คุยกับ PAUSE ถึงเพลงใหม่ “วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก”

Chill Talk

คุยกับ PAUSE ถึงเพลงใหม่ “วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก”

PAUSE กลับมาให้แฟน ๆ หายคิดถึง กับผลงานล่าสุด “วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก” เพลงน่ารัก ๆ สำหรับสายง้อแฟน กับท่อนฮุคที่ต้องทำเธอใจอ่อน “วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก ฉันจะรักใครได้อีก” วันนี้เราเลยได้ชวนวง PAUSE มาพูดคุยถึงเรื่องราวในซิงเกิลล่าสุดนี้กัน

ซิงเกิลใหม่ "วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก" มาในคอนเสปอะไร

“คอนเสปก็คือเกี่ยวกับความรัก เกี่ยวกับคนที่กำลังมีแฟน แล้วก็ตามง้อแฟน มีการทะเลาะนิดหน่อย มีงอน มีง้อ เพลงนี้ไว้สำหรับง้อแฟน”

เพลงนี้ใช้ระยะเวลาในการทำนานมั้ย

“จริง ๆ เราเตรียมการไว้ตั้งแต่พฤศจิกายนแล้วครับ แล้วก็เสร็จตอนมกรา ระหว่างเตรียมการเราก็พยายามทำให้มันดีที่สุด แล้วก็มาถึงการที่เราเข้าไปอัด ถึงกระบวนการข้างหลัง ก็เตรียมการกันพอสมควร”

คิดว่าอะไรคือจุดที่โดดเด่น หรือเป็นเรื่องใหม่ต่างจากเพลงก่อน ๆ ของ PAUSE

“ถ้าจุดเด่นของเพลงนี้ น่าจะเรื่องที่มันเป็นเพลงเร็ว เพราะส่วนใหญ่เพลงของ PAUSE ที่คนรู้จักกัน มันมักจะเป็นเพลงช้า นอกจากเพลง ‘กอดหมอน’ ที่เป็นเพลงมีเดียม จริง ๆ PAUSE เคยทำเพลงเร็วนะ แต่มันไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก มักจะเป็นที่รู้จักในเพลงช้ามากกว่า ‘ดาว’ ‘ที่ว่าง’ พวกเนี้ย ก็หวังว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงเร็วที่ทำให้คนรู้จัก PAUSE กันมากขึ้น”

มาที่พาร์ท MV บ้าง เรื่องราวใน MV นี้เป็นยังไง

“ทางทีม MV ก็ได้มาปรึกษาเรา มาเสนอว่าเราจะทำเป็นเด็ก ๆ มั้ย เป็นเหมือนงานโรงเรียน ละครเวทีของเด็ก ๆ เขามาถามว่าพี่ ๆ โอเคมั้ย เพราะตอนต้นเพลง ถ้าใครได้ฟังก็จะมีเสียงของเด็กอยู่ เลยลองคิดว่าเอาเป็น MV ของเด็ก ๆ มั้ย น่ารัก ๆ ซึ่งพอเขามาคุย เราก็ชอบตั้งแต่แรก เพราะผมก็สังเกตเวลาไปทัวร์ พี่ ๆ เขาก็ชอบเล่นกับเด็ก ๆ บวกกับเคยให้โจทย์กับทางทีมทำ MV ไว้ ว่าเรามักจะมีซีนมาเล่นดนตรีกัน มีลายซิงค์ แต่ว่า PAUSE ไม่เคยเป็นหนึ่งในตัวแสดงในเนื้อเรื่องของ MV นั้น ๆ เลย เลยอยากให้ลองทำแบบนี้ดูบ้าง เขาก็เลยจับพวกเราไปเป็นนักแสดงอยู่ในนั้นด้วย ช่วงท้ายก็จะมีขึ้นมาแจม มาเล่นดนตรีกับเด็ก ๆ บนเวที แต่ว่าเครื่องดนตรีนั้นไม่ใช่เครื่องดนตรีจริง เป็นเครื่องดนตรีเด็กเล่น มันก็จะน่ารักไปอีกแบบ”

