Chill Talk

นนท์ ธนนท์ กลับมาอีกครั้งกับคอนเสิร์ตใหญ่ NONT EP.02 SO SERIOUS จริงๆจังๆ CONCERT

นนท์ ธนนท์ เตรียมจัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกที่ อิมแพ็ค อารีน่า กับ “MITSUBISHI ELECTRIC Mr.SLIM Presents NONT EP.02 SO SERIOUS จริงๆจังๆ CONCERT” คอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบที่จริงจัง จัดใหญ่ จัดเต็ม และ SO SERIOUS กว่าครั้งไหน

สำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ นนท์เล่าว่า “เป็นการต่อยอดมาจาก EP.01 โดยรวบรวมไอเดียจากทีมงานด้วย ว่าถ้าเราทำคอนครั้งต่อไป อยากให้จริงจังขึ้นหน่อย ถ้าจะจริงจัง ก็เลยให้ชื่อจริงจังไปเลย EP.02 ก็เริ่มมาจากตรงนั้น ในส่วนของชื่อ จริงๆจังๆ แค่รู้สึกว่าอยากให้ซีเรียสขึ้น แต่ถ้าใช้ชื่อจริงจังเลย มันจริงจัง แต่พอเป็น จริงๆจังๆ มันดูไม่ค่อยจริงจัง ซึ่งมันเป็นการย้อนแย้งบางอย่างของ wording แค่ 4 พยางค์ ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวเรา”

“ในปีที่แล้วเรามีเกสต์เยอะมาก ทำให้ตัวผมมีเวลาในการเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร ตักบุฟเฟต์ ในช่วงที่เกสต์เล่น ก็รู้สึกว่าชอบระบบนี้ ผมชอบการได้เดินแล้วก็เลือกแบบไม่ต้องรีบ ได้ตักบุฟเฟ่ต์กินข้างหลัง เกสต์ก็ให้รอติดตามกัน ซึ่งก็เห็นแฟน ๆ ที่เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันกันอยู่เยอะ จริง ๆ ในรูปที่เราโพสต์ไปก่อนหน้านี้ เราพยายาม hint หลาย ๆ อย่างไปในนั้น ก็ลองไปสืบกันดู แต่เท่าที่ผมดูฟีดแบคนะ ยังไม่ถูกอยู่เยอะ”

“จากครั้งที่แล้ว ที่เราเล่นที่เล็กกว่านี้ ก็ยังเอาสลิงไปโหนได้เลย เพราะฉะนั้นการขยายมาที่ Impact Arena เมืองทองธานี ก็น่าจะมีไอเดียที่มันพิเรนทร์ ๆ อยู่ จากทีมโปรดักชัน ผมก็สนุกไปกับมันเหมือนกัน ในความรู้สึกผมมันกดดันอยู่แล้ว มันใหญ่ขึ้น มันกว้างขึ้น โดยส่วนตัวผมชอบเล่นในที่ที่มันกำลังพอดี ๆ แต่ในปีที่แล้วเราก็เล่นที่ Impact Arena เมืองทองธานี มาหลายรอบมาก เป็นเกสต์คอนเสิร์ต มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราคุ้นชินกับที่นี่ด้วย หวังว่าแฟน ๆ จะมากัน หลัก ๆ คือเรารับฟีดแบคจากคนดูด้วย ว่าขอที่ที่ใหญ่กว่านี้ เราก็สนองให้”

เรื่องราคาบัตร “ตัวผมพยายามให้เข้าถึงง่าย เพราะตัวเราในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เจอความหลากหลายของแฟน ๆ ที่เป็นเด็ก ๆ เลย ที่เป็นผู้ใหญ่เลย ผมเลยรู้สึกอยากทำราคาบัตรที่ทุกคนเข้าถึงได้ ให้เงินตรงนั้นไปใช้กับการเดินทาง โรงแรม ที่พัก”

“นี่เป็นการกลับมาใน EP.02 เต็มรูปแบบมากขึ้น ใหญ่มากขึ้น นั่งได้เยอะมากขึ้น ราคาย่อมเยาว์มากขึ้น เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ยังไงก็มาเจอกันได้ครับ เราเล่นคอนเสิร์ตถึง 2 เดือนด้วยกัน เราเล่น 2 เดือนนะครับ แต่เดือนละวันเท่านั้นเอง เราเล่นวันแรกนะครับ 30 กันยา นั่นคือเดือนแรกนะครับ แล้วก็เล่นเดือนถัดไปเลย ก็คือวันที่ 1 ตุลานะครับ 2 รอบการแสดงด้วยกัน คิดว่าไม่น่าเพิ่มแล้ว เพราะน่าจะปวดหลัง”

