เลือกกินชีสให้เหมาะกับตัวเอง

HEALTHY LIFESTYLE

เลือกกินชีสให้เหมาะกับตัวเอง

24 ก.ค. 2023

โอ้ยยย แค่พูดชื่อก็อยากกินแล้วค่าาาาา คนรักชีสอย่างเรา ๆ ถ้าเมนูไหนมีชีสต้องขอเพิ่มเท่านั้น!!! ถึงแม้จะรู้ว่ากินเยอะ อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ใครมันจะไปอดใจไหว่อ่าาาาา ฮือออ แต่ไม่เป็นไรทุกคน ในเมื่อมันหยุดกินไม่ได้ วันนี้กรีนเวฟแจกทริคในการเลือกกินชีส ชีสแบบไหนที่ควรกิน ชีสแบบไหนที่เหมาะกับเรา เวลากินชีสจะได้ไม่รู้สึกผิด ว่าแล้วตามไปดูกันดีกว่า

ประเภทของชีส

ชีสจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ

  1. Dairy Product ที่ทำจากนม
  2. Non Dairy Product ไม่ได้ทำจากนมวัว ซึ่งจะเรียกว่า Vegan Cheese

Dairy Product ที่ทำจากนมวัว

  • เอานมวัวทั้งหมดมาทำเป็นชีส โดยไม่มีการสกัดเอา Fat ออก ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นไขมันเยอะ เลยทำให้มี Saturated Fat หรือไขมันอิ่มตัวที่สูง และคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งจะไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคหัวใจ หรือว่าคนที่มีไขมันในเลือดสูง
  • ชีสที่เขียนว่า LOW FAT คือมี % ของ FAT หรือไขมันน้อยกว่าชีสอื่น ๆ ประมาณ 25% ซึ่งชีสที่มีเขียนว่า LOW FAT จะมีการสกัดเอา FAT ออกไปให้ 25%

 Non Dairy Product ที่ทำจากถั่ว มะพร้าว

หรือเรียกอีกอย่างว่า Vegan Cheese รสชาติจะไม่ได้อร่อยเท่าชีสที่ทำจากนมวัว แต่มีประโยชน์มากกว่า เพราะชีสที่ทำจากนมวัวจะไม่มีไฟเบอร์ แต่ถ้าเป็นชีสที่ทำมาจากพืชหรือที่เราเรียกว่า Non Dairy จะมีไฟเบอร์เข้ามาเพิ่มขึ้นทำให้การขับถ่ายดี และก็ Low Sugar ควบคุมระดับน้ำตาลให้ลดลง ลดคอเลสเตอรอลได้ โซเดียมน้อยกว่า Texture จะไม่แข็งมาก เพราะไม่ได้ผ่านการบ่ม ส่วนใหญ่จะทำจากถั่ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนอยากกินชีสแต่ก็อยากดูแลสุขภาพ ออกแนว Plant based

การแบ่งชีสออกตาม Texture

ถ้าสังเกตชีสที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เราจะพบว่าจะมีทั้งแบบที่เป็นก้อน ๆ และแบบที่เป็นนุ่ม ๆ ซึ่งชีสที่แข็ง ๆ หน่อย มันจะเป็นชีสที่ผ่านการบ่ม จนกลายเป็นก้อนแข็ง ชีสประเภทที่เราพบเจอได้ ก็จะมีอย่างเช่น

  • Cheddar Cheese
  • Parmesan Cheese
  • Mozzarella Cheese
  • Swiss Cheese

ส่วนชีสอีกแบบคือชีสที่จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม หรือ Fresh Cheese ซึ่งชีสประเภทนี้จะไม่ได้ผ่านการบ่ม เช่น

  • Cottage cheese
  • Feta cheese
  • Ricotta cheese

เลือกกิน Chesses ยังไงให้เหมาะกับตัวเอง

ในความเป็นชีส มันจะมีวิตามินและแร่ธาตุในตัวอยู่แล้ว จะมีทั้ง ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามิน B12 อันนี้คือ Basic ที่ชีสทุกชนิดจะมี เพียงแต่ว่าอันไหนมีอะไรมากน้อย อันนั้นก็อาจจะต้องลงรายละเอียดอีกทีนึง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องการกินชีสให้เหมาะสมกับตัวเอง อาจจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ

  • กลุ่มที่ต้องการแคลเซียมสูง ก็จะให้กิน Cheddar Cheese เพราะว่า Cheddar Cheese 100 กรัมมีแคลเซียม 710 มิลลิกรัม (ซึ่งมีมากกว่านมวัวอีก) และมีวิตามิน D  เหมาะกับคนที่ต้องการช่วยเรื่องกระดูก
  • กลุ่มที่ต้องระวังเรื่องความเค็ม ก็คือคนที่มีปัญหาเรื่องไต หรือว่าความดันสูง ที่ต้องควบคุมในเรื่องของเกลือก็ต้องทานประเภท Swiss Cheese เพราะว่าใน 1  Oz. มันจะมีโซเดียมแค่ 53 มิลลิกรัม ต่างจากพวก Feta cheese เพราะใน Feta cheese 1 Oz. มีโซเดียม 323 มิลลิกรัม ถ้าคนเป็นโซเดียมสูงก็ให้เลือกเป็น Swiss Cheese
  • ถ้าอยู่ในกลุ่มที่ต้องการคุมเรื่องน้ำหนัก แล้วยังอยากจะทานชีสก็ให้เลือก Cottage cheese เพราะว่า Cottage cheese เค้าทำจากนมที่พร่องมันเนย มีไขมันต่ำ แต่มีโปรตีนสูง และก็ไม่ผ่านการบ่มด้วย แคลอรี่ก็จะน้อย
  • ถ้าอยากดูแลเรื่องสมดุลลำไส้ ก็อาจจะต้องบอกเลยว่าในตัวชีสทำให้เรามี Probiotic ในร่างกายเยอะอยู่แล้ว ในชีสอย่าง Cheddar Cheese เขามีทั้ง lactobacillus acidophilus & lactobacillus paracasei คือเป็นกลุ่มตระกูลแบคทีเรียตัวดีเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นสมดุลลำไส้เรา

ต่อให้เรารู้แล้วว่าควรชีสอะไรให้เหมาะกับตัว แต่ก็อย่าลืมนะทุกคน ว่าควรกินแต่พอดีด้วย อย่ากินเยอะมากจนเกินไป เลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะถ้าเลือกกินให้ดีก็มีประโยชน์ในตัวมันได้

 

 

 

 

 

 

album

0
0.8
1