดี

“คืออูนมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำแบบนี้ได้ตลอดไป ต้องใช้คำนี้ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้อูนไม่ได้นอน คือมันก็ไม่ใช่สิ่งมนุษย์จะ handle ทั้งหมดนี้ได้พร้อม ๆ กันในก้อนเดียวกัน แต่อูนรู้ว่า อูนจะทำสิ่งนี้ได้ไม่นานอยู่แล้ว แล้วอูนก็รู้ว่านี่คือโอกาสที่ไม่ใช่ได้ทุกคน เพราะฉะนั้นอูนใช้ชีวิตไปตามโอกาสและความเหมาะสมค่ะ เหมือนตอนอูนอายุ 18-19 อูนหนักกว่านี้อีก ไม่นั่ง ไม่นอน อบแต่ขนมอยู่อย่างงั้น ซึ่งในวัยนั้นมันดูเหมือนบ้ามาก แต่ว่าวัยนั้นเรารู้สึกเหนื่อยน้อยกว่านี้มาก แต่ว่าร่างกายเราจะส่งสัญญาณเอง ว่าเฮ้ยเราไม่ไหวแล้ว เราต้องนอนมากขึ้นนะ เราต้องกินมากขึ้นนะ เพราะว่าถ้าเกิดอูนไปฝืนตัวเองให้ทำตามกฎของ work life balance อะ สิ่งที่เกิดขึ้นคืออูนจะมานั่งเสียใจที่อูนเสียโอกาสอะค่ะ ซึ่งในวันนี้อูนอาจจะยังมีแรงอยู่ แต่ก็รู้ตัวว่าคงได้อีกไม่กี่เท่าไหร่ เราก็สามสิบกว่า แรงมันก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น เพราะว่าปัจจุบันเวลาอูนจะทำงานอื่น ๆ เป็นงานอดิเรก อูนก็ต้องพูดกับตัวเองเหมือนกัน ว่างานหลักเราจะต้องไม่เสีย คือช่วงเวลากลางคืนก็ต้องใช้ไปกับการเคลียร์งานที่ตอนกลางวันเราหายไป”

พูดอะไรถึงคนที่อยากทำตามฝันในการเป็นศิลปินหน่อย

“สำหรับอูนนะ แต่ก่อนอูนกลัวคำว่าศิลปินและนักร้องมาก ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถใช้คำว่า นักร้อง กับตัวเองได้ เพราะเราไม่ได้ประกอบอาชีพเนอะ แต่ว่าอูนอะ เพิ่งมากล้าใช้คำว่า ศิลปิน กับตัวเอง เพราะว่าอูนเพิ่งเข้าใจว่าจริง ๆ คำว่าศิลปิน มันไม่ได้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนเป็นศิลปิน ทุกคนเป็น artist ในวิถีของตัวเอง we’re own artist in our life เราทุกคนเป็นศิลปินในชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว แค่บังเอิญว่างานของศิลปินบางคน มันมีคน appreciate งานอาร์ตที่เขาทำออกมาเยอะแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะไปถึงจุดที่จะต้องมีคนมา appreciate อะ อูนว่าเราต้องคราฟศิลปะที่เราอยากจะคราฟก่อน ถ้าเราอยากเป็นศิลปิน ศิลปะที่เราอยากจะคราฟออกมา หน้าตาเป็นแบบไหน โดยที่ไม่ต้องคาดหวังอะไรมากมาย แค่รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ทำ มีความสุขที่ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองในรูปแบบที่เราอยากจะทำ แล้วถ้าเกิดบังเอิญว่ามีโอกาสอะไรเข้ามา ก็คว้ามันไว้ให้เร็วที่สุด ถ้าไม่มีโอกาสเข้ามา ก็วิ่งออกไปหามัน แล้วปัจจุบันถ้าเทียบกับยุคก่อน ๆ อูนว่าการแข่งขันสูงก็จริง แต่ว่าการมองเห็นมันเทียบไมได้เลยกับยุคก่อน ปัจจุบันนี้ศิลปินหลัก ๆ กับศิลปินรอง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในค่ายดัง ๆ ก็มีการมองเห็นที่ไม่ต่างกันแล้วอะค่ะ ก็รู้สึกว่ามันก็น่าจะเป็นปีที่ดีมั้ยนะในการเริ่มต้น”

ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้มีอะไรให้ติดตามกันบ้าง

“หลัก ๆ ก็มีเพลง ใจสมใจ ของ TheChanisara สามารถใช้ได้ในสตรีมมิงได้ทุกอย่างเลย YouTube Reels TikTok แล้วก็ธุรกิจต่าง ๆ ก็ติดตามกันได้ ฝากบ้าน Brunchtime ด้วยนะคะ นอกนั้นก็ติดตามใน TheChanisara ทุกช่องทางได้เลยค่ะ”

you may also like

album

0
0.8
1