หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ทันตั้งตัว เอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถไปแอบส่องสามี ตอนทำงานร้องเพลงที่ร้านเหล้า เจอสาวนั่งเฝ้าสามี คอยถือของดูแลไม่ห่าง สุดท้าย สามีหนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาว 1 ขวบ และ ลูกในท้องเกือบ 3 เดือนไปเลย...

28 ก.พ. 2023

“คุณก้อย (นามสมมุติ)” อายุ 37 ปี สายแรกในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/02/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี

โดย “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘เรากำลังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกะทันหัน เพราะโดนสามีสวมเขา เรื่องเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเลย ต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเรามีลูกอายุ 1 ขวบ 8 เดือน และตอนนี้ก็กำลังท้องอยู่ 2 เดือนกว่าๆ เรากับสามีจดทะเบียนสมรสกันแล้ว และสามีเราเป็นนักดนตรี ปกติเขาจะกลับบ้านตรงเวลา เลทนิดหน่อย โทรหาก็รับสายปกติ แต่ช่วงก่อนปีใหม่นี้ เราสังเกตเห็นว่าเขากลับบ้านช้า บางวันกลับบ้านเกือบเช้า โทรหาก็ไม่รับ วิดีโอคอลไปก็ไม่รับ เราก็เอะใจว่ามีอะไรหรือป่าว...

ยิ่งหนักเข้ามันยิ่งผิดสังเกต เราก็เลยเอาลูกนั่งคาร์ซีท ขับรถตามไปดูที่ร้านเหล้าที่เขาไปทำงาน ไปแอบดูแบบเงียบๆ เจอผู้หญิงมานั่งเฝ้าเขาที่ร้านทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน สนิทกัน แต่เขาก็โกหกเราว่าไม่มีอะไร ไม่มีผู้หญิง ไว้ใจได้ มีแต่เพื่อนผู้ชาย เราตามไปเฝ้าดูประมาณ 2 เดือน ตอนแรกเห็นว่ามีคนมาเป็นกลุ่มๆ แต่ไปๆมาๆ เราเอะใจ ทำไมเห็นหน้าคนนี้บ่อยจัง ทำไมมานั่งเฝ้าสามีเรา มาถือของให้สามีเรา แล้วทำไมถึงขึ้นรถสามีเรา ตอนนั้นยังไม่กล้าบุกเข้าไปเพราะเราต้องมั่นใจก่อน กลัวสามีจะด่าด้วย อีกอย่างเขาก็ไม่ชอบที่ไม่ให้เกียรติเขา เราก็ทำได้แค่พยายามเงียบ พยายามเก็บข้อมูล

จนวันนึงมีเสื้อผ้าใหม่ๆ เสื้อผ้าแพงๆ ของแพงๆ กางเกงตัวละเกือบหมื่นมาส่งที่บ้าน เราก็ถามว่าใครซื้อให้ เขาบอกผ่อนกับรุ่นพี่ เราก็ถามว่ารุ่นพี่ผู้หญิง หรือผู้ชาย เขาบอกรุ่นพี่ผู้ชาย อ้วนๆดำๆตัวใหญ่ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เราโอเคและเชื่อ สักพักก็เริ่มมีเสื้อ มีของต่างๆมาส่งอีก เราก็ถามเขา เขาบอกว่าอ่อ อันนี้ซื้อต่อเพื่อนมา อันนี้รุ่นพี่เขาให้มา เราก็โอเค เราเชื่อ

คืนนั้นที่เกิดเรื่อง เขากลับบ้านมาประมาณตี 3 เราเห็นเขานอนดู TikTok สไลด์ไปเรื่อยๆ เราก็สงสัยว่าทำไมเขาสไลด์ TikTok แล้วกลับมาหน้าไลน์ แล้วกลับไปหน้าไลน์ แล้วก็กลับมาหน้า ไลน์อีก วนอยู่แบบนี้ ซึ่งเขาปิดเสียงแจ้งเตือน ด้วยความที่เราเก็บข้อมูลมาแน่นมากพอแล้ว เราเห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง จังหวะที่เขาเอี้ยวตัวมาหอมลูก เรากระชากมือถือ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ล็อคประตูเลย ทีนี้ก็ไปดูในไลน์ว่าเขาคุยกับใครบ้าง ตอนแรกเราหาไม่เจอ เพราะเขาลบข้อความที่แชทข้อความหมด ลบทุกอย่าง แต่ด้วยความโชคดีของเรา ผู้หญิงทักไลน์เข้ามาพอดี เราก็เลยส่งคอนแทคของผู้หญิงคนนี้จากไลน์สามีเข้าเครื่องของเรา

สถานการณ์ข้างนอกคือเขานอนนิ่ง เก็บอาหาร หน้าตึง โกรธเรามากที่เราไปยุ่งของส่วนตัวของเขา แล้วเขาก็ลุกขึ้นแต่งตัว คว้ากุญแจรถ เราก็ถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่า บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ชอบให้ยุ่งของส่วนตัว เราก็ชิงกระชากกุญแจรถ แล้ววิ่งขึ้นรถ ล็อคตัวเองอยู่ในรถ เราก็โทรคุยกับผู้หญิงคนนั้น เล่าสารพัดความไม่ดีให้ฟัง เราถามว่าซื้อของให้สามีคนอื่นแบบนี้คืออะไร คิดอะไรกันหรือป่าว ผู้หญิงบอกว่าพี่ หนูไม่ได้คิดอะไร หนูเป็นคนเปย์เพื่อน เปย์ใครๆแบบนี้อยู่แล้ว คนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนสนิทเป็นเพศเดียวกันปะ? เราก็บอกว่าใช่ เพราะเราก็มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ว่าคงไม่ได้สนิทกันถึงขั้นขนาดนี้ ไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง บางครั้งเขาเอาผู้หญิงคนนี้ไปที่วงดนตรีอื่น แล้ววงอื่นก็รู้จักกับเราทุกคน เขาทำได้แค่มองหน้ากันแล้วแบบคืออะไร ทำไมทำแบบนี้ ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง ไม่มีใครสะกิดบอก แต่เรารู้สึกด้วยเซ้นส์ของเราเอง