พร้อมทิ้งท้ายถึง EP.03 ว่า “ผมว่าผมจะขายบัตรวิ่งนะ ให้วิ่งดู เหนื่อยก็ take out ออกไปเลย หน้าที่ของเวทีก็คือหมุน คุณอยากดูข้างหน้า คุณต้องวิ่งให้ทัน ซึ่งผมว่าจะเป็นมหกรรมคาดิโอที่ดีมาก ๆ ผมอาจจะครอสกับพี่เบเบ้ก็ได้ ทำ T25 ด้วยก่อนที่จะเริ่มคอนเสิร์ต”

เตรียมตัวให้พร้อม วอร์มนิ้วให้ดี จัดเต็ม 2 รอบการแสดง วันเสาร์ 30 กันยายน 2566 และ วันอาทิตย์ 1 ตุลาคม 2566 Impact Arena เมืองทองธานี บัตรราคา 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,800 บาท จำหน่ายบัตรวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ทาง The Concert Application

#NONTEP02จริงๆจังๆConcert

#NONTTANONT

#LOVEiSENTERTAINMENT

Talk with “PiXXiE” ถึงคอนเสิร์ตแรก “PiXXiE Tales Concert: Welcome to PiXXiE Land”

พูดคุยกับ 3 สาว PiXXiE อิงโกะ มาเบล และพิมมา ถึงความรู้สึก และการเตรียมตัว สำหรับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่กำลังจะเกิดขึ้น “PiXXiE Tales Concert: Welcome to PiXXiE Land” 31 สิงหาคมนี้ ที่ THUNDER DOME เมืองทองธานีวินาทีแรกที่รู้ว่าจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยว แต่ละคนทำอะไรกันอยู่ แล้วเรารู้สึกยังไงอิงโกะ – “เหมือนตอนนั้นพี่เขาเรียกไปคุยค่ะ”มาเบล – “ตื่นเต้น ดีใจ แล้วก็ทำอะไรไม่ถูกค่ะตอนนั้น กรี๊ดค่ะ”ไฮไลท์ของ PiXXiE Tales Concert: Welcome to PiXXiE Land คืออะไรมาเบล – “ไฮไลท์ของคอนเสิร์ตนี้น่าจะเป็นดินแดนค่ะ คิดภาพฝันไว้ว่าเป็นดินแดนของพิกซี่ ที่จะมาเล่าในแต่ละพาร์ทของช่วงที่พิกซี่เติบโตในแต่ละปีค่ะ”จากคอนเสิร์ตสนามเด็กLIT แฟนมีตต่างประเทศ มาสู่คอนเสิร์ตเดี่ยว มีเรื่องไหนที่รู้สึกกดดันมากเป็นพิเศษมั้ยพิมมา – “จริง ๆ ก็กดดันทุกเรื่องเลยค่ะ มันก็ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับคอนเสิร์ตแรกของพวกเรา เพราะว่าเราก็ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตเดี่ยว เราก็จะตั้งใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างนี้ไปให้เต็มที่ค่ะ ก็เดี๋ยวต้องฝึกซ้อมกันอย่างหนักด้วย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ทุกคนมาสนุกกันในคอนเสิร์ตค่ะ”มาเบล – “โชว์ของพวกเรา 3 ชั่วโมง แล้วเราก็มีกันแค่ 3 คนอะค่ะ คือคอนสนามเด็กLIT ยังมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่คอยช่วยกันรันโชว์ต่อไป แต่พอเหลือแค่ 3 คน เราก็ต้องฟิตร่างกายตัวเองให้พร้อม เหมาะแก่การแสดงคอนเสิร์ตค่ะ”ในคอนเสิร์ตนี้แต่ละคนจะมีคาแรคเตอร์ภูติจิ๋วเป็นของตัวเอง