ทำไมนักแสดงหลักถึงต้องเป็นบล็อกโคลี่กับข้าวโพด

“ไม่ทราบเหมือนกันฮะ น่าจะหาชุดได้พอดี (หัวเราะ) ก็เป็นทางทีม MV เขาเสนอมา”

การใช้เด็ก ๆ เป็นนักแสดงนำใน MV เลย ยากมั้ย บรรยากาศในการทำงานเป็นยังไงบ้าง

“ผมว่าน่ารักนะ อย่างพวกเราไปกันตอนบ่าย ๆ พอเห็นเด็ก ๆ เราก็ชอบอยู่แล้ว แต่น่าจะหนักไปทางทีมงานที่ต้องดูแลน้อง ๆ ตั้งแต่เช้า ต้องขอบคุณน้อง ๆ ด้วยที่มากันตั้งแต่ตีห้า แสดงกันตั้งแต่เช้าเลย จนพระอาทิตย์ตกก็ยังอยู่ ก็ต้องขอบคุณน้อง ๆ ที่มาแสดง แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ที่มาดูแลน้อง ๆ ด้วย”

มีซีนโปรดใน MV กันมั้ย ชอบซีนไหนที่สุด

“ซีนที่มีเด็กมากระเด่ว ๆ (หัวเราะ) เป็นท้ายของ MV ที่พวกเราขึ้นมาแจมกันบนเวทีอะฮะ แล้วเด็ก ๆ ก็จะเต้น ๆ กัน อันนั้นชุลมุนดีครับ เด็ก ๆ น่ารัก”

ในปีนี้จะมีผลงานออกมาให้เราฟังกันอีกมั้ย สปอยล์ได้มั้ย

“ก็พยายามคุยกับทางค่าย จริง ๆ ก็อยากให้ปีนี้มีอีกสักหนึ่งเพลง แต่ถ้าจะมากกว่านั้นก็ต้องขอขอบคุณด้วยครับ อยากให้มีอีกครับ เพราะเราก็อยากจะปล่อยเพลงให้มันเยอะขึ้น คือช่วงโควิดเราไม่ได้ปล่อยเพลงเลย มันก็เป็นไปตามช่วงนั้นอะเนอะ โควิดมันทำอะไรมากไม่ได้ เราก็เลยไม่ได้มีเพลงใหม่กัน แต่ตอนนี้สถานการณ์มันปกติแล้ว อาจจะสักปีละสองเพลงครับ”

เราได้มองไว้มั้ยว่าอยากให้วง PAUSE ไปถึงจุดไหน

“ถ้าเป็นอย่างคาราบาวได้ก็จะดีมากเลย ที่เล่นไปจนแก่เฒ่า ก็ยังไม่หายไปไหน ก็จะยินดีมาก ๆ ครับ เราก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ”

สุดท้าย พูดอะไรถึงแฟนเพลงที่ติดตามวง PAUSE กันอยู่หน่อย

“ก็อย่าเลิกตามนะครับ (หัวเราะ) คือเพลง PAUSE มีอายุอานามกันมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่นักร้องคนเก่าพี่โจ้ ก็เริ่มตั้งแต่ปี 2539 ก็ยาวนานเนอะ แต่มันก็มีเป็นสองยุค ยุคเก่าก็คือหลายคนโตมากับเพลงเรา ถ้าเป็นน้อง ๆ ยุคปัจจุบัน ก็อยากให้เขาโตไปกับยุคของเฟ้น อยากจะให้ติดตามวง PAUSE กันต่อไปอีกเรื่อย ๆ ก็ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ มาเจอกันได้ ฝากเพลงใหม่ของพวกเราวง PAUSE ‘วันหนึ่งถ้าฉันอกหัก’ รวมไปถึงใครอยากจะไปฟังพวกเราเล่นสด ๆ ก็สามารถติดตามตารางงานได้ทางเฟซบุ๊คของพวกเราวง PAUSE ครับ”

you may also like

album

0
0.8
1