หลังจากนั้นลูกก็ร้อง เขาบอกว่าเดี๋ยวขอออกไปจัดการตัวเอง ไปเคลียตัวเองก่อน เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงกลับมา แล้วเขาก็หายไปเลย จนถึงตอนนี้เกือบ 1 เดือนแล้ว เขาให้เราเตรียมเสื้อผ้าบางส่วนไว้ให้สำหรับใส่ทำงาน แต่พวกเสื้อผ้าอื่นๆ ใส่เล่น ใส่เที่ยวทั่วไปก็ยังอยู่ที่บ้าน แล้วทุกอย่างในบ้านยังอยู่ที่เดิม เหมือนตอนที่เขาอยู่ เรายังไม่ได้เก็บของให้ ช่วงที่เขาหายไปก็มีการติดต่อกันบ้าง แต่คุยไปเขาก็ทะเลาะ ซึ่งเราพยายามคุยดีๆว่ามีปัญหาอะไร ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าอยู่กับเราเขาไม่มีความสุข เราคอยตาม คอยเช็ค ไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่เป็นอิสระ เราก็เลยบอกว่าเราเป็นภรรยาที่งี่เง่าน้อยมากนะ เราทำดีทุกอย่างเลย ทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ทำหน้าที่แม่ของลูกที่ดี มาว่าเราแบบนี้เพื่อปกปิดความชั่วของตัวเองหรือป่าว เขาบอกเขาไม่ได้มีใคร แค่อยากอยู่ตัวคนเดียว อยากไปไหน ทำอะไรคนเดียว อยากมีอิสระ เราก็เลยถามว่า อ้าว แล้วอิสระที่พาผู้หญิงคนนี้ไปด้วยเกือบทุกคืนคืออะไร เขาก็ถามว่ารู้ได้ยังไง เราก็บอกว่าเราเห็น ซึ่งเราเห็นจริงๆ ก็เลยพูดได้ เขาไม่ยอมรับว่าเขาคบกัน หลังจากที่หนูจับได้เขาก็ล็อคหน้าจอมือถือ เปลี่ยนรหัสต่างๆ ทำอะไรไม่ได้เลย

นอกจากเรื่องนอกใจ ความเป็นสามี ความเป็นพ่อของเขาก็โอเค แต่เขาก็ไม่ได้ซัพพอร์ตเรามากมาย ส่วนตัวเราทำธรุกิจส่วนตัว จะพูดว่าเรามีมากกว่าเขาก็ได้ และเราไม่เคยยุ่งเรื่องเงินทองของเขาเลย เขาทำงานมาก็เก็บทุกบาททุกสตางค์ มีบ้างที่เขาช่วยออกค่ากับข้าว ซื้อนั่นซื้อนี้ให้บ้างแต่เล็กน้อยมากกับสิ่งที่เราให้เขา และค่าใช้จ่ายของลูกเขาก็ช่วยรับผิดชอบน้อยมาก ขนาดแพมเพิสยังไม่เคยซื้อให้เลย มีแต่คุณยายซื้อให้หมด เราก็ไม่อยากให้เขาเอาเรามาเป็นภาระ ต้องมาช่วยจ่ายนู้นนี่ เราจ่ายได้ก็จ่าย แต่เขาก็ติดเงินคุณแม่ของเราด้วย และก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีครอบครัว มีลูก และลูกคนแรกเขาก็ไม่เคยส่งเสีย

ล่าสุดเขาบอกว่าจะไม่กลับมาเป็นครอบครัวแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากเจอหน้าเรา หลบหน้าเรา อย่างเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราต้องไปฝากท้อง ซึ่งเราก็บอกเขาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่มา ถามว่าเราสามารถเลี้ยงลูกเองได้มั้ย เราสามารถเลี้ยงได้ และเราก็ยังมีพ่อแม่ที่คอยซัพพอร์ตเราอยู่ข้างหลังด้วย เราทั้งเจ็บ ทั้งจุก เพราะลูกเคยนอนกอดเขาทุกวัน แต่วันนี้เขาเลือกที่จะทิ้งเรากับลูกๆไป เพราะผู้หญิงหนึ่งคน เพราะความโลภ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของเขา ถ้าวันหน้ากลับมาเราก็คงไม่เอาแล้ว เพราะในเมื่อวันที่เราต้องการเขา วันที่เราร้องไห้หาเขา เขากลับที่จะทิ้งเราไป

อยากถามพวกพี่ๆดีเจว่า จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี? เพราะลูกก็ถามหาพ่อ คนรอบข้างทุกคนก็ถามว่าสามีไปไหน ซึ่งทุกครั้งที่มีคำถามพวกนี้มันแทงใจมากๆ แต่คนที่ถามแทงใจที่สุด คือลูก ลูกจะถามคุณแม่ว่าปะป๊าไปไหน ทำไมปะป๊าไม่มาหาหนู...

3 ดีเจให้คำปรึกษากับ “คุณก้อย (นามสมมุติ)” ว่า ‘ก้อยแค่เจอผู้ชายที่ไม่ดี เขาไม่เหมาะที่จะเป็นสามี หรือเป็นพ่อ แยกย้ายกันถูกแล้ว สิ่งใดที่มันเกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอแหละ ครบครัวที่มีครบ มันไม่เท่ากับครอบครัวที่สมบูรณ์ การที่เราจะเป็นทั้งพ่อและแม่ มันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ให้ความสุขเขา และสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือเงิน ตอนนี้เรามีทั้งลูก ทั้งครอบครัว ส่วนใครที่เป็นภาระเรา ไม่ว่าจะเป็นภาระทางด้านการเงิน แถมภาระทางใจอีก อยู่กับคนนี้แล้วมันไม่ได้มีความสุขที่แท้จริง การที่เขาเดินออกจากชีวิตเราไป ถ้าเขาไม่ได้รักเราแล้ว การเริ่มต้นใหม่ของก้อยจะเป็นการเริ่มต้นการนับ 1 ของความสุขแล้ว มันเป็นข้อดีมากเลยนะที่ผู้ชายแบบนี้ออกไปจากชีวิตเรา

ความสุขคนเรามันไม่เหมือนกัน ความสุขของคนบางคนอาจจะมีครอบครัวสมบูรณ์ แต่ความสุขของคนบางคนคือการตัดใครบางคนที่ไม่รักเราออกจากชีวิต มันอาจจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้ การที่เขาตัดก้อยและลูกๆออกไป เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้คือภาระสำหรับเขาเหมือนกัน และแปลว่ามันไม่ได้มีค่าสำหรับเขา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่ต้องคิดถึงคนๆนึงที่เดินออกไปแล้ว

โชคดีที่ลูกยังอยู่ในวัยที่สามารถลืมได้ ถ้าเป็นไปได้อนาคตเลือกโรงเรียนดีๆให้กับเขา แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนนานาชาติ ขอแค่เป็นโรงเรียนที่ดี เพราะโรงเรียนจะสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้กับเด็กๆ แล้วของแบบนี้ไม่ต้องรีบไปฝังหัวลูกว่าพ่อเป็นคนแบบไหน แต่วันนึงเมื่อลูกโตขึ้น เราค่อยๆคุยกับเขา เดี๋ยวเขาจะเข้าใจทุกอย่างเองและอีกอย่างนึงที่เขาจะรับรู้ได้เลยว่าแม่คือทุกสิ่งทุกอย่าง

ถามว่าจะใช้ชีวิตยังไง ก้อยต้องรักตัวเองให้มากพอก่อน แล้วความรักนั้นจะส่งต่อถึงลูก ถึงคนรอบข้าง เอาชีวิตของเราเป็นที่ตั้งและมูฟออน ความสุขของลูกให้มันอยู่ที่ก้อย ถ้าวันนึงมีความสุขแล้ว เขาจะกลับมา จำไว้ว่าอย่าเอาความทุกข์กลับเข้ามาอีก...