เราเลือกเองมั้ย เลือกจากอะไรกันพิมมา – “พี่ ๆ ทีมงานช่วยกันคิดค่ะ เหมือนน่าจะอิงจากคาแรคเตอร์ที่พวกเราเป็นอยู่”ถ้าให้แต่ละคนเลือก 1 เพลงของ PiXXiE ที่ตรงกับตัวตนของตัวเองที่สุด จะเลือกเพลงไหนมาเบล – “ติดฝนค่ะ”พิมมา – “ติดฝนเหมือนกันค่ะ เพราะว่าวันนี้ฝนตก”อิงโกะ – “งอนละ แล้วก็กันค่ะ พอติดฝนเสร็จแล้วรถติด รถติดปุ๊บเราทำอะไรก็ช้าลง ก็เลยจะงอนละ”พวกเราเคยคิดกันไว้มั้ย ว่าอยากจะพา PiXXiE ไปให้ถึงจุดไหนในเส้นทางของการเป็นศิลปินพิมมา – “จริง ๆ เราพร้อมรับทุกโอกาสที่เข้ามาต่อไปเรื่อย ๆ มากกว่าค่ะ เราไม่ได้มีเป้าหมายที่แบบว่า สุดท้ายแล้วเราต้องเป็นเท่าไหน แต่ว่าเรามีความสุขในทุก ๆ วัน พร้อมรับกับทุก ๆ ประสบการณ์ ทุก ๆ โอกาสที่เข้ามา แล้วก็ทำมันให้เต็มที่ในทุก ๆ วัน แค่นี้ก็ทำให้พวกเรารู้สึกว่าเราถึงจุดหมาย แล้วมันก็คือคำจำกัดความของการเป็นศิลปินของพวกเราค่ะ”แล้ว PiXXiE มองภาพวงการ T-Pop ไว้เป็นยังไงมาเบล – “ตอนนี้หนูรู้สึกว่าวงการ T-Pop มันกำลังไปได้เรื่อย ๆ แล้วก็สนุกมาก แล้วก็ยิ่งเหมือนพอเรามีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในวงการ T-Pop เยอะขึ้น ฐานคนฟังก็จะกระจายไปเยอะขึ้น กว้างขึ้นเรื่อย ๆ แล้วหนูก็เลยรู้สึกว่า ในอนาคตจะอีกกี่ปีข้างหน้า หนูคิดว่าวงการ T-Pop จะไปได้ แล้วก็เป็นที่รู้จักของคนอีกเยอะมาก ๆ เลยค่ะ”พิมมา – “แล้วหนูเชื่อว่าน่าจะมีน้อง ๆ ที่เก่งแล้วยังไม่ได้โอกาส ที่จะได้มาเดบิวต์หรือว่าปล่อยซิงเกิล ถ้าอีกหลายปีข้างหน้า ถ้ามีแรงซัพพอร์ต น่าจะทำให้ทีป๊อปไปได้ไกลกว่านี้ เพราะว่าปัจจุบันน้อง ๆ ที่เดบิวต์มาหลัง ๆ ก็เก่งมากค่ะ”บทความนี้จะขึ้นหลังจากวันกดบัตรไปแล้ว เลยอยากให้พูดถึงคนที่กดบัตรได้หน่อยพิมมา – “สำหรับคนที่กดบัตรคอนเสิร์ตได้นะคะ ก็ขอบคุณก่อนเลยอย่างแรก ที่ตั้งตารอกดบัตรของพวกเรานะคะ พวกเราจะเอากำลังใจพวกนี้ ไปเป็นกำลังใจในการซ้อม แล้วก็การทำโชว์ต่าง ๆ ในคอนเสิร์ตนี้ค่ะ ก็รอทุกคนที่คอนเสิร์ตอยู่นะคะ ขอบคุณที่ซัพพอร์ตพวกเรามาก ๆ เดี๋ยวไว้เจอกันที่คอนเสิร์ต สัญญาว่าจะสนุกให้เต็มที่ค่ะ”ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้ PiXXiE มีอะไรให้ติดตามกันบ้างมาเบล – “ตอนนี้ก็ขอฝากเพลง ‘FEAT’ ค่ะ เป็นเพลงใหม่ล่าสุดที่ PiXXiE ได้ปล่อยไป แล้วก็ในอนาคตอาจจะมีเพลงอะไรออกมา ก็ฝากให้ทุกคนรอติดตามนะคะ และที่สำคัญ ฝากคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยนะคะ ‘PiXXiE Tales Concert: Welcome to PiXXiE Land’ วันที่ 31 สิงหาคมนี้ค่ะ”

