รีวิว “หลานม่า” หนังครอบครัวที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

Movie & Trend

รีวิว “หลานม่า” หนังครอบครัวที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

05 เม.ย. 2024

หลานม่า (HOW TO MAKE MILLIONS BEFORE GRANDMA DIES) ภาพยนตร์ไทยที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่มีทุกครอบครัว ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ “บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” และ “ยายแต๋ว-อุษา เสมคำ”

เรียกได้ว่าเป็นหนังคืนฟอร์ม GDH เลยก็ว่าได้ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนัง “หลานม่า” เต็มไปด้วยความเรียบง่าย เล่าความเรียลของชีวิตผ่านตัวละคร “อาม่า” ถึงแม้หนังจะเล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน แต่เชื่อว่าครอบครัวคนไทยเองก็สามารถเข้าถึงหนังได้ไม่ต่างกัน นอกจากจะเป็นความคิดถึงของการรอคอยลูกหลานให้กลับบ้านมาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ยังเล่าถึงตัวละครลูกที่ถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน กู๋เคี้ยง ลูกชายคนโตที่มีครอบครัวสุขสบาย มีครบทุกอย่าง, ซิว ลูกสาวคนกลาง แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิตที่ถูกมองข้าม, กู๋โส่ย ลูกชายคนเล็กที่ชีวิตสุดจะพัง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตจนละเลยคนที่สำคัญที่สุดไป

ถึงแม้หนังจะสามารถเดาทางได้ แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยความเรียลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เห็นถึงเคมีของนักแสดงที่เล่นอย่างเป็นธรรมชาติ การอยู่ร่วมกันของตัวละคร โมเมนต์การต่อปากต่อคำของม่าหลาน หรือแม้แต่บรรยากาศภายในบ้านที่อบอวลไปด้วยความเหงาและความคิดถึง หนังพาคนดูค่อย ๆ ไต่อารมณ์ไปตามตัวละคร และปล่อยให้ซึบซับอารมณ์ภายในใจ จนต้องเสียน้ำตาเป็นพัก ๆ เรียกได้ว่าอยู่ในจุดที่ทำถึง กินใจคนดู

อีกหนึ่งเสน่ห์ของ “หลานม่า” นอกจากตัวละครที่เล่นสมบทบาทแล้ว สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำก็ยังเป็นย่านเก่าแก่ เช่นตลาดพลู มีสถานที่แห่งความทรงจำของลูกหลานคนจีนมากมาย ทั้งวัด ทางรถไฟ และชุมชนบ้านเก่าแก่ของคนไทยเชื้อสายจีน

โดยรวมแล้วเป็นหนังที่มีคุณค่าทางจิตใจ และหนังทำหน้าที่พาเรากลับบ้านจริง ๆ การกลับมาครั้งนี้ของ GDH ถึงแม้จะยังไม่หลุดจากสูตรเดิม ๆ แต่เรียกได้ว่าทำถึง คุ้มค่าแก่การดูแน่นอน 