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ห้ะ! อะไรนะ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ หยุดเจ้าชู้ไม่ได้ 15 ปีที่คบกันมา นอกใจแฟนมากกว่า 15 ครั้ง ทุกครั้งที่นอกใจ จะบอกคนที่คุยด้วยว่า ห้ามล้ำเส้นเด็ดขาด เผยเหตุผลที่ทำไปเพราะหนูชอบบริหารเสน่ห์ เช็คเรตติ้ง

31 มี.ค. 2023

ห้ะ! อะไรนะ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ หยุดเจ้าชู้ไม่ได้ 15 ปีที่คบกันมา นอกใจแฟนมากกว่า 15 ครั้ง ทุกครั้งที่นอกใจ จะบอกคนที่คุยด้วยว่า ห้ามล้ำเส้นเด็ดขาด เผยเหตุผลที่ทำไปเพราะหนูชอบบริหารเสน่ห์ เช็คเรตติ้ง

“คุณฟ้า (นามสมมุติ)” อายุ 30 ปี สายที่สองใน รายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 มี.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหามีแฟน แต่นอกใจแฟนมาตลอด โดย “คุณฟ้า (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันมา 15 ปี เขาเป็นแฟนคนที่ 2 ที่หนูคบแบบจริงๆ แต่หนูนอกใจเขาทุกปีมากกว่า 15 คนด้วยซ้ำ มีนอกกายบ้างบางคน ไม่รู้จะใช้คำว่านอกใจได้มั้ย แต่หนูชอบเช็คเรตติ้ง แบบไปอ่อย คุยกับคนนั้น คนนี้ แค่อยากเช็คความสวยว่าจะมีคนชอบเราหรือเปล่า หนูอยู่กับเขามานานมาก จนเหมือนเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน เป็นครอบครัวกันไปแล้ว ซึ่งหนูจะบอกกับคนที่มาคุยว่าหนูมีแฟนแล้วนะ ห้ามมาล้ำเส้นแฟนของหนูเด็ดขาด ถ้าใครรับได้ก็อีกเรื่องนึง ช่วงแรกๆหนูก็ภูมิใจแฟนนะ แฟนหนูเป็นคนดี แต่ตอนนี้แบบความหวานมันก็หมดไปแล้ว เราทำงานด้วยกัน อยู่ห้องเดียวกัน เหมือนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงเลย เราสองคนจะไม่ยุ่งโทรศัพท์ของกันและกันเลย แต่ส่วนใหญ่ที่แฟนจับได้ ไม่ได้มาจากคนที่คุยกับหนู แต่จะเป็นคนรอบข้างที่มาบอกเขา มาส่งซิกว่าหนูคุยกับคนนั้น คนนี้อยู่นะ พอเขารู้ เขาก็มาถามหนู หนูก็บอก แต่คือเราสองคนเลิกกันไม่ได้อยู่ดี แบบเขาเลิกกับหนูไม่ได้ และหนูก็เลิกกับเขาไม่ได้เหมือนกัน ช่วงแรกๆแฟนก็ร้องไห้ แล้วขอให้เลิกเจ้าชู้ได้มั้ย แต่หนูทำไม่ได้ เขาบอกว่าเขาแค่รับฟังคนอื่น แต่ถ้าเขาทนไม่ไหวเขาจะไปเอง แฟนเคยคุยกับคนอื่นด้วย แต่หนูไม่รู้ว่าถึงขั้นไหน หนูจับได้ก็บอกให้เขาไปเคลียร์แค่นั้นสั้นๆ แล้วเขาก็ไม่มีอีกเลย ตอนนี้หนูอยากเลิกนิสัยนี้มาก หนูพยายามไม่คุยกับคนอื่น ไม่อ่อยคนอื่น แต่มันก็ทำไม่ได้ ห้ามใจตัวเองไม่ได้อยู่ดี หนูอยากให้พี่ๆช่วยดึงสติหนูหน่อย...’ พี่ๆ 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษา “คุณฟ้า (นามสมมุติ)” ว่า ‘มันคือคนหนึ่งพิการสมอง อีกคนหนึ่งพิการหัวใจที่มาเจอกัน แต่คนที่โทรเข้ามาคือคนที่พิการหัวใจ ซึ่งอยู่ในหน้าได้เปรียบ เพราะเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว แต่ที่ต่างกันคือความละอาย ซึ่งคนอื่นมี แต่ฟ้าไม่มี.... ไม่โทษฟ้า เพราะมีคนๆนึงที่เขาทนได้ให้เอาเปรียบมาโดยตลอด แล้วในเมื่อเขาทนให้เอาเปรียบขนาดนี้ ทำไมวันนี้ถึงต้องหยุด 15 ปีไม่เคยไปไหนเลย ร้องไห้ให้ตาย ต่อให้เจ็บแค่ไหน เขาก็ยังทนให้เอาเปรียบ และก็ไม่ได้เดือดร้อนจะโทรมาปรึกษาด้วย ถ้าให้ฟ้าทิ้งแฟนไปเลย ฟ้าจะทำมั้ย? เพราะฟ้าก็รู้ตัวว่าเป็นคนเจ้าชู้ ถ้าอยากจะไปวัดความสวยก็วัดได้เต็มที่เลย เราแค่ต้องไปหาคนที่เขารับได้ แต่คนที่รับได้ก็แปลว่าเขาก็ทำได้เหมือนกันนะ ถ้าไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวมากเกินไป ถ้าเขามีก็อย่าไปว่า ไปอะไรเขา แฟร์ๆหน่อย อยู่กันแบบเสมอภาค อย่างน้อยเราจะได้เป็นคนที่ไม่ได้เห็นแก่ตัว ฟ้าไม่ได้รักแฟนขนาดนั้น ระยะเวลา 15 ปีมันคือคู่ชีวิต แต่ฟ้าไม่ได้เห็นคุณค่าของมันแค่นั้นเอง ถ้าการที่เราไม่ได้รักเขา มันก็เลยเป็นวิถีที่เราจะมองหาคนอื่น ถ้าไม่รักก็ให้เขาอยู่ในสถานะเพื่อนที่ดีที่สุด ไม่งั้นเขาก็ไม่ได้เริ่มต้นใหม่กับใครสักที ถ้าวันนึงแฟนไปเจอคนใหม่ที่นิสัยดีกว่าฟ้า ซึ่งมีโอกาสสูงมาก เพราะถ้าเจอใครสักคนที่ซื่อสัตย์ วันนั้น 15 ปีจะไม่มีความหมายสำหรับฟ้าเลย เพราะฉะนั้นละครเรื่องนี้ ไม่ได้บอกให้ฟ้าหยุด แต่มันจะจบที่แฟนฟ้าคนนี้เขาจะเจอใครสักคนนึงที่ใช่ และเขารู้เลยว่าฟ้าไม่ได้ดีพอ เขายอมไปเสี่ยงเอาดาบหน้าดีกว่าอยู่กับฟ้า เรื่องราวทั้งหมดมันจะจบตรงที่เขามีคนอื่น...’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทำยังไงต่อไปดี หนูรู้สึกขยะแขยงตัวเอง... คบแฟนคนนี้มา 5 ปี แฟนเพิ่งมาบอกรสนิยมทางเพศว่าชอบ สวิงกิ้ง เราไม่ชอบเลย แต่ที่หนูยอมเพราะรัก ครั้งแรก เขาพาผู้ชายอีกคนมาให้หนู หนักขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งที่สาม เขาพามา 3 คู่ จนหนูทนไม่ไหวแล้ว

