สัมผัสความสุขปลายปีกับงาน "centralwOrld x J.P.TOYS GALLERY present Merry Ville 2025"

Food & Beverage

สัมผัสความสุขปลายปีกับงาน "centralwOrld x J.P.TOYS GALLERY present Merry Ville 2025"

17 ธ.ค. 2024

เซ็นทรัลเวิลด์กลับมาเติมเต็มความสุขอีกครั้ง กับงาน "centralwOrld x J.P.TOYS GALLERY present Merry Ville 2025" เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ซึ่งเต็มไปด้วยความสนุก อาร์ต มุมถ่ายรูป และบรรยากาศที่สวยงามจนต้องไปเยือน

ไฮไลต์ของงานที่ทุกคนต้องจับตามองคือ "ต้นคริสต์มาส Art Toys" ที่มีขนาดใหญ่ถึง 4 เมตร และเป็นต้นคริสต์มาสที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความพิเศษอยู่ที่การตกแต่งด้วย อาร์ตทอย 23 คาแรกเตอร์สุดพิเศษ จากฝีมือของ 11 ศิลปินระดับโลก เช่น Labubu, Zimomo, Flappy, Vincent และอีกมากมาย พร้อมให้ทุกคนได้รับชมและถ่ายรูปแบบใกล้ชิดกับตัวอาร์ตทอยกว่า 50 ตัว ที่กระจายอยู่ทั่วห้าง

อีกหนึ่งความพิเศษคือการเนรมิตหมู่บ้าน Merry Ville ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Regent Street ในลอนดอน ซึ่งมี 12 โซนที่ตกแต่งแตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์

ไม่ใช่แค่ต้นคริสต์มาสหรืออาร์ตทอยเท่านั้น แต่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ยังจัดเต็มไปด้วย กิจกรรมบันเทิงหลากหลาย อย่าง Shimmering Snowflakes Galderma โชว์หิมะสุดมหัศจรรย์ที่จะมีทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 5 รอบ ตั้งแต่ 17.00 - 20.00  และเทศกาลอาหาร Fun Food Festival ที่รวมร้านเด็ดหลายร้านมาให้ทุกคนได้ลิ้มลองกันถึงหน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ลกันเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ยังมีโซน อาหาร และเครื่องดื่ม ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ให้คนที่เดินชมงานคริสต์มาสได้แวะพักเหนื่อยกันอีกด้วย

ใครที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับสร้างความทรงจำที่พิเศษในช่วงเทศกาลปลายปีแบบนี้  ก็อย่าห้ามพลาดงานนี้กันนะ

  • ระยะเวลา 5 พฤศจิกายน 2567 - 5 มกราคม 2568
  • พิกัด ลาน Square A-B เซ็นทรัลเวิลด์


 

related Food & Beverage

นลินี อาร์ตทอยสายมู แสนน่ารัก

26 ต.ค. 2024

นลินี อาร์ตทอยสายมู แสนน่ารัก

หากนึกถึงพระพิฆเนศ หรือองค์เทพต่าง ๆ หลายคนอาจจะต้องคิดว่า องค์ท่านต้องดูน่าเกรงคราม แต่แบรนด์นลินี (Nalini) ที่ผลิตผลงานโดย คุณธนโชติ เกตุบุรมย์ (โชต) มีความคิดที่ต่างออกได้ โดยคุณโชตได้บอกว่า ตนเองนั้นชื่นชอบ และบูชาพระพิฆเนศอยู่ก่อนแล้ว แต่เมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง จึงเกิดความคิดปรับสายมูให้เข้าถึงได้ง่าย จึงเกิดมาเป็นผลงานแบรนด์นลินีนลินี แบรนด์นี้มีความน่ารัก สีสันสดใส และจุดเด่น คือ ลูกค้าสามารถออกแบบเลือกสีได้เองตามความชอบอีกด้วยในคอลเลกชั่น “Tanti Amori” (ถาพด้านล่าง) องค์พ่อพระพิฆเนศประทับบนบัลลังก์รูปหัวใจ มือหนึ่งข้างถือหัวใจ สัญลักษณ์ของความรัก อีกข้างประทานพร ให้ทุกคนด้วยความรัก โดย Tanti Amori มีทั้งหมด 12 สี โดยสีเเรกของคอลเลคชั่นคือ pretty pearl ทั้งหมด 6 edition ซึ่งมี 2 ขนาดด้วยกัน เริ่มต้น 5 เซนติเมตร และ 9 เซนติเมตร วัสดุ เรซิ่น พ่นสีขาวประกายมุก ในราคาเริ่มต้น 329 บาท และ 1,200 บาทใครที่สนใจนลินีกับคอลเลกชั่นที่เต็มไปด้วยความรัก “Tanti Amori” สามารถสั่ง Pre-order ได้ผ่านทาง google form หรือทักแชททางร้านได้เลยgoogle form : https://forms.gle/TdmnznZ2PbdxJva69ภาพด้านล่าง - นลินีมาในลุคพระพิฆเนศกายสีแดง ประทับนั่งบนดอกบัว หัตถ์ขวาถือเหรียญทอง หัตถ์ซ้ายประทานพร พร้อมพี่หนูมิสุกะนอกจากนี้ยังมีผลงานอีกมากมาย ทั้งภาพวาดต่าง ๆ ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะสไตล์นี้ของแบรนด์ นลินี ก็สามารถติดตามผลงานของคุณธนโชติ เกตุบุรมย์ (โชต) ได้ทางFacebook : nalini_bkkInstagram : nalini_bkkหรือมาพบกันได้ที่งาน "แฉแฟร์" presented by น้ำมันพืชมรกต31 ต.ค. - 3 พ.ย. 2567MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