related Movie & Trend

[รีวิวหนัง] "วิมานหนาม" ตอกย้ำความเจ็บปวด ที่สมรสเท่าเทียมก็ไม่สามารถชดใช้ได้

21 ส.ค. 2024

[รีวิวหนัง] "วิมานหนาม" ตอกย้ำความเจ็บปวด ที่สมรสเท่าเทียมก็ไม่สามารถชดใช้ได้

วันนี้แอดขอนำเสนอหนังเรื่อง "วิมานหนาม" ของค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง GDH จากผลงานการสร้างหนังเรื่องแรกของผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงฝีมือจัดจ้าน "บอส-นฤเบศ กูโน" ที่ได้หยิบยกเรื่อง LGBTQ+ มาเป็นแรงบันดานใจในการทำหนังเรื่องนี้ โดยเริ่มต้นเรื่องจากหนุ่มชาวสวนทุเรียนเรื่องย่อ วิมานหนามเริ่มต้นจาก ‘ทองคำ’ หรือเจฟ ซาเตอร์ ที่ได้นำเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรก มาลงทุนปลูกบ้านทำสวนทุเรียน และไถ่ถอนที่ดินให้กับ ‘เสก’ หรือเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ คนรัก ซึ่งเสกได้ติดจำนองอยู่ตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่เมื่อใกล้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวทุเรียน เสกกลับประสบอุบัติเหตุตกจากต้นทุเรียนจนเสียชีวิต และกรรมสิทธิ์บ้านและสวนจึงตกเป็นของ ‘แม่แสง’ หรือสีดา พัวพิมล) แม่ของเสกตามกฎหมาย และต่อมาไม่นาน แม่แสงก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่สวนทุเรียนพร้อมกับ ‘โหม๋’ หรืออิงฟ้า วราหะ ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง และ น้องชายของโหม๋ ‘จิ่งนะ’ หรือเก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย มาอยู่ด้วยกัน ทองคำจึงหาทางทำทุกอย่างเพื่อที่จะทวงวิมานที่เขาสร้างมาด้วยกันกับเสกคู่รักของเขาคืนมา และในขณะเดียวกันโหม๋ก็ทำทุกทางที่จะปกป้องสิทธิ์ที่ถูกต้อง “ตามกฏหมาย” ของแม่เสก และโดยหวังว่าจะได้ร่วมครอบครองบ้านและที่ดินสวนทุเรียนนี้เช่นกันและเนื้อเรื่องทำให้แอดรู้สึกว่า ทุกอย่างที่หนังได้สื่อออกมานั้น ตอกย้ำความเจ็บปวดของเพศที่ 3 หรือ LGBTQ+ เป็นความเลื่อมล้ำทางสังคม เพราะที่ ‘ทองคำ’ หรือเจฟ ซาเตอร์ ไม่ได้สิทธิ์ในสมบัติ การรักษาพยาบาลของคนรัก เพียงเพราะความรัก ความทรงจำ และหลักฐานใดๆ ที่เขามีนั้น ไม่หนักแน่นพอเมื่อเทียบกับความรักที่ยืนยันด้วยแผ่นกระดาษ อย่างทะเบียนสมรสวิมานหนาม ทำให้แอดเห็นภาพความเจ็บปวดจาก ความไม่เท่าเทียมทางกฏหมายเหล่านี้ ที่กลายเป็นทรัพย์สินซึ่งถูกส่งต่อเป็นทอดๆ แทนมรดก เช่นการที่แม่แสงเผชิญความอยุติธรรมจึงพยายามครอบครองสิ่งที่เธอสมควรได้รับด้วยกฏหมาย แม้ว่ามันจะอยู่บนหยาดเหงื่อแรงกายของคนอื่น และส่งต่อความอยุติธรรมนั้นให้กับโหม๋ที่ถูกใช้งานดูแลยิ่งกว่าลูก แม้จะไม่ได้รับสิทธิ์ที่ลูกคนหนึ่งสมควรได้รับด้วยกฏหมาย หรือทองคำที่ถูกยึดเอาสินทรัพย์ที่หามาไปต่อหน้าต่อตา เพียงเพราะความรักของเขานั้นไม่สามารถเซ็นกระดาษสมรสได้เพียงแผ่นเดียวเรื่องราวอันแสนวุ่นวายนี้ ที่เกินขึ้นในสวยทุเรียน จะจบลงอย่างไร และใครนั้นที่จะได้ครอบครองวิมานนี้ไป สามารถไปดูกันได้ที่โรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567ใครที่อยากดูหนังฟรี ดูหนังรอบพิเศษก่อนใคร แอดแนะนำให้รีบโหลดแอปพลิเคชัน Atime FungFin และเก็บสะสมคะแนนกันเลย ส่วนรอบหน้า Atime จะมีหนังดีๆ เรื่องไรมาให้ชาว FungFin รอลุ้นกันเลย

แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า เมื่อชั้นของแฟลตสะท้อนระยะห่างของชีวิต ความสัมพันธ์ และความฝัน