07 เม.ย. 2023

ทำยังไงต่อไปดี หนูรู้สึกขยะแขยงตัวเอง... คบแฟนคนนี้มา 5 ปี แฟนเพิ่งมาบอกรสนิยมทางเพศว่าชอบ สวิงกิ้ง เราไม่ชอบเลย แต่ที่หนูยอมเพราะรัก ครั้งแรก เขาพาผู้ชายอีกคนมาให้หนู หนักขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งที่สาม เขาพามา 3 คู่ จนหนูทนไม่ไหวแล้ว

“คุณปุกปุย (นามสมมุติ)” อายุ 35 ปี สายที่สามใน รายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (5 เม.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาไม่ชอบรสนิยมทางเพศของแฟน “คุณปุกปุย (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกันแฟนมา 5 ปี เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาประมาณ 1-2 ปีแรกในความสัมพันธ์ของเราสองคน มันดีหมดทุกอย่างเลย แต่แฟนหนูมีรสนิยมทางเพศที่ไม่เหมือนคนอื่น เพราะเขาชอบสวิงกิ้ง ช่วงแรกๆเขาจะเกริ่นๆก่อนว่าเขาชอบสไตล์นี้ แล้วเขาก็บอกว่าถ้าเรื่องเซ็กส์ไปด้วยกันได้ มันจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นนะ ด้วยความที่หนูรักเขา ก็เลยพยายามลองเปิดใจครั้งแรก ซึ่งอันดับแรกที่เขาให้ทำก็คือเอาผู้ชายมานวดหนู นวดเสร็จก็มีอะไรด้วยกัน แล้วเขาก็นั่งดู หนูรู้สึกขยะแขยงมาก แต่ก็ต้องทำ เพราะหนูรักเขา หนูอยากรักษาความสัมพันธ์ตรงนี้เอาไว้ แต่พอมีครั้งที่หนึ่ง ก็มีครั้งที่สอง พอมีครั้งที่สอง มันก็ขยับสเต็ปไปอีกแบบนึง จากผู้ชาย 1 คนมานวด ก็กลายเป็นคู่รัก 3 คู่ที่เขามีรสนิยมเดียวกันที่หนูยังยอมอยู่ เพราะรักคำเดียวเลย ที่ผ่านมามันไม่มีความสุขเลย หนูขยะแขยงมาก หนูก็เลยพยายามปฏิเสธ เพราะมันเริ่มมีครั้งที่สี่ หนูก็เลยบอกว่าไม่ไหวแล้ว หนูขอจบแค่ครั้งที่สามพอ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม และเขาก็นอกใจหนู เพียงเพราะหนูไม่ตอบโจทย์เขาเรื่องนี้อีกแล้ว ตอนนี้เราสองคนก็ยังอยู่ในสถานะที่อยู่ด้วยกัน แต่เขาก็มีคนอื่น หนูจับได้แล้วขอให้เขาเลิก แต่เขาก็ไม่เลิก เขาพูดประมาณว่า จะอยู่ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป หนูตอบแบบโง่ๆเลยว่าหนูยอมเขา หนูคิดว่าคนนี้เขาจะคบแบบจริงจัง แต่เขาเพิ่งจะคบกัน ผู้หญิงคนนั้นยังไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เขามีรสนิยมแบบนี้ หนูพยายามที่จะออกจากความสัมพันธ์นี้แล้ว แต่พอหนูคิดถึงเรื่องนั้นหนูก็ยิ่งขยะแขยงตัวเอง รู้สึกด้อยค่าตัวเองมากๆ ไม่กล้าที่จะไปมีคนใหม่3 ดีเจจึงให้คำแนะนำ “คุณปุกปุย (นามสมมุติ)” ว่า ‘การที่หนูเป็นอยู่ตอนนี้คือการด้อยค่าตัวเองมากกว่าอีก เขาเห็นเราเป็นอะไร เราไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย แต่หนูยังเลือกให้ตัวเองเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่เขาไล่แล้วแต่เรายังไม่ไป เราจะเริ่มด้อยค่าตัวเองก็ต่อเมื่อเราตัดสินใจอยู่ต่อ ซึ่งตอนที่ปุกปุยรู้ตัวว่าไม่ชอบ และปฏิเสธสำเร็จ นั่นคือวันที่ปุกปุยรู้คุณค่าของตัวเองและคุณค่านั้นมันสูงที่สุดเลยนะ การสวิงกิ้งไม่ได้ทำให้ชีวิตคนเราต้องพังไปทั้งชีวิต มันก็มีกลุ่มคนที่ชอบรสนิยมแบบนี้ แต่ปุกปุยแค่ไปอยู่ผิดกลุ่ม และเขามีรสนิยมแบบนี้เขาก็ไม่ได้ผิดนะ แต่เขาผิดที่เลือกมีคนอื่นแล้วไล่ปุกปุยขนาดนี้ ต้องถามตัวเองว่าเราจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะเราได้คำตอบแล้วว่าคนๆนี้เขาไม่เคยรักเราเลย และมันเสียเวลาชีวิตถ้าสมมุติวันนึงเขากับผู้หญิงคนนั้นไปไม่รอด แล้วเขากลับมาอยู่กับปุกปุย เราต้องกลับไปสวิงกิ้งอีกนะ ชีวิตมันต้องตกนรกไปอีกนานแค่ไหน ซึ่งเขาก็แสดงออกให้เห็นแล้วว่าถ้าจะอยู่กับเขาได้ ต้องเป็นทาสทางเรื่องเพศเท่านั้น เพราะพอไม่มีเรื่องเซ็กส์ ปุกปุยก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับคนๆนี้เลย ส่วนคุณค่าของปุกปุยจะอยู่ที่การตัดสินใจเลยว่าจะยอมอยู่ให้เขารู้สึกว่าเราด้อยค่าต่อไปมั้ย และเมื่อไหร่ที่มูฟออน ตอนนั้นคือมีค่าเลย...เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูใกล้เรียนจบวิศวะแล้ว... แต่ตอนนี้รู้สึก ‘กลัวโลกการทำงาน’ จะทำงานได้ไหม? จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? พร้อมเผยความในใจ ตอนฝึกงานเคยโดนหัวหน้าแซว เรื่องขนาดหน้าอก ‘ของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก’ เจอแบบนี้ยิ่งกลัวไปเลย!!