11 มิ.ย. 2024

มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

เซียมสยาม หรือ ตึกกระทรวงพาณิชย์ (เดิม) ก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 หรือเมื่อ 100 ปีก่อน ใช้เป็นสำนักงานกระทรวงพาณิชย์ มีการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมตึกนั้น อ้างอิงมากจากสมัยเรอเนสซองส์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนการทำงาน สู่การเป็นตึกมิวเซียมสยาม ที่มีความสง่างาม มั่นคงแข็งจนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชั้นนำในปัจจุบันการเข้าชมศูนย์การเรียนรู้ ที่มิวเซียมสยามนั้นจะมีอัตราค่าเข้าชม โดยมีราคา ดังนี้ ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท หากมาเป็นหมู่คณะ ทางศูนย์การเรียนรู้จะมีโปรโมชัน ครึ่งราคา สำหรับผู้เข้าชมที่มาเป็นหมู่คณะทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ภายในอาคาร ที่ห้องโถง จะมีโต๊ะวางรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ของกิจกรรมภายในศูนย์การเรียนรู้ สามารถหยิบอ่านได้ ทั้งยังมีกิจกรรมในแผ่นการเรียนรู้อีกด้วยนิทรรศการของมิวเซียมสยาม มาในชื่อ "ถอดรหัสไทย"ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้พัฒนาการความเป็น"ไทย"ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจากบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยมาที่ห้องแรก “ห้องไทยดีโคตร” นำเสนอพัฒนาการของความเป็นไทย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอื่น อาทิ พระปรางค์วัดอรุณ ที่สุดของสถาปัตยกรรม ตัวอักษรไทย รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น ผ่านรูปแบบการนำเสนอด้วยภาพ ซึ่งผู้ชมสามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ เลเซอร์คัท 3 มิติ โซโทรป ฟลิปบุ๊ก เป็นต้นห้องที่สอง “ห้องไทยชิม” ที่พาคุณไปเรียนรู้ที่มาของอาหารไทยขึ้นชื่อต่างๆ อย่าง ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ผัดไทย เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีคิวอาร์สแกน พร้อมโมชันกราฟิกสีสันสวยงาม รวมถึงแผ่นพับรูปจาน ที่สอดแทรกเกร็ดความรู้อาหารเหล่านั้นห้องที่สาม “ห้องไทยวิทยา” ภายในจำลองบรรยากาศห้องเรียน 4 ยุคสมัย ได้แก่ ยุคเริ่มต้นประชาธิปไตย ความเป็นไทยยุค 2500 ความเป็นไทยยุคโลกาภิวัตน์ และความเป็นไทยยุคพอเพียง ห้องนี้เหมือนได้พาทุกคนย้อนเวลากลับไปสมัยเรียน อีกทั้งยังสามารถแต่งตัวเป็นนักเรียนถ่ายภาพลำรึกความหลัง เพราะที่ห้องนี้มีเสื้อผ้าชุดรักเรียน ชาย หญิง เตรียมให้พร้อมห้องที่สี่ “ไทยประเพณี” ห้องจัดแสดงในรูปแบบโกดังเก็บของ นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ประเพณี เทศกาล และมารยาท อันเป็นสิ่งสะท้อนความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ใส่ไว้ในกล่อง ภายในมีเอกสารอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องต่างๆ ภาพประกอบของจริงที่จับต้องได้ เล่นได้ และมีเกมที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวได้สนุกยิ่งขึ้นห้องที่ห้า “ห้องไทยเชื่อ” ห้องที่รวบรวมวัตถุด้านความเชื่อของเมืองไทย กว่า 108 สิ่ง ครอบคลุมทั้งความเชื่อเรื่อง ผี พุทธศาสนา พราหมณ์และความเชื่อแบบไทยๆ พร้อมเวิร์กชอปความเชื่อให้ทดลองกันได้จริง อาทิ การทำนายโชคชะตา การเสี่ยงทายรูปแบบต่างๆ เป็นต้นห้องที่หก “ห้องไทย Only” ห้องที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตาในชีวิตประจำวัน ที่เห็นแล้วสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นของไทยแน่นอน อาทิ พวงเครื่องปรุง ถุงหิ้วกาแฟผูกหนังยาง โครเชต์หุ้มหูกระเป๋าแบรนด์เนม มาม่าสารพัดรส เป็นต้นห้องที่เจ็ด “ห้องไทยแค่ไหน”นำเสนอความเป็นไทยผ่านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย จัดแสดงด้วยหุ่นเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ วางกระจายอยู่บนฐานเกลียวก้นหอย จากสูงลงมาต่ำ เพื่อแสดงถึงสถานะและลำดับความเข้มข้นของความเป็นไทยห้องที่แปด “ห้องไทยอลังการ” ภายในจำลองบรรยากาศของท้องพระโรงและพระที่นั่ง เพื่อแสดงถึงสุนทรียะ ความงดงามของสถาปัตยกรรม และงานหัตศิลป์ไทยห้องที่เก้า “ห้องไทยแปลไทย” ห้องจัดแสดงที่เต็มไปด้วยตู้โชว์ ลิ้นชัก ที่ภายในบรรจุวัตถุจัดแสดง นำเสนอประเด็นสิ่งของความเป็นไทยในแต่ละยุคสมัย ให้ผู้เข้าชมมาเรียนรู้และค้นหา “ความเป็นไทย” ในสิ่งของเหล่านั้นที่ส่งผลถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยในปัจจุบันเดินทางมาถึงห้องสุดท้ายของศูนย์การเรียนที่รู้มิวเซียมสยาม คือ “ห้องไทยรึเปล่า” นำเสนอประเด็นคำถาม โดยหยิบยกกรณีตัวอย่างปรากฏการณ์ “ความเป็นไทย” ที่เป็นข้อถกเถียงในสังคม อาทิ เลดี้กาก้าสวมชฎา ชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์ส นักแสดงหน้าฝรั่งเล่นละครไทย เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าตั้งคำถามถึงความเป็นไทยรอบตัว ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ว่าแท้จริงแล้ว อะไรคือความเป็นไทยหากใครสนใจมาเรียนรู้ความเป็นไทย Atime ขอนำเสนอนิทรรศการถาวร ชุด "ถอดรหัสไทย" ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน (ข้างวัดโพธิ์) กรุงเทพฯ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือขอเข้าชมเป็นหมู่คณะได้ที่ 02-225-2777 ต่อ 411ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ผู้ใหญ่ - 100.00 บาท เด็ก - 50.00 บาทเวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทำการทุกวันหยุดนขัตฤกษ์ที่อยู่ : ถนนสนามไชย พระนคร, กรุงเทพมหานคร (MRT สนามไชย ทางออก 1)

"จูนปัง" ร้านขนมปังเจ้าเด็ดย่านบรรทัดทอง

04 ธ.ค. 2023

"จูนปัง" ร้านขนมปังเจ้าเด็ดย่านบรรทัดทอง

"บรรทัดทอง" ย่านนี้มีความอร่อย และเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายไปยามค่ำคืน ครั้งนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับร้านขนมปังนมสดเจ้าดังแห่งย่านนี้ "จูนปัง" ร้านขนมปัง-นมสด ที่มากล้นไปด้วยผู้คน และเมนูของหวานที่แสนอร่อยบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบการกินขนมปัง กับนมสด ต้องมาโดนที่นี่ "จูนปัง" ดูจากปริมานคนหน้าร้าน พูดได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดาแน่นนอน ทั้งคนยืนรอเข้าร้าน ทั้งคนยืนรอซื้อกลับบมา หนาแน่นไปหมดภายในร้าน ก็จะมีคนทำให้เลือกสั่ง แฮ่! มีเมนูให้เลือกสั่งมากมาย ทั้งเมนูขนมปังหน้าต่าง ๆ เมนูเครื่องดื่ม ชา กาแฟ นมสด และน้ำอีกมากมาย พร้อมทั้งยังสามารถเลือกท้อปปิ้งเพิ่มเติมกันได้อีกด้วยน้า ซึ่งบอกเลยว่าแค่ยืนดูตอนที่เขาทำ ก็น่ากินแล้ว อ๊ากกกกเริ่มต้นด้วยเมนูเครื่องดื่ม จัดมาทั้งหมด 5 แก้ว จุใจ ทั้งนมสด ชาเย้น นมเย็น โกโก้ และชามะนาว กินแล้วสดชื่นทุกเมนู กินคู่กับเมนูแนะนำของทางร้าน "Caramel Toast With Hokkaido Ice Cream" มันช่างเข้ากันสุด ๆใครเป็นสายของหวาน สายขนมปัง ไม่รู้จะไปไหนในตอนกลางคืน ลองแวะมานั้งกินขนมปังเจ้าเด็ดแห่งบรรทัดทอง "จูนปัง" ร้านนี้กันได้น้า ร้านเปิดทุกวันตั้งเวลา 16.00 – 00.00 น. ตั้งอยู่ระหว่างซอยจุฬา 18-20 ใกล้ ๆ กับสวนจุฬา 100 ปี น้า