Talk with "PAWAE" ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด "แพ้หว่ะ"

PAWAE (พาแว) หรือ แพรวา - แพรรุจิรา โกมลารชุน จากค่าย kiddo records กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลล่าสุด "แพ้หว่ะ" แต่งมาจากความรู้สึกของพาแว ที่ไม่อยากแข่งกับใคร แค่แข่งกับใจตัวเองให้ไหวก็พอ วันนี้เราได้ชวนพาแวมาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้กันเพลง "แพ้หว่ะ" เริ่มต้นมาจากอะไร“เริ่มมาจากช่วงชีวิตนึงที่รู้สึกว่าเราแพ้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก รู้สึกว่าเราท้อด้วย บวกกับชื่อแพรวา ก็สามารถเล่นเสียงเป็นแพ้หว่ะได้ด้วย ก็เลยได้มาเป็นไอเดียนี้ค่ะ”เพลงนี้ได้ลงมือเขียนเองด้วยใช่มั้ย“จริง ๆ ช่วยกันเขียนกับพี่ตูน Three Man Down แล้วก็พี่ไมโล Tilly Birds ด้วยค่ะ”การร่วมงานกันกับพี่ ๆ ทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง“ดีค่ะ สนุก แล้ว process การทำงานก็โอเคเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเกร็ง ๆ แต่พอมาทำงานจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าพี่เขาน่ารัก เป็นกันเองมาก เวลาเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจในมุมเราด้วย แล้วก็เหมือนทำเพลงออกมาให้เป็นตัวหนูมากที่สุด”คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้“ยากที่สุดน่าจะเป็นดนตรี จริง ๆ เนื้อเพลงมันค่อนข้างจะไปทางเศร้า ท้อ ๆ นิดนึง แต่ว่าพอมาทำเพลง ก็คิดว่าอยากทำเป็นแนวร็อค การทำดนตรีมันก็เลยยากนิดนึง กว่าจะออกมาเป็นผลงานไฟนอล ก็คือต้องมีเป็นดราฟหลาย ๆ อัน เปรียบเทียบกัน”ซิงเกิลนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย“ไม่นานค่ะ ประมาณ 2 วัน จริง ๆ เพลงนี้มันเป็นโปรเจคที่เคยพับเอาไว้ แล้วก็ปล่อยเพลงอื่นไปก่อน”ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง“ชอบท่อนฮุคค่ะ แค่เพียงสักครั้ง ที่เธอจะมองที่ฉัน”ปกติเรามักจะแพ้กับเรื่องอะไร“ก็มักจะแพ้กับเรื่องความรัก เรื่องการเรียน อะไรแบบนี้ค่ะ”แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด“น่าจะเรียนการเรียนค่ะ เพราะรู้สึกว่าชอบเอาชนะด้วย เหมือนเราก็จะพยายามเต็มที่ของเรา ไม่อยากให้ใครมามองว่าเราทำไม่ได้”ลุคใน MV ออกแนวพังค์นิด ๆ เรามีส่วนร่วมในการออกไอเดียมั้ย“มีส่วนร่วมด้วยค่ะ จริง ๆ ผู้กำกับเขาก็จะมีเป็นไอเดียอยู่แล้วว่าอยากจะได้ประมาณนี้ หนูจะมีส่วนว่าตรงนี้ขอเอาออกได้มั้ย อยากแต่งหน้าประมาณนี้นะ”ปกติแล้วสไตล์จริง ๆ ของตัวเองเป็นแบบไหน“จริง ๆ ก็คล้าย ๆ ใน MV นะคะ หนูว่าหนูเป็นคนสองคาแรคเตอร์ เวลาทำงานทั่วไป ไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ก็จะแต่งตัวชิล ๆ หน่อย แต่ว่าถ้าขึ้นคอนเสิร์ตก็จะเป็นแนวร็อคไปเลย เวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็อยากให้คนเห็นตัวตนที่แท้จริงของเราแบบชัด ๆ เลย”พาแวหุ่นดีมาก มีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองมั้ย“จริง ๆ เคยออกกำลังกายอยู่ช่วงนึงค่ะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ออก แต่ว่าจะคุมอาหาร ไม่กินของทอด แต่หนูเป็นคนที่ค่อนข้างเผาผลาญดีอยู่แล้ว เหมือนเป็นคนที่กินแล้วไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่ จริง ๆ อยากให้อวบขึ้นกว่านี้ พยายามสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเป็นคนขี้หนาวค่ะ”เพลงของพาแวจะชอบมาในแนวรักไม่สมหวัง ซิงเกิลต่อไปจะมีเพลงรักสมหวังบ้างมั้ย“อาจจะมีในอนาคตค่ะ จริง ๆ ส่วนนึงที่ปล่อยเพลงแนวนี้ออกมา เพราะเพลงทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจะเป็นคอนเสป Loser อะค่ะ เป็นคอนเสปแบบเราแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้ในรูปแบบ มีแฟนแล้วแฟนติดเพื่อน หรือว่ามีมือที่สาม หรือเรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่า รวมไปถึงเพลงนี้ ที่ว่าเราแพ้ตัวเองนะ แล้วเราก็แพ้คนอื่นด้วย ตอนนี้กำลังจะทำ EP Album ด้วยค่ะ ก็เลยอยากคงคอนเสป Loser”มีแพลนจะรวมเป็นอัลบั้มด้วย จะปล่อยช่วงไหน“เป็น EP Album แบบมินิอัลบั้มค่ะ จริง ๆ ยังไม่มีกำหนดการที่สามารถบอกได้ แต่ว่าน่าจะภายในปีนี้”จะมีซิงเกิลเพิ่มด้วยมั้ย“มีเพลงนึงค่ะ จริง ๆ แอบปล่อยเป็นอะคูสติกเวอร์ชั่นไปแล้ว ชื่อเพลงจมอยู่กับน้ำตา”ฝากอะไรถึงคนที่กำลังอยู่ในสถานะคนแพ้แบบในเพลง "แพ้หว่ะ" หน่อย“สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร หรือรู้สึกว่ากำลังแพ้อะไรก็แล้วแต่ จริง ๆ แล้วเราก็ปล่อยจอยไปก็ได้ค่ะ อย่างของหนูที่รู้สึกว่ามันช่วยมาก ๆ ก็คือปล่อยจอย ชิล ๆ ไป เราไม่จำเป็นต้องชนะทุกเรื่องก็ได้ ถ้าใครกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ”สุดท้าย อยากให้เพลง “แพ้หว่ะ” เป็นอะไรสำหรับคนฟัง“อยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนสำหรับคนฟังค่ะ เป็นเพลงที่จะอยู่กับคนฟังในวันที่รู้สึกว่าท้อ แต่ว่าเราจะไม่ถอยนะ”