28 มี.ค. 2023

หนูใกล้เรียนจบวิศวะแล้ว... แต่ตอนนี้รู้สึก ‘กลัวโลกการทำงาน’ จะทำงานได้ไหม? จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? พร้อมเผยความในใจ ตอนฝึกงานเคยโดนหัวหน้าแซว เรื่องขนาดหน้าอก ‘ของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก’ เจอแบบนี้ยิ่งกลัวไปเลย!!

“คุณเอ (นามสมมุติ)” อายุ 25 ปี สายที่สามในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (22/03/2023) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหากังวลและกลัวโลกการทำงาน โดย “คุณเอ (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูซิ่วมาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพราะหนูรู้สึกชอบและอยากทำ ตอนนี้หนูฝึกงานอยู่องค์กรใหญ่องค์กรหนึ่งเกี่ยวกับวิศวกรรม อีก 2 อาทิตย์จะจบแล้ว แต่หนูมีความกังวลและกลัวโลกการทำงานมากๆ เพราะหนูเรียนมาทั้งชีวิต ยังไม่เคยทำงานมาก่อน ซึ่งถ้าเราทำงานแล้วเราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง หาเงินเอง พอใกล้จะจบก็เลยกลัวว่าจะทำงานยังไง จะทำงานได้มั้ย? หนูเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าพอจบแล้วจะไปทำงาน หางานทำที่เราทำได้ แล้วเรารู้สึกโอเค คุณสมบัติของเราได้ ทำงานไปใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แต่พอหนูไปลองฝึกงานมันเหมือนหนูไปเรียนเลย เพราะงานที่ทำค่อนข้างจะเป็นเนื้องานมากๆเลย และด้วยความที่เพศก็เป็นเรื่องสำคัญ หนูเป็นผู้หญิงด้วย แล้วงานทางด้านสายนี้ นอกจากจะเน้นผู้ชายแล้ว ผู้หญิงก็มีแต่อาจจะมีน้อย ในเนื้องานไม่ยากหรอก แต่มันทำให้หนูรู้สึกว่าถ้าไปทำแล้วจะต้องเจออะไรบ้าง แผนกที่หนูฝึกงานเขาจะให้ฝึกแบบวนไปเรื่อยๆ แต่ยังเกี่ยวกับช่างอยู่ ทุกๆเดือนก็จะเจอหัวหน้าไม่ซ้ำกัน ซึ่งหนูใช้ชีวิตตอนฝึกงาน 3 เดือนแรกหนูรู้สึกแฮปปี้มาก ได้ออกไปดูไซต์งานทุกวัน แต่พอเมื่อเดือนที่แล้วหนูไปเจอหัวหน้าคนนึง หนูโดนพี่หัวหน้าคนนี้แซวเรื่องขนาดหน้าอก เพราะหน้าอกของหนูค่อนข้างที่จะพลัสไซส์ไปหน่อย แล้วมันเหมือนไปสะดุดตาเขา เขาชอบพูดว่าของเอ็งใหญ่กว่าของเมียพี่อีก เขาแซวหนูตั้งแต่วันแรกที่หนูฝึกกับเขา จนวันสิ้นเดือนที่หนูฝึกกับเขาเลย เลยทำให้หนูรู้สึกไม่ดีเลย และเรื่องนี้ก็เป็นส่วนนึง แต่เรื่องกลัวการทำงานก็เป็นอีกส่วนนึงด้วย มีวิธีไหนที่ทำให้หนูไม่กลัวการทำงานบ้างหรอคะ? ซึ่งพี่ๆ 3 ดีเจก็ได้ให้คำแนะนำ “คุณเอ” ว่า ‘มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เหมือนเราย้ายโรงเรียนใหม่ ย้ายสังคมใหม่ เป็นธรรมดาที่เรามองไม่เห็นภาพสังคมใหม่ เราจะกังวลไปก่อน แนะนำว่าให้อยู่กับปัจจุบัน เรียนมันไปแต่ละวันว่าสิ่งที่เราทำอยู่ เราชอบมั้ย แฮปปี้มั้ย? ถ้าเอาเรื่องเงินเป็นหลักในยุคนี้ไม่แนะนำให้ทำงานงานเดียว แต่ถ้าจะเอาเรื่องประสบการณ์ไม่ต้องคิดมากอะไรเลย แค่เรียนถูก เรียนผิดมันไปเรื่อยๆ ตามหาสิ่งที่เราชอบ วันนี้เรายังไม่มีประสบการณ์ เราก็แค่เด็กฝึกงาน แต่ถ้าวันนึงได้ไปทำงานบริษัทจริงๆ จะได้เรียนรู้อะไรมากกว่านั้น ทุกอย่างจะเก็บประสบการณ์ไปเรื่อย เท่าที่ฟังมา เอมีสกิลที่จะไปได้ในสายงานนี้ เพราะถ้าไม่รอดมันก็น่าจะไม่รอดตั้งแต่ฝึกงานแล้ว ถ้าเราได้ไปฝึกงานแล้วทำงานอย่างกับงานจริงเลย ถึงแม้จะไม่ได้ทำที่นั่น เราก็สามารถเอา Portfolio ไปยื่นที่อื่นได้ เด็กจบใหม่ที่ฝึกงานจริงมาแล้ว มีประสบการณ์จริงมาแล้ว เงินเดือนไม่แพง ทำงานได้ ใครเขาจะไม่เอา... ส่วนเรื่องหัวหน้าที่ sexual harassment มันเป็นเรื่องที่พูดยากเลย เพราะเราเป็นเด็กฝึกงาน เราทำอะไรไม่ได้หรอก ต่อให้เราไปบอก HR เขาก็ต้องเข้าข้างหัวหน้าคนนั้นอยู่ดี ถ้าเป็นพวกพี่ ยิ่งไปเจอคนแบบนี้ เราจะคิดเลยว่าสักวันนึงเราจะเก่ง จะเป็นหัวหน้าวิศวกรหญิงที่วันนึงจะมาคุยกับเขาในฐานะที่เราเป็นหัวหน้าเขา และเขาจะมาพูดแบบนั้นกับเราไม่ได้อีกเลย เราต้องหาแรงผลักดันที่ทำให้ไปถึงจุดที่เราหวังไว้ว่ามันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้... ไม่ใช่แค่คนในสายงานนี้ที่จะเป็นแบบนั้นทั้งหมด คนแบบนี้มีอยู่ทั่วไปแหละ ไม่จำเป็นต้องไปทำงานวิศวะ บางทีหน้าปากซอยก็มี ข้างบ้านเราก็เป็น คนแบบนี้มันอยู่รอบตัวเรา อย่าเอาคนแบบนี้มาทำให้สายงานด้านนี้มันดูลบไป ให้หาวิธีที่จะรับมือกับคนแบบนี้ดีกว่า เพราะแต่ละคนก็มีวิธีตอบสนองเวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้แตกต่างกันเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมา 5 ปี รู้อีกที... เป็นเมียคนที่ 4 ไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายขอไปๆมาๆ หาเมียคนที่ 1 คนที่ 2 เพราะมีลูกด้วยกัน ตอนนี้หนูตัดสินใจถอยออกมาจากบ้านเขาแล้ว... แต่ยังกลัวตัวเองจะใจอ่อนกลับไปหาเขา ถ้าเขาตามมาของ้อ

