คุยกับ BOTCASH ถึงการเป็น DJ/Producer พร้อมซิงเกิลล่าสุด “เต็มสิบไม่หัก”

Chill Talk

คุยกับ BOTCASH ถึงการเป็น DJ/Producer พร้อมซิงเกิลล่าสุด “เต็มสิบไม่หัก”

หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ เอ้ BOTCASH ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในฐานะ DJ/Producer ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วันนี้เขากลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ "เต็มสิบไม่หัก" ที่ได้มุกดามา feat. ด้วย เราจึงได้ชวนเขามาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้ และเส้นทางการเป็น DJ/Producer ของ เอ้ BOTCASH กัน

 

ช่วยขยายความคำว่า DJ/Producer หน่อย อาชีพนี้คืออะไร

“DJ ย่อมาจาก Disc Jockey ก็คือคนที่เปิดเพลงเวลาเราไปเที่ยว ไปคลับ ไปเฟสติเวิล เป็นดีเจที่เปิดเพลงบนเวที เพลงอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้เล่นเพลงของตัวเอง Producer ก็คืออีกหนึ่งอาชีพ ถ้าเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ก็คือคนที่ควบคุมการผลิตทุกอย่าง จนกระทั่งเสร็จออกมาเป็นผลงานเพลงหนึ่งชิ้น ถ้าโปรดิวเซอร์แต่งเพลงให้คนอื่น ก็เป็นโปรดิวเซอร์เบื้องหลัง แต่ทีนี้พอ DJ กับ Producer รวมกัน กลายเป็นอาชีพใหม่ คือ DJ/Producer ก็คือดีเจที่อยากเป็นศิลปิน ดีเจที่อยากทำเพลงของตัวเอง โปรดิวซ์เพลงของตัวเอง ขึ้นเวทีแล้วเล่นเพลงของตัวเองเหมือนนักร้อง อย่างนักร้อง ถ้าร้องเพลงคนอื่นก็เป็นนักร้องโคฟเวอร์ นักร้องกลางคืน แต่เมื่อไหร่ที่แต่งเพลงตัวเองขึ้นไปร้องบนเวทีจะกลายเป็นศิลปิน ดีเจเหมือนกัน ดีเจเปิดเพลงคนอื่นก็คือดีเจเฉย ๆ แต่ถ้าโปรดิวซ์เพลงตัวเอง เล่นเพลงตัวเองเมื่อไหร่ เขากลายเป็นศิลปิน นี่คือ DJ/Producer ครับ ถ้าเมืองไทยมันไม่มีใครให้นึกภาพตาม แต่เมืองนอกมันมี Martin Garrix, Hardwell, Marshmello, Swedish House Mafia นี่คือ DJ/Producer ที่เป็นศิลปิน ที่เราเห็นว่ามันมีเป็นสิบปีแล้วที่เมืองนอก แต่บ้านเรายังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่มีศิลปินที่เป็น DJ/Producer เต็มตัว เพื่อให้คนเข้าใจว่ามันคืออะไรด้วย เอ้ก็พยายามทำสิ่งนั้นอยู่”

เห็นว่าคุณเอ้ได้ไปร่วมงานกับค่าย Monstercat ที่ต่างประเทศด้วย ไปทำอะไรมาบ้าง

“ก็ไปทำเพลงครับ เอาแค่ว่าโอกาสได้ไปทำเพลงกับเขาเนี่ย ผมก็สู้เพื่อโอกาสนี้มา 10 ปีแล้ว มันยากมากครับ แล้วลองคิดดูว่าค่ายนี้ คนที่เป็นเหมือนเอ้ทั่วโลกก็คิดแบบเดียวกัน มันคือ Top 10 แล้วอะ เพราะฉะนั้นคนทั่วโลกให้ความสนใจค่ายนี้ การที่ได้โอกาสไปทำเพลงกับค่ายเขา ก็คือประตูบ้านแรกที่ใหญ่มาก ๆ แล้วพอเปิดได้ ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการทำเพลง คุยเรื่องสัญญา แล้วช่วงมกราคม ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาจะบินมาไทยเพื่อมาถ่าย MV เราก็คาดว่ามันจะเป็นเพลงแรกที่เปิดประตูให้มีอีกหลาย ๆ เพลงกับเขาต่อไป”

มาที่ซิงเกิลล่าสุด “เต็มสิบไม่หัก” ซิงเกิลนี้เริ่มต้นมาจากอะไร

“ก็คือผมอยากจะทำเพลงใหม่ก่อน แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันเหมาะกับเสียงนักร้องผู้หญิงที่หวาน ๆ หน่อย แล้วผมก็คิดไม่ออกว่ามันจะเป็นใคร ก็เลยปรึกษากับผู้จัดการ แล้วเขาก็ส่งมุกดามาให้ดู ผมก็ เอ๊ะ มุกดาเขาเป็นนักแสดง เขาร้องเพลงได้เหรอ ทีนี้เขาก็เลยส่งคลิปที่มุกดาร้องเพลงเล่นของสูงมาให้ แล้วพอได้ดูคลิปนั้น ก็รู้สึกว่าเหมือนเขาเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว แล้วยังเติมได้อีกเยอะ ถ้าเราได้โค้ชเขา มันน่าจะได้สิ่งที่เราต้องการในเพลงของเรา”

แนวเพลงของเพลงนี้คือ Color Bass เล่าให้เราฟังหน่อยว่าแนวเพลงนี้คืออะไร

“Color Bass มันคือแนวเพลงที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 3 ปีครับ เอ้ก็เพิ่งรู้จักกับแนวนี้ได้สักปีครึ่ง Color Bass มันจะเน้นไปที่ sound design เสียงเบส ที่ต้นฉบับมันมาเป็นเสียงที่ค่อนข้างจะฟังยาก ฟังหนัก ไม่รู้ว่ารู้จักแนวเพลง Dubstep มั้ย เสียงเบสมันจะค่อนข้างฟังยากหน่อย เขาจะเอาเสียงนั้นมา แล้วก็ทำเหมือน add color เข้าไป ที่เขาใช้ว่า color เพราะเวลาเราดูในโปรแกรม เวลาเราดันย่านความถี่ขึ้นมา มันจะมีสีให้เห็น ทีนี้ย่านความถี่ทุกย่าน มันมีเสียงโน้ตเพลงอยู่ข้างใน เพียงแต่เวลาเราได้ยิน เราได้ยินทุกย่านพร้อมกัน มันก็เลยมีหลาย ๆ เสียง แต่ถ้าเราดันแค่บางย่านขึ้นมา มันจะเกิดเป็นโน้ตเพลงขึ้น จากสิ่งที่ไม่น่าเป็นเสียงเพลงได้ Color Bass คือการดันความถี่เหล่านั้น ให้กลายเป็นโน้ตเพลงที่เราต้องการ ซึ่งโน้ตตัวนึงมันใช้เวลาทำนานมาก เพราะมันต้องค่อย ๆ บิดความถี่ครับ แต่ว่ามันก็ออกมาเป็นเสียงอย่างที่ได้ยินครับ ถ้าไม่ใช้เทคนิคนี้ มันก็จะไม่เกิดเป็นเสียงแบบนี้ อย่างที่เราได้ยินกันในเพลง”

เพลงนี้ได้เพิ่มกลิ่นอายของ T-pop เข้าไปด้วย ทำไมถึงเลือกเป็นแนว T-pop

“T-pop มันเป็นสิ่งที่เอ้โปรดิวซ์ แล้วก็เป็นสิ่งที่เอ้ถนัด แต่ว่าเอ้ทำให้ศิลปินคนอื่นหมดเลย ไม่เคยเอาความ T-pop มาใส่ในเพลงตัวเอง แล้วก็พอเรารู้สึกว่า Color Bass มันเป็นอะไรที่ล้ำมากแล้ว ถ้าสมมุติว่าเอาแค่ Color Bass มาอย่างเดียว ยังไม่ต้องไปถึงแฟนคลับ เอาแค่มุกดาก็คงไม่เอาด้วยแล้ว เขาคงร้องด้วยไม่ไหว งั้นเราก็เลยเลือก T-pop ที่เหมาะกับมุกดา แล้วทีเลือก T-pop ก็เพราะเราถนัด เราไม่ได้ถนัด Jazz บางทีเอา Jazz ไปผสมกับ Color Bass อาจจะเพราะกว่านี้ก็ได้ แต่ผมไม่ถนัด Jazz เราถนัด T-pop แล้วก็รู้สึกว่า T-pop มันเข้าสู่คนหมู่มากได้ง่าย แฟน ๆ ของมุกดาก็น่าจะเอ็นจอยกับเพลงได้ แฟน ๆ ของผมก็เอ็นจอยกับเพลงได้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า งั้นลองเอา T-pop มาผสมกับ Color Bass ดูแล้วกัน แล้วมันก็ออกมาลงตัว”

