ชวน “Ploychompoo” เล่าเรื่องราวถึงซิงเกิลล่าสุด “TIMELINE”

Chill Talk

ชวน “Ploychompoo” เล่าเรื่องราวถึงซิงเกิลล่าสุด “TIMELINE”

หลังจากห่างหายกันไปนาน ในที่สุด “Ploychompoo” หรือ พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล ก็กลับมาอีกครั้งในฐานะศิลปินอิสระ พร้อมปล่อยซิงเกิลใหม่มาให้แฟน ๆ หายคิดถึง กับเพลง “TIMELINE” ที่ได้ Lazyloxy มาร่วมฟีทเจอริงด้วย

TIMELINE มีที่มาจากอะไร

“จริง ๆ แต่งเอาไว้เกือบ ๆ 2 ปีที่แล้ว ได้แรงบันดาลใจมาจากที่ตอนนั้นพลอยชมพูไปอยู่ที่ต่างประเทศ 9 เดือน แล้วเราก็รู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหงามาก ครอบครัว เพื่อน ๆ เราอยู่ประเทศไทยหมดเลย เหมือนเราได้แต่เฝ้ามองเขาผ่าน TIMELINE ว่าเขาใช้ชีวิตกันยังไง มีความสุขยังไงบ้าง โดยที่เราเองไม่สามารถไปมีส่วนร่วมตรงนั้นได้ ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้ค่ะ”

ตอนแต่งเพลงนี้ตั้งต้นมาจากอะไร

“เหมือนกับเรานึกทำนองออกมาได้ก่อน 2 ประโยคแรกของตัวท่อนฮุคน่ะค่ะ พอเราเล่น ๆ ไปบนเปียโน แล้วรู้สึกว่าคำว่า ‘TIMELINE’ กับ ‘ทำไร’ มันมา เราเลยลองแต่งต่อไปดูว่ามันคล้องจองกับอะไรได้บ้าง”

พาร์ทไหนคือส่วนที่ท้าทายที่สุดในการทำเพลงนี้

“พาร์ทที่ทำเองค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่เราเป็นศิลปินอิสระ ตอนนี้เลยรับหน้าที่อะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในพาร์ทของศิลปิน แต่ว่ามีในพาร์ทของการขายเพลงยังไง ส่วนของการทำ Marketing ต่าง ๆ ทำคอนเทนต์ แม้แต่หาทุนทำเพลงเอง คือเราดูแลทุกส่วนเองหมดเลย ก็เลยน่าจะท้าทายตรงนี้แหละค่ะ”

การทำงานร่วมกับ Lazyloxy เป็นยังไงบ้าง

“ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่เริ่มแต่งเพลงนี้คือยังไม่ได้มีฟีท จนแต่งมาเสร็จแล้วรู้สึกว่ามันขาดอะไรบางอย่าง เราก็เลยลองให้ ZENTYARB ที่เป็นเจ้าของเพลง ‘ฉบับปรับปรุง’ น่ะค่ะ ลองแต่งท่อนแร็ปมาให้ฟัง แล้วตอนฟังครั้งแรกหน้า พี่ท็อปก็ลอยมาเลย ต้องเป็นพี่ท็อปคนเดียว ถ้าเป็นคนอื่นนึกไม่ออกเลย ก็เลยลองส่งให้พี่ท็อปฟังดู แล้วถามว่าพอจะมาฟีทให้ได้มั้ย เขาก็โอเค ก็ต้องขอบคุณพี่ท็อปด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าพี่ท็อปไม่ร้องให้ หนูก็ไม่รู้แล้วว่าใครจะมาร้องได้แล้วอะ ไม่รู้ว่าสไตล์แบบนี้จะเข้ากับใครได้อีก”

ในมุมมองของคนทำเพลง คิดว่าเพลงนี้เหมาะกับใคร

“เชื่อว่าเข้ากับทุก ๆ คนที่เคยมีประสบการณ์รอใครสักคนนึงตอบข้อความ แล้วแบบเขาไม่ตอบสักที แล้วได้แต่เฝ้ารอคอยแชทอะไรอย่างงั้น มันก็ไม่ได้ถึงกับเศร้ามาก แต่มันก็จะมีความหน่วง ๆ นิดนึง เป็นการรอใครสักคนนึงมากกว่า”

สตอรี MV นี้เล่าถึงอะไร

“ใน MV จะเล่าในอีกมุมนึง ที่อาจจะไม่ตรงกับตัวเพลงสักเท่าไหร่ หนูตั้งใจว่าอยากจะเล่าในเรื่องราวชีวิตของหนูมากกว่า หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นข่าวที่ผ่านมาของหนู ฟ้องร้องค่ายเก่า และปัญหาต่าง ๆ ที่เราเจอ ก็เลยอยากจะสื่อเรื่องราวที่เราเจอหรือว่ารู้สึก ผ่านตัว MV ในเรื่องของการที่เราเจอสิ่งเหล่านี้ มันกระทบจิตใจเรายังไง จนเราต้องเข้าพบจิตแพทย์ ซึ่งใน MV พี่ท็อปก็ได้มาเป็นจิตแพทย์ให้หนูได้ระบายเรื่องราวต่าง ๆ แล้วตัวพระเอกก็จะเป็นในเรื่องของโปรเจคเตอร์คอยฉายภาพเราสมัยก่อน อย่างตอนเด็ก ๆ เราชอบร้องเพลง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเราจะได้มาเป็นนักร้องจริง ๆ ใน MV เราก็เป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วย ว่าเราเคยเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง ซึ่งวันนี้เราก็ทำให้กับเด็กคนนี้ได้แล้ว แล้วก็เดินต่อไปบนเส้นทางนี้ค่ะ”

บรรยากาศในการถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง ได้ยินว่ามีซีนร้องไห้เยอะเลย

“จริง ๆ วันที่ถ่าย MV ร้องไห้ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย (หัวเราะ) แต่ว่าใน MV อาจจะตัดมานิดเดียว ด้วยความที่เป็นเรื่องราวชีวิตของเราด้วย อีกส่วนนึงก็เป็นภาพของโปรเจคเตอร์ ที่ตัวหนูเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน คือเป็นฟุตเทจที่คุณแม่ค้นมา เทปเก่า ๆ อะไรอย่างงี้ แล้วก็เอาแปลงไฟล์ แม้แต่คุณแม่ก็ยังไม่ได้เห็น เพราะเพิ่งเอามาแปลงไฟล์ไม่กี่วันก่อนถ่าย พอเราได้เห็นฟุตเทจตัวเองตอนเด็ก ๆ แบบนี้ก็น้ำตารื้น”

ประทับใจซีนไหนที่สุดใน MV

“น่าจะเป็นซีนตอนที่ได้เข้าฉากกับพี่ท็อปมั้งคะ ตอนที่ถ่ายรู้สึกว่าได้นั่งระบายกับเขาจริง ๆ เลย เราเจออะไรมาบ้าง ตอนที่ถ่าย MV รู้สึกเหมือนไม่ได้ถ่ายเลยเหมือนเรามานั่งเล่าเรื่องให้ฟัง“

เข้าฉากกับ ท็อป Lazaloxy เป็นยังไงบ้าง

“ดีค่ะ ก่อนที่จะมาถ่าย MV ก็ได้ร่วมงานกันบ่อย ๆ มันก็เลยไม่ได้เกร็ง เพราะรู้จักกันมานานพอสมควร ก็คุยกันทักทายกันมาเรื่อย ๆ ค่ะ”

เพลงนี้มีแพลนที่จะปล่อยเป็นเวอร์ชั่นอื่น ๆ อีกมั้ย

“เพิ่งปล่อยเวอร์ชั่นสงกรานต์ไปค่ะ ถ้าใครงงว่าเพลงเศร้า ๆ มันจะสนุกได้ไงต้องไปลองฟังดู ยิ่งใครชอบรถแห่น่าจะชอบมากด้วย”

ปีนี้ได้แพลนไว้มั้ยว่าเราจะปล่อยสักกี่เพลง

“จริง ๆ ก็ยังไม่ได้ตั้งจำนวนเพลงเอาไว้ว่าปีนี้จะต้องกี่เพลง คิดว่าตอนไหนที่มันปล่อยได้เลยก็จะปล่อยเลยค่ะ แต่ช่วงนี้ก็ทำเพลงตุนไว้อยู่ แล้วก็ลองดูว่าเราจะเรียงการปล่อยเพลงยังไง เพลงไหนมาก่อนมาหลัง ก็คิดว่าอย่างน้อยก็ 2-3 เดือนเพลงนึง”

 

พูดอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามพลอยชมพูกันอยู่หน่อย

“ก็อยากจะขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนด้วย หรือแม้แต่คนที่ผ่านมาให้กำลังใจอยู่ตลอด บางคนอาจจะคิดว่ากำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ มันจะมีผลอะไรกับเรา บางทีคนเข้ามาให้กำลังใจเราเยอะ ตัวหนูเองก็ได้อ่านทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ มันเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้เรามีกำลังใจในการทำสิ่งนี้ต่อไปค่ะ พอเราปล่อยผลงานแล้วคนไปฟังกัน มีฟีดแบคที่ดี เรารู้สึกว่ามันชื่นใจ แล้วก็ตื่นเต้นกับผลงานที่เราจะปล่อยออกมาในอนาคตด้วย ก็อยากจะฝากเพลงต่อ ๆ ไปกับทุกคนด้วยค่ะ”

 

สุดท้ายนี้ พูดถึงคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเพลง TIMELINE หน่อย

“คือถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ของความรักล่ะก็ จริง ๆ ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ ไม่ต่องไปจดจ่อกับแค่ข้อความบนมือถือ เพราะชีวิตจริงมันกว้างกว่านั้นมาก การที่เราใช้เวลาในโลกความเป็นจริง มันดีกว่าที่จะไปเฝ้ารอข้อความใครสักคนนึง ที่จริงเขาอาจจะเห็นแล้ว แต่เราไม่สำคัญพอที่จะให้เขาตอบ (หัวเราะ) มันก็ไม่เป็นไร เพราะว่าในชีวิตจริงสิ่งรอบข้างที่อยู่ตรงหน้าเรามันสำคัญกว่า”

you may also like

album

0
0.8
1