พูดคุยกับ “Getsunova” ถึง “ทำดีเป็นพิธี” ซิงเกิลใหม่ส่งท้ายอัลบั้ม Thailander

4 หนุ่ม "Getsunova" จากค่าย White Music ในเครือ GMM Grammy นำโดย เนม-ปราการ ไรวา, นต-ปณต คุณประเสริฐ, นาฑี-นาฑี โอสถานุเคราะห์ และ ไปร์ท-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ ส่งท้ายอัลบั้ม Thailander ด้วยซิงเกิลเจ็บ ๆ อย่างเพลง "ทำดีเป็นพิธี" ผลงานที่เข้มข้นทั้งด้านพาร์ทดนตรีและพาร์ทงานภาพ วันนี้เราจึงได้ชวนเนมและนต มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้กันอะไรคือจุดเริ่มต้นของเพลง “ทำดีเป็นพิธี”นต – “มันเกิดขึ้นหลังจากโควิดเนอะ เราก็หยุดเล่นดนตรี หยุดเจอผู้คนไป แล้วพอกลับมาเจอผู้คนใหม่ เราก็จะเจอคนทักทาย ถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย แล้วหลาย ๆ ครั้งที่เราเจอ เรารู้สึกว่ามันเหมือนเป็นการทักทายแบบผิวเผิน ทำไปเป็นพิธี ไม่ได้อยากจะรู้จริง ๆ ว่าเราเหนื่อย หรือเราเจอกับปัญหาอะไรอยู่ ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกที่หลาย ๆ คนน่าจะเจอ เหมือนกับความรักเนี่ยแหละ ที่วันนึงเรารักกับใคร แล้วก็เลิกรากันไป แล้ววันนึงเขาก็กลับมาถามแบบผิวเผิน เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย เราก็รู้สึกว่าไม่ต้องทักเลยดีกว่าถ้าอย่างงั้น ก็เลยเป็นที่มาของคอนเสปเพลงครับ ทำดีเป็นพิธี”ทำไมถึงเลือกเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลส่งท้ายอัลบั้ม Thailanderนต – “พี่เนมเลือกครับ”เนม – “ความจริงนตเขาทำมาหลายเพลงตอนนั้น แล้วก็เหมือนเพลงนี้มันโดนใจสุดสำหรับทั้งเนมและเพื่อน ๆ ในวงด้วย ก็เลยชอบเพลงนี้กัน มันเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงยุคแรก ๆ ของ Getsunova ก็เลยหยิบเพลงนี้มา เพราะว่าเพลงก่อนหน้านี้ที่ปล่อย ๆ ออกไป ก็เป็นเพลงสไตล์ใหม่ ๆ จะไม่มีเป็นเพลงเศร้าแบบนี้ ก็เลยแบบ เอาเพลงนี้แหละ”คิดว่าอะไรคือเอกลักษณ์ของเพลง “ทำดีเป็นพิธี”นต – “น่าจะเป็นเอกลักษณ์ของดนตรี แล้วก็วิธีการร้องในแบบ Getsunova เป็นแบบที่หลาย ๆ คนน่าจะคิดถึง”เนม – “เป็นเอกลักษณ์ที่เราเองยังคิดถึงเลย ตอนเข้าไปอัดยังรู้สึกเลยว่านี่เป็นกรู๊ฟที่เราเคยชินกันนี่หว่า”สมาชิกในวงเคยเจอเหตุการณ์แบบในเพลงบ้างไหมเนม – “เคยทำกับคนอื่น (หัวเราะ) ไม่ใช่ ๆ จริง ๆ ในชีวิตประจำวันหลาย ๆ คนก็น่าจะเป็น ที่ต้องทักทายคนนู้นคนนี้เป็นพิธี แบบต้องทัก แต่ถ้าไม่ทักก็ดีกว่า แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่ว่ามันก็คงมีแหละ คนที่แบบไม่ชอบไม่รักแล้ว แต่ก็ยังต้องมาดูแลอีกคนที่ยังรักเราอยู่ มันก็น่าจะมีเรื่องราวแบบนี้ในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คน”นต – “คงจะเป็นฟีลเจอแฟนเก่า ก็คือทักกันเป็นพิธี แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้แคร์อะไรกันนี่หว่า ก็จะเป็นมู้ดนั้นซะส่วนใหญ่”ถ้าให้พูดถึงท่อนที่ชื่นชอบในเพลง “ทำดีเป็นพิธี” ชอบท่อนไหนมากที่สุดเนม – “ท่อนฮุคเลยครับ มันโดน แบบตรงไปตรงมา สรุปเลยว่าเพลงนี้มันพูดถึงอะไร แล้วมันก็เป็นท่อนที่เหมือนเวลาร้องแล้วคนฟังก็จำได้ง่าย และเป็นช่วงพีคของเพลง”นต – “ชอบท่อนที่บอกว่า ‘ไม่ต้องแสดงกันแล้วในตอนนี้’ มันเป็นการสรุปความว่าหยุดแสดงกันเถอะ แล้วจริง ๆ ตอนแรกก็ไม่ได้มีคำนี้ด้วยนะ คำนี้เหมือนมาหลังจากที่รู้พลอตเอ็มวี แล้วเอามาเขียนต่อ เรารู้สึกว่ามันคือการแสดงทั้งหมดเลยนี่หว่า แบบที่ตัวพระนางเขาทำกันในเอ็มวี เลยรู้สึกว่าถ้าเพลงมันพาไปถึงคำนี้ มันน่าจะจบสวยดี”กระแสการตอบรับของเพลงนี้เป็นอย่างไรบ้างเนม – “ก็ดีนะครับ มีคนชอบ แล้วเวลาร้องสดเพลงนี้ บางคนฟังปุ๊บก็ร้องตามได้เลย บางคนก็โยกหัวตาม มันมีรีแอคชั่นของคนดู เขาอินด้วย ก็เลยรู้สึกดี”ทางวงมีส่วนร่วมในเรื่องของบท หรือการเลือกนักแสดงในเอ็มวีด้วยไหมเนม – “ตอนแรกจะช่วยกำกับเลย แต่ว่าวันที่ไปถ่ายเกิดไม่สบายขึ้นมา ก็เลยไม่ได้ไป ส่วนการเลือกนักแสดงก็ใช่ ก็คือพี่ติ๊กกับพี่โดนัท ทางผู้กำกับเสนอมา แล้วเราก็ชอบอยู่แล้ว คือจริง ๆ เราต้องการนักแสดงที่เป็นรุ่นใหญ่อยู่แล้ว แล้วเพลงนี้มันก็เป็นความรักที่โตแล้วนิดนึง ไม่ใช่ความรักแบบเด็ก ๆ ก็เลยดีใจที่ได้พี่ ๆ เขามาร่วมแสดง ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้ดีมาก”ฝากอะไรถึงคนฟังที่อาจจะกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบในเพลงหน่อยนต – “ถ้าเจอคนที่ทำดีเป็นพิธี ให้เราไม่ต้องไปใส่ใจ หรือให้ความหวังอะไรเขาไว้ หรือหวังอะไรจากเขา เพราะผมว่ายิ่งความรักที่มันเพิ่งจบไปหมาด ๆ แผลยังไม่หายดี แล้วเราเจอเขาที่มาทำดีเป็นพิธี เราจะรู้สึกว่า หรือว่าจะมีการกลับมา หรือจะรีเทิร์น ให้คาดการณ์ไว้ว่า เขาแค่ทำดีเป็นพิธีเฉย ๆ นะ อย่าไปหวังอะไรมากจากเขา”เนม – “มองเอาความสุขของตัวเองเป็นตัวตั้ง อย่างที่นตบอก อย่าไปหวังหรือไปพึ่งพาความสุขจากคนอื่น เราต้องเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง ว่าเราต้องมีความสุขกับตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะไปต้องการความสุขจากคนอื่น เราต้องอยู่กับตัวเองให้เป็น”อยากให้ Getsunova ฝากผลงานเพลง “ทำดีเป็นพิธี” หน่อยเนม – “ก็เพลง ‘ทำดีเป็นพิธี’ นะครับ เพลงใหม่จากพวกเรา Getsunova สำหรับใครที่มีอารมณ์เซ็ง ๆ เศร้า ๆ ผิดหวังกับความรัก ก็ลองมาฟังเพลงนี้ดู คุณอาจจะคิดอะไรได้มากขึ้น ว่าแบบเขาดีกับเราจริงหรือเปล่า หรือถ้าแค่อยากฟังเพลงที่ร้องตามได้มัน ๆ ก็ฟังเพลงนี้ได้เหมือนกันครับ แล้วก็มีอีกเพลงนึง เป็นซิงเกิ้ลที่เราทำแล้วก็ปล่อยออกมาพร้อม ๆ กัน ชื่อว่า ‘พูดง่ายแต่ทำไม่ง่าย’ ซึ่งเป็นเพลงที่เราร่วม feat. กับ 4EVE ก็เป็นคนละมู้ดเลย อันนั้นจะสดใส ร่าเริง สนุกสนาน ก็ติดตามกันได้กับผลงานของ Getsunova ทั้งสองอารมณ์ครับ”

คุยกับ QLER ถึงเรื่องราวในซิงเกิลล่าสุด “แบบที่ฉันเคยทำ” (Replaced)

"QLER" หรือ "คิว ฐิติพงศ์ เกิดแก้ว" ศิลปินนักเล่าเรื่องจากค่าย What The Duck กลับมาอีกครั้งพร้อมผลงานใหม่ "แบบที่ฉันเคยทำ" (Replaced) เล่าถึงความหวังดีที่มีให้กับความสัมพันธ์ในอดีต ถ่ายทอดความห่วงใยครั้งสุดท้าย ผ่านเสียงร้องนุ่ม ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ เราจึงได้ชวน QLER มาพูดคุยถึงเรื่องราวในซิงเกิลล่าสุดนี้กันซิงเกิลใหม่ "แบบที่ฉันเคยทำ" มีที่มาจากอะไร“ที่มามันค่อนข้างดาร์กนะ แต่จะเล่าให้สดใส คือพอใช้ชีวิตมาช่วงนึง ด้วยการงานหน้าที่ แล้วก็ปัญหาชีวิต รู้สึกว่าเราอยากจะดีลีทตัวเองออกไปจากโลกใบนี้สักที เราคงไม่ไหวแล้วแหละ จังหวะที่จะไปละ รู้สึกว่าหิวขึ้นมา ก็เลยกลับมานั่งทำเพลงต่อ ก็เลยได้เป็นเพลงนี้มา เราจำลองสถานการณ์ว่า ถ้าสมมุติเราจะจากโลกนี้ไปแล้ว เราจะเขียนจดหมายสักอย่าง แต่เราเป็นคนเขียนไม่เก่ง ก็เลยเลือกเขียนสั้น ๆ เป็นเนื้อเพลง”แอบปล่อยเดโม่มาตั้งแต่ช่วงมีนาคมเลย ทำไมถึงเพิ่งได้หยิบมาทำ“คือตอนนั้นเราทำคลิปใน TikTok ใช่มั้ย แล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรลงเลย ก็เลยไปเปิดดูว่าตัวเองมีเพลงอะไรบ้าง แล้วก็เจอเพลงนี้ที่เคย pitch ไปแล้วค่ายไม่ได้เลือกนี่นา เอามาทำดีกว่า ก็เลยปล่อยไปเลย”อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดของการทำเพลงนี้“น่าจะเป็นเรื่องอารมณ์ เพราะเพลงนี้มันจริงมาก มันเลยทำให้เรารู้สึกอ่อนไหว แล้วก็นึกถึงวันนั้นอีกครั้ง เวลาได้ฟังหรือได้ทำอะไรเกี่ยวกับเพลงนี้”ใช้เวลาในการทำเพลงนี้นานมั้ย“ไม่นานครับ ถ้าวันนั้นเลยคือ 3 ชั่วโมง แต่ว่าเดโม่มันก็ต้องไป develop ต่อ”ถ้าให้เลือก 1 ประโยคในเนื้อเพลง ที่บ่งบอกถึงตัวเองในตอนนี้มากที่สุด จะเลือกประโยคไหน“ก็คือ ‘ให้เขากุมมือเธอเอาไว้ แบบที่ฉันเคยทำ’ ดูเห็นแก่ตัวมากเลยเนอะ แบบให้ใครก็ได้มาทำแทนฉันที”"ฉันเพียงขอให้เธอปลอดภัย" เป็นประโยคที่เราไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าขอให้มีความสุข เลยอยากรู้ว่าทำไมถึงเป็นคำนี้“ก็คิดว่ามันไม่มีโลกที่คนจะยิ้มได้ตลอดเวลาถูกมั้ยครับ มันต้องมีวันที่เราเศร้าบ้าง แต่ถ้าเกิดว่าปลอดภัยในอารมณ์หรือร่างกาย เขาก็จะยังมีชีวิตต่อไปได้ ไม่ว่าข้างหน้ามันจะเจอวันที่ฝนตก หรือว่าวันที่แดดออก”คำว่า "ปลอดภัย" ในนิยามของ QLER เป็นยังไง“คืออย่างเช่น ถ้าสมมุติว่าเราเจอวันที่ไม่ดี เรายังมีคนที่พยุงให้ไปได้ต่อ ใช้ชีวิตต่อไปได้ เป็นเซฟโซน”มาที่ MV กันบ้าง เรื่องราว MV นี้เป็นยังไง มาในคอนเสปอะไร“มันก็ค่อนข้าง personal เหมือนเดิม เราคุยกับคนทำ MV ว่า เรามีเหตุการณ์แบบนี้นะ เราก็แชร์เหตุการณ์ของเราไป ตีมมันก็จะเป็นการเขียนจดหมายถึงตัวเองก่อนตาย เราอยากจะทำอะไร เราอยากจะเป็นอะไร มีอะไรที่เราอยากจะบอกกับคนที่เราจะไม่อยู่ด้วยแล้วมั้ย โดยเนื้อหาเพลงมันค่อนข้างจะมีความเห็นแก่ตัวนิดนึง เพราะว่าการที่เราจะจบชีวิตตัวเอง มันเป็นทางเลือกที่แบบเราสบายจัง เราไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาแล้ว เราก็เลยจำลองสถานการณ์ว่า ถ้าเราจะไปแล้ว เราอยากจะบอกอะไรเขา และมีอะไรที่เราอยากจะบอกตัวเองก่อนมั้ย”MV ตั้งใจให้เป็นโทนเดียวกับ ภาพ KV ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้ามั้ย“ใช่ครับ แต่ว่าอันนี้จะมาในอารมณ์ของจดหมาย เขียนไว้ว่าจะทำอะไร ใน KV มันเป็นเหมือนเมสเสจสั้น ๆ บนโพสอิทมากกว่า”ตอนถ่ายปกเพลง ใช้เป็นกระดาษสีดำกับสีขาว ตรงนี้คิวเป็นคนเสนอไอเดียเองมั้ย“เราเล่าว่าเราอยากทำจดหมาย แต่เราก็ไป work กับอาร์ตไดต่อ เขาก็เสนอมาว่า ถ้าเป็นโพสอิทมันจะดูมีอะไรกว่า แล้วเราก็ค่อนข้างชอบด้วย”การจากลาแบบไหนที่คิวรู้สึกว่าเป็นการจากลาที่เศร้าที่สุด“การที่ไม่ได้บอกลามั้งครับ แบบว่าอยู่ ๆ ก็ไปเลย จริง ๆ ไม่ต้องตายก็ได้นะ แต่เราแค่ไม่รู้เหตุผลว่าเขาเดินออกไปจากชีวิตเราเพราะอะไร เหมือนคนคุย ๆ กันอยู่ แล้วเราก็ไม่ได้เจอแล้ว ไม่ได้อยู่ในวงโคจรกันแล้ว มันก็น่าเศร้า เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไร”อยากให้เพลง "แบบที่ฉันเคยทำ" เป็นอะไรสำหรับคนฟัง“ให้เป็นตัวแทนความรู้สึกในช่วงนึงแล้วกันครับ คือไม่ได้อยากให้คิดว่าเราจะต้องเขียนจดหมาย หรือจะต้องจบชีวิตตัวเอง แค่อยากให้รู้ว่ามนุษย์ก็มีความอ่อนไหวแบบนั้น ถึงเราจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่จริง ๆ เราเปราะบางมาก เหมือนกับปราสาททรายที่เราสร้างไว้ริมทะเลเลย ถึงมันจะดูเหมือนแข็งแรง แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันก็ต้องมีวันที่คลื่นแรง พังได้อยู่ดี มันเป็นแค่ตัวแทนอารมณ์นั้น”ใกล้หมดปีแล้ว อยากรู้ว่าปีนี้มีเรื่องอะไรที่เป็นความสำเร็จที่สุดสำหรับคิวมั้ย“ได้เต้น รู้สึกว่าสำเร็จที่สุดแล้ว คือไปงานกับพี่บอย YourMOOD แล้วเขามีเพลงเต้น ก็รู้สึกว่าปีนี้เราไม่ได้มีเพลงเต้นเลยนี่นา แต่ก็ได้เต้นแล้ว สำเร็จที่สุดแล้ว”แล้วเรื่องที่รู้สึกผิดหวังล่ะ มีเรื่องไหนที่เรารู้สึกว่าได้เรียนรู้และสามารถแชร์ได้มั้ย“น่าจะเป็นเรื่องวันนั้นแหละครับ ที่คิดกับตัวเองไม่ดี ใจร้ายกับตัวเองเกินไปหน่อย”ลองตั้งเป้าหมายของปีหน้าไว้บ้างหรือยัง“เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ตลอดชีวิต ก็คือจะซื้อหวยให้ถูกให้ได้ เขาเรียกว่าเป็นการวางแผนทางการเงินครับ คนอื่นเขาอาจจะลงทุนหุ้น หรือว่าซื้ออสังหา แต่เราไม่ เราซื้อหวยชุด คือว่ากะเอาแบบรวยเลย เพลงก็จะไม่ทำละ นอนอยู่บ้าน ใช้ชีวิตปกติ”แล้วเคยถูกหวยบ้างหรือยัง“ไม่เคยครับ ตั้งแต่คิวเรียนมหาลัยปี 4 ก็คือซื้อมาตลอด ไม่เคยโดนเลย มันอาจจะเป็นช่วงไงครับ เราอาจจะเก็บโชคเอาไว้ เลขท้ายสองตัวมันอาจจะน้อยไป เราเอาแบบเยอะ ๆ รางวัลที่ 1 ไปเลยทีเดียว”ถ้าหากวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน มีอะไรอยากจะบอกคนฟังมั้ย“หวังว่าสิ่งที่ทำไป ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรืออะไรก็ตามที่เราได้เสพผลงานกัน หวังว่ามันจะยังเป็นประโยชน์ในชีวิตของทุกคน ดีใจที่ครั้งหนึ่งเราเคยมีโมเมนต์ร่วมกัน เพราะนี่เป็นคนที่เกรงใจเวลาคนอื่นมาก ถ้าสมมุติต้องมานั่งฟังเพลงเรา สัก 20-30 เพลง มันก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงใช่มั้ย การเอาเวลาชั่วโมงนึงจากใครสักคน มันมีค่าสำหรับเรามาก เราก็เลยรู้สึกว่าอยากขอบคุณ แล้วก็ขอให้สิ่งนั้นที่เราเคยทำไป ยังเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะครับ”

0.8