เรื่องราวใน MV “เต็มสิบไม่หัก” เป็นยังไง

“ถ้าได้ดูจะเห็นว่ามุกดาพยายามเอาไอเท็มชิ้นนึงมาให้เอ้ แล้วก็จะมีตัวหน้ากาก 4 ตัว พยายามแย่งไปจากเขา แต่ไอเท็มชิ้นนั้นมันสำคัญยังไงเนี่ย ยังบอกไม่ได้ ตอนจบพอได้ไอเท็มชิ้นนั้นมา ผมเปิดกระเป๋าแล้วในกระเป๋ามันมี 5 ช่อง ผมใส่ไอเท็มอันนี้ลงไป แล้วมันเหลืออีก 4 ช่อง ซึ่งถ้าดู MV ตัวต่อไปจะรู้แล้วว่าไอเท็มชิ้นนี้มันสำคัญยังไง แต่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าบอกตอนนี้คือสปอยล์ MV ตัวต่อไปเลย”

แสดงว่าจะมีซิงเกิลหน้า จำนวนตามช่องในกระเป๋าเลยหรือมั้ย

“ยังบอกไม่ได้ อาจจะเพลงเดียวได้สองชิ้น เรายังไม่รู้ใช่ปะ ต้องดูก่อน”

เคยจัดงานแฟนมีตไปแล้ว มีแพลนจะจัดในสเกลที่ใหญ่ขึ้นอย่างคอนเสิร์ตมั้ย

“ใช่ครับ ก็อยากจะมีคอนเสิร์ตนะ น่าจะเป็น 17 ธันวาครับ แต่ว่าบอกเป็นช่วงธันวาคมละกัน เผื่อเปลี่ยน (หัวเราะ)”

อยากให้ฝากอะไรถึงคนที่อยากเป็น DJ/Producer หรือว่ากำลังทำตามความฝันแบบพี่เอ้หน่อย

“การเป็น DJ/Producer เนี่ย มันไม่ได้ต่างกับอาชีพศิลปินอาชีพอื่นเลย ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นอะไร มันใช้ความพยายามสูงมาก ๆ เพราะว่าถ้าคุณปล่อยแค่สองเพลงแล้วท้อ มันไม่มีทางสำเร็จแน่นอนถูกมั้ยครับ เอ้เลยชอบให้คำแนะนำว่า ลองดูรูปที่เป็นคนกำลังเอาเสียมขุดเพชรอะ กำลังจะถึงเพชรละ แล้วหันหลังกลับก่อน จริง ๆ ขุดอีกทีเดียวก็เจอเพชรแล้ว ผมเลยจะชอบบอกกับเด็ก ๆ DJ/Producer ว่า เวลาคุณทำเพลง คุณทำมา 10 เพลง บางทีคุณอาจจะดังเพลงที่ 11 บางคนโชคดีทำเพลงเดียวแล้วดังเลย แต่ผมทำ 100 เพลงแล้ว ผมยังไม่ดังเลย ผมทำเพลงที่ 101 ผมทำเพลงที่ 102 ผมทำเพลงที่ 103 ต่อ เพราะผมไม่รู้เลยว่า เราอยู่ห่างจากความสำเร็จแค่เพลงเดียวหรือเปล่า พอเราคิดแบบนี้ได้ มันจะไม่ท้อ แล้วมันจะลุยได้ตลอดครับ”

สุดท้าย อยากให้พูดฝากซิงเกิลนี้หน่อย

“เพลงเต็มสิบไม่หัก ก็เป็นเพลงที่พยายามจะเอา Color Bass ที่เป็นแนวใหม่ ๆ เข้ามาผสมผสานกับ T-pop ที่พวกเรารู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ ก็ทั้งเรื่องซาวน์ดีไซน์ และเรื่องเนื้อหาของเพลงที่ได้มุกดามา feat. ด้วย คำร้องต่าง ๆ ที่ได้เบนซ์ วรเชษฎฐ์ และนุ้ย อรัณย์ มาช่วย ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะย่อยง่ายแล้ว จาก Color Bass ที่มันเป็นอะไรที่ฟังยาก ผมคิดว่าหลาย ๆ คนน่าจะเอ็นจอยกับเพลงนี้ได้ครับ มันเป็นเพลงบอกรักง่าย ๆ ว่าอยากจะรักกันก็ไม่ต้องอะไรเยอะแยะ เต็มสิบไม่หักให้อยู่แล้วถ้ารักกันจริง”

you may also like

album

0
0.8
1