Chill Art Space

"In the red light, WE THRIVE: เปลี่ยนภาพจำพื้นที่สีแดง ผ่านศิลปะและกลิ่นอายแห่งชุมชน"

เมื่อพูดถึง 'ตรอกสลักหิน' ภาพจำของหลายคนอาจยังเต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีตอันดิบเถื่อน ยุคที่อันธพาลเรืองอำนาจ และความเป็น 'Red Zone' ที่ผู้คนต่างหลีกเลี่ยง แต่แม้กาลเวลาจะผ่านไป ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากพื้นที่ที่ถูกตีตรา กลายเป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยผู้คนที่สร้างสรรค์ และมีเรื่องราวให้ค้นหา

นิทรรศการ "In the red light, WE THRIVE" เป็นหนึ่งในนิทรรศการศิลปะที่อยู่ภายใต้งาน Bangkok Desing Week 2025 ที่นำเสนอการตีความใหม่ของพื้นที่สีแดง ผ่านมุมมองของสามศิลปิน—'กำปุ๊ง-ปองณภัค ฟักสีม่วง', 'เฟิร์ส-อชิตพล พานทอง' และ 'บอส-พิสิษฐ์ ธัญยนพพร'—ผู้ที่ต้องการเชิญชวนให้ผู้ชมเปิดใจและสัมผัสตัวตนของชุมชนตรอกสลักหินอย่างแท้จริง ผ่านศิลปะแบบ Installation & Olfactory Art

จุดเด่นของนิทรรศการนี้คือการใช้ ‘กลิ่น’ และการจัดวางศิลปะเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ ผู้ชมจะได้สัมผัสกลิ่นอายของชุมชน ทั้งในแง่ของความทรงจำ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งพบกับงานจัดวางที่พาผู้ชมดำดิ่งลงไปในอดีต ขณะเดียวกันก็นำพาพวกเขากลับมายังปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความหวัง

หนึ่งในผลงานที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจคือ การจัดวางขวดน้ำหอมที่มีกลิ่นกุหลาบ ที่มีการคอสตอมมาคล้ายกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม วางอยู่บนพื้นดิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจาก ดอกกุหลาบ ที่เคยถูกมองว่าเป็นของสูงส่ง กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เปรียบเสมือนตรอกสลักหิน ที่จากพื้นที่ต้องห้ามในอดีต ได้กลายเป็นชุมชนที่เปิดกว้างและพร้อมต้อนรับทุกคน

"In the red light, WE THRIVE" จึงไม่ใช่เพียงแค่นิทรรศการศิลปะ แต่เป็นบทสนทนาที่เปิดโอกาสให้คนภายนอกได้ทำความรู้จักกับตรอกสลักหินใหม่อีกครั้งไม่ใช่ในฐานะพื้นที่สีแดงของอดีต แต่เป็นชุมชนที่เติบโต งอกงาม และพร้อมจะเฉิดฉายท่ามกลางแสงแห่งปัจจุบัน

พิกัด Station Hotel ย่านหัวลำโพง
ระยะเวลา วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 8-9 ก.พ. 2568 , 15-16 ก.พ. 2568 , 22-23 ก.พ. 2568
เวลา: 11:00 - 22:00

ผู้เขียน วิภูษิตา ญาติจันทึก

นิทรรศการ ‘ก่อนถึงวัยอันควร – Coming of Aging’

นิทรรศการ ‘ก่อนถึงวัยอันควร – Coming of Aging’ นิทรรศการที่รวบรวมเรื่องราวและข้อคิดต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจและเตรียมความพร้อมสำหรับวันที่เราต้องก้าวเข้าสู่วัยชรา ผลงานโดยทีม Eyedropper Fill นิทรรศการนี้แบ่งออกเป็น 3 โซน ถ่ายทอดมุมมองหลากหลายที่ชวนให้เราหยุดนิ่ง อยู่กับตัวเอง เพื่อคิด ฟัง และตั้งคำถามกับหัวใจโซนที่ 1: “สะท้อนใจ – Beneath the Surface” โซนนี้จัดแสดงบ่อน้ำพร้อมภาพที่ฉายลงไปในน้ำ ชวนให้เรามองลึกลงไปกว่าภาพสะท้อนบนผิวน้ำ เพราะบางทีสิ่งที่เราเห็น อาจไม่ใช่ทั้งหมดของความจริง“เมื่อมองลงไปในน้ำเราอาจเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกยิ่งกว่าภาพสะท้อนความคิดเกี่ยวกับ ‘วัย’ ที่เราเชื่อ...อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดของตัวเรา”โซนที่ 2: “ข้ามผ่านกาลวัย – The Tree of Tales” ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เรืองแสงในความมืด คือพื้นที่สำหรับฟังเรื่องราวของผู้คนที่เผชิญกับการเปลี่ยนผ่านของวัย เพราะ “ต่างคน ต่างเติบโต ต่างกัน”โซนนี้จึงเชิญชวนให้เราหยุดฟัง เรียนรู้ และเปิดใจไปพร้อมกันโซนที่ 3: “ต้อนรับฤดูใหม่ – Embrace Next Season” โซนสุดท้ายนี้เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าชมได้เขียนข้อความส่งต่อความรู้สึก — ไม่ว่าจะเขียนให้ตัวเอง หรือเป็นกำลังใจให้ผู้อื่น พร้อมกับกิมมิก “ระฆังแห่งแสง” ที่เมื่อสั่นแล้วจะมีแสงสว่างปรากฏขึ้น สื่อถึงความหวัง ความอบอุ่น และความรู้สึกปลอดภัย"การเติบโตไม่ได้หมายถึงการล่วงรู้อนาคตเสมอไปแต่มันคือการ กล้าโอบกอดความไม่รู้ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง"พิกัด : River City Bangkok ชั้น 2ระยะเวลา : วันนี้ – 16 ก.ค. 2568เข้าชมฟรี!เขียนและจัดโดย : พิชชาภรณ์ ผาสุขดี และ สาริศา ปริมาณ

ปล่อยใจท่ามกลางธรรมชาติ ที่ Wind and Wild cafe

ใครที่กำลังมองหาร้านนั่งชิลล์รับลมเย็น ๆ ต้องมากันที่ ร้าน Wind and Wild cafe ซึ่งภายในร้านก็มีกิจกรรมให้เราได้เลือกทำมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การร้อยลูกปัดDIY วาดรูประบายสี หรือใครอยากมาทานอาหารฟังดนตรีสด ที่ร้านนี้เขาก็มีเช่นกันโดยภายในร้าน Wind and Wild cafe มีเบียร์ craft ฟังดนตรีสดเพลิน ๆ จิบเบียร์ไปด้วยฟินสุด ๆ และที่เป็นไฮไลท์เลยคืออาหารของที่นี่ อร่อยถูกปากมาที่นี่มีครบจบที่เดียวสากกะเบือยันเรือรบ นั่งได้ทั้งวันไม่เบื่อแน่นอน เพราะที่ร้านนี้เขามีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างมากบรรยากาศภายในร้าน Wind and Wild cafe ให้ฟีลชิลล์ ๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติในสไตล์เรียบง่าย และอบอุ่น แนะนำว่าให้มา 4-5 โมงเย็น บรรยากาศร่มรื่นไม่ร้อน กำลังพอดีมีที่นั่งมีเยอะ เป็นแบบ Out doorใครที่มองหากิจกรรมทำร่วมกับเพื่อน หรือคนรัก แอดมินแนะนำเลยว่าต้องมาที่ร้าน wind and wild cafe โดยร้านตั้งอยู่ถนนเทพรักษ์ตัดใหม่ สามารถเดินทางมาด้วย BTS ได้ ลงที่สถานีสายหยุดแล้วต่อรถมากันที่ร้านได้เลยพิกัด : https://maps.app.goo.gl/dfRcHrWindR6y63N6เปิด - ปิด 10.00 - 22.00 น.Pet Friendly สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้เบอร์โทร 096 560 7653ผู้เขียน : จิตรกร ปะวะโขภาพ : เบญญาภา แนบเนียน

Everybody/Cries/Sometimes นิทรรศการที่จะไม่ปล่อยให้ใครร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว

โค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับนิทรรศการเดี่ยวครั้งสำคัญของ Crybaby "Everybody/Cries/Sometimes" ที่จะชวนทุกคนมาปลดปล่อยห้วงอารมณ์ความรู้สึกสุดลึกซึ้ง เพราะทุกคนต่างก็เคยเสียน้ำตา เธอนั้นก็เคยร้องไห้ ส่วนฉันเองก็เช่นกันเราต่างเคยเผชิญความรู้สึกโกรธ เศร้า เสียใจ อึดอัด เจ็บปวด ต่างเคยผ่านทุกอารมณ์ความรู้สึกลบต่าง ๆ แต่เพราะการร้องไห้ ถูกตีความหมายแทนสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ เราจึงเลือกที่จะซ่อนความรู้สึกเหล่านั้น แทนการยอมรับจัดการกับมัน แต่ความทุกข์ทั้งหมดนั้นไม่ได้จางหายไปเองทุกความรู้สึกที่ถูกเก็บกดไว้จะสร้างความไม่สมดุลให้กับจิตใจ นานวันเข้า ความเจ็บปวดที่เราเคยคิดว่าเราซ่อนไว้อย่างดีแล้ว จะล้นทะลักออกมา ไม่ต่างอะไรกับเวลาที่เราสะอื้นไห้ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวการร้องไห้คือกระบวนการเยียวยาจิตใจที่เราสามารถทำได้ทันที สำคัญมากในการช่วยฟื้นฟูบางส่วนของเราที่แตกสลาย แค่เราปลดปล่อยมันออกมา พร้อมหยดน้ำตาที่รินไหล ทุกความรู้สึกหนักอึ้งที่เราเคยแบกไว้ก็จะเริ่มเบาลงถึงต่อให้เราเสียใจมากมาย ร้องไห้ฟูมฟายหนักหนาสักแค่ไหน สุดท้ายแล้วมันจะค่อย ๆ จางหาย กลายเป็นเพียงความเข้าใจ เราจะเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น และก้าวข้ามผ่านมันไปในที่สุดนิทรรศการ “Everybody/Cries/Sometimes” จะโอบกอดทุกคนไปพร้อม ๆ กัน ไม่ปล่อยให้ใครต้องร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว ผ่านผลงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพวาด และชิ้นงานประติมากรรมที่ถูกสร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์ มาปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกไปด้วยกัน ได้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. - 30 ก.ย. 66 ที่ River City Bangkok

เดินเที่ยวชมมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023"

เริ่มต้นขึ้นแล้วกับงานที่คนชื่นชอบรถไม่ควรพลาด! มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" ครั้งนี้บอกเลยว่า "จัดหนัก จัดเต็ม" ทั้งรถยนต์ รถกะบะ หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้า ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ ทั้งค่ายเล็ก หรือว่าค่ายใหญ่ ขนมาอวดโฉมกันเพียบ พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ กันอีกด้วย พร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย!!มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" จัดขึ้นที่ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธันวาคม 2566 ภายในงานบอกเลยว่าค่ายเล็ก ค่ายใหญ่เพียบ เริ่มต้นกันที่สายลุย สายรถกะบะ ทั้ง ISUZU, FORD, Mitsubishi, Nissan ขนตัวเด็ด ๆ มาให้ได้ยลโฉมกันถัดจากสายลุย เรามาต่อสายรถเก๋งขนาดกะทัดรัด ก็มีมาให้ชมไม่น้อย ทั้งค่าย Suzuki, Honda, Mazda มีให้เลือกชมหลายรุ่น ทั้งแบบ Eco Car ก็มี หรือแบบรถทรง Sport ทั้งแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู ก็มีด้วย ใครรักชอบค่ายไหนอยู่ บอกเลยว่าได้ดูกันเพลินทีนี้ส่วนใครที่ชื่นชอบรถสปอร์ตหรูทั้งหลาย ปีนี้จัดมาแบบเน้น ๆ ทั้ง AUDI, BMW, Mercedes-Benz, Porsche, Volvo, KIA, Hyundai รวมไปถึงชุดแต่ง เห็นแล้วตาลุกวาวกันเลยแหละกระแสร้อนแรงสุด ๆ ถ้าไม่พูดถึงรถไฟฟ้า ก็คงแปลกมาก เพราะตอนนี้กำลังฮิตเป็นอย่างมากในประเทศไทย ในงานนี้ค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ขนมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Tesla, BYD, Neta, Wuling, AION แต่ลค่ายสวย ๆ ทั้งนั้น คอรถไฟฟ้าทั้งหลาย ไปงานนี้ถูกใจแน่นอนปิดท้ายด้วยสาวก 2 ล้อ สายมอเตอร์ไซค์ทั้งหลาย ปีนี้ขนกันมาแบบจัดเต็มไม่แพ้รถใหญ่กันเลย ทั้ง YAMAHA, Honda, Kawasaki, Triumph, Lambretta และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าค่ายอื่น ๆ ก็มีอีกด้วยบอกเลยว่าปีนี้ ใครที่ชื่นชอบรถทั้งหลาย ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ชอบของแต่งรถ อุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องไม่พลาดงานนี้น้า มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" จัดขึ้นที่ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธันวาคม 2566 เท่านั้น