19 พ.ค. 2023

คบแฟนมา 5 ปี รู้อีกที... เป็นเมียคนที่ 4 ไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายขอไปๆมาๆ หาเมียคนที่ 1 คนที่ 2 เพราะมีลูกด้วยกัน ตอนนี้หนูตัดสินใจถอยออกมาจากบ้านเขาแล้ว... แต่ยังกลัวตัวเองจะใจอ่อนกลับไปหาเขา ถ้าเขาตามมาของ้อ

“คุณเอ็ม (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (17 พ.ค. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับแฟน โดย “คุณเอ็ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับผู้ชายคนหนึ่งมา 5 ปีแล้ว คบกันตั้งแต่หนูอายุยังไม่ถึง 20 เลย อายุเราสองคนห่างกัน 18 ปี แต่หนูมารู้ตัวอีกทีก็เป็นเมียที่ 4 ของเขาแล้ว ซึ่งช่วงปีแรกๆ หนูไม่รู้อะไรเลย มารู้ก็ช่วงคบกันได้ประมาณ 2 ปีกว่า ตอนที่คบกัน หนูอยู่บ้านเขา เราอยู่ด้วยกันจนไม่มีอะไรให้เอะใจเลย แต่หนูรู้ว่าเขามีลูก เขาบอกเลิกกันแล้ว แต่ต้องติดต่อกับแม่ของลูกตลอด ซึ่งเวลาคุยกันเขาจะคุยต่อหน้าหนู และจะคุยกันแต่เรื่องลูก ในระหว่างที่เขาอยู่กับหนู เขาไม่เคยไปหาลูกเลย วันนั้นหนูทำงานร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แล้วก็ไปเจอแฟนคนที่ 3 ของเขา เดินมาคุยกับหนู แล้วถามหนูว่าคุยกับคนนี้อยู่หรอ? หนูก็บอกว่าคุย พอกลับมาถึงบ้านหนูก็ไปถามแฟนหนูว่าคนนี้เขาเป็นใคร ยังไง เขาก็ยอมรับมาว่าเขามีแม่ของลูก 2 คน แล้วลูกอายุเท่ากันด้วย ห่างกันไม่กี่เดือน ก่อนที่เขาจะเอาหนูมาอยู่บ้านด้วย เขาก็เคยอยู่กับคนที่ 3 เหมือนกัน แต่อีก 2 บ้านแรกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน คนที่ 3 ของเขาอยู่จังหวัดเดียวกัน แต่คนละอำเภอ หนูก็ไม่เคยรู้ว่ามีคนนี้อยู่ ซึ่งช่วงที่แฟนมาเจอหนู คนที่ 3 เขาไปอยู่ต่างจังหวัด ในระหว่างที่อยู่กับหนูหลายๆเดือน แฟนหนูไม่มีการบินไปหาหรือติดต่อกันเลย จนผู้หญิงคนที่ 3 เขากลับมาแล้วมาเจอหนูว่าหนูไปเฝ้าผู้ชายคนนี้ ซึ่งแฟนหนูเขาก็ทำงานสถานบันเทิงเหมือนกัน เขาไม่เคยเลิกกันเลย เขาบอกกับหนูว่าจะเคลียร์กับทุกบ้านให้ เขาขอรับผิดชอบแค่ลูกของบ้านแรกกับบ้าน 2 แล้วเขาก็ไปเคลียร์กับคนที่ 3 ให้จริงๆ เพราะคนที่ 3 เขามาโวยวายใส่หนู แต่ 2 บ้านแรก หนูก็ไม่ได้อะไร เพราะคิดว่าเขาไม่ได้ติดต่อกัน เพราะหนูอยู่บ้านกับเขาตลอด แทบจะ 24 ชั่วโมง ตอนแรกหนูก็ไปๆมาๆ บ้านหนูกับบ้านเขา แต่ครอบครัวหนูค่อนข้างท็อกซิกนิดนึง หนูก็เลยไม่อยากอยู่บ้าน ส่วนมากก็ใช้ชีวิตที่บ้านเขา หลังจากที่รู้ได้ไม่นาน หนูเข้าโทรศัพท์เขาได้ตลอด แต่เขาไม่รู้ แล้วมีช่วงนึงที่เขาขอไปนอนบ้านแรก เขาบอกเหมือนลูกอยากอยู่กับเขา ซึ่งหนูก็มารู้ทีหลังเหมือนกันว่า บ้านแรกเขาจดทะเบียนและก็ยังไม่ได้หย่ากันด้วย เหมือนบ้านแรกเขาก็รู้ว่าผู้ชายอยู่กับผู้หญิงอีกคนนึง แต่เขาไม่รู้ว่าหนูคือใคร หนูก็โอเค ให้เขาไปได้ หนูเชื่อใจเขา เพราะลูกเขามาอยู่กับหนูก็ไม่ได้ หลังจากนั้นทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เขาก็ไปนอนบ้านแรกทุกสัปดาห์ จนมีอยู่วันนึง หนูเข้าไปเช็คโทรศัพท์เขา หนูเห็นว่าบ้านแรกส่งที่ตรวจครรภ์มาให้เขาดูว่าท้องอีกรอบนึง หลังจากที่หนูรู้ หนูก็นิ่งมาตลอด ไม่เคยถามอะไรเขา หนูนั่งนับเดือนตลอดว่าจะคลอดเดือนไหน จนถึงเดือนที่ใกล้จะคลอด หนูก็คุยกับเขาว่าสรุปจะเอายังไง จะคลอดวันไหน เขาก็อึ้งไปเลย คือ เขาไม่รู้ว่าหนูรู้เรื่องนี้ เขาคิดว่ามีคนมาบอกหนู แล้วเขาก็ยอมรับและบอกว่าเดี๋ยวจะคลอดเร็วๆนี้แล้ว หนูก็เลยถามไปว่าแล้วจะเอายังไง จะให้หนูอยู่ต่อยังไง หนูอยู่ต่อไม่ได้... เขาก็บอกว่าเขาเคลียร์กันแล้ว ผู้ชายจะเอาลูกคนเล็กมาเลี้ยง แล้วให้ผู้หญิงเอาลูกคนโตไป หนูก็เชื่อเขาอีก ถ้าเขาจะเอาลูกมาเลี้ยง หนูก็ยินดีและเต็มใจ เขาบอกว่าเขาขอโทษ เขาพลาด ไม่ได้มีอะไรกันมานานแล้ว พลาดครั้งเดียว มันก็ดันติดเลย ตอนนี้หนูก็เลยคุยกับเขา แล้วก็โอเคกัน จนถึงวันที่ผู้หญิงคนนั้นคลอด เขาก็พาไปส่งและจนถึงตอนนี้ 2 ปี จะ 3 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับมาอยู่บ้านกับหนูอีกเลย แต่ก็ยังคุยกัน เขาแค่ไม่กลับมานอนบ้านด้วยกัน หนูก็ยังอยู่บ้านเขา ตอนนี้ชีวิตหนูเหมือนมีจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง ทุกวันนี้หนูตื่นมาไม่มีความสุขเลย แล้วก็เป็นโรคซึมเศร้าด้วย เราได้เจอกันแค่ตอนเขาเลิกงานวันละ 1 ชั่วโมงเอง บางวันก็ไม่ได้เจอ แค่เวลากินข้าวด้วยกันยังไม่มีเลย เขาให้เหตุผลว่าเขาต้องช่วยดูลูกฝั่งนู้น เพราะผู้หญิงไม่ให้ลูกมาเลี้ยง ในระหว่าง 2 ปีนี้เราก็ยังมีอะไรกับเขา เขาก็ยังวาดฝันให้หนูว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกัน จะสร้างนั่น สร้างนี้ด้วยกัน จนสุดท้ายมาถึงทุกวันนี้ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้หนูเก็บเสื้อผ้ากลับออกมาอยู่บ้านหนูแล้ว แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะชอบพูดว่าถ้าหนูเจอคนใหม่ที่ดีกว่า หนูไปได้เลยนะ แต่พอทุกครั้งที่หนูจะไปจริงๆ เขาจะมาดึงหนูกลับไปตลอด แล้วหนูก็กลับไปกับเขา ล่าสุดเขาโทรมาแต่หนูไม่ได้รับ ส่งข้อความมาหนูก็ไม่ได้อ่าน หนูพยายามใจแข็งมากจริงๆ แต่หนูกลัวว่าถ้าวันนึงเขาจะมาหาหนู แล้วเจอหน้ากัน หนูกลัวจะใจอ่อน... 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษา โดยเริ่มจาก “ดีเจเติ้ล” : สมมุติถ้าเราดิ่งแล้วเค้ากลับมาวิธีแรกเลย คือ เอ็มต้องคิดว่าโหตั้งแต่จับได้จนถึงตอนนี้ มันคือชีวิตของเอ็มที่เสียเวลาไปโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย จากความทุกข์ใจที่เอ็มต้องรอคนคนนึงอยู่ ไม่มีคำตอบ ไม่มีอะไรให้เราทั้งสิ้น เอาเราไปแขวนไว้ตรงนั้น เหมือนกับเราเป็นอะไรก็ไม่รู้ จะมาก็มา จะไปก็ไป ตอนนี้คำสัญญาของเขา มันคือคำโกหกหลอกลวง เขาไม่ทำจริงหรอก เค้าเคลียร์ก็คงเคลียร์ไปตั้งแต่ตอนนู้นแล้ว มันชัดเจนตั้งแต่ที่บอกเอ็มว่าจะไปดูแลลูกแต่ก็ไปเผลอมีอะไรกันกับเมียคนแรก จนมีลูกอีกรอบ เค้าคงเห็นหนูเป็นแค่ชู้ทางใจ เค้าให้ค่าหนูเท่านี้แหละ เพราะฉะนั้นถ้าเค้าจะดึงให้หนูกลับมาอีกหนูต้องคิดแล้วนะ ว่าถ้าหนูกลับไปหนูก็จะต้องกลับไปเป็นแบบเดิม เวลาที่เหลือในชีวิตหนูอ่ะ หนูอยากจะเห็นตัวเองเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเมื่อไหร่ ตอนเนี่ยไม่มีใครที่จะพาตัวหนูออกมาได้เลย เพราะถ้าหนูกลับไปมันก็เป็นตัวหนูที่เลือกกลับไปเอง ซึ่งมันก็จะไม่มีจุดสิ้นสุดเลย เพราะยังไงเค้าดูก็เป็นคนที่ไม่ปล่อยหนูอยู่แล้ว อย่างที่สอง คือ อยากให้หนูคิดในมุมที่ว่า ตอนนี้มีพ่อกับแม่ที่ต้องการหนู ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่างเพื่อดูแลเขา ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่หนักหนาสำหรับชีวิตเราแล้วแหละ แต่ถ้าหนูยังจะมีผู้ชายคนนี้อีก มันก็จะเป็นสามเด้งเลยนะ หนูจะเอาเวลาไหนไปเติบโตในชีวิตอ่ะ หรือไปมีชีวิตที่มันดีขึ้นกว่านี้และระหว่างทางที่หนูมีคนมารู้จัก หนูลองเปิดใจดูก็ได้นะ เผื่อมันจะมีคนดีๆที่เขาเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ใช่คนแบบนี้ แล้วทำไมเราจะต้องเสียดายคนดีๆที่มีโอกาสรู้จักไป เพราะผู้ชายแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วเค้าลากหนูไปไม่ได้นะ ถ้าหนูไม่กลับไปเอง สุดท้ายมันเป็นขาของหนูสองขาที่เดินตามเขากลับไปเอง เพราะฉะนั้นถ้าหนูรู้ตัวแล้วมันก็เป็นขาของหนูเองที่จะอยู่กับบ้านไม่ออกไปกับเขา... “ดีเจต้นหอม” : เอ็มต้องยอมรับความจริงก่อนว่านี่มันไม่ใช่ความรัก ที่ได้อยู่ มันเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน คนรักกันไม่ทำกันอย่างนี้อยู่แล้ว ดูจากพฤติกรรมที่เรามาผู้ชายคนเนี้ยไข่ไปทั่ว แล้วก็เอาไปทั่ว ในจังหวะที่เมียกำลังท้องก็ไปมีอะไรกับอีกคนนึง เอ็มก็บอกเองว่าในขณะที่อยู่กับเอ็มเค้าไม่เคยไปดูลูกเลย แสดงว่าความรับผิดชอบของผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ดีเลย แต่ในวันนี้คงไปตกลงไปดิวอะไรกับเมียซักอย่างนึง เมียถึงต้องยื่นคำขาดมาว่าต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก เค้าก็เลยให้เอ็มได้แค่นี้ และการได้อยู่บ้านเขามันไม่ใช่สิทธิพิเศษนะ มันแค่ผู้หญิงคนอื่น ไม่ได้มาอยู่เพื่อเฝ้ารออะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่เอ็มอยู่รอ ในวันนี้เป็นเรื่องที่ดีนะที่เอ็มตัดสินใจว่า จะไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว มีทางไป ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเอ็มไม่ใช่เรื่องผู้ชายแต่คือเรื่องเงิน แนะนำให้เปลี่ยนโฟกัสเลย ผู้ชายเอาปัญหาเค้ามาถ่วงอีก เขาก็ไม่ได้เข้ามาให้ความรัก ไม่ได้เข้ามาเป็นแบตเตอรี่ ไม่ได้เข้ามาชาร์จแบตให้ที่ทำให้มี energy หรือรู้สึกดีขึ้น แถมยังทำให้เป็นโรคซึมเศร้าอีก เขาคือภาระ เขาคือมะเร็ง เขาจะก้าวเข้ามาในชีวิตเราไม่ได้แล้ว บล็อกทุกอย่าง แล้วเวลาดิ่งเขาไม่ได้อยู่ช่วยแก้ปัญหา เพราะคนนี้คือคนที่ทำให้เราดิ่งลงไปอีก มันไม่มีทางแบบเติมน้ำให้เต็มในทะเลทราย ซึ่งผู้ชายคนนี้ไม่ใช่โลกทั้งใบของเอ็ม แต่เป็นถังขยะ เอาตัวเราไปอยู่ในที่ที่ถูกต้องดีกว่า โฟกัสวันนี้คือเรื่องงาน เรื่องเงิน คิดว่าวันนี้เราจะทำยังไงให้ได้เงิน ทำยังไงให้สภาพ การเป็นอยู่ของเรามันดีกว่านี้ แล้วมันอาจจะมีคนเข้ามาในชีวิตเอ็มอีกแหละ ให้ระวังในวันที่เราเป็นโรคซึมเศร้า คนที่เข้ามาอาจจะทำให้เราดิ่งอีก วิธีการ คือ อย่าเอาชีวิตตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น เราจะเริ่มมีใครซักคนนึงอาจจะแบบใจเย็นๆ คือ รอดูว่าให้เขามาเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ละ แนะนำให้เช็คบิลเลย เราไม่เอา ถ้าวันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะออกมา ขั้นแรกคือบล็อก เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นข้อความเขาขึ้นอยู่ จนรู้สึกว่าเนี่ยเค้ามาตามง้อละ มันเป็นการหลอกตัวเองเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองสำคัญ ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยสำคัญเลย แต่เราแค่ปิดประตูความจริงอยู่ เพราะการกระทำเค้ามันชัดมาก คนเป็นแฟนกันหายหัวไปเดือนนึง คนเป็นแฟนกัน มันต้องรู้แล้ว เราต้องรู้แล้วว่าเราไม่ได้สำคัญ แต่นี่หายหัวไปสองเกือบสามปี หล่อเลี้ยงด้วยการมาเจอกันวันละ 1 ชั่วโมง คนรักกันไม่ห่างกันขนาดนั้นอยู่แล้ว ให้มันเจ็บแล้วมันจบ เพราะไม่งั้นมันมูฟออนหรือเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ การที่เราเป็นโรคซึมเศร้าเพราะใครคนหนึ่งที่ไม่ได้รักเรามันสุดมากแล้วนะ จะป่วยทั้งที ก็ป่วยกับคนที่มันสมควรที่ทำให้เราเจ็บหน่อยดิ เพราะเท่าที่ฟังมาไม่มีอะไรดีเลย แต่วันนี้เริ่มต้นใหม่ได้อ่ะ ถ้าลุกขึ้นได้เร็ว ก็วิ่งได้เร็ว คิดซะว่าถึงแล้วต้องวิ่งละ จะไม่ย่ำอยู่กับที่ หมดเวลาละ ปาดน้ำตา ปัดมาสคาร่าออกไปหาแขกเราต้องการเงินค่ะ... “ดีเจเผือก” : พี่ไม่รู้สึกถึง ความมั่นคง ความมั่นใจ ความเด็ดเดี่ยว ที่จะพาตัวเองออกจากสถานการณ์นี้เลย มันชัดเจนไปหมดเนอะ คนๆหนึ่งที่ผ่านความรักมา 4 เมีย มันไม่น่าจะใช่คนที่เราเห็นได้บ่อยๆ อันนี้เค้าพาตัวเองมาถึงจุดที่มี 4 เมียได้ ปัญหาของเมียแต่ละคนก็เยอะแยะไปอีก ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงพยายามถามหาข้อดีว่าอะไรที่ทำให้เราทนอยู่กับคนๆนี้ได้ เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต และวันนี้ที่เอ็มโทรมา เอ็มไม่ได้มีพลังพอที่จะพาตัวเองออกมาจากจุดนั้นได้ มันเพราะอะไร คงจะไม่ใช่เรื่องของเหตุผลแล้ว เพราะถ้าวันนี้เราคุยกันด้วยเหตุผล มันไม่มีข้อดีเลยนะ เพราะถ้ามันเป็นเรื่องของเหตุและผล เอ็มทำความเข้าใจกับมันได้ เอ็มคงเดินออกไปนานแล้ว ถ้าการอยู่ใกล้แล้วมันห้ามใจตัวเองไม่ได้ การพาตัวเองไปอยู่อีกที่ก็เป็นทางออกที่ดี ซึ่งพี่ก็เห็นด้วยว่าชีวิตของเอ็มปัญหามันรุมเร้าเหลือเกิน ชีวิตคนเรามันจะมีปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้ และเราก็ต้องเผชิญมันในทุกๆวัน แต่มันมีปัญหาที่เอ็มเลี่ยงได้ กับการพอสักทีกับผู้ชายคนนี้ เอ็มหยุดมันได้ แต่เหมือนกับเอ็มไม่ยอมให้ตัวเองออกจากปัญหานี้ คนเราต้องหัดเอาปัญหาออกจากตัวเอง และเราก็เห็นๆกันอยู่ว่าเราสามารถหยุดมันได้ และไม่มีใครมาดึงใครทั้งนั้น เห็นแค่ว่าเค้ากวักมือเรียกเราก็พร้อมที่จะกลับไปหาเขาแล้ว หลังจากนี้ก็เป็นกำลังใจให้ในสิ่งที่ตั้งใจทำให้มันสำเร็จ ไปตั้งหลักที่อื่นยังไงก็ลองดูสักตั้ง ถ้าใจเรามันอ่อนก็ให้เทคโนโลยีช่วย โดยการบล็อกเขาซะ ถ้าวันไหนที่ไม่มีสติก็ย้อนกลับมาฟังสิ่งที่ตัวเองพูดกับพวกพี่ในวันนี้แหละ....เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1