เปิดประสบการณ์สุดหลอนครั้งแรกของเมืองไทย The Conjuring Universe Tour

22 ส.ค. 2024

เปิดประสบการณ์สุดหลอนครั้งแรกของเมืองไทย The Conjuring Universe Tour

ครั้งแรกของเมืองไทยกับนิทรรศการ interactive กับ The Conjuring Universe Tour ที่จะพาทุกคนมาหลอนกับพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ที่มีความยาวนานกว่า 40 นาที – 1 ชั่วโมง และ 20 โซน การจำลองฉากในภาพยนตร์วันนี้ Atime เลยขอพาลูกเพจมาวัดความหลอนกันที่ ICONSIAM ชั้น 6 ซึ่งภายในงานจะให้ต่อคิวเข้าชมภายในโดยทางทีมงานจะปล่อยเข้าเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน และก่อนที่จะเข้าไปหลอนกับ 20 โซนด้านในจะมีการเปิดให้ชมที่มาก่อนว่ามีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรและเมื่อเข้าไปจะมีโซนต้นไม้สูง 5 เมตรที่มีปมปริศนาในที่ดินผีสิงของ The Perron's Houseโบสถ์สยองขวัญแห่งโรมาเนีย Carta Monastery จากเรื่อง The Nun ในห้องนี้จะมีแม่ชีที่ถูกใส่ถุงคลุมหัวไว้ยืนเรียงกันเป็นแถว ให้เรานั้นเดินเรียนหนึ่งผ่านเข้าไป ซึ่งจะมีแม่ชีคนไหนขยับนั้นอันนี้แอดขอปิดไว้ก่อนห้องใต้ดินของพอร์รอน ThePerron's Basement เป็นฉากที่มีวิญญาณร้านได้เข้าสิงร่างของแคโรลินสุสานของเฟอร์รีแมน Ferryman's Tombห้องเก็บของสุดพิศวง The Warren’s Artifact Roomแอนนาเบลล์ ตุ๊กตาผี ห้องนี้จะเป็นฉากสุดหลอนในห้องนอน จะมีอะไรรออยู่ในห้องนี้ต้องไปลองกันนะฉากนี้จะบอกว่าแอนนาเบลหายตัวไปด้วยนะทำเอาแถบวิ่งออกกันไม่ทัน แต่ก่อนออกมาจากห้องสุดท้ายได้ เราจะต้องได้เจอจุดพีคสุดของปีศาจในเรื่อง The Conjuring ก็ลองถายกันนะว่าจะเป็นปีศาจตนไหนเมื่อออกมาจากแล้วจะเจอกับโซนขายของที่ระลึก มีทั้งเสื้อ สร้อย สมุด แก้ว โมเดล และอื่นๆ มากมาย จากหนังเรื่อง The Conjuringอีกทั้งที่นิทรรศการ The Conjuring Universe Tour เขายังมีโซนของทานเล่นและเครื่องดื่ม ให้เลือกไม่ว่าจะเป็นของทอด น้ำหวาน หรือจะเป็นไอศกรีม หากใครที่อยากไปตามดูภาพยนตร์ในจักรวาล The Conjuring นั้นก็มีดังนี้The ConjuringAnnabelleThe Conjuring 2Annabelle : CreationThe NunThe Curse of La LloronaAnnabelle Comes HomeThe Conjuring The Devil Made Me Do ItThe Nun IIมาท้าพิสูจน์กับทัวร์สยอง รวบรวมตำนานเหล่าสิ่งลึกลับ ในจักรวาล The Conjuring กันได้ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 นี้ ชั้น 6 Attraction Hall ไอคอนสยามเวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน 11.00-20.00 น.เปิดจำหน่ายบัตร Early-Bird Ticket : 1 สิงหาคม 2567 - 22 สิงหาคม 2567 (10:00 น. เป็นต้นไป) ที่ www.ticketmelon.com*เงื่อนไขการออกบัตรเข้าชมนิทรรศการเป็นไปตาม Ticketmelon กำหนด