06 ก.พ. 2025

แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า เมื่อชั้นของแฟลตสะท้อนระยะห่างของชีวิต ความสัมพันธ์ และความฝัน

วันนี้แอดขอนำเสนอภาพยนตร์เรื่อง แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า ภาพยนตร์แนว Coming of Age จากค่ายน้ำดีอย่าง GDH ที่เสิร์ฟความเข้มข้นและแฝงมิติของตัวละครที่ถูกสังคมกดทับภายใต้ความเหลื่อมล้ำ ผ่านมุมมองของเด็กวัยรุ่นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในแฟลตตำรวจมาฝากให้แฟน ๆ ได้รับชมกัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง แคลร์ จิรัศยา วงษ์สุทิน ที่ฝากผลงานคุณภาพกับ ONE YEAR 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ มาให้แฟน ๆ ได้รับชมกันมาแล้วเรื่องย่อ แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร าเมื่อชั้นของแฟลต ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข แต่คือระยะห่างของชีวิต ความสัมพันธ์ และความฝัน... ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวในแฟลตตำรวจที่มีครอบครัวตำรวจนับร้อยอยู่ร่วมกัน เจน (แฟร์รี่ กิรณา พิพิธยากร) เด็กสาวจากครอบครัวนายตำรวจยศสูงซึ่ง แม่ (น้ำฝน ภักดี) เป็นเจ้าแม่เงินกู้ประจำแฟลตที่ทุกคนต้องเกรงใจ ส่วน แอน (เอินเอิน ฟาติมา เดชะวลีกุล) เด็กสาวที่พ่อเสียชีวิตในหน้าที่ ทำให้เธอต้องช่วย แม่ (จอยซ์ กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์) ทำงานหาเลี้ยงน้องอีก 3 คน โดยเจนกับแอนแบ่งปันทุกโมเมนต์ร่วมกันและยังตัวติดกันเสมอ หลังเลิกเรียน พวกเธอมักจะมาตีแบดด้วยกันที่สนามแบดกลางแฟลตกับเพื่อนร่วมแก๊งสุดซี้อย่าง ไนซ์ (อาโป วชิรากร รักษาสุวรรณ) เจนหวังว่าจะได้อยู่ที่แฟลตนี้ โดยมีแอนเคียงข้างกันไปตลอด จนกระทั่ง การเข้ามาของ อาตอง (บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาอยู่แฟลตที่ไม่เพียงสั่นคลอนมิตรภาพของทั้งคู่ แต่ยังทำให้เจนและแอน ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า ครอบครัวที่ไร้พ่อผู้เป็นตำรวจเช่นครอบครัวของแอน อาจมีเวลาที่จะอยู่ในแฟลตแห่งนี้เหลือน้อยลงไปทุกทีหลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้แอดรู้สึกว่า Mood Tone ของเรื่อง อาจทำให้ทุกคนเข้าใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะเป็นแนวความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง แต่หลังจากที่แอดได้รับชมภาพยนตร์ กลับทำให้รู้สึกประทับใจการสะท้อนมุมมองที่มากกว่าความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก หรือมิตรภาพที่เห็นได้ทั่วไปและสิ่งที่ GDH สอดแทรกให้ผู้ชมได้คิดตามตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงนิด ๆ นั้น คือเรื่องความเหลื่อมล้ำของชีวิตวัยรุ่นที่ถูกบั่นทอนความฝันไปทีละนิดด้วยข้อจำกัดของคำว่า ระยะห่าง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขของแฟลต แต่เป็นระยะห่างของชีวิต ความสัมพันธ์ และความฝันของตัวละคร พร้อมทั้งสะท้อนระบบข้าราชการไทยและความ ล้าหลังที่ทำให้ชีวิตของคนที่อาศัยภายในแฟลตไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควรนอกจากนี้ สิ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาด ในการไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ฉาก มุมกล้อง โทนสี และการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ นี่คือเสน่ห์ของ GDH ที่ไม่ว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่องไหนออกมา แอดรู้สึกว่ามันทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงตัวละครและเรื่องราวไปพร้อม ๆ กัน บอกได้คำเดียวว่าอินตามสุด ๆ รวมถึงการแสดงของนักแสดงต้องบอกเลยว่านักแสดงทุกคนรับส่งอารมณ์และแสดงออกมาเป็นธรรมชาติอย่างน่าประทับใจเรื่องราวของการก้าวข้ามผ่านวัยภายในแฟลตตำรวจจะเป็นอย่างไร มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันว่า “ฉัน” หรือ “ชั้น” อะไรที่เป็นตัวกำหนดความต่างของชีวิต มิตรภาพ และความฝัน พร้อมสัมผัสระยะห่างระหว่างความหวานและความขมกันได้แล้ว ในภาพยนตร์ แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์

[Recap] ซองแดงแต่งผี เพราะเท่าเทียมเราไม่เท่ากัน

19 มี.ค. 2025

[Recap] ซองแดงแต่งผี เพราะเท่าเทียมเราไม่เท่ากัน

เพราะเท่าเทียมเราไม่เท่ากัน จาก Marry My Dead Body สู่ ซองแดงแต่งผี สะท้อนความรักไร้ขอบเขตในสังคมของชาวเอเชียเรื่องราวใน ซองแดงแต่งผี เต็มเปี่ยมด้วยความสนุกครบรส ผสมผสานกลิ่นอายแบบไทยที่ทำให้ผู้ชมหลงรักได้ไม่ยาก และงานนี้ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่เคยกำกับเรื่อง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน (ปี 2015) และ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ฉายาเจ้าพ่อหนังผีเมืองไทยมารับหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกด้วย พร้อมเสิร์ฟมิตรภาพระหว่างบิวกิ้น-พีพี ให้ชาวด้อมหัวใจฟู อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังแฝงประเด็นสังคมที่ชวนเรียนรู้และตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย ด้วยส่วนผสมความเป็นหนังตลก หนังผี สืบสวนสอบสวน และ LGBTQ+ ผสานความคิดความเชื่อของวัฒนธรรมการแต่งงานกับผีของไต้หวัน กับความก้าวหน้าทางความคิดในเรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกัน ตอบรับกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่เกิดขึ้นในประเทศแถบเอเชียที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมานี้เองวัฒนธรรมการแต่งงานกับผีของจีน และความกดดันในการสร้างครอบครัว‘การแต่งงานกับผี’ (Ghost Marriage หรือภาษาจีนใช้คำว่า หมิงฮุน) เป็นประเพณีโบราณนับพันปี ประเพณีนี้ยังมีอยู่ในไต้หวัน จีน และชุมชนชาวจีนบางส่วน หากลองวิเคราะห์กันให้ลึกอีกสักนิด จะพบว่าวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวจีนที่เราอาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว คือพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว อยากให้ลูกหลานแต่งงาน มีทายาทสืบสกุล เรียกว่าการได้แต่งงานและสร้างครอบครัวเป็นความสุขสูงสุดในชีวิตของพวกเขาแต่เนื้อเรื่องของภาพยนต์ ซองแดงแต่งผี กลับเต็มไปด้วยปมปัญหาที่เริ่มผูกขึ้นเมื่อเม่น ( รับบทโดย บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) หนุ่มลูซเซอร์ อดีตโจรที่ผันตัวมาเป็นสายให้ตำรวจ เพราะเขาก็ฝันอยากเป็นตำรวจเช่นกัน แต่ดันทำงานพลาดทุกครั้ง ต้องมาแต่งงานกับตี่ตี๋ (รับบทโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร) ผีเกย์สุดคิวต์ที่ช้ำรักจากแฟนเก่าสุดหล่อจนโดนรถชนเสียชีวิตคาที่ ต้องเข้าพิธีแต่งงานไม่ใช่คู่ชาย-หญิงเหมือนเช่นธรรมเนียมปกติ แต่เป็นชาย-ชาย แถมคนที่ขีดชะตานี้ให้กลับเป็นคุณย่าหัวสมัยใหม่ที่อยากให้หลานชายเป็นฝั่งเป็นฝา นี่คือความตั้งใจของผู้กำกับในการสะท้อนเรื่อง ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ กฎหมายที่ชาวไทยต่อสู้กันหลายต่อหลายปีรักษ์โลก ทาสน้องหมา และเรียกร้องความเท่าเทียมความต่างของซองแดงแต่งผี คือ ได้เพิ่มมิติความเป็นมนุษย์ให้ตัวละคร ด้วยการเติมประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การเป็นชายหนุ่มผู้มีหัวใจอ่อนโยนต่อโลก รักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งรู้จักแยกขยะ ใช้สิ่งของอย่างรู้คุณค่า การเป็นคนรักสัตว์ของตี่ตี๋ที่ดูแลเจ้าหมาน้อย ‘ตอม่อ’ รวมถึงการที่เขามีบทบาทเป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางสังคมให้กับกลุ่ม LGBTQ+นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ให้กับภาพยนตร์ไทยในการนำเสนอภาพชายรักชายในมุมมองด้านสังคม เพราะโลกที่แวดล้อมตัวละครที่ภาพยนตร์สร้างขึ้นทำให้เห็นว่าตัวละครนั้น ๆ กำลังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมจริง ๆ ซึ่งสังคมที่ว่าไม่ได้ประกอบสร้างขึ้นด้วย ‘ความรัก’ เพียงอย่างเดียว แต่ยังสนใจไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการมอบหมายภารกิจให้ตัวละครมีบทบาทขับเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้นซองแดง สัญญาณเตือนในการใช้ชีวิต อยู่อย่างมีความหมาย ตายอย่างงดงามสัญลักษณ์ของ ‘ซองแดง’ ในเรื่อง ซองแดงแต่งผี เป็นสัญญะที่สื่อความหมายถึง ‘คุณค่าของการมีชีวิต’ และอาจจะเป็นสัญญาณเตือนให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังด้วยเช่นกัน ในภาพยนตร์อาจจะสื่อถึงความตาย การจากไป ซึ่งเป็นเหรียญอีกด้านของการมีชีวิตอยู่ ซองแดงที่เม่นได้รับและการได้พบตี่ตี๋ เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองให้ดีขึ้นนั้นเองซองแดงหรือสีแดงที่ใช้มีความหมายทั้งการมีชีวิตอยู่และการจากไป ในเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่าความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวและเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวรับมือ เราไม่รู้ว่าหรอกว่าจะจากโลกนี้ไปวันใด จงใช้ชีวิตให้มีคุณค่า มองเห็นความงดงามของมนุษย์ มองเห็นความงดงามของชีวิต แม้จะยากลำบาก แต่การได้มีชีวิตอยู่ในวันที่แสนธรรมดาก็มีความหมายภาพยนตร์ ซองแดงแต่งผี ทำให้เราเห็นการปะทะกันของ 2 ชุดความคิด ทั้งความเป็นชายที่สังคมคาดหวัง อย่างเม่นที่ให้ภาพความเป็นชาย ความแข็งแรง แข็งแกร่ง พูดจาตรงไปตรงมา สื่อสารผ่านอาชีพตำรวจที่เขาใฝ่ฝัน ส่วนตี่ตี๋ที่ให้ภาพของความอ่อนโยน ความเข้าอกเข้าใจ และสีสันเสื้อผ้าที่สดใสยังสื่อถึงความเป็นหญิงภาพที่นำเสนอเกาะเกี่ยวไปกับเทรนด์ของชายหนุ่มที่มีความละมุนละไม เรียกกันว่า Feminine Males แสดงภาพของผู้ชายที่อ่อนโยน เปิดพื้นที่ให้กับเฉดความหลากหลายในความเป็นชายที่อาจไม่ค่อยได้เห็นภาพยนตร์เรื่องอื่น ภาพที่นำเสนอไม่ได้หวานเจี๊ยบหรือแข็งแกร่งจนเกินไป เป็นเฉดสีที่อ่อนโยน รวมไปถึงตัวละครก๊วนชายแท้ทั้งตำรวจและผู้ร้ายที่เข้ามาสร้างสีสัน นำทีมโดย จาตุรงค์ มกจ๊ก, รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น และ เอ็ดดี้-ญาณวุฒิ จรรยหาญ ต่างมาร่วมกันสร้างความสนุกและความเซอร์ไพรส์ที่ต้องไปติดตามชมในภาพยนตร์แม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดผู้ชมเรื่อง ซองแดงแต่งผี ต้องยกให้ บิวกิ้น-พีพี ที่มีฐานแฟนคลับมากมายและเหนียวแน่น อีกทั้งการเติบโตและพัฒนาการทางการแสดงของพวกเขาที่มีอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้ง ซองแดงแต่งผี รีเมกมาจากภาพยนตร์ไต้หวัน ได้รับการนำเสนอใหม่ เจือปนกลิ่นอายหนังตลกแบบไทย มุกตลกที่สร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร กลายเป็นความครบเครื่อง สนุก เฮฮา ที่โกอินเตอร์ได้ หลายคนอาจจะบอกว่านี่เป็นหนังที่ดูเพลิน ดูง่าย แต่แฝงด้วยข้อคิดมากมายจากค่าย GDH ที่ทำให้เราอมยิ้ม และเสียน้ำตานอกจากความสนุก ความฮา ที่รอให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตนเองแล้ว ลองมาไล่เลียงกันดูว่า ซองแดงแต่งผี แฝงประเด็นสังคมชวนขบคิดในเรื่องอะไรบ้าง Atime ขอชวนมาเปิดซองแดงพร้อมกันแล้วตามไปเปิด ‘ซองแดง’ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานครบรสพร้อมกัน วันที่ 20 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ซองแดงแต่งผี (The Red Envelope)Genre : ComedyDirector : หมู-ชยนพ บุญประกอบProducer: โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูลActors : พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, ก้อย-อรัชพร โภคินภากร, ปิยะมาศ โมนยะกุล, จตุรงค์ พลบูรณ์, รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น, ญาณวุฒิ จรรยหาญ, ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม, เอนก อินทะจันทร์, ธนวัฒน์ เชี่ยวอร่าม ฯลฯความยาว : 127 นาที

404 สุขีนิรันดร์ Run Run เมื่อความฮาปะทะความหลอนในโรงแรมสุดเฮี้ยน

28 พ.ย. 2024

404 สุขีนิรันดร์ Run Run เมื่อความฮาปะทะความหลอนในโรงแรมสุดเฮี้ยน

วันนี้แอดขอนำเสนอหนังเรื่อง 404 สุขีนิรันดร์..Run Run หนังตลกหลอนสุดปั่นจากค่าย GDH ซึ่งเป็นการจับมือกันครั้งแรกของผู้กำกับรุ่นเก๋า ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ผู้ปลุกปั้นหนังฮาตำนานมานับไม่ถ้วน และผู้กำกับรุ่นใหม่ เสือ พิชย จรัสบุญประชา ที่พกไอเดียสุดบรรเจิดมาเสิร์ฟความบันเทิงแบบครบรสเรื่องย่อเริ่มต้นด้วย "นักรบ" (เต๋อ ฉันทวิชช์) นายหน้าสุดเจ้าเล่ห์ที่ชีวิตล้มไม่เป็นท่า ทั้งเรื่องงานและความรัก เพราะโดนแฟนสาว "หลิน" (นัตตี้ นันทนัท) ขอเลิกเพราะมองว่าเขาไม่มีอนาคต นักรบตัดสินใจยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง โดยลากเพื่อนร่วมแก๊งสุดฮา ได้แก่ น้ำมนต์ (ต้าห์อู๋ พิทยา) รุ่นน้องปากกล้า, น้าโชค (นุ้ย ชูเกียรติ) ช่างขี้เมา และ เสือโคร่ง (อาไท สุภทัต) ลูกชายของน้าโชค มาร่วมกันปรับปรุง "โรงแรมสุขีนิรันดร์" โรงแรมร้างบนเนินเขาที่เต็มไปด้วยประวัติสุดสยอง แต่การจะเปลี่ยน โรงแรมสุขีนิรันดร์ให้กลายเป็นโรงแรมหรูไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่ทรุดโทรม แต่ยังมีอดีตฝังแน่นสุดน่ากลัวเมื่อสามสิบปีก่อน โรงแรมนี้เป็นของ "ลลิตา" (ต้าเหนิง กัญญาวีร์) หญิงสาวที่สร้างมันด้วยความฝัน แต่ฝันนั้นกลับพังทลายด้วยน้ำมือของคนใกล้ตัว เธอทิ้งแรงแค้นไว้ทุกซอกทุกมุม จนเจ้าของโรงแรมรายใหม่ทุกรายต้องพบจุดจบแบบสุดสยอง แต่นักรบก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ได้ง่าย ๆ พวกเขาพร้อมลุยกับทุกแรงแค้นแม้จะกลัวผีจนแทบขาดใจ แต่ความกลัวนั้นก็ยังไม่เท่ากับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญจากลูกปืนของเจ้าพ่อเงินกู้ หลังพวกเขายืมเงินหลักล้านมาทุ่มลงทุนในโรงแรมแห่งนี้ โรงแรมที่ควรจะเป็น "สุขีนิรันดร์" กลับกลายเป็นสนามประลองระหว่างแก๊งคนจนตรอกและผีคุณหนูสุดแค้น ที่ไม่มีใครรู้ว่าศึกครั้งนี้จะจบลงอย่างไร เมื่อฝ่ายหนึ่งพยายามไล่ และอีกฝ่ายเดินหน้าล่า ความหลอนปนเสียงหัวเราะจึงบังเกิดขึ้นทุกค่ำคืนหนังเรื่องนี้ทำให้แอดรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่หนังตลกหลอนธรรมดาแต่โครงเรื่องยังสะท้อนความดิ้นรนของชีวิต ที่ตัวเอกอย่าง นักรบ ต้องดิ้นรนพิสูจน์ตัวเองหลังจากถูกคนรักมองว่าไม่มีอนาคต โดยการเลือกโรงแรมสุขีนิรันดร์เป็นตัวแทนของ "โอกาสสุดท้าย" ที่เขาและทีมลงทุนจนสุดตัว เป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นที่หวังสร้างชีวิตใหม่แม้ว่าต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งจากความแค้นของผีและความกดดันจากเจ้าพ่อเงินกู้ทั้งนี้ หนังก็ยังคงจุดยืนของ GDH ที่เล่าเรื่องให้ผู้ชมทุกวัยเข้าถึงได้ และก็ถือว่าสามารถฉีกกรอบเดิม ๆ ของหนังตลกได้เป็นอย่างดี โดยเพิ่มกลิ่นอายความลึกลับสยองขวัญเข้าไปในพล็อตที่ดูแปลกใหม่ และอีกอย่างคือ หนังนำเสนอความหลอนกับความฮาผ่านฉากที่เล่นกับบรรยากาศน่ากลัวในโรงแรมร้าง ซึ่งตัดสลับกับมุกตลกแบบพอเหมาะพอเจาะ ความหลอนที่ไม่ได้ทำให้กลัวจนเกินไป แต่กลับสร้างเสน่ห์ที่ทำให้คนดูอยากติดตามเรื่องราวต่อไป​​เรื่องราวสุดวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโรงแรมสุขีนิรันดร์ ซึ่งเต็มไปด้วยแรงแค้นของผีสาวและความพยายามของแก๊งคนจนตรอกนี้ จะลงเอยอย่างไร? ติดตามความฮาปนหลอนนี้ได้ในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป