“แนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมเผยความในใจสุดซึ้ง

ENTERTAINMENT NEWS

“แนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมเผยความในใจสุดซึ้ง

28 มิ.ย. 2022

    ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่คุณพ่อป้ายแดง “แนนนี่ ภัสสรณันฐ์ สุนทรฐิติ” อดีตเกิร์ลกรุ๊ปสาววง เกิร์ลลี่เบอร์รี่ และสามี “ปวินท์ สุนทรฐิติ" ได้คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมตั้งชื่อสุดน่ารัก “น้องเอเรน” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา

      ซึ่งทางคุณแม่ได้โพสต์ภาพคู่กับเบบี๋ตัวน้อย พร้อมเขียนข้อความในใจสุดซึ้งผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว “ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ภาพนี้! ชั้นผู้อุ้มเด็กไม่เป็นด้วยซ้ำ เล่นกับเด็กก็ไม่เป็น แต่วันนี้มีลูกเป็นของตัวเองละจ้า แม่จะทำให้ดีที่สุด จะรักหนูให้ดีที่สุดนะ เจ้าเอเรนน้อย”

ทันทีที่ได้เห็นความน่ารักของหนูน้อยเอเรน เพื่อนๆ ในวงการบันเทิง และแฟนๆ ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกับคุณแม่ป้ายแดงอย่างล้นหลามกันเลยทีเดียว

EFM 94 ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

 

ภาพ : nannie__nn


related ENTERTAINMENT NEWS

เตรียมเปิดประตูสู่จักรวาล “Miss Universe Thailand 2022” ประกาศรายชื่อสาวงาม 45 คนสุดท้ายผ่านเข้ารอบ “ออดิชั่น”

29 มิ.ย. 2022

เตรียมเปิดประตูสู่จักรวาล “Miss Universe Thailand 2022” ประกาศรายชื่อสาวงาม 45 คนสุดท้ายผ่านเข้ารอบ “ออดิชั่น”

ศึกชิงมงกุฏได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับการประกวด “Miss Universe Thailand 2022” ที่เปิดฉากมาพร้อมคอนเซ็ปต์แบบใหม่แบบสับ “NEW BEGINNINGS”หรือ“ก้าวสู่รุ่งอรุณใหม่ไปด้วยกัน”เพื่อเฟ้นหานางงามที่ครบเครื่อง และจะเป็นตัวแทนสาวไทยไปสู้ศึก “MISS UNIVERSE 2022” พิชิต “มงสาม” ที่รอคอยมานาน ซึ่งเปิดฉากการประกวดด้วยSPECIAL EP 1. First Gate To Universe เพื่อคัดเลือกสาวงามเข้าสู่รอบ “ออดิชั่น” ล่าสุดเวที “Miss Universe Thailand 2022” ได้ประกาศรายชื่อสาวงามทั้งหมด 45 คนสุดท้าย เพื่อไปฟาดฟันกันต่อด้วยการโชว์ศักยภาพต่อหน้าคณะกรรมการ และช่วงชิงตั๋วเข้าสู่รอบ 30 คนสุดท้าย ทั้งนี้ “เฟิร์ส ประภัสสร ไทยเสถียร” หนึ่งในผู้ผ่านเข้ารอบ ไม่สามารถเข้าร่วมประกวดต่อไปได้ เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ของกองประกวด ติดตามรายชื่อสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 45 คน ได้ทาง Facebook : Miss Universe Thailand และติดตามการประกวด EP.2 THE CHOSEN ONES (Audition Top 30) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ถ่ายทอดสดทาง Trueid ภาพ : Miss Universe Thailand

ฉลองปีที่ 16 แบบเต็มแมกซ์ของวงแบนด์ตัวตึงแห่งยุค FTISLAND ใน "2023 FTISLAND LIVE 'RE : FTISLAND' IN BANGKOK"

19 มิ.ย. 2023

ฉลองปีที่ 16 แบบเต็มแมกซ์ของวงแบนด์ตัวตึงแห่งยุค FTISLAND ใน "2023 FTISLAND LIVE 'RE : FTISLAND' IN BANGKOK"

สนุกแบบตะโกน!! สำหรับการกลับมาเยือนเมืองไทยในรอบ 5 ปี ของ 3 หนุ่มชาวเกาะ FTISLAND ซึ่งประกอบด้วย Lee Hong Gi (อี ฮงกิ), Lee Jae Jin (อี แจจิน) และ Choi Min Hwan (ชเว มินฮวาน) กับคอนเสิร์ตที่มันส์สุดของแห่งปี สมศักดิ์ศรีศิลปินระดับตัวแด๊ด! 2023 FTISLAND LIVE 'RE : FTISLAND' IN BANGKOK ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ไบเทค ฮอลล์ 1-3ซึ่งกลับมาครั้งนี้ FTISLAND ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทั้ง “พรีมาดอนน่า” (ชื่อแฟนคลับ) ที่มากันแน่นฮอลล์คอนเสิร์ต รวมถึงคณะสื่อมวลชน ที่มาร่วมงานแถลงข่าวและงานคอนเสิร์ตกันอย่างหนาแน่นไม่แพ้กัน โดยทั้ง 3 หนุ่มออกมาต้อนรับพร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยสิ่งแรกที่พวกเขาพูดถึงคือความคิดถึงประเทศไทย อาหารไทย และพรีมาดอนน่าไทย ที่บอกเลยว่าครั้งนี้เตรียมความพิเศษมาฝากอีกเพียบ และดีใจมากที่สุด ที่ได้มาฉลองครบรอบเดบิวต์ 16 ปี ร่วมกับแฟนๆ ชาวไทยในคอนเสิร์ตครั้งนี้รายงานความพร้อมแบบ 100% กันแล้ว ก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย เตรียมนับถอยหลัง 3 2 1 สู่ 2023 FTISLAND LIVE 'RE : FTISLAND' IN BANGKOK เหล่าพรีมาดอนน่าพร้อมเพรียงกันโบกธง และแท่งไฟจนทั้งฮอลล์กลายเป็นสีเหลืองทอง พร้อมกรี๊ดกันแบบสุดเสียงต้อนรับ 3 หนุ่ม อีฮงกิ,อีแจจิน และ ชเว มินฮวาน ขึ้นบนเวที พร้อมประจำการในตำแหน่งของแต่ละคน ประเดิมเสียงร้องอันทรงพลัง และดนตรีอันหนักหน่วงกระแทกใจ ด้วยเพลง Don't Lose YourSelf ,TIME TO และ PRAY ซึ่งทำเหล่าพรีมาดอนน่านั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกกระโดดกันตั้งแต่วินาทีแรก!ทั้ง 3 หนุ่ม ขอเบรกทักทายแฟนๆ อย่างเป็นทางการ ด้วยการแนะนำตัวเป็นภาษาไทย เริ่มที่หนุ่มฮงกิ ที่ทักทายด้วยประโยค “สวัสดีครับ ผมฮงกิครับ ผมรักคนไทยมากๆ เก่งจังเล้ย!” หนุ่มแจจิน และมินฮวาน อ้อนต่อ “คิดถึงมากๆ ครับ” เป็น 5 ปีที่คิดถึงพรีมาดอนน่าไทยมากๆ วันนี้ขอให้ทุกคนสนุกจนจบคอนเสิร์ตนะ และไปสนุกต่อกับลิสต์เพลงใหม่ที่แฟนๆ จะได้ฟังเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น Champagne, PUPPY, Falling Star และ FREEDOM ซึ่งพอจบเพลย์ลิสต์นี้ นักร้องนำอย่างหนุ่ม “ฮงกิ” ถึงกับลงไปนอนบนเวที เพราะวิ่งไปหาแฟนๆ ทั้งฝั่งซ้าย-ฝั่งขวา ร้องไปวิ่งไปแบบเสียงไม่ตกแม้แต่โน้ตเดียว ส่วนแฟนๆ ด้านล่างเวทีก็มันส์ไม่แพ้กัน บัตรนั่งกลายเป็นบัตรยืน เก้าอี้มีหน้าที่เป็นแค่พร็อพเท่านั้น!!และไปสนุกโดดต่อไม่แคร์ข้อเข่ากับเพลง The Night, Want และ Take me now หลังจากนั้น...มาถึงอีเว้นท์พิเศษที่หนุ่มๆ เขาเตรียมมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ เหมือนแฟนมีตติ้งเล็กๆ ได้นั่งพูดคุยกับเหล่าพรีมาดอนน่า เล่นเกมส์ทายเพลงของ FTISLAND ที่ชาวพรีมาดอนน่าไทยชอบมากที่สุด ภายใน 1 วินาที ซึ่ง 3 หนุ่มตอบถูกทั้ง 5 เพลง เรียกว่ารู้จักรู้ใจกันสุดๆ ก่อนพาแฟนๆ ไปหูเคลือบทองคำกับโชว์สุดพิเศษที่มาแบบ Acoustic Live เปิดด้วยเพลง Don't love ,Do You Know why, Severely และ WIND ขอยกพาร์ตนี้ให้เป็นสเตจเสียงสวรรค์ ยิ่งคลอไปกับเสียงร้องของเหล่าพรีมาดอนน่าบอกได้คำเดียวว่าเพอร์เฟค! ไม่ปล่อยให้แฟนๆ พักนาน ขึ้นชื่อว่าคอนเสิร์ตของ FTISLAND ทุกคนต้องมาโดดและโยกให้หัวหลุดเท่านั้น! สเตจถัดมาถึงเวลามือกลองหนุ่ม “มินฮวาน” ได้ปล่อยของกับสเตจ M.H Drum Solo เท่สุด ระเบิดสุด ก่อนอีก 2 หนุ่มจะขึ้นมาบรรเลงความสนุกอีก 2 เพลงสุดท้ายของวันนี้ เพลง Hourglass และ Aquaสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ที่ตั้งตารอมา 5 ปี ชาวพรีมาดอนน่าขอต่อเวลาแห่งความสุข ความสนุก ออกไปอีกนิด ระหว่างที่ 3 หนุ่มไปเตรียมตัวสำหรับอังกอร์ แฟนๆ ส่งเสียงเรียกพวกเขาตลอดเวลา และทั้ง 3 หนุ่มกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง กับเพลง Still With U และเผยความรู้สึกขอบคุณเหล่าพรีมาดอนน่าที่มาหาพวกเขาทั้ง 3 คนในวันนี้อีกด้วย...โดยฮงกิ ก็ได้บอกว่าการได้ทัวร์อีกครั้งในปีนี้แม้จะยุ่ง แต่อยากที่จะได้มาสนุกกับแฟนๆ ชาวไทย รู้สึกขอบคุณทุกๆคนด้วย ครั้งหน้าพวกเขาก็จะมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ และเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบเดบิวต์ 16 ปี ในฐานะ FTISLAND พร้อมกับอัลบั้มใหม่ๆ และคอนเสิร์ตต่อๆไป ส่วนแจจิน เองก็บอกว่า "ตั้งแต่เดบิวต์ พวกเราก็ชอบเมืองไทยมาตลอด พรีมาดอนนน่าไทยให้ความรักและกำลังใจกับพวกเราเสมอ ครั้งต่อไปหวังว่าพรีมาดอนน่าจะให้กำลังใจกันต่อไป อย่าป่วย หาเงินได้เยอะๆ ขอให้มีความสุขครับ" ปิดท้ายที่ มินฮวาน "พวกเราไปเกณฑ์ทหาร และมีโควิด-19 ด้วย ทำให้มีช่องว่างในการทำงานยาวพอสมควร แต่ว่าพอได้มาร้อง มาเล่นดนตรีให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ เรามีความสุขมากจริงๆ จากนี้ไปก็จะไม่มีอะไรขัดขวางได้แล้ว เราจะพยายามทำอัลบั้ม และคอนเสิร์ตต่อไปนะครับ"สุดท้ายก่อนจะโบกมือลา พวกเขาก็ขอส่งเพลง Paradise เป็นของขวัญสุดท้าย ก่อนที่จะเซอร์ไพร์สยิ่งกว่า เมื่อพรีมาดอนน่าไทย เตรียมโปรเจกต์พิเศษมามอบให้พวกเขา ไม่ว่าจะเป็นป้ายแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า "에프티를 지켜줘서 고마워요" ซึ่งมีความหมายว่า “ขอบคุณที่ปกป้องเอฟทีนะ” และแปลอักษรเป็นคำว่า “16주년” ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า “16ปี” รวมถึงยังมีเค้กสุดน่ารักที่มามอบให้ 3 หนุ่ม เพื่อฉลองวันครบรอบเดบิวต์ 16 ปีไปด้วยกัน ซึ่งเหล่าพรีมาดอนน่าก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เวอร์ชั่นเกาหลีให้หนุ่มๆฟังอีกด้วย แม้จะดำน้ำไปหน่อย แต่ทั้ง 3 หนุ่ม ก็สัมผัสได้ถึงความรักของแฟนๆ ที่มีต่อพวกเขาแน่นอน ยกให้เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจ สำหรับ 2023 FTISLAND LIVE 'RE : FTISLAND' IN BANGKOK เพราะไม่ว่าจะเป็น แสง สี เสียง โปรดักชั่น เรียกได้ว่าจัดเต็ม เมื่อบวกกับความเป็นหนึ่งด้านดนตรีของ 3 หนุ่ม FTISLAND ที่ทั้งร้องสด เล่นสด พลังร้อง พลังดนตรี ที่ไม่ใช่แค่เพราะ แต่กระแทกไปถึงใจคนฟัง ทำให้ตลอด 2 ชั่วโมงในคอนเสิร์ต ไม่มีวินาทีไหนที่แฟนเพลง แฟนคลับของพวกเขา ไม่สนุก ไม่กระโดด ไม่มันส์ ทำให้ FTISLAND ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เป็นวงดนตรีที่สักครั้งในชีวิตต้องมาชมพวกเขาเล่นคอนเสิร์ตให้ได้!!!ภาพ Ujin Entertianment

จบสนาม 2 วอลเลย์บอลสาวไทย ชนะ 4 แพ้ 4 มี 12 คะแนน ลุ้นต่อสนามที่ 3 ที่กรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย

20 มิ.ย. 2022

จบสนาม 2 วอลเลย์บอลสาวไทย ชนะ 4 แพ้ 4 มี 12 คะแนน ลุ้นต่อสนามที่ 3 ที่กรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย

ภาระกิจสัปดาห์ที่ 2 ของทีมนักวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย เสร็จสิ้นลงแล้ว กับการแข่งขัน "วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2022" สนาม 2ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ผลงานของนักตบสาวไทย ชนะ 1 แพ้ 3 ได้ 4 คะแนน ซึ่งทำให้ตอนนี้ ทีมนักตบสาวไทย มีผลงาน ลงแข่ง 8 นัด ชนะ 4 แพ้ 4 มี 12 คะแนน อยู่อันดับที่ 8 จากทั้งหมด 16 ทีมยังมีลุ้นเข้ารอบไฟนอล 8 ทีมสุดท้าย ส่วนจ่าฝูง เป็นทีมสาวญี่ปุ่นที่ฟอร์มร้อนแรงแบบไร้พ่ายมี 23 คะแนน อับดับ 2 ทีมสหรัฐอเมริกา 21 คะแนน อันดับ 3 บราซิล 18 คะแนน สำหรับการแข่งขันสนามที่ 3 ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 จะมีขึ้น ที่กรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ส่วนโปรแกรมสัปดาห์ที่ 3 ของทีมนักตบสาวไทย ต้องบอกว่าเดือดสุดๆ แมตช์แรก วันที่ 29 มิถุนายน 2565เวลา 21.00 น. ไทย พบ เกาหลีใต้ แมตช์สอง วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลา 17.30 น. ไทย พบ โดมินิกัน แมตช์สาม วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.30 น.ไทย พบ บราซิล แมตช์สี่ วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.30 น. ไทย พบ อิตาลี มาร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้นักวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทยได้ผ่านการถ่ายทอดสด ทางช่อง GMM25 และ ONE 31ไทยแลนด์สู้ สู้ !!ภาพ : volleyball.teamthai

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

27 ธ.ค. 2022

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

รายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม 2565) ได้เชิญ ‘คุณแจ็ค The Ghost Radio’ กลับมาเล่าเรื่องผีกันอีกครั้ง คราวนี้แพ็คความหลอนมาเต็มกระเป๋าต้อนรับปีใหม่ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ผีในวงเหล้า’ งานนี้ทำเอาดีเจแนน และดีเจซันเดย์ต้องอ้าปากค้าง ยกให้เป็นเรื่องหลอนระดับสิบกันเลยทีเดียว !คุณแจ็คเกริ่นเรื่องว่า ในทุก ๆ วงสนทนา และการดื่มกินสังสรรค์ ภายใต้ค่ำคืนแห่งความมืดมิด บรรยากาศหลอน ๆ ชวนให้ต้องเล่าเรื่องผี ดังนั้นเรื่องที่จะเล่านี้ ผีไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในวงเหล้าให้เห็นจะ ๆ แต่เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในวงสนทนาเรื่องนี้มาจาก ‘คุณเยี่ยม’ เพื่อนของ ‘คุณเซน’ แฟนรายการ The Ghost Radio เขาเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกลุ่มคน 12 คน ที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นพยานความหลอนในครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่พึ่งเข้าไปทำงานใหม่กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในตำแหน่ง ‘โฟร์แมน’ หรือ ‘ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง’ ครั้งนั้นได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสร้างห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปราจีนบุรี ทางคุณเยี่ยมและเพื่อนร่วมงาน ก็ต้องเดินทางไปประจำที่ไซต์งานแห่งนั้น โดยทางบริษัทได้จัดหาที่พักไว้ให้ และต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 เดือนเต็มที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นคูหาทั้งหมด 8 ห้องใหญ่ กำแพงไม่ติดกัน เหมือนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ๆ ลึกเข้าไป ด้านหน้าของตึกติดตั้งระเบียงเหล็ก (คล้ายกับตะแกรงเหล็ก) และมีบันไดขึ้นทั้ง 2 ทาง เหมือนทางขึ้นเมรุอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทางบริษัทจัดหาไว้ให้ 3 ห้อง นับเรียงจากฝั่งซ้าย (คุณแจ็คขอเรียกเป็นห้องซ้าย ห้องกลาง ห้องขวา) แต่ละห้องจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน (นอนด้วยกันห้องนอนละ 2 คน ก็จะพอดีจำนวน 12 คน) คุณแจ็คเล่าเสริมว่า อาชีพโฟร์แมนจะมีความรู้เรื่ององค์ประกอบการก่อสร้าง แต่เมื่อได้เห็นที่พักที่ถูกจัดให้พักนั้นก็เกิดความรู้สึกว่ามัน ‘แปลก’ ชอบกลในแต่ละห้อง ส่วนของชั้นล่างจะโล่ง มีบันไดขึ้นชั้นบน มีห้องนอน 2 ห้อง คือ ห้องนอนด้านหน้าที่ติดกับระเบียงเหล็ก และห้องนอนด้านหลัง ส่วนที่แปลกคือประตูทางเข้าของห้องนอนด้านหน้าต้องเข้าจากทางระเบียงเท่านั้น ไม่มีประตูให้เข้าจากข้างใน แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงใด เหล่าโฟร์แมนทั้ง 12 คนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่พักแห่งนี้ถูกจัดมาให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะให้หาที่พักใหม่ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองวันหนึ่ง หลังจากเลิกงาน ก็มีปาร์ตี้สังสรรค์กินดื่มกันบ้างเป็นเรื่องปกติ 1 ใน 12 โฟร์แมน นามว่า ‘คุณต้อม’ บอกว่ารู้สึกเหนื่อย จึงขอเข้าไปนอนพักแทนที่จะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน สมาชิกที่เหลือไม่ได้ผิดสังเกตอะไร จึงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณต้อมก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้อง แล้วบอกว่า “ผีอำว่ะ” เพื่อนร่วมงานที่เป็นชายปากกล้าก็ถามกลับไปว่า “คิดมากไปหรือเปล่า นอนมากไป ฝันมากไป ผีไม่มีหรอก และผีที่อำเนี่ย ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิง เดี๋ยวจัดการให้” สิ้นเสียงนั้น ทุกคนในที่นั้นก็เห็นผ้าขนหนูผืนบางที่ถูกแขวนอยู่ตรงผนังหลุดออกมา แล้วก็ถูกเหวี่ยงมาใส่หน้าของผู้ชายคนนั้น! ทุกคนทั้งอึ้งและงงกับเหตุการณ์นั้น จากนั้นพี่ซีเนียร์ในกลุ่มก็พยายามพูดเพื่อไม่ให้ทุกคนหวั่นกระเจิงไปกันใหญ่ว่า “ห้องนี้ไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างให้มันดี ลมมันอาจจะพัดมาก็ได้” แต่ทุกคนก็อดคิดไม่ได้ช่วงกลางวันของวันต่อมา คุณเยี่ยมก็ออกเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือบริเวณหน้าประตูมีปี่เซียะตั้งอยู่ นั่นไม่ใช่จุดที่ผิดสังเกต แต่สิ่งที่ชวนสงสัยคือทุกซอกทุกมุมของตึกไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง มีปี่เซียะวางอยู่ทุกจุด! คุณเยี่ยมคิดว่าเจ้าของตึกอาจจะมีความเชื่อทางด้านนี้ และเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปี่เซียะมีไว้ทำไม จึงไม่ได้สนใจแม้จะสงสัยอยู่ในใจก็ตามหลังจากนั้นหลังเลิกงาน ปาร์ตี้สังสรรค์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปนอน เริ่มจากห้องกลาง เป็นห้องของคุณเยี่ยมและคุณต้อม ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับประมาณตีหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาจากบันได คล้ายกับเสียงรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง คุณเยี่ยมนอนฟังอยู่ก็นึกสงสัยว่าใครกันที่จะใส่รองเท้าแบบนั้นเดินขึ้นบันได เพราะทั้งเขาและคุณต้อมต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ จากเสียงรองเท้ากระทบกับปูนก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่กระทบกับเหล็กดัง “ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง” ไปตามจังหวะการเดินคุณเยี่ยมที่นอนอยู่มองเห็นเงาของผู้หญิงผ่านหน้าต่าง สักพักเงานี้ก็เอาอะไรบางอย่างทุบกำแพงดัง “ตึงๆๆๆๆ” ซึ่งคุณเยี่ยมที่นอนอยู่ก็คิดว่าคงโดนเข้าให้แล้ว จึงหันไปหาคุณต้อมที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็พบว่า คุณต้อมเองก็ไม่ได้หลับเช่นกัน! ทั้งคู่ตาเบิกโพลงและทำได้แค่มองหน้ากัน ไม่ทันได้หายตกใจ เงาร่างนั้นก็เดินไล่บนระเบียงไปห้องซ้ายไปห้องขวา เดินไปเดินมา (ระเบียงเชื่อมกันหมด) จนถึงตีสาม คุณเยี่ยมและคุณต้อมก็ยังนอนฟังเสียงนั้นอยู่และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร!วันต่อมา ทั้งคู่ได้เล่าเรื่องที่เจอให้กับทุกคนฟัง ฝ่ายห้องขวาเป็นผู้หญิงก็บอกว่า “หนูคิดว่าหนูได้ยินแค่ 2 คน” ส่วนห้องทางซ้ายเป็นพี่ซีเนียร์คู่กับผู้ชายปากกล้าก็บอกว่า “ได้ยินเสียงเดินแบบนี้ทั้งคืน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” เมื่อทุกคนไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร แต่หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ เมื่อเข้าสู่เวลาตีหนึ่ง เสียงนั้นก็จะดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีใครใจกล้าพอที่จะออกไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่..เรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นจากห้องข้างหน้าไม่พอ ห้องข้างหลังเองก็เช่นกัน เขาเล่าว่า “ตอนที่นอนอยู่นั้น ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมโดนผีอำ” ไม่ได้โดนผีอำแค่คนเดียว แต่ทุกคนที่นอนอยู่ห้องข้างหลังก็โดนผีอำกันทุกคน! เมื่อเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ทุกคนจึงตกลงกันว่าหลังจากนี้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์กันอีกและนอนให้เร็วขึ้น เผื่อว่าจะดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนเวลาให้นอนเร็วขึ้น คุณเยี่ยมกลับไม่สบายตัวอย่างที่คิด เขานอนกระสับกระส่าย จนถึงเวลา 4 ทุ่ม เสียงเคาะหน้าต่างก็ดังขึ้น! “พี่ๆ ช่วยหนูด้วย!” เป็นน้องผู้หญิง 2 คน ที่มาจากห้องขวาวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูออกไป น้องก็บอกว่า “หนูอ่ะ หลับไปแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง แล้วก็มีเสียงคนซักผ้า” เธอเล่าต่อว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ปิดไฟเดินกลับมาที่ห้อง เพื่อนคนที่นอนอยู่ก็นอนบิดไปบิดมา สักพักก็เอามาคว้าอะไรบางอย่าง แล้วก็ตะโกนออกมา “ว๊ากกกกก!” หลุดออกมาจากอาการผีอำ! เธอเล่าเพิ่มเติมว่าเหมือนมีผู้หญิงคนนึงมานั่งทับที่หน้าอก แล้วก็จับตัวไว้ไม่ให้ขยับ พอเพื่อนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำกลับมา ถึงได้หลุดออกจากตรงนั้น เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือหลังจากได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องกลาง และพร้อมใจบอกว่า “โดนผีอำเหมือนกัน” ซึ่งจะโดนแตกต่างกันไป ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง บางคนไม่เห็นตัวแต่ขยับตัวไม่ได้ คุณเยี่ยมซึ่งไม่เคยโดนผีอำก็โดนเช่นกัน เหตุการณ์คือ ขณะที่กำลังนอนอยู่ เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็เอามานั่งทับที่หน้าอก จากนั้นก็บีบคอ คุณเยี่ยมก็พยายามขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้ และหันไปหาเพื่อนที่นอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด จึงนึกถึงพระ จากนั้นเสียงก็ออกมา เพื่อนที่นอนอยู่บอกว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ จึงปลุกคุณเยี่ยมให้ตื่นด้วยความที่ทั้งหมดเป็นพนักงานใหม่ การจะย้ายออกแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทุกคนจึงจำใจอยู่ที่นี่ต่อ ในทุก ๆ คืน ตี 1 – 3 ก็จะต้องเจอกับเหตุการณ์หลอนซ้ำ ๆ วนมาไม่จบสิ้น จะมีเพียงวันเสาร์อาทิตย์ที่แต่ละคนได้กลับบ้าน นั่นจึงเป็นเวลาหาเครื่องรางของขลังมาป้องกันตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร…เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงช่วงประมาณเดือนที่ 4 – 5 บริษัทได้เรียกพนักงาน 6 คน เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น ทำให้เหลือเพียง 6 คน ที่โชคร้ายยังต้องเผชิญเรื่องหลอนไม่จบไม่สิ้น ทุกคนตกลงกันว่าจะนอนด้วยกัน ห้องละ 3 คน เพื่อความสบายใจ พี่ซีเนียร์พูดขึ้นมาว่า “ที่เราเจอกันอยู่เนี่ย มันไม่ใช่ผีแค่ตัวเดียว น่าจะมีเป็นสิบ” น้อง ๆ ในกลุ่มจึงถามขึ้นว่า “พี่รู้ได้ยังไง?” พี่ซีเนียร์ตอบว่า “กูไปรู้อะไรบางอย่างมา มึงรู้มั้ยว่าค่าเช่าของที่นี่เดือนละเท่าไหร่? 3 คูหา มันเดือนละ 5,000” ซึ่งก็ได้วิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะตึกนี้มันร้างมาก่อน แล้วพอมีบริษัทมาเช่าให้พนักงานอยู่ เขาก็เลยพยายามมาเคลียร์โดยการเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาวางไว้ และยังสังเกตอีกว่า ตลอดเวลา 4 – 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครสักคนที่เดินเข้ามาถามว่าอีก 5 คูหาที่เหลือยังว่างให้เช่ามั้ย ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้เป็นทำเลดี ติดถนนใหญ่ ทุกคนจึงคุยกันอีกรอบว่าจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไรดี ได้ข้อสรุปว่าจะทำบุญครั้งใหญ่ จึงไปซื้ออาหารและจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการทำบุญ…เมื่อวันทำบุญมาถึง ช่วงเวลากลางวันแสก ๆ หลังจากปักธูปไหว้เสร็จ พี่ซีเนียร์ก็ดันคิดอะไรแปลก ๆ ไปหยิบจานและตะเกียบมาเคาะแล้วพูดว่า “อ้าว มากินข้าวกินเร็ว” หลังจากเคาะ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งลงมาเป็นสิบ ๆ คน ผ้าม่านที่อยู่ตรงนั้นก็ไหวไปมา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น!หลังจากทำบุญให้ ก็ยังเจออยู่เหมือนเดิมไม่เบาลงเลย แม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างมาอยู่ร่วมด้วย แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ จึงต้องอยู่และทำงานกันต่อไป จนกระทั่งถึงเดือนที่ 7 พนักงานกลุ่มนี้ต้องย้ายออก ก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามาอยู่แทน ทั้ง 2 กลุ่มได้คุยกัน หนึ่งในกลุ่มที่มาใหม่บอกว่า “ผมเอาลูกมาอยู่ด้วย วันหนึ่งผมเห็นลูกผมยื่นขนมให้ใครก็ไม่รู้” ในวันย้ายออกมีการจ้างรถชาวบ้านมาช่วยขนย้าย คุณลุงที่เป็นคนขับรถก็ชวนคุยระหว่างทาง “นึกว่าใครมาอยู่ ที่แท้ก็นายช่างนี่เอง แล้วมาอยู่ได้ยังไง ที่นี่ผีดุ นายช่างไม่รู้เหรอ” จากนั้นทุกคนก็รุมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…คุณลุงเล่าว่าย้อนกลับไปว่า สมัยก่อนที่ตรงนั้นยังเป็นป่าช้า จากนั้นก็มีการล้างป่าช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าล้างหมดหรือไม่ ส่วนใกล้ ๆ กับบริเวณนั้นเป็นลานโล่ง แล้วก็มีการสร้างโรงพยาบาล คนที่เป็นเจ้าของที่เห็นว่ามันน่าจะพัฒนาที่ดินได้ จึงอยากสร้างอาคารพาณิชย์ แม้จะมีเสียงรอบข้างห้ามปราม แต่เขาก็ดึงดันที่จะสร้าง รวมทั้งไม่ได้สนใจโครงสร้างและการออกแบบเลย ตึกที่ได้จึงมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมยาววางเรียงกันเหมือนกับโลงศพ! พอมีคนมาเช่า ผลประกอบการก็ไม่ดี ทำมาค้าขายไม่ขึ้น จึงให้ซินแสเข้ามาช่วยดู เขาจึงแนะนำว่าให้ปรับหน้าตาของอาคารให้ดูดีขึ้น ให้มันมีอะไรอยู่ข้างหน้าหน่อย จึงเป็นที่มาของการสร้างระเบียงนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้เหมือนทางขึ้นเมรุเข้าไปอีก เรียกได้ว่ายิ่งแก้ยิ่งเละและเมื่อขุดประวัติลึกเท่าไหร่ ความน่ากลัวของคูหาเหล่านี้ก็ยิ่งทวีคูณ ห้องกลางนั้นมีเคยมีผู้หญิงผูกคอตาย ห้องขวาเคยมีสามีภรรยาทะเลาะกัน ฝ่ายชายลงมือฆ่า ส่วนห้องซ้ายเป็นสามีภรรยาเช่นกัน ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วกินยาฆ่าตัวตายตาม ยังไม่นับรวมเคสอื่น ๆ อีก รวมแล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นกว่า 5 ราย ส่วนคูหาอื่นที่ไม่มีคนเข้าไปอยู่ก็ไม่รู้ว่ามีเคสอะไรเกิดขึ้นบ้าง…และนี่คือเหตุการณ์หลอนทั้งหมด ที่โฟร์แมนทั้ง 12 คนเป็นพยานรู้เห็นความหลอนในครั้งนี้ติดตามความหลอนย้อนหลังได้

album

